ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ท้าลิขิตหัวใจลูกสาวเจ้าพ่อ

    ลำดับตอนที่ #1 : ก็ผมนี่แหละนายสายลมล่ะ

    • อัปเดตล่าสุด 12 ม.ค. 51


    ผํวะ 

    คนที่ 34 แล้วซินะ

    ผมบ่นออย่างหอบ ๆ ก่อนที่จะซัดหน้าบรรดาเหล่าลูกน้องหรือบอดี้การ์ดของยัยริน หงายตึงไป

     

    ทำไมนายถึงได้  ยัยนั้นคงมองผมแบบอึ้ง ๆ เช่นกัน

    เฮ่อออออออออ  ทำไมชีวิตของผมมันถึงได้ยุ่งวุ่นวายแบบนี้เนี่ย แต่ไงก็เถอะผมคงทนไม่ได้อยู่ดีแหละ ที่เห็นไอพวกคนที่มีฐานะดีกว่า มาดูถูกคนธรรมดาน่ะนะ

     

    ย้อนกลับเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว

    ตอนนั้น เพื่อนผมมันได้ไปม่ ผู้หญิงอยู่สองคน คนหนึ่งเป็นคนธรรมดา ชื่อว่า น้องเก๋ ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นดาวมหาลัยแล้วยังเป็นลูกสาวเจ้าพ่อซะอีก คน ๆ นั้นชื่อว่ายัยริน

     

    แล้วเรื่องมันก็เกิดขึ้นที่อยู่มาวันหนึ่ง สาวเจ้าทั้งสองคนนั้นเจอกันโดยบังเอิญ

    ซึ่งก็แปลว่าเพื่อนผมนั้นมันรถไฟชนกันพอดี

     

    เพชรนายเลือกเองเถอะนะ อีกอย่างถ้าน้องเค้าสวยกว่าเราแล้วล่ะก็นายก็รับเขาไว้เป็นกิ๊กก่อนก็ได้นะเดี๋ยวจะเสียดุลการค้าเอา   ยัยรินพูดดูถูกน้องเก๋ได้น่าหมั่นไส้มาก

     

    ......................  แต่ไอเพชรเพื่อนผมเนี่ยดิแง่ม ไหงมันถึงนิ่งล่ะฟร่ะ

     

    แล้วเธอคิดว่าตัวเองสูงค่ามากนักเหรอไง   น้องเก๋ที่ทนฟังยัยรินดูมานานคงทนไม่ค่อยได้แล้วล่ะมั้งเธอจึงพูดสวนกลับขึ้นมา


    "งั้นก็เอาเป็นว่า เมิงจะเลือกใครล่ะไอเพชรชี้ขาดกันไปเลย "

    ตอนนั้นผมพูดแบบนั้นออกไป ถึงแม้จะรู้สึกหมั้นไส้ยัยรินไรนั้นก็ตามแต่มานก็เป็นเรื่องที่เพื่อนผมควรจะเคลีย

     

    เพชรคิดเอาเองนะ ว่าดาวมหาลัยฐานะทางบ้านก็รวยแบบริน กับยัยเด็กธรรมดานั้น  

    ตอนนี้ผมชักจะโมโห ตงิด ๆ แระนะ

     

    หลังจากที่ยัยรินไรนั้นพูดออกมาแค่ประโยคเดียวเท่านั้นแหละครับผมนิ่งต่อไปไม่ได้อีก

    เพชร ถ้าเพชรมาเป็นกิ๊กกับเรานะ เราว่าเพชรคงจะสบายกว่าคบกับยัยเด็กนั้นเยอะนะ

    แล้วเราก็สวยกว่า แถมฐานะก็ดีกว่าด้วย ถ้าเพชรจะโง่ก็ตามใจนะ

    อะไรฟร่ะ ไอเราก็นึกว่าจะให้เป็นตัวจริงนี่แม่คุณเล่นให้เป็นแค่กิ๊กอีก ผมว่าเพื่อนผมมันก็คงทนไม่ได้ล่ะนะ เพราะมันหันมามองหน้าผมแบบ กรุซึ้งแล้วว่ะ ไรทำนองนี้

     

    ไปเหอะ  ผมพูดกับเพื่อนผมนิ่ง ๆ ให้มันพาน้องเก๋เดินออกไป

     

    เดี๋ยวก่อน ตกลงเพชรเลือกมันใช่ไหม  ยัยรินยังคงถามคำถามสุดท้าย แล้วเธอก็เรียกเหล่าบรรดาบอดี้การ์ดตัวเบอเร่อ มา 3 คนเพื่อรุมเพื่อนผมกับน้องเก๋

     

    หู้วววว...เมการใช้กำลังกันด้วยแฮะ

    แต่ไปเหอะเมิงเด๋วทางนี้กรุเคลียให้ 

    ผมหันไปพูดกับเพื่อนผมอย่างมั่นใจ  แล้วมันก็หันมาทำหน้าซึ้งใส่ผมนิดนุงก่อนที่จะลากน้องเก๋ไปอีกทาง (อ้าวตกลงจะให้ผมลุยคนเดียวชิมิเน่)

     

    เพชรใครสั่งให้เพชรไป  ยัยรินไรนั้นเริ่มขึ้นเสียง ก่อนจะให้บอดี้การ์ดของเธอมารุมไอเพชรเพื่อนผม

     

    ผลั๊ก อ๊อก อ้ากกกกกกกกกกกกก 

    ผมเองแหละครับที่เดินไปซัดนายบอดี้การ์ด 3 ตัวนั้นลงไปนอนกองกับพื้น

     

    แล้วถ้าฉันสั่งเธอห้ามได้ไหมล่ะ  ผมหันไปทำหน้ากวนใส่ยัยริน

     

    นะนายยยยยยยยยยยยยยยยย  สงสัยยัยนี่คงจะโกรธจัดแฮะเลยเอามือมาชี้หน้าเหมือนจะด่าผมก็คงด่าไม่ออก

     

    อีกอย่างนะ ถ้าเธอจะภูมิใจกับสิ่งที่เธอมีอยู่ล่ะก็ฉันว่าเธอภูมิใจแบบผิด ๆ ว่ะ

    เพราะไอฐานะทางบ้านของเธออ่ะถ้าเธอหามาเองแล้วค่อยมาอวดเบ่งเหอะ

    แต่นี่เปล่าเลย เธอแพ้ น้องเก๋เขาตรงที่ เธอน่ะนะไม่เคยเจอความลำบากแบบพวกเราที่เธอดูถูกว่าต่ำต้อยกว่าไง  อีกอย่างความร่ำรวยของเธอมันคงเอามาเบ่งใส่คนแบบฉันไม่ได้หรอกนะ เพราะไงมันก็ไม่ใช่ของของ เธอ ทำตัวเป็นเด็กดีอยู่ในกรอบเอาใจบุพการีเธอไปวัน ๆ เถอะถ้าเธอพอใจแบบนั้น

     

    หึหึหึ  สะใจหลอกด่าไปว่ายัยนี่เป็นพวกคุณหนูเกาะพ่อแม่กินไปวัน ๆ ซะงั้น

    ฮ่า ๆ ๆ ๆ

     

    สงสัยว่ายัยรินคงจะเถียงไม่ออกมั้ง เลยได้แค่เดินกระทืบเท้าจากไป

    หุหุหุ ก็เป็นงี้แหละครับพวกคุณหนูเอาแต่ใจชอบดูถูกคนอื่น

    "................................................."

     

    และแล้วคาบสุดท้ายที่ผมมีเรียนวันนี้จบลง

     

    เห้ย สายลมเว้ย


    หือมีไร  ผมหันไปตามเสียงเรียกที่คุ้นเคย ใช่แล้วล่ะฮะมันคือไอเบียเพื่อนผม
    ตั้งก่ะตอน ม. ปลายนั้นเอง

     

    ได้ยินว่าเมิงไปด่า คุณรินเลยเหรอว่ะนั้น   โถ่คนอื่นเรียกยัยนี่ซะคุณแต่ไหงมาทำตัวให้ผมไม่อยากเรียกแบบนั้นเลยอ่ะ = =

     

    อื้อไมอ่ะ และก็ไม่ได้ด่าแค่พูดเตือนสติเท่านั้นเฟ้ยหุหุหุ ฟามจริงก็หลอกด่าไปอ่านะ -3-


    แล้วนี่แกรู้หรือเปล่าว่าคุณรินเป็น..............

     

    เป็นลูกสาวเจ้าพ่อค่ะ  อยู่ดี ๆ ยัยรินก็เดินมาจากไหนไม่รู้พร้อมกับส่งยิ้มหว่านเสน่ห์ใส่ไอเบียเพื่อนผม

     

    แล้วไง  ผมตอบกลับไปโดยไม่มองแม้แต่หน้าของยัยนั้น

     

    แต่...............ผัวะ  ไอเบียตบหัวผมแทบหน้าทิ่ม

    อะไรของเมิงเนี่ยผมหันควับไปถามมันอย่างเคือง ๆ

     

    แล้วคุณรินเค้าไปทำอะไรให้แกเล่า  ถึงได้ไปหยาบคายใส่เค้าแบบนั้น

     

    เมิงเข้าข้างยัยนี่ว่างั้น   ผมพูดอย่างรำคาญก่อนจะลุกขึ้นเดินหนีทั้งคู่ออกมา

     

    จะหน้าม่ ก็ดันหน้าม่ ไม่เลือกคนแบบนี้ระวังเห้อ จะเป็นแบบไอเพชรแล้วฉันจะไม่ช่วยแกเลยไอเบีย   ผมคิดในใจ


    แต่แล้วยัยรินไรนั้นก็ดันวิ่งตามผมมาซะงั้น

    เดี๋ยวก่อนซินายยยยยย  รอเราด้วย 


    มีไรอีกล่ะหยุดรอซักนิดดูซิแม่นี่จะมาไม้ไหนอีก

     

    ก็เพื่อนนายที่ชื่อเพชรอ่ะ วันนี้เราก่ะจะชวนเพื่อนนายไปงานปาร์ตี้คืนนี้ที่บ้านเราน่ะ

     

    แล้วไง

     

    ก็เพื่อนนายไม่ไปแบบนี้แล้วจะให้เราทำยังไงเล่าเราอุตสาห์บอกเพื่อนเราไปแล้วนะว่าจะควงกิ๊กไปด้วย

     

    อ่าห่ะ

     

    งั้นนายก็ต้องรับผิดชอบแทนเพื่อนนายด้วยล่ะกัน

    ยัยนั้นพูดจบเหล่าบอดี้การ์ดของเธอก็โผล่ออกมาหิ้วปีก 
    ลากผมขึ้นรถของเธอไปเลย -*-

     

    15นาทีต่อมา

     

    อะไรเนี่ยยยยย    ผมบ่นอย่างรำคาญ ๆ ที่ร้านขายเสื้อผ้าแห่งหนึ่ง


    ก็เราต้องควงนายออกงานนี่ ขืนให้นายใส่เสื้อผ้าธรรมดา ๆ เข้าไปเราก็หน้าแตกซิ  
    ยัยนั้นพูดเหมือนผมจะมาเป็นตัวแทนไอเพชรเพื่อนผมยังไงอย่างงั้นอ่ะ

     

    แล้วมันก็จริงอย่างที่ผมคิดเพราะยัยนี่ก่ะควงผมออกงานแทนเพื่อนผมจริง ๆ -*-

     

    จนผมโดนจับใส่เสื้อสูทตัวแล้วตัวเล่า พวกเจ้าของร้านรวมถึงยัยรินไรนั้นก็ไม่ถูกใจซักที คนนะเฟ้ยไม่ใช่ตุ๊กตา


    จนผมต้องมาใส่สูทสีน้ำตาลอ่อนตัวนึง  เฮ้อออ เอาฟร่ะ ถ้าถอดแว่นเเล้วเสยผมนิด ๆ ผมคงหน้าตาดีเหมาะกับสูทตัวนี้มั้งแหละนะ  ลืมบอกไปครับว่าผมใส่แว่น แต่ผมสายตาไม่สั้นอ่ะชอบใส่อ่ะ เหะ ๆ (มานบ้าครับ <<< คนเขียน SAYYY)


    เมื่อผมเดินออกมาเจ้าของร้านเสื้อกับยัยรินนั้นยืนอึ้งตะลึงกับเป็นแถว

     

    พอใจหรือยัง  ผมพูดแกมประชด

     

    หล่อมากเลยนะค๊าาาาาา  กิ๊กใหม่หนูรินเนี่ย ถ้าวันไหนหนูรินเบื่อ ๆ 
    ก็ให้พี่ยืมควงมั่งนะ
       ยัยเจ้าของร้านที่เมื่อกี้ทำหน้าเบื่อ    ใส่ผม
    ตอนนี้ ชี กลับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือทันที

     

    ยัยรินนั้นคงไม่ต่างกับเจ้าของร้านซักเท่าไหร่นัก เธอเลยวางฟอร์มนิ่ง ๆ จ่ายเงินค่าสูทของผมไป

     

    แล้วนี่เราจะไปไหนล่ะนั้น 

     

    ก็บ้านชั้นเอง   ยัยรินหันมาพูดกับผมนิดนึง
    ก่อนที่เธอจะหันไปแอบยิ้มทางกระจกรถ เป็นไรมากป่าวฟร่ะ

     

    โห ไปไมอ่ะรู้อยู่แล้วล่ะครับแต่ถามไปงั้น ๆ

     

    นี่ชั้นบอกนายแล้วไม่ใช่เหรอไงว่าวันนี้มีงานเลี้ยงแล้วชั้นก็ต้องควงนายไปแทนเพื่อนนายด้วย

     

    มันก็ใช่อ่ะ แต่ว่าคุณหนูผุ้เพียบพร้อม (แอบแขวะ) แบบเธออ่ะหาคนอื่นได้อีกนี่
    ทำไมต้องมาเป็นฉันด้วยห่ะ
     

     

    เหอะน่าไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วงั้นเหร้อ 
    ไม่ใช่เพราะใช้กำลังบังคับผมมาเหรอไงนั้น จริงม่ะครับท่านผู้อ่าน -3-

     

    เมื่อมาถึงคฤหาสน์ หลังหนึ่ง คนขับรถก็วนรถไปทางบริเวณด้านหลัง
    ของคฤหาสน์หลังนี้

    นายก็เข้าไปมั่วนิ่มในงานก่อนก็แล้วกันเดี๋ยวชั้นตามไป

    พอลงจากรถยัยนั้นก็ขอเดินปรีกวิเวกไปซะก่อน

     

    เอาแล้วซิผมจะรู้ไหมนะว่าเค้าจัดงานกันตรงไหน  
    เอาฟร่ะเดินดุ่ม ๆ มันไปทั้ง ๆ  อย่างงี้แหละ

     

    แต่ไหงเดิน มา 15 นาทีแล้วผมยังไม่เจอสถานที่จัดงานเลยเนี่ยไอคฤหาสน์ หลังนี้ก็ดันใหญ่จิบเป๋ง 

    แต่โว๊ะ ข้างหน้านี้เหมือนกับโรงฝึกอะไรซักอย่างแหละ ไปตาม ๆ ทาง เผื่อได้ถามทางด้วยดีกว่าแฮะ

     

    ย้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  เมื่อผมมาถึงบริเวณด้านหน้าประตูโรงฝึก
    เท่านั้นแหละ เด็กหนุ่มหน้าตาดีคนนึงอายุประมาณ ม.ปลายได้มั้ง
    ก็กำลังจับครูฝึกของเขาเหวี่ยงไปนอกบริเวณการแข่งขันประลองฝีมือ

     

    โอ้ยเก่งแล้วครับคุณหนูเรย์ 

    แบบนี้พวกอาจารย์คงต้องสอนบทเรียนต่อไปให้แล้วล่ะนะครับ
    แต่ว่าคงต้องขอเพิ่มเงินค่าเรียนอีกด้วยนะครับ
      


    เอ้า โด่เอ๊ยนึกว่าใครที่ไหนได้พวกเป็นวิชาป้องกันตัวเล็ก ๆ น้อย ๆ 
    แล้วมาหลอกพวกคุณหนู ๆ ที่อยากจะเรียนทั้งหลายโดยเพิ่มค่าเรียนทีละนิด ๆ

    แล้วที่ผมเห็นตาลุงนั้นโดนจับทุ่มอ่ะนะคงแกล้งแหงม ๆ

     

    เหรอครับแต่เมื่อกี้นี้ผมว่าผมลงน้ำหนักมือเบาไปนะครับอาจารย์ 

    เด็กหนุ่มที่ชื่อเรย์นั้นพูดอย่างเกรงอกเกรงใจ


    อะอ๋อ แสดงว่าที่อาจารย์สอนคุณหนูเรย์ไปนั้น
    คุณหนูเรย์เรียนได้ดีต่างหากเล่าครับ

    ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ    โหกัวฟามแตกเลยกุเรื่องมาหลอกเด็กเหรอเนี่ยตาลุงนั้น

    ผมอดสงสัยฝีมือที่แท้จริงไม่ได้ เลยเดินดุ่ม ๆ ไปหาทั้งคู่

     

    เอ้าแขกของพี่รินเหรอครับ  สงสัย นายเรย์นี่กับยัยรินจะเป็นพี่น้องกันแฮะ


    อ่ะครับใช่ครับ  เมื่อเด็กเขาสุภาพมางี้แทบตอบแบบสุภาพกลับไปไม่ทัน 
    อะไรฟร่ะพี่สาวออกจะดูถูกคนขนาดนั้น แต่ไหงน้องชายเจี๋ยมเจี้ยมจังง่ะ


    คงหลงทางซินะครับ  จิ๊ดดดดดดดดแทงใจดำเพ่มากมายเลยน้อง

    แต่ก็คงต้องรับฟามจริงแหละผมอ่ะ


    ก็ใช่อีกละครับ 

     

    งั้นคอยผมซักครู่นะครับเดี๋ยวพี่ไปกับผมก็ได้ครับ 
    แต่ผมขออาบน้ำซักครู่นึงได้ไหมครับ
      โห.......นอบน้อมมาแบบนี้
    งั้นก็คงรอได้แหละเน้อ /^ ^


    อ่ะครับ

    จนนายเรย์นั้นกำลังจะเดินไปผมถึงได้ทักเขามาก่อนว่า


    เอ.......แล้วนี่น้องเรียนพวกศิลปะการป้องกันตัวนี้พวกนี้มานานยังครับ


    ก็นานพอสมควรแล้วครับ 


    งั้นพี่ขอลองวิชาน้องซักนิดได้ไหม  ก็ผมอยากรู้อ่ะว่าตาลุงนี่เป็นครูสอนจริง ๆ หรือพวก 18มงกุฎกันแน่ -3-

     

    พอผมพูดจบก็เดินมายังลานประลองทันที แต่ไม่ว่านายเรย์จะเตะหรือต่อยผมยังไง
    ผมก็หลบได้อย่างสบาย ๆ ทุกครั้ง ก็เพราะนายนี่อ่ะจะเตะจะต่อยไง
    ก็อ่านทางออกได้ง่ายไปหมด


    เฟี้ยวววววววววว  หมัดของนายเรย์ซัดผ่านหน้าผมไปนิดนึง หง่ะไหงหมัดของนายนี้มันเหยาะแหยะจังอ่ะ 
    ผมเลยแกล้งถูกนายนั้นซัดเข้าแก้มซ้ายผมเต็ม ๆ   ทีนึง


    แต่ผมกลับไม่เจ็บอะไรเลย  (ผมไม่ได้หน้าด้านนะ) นายเรย์ไรนั้นก็คงอึ้ง ๆ อยู่นิดหน่อย

    ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ  

    นายเรย์เอ๋ย ถ้านายเรียนกับตาลุงคนนี้แล้วต่อยได้เท่านี้อ่ะนะ เปลี่ยนครูฝึกใหม่เหอะ

    ผมรู้ทันทีเลยว่าไอ 18 มงกุฎนี่อ่ะหลอกเอาเงินจากคุณหนูเรย์นี่จริง ๆ

     

    อ้าว..........ถ้าคุณพูดดูถูกกันแบบนี้ผมคงเฉยไม่ได้นะครับ  แล้วตาลุงนั้นก็ฟอร์ม
    นอมน้อมใส่ผม

     

    เข้ามาเต้อลุงมาหลับซะดี ๆ มาม่ะ 

     

    งั้นขอโทษด้วยนะครับ

     

    ผลั๊กกกกกกกกกก

    อ๊อก

    ทันทีที่ตาลุงนั้นเข้ามาผมก็ซัดสันมือไปที่ลำคอของตาลุงนั้นจนเขาแทบล้มล้งไปทันที 

    (วิธีที่ผมใช้นั้นทำได้ในชีวิตจริงนะ เวลามีเรื่องอ่ะ แค่เราต้องซัดไปที่ลำคอ
    ตัดการหายของเขาให้ติดขัดอ่ะครับ ยิ่งถ้าเราซัดเพศชายจะดีมาก
    เพราะสันมือมานจะไปโดนลูกกระเดือกทันที แต่ไม่แนะนำให้ใช้นะครับ เ
    พราะมันทำให้คนที่โดนสันมืดซัดไปที่ลำคอเกิดอาการหายใจไม่สะดวก
    จนถึงขั้น ขาด อ็อกซิเจนตายได้เลยนา)  -.-

     

    ใจเย็นลุงกลั้นหายใจไว้ 10วิ ให้หลอดลมไม่ทำงานหนักมาก

    ขืนรีบหายใจเด๋วได้ตายกันพอดี 

    ถึงแม้ผมจะไม่พอใจก็เตอะ  แต่ไงซะถ้าผมไม่ช่วยบอกจังหวะการหายใจ
    ให้ตาลุงนี้มีหวังมันขาดอ็อกซิเจนจนน้ำลายฟูมปากแน่นอน


    ฟู่...................  หลังจากตาลุงนั้นหายใจได้เป็นแบบเดิมมันก็เลยรีบเก็บข้าวของแล้วก็เผ่นออกไปเลย

     

    ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ    ผมละสะใจจริงจริ้ง

    แต่ผมลืมไปว่ากลับมทำให้หนุ่มน้อยใกล้ ๆ นามว่าเรย์นั้นซึมลงไปทันที


    หง่ะเอาน่า

    ไม่เคยได้ยินเหรอว่าถ้าถึงเวลาครูดี ๆ จะปรากฏตัวออกมาเองแหละน่า

    ปลอบใจได้มั่วนิ่มมากไหม๊ผมอ่ะ -3-

     

    เหรอครับ  แต่ไหงใบหน้าอันสิ้นหวังของนายเรย์กลับมามีประกายอีกครั้งล่ะนั้น

     

    แล้วพี่จะสอนผมไหมครับ


    อื้ออ่าได้เดะ
    “.........................


    เห้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย 

    อะ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อะไรนะ สอนง้านเหรอนึกว่าจะพาเข้างานเลี้ยงซะอีก


    ไม่หร้อกพี่คงไม่มีเวลาอ่ะ  ผมรีบปฏิเสธพัลวัน


    เหรอครับ  แหงะไหงตีหน้าเศร้าได้เก่งจังนายเรย์นี่

     

    หลังจากผมรอนายเรย์ไรนั้นอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ 
    แล้วก็พาผมเข้างานได้

    ซักพักยัยรินไรนั้นก็แต่งตัวซะสวยเชียวพร้อมกับเดินเข้างานมา


    แล้วพิธีกรประจำงานก็กล่าวอะไรไปซักพักจนผมได้รู้ว่าวันนี้คือวันเกิดของยัยนี่นั้นเอง

    พองานเริ่มได้ซักพักก็มีบรรดาพวกคุณหญิงคุณนายเดินพาลูกชายหน้าตาดูไม่ได้
    มาแนะนำตัวให้ยัยรินรู้จัก   
    ยัยนั้นเลยลากผมไปควงแล้วบอกว่าผมนี่แหละคือแฟนของเธอ


    ดังนั้น ผมจึงได้รู้ทันทีว่ายัยนี่ลากผมมาเป็นไม้กันหมานั้นเอง   ส่วนบรรดาคุณชายทั้งหลายที่มาทำความรู้จักก็เลยพากันทำหน้าจ๋อยไปในทันที

     

    เอ่อ  คุณหนูรินครับ เมื่อกี้ท่านโทรมาว่าติดงานสำคัญ
    เลยมางานของคุณหนูไม่ได้นะครับ
       รู้สึกจะมีพ่อบ้านเดินออกมาพูดกับยัยรินว่าแบบนี้มั้งครับ

     

    เหรอไม่เป็นไรหรอก  แว็บนึงผมกลับเห็นแววตาอันเศร้าสร้อยของยัยนี่
    แต่แค่แว็บเดียวเท่านั้นนะครับ  แล้วยัยนั้นก็ปั้นหน้ายิ้มเพื่อต้อนรับแขกในงานต่อไป


    ส่วนผมนะเหรอชิ่งมากินอาหารในงานเลี้ยงแล้วละครับ นี่แหละน๊าร่ำรวยยังไง
    ก็คงหนีไปไม่พ้นความว้าเหว่อยู่ดี ผมก็พอจะเข้าใจจุด ๆ นี้ดีบ้างอ่ะนะครับ

     

    ซักพักไฟก็ดันดับขึ้นมาซะอย่างนั้น จึงทำให้บรรดาแขกในงานไม่พอใจกันอย่างมาก

    คุณหนู ๆ คุณหนูครับเอาไงดีล่ะครับ


    ถามชั้นแล้วจะให้ชั้นตอบไงเล่า

    ทำไมนะคุณพ่อก็มาไม่ได้ แล้วงานของชั้นยังจะต้องมาล่มอีกเหรอเนี่ย

    ดูเหมือนยัยนี่จะทำอะไรไม่ถูกเลยกำลังจะเป่าปี่ (ร้องไห้) แล้ว


    ผมล่ะสะใจจริง ๆ แต่มันก็ต้องช่วยซินะ 
    เอาไงฟร่ะเป็นไงเป็นกัน

    ผมรีบเดินไปลากคอนายเรย์น้องชายของยัยรินมาแล้วกระซิบบอกอะไรไปบางอย่าง

     

    15 นาทีต่อมา

     

    บรรดาคนใช้ก็แจกเทียนให้กับแขกกันถ่วนหน้าพร้อมกับเตรียมเชิงเทียนมาวางไว้ที่โต๊ะของบรรดาแขกในงาน


    ผมเลยเดินไปที่เปียนโนที่ตั้งไว้บริเวณ หน้าเวทีของงาน

    แบะ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ <<< ผมตบมือเรียกความสนใจของแขกในงาน

    ไม่ต้องตกใจคร้าบแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน

    นี่เป็นแค่เซอร์ไพรส์ของงานวันเกิดของคุณหนูรินเองครับ

    แต่ก่อนอื่นเนี่ยผมขออุนญาตจุดเทียนให้สว่าง ๆ กันก่อนนะครับ


    แล้วบรรดาคนใช้ในบ้านของยัยรินต่างจุดเทียนให้กับแขกทุกคน

     

    เอาล่ะครับผมจะเฉลยแล้วนะว่าเซอร์ไพรส์ของงานนี้คือ.........

    งานเต้นรำใต้แสงเทียนครับผม

    รบกวนแขกผู้มีเกียนติทุกท่านจับจองคู่ของตัวเอง
    แล้วก็มาบริเวณด้านหน้าเวทีเลยครับ
      


    ผมพูดจบผมก็ลงมือดีดเปียนโน  เป็นทำนองของเพลงที่เขาใช้เต้นรำกันเลย

    พอมาถึงเพลงที่ 3 ผมก็ส่งซิกไปถามเจ้าเรย์ว่าของที่ให้เตรียมไว้ชิ้นที่ 2 พร้อมหรือยัง แล้วอีกนานไหมกว่าไฟฟ้าจะเป็นปกติ


    ผมเลยได้คำตอบมาว่าพร้อมแล้ว แล้วอีกประมาณ 5 นาทีไฟฟ้าก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม

     

    เอาล่ะครับ มาถึงไคล์แม็กซ์ ของงานแล้วทีนี้ผมจะขอเล่นเพลงเร็วเพื่อให้การเต้นรำของทุกท่านสนุกยิ่งขึ้นนะครับ 


    เดี๋ยวก่อนครับ

    แต่ไหงอยู่ ๆ นายเรย์ก็เดินมาบนเวที พร้อมกับขยิบตาให้ผมซึ่งกำลังทำหน้า งง อยู่


    แต่จะขาดไม่ได้เลยถ้าผมจะขอให้พี่สาวของผมนั้น 
    ได้ร่วมเต้นรำพร้อมกับนักดนตรีคนนี้ซึ่งเป็นแฟนของพี่สาวของผมเองครับ
      
    นายเรย์พูดจบก็ลงไปจูงมือยัยรินนั้นมาหาผม

    ได้โปรดให้เกียรติเต้นรำกับพี่สาวผมซักเพลงนะครับพี่สายลม


    แหงะรู้ชื่อผมได้ไงเนี่ย  ส่วนยัยรินนั้นก็ทำหน้าอึ้ง ๆ คงจะงง ว่าเกิดอะไรขึ้นน่ะซิ หุหุหุ

     

    ก็ทันทีที่ไฟดับผมหันไปเตรียมการกับนายเรย์ว่า ให้เขาหาเทียนกับเชิงเทียน
    มาจำนวนเยอะ ๆ ให้พอกับแขกในงานพร้อมกับพลุจำนวนหนึ่ง 
    ซึ่งผมคิดว่าความร่ำรวยของนายเรย์คงหาได้ไม่นานแน่ ๆ

     

    แล้วผมก็เดินไปขึ้นเวทีพร้อมกับประกาศว่าจะจัดงานเต้นรำใต้แสงเทียนโ
    ดยผมจะเดี่ยวเปียนโนให้เอง หุหุหุ เป็นไงล่ะแผนผมเยี่ยมป่ะล่ะ 

     

    แล้วทันทีที่นายเรย์เล่นดนตรีทำนองเร็ว พวกแขกบรรดาคุณหนูในงานก็เต้นสนุกกันใหญ่ รวมถึงยัยรินที่เมื่อกี้ยังทำหน้า งง อยู่ด้วย พอนายเรย์เล่นไปถึงกลางเพลง 
    เขาก็ส่งซิกให้คนใช้ของเขาจุดพลูขึ้นในทันทีพร้อมกับเปลี่ยนเป็นเพลงช้า ๆ
     แนวคลาสสิค  คิดดูว่าบรรยากาศมันจะโรแมนติคแค่ไหน

     

    แต่ผมอ่ะดิซวยเพราะต้องจับคู่กับยัยริน -*- เลยต้องจับมือเต้นรำเพลงช้า
    พร้อมกับเอามือโอบเอวแล้วยังต้องมองหน้ายัยนี่ด้วย    
    หลายคนในงานอาจคิดว่าผมโชคดีนะ   แต่อย่าลืมนะครับว่าผมยัยเคืองยัยนี่อยู่

     

    มองอาราย  ในขณะที่เต้นกันไปนั้นผมถามยัยนี้ขึ้นมาทันที 
    เพราะสายตาของยัยนี่ไหงมันออกแววซึ้ง ๆ เกินเหตุ

     

    นายทำได้ยังไงกันน่ะ


    ทำอะไร


    ก็ไอที่เซอร์ไพรส์อะไรนี่แหละ


    ฟามสามารถพิเศษอ่ะ  ผมกลับตอบไปอย่างกวน ๆ


    ขอบใจนะ


    อื้อไม่เป็นไรหร้อก ถือซะว่าเป็นของขวัญวันเกิดเธอแล้วกัน

    เหมือนยัยนั้นกำลังจะพูดอะไรต่อ  แต่ไฟก็ติดขึ้นมาซะก่อน

     

    แล้วเพลงก็จบลงด้วย

    เอาล่ะชั้นไปล่ะนะหมดหน้าที่และ  ผมพูดอย่างสบาย ๆ พร้อมกับยิ้มให้ยัยนั้นอย่างเป็นกันเอง แต่ไหงจู่ ๆ ยัยนั้นก้มหน้าล่ะ = = แทนที่จะมาพูดดูถูกผมอีก


    แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ ผมเลยเดินออกมาจากงานเลย
    พร้อมกับโบกแท็กซี่เพื่อกลับห้องเช่าของผมทันที 
    แต่ผมหารู้ว่าความวุ่นวายแบบสุด ๆ ในชีวิตผมนับจะเริ่มต้นขึ้น
    นับจากนี้............................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×