คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : . 00 .
. 00 .
บยอน แบคฮยอนเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 ของมหาวิทยาลัยโซล คณะบริหาร สาขาการจัดการครัวและศิลปะการประกอบอาหาร
" วันนี้กินอะไรดีวะมึง "
" ร้านหน้าคอนโดปะ ขี้เกียจไปไกลหวะ "
" เชฟครับ เรียนเชฟนะครับ ไม่คิดจะทำอาหารแดกเองบ้างหรอครับ "
" ขี้เกียจจะตายยยยยยยยย "
" เตาคอนโดเรานี่ใหม่มากเลยนะเว้ยแบคฮยอน "
" มึงอยากทำ ก็ทำสิครับ กูจะได้กินด้วย "
เซฮุนเป็นรูมเมทของแบคฮยอน เป็นเพื่อนหนึ่งในไม่กี่คนในวิทยาลัยนี้ พอดีอยู่ห้องเดียวกัน รู้จักกัน บ้านอยู่ไกล ต่างคนต่างหาเพื่อนอยู่หอ ก็เลยตกลงมาอยู่ด้วยกันที่คอนโดใกล้ ๆ มหาวิทยาลัย
" ตกลงว่าไง จะทำอะไรกินมั้ยมึงอ่ะ ถ้าไม่ ก็ออกไปกินร้านหน้าคอนโดกับกู " ผมหันไปถามเซฮุนที่มัวแต่ยืนเล่นโทรศัพท์ ไม่ขยับตัวไปทำอะไรซักที
" เออ ไปดิ กูก็ขี้เกียจทำ "
" โถ แล้วมึงจะพูดเพื่อ ? "
แบคฮยอนและเซฮุนเป็นคนโสดทั้งคู่ เซฮุนนี่โสดแบบมีคนคุยอยู่ตลอด แต่ไม่เลือกใคร ส่วนแบคฮยอน เรียกว่าโสดแบบไม่ได้ตั้งใจในทีแรก แต่ตอนนี้ตั้งใจจะโสดแบบจริงจังไปแล้ว เพราะโดนทิ้ง เพิ่งจะทำใจได้ไม่นาน ประสบการณ์การเสียใจที่ผ่านมาทำให้รู้สึกว่า กูอยู่คนเดียวดีที่สุด ชีวิตดีไม่ต้องสนใจใคร อยากทำอะไรก็ทำ มีเวลาเป็นของตัวเอง ทำในเรื่องที่จำเป็นอย่างเต็มที่มากขึ้น
" พรุ่งนี้มีงานอะไรต้องส่งมั้ยวะ "
" มีพรีเซนต์ภาษาอังกฤษ "
" ไอสาดดดดด กูอยู่กลุ่มมึงใช่มั้ยเพื่อนรัก มึงทำยัง "
" จะเสร็จละ " ผมพูดก่อนจะหันไปจ่ายเงินค่าข้าวให้ป้าที่ยกข้าวมาเสิร์ฟผมสองคน หลังจากที่ผ่านไปประมาณยี่สิบนาทีได้ ป้านี่ทำช้าเสมอต้นเสมอปลายเลยนะครับ
" เยี่ยมเลยเพื่อน เดี๋ยวกูพรีให้ "
" แน่นอน กูไม่มีทางทำสไลด์แล้วพรีเซนต์ด้วยหรอก "
ก็เพราะโดนทิ้งบวกกับความคิดที่เป็นผู้ใหญ่มากยิ่งขึ้นนั่นแหละเลยส่งผลให้ แบคฮยอนสนใจเรียนขึ้นมาก มากจนได้คะแนนมากที่สุดในห้องไปโดยไม่ได้ตั้งใจ
.
" อาทิตย์นี้ทำเมนูอะไรวะ "
" ไม่รู้หวะ ยังไม่ได้ดู "
แบคฮยอนและเซฮุนกำลังหยิบเสื้อครัวแขนยาวสีขาวมาใส่ พร้อมกับนำผ้ามาผูกที่คอ เพื่อเตรียมเรียนในคาบบ่าย วันนี้เขามีเรียนเดโม่ ซึ่งเป็นคาบที่ให้เราเข้าไปศึกษา เรียนรู้วิธีการทำเมนูอาหารก่อนที่จะต้องลงมือทำเองในคาบที่เข้าครัวจริง ๆ วันถัดไป ถึงแม้คาบนี้จะไม่ได้เข้าไปทำอาหารกับมือ แต่กฎการแต่งกายของวิทยาลัยก็ยังบังคับให้นักศึกษาเข้าเรียนวิชานี้ด้วยการใส่ชุดครัวอยู่ดี
" แบคฮยอน "
" ครับ " ผมส่งเสียงตอบรับอาจารย์ที่กำลังเรียกชื่อนักศึกษาแต่ละคนเพื่อเช็คการเข้าเรียน
" อ่ะ … มาเริ่มเลยละกัน อาทิตย์นี้หลายเมนูอยู่ "
" อ้าว เค้าเปลี่ยนพี่ทีเอทำไมวะ "
" เออ ช้าสัด เลื่อนกล้องก็มั่วไปหมด " ผมบ่นกับเซฮุนด้วยความรำคาญความช้าและวุ่นวายของพี่ทีเอคนใหม่
พี่ทีเอ คือ รุ่นพี่ที่อาจารย์เรียกมาเพื่อช่วยงานอาจารย์ในขณะที่สอน การทำอาหารหลาย ๆ เมนูพร้อมกัน แน่นอนว่าไม่มีทางที่จะทำคนเดียวได้ ยิ่งเวลามีจำกัดแบบนี้ ยิ่งเป็นไปไม่ได้เลย ทำให้จำเป็นต่อการมีผู้ช่วย
" ทีเอ ขอ strainer หน่อย แล้วก็เอาปลาหมึกนี่ไปหั่นใส่จานส่งไปให้น้องดูด้วย "
" เอ่อ strainer … อ๋อ " พี่ทีเอยืนงงกับคำว่า strainer นิดหน่อยก่อนจะหันไปหยิบกระชอนส่งให้อาจารย์ อาจารย์เลิกคิ้ว มองการทำงานของพี่ทีเอคนนั้นด้วยท่าทางที่ไม่ค่อยพอใจ คนเป็นเชฟต้องคล่องตัวนะ รู้ยัง
" ไหวมั้ยวะ "
" เออ … จริง ๆ กูก็จำชื่ออุปกรณ์ได้ไม่หมดหรอกนะ แต่เบสิกแบบนี้มันก็ควรจะจำได้ปะวะ "
" นั่นดิ เรียนปีสามแล้วด้วย น่าจะชินกับอุปกรณ์ได้แล้ว "
" เออ เห็นแล้วรำคาญ เดี๋ยวลงไปช่วยอาจารย์แทนแม่.งเลย "
" ใจเย็นครับเพื่อนฮุน "
หลังจากที่อาจารย์สาธิตวิธีการทำเมนูที่พวกเราต้องทำครบหมดแล้ว แน่นอนว่าอาหารที่อาจารย์สาธิตให้ดูก็ต้องมาตกอยู่ในท้องของนักศึกษาอย่างพวกผมเนี่ยแหละ ตอนนี้เพื่อน ๆ ทุกคนถือช้อนกันคนละคัน ยืนรุมโต๊ะเหมือนซอมบี้ใน walking dead ไม่มีผิด แต่อย่าไปว่าเขาเลยครับ เพราะผมก็เป็นหนึ่งในซอมบี้พวกนั้นเหมือนกัน
" โห อร่อยหวะ "
" ปลาหมึกอย่างนุ่ม "
" หมูที่ยัดไส้ก็โคตรเวิร์ค นี่ขนาดปรุงไปแค่นิดหน่อยเอง "
" เออ เด็ดสัด วันศุกร์เราจะทำได้แบบนี้มั้ยวะ "
" ต้องได้ดิเพื่อน "
" มึงเป็นฮอต ทุกอย่างอยู่ที่มึง "
" มึงเป็นบูชเชอร์ มึงก็มีสิทธิ์จะทำพังนะครับ "
" ทุกหน้าที่ก็สำคัญหมดปะ "
" เออ แล้วมึงจะมาพูดว่าอยู่ที่กูทำไมล่ะครับคุณโอ "
หน้าที่ในครัว โดยทั่วไปจะขึ้นอยู่กับโรงแรมว่ากำหนดให้มีกี่ฝ่าย แต่ที่วิทยาลัยนี้ แบ่งแบบคร่าว ๆ ซึ่งมีอยู่สามฝ่ายคือ ฮอต โคล และบูชเชอร์ ฮอตคือคนที่มีหน้าที่ทำทุกอย่างที่เกี่ยวกับเตาและความร้อน โคลมีหน้าที่ทำอะไรที่ไม่เกี่ยวกับเนื้อสัตว์และของร้อน ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือพวกหั่นผัก ทำสลัด ส่วนบูชเชอร์มีหน้าที่ทำทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเนื้อ
" อาจารย์ ทำไมอยู่ ๆ เอาพี่คนนี้มาเป็นทีเออ่ะ ผมปวดหัวมากเลยเนี้ย " ผมเดินเข้าไปคุยกับอาจารย์ที่นั่งเช็ครายชื่ออะไรซักอย่างอยู่
" แก้ขัด จงฮยอนมันไม่อยู่ เดินไปเจอเลยลาก ๆ มา ไม่คิดว่าจะอึน "
" แสดงว่าคราวหน้าก็ไม่ใช่คนนี้แล้วใช่มั้ยครับ "
" อืม คงไม่ใช่แล้วล่ะ "
" ค่อยยังชั่ว " เซฮุนเดินเข้ามากอดคอผมแล้วพูดกับอาจารย์
" งั้นพวกผมกลับก่อนนะครับอาจารย์ "
" อืม ๆ กลับบ้านกันดีดี "
" สวัสดีครับบบบบบบบบบบบ " ผมสองคนโค้งให้อาจารย์แล้วเดินไปหยิบกระเป๋า เดินออกจากห้องเพื่อกลับคอนโด สงสัยวันนี้คงไม่ต้องหาข้าวกินแล้วล่ะ กินที่อาจารย์ทำมาซะอิ่มเลย ประหยัดด้วยอร่อยด้วย ชีวิตดีไปอีก ฮิฮิ
.
ปาร์ค ชานยอลเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3 ของวิทยาลัยโซล คณะบริหาร สาขาการจัดการครัวและศิลปะการประกอบอาหาร
" ไปไหนต่อปะวะหรือมึงกลับห้องเลย "
" เออ เดี๋ยวกลับเลย อยากกลับไปนอน "
" ไม่ไปกินข้าวด้วยกันก่อนวะ "
" ขี้เกียจ ไปละมึง "
ปาร์คชานยอลเป็นผู้ชายที่มีโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง ชอบอยู่คนเดียว ทำอะไรคนเดียวเพราะมันสะดวกดี แต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดตัดขาดออกจากสังคม มีไปสังสรรค์กับเพื่อนฝูงบ้างแต่ในเวลาเลิกเรียนแบบนี้ สิ่งที่ควรทำมากที่สุด ก็น่าจะเป็นการนอน ไม่ใช่หรอ
แล้วด้วยความที่โลกส่วนตัวสูงนั่นแหละ เลยทำให้เขาพักอยู่ที่ห้องคนเดียวที่คอนโดใกล้ ๆ กับวิทยาลัย ไม่มีเมท ไม่มีใครทั้งนั้น คนเดียวล้วนล้วน ยิ่งเรื่องแฟน ไม่ต้องถามเลย เหตุการณ์ที่โดนทิ้งยังฝังใจไม่หาย บอกตรง ๆ ว่าเข็ด ขออยู่คนเดียวดีกว่า
" โอ่ยยยยยยยยยยย " ชานยอลล้มตัวลงนอนบนเตียงทันทีที่กลับถึงห้อง และเพราะความเหนื่อยเลยทำให้เขาอยากนอนพักมากกว่าที่จะไปหาอะไรกิน แต่นอนไปได้ไม่เท่าไหร่ ก็ …
Rr rr r.
" ฮัลโหลครับ "
( ชานยอล พรุ่งนี้ตอนเช้าว่างหรือเปล่า )
" ว่างครับ พรุ่งนี้ผมไม่มีเรียน "
( เออ ดีเลย พรุ่งนี้เข้ามาช่วยอาจารย์เตรียมของหน่อยนะ )
" ได้ครับ "
( ขอบใจมาก )
ไม่รู้ว่าบังเอิญเก่ง เป็นคนคล่องตัว มีน้ำใจ หรือว่างกันแน่ ที่ทำให้เขาได้มีโอกาสไปช่วยงานอาจารย์อยู่บ่อย ๆ จนเป็นที่รู้จักของอาจารย์หลายท่าน วันดีคืนดี ก็อย่างที่เห็นอาจารย์โทรมาตามให้ไปช่วยจัดของบ้าง ไปเป็นทีเอบ้าง แล้วแต่คนจะขาด จะว่าดีมันก็ดีนะ แต่มันก็เหนื่อย เฮ้อ … เอาวะ ถือว่าได้ประสบการณ์ละกัน !
.
ผมเอื้อมมือไปคว้านาฬิกาปลุกที่หัวเตียงทันทีที่ลืมตาตื่นขึ้นมา ตอนนี้หกโมงกว่า ๆ แล้ว ผมน่าจะหลับไปตั้งแต่ประมาณห้าโมงได้ ชั่วโมงเดียวเองแฮะ ตื่นมาแล้วก็ไม่รู้จะทำอะไร ว่าง ๆ เลยตัดสินใจเดินไปเปลี่ยนชุดเพื่อลงไปฟิตเนสข้างล่าง
" อ้าว ชานยอล "
" อ้าว พี่มินซอก สวัสดีครับ " ผมพูดสวัสดีพี่มินซอกพร้อมกับก้มหัวแสดงความเคารพ พี่มินซอกเป็นรุ่นพี่ที่ผมค่อนข้างสนิท ถึงแม้เขาจะไม่ได้เรียนที่วิทยาลัยเดียวกับผมก็ตาม แต่เพราะมาเจอกันที่ฟิตเนสบ่อย ๆ พอคุยกันแล้วถูกคอ ก็เลยสนิทกัน
" เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้เจอหน้าเลยนะชานยอล "
" พอดีช่วงนี้อยู่ช่วยงานอาจารย์บ่อยหนะครับ "
" เหนื่อยแย่เลยสิแบบนี้ "
" ไม่หรอกครับ ผมว่ามันก็สนุกดี "
ผมออกกำลังกายและคุยกับพี่มินซอกไปได้ซักพัก ก็ต้องขอตัวออกมาก่อนเพราะท้องร้องโครกครากด้วยความหิว ก็ตั้งแต่กลับมายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยซักนิด แถมยังลงมาฟิตเนสอีก ชานยอลเดินมายืนรอลิฟท์พลางใช้ความคิดในหัวไปด้วยว่าจะทำอะไรกินที่ห้อง หรือออกไปหาอะไรกินข้างนอกดี ยืนรอไม่นานลิฟท์ก็ลงมาถึงชั้นหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าเพราะลิฟท์มันคุณภาพต่ำหรือคนข้างในคุยเสียงดังเกินไปกันแน่ เขาถึงได้ยินเสียงคนเถียงกันอยู่ในลิฟท์ตั้งแต่ประตูมันยังไม่ทันได้เปิดแบบนี้
" มึงแม่.งโคตรช้าเลยไอฮุน กูหิวนะ "
" บ่นมากจังวะ ก็ถ้าไม่ซักผ้าตอนนี้มันก็ไม่ทันแล้วอ่ะ "
" สมน้ำหน้า จะหมกไว้ทำไมเล่า "
" พูดมาก ไปไป "
สองคนนั้นยืนเถียงกันจนประตูลิฟท์เปิดออก เซฮุนรีบพูดตัดบทสนทนาแล้วดันแบคฮยอนที่ทำหน้าบูดอยู่ออกจากลิฟท์ ชานยอลหันไปมองตามเด็กหนุ่มสองคนนั้นนิดหน่อย ' ตัวก็เล็กนิดเดียว แต่เสียงดังชิบเป๋ง ' ก่อนจะไหวไหล่แล้วเดินเข้าลิฟท์ไป
Rr rr r.
" ว่า "
( มึงงงงงงงงงงงงง กินข้าวหรือยังงงงงงงงง )
" ถามเสียงธรรมดาก็ได้มั้งไอลู่ "
( ธรรมดาก็ไม่ใช่พี่ลู่หนะสิ งิงิ )
" กูกำลังคิดอยู่ว่าจะกินอะไรดี "
( ไม่ต้องคิดแล้ว ออกมากินกับพวกกูเลย ๆ )
" มึงอยู่ไหน กินอะไรกัน "
( อยู่ร้านอูด้ง ร้านเดิม )
" กินอีกละ ไม่เบื่อหรือไง "
( บ่นเป็นคุณลุงอีกแล้วนะมึงอ่ะ ออกมาเลย ๆ กูอยู่กับไอจงอิน )
" เออ ๆ ก็ได้ "
ยังไม่ทันได้ตัดสินใจว่าจะกินอะไรดี เพื่อนรักทั้งสองก็ตัดสินใจให้ผมซะเรียบร้อยแล้ว อูด้งก็อูด้งวะ ร้านนั้นก็อร่อยดี อยู่ไม่ไกลด้วย หลังจากตกลงกับตัวเองได้แล้ว ชานยอลก็คว้าโทรศัพท์มือถือกับกระเป๋าสตางค์ก่อนจะเดินออกจากห้อง แล้วไปยังร้านอูด้งทันที
.
" ฮัลโหล พิชาน ทางนี้ครับเพื่อน " ลู่หานยืนขึ้นกวักมือเรียกชานยอลทันทีที่เห็นว่าเพื่อนเดินก้าวเท้าเข้ามาในร้าน
" ไอลู่ ชานยอลมันเห็นแล้ว มึงนั่งเหอะ กูอายชาวบ้าน " คิมจงอินหันไปบ่นใส่ลู่หานทันทีที่มันพูดจบก่อนจะรีบดึงให้นั่งลงด้วยความอาย ที่มันตะโกนเรียกเพื่อนตัวสูงซะเสียงดัง
" มึงแม่.งเว่อร์ "
" มึงมากกว่าปะวะที่เว่อร์ "
" เออ มึงอ่ะเวอร์ไอลู่ " ชานยอลที่เดินมาถึงโต๊ะพอดี ระหว่างที่เพื่อนสนิทสองคนกำลังเถียงกันอยู่ ทำให้เขาได้ยินบทสนทนาเมื่อซักครู่ชัดเจนเลยพูดสมทบไปกับจงอินด้วย เพราะไอลู่มันเว่อร์จริง ๆ จะตะโกนเรียกทำไม กูก็เห็นมึงแล้วมั้ยเพื่อนรัก แค่กำลังเดินไป
" แค่นี้ก็ต้องว่าด้วย สั่งอูด้งเลย ๆ "
" เออ ๆ "
ชานยอลมีเพื่อนสนิทอยู่ทั้งหมดสองคนถ้วน สนิทแบบสนิทจริง ๆ มีอะไรก็คุยกันทุกเรื่อง คนหนึ่งเป็นหนุ่มชาวจีน ตัวเล็ก หน้าหวานจนทั้งผู้ชายหรือผู้หญิงที่เจอแทบจะยื่นใบให้มันลาออกจากการเป็นผู้ชายกันเลยทีเดียว ปากก็เอาแต่บอกว่าตัวเองแมน แต่จริง ๆ แล้วลู่หานก็ไม่ได้แมนเลยนะ ออกจะงุ้งงิ้งด้วยซ้ำ รู้สึกเหมือนมีเพื่อนเป็นผู้หญิงแบบที่ไม่เรื่องมากมากกว่า ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นหนุ่มเกาหลีคมเข้ม ไม่ใช่หล่อคมเข้มนะครับ ผิวมันหนะเข้ม ( ฮ่า ๆ ) คิมจงอินก็ไม่มีอะไรมาก เป็นเพื่อนปกติทั่วไป พิเศษแค่ตรงที่บางครั้งไม่ต้องพูดอะไร ผมกับมันก็เข้าใจความคิดของกันแล้วซะงั้น ซึ่งผมถือว่ามันดีนะ
.
" กลับดีดีนะมึง พรุ่งนี้เจอกัน " จงอินหันมาพูดกับผมตอนที่เราเดินมาถึงหน้าร้าน กำลังจะแยกย้ายกันกลับหอตัวเอง
" เออ มึงก็ไปส่งไอลู่ให้ถึงที่นะ คนแมนเขากลัวววววว "
" ไม่ต้องกวนตีนก็ได้มั้ยล่ะ "
" โทษทีฮะพี่ลู่ "
" กลับดีดีเหอะมึงอ่ะ "
" เออบาย เจอกัน "
หลังจากแยกย้ายกับเพื่อนทั้งสองคน ผมก็เดินกลับคอนโดเลย ไม่ได้ไปแวะที่ไหนต่อเพราะความขี้เกียจที่มีมากล้น กลับไปนั่งดูบอลสบาย ๆ ที่ห้องดีกว่า
ชานยอลเอามือล้วงกระเป๋าหยิบคีย์การ์ดขึ้นมาสแกนเพื่อเปิดประตูเข้าไปที่ล็อบบี้ แล้วเดินตรงไปยังลิฟท์ที่อยู่ชั้นหนึ่งอยู่แล้ว คนตัวสูงเดินเข้าไปก่อนจะเอื้อมมือเตรียมกดปิด แต่ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาซะก่อน
" รอด้วยครับ ไปด้วยยยยยยยยยยยยยย ! "
" แฮ่ :D " ยืนรอไม่นานคนตัวเล็กก็รีบวิ่งมาพร้อมกับกอดตะกร้าใส่ผ้าที่อบแล้วไว้ที่อก ยิ้มให้คนที่กดลิฟท์รอนิดหน่อยก่อนจะเดินเข้ามา แล้วทำท่าจะปล่อยมือจากตะกร้าที่สามารถใส่คนที่ถือลงไปได้ทั้งตัว เพื่อกดชั้นที่ต้องการจะขึ้น
" ชั้นไหนครับ เดี๋ยวผมกดให้ "
" ชั้นหกครับ … ขอบคุณครับ "
ไม่ว่าจะเป็นคนตัวสูงที่เพิ่งกินข้าวอิ่มมาหรือคนตัวเล็กที่ยืนกอดตะกร้าอยู่ ต่างก็ไม่ได้สังเกตด้วยกันทั้งคู่ ว่าผู้ชายที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ตัวเองนั้นเป็นคนที่เดินสวนกันเมื่อตอนเย็น คนที่ยืนซื้อหมูปิ้งข้างกันเมื่อตอนเช้า แล้วก็เป็นคนที่นั่งตรงข้ามกันในห้องสมุดเมื่อวาน แต่เพราะเรียนอยู่ที่เดียวกัน พักอยู่ที่เดียวกัน มันก็เลยดูไม่แปลก
แต่ใครจะไปรู้ มันอาจไม่ใช่เพียงความบังเอิญธรรมดา
_______________
ขอบคุณทุกคนมากนะที่เข้ามาอ่าน
รออ่านคอมเม้นอยู่ด้วยแหละ ยักษ์ ♡
O W E N TM.
ความคิดเห็น