ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Fic Super Junior ] RoseQuartZ แหวนแห่งความรัก

    ลำดับตอนที่ #2 : หินแห่งความรัก [ ดิสนีย์ VS เอสเจ ]

    • อัปเดตล่าสุด 4 ต.ค. 50


    หน้าร้านคาราโอเกะย่านเมียงดง


    "เมื่อไหร่จะมาซักทีนะ กึมยองมัวทำอะไรอยู่เนี่ย"จองซูเดินวนไปวนมาหน้าร้านอยู่หลายรอบ ทำเอาสมาชิกของชมรมที่ถูกบังคับให้ตามาด้วยเริ่มเกิดอาการตาลาย

    "ฮยอง ใจเย็นหน่อยสิครับ"คังอินเดินเข้ามายืนข้างๆเด็กหนุ่มรุ่นพี่ พลางโอบไหล่ของเขาเอาไว้

    "แล้วยังไงอีก -____-"

    "ทำไมฮยองมองผมแบบนี้ล่ะ ไม่พอใจอะไรผมเหรอไง"คังอินโวยเมื่อเห็นสายตาไม่สบอารมณ์ของอีกฝ่าย

    "เปล่า ฉันกำลังหงุดหงิดตัวเองที่ยืนซื่อให้นายโอบไหล่อยู่ได้ตั้งนาน"จองซูบอกเสียงเรียบ เขาเดินกลับไปยืนกอดอกอยู่ข้างๆฮีชอล เด็กหนุ่มคนนี้ก็ดูจะออกอาการหงุดหงิดไม่น้อยไปกว่าเขาเลย คังอินมองตามพี่ชายสุดรักสุดหวงของเขา มีหรือที่เขาจะยอมให้พี่ชายของเขาทำหน้างอใส่ เด็กหนุ่มนัยน์ตาพราวเสน่ห์เดินเข้าไปยืนตรงหน้าจองซูพลางจ้องหน้านิ่ง

    "นายมองหน้าฉันทำไม"คนอายุมากกว่าตีสีหน้าดุๆใส่ เขาพายามอย่างมากที่จะไม่หลุดหัวเราะออกมา

    "งืม..."คังอินยังจ้องไม่เลิก จนในที่สุดเขาก็ได้เห็นรอยยิ้มของอีกฝ่าย  เขาใช้โอกาสนี้เดินเข้าไปคล้องแขนของจองซูเอาไว้ ซองมินเหลือบมองด้วย อาการหมันไส้แต่เขาก็ยินดีที่จะอยู่อย่างสงบแบบนี้ดีกว่าการหาเรื่องใส่ตัว

    "พวกนั้นคงไม่มาแล้วล่ะ"เด็กหนุ่มหน้าหวานเอ่ยลอยๆ เขาไม่เคยคิดจะสนใจกับสิ่งใดเลยนอกเสียจากแอปเปิ้ลลูกสีแดงสดในมือ ซองมินเหลือบมองชั่วครู่ก่อนจะละสายตามองไปทางอื่นอย่างนึกเหนื่อยหน่าย... นายจะหาเรื่องใส่ตัวเองทำไมนะ?

    "นายหมายถึงใคร?"ฮีชอลเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงบ่งบอกถึงอารมณ์ที่พร้อมจะระเบิดโลกได้ทั้งใบได้หากเค้าได้รับคำตอบไม่ถูกใจ  ซองมินเหลือบมองหน้าคนถูกถามอย่างนึกห่วงเล็กน้อย =____= แต่คนตอบดูเหมือนจะไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเสียเลย นั่นอาจเพราะว่าเขามัวแต่สนใจแอปเปิ้ลในมือเลยไม่ทันได้สังเกตเห็นท่าทีของฮีชอล

    "หมายถึงคนที่พวกพี่และผมกำลังรออยู่ไงล่ะครับ"

    คนแอบห่วงถอนหายใจเสียงดัง... จะรอดมั๊ยฟร่ะวันนี้   เส้นประสาทของฮีชอลเริ่มทำงานอย่างหนัก เจ้าตัวออกอาการหงุดหงิดกับคำตอบนั้นเป็นอย่างมาก...ไม่มาเหรอ ยัยนั่นจะไม่มาเหรอ เธอจะปล่อยให้ฉันรอเก้อรึไง... ฮึ่ย!!

    "ใจเย็นๆครับพี่ ^ ^"ชีวอนรีบคว้าร่างของพี่ชายเขาเอาไว้ก่อนที่ฮีชอลจะตัดสินประการชีวิตคยูฮยอน โดยที่อีกฝ่ายนั้นยังไม่รู้สึกตัวถึงอันตรายนั้นเลยแม้เพียงเล็กน้อย คนอื่นๆเองก็ดูจะหลุดไปอยู่ในโลกส่วนตัว มีเพียงเขากับซองมินเท่านั้นที่รู้สึกลุ้นระทึกกับเหตุการณ์นี้

    "ทำมาย...อุ้บ!!"คยูทำท่าจะอ้าปากพูดต่อทำให้ซองมินต้องรีบยัดแอปเปิ้ลในมือของคยูเข้าปากเจ้าตัวไปเสียเลย

    "ฉันว่าถ้านายมองมันนานกว่านี้มันอาจจะช้ำ... เพราะงั้นรีบกินมันซะ"ซองมินบอกเสียงเรียบ คยูฮยอนนิ่งไม่พูดอะไรต่อมีเพียงสายตาเท่านั้นที่สื่อถึงความขัดใจ

    ฮีชอลเหลือบมองคนที่กอดเขาเอาไว้ พลางทำตาโตใส่... ชีวอนเองก็ไม่น้อยหน้าแววตาไร้เดียงสาที่ดูเหมือนจะงงๆอยู่ตลอดเวลาของเขาก็ถูกส่งออกไปยังอีกฝ่ายเช่นกัน

    "นายว่าพวกนั้นจะมามั๊ย?"

    "หือ... อ่อ มาสิครับ ^ ^ ทำไมเหรอ พี่ฮีชอลรอใครในกลุ่มพวกนั้นรึเปล่าครับ" ชีวอนถามกลับ เขายอมรับว่าเขานั้นมาที่นี่ก็เพื่อมารอกึมแจ  จองซูเองก็ไม่ต่างเขากล้าพูดกับทุกคนในชมรมและใช้ความเป็นประธารชมรมบวกประธานนักเรียนบังคับให้ทุกคนมาเป็นเพื่อนเขาก็เพื่อจะได้เจอกับนารา

    "เฮอะ! ฉันถามนาย นายต้องตอบสิ มาถามฉันทำไม -____-+ ใครจะไปรอล่ะ ฉันไม่รอหรอก"ฮีชอลแกล้งอารมณ์เสียกลบเกลื่อน... ฉันไม่ได้รอหรอก ไม่ได้รอแค่วันนี้... แต่ฉันรอยัยนั่นมานานแล้วต่างหาก... ชีวอนเองก็ดูจะซื่อ(บื้อ)เกินกว่าจะรู้สึกได้ว่าพี่ชายของตัวเองมีบางอย่างแปลกไป =___= ( ฉันยังยืนยันว่าฉันรักพี่นะคะ T^T : ผู้แต่ง  )ภาพของเด็กหนุ่มหน้าตาดีทั้ง 10 คนทำให้บรรดาเด็กสาวที่เดินผ่านไปให้ความสนใจไม่น้อย อึนฮยอกแจจะคอยยิ้มตอบเมื่อมีใครยิ้มให้เขา คังอินเองก็ไม่ต่าง  เขาจะยิ้มให้กับผู้หญิงทุกคนที่หน้าตาดีพอที่จะเข้าวัดตอนสายๆได้

    "เราต้องรอไปถึงเมื่อไหร่เนี่ย?"ทงเฮเดินเข้าไปกอดคอของฮยอกแจ เขาเริ่มเบื่อกับการรอคอยในครั้งนี้แล้ว แต่ที่ทำให้เขาหงุดหงิดยิ่งกว่าคือท่าทางของฮยอกแจซึ่งดูจะสนใจผู้หญิงที่เดินผ่านไปมามากกว่าเขา

    "นายสนใจฉันหน่อยสิ"ดงเฮทำเสียงหงุดหงิด

    "อืม ^ ^ ว่ามา "ฮยอกแจยังคงไม่ยอมหันมามองหน้าของเพื่อนรัก

    "นายไม่สนใจฉันเลย"ดงเฮขยับแขนให้รัดรอบคอฮยอกแจแน่นขึ้น

    "ฉันสนใจนาย ^ ^ นายควรจะเข้าใจแบบนี้มากกว่านะ"

    "นายไม่มองหน้าฉันเลย"

    "ฉันควรจะมองหน้านายเหรอ? o_O"

    "-____-^^ ตกลง ฉันจะลืมมันซะ นายอยากสนใจอะไรก็ตามใจนาย"ทงเฮเมินหน้าหนีเพื่อนรักของเขาก่อนจะเดินกลับมานั่งข้างๆคิมคิบอมตามเดิม

    "ฉันง่วงนอน"ทงเฮบอกเสียงอ่อย ใจจริงเขาอยากกลับบ้านไปนอนมากกว่ามานั่งอยู่ริมฟุตบาทแบบนี้  คิบอมเหลือบมองคนนั่งข้างๆชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยกับเพื่อนของเขา
    "นายพิงไหล่ฉันก็ได้... คงอีกนานกว่าพวกนั้นจะมา"

    "ได้เหรอ *O*"

    "อื้ม"คิบอมพยักหน้ารับ แล้วมีหรือที่เขาจะปฏิเสธ แต่ยังไม่ทันที่ทงเฮจะได้เอียงหัวซบไหล่ของคิบอม เสียงใสๆที่ฟังดูคุ้นหูก็ทำให้ใครหลายคนต้องหันไปมองรวมทั้งเขาเองก็ด้วย

    "มาแล้วค่ะ"กึมยองโบกไม้โบกมือตะโกนร้องบอกด้วยความดีใจ... ที่สำคัญ =___= ด้วยความลืมตัว    ลักยิ้มเล็กๆที่มุมปากทั้งสองข้างของอีทึกปรากฎขึ้น รอยยิ้มซึ่งใครได้เห็นก็จะต้องยิ้มตามทุกครั้ง แววตาเป็นประกายส่งตรงราวกับพิซซ่าเดลิเวอร์รี่ไปที่นารา  แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะยังไม่รู้ว่าถูกมอง เพราะมัวแต่จ้องจะจัดการกับกึมยอง รวมไปถึงโพมีเองก็ไม่รู้ตัวเช่นกันว่ามีสายตาคู่หนึ่งจ้องมองมายังเธอ.... มันคือมหกรรมแอบมอง =____= เพราะชีวอนเองก็ถูกสายตาคู่หนึ่งจ้องมองอยู่ตลอดเช่นกัน ถึงแม้ว่าเธอคนนั้นที่แอบมองเขาจะรู้ดีว่า ชีวอนกำลังส่งยิ้มให้กึมแจก็ตาม

    "กึมยอง  หมายความว่าไง?"โพมีบอกเสียงดุ ทำเอากึมยองพูดไม่ออกได้แต่ยิ้มเจื่อนๆเท่านั้น

    "รังแกรุ่นน้องรึไง ประธานชมรมดิสนีย์เวิร์ล"ฮีชอลเดินเข้ามาตีสีหน้ากวนประสาทใส่ โพมีสูดออกซิเจนเข้าท้องเล็กน้อยก่อนจะหันมามองทางเขา

    "สวัสดีค่ะพี่ฮีชอล ^ ^ มันเป็นเรื่องที่น่ายินดีจังนะคะที่วันนี้ฉันเจอพี่ถึงสองครั้ง..."โพมีพยายามอย่างมากที่จะสะกดอารมณ์ตัวเองเอาไว้ เพราะถ้าเธอยิ่งโกรธ หมอนี่ก็จะยิ่งมีความสุข... วันนี้ฉันจะไม่ยอมแพ้พี่แน่ !!

    " ^-------^ นั่นสินะมันเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากเลย แล้วคราวนี้เธอจะซุ่มซ่ามอะไรอีกล่ะ"

    "คงไม่แล้วล่ะค่ะ เพราะฉันรู้ว่าคนมีน้ำใจจริงๆมันหายาก เดี๋ยวนี้มีแต่พวกทำดีเพื่อหวังสิ่งตอบแทน"โพมียังคงไม่ยอมอ่อนให้ฮีชอลง่ายๆ  สมาชิกที่เหลือของทั้งสองเริ่มเล็งเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้า ...อย่าว่าแต่จะร้องคาราโอเกะเลย จะได้ย้ายสังขารณ์เข้าไปนั่งตากแอร์ในร้านรึเปล่าก็ยังไม่รู้ ยาวแน่งานนี้...เฮ้อ มินจีถอนหายใจแล้วเริ่มมองหาที่นั่ง ก่อนจะลงไปทิ้งตัวนั่งข้างๆทงเฮ

    " ^ ^ ขอนั่งด้วยคนนะคะ"มินจีหันไปยิ้มให้คนที่นั่งอยู่ก่อนแล้วหันกลับมาสนใจคู่ของโพมีกับฮีชอลอีกครั้ง ทงเฮเองก็ได้แต่พยักหน้ารับอย่างงงๆ ... ยัยนี่เป็นใคร??

    "คำขอบคุณเขาไม่เรียกว่าสิ่งตอบแทนหรอกนะ"ฮีชอลสวนกลับ

    "แต่นั่นแหล่ะค่ะ ฉันถือว่ามันเป็นสิ่งตอบแทน"

    "ฉันว่ามันเป็นมารยาทมากกว่า"

    "ก็แล้วแต่จะคิดนะคะ"

    "บางทีเธอควรเชื่อฟังรุ่นพี่ให้มากกว่านี้นะ ฉันกำลังสอนเธออยู่"

    "แต่ฉัน...." ราวกับฟ้าได้ส่งเบรกเอบีเอสลงมาให้เมื่อเริ่มจะทนไม่ไหว

    "แต่ฉันอยากร้องเพลง -____-^^ เธอคงไม่อยากให้ฉันเปลี่ยนจากร้องเพลงเป็นร้องไห้ใช่มั๊ย"กึมแจบอกเสียงหงุดหงิด ทำไมสองคนี้เจอกันทีไรต้องหาเรื่องทะเลาะกันด้วยนะ?..

    "ค่ะ... ฉันจะจำเอาไว้"โพมีกระแทกเสียงใส่ผู้ชายตรงหน้าก่อนจะเดินหนีออกมา เธอรู้สึกราวกับอีกฝ่ายกำลังหัวเราะไล่หลังให้กับความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ของเธอ

    " ^---^" <<<<<<<<<<< ฮีชอล

    ฮีชอลทำท่าจะเดินกลับไปที่กลุ่มของเขาแต่เหลือบไปเห็นเซรินที่ยืนมองเขาอยู่เสียก่อน

    "เซริน ... มาด้วยเหรอ"ฮีชอลเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม

    "แล้วที่ยืนอยู่นี่ไม่ใช่ฉันเหรอคะ"

    "ไม่ใช่มั้ง ^ ^"ฮีชอลใช้มือตีหัวเซรินเล่นเบาๆ ทั้งสองคนไม่รู้เลยว่ามีสายตาคู่หนึ่งแอบมองอยู่ตลอด มันก็คงเหมือนกับที่เซรินยืนแอบมองอยู่ตลอดล่ะมั้ง... แอบมองคนสองคนทะเลาะกัน ทั้งที่เขาสองคนทะเลาะกัน แต่ความรู้สึกมันกลับไม่ใช่เลย...

    "ค่ะ งั้นฉันคงไม่ได้มา"เสียงหัวเราะของคนทั้งสองทำให้บรรยากาศเริ่มดีขึ้นเล็กน้อย ถ้าไม่ติดที่ว่าประธานชมรมดิสนีย์เริ่มกลายเป็นน้ำต้มเดือด 100 องศา

    "อ่าฮะ วันนี้จบเร็วแฮะ"มีนจีบอกพลางรีบลุกขึ้นยืนเพื่อจะเดินไปรวมกับกลุ่ม แต่เพราะเธอลุกเร็วเกินไปทำให้เซล้มลงมาทับทงเฮอย่างจัง คิบอมเองก็พลอยซวยไปด้วยเพราะทงเฮพิงแขนเขาอยู่

    "ว๊าย ขอโทษนะคะโอป้า ฉันไม่ได้ตั้งใจ... โอ๊ย!! "มินจีที่ล้มลงไปนอนอยู่บนตักของทงเฮรีบเอ่ยคำขอโทษทันที ก่อนจะพยายามดันตัวเองให้ลุกขึ้น แต่คงเพราะวันนี้เป็นวันซวยของเธอจริงๆ เส้นผมของเธอเลยไปเกี่ยวเข้ากับกระดุมเสื้อของคนอารมณ์ไม่ดี ทงเฮมองภาพตรงหน้าด้วยอารมณ์หงุดหงิดปนสงสาร

    "อยู่นิ่งๆนะ อย่าขยับ"ทงเฮจับแขนเธอเอาไว้แล้วบอกให้เธอนอนอยู่นิ่งๆบนตักของเขา ก่อนจะค่อยๆแกะผมที่พันติดกับกระดุมออกอย่างเบามือเพื่อไม่ให้เธอต้องเจ็บ  มินจีไม่รู้เลยว่าเธอควรจะทำสีหน้ายังไง จะว่าผู้ชายคนนี้ใจดีก็คงใช่มั้ง  หรือว่าจะไม่ใช่ เฮ้อ ถ้ายิ้มซักหน่อยก็คงจะดีกว่านี้อ่ะนะ...

    "อะนี่ หลุดแล้ว"ดงเฮคลี่ยิ้มบางๆออกมา คิบอมมองการกระทำของเพื่อนเขาด้วยความงุนงงเล็กน้อย เพราะทงเฮไม่ชอบให้คนแปลกหน้าถูกเนื้อต้องตัวเขา แต่นี่เค้ากลับยอมให้มินจีนอนอยู่บนตัวของเขา...เป็นไปได้ไง???

    "ขอบคุณนะคะโอป้า แล้วก็ขอโทษด้วย"มินจีรีบลุกออกจากตัวของอีกฝ่าย แล้ววิ่งไปสมทบกับกลุ่มของเธอ ทงเฮกับคิบอมเองก็ต้องลุกเช่นกันเพราะคนอื่นๆเริ่มทยอยกันเข้าไปในร้านแล้ว อีกไม่นานคงได้ยินเสียงเพลงที่พวกเขาร้อง... เว้นเสียแต่ว่า เหตุการณ์นี้จะไม่เกิดขึ้น...

    "อย่าวิ่งสิแรวอน!!!!" เด็กชายคนหนึ่งกำลังวิ่งมาทางพวกเขาพลางกอดลูกโป่งสีแดงแนบอกเอาไว้  มีแม่ของเด็กวิ่งตามหลังมาแต่ก็เว้นระยะห่างพอสมควร ชีวอนหันมามองชั่วครู่ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าร้าน แต่เสียงร้องของเด็กน้อยกลับฉุดรั้งเขาเอาไว้

    "แม่ครับ!! ลูกโป่งผม"

    ลูกโป่งสวรรค์สีแดงลอยไปคล้องติดกับป้ายโฆษณาที่แขวนอยู่หน้าร้านขายอาหาร บริเวณนั้นเป็นโรงภาพยนตร์เก่าที่คงร้างผู้คนมานานแรมปี ชีวอนหมุนตัวกลับแล้วออกวิ่งไปทางเด็กผู้ชายคนนั้นที่กำลังพยายามจะกระโดดคว้าเชือกซึ่งผูกติดกับลุกโป่ง

    "พี่ครับ ลูกโป่งของผม"น้ำเสียงเล็กๆน่ารักสมวัยเอ่ยกับเขาชีวอนคลี่ยิ้มแทนคำตอบรับใดๆ เขาเอื้อมมือไปคว้าเส้นเชือกนั้นเอาไว้แล้วดึงลูกโป่งลงมา พร้อมกับเอาเส้นเชือกพันข้อมือของแรวอนเอาไว้

    "ทำแบบนี้นะ แล้วมันจะไม่บินหนีนายไม่ไปไหนอีก ^ ^"

    มินฮีมองภาพตรงหน้าแล้วอมยิ้ม...   ผู้ชายคนนี้จะดูอ่อนโยนน่ารักอย่างมากเวลาเขามอบรอยยิ้มสดใสนั้นให้กับเด็กๆ

    "มินฮีมองอะไรอยู่เหรอ เข้ามาสิ"นาราเอ่ยถามเมื่อเห็นว่ามินฮีไม่ยอมเข้ามาในร้านเสียที

    "เปล่าหรอกค่ะ...เอ่อมอง...มอง..."น้ำเสียงในท่อนสุดท้ายขาดหายไปทันที เมื่อเด็กสาวออกวิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเมื่อสายตาของเธอเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่าง…ไม่นะ !!!

    "อ้าวมินฮี!! จะไปไหน"นาราร้องเรียกเสียงดังทำให้สมาชิกที่เข้าไปในร้านรู้สึกแปลกใจจนต้องออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ที่มันคงจะอายุมากเสียจนต้องจบชีวิตลงในวันนี้... แต่ช่างมันสิ แกจะเจ๊งจะเป็นอะไรฉันเคยสนใจที่ไหน แต่ทำไมแกต้องมาดิ่งลงพื้นตามแรงโน้มถ่วงของโลกในวันนี้ด้วยฟร่ะ!!

    "โอป้า!! ระวัง!!!!!!!!!!!!!!!"

    เสียงร้องนั้นเงียบหายไปพร้อมกับสติสัมปชัญญะของใครคนหนึ่งที่กำลังดิ่งสู่ห้วงนิทรา....
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×