ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Fic Super Junior ] RoseQuartZ แหวนแห่งความรัก

    ลำดับตอนที่ #1 : เปิดตัวดิสนีย์แก๊ง !!

    • อัปเดตล่าสุด 4 ต.ค. 50


    โรงเรียนมัธยมเบกะ

    เสียงส้นรองเท้ากระแทกพื้นซึ่งกำลังมุ่งตรงมายังห้องชมรมทำให้สมาชิภายในห้องรู้สึกขนลุกไปตามๆกัน คงไม่มีใครอีกแล้วที่จะทำแบบนี้ได้ นอกไปเสียจากโพมีประธานชมรมมาดเท่ห์  หญิงสาวร่างบางก้าวเท้าเข้ามาภายในห้องด้วยอาการไม่สบอารมณ์ แฟ้มเอกสารประกอบการเรียนถูกกระแทกลงบนโต๊ะจนเกิดเสียงดัง ทำเอาเด็กสาวผมลอนที่นั่งอยู่ก่อนถึงกับสะดุ้ง

    "เป็นอะไรเหรอคะ ออนนี"นาราเอ่ยถาม และไม่ใช่แค่เธอเท่านั้นที่อยากรู้ สมาชิกอีก 4 ชีวิตก็รอความหวังอยู่เช่นกัน

    "หงุดหงิดอ่ะ...  ดูหมอนั่นทำสิ ขอโทษ!..ฉันไปขอให้นายช่วยเมื่อไหร่กัน  ทำไมต้องมาหาว่าฉันไม่มีมารยาทด้วย จำเป็นรึไงที่ฉันต้องขอบคุณคนนิสัยแบบนั้น"ดูเหมือนคำตอบที่ได้รับจะทำให้สมาชิกทุกคนถึงกับกระจ่างในรสพระธรรม อีกแล้วสินะ... จะมีใครหน้าไหนทำให้โพมี อารมณ์เสียได้ขนาดนี้ นอกจาก คิมฮีชอล ประธานชมรมดนตรี หรือก็คือ รองหัวหน้าแก๊ง SJ

    กึมยองกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เธอเป็นน้องสาวแท้ๆของ ปาร์คจองซู( อีทึก ) ประธานชมรมดนตรี เด็กสาวพยายามทำตัวให้ดูสงบเรียบร้อยขัดจากนิสัยของเธอจริงๆอย่างมาก เพื่อไม่ให้โพมีสังเกตเห็น เด็กสาวไม่ไว้ใจอารมณ์ของประธานชมรมสาวเสียเท่าไหร่ พี่ฮีชอล... ทำไมชอบหาเรื่องพี่โพมีนักนะ โอ๊ย...กึมยองอยากจะกรี๊ด >_<

    "เป็นอะไรไปกึมยอง  พี่ไม่กินเธอหรอกน่า พี่แยกแยะออกว่าเธอน่ะเป็นน้องสาว ไม่ใช่เป็นคนเดียวกับพี่ชาย"โพมีบอกอย่างรู้ทัน ทำเอากึมยองอมยิ้มจนแก้มแทบปริ

    "ว่าแต่พี่โพมี ไปมีเรื่องอะไรกับพี่ฮีชอลมาเหรอคะ"มินฮีซึ่งนั่งกินขนมอยู่อีกมุมหนึ่งของห้องเดินเข้ามาถาม  เด็กสาวหน้ากลมๆที่ไม่เคยสำนึกเลยว่าตัวเองกำลังจะกลายเป็นฝาแฝดกับถังแก๊ส  เธอยังคงรักการกินขนมขบเคี้ยวเป็นชีวิต


    "ก็... พอดีพี่เดินสะดุดขาตัวเองตอนไปถ่ายเอกสารน่ะ แล้วหมอนั่นก็เข้ามาช่วยพยุงแขนไว้"สมาชิกทุกคนมองหน้ากัน อ้าว... นี่มันไม่ใช่เรื่องดีหรอกเหรอ -___-

    "ออนนี... เป็นแบบนี้มันก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมต้องโมโหด้วยล่ะ" แชรินแทรกขึ้นบ้าง ใบหน้าของประธานสาวถึงกับขึ้นสีเรื่อ มันก็คงจะถูกต้องล่ะนะ... แล้วเธอ
    จะทำอย่างไรให้มันกลายเป็นเรื่องที่น่าโมโหได้ล่ะ

    "มันก็ใช่นะ แต่ว่าหมอนั่นทำไปก็เพราะอยากจะได้รับขอบคุณจากพี่    เห็นมั๊ยล่ะว่าทำดีเพราะมีจุดประสงค์ที่ไม่ดี ทีแรกพี่ก็กะจะพูดอยู่หรอก แต่หมอนั่นดันทำมาพูดซะก่อนว่าอย่างพี่  คงไม่รู้จักคำว่าขอบคุณหรอก ฉันก็เลยไม่พูดมันซะเลย"


    "งั้นเรื่องนี้พี่โพมีก็เป็นฝ่ายผิดสิคะ พี่ฮีชอลไม่ผิดซะหน่อย"มินจีบอกไปตามที่เธอคิด แล้วเธอก็แน่ใจด้วยว่าคนอื่นๆก็คิดเหมือนเธอ  แชรินพยักหน้ารับเห็นด้วยพลางช้อนสายตามองไปยังประธานสาว


    "อืม   มันก็น่าจะเป็นอย่างนั้นนะคะ  ออนนี"มินฮีช่วยสนับสนุนอีกแรง เธอไม่ค่อยจะชอบเท่าไหร่นักที่โพมีไม่ถูกชะตากับฮีชอล  ทั้งที่เธอก็รู้สึกว่าฮีชอลไม่ได้เลว
    ร้ายอะไร เพียงแค่เขาดูจะกวนประสาทไปซักนิดเท่านั้นเอง


    "อ่าเหรอ  ก็คงงั้นมั้ง ว่าแต่เซรินกับกึมแจไปไหนล่ะ ตั้งแต่เข้ามายังไม่เห็นเลย"โพมีแกล้งเปลี่ยนเรื่อง เธอรู้สึกว่าน้องๆของเธอดูจะไม่เข้าข้างตัวเธอเอาเสียเลย


    "เดี๋ยวคงมาค่ะ ก็วันนี้พวกเรานัดกันไว้แล้วว่าจะไปคาราโอเกะกันนี่คะ"กึมยองบอกเสียงใส ถึงเธอจะเป็นเพียงแค่เด็กนักเรียนมัธยมต้น แต่เธอกลับเป็นคนคิดวางแผนจับคู่ให้พี่ชายเธอกับนารา เพราะเธอรู้ดีว่าลึกๆแล้วจองซูสนใจในตัวนารา เพียงแค่ติดที่ไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้เท่านั้น วันนี้แหล่ะ... สนุกแน่  >_<

    "มาแล้วๆๆ หวังว่าคงไม่ช้าไปใช่รึเปล่า"กึมแจเดินเข้ามาในห้องด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เซรินที่เดินตามหลังเข้ามาก็ดูจะอารมณ์ดีไม่แพ้กัน ทั้งสองถือกล่องน้ำผลไม่เอาไว้ในมือ ดูเหมือนว่าจะเป็นเพราะเจ้าน้ำผลไม้นี้ล่ะมั้งที่ทำให้ทั้งสองอารมณ์ดี


    "โห   อารมณ์ดีกันจังนะคะ ยิ้มเห็นฟันมาตั้งแต่หน้าโรงเรียนเลยมั้งนั่น"มินจีแกล้งแซวเล่น


    "อื้ม.. ก็นะ คงเพราะน้ำผลไม้กล่องนี้มั้ง"เซรินบอก ทำให้โพมีที่มีอาการเบื่อๆเซ็งๆคว้ากล่องน้ำผลไม้มาดื่มบ้าง เชรินเองก็ยอมยกให้เพื่อน เธอยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างสบายอารมณ์

    "เป็นไง อร่อยมั๊ยโพมี"

    "เฉยๆ ก็น้ำผลไม้ธรรมดานี่ ไม่เห็นมีอะไรเลย... แต่ก็ขอบใจนะ กำลังต้องการอยู่พอดีเลย"โพมีตอบเสียงเรียบ ในขณะนั้นเองมินฮีที่มัวแต่ห่วงเรื่องกิน ทำให้ขนมเจ้ากรรมติดคอจนได้ กึมแจเลยยื่นกล่องน้ำผลไม้ให้น้องสาวของเธอ เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะดับอนาถคาห้องชมรมไปเสียก่อน


    "ขอบคุณค่ะพี่กึมแจ แค่กๆ"กึมแจพยักหน้ารับแล้วค่อยๆลูบหลังน้องสาว

    "ก็น้ำผลไม้ธรรมดาน่ะสิ ฉันไม่ได้บอกซะหน่อยว่ามันเป็นน้ำวิเศษ... มันดีตรงที่ว่ามีคนซื้อให้ต่างหากล่ะ"เซรินอมยิ้ม


    "ใครคะ ออนนี"นารารีบถามทันที เพราะเธอไม่ไว้ใจรอยยิ้มนั้นเลย  อย่าบอกนะว่าเป็น...  คนถามเบิกตาโพลง

    "พี่ฮีชอลน่ะ ^------^"

    "อึก..แค่กๆๆๆๆๆๆ"โพมีสำลักน้ำผลไม้แทบจะทันทีที่ได้ยินชื่อนั้น ให้ตายเถอะ นี่เธออุตส่าห์เอาชีวิตรอดจากพื้นปูนแข็งๆของโรงเรียนมาได้ ไม่ล้มหัวฟาดพื้น
    ตาย แต่จะมาตายเพราะน้ำผลไม้กล่องนี้เนี่ยนะ

    "ใจเย็นๆค่ะพี่โพมี ไม่เป็นไรนะคะ"นาราที่นั่งอยู่ข้างๆรีบคว้ากระดาษทิชชู่ซึ่งวางอยู่บนโต๊ะด้านหลังของเธอส่งให้โพมี แล้วช่วยซับน้ำผลไม้ซึ่งหกเลอะลงบน
    เสื้อของอีกฝ่าย

    "ทำไมไม่บอกฉันล่ะเซริน"

    "อ้าว.. ก็เธอไม่ได้ถามฉันนี่นา"เซรินสวนกลับ ทำเอาอีกฝ่ายถึงกับพูดไม่ออก  ได้แต่ทำสีหน้าหงุดใส่ตัวเอง

    "เอ่อ... งั้นนี่ก็ของพี่ฮีชอลใช่มั๊ยคะ"มินฮีหยิบกล่องน้ำผลไม้ที่เธอเพิ่งดื่มหมดไป แล้วหันไปถามกึมแจ

    "ไม่ใช่หรอกจ้า... อันนี้ชีวอนซื้อให้พี่น่ะ อร่อยใช่มั๊ย ^ ^''

    "คะ?"มินฮีมีสีหน้าบอกบุญไม่รับ ของพี่ชีวอนเหรอนี่...

    "อื้ม... ทำไมอ่ะ เป็นไรเหรอ อย่าบอกนะว่าจะเป็นแบบโพมีอีกคน"กึมแจเอ่ยถามเมื่อเห็นสีหน้าของมินฮี

    "เปล่านี่คะ ไม่หรอกค่ะ... ก็ฉันไม่ได้เกลียดพี่เค้าซะหน่อย จะว่าไปไม่เคยคุยกันเลยด้วยซ้ำ "มินฮีบอกก่อนที่ทุกคนจะหันไปให้ความสนใจกับกึมยองอีก
    ครั้ง เพราะเจ้าตัวเริ่มทักท้วงแล้วว่าอาจจะไปไม่ทันเวลา

    "ไปกันเถอะค่ะ ช้ามากแล้วนะคะ ป่านนี้พวกนั้นคงไปรอกันแล้ว"กึมยองเอ่ยอย่างลืมตัว

    "พวกไหน"สาวๆทั้ง 6 คนเอ่ยถามพร้อมกัน ทำเอาเจ้าตัวถึงกับสะดุ้ง

    "คะ? พวกไหนอะไรกันคะ ไม่มีนี่นา"กึมยองแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

    "ก็เมื่อกี้เธอบอกว่า จะมีคนรอพวกเราอยู่"โพมีบอกเสียงแข็ง เจ้าตัวมั่นใจว่าเธอได้ยินอย่างนั้นจริงๆ

    "เปล่านี่คะ พี่ๆคงหูฝาดนะค่ะ อย่าสนใจเลยนะ ไปกันเถอะค่ะๆ นะคะ อยากร้องเพลงจะแย่แล้วนะ"กึมยองใช่ลูกอ้อนในการเอาตัวรอด เธอจัดการพยุงให้โพมี
    กับนาราลุกจากเก้าอี้แล้วดันให้ทั้งสองคนเดินออกจากห้องชมรม

    "มันแปลกๆนะว่ามั๊ย"มินฮีหันไปกระซิบถามแชรินที่เดินออกมาพร้อมๆกับเธอ

    "คิดเหมือนกันเลยค่ะ ออนนี... มันต้องมีอะไรแน่ๆเลย กึมยองดูแปลกๆ"

    "เดี๋ยวไปถึงก็คงรู้เองแหล่ะนะ" มินฮีมองตามหลังของคนทั้งสามไป เธอรู้สึกราวกับว่ามีบางสิ่งบางอย่างกำลังรอเธออยู่... หรือว่าจะแค่คิดไปเอง...


    ระหว่างทางที่จะไปนั้น ต้องผ่านร้านขายเครื่องประดับ มินฮีแอบมองแหวนในร้านนี้มานานแล้วแต่เธอตัดสินใจซื้อไม่ลงเสียที เพราะราคาแพงมากจนเธอเองต้องคอยหักห้ามใจ

    "ออนนี ขอฉันแวะดูแหวนหน่อยนะคะ"มินฮีร้องบอกแล้วเดินเลี้ยวเข้าไปในร้าน โดยมีโพมีกับเพื่อนๆเดินตามเข้าไป  เด็กสาวก้มลงมองแหวนสีชมพูแวววับ เธอรู้ดีว่ามันทำมาจากหินโรสควอตซ์...  หินแห่งความรัก

    "ชอบมันมากเหรอ พี่เห็นเวลาเธอผ่านแถวนี้เธอชอบแวะมาดูตลอดเลย"นาราเอ่ยถาม

    "ค่ะ... เอ่อ.. คุณลุงคะ มันหายไปไหนวงหนึ่งเหรอ จำได้ว่ามันเป็นแหวนคู่นี่คะ"มินฮีพยักหน้าให้นาราแล้วหันไปถามเจ้าของร้าน เธอชอบเพราะมันทำจากหินแห่งความรัก และที่สำคัญมันเป็นแหวนคู่ แต่ตอนนี้แหวนอีกวงกลับหายไปเสียแล้ว

    "อ่อ มีคนซื้อไปน่ะ ฉันบอกให้เขาซื้อไปสองวง แต่เขาไม่เชื่อฉันน่ะสิ"คนขายตอบอย่างอารีย์ เขาหยิบแหวนวงนั้นออกมาจากตู้แล้วยื่นมันมาอยู่ตรงหน้าของมินฮี

    "เธอมาก็ดีแล้ว... ฉันเองก็รอเธอออยู่เหมือนกัน"

    "คะ? รอฉันน่ะเหรอ"มินฮีชี้นิ้วเข้าใส่ตัวเอง สาวๆที่เหลือก็พากันงงตามไปด้วย

    "อ่ะนี่... เธอออยากจะซื้อมันในราคาเท่าไหร่ ฉันจะขายให้...บอกมาสิ"มินฮีนิ่งงงพลางมองหน้าคนขายอย่างไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ได้ยินซักเท่าไหร่

    "รับไว้สิมินฮี... คนขายใจดีออกขนาดนี้แล้วนะ ถ้าไม่เอาพี่จะได้ซื้อแทนซะเลย"เซรินบอก เธอเองก็รู้สึกว่าแหวนวงนี้สวยมาก มองแล้วรู้สึกเหมือนกับจะถูกสะกด แหวนวงนี้คงมีพลังของหินซ่อนอยู่ ... หินแห่งความรักเสียด้วย

    "ฉันขายให้เธอไม่ได้หรอก... คนที่จะซื้อแหวนวงนี้ได้มีแต่เด็กสาวคนนี้เท่านั้น"คำพูดของชายวัยกลางคนทำให้มินฮีถึงกับคิ้วผูกโบว์ด้วยความงุนงง

    "หมายความว่ายังไงคะ"โพมีเอ่ยถามแทนน้องสาวหลังจากที่ยืนเงียบอยู่นาน

    "มันขึ้นอยู่กับว่าคนแรกที่ซื้อแหวนไปน่ะเป็นใคร... เขาจะเป็นตัวกำหนดว่าใครจะเป็นคนที่ได้รับแหวนอีกวงไปครอบครอง"

    "วุ่นวายดีจังนะคะ"แชรินเอ่ยขึ้น เธอไม่ได้ตั้งใจจะกวนประสาท เพียงแค่เธอคิดอย่างนั้นจริงๆ

    "ฉันถึงได้บอกไงล่ะ ว่าอยากให้เด็กคนนั้นซื้อไปทั้งสองวง"รอยยิ้มอารีย์ของชายวัยกลางคนทำให้มินฮีรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก

    "ว่าไงล่ะมินฮี ยังอยากได้อยู่มั๊ย"โพมีหันไปถามน้องสาวของเธอ

    "ค่ะ อยากได้สิคะพี่โพมี... งั้น...เอ่อ ฉันมีแค่นี้ ได้รึเปล่าคะ"มินฮีล้วงเงินในกระเป๋าสตางค์ออกมาจนหมด เธอรู้ว่ามันเทียบไม่ได้เลยกับราคาที่เคยตั้งเอาไว้ในตอนแรก

    "ได้สิ น้อยกว่านี้ฉันก็จะขายให้เธอ"

    "ขอบคุณมากนะคะ'' มินฮีรับแหวนสิชมพูแวววับมาไว้ในมือ แล้วสวมใส่นิ้วนางข้างขวา เธอยิ้มให้กับมัน...ในที่สุดเธอก็ได้เป็นเจ้าของแล้ว... น่าเสียดายนะ ถ้าอีกวงยังอยู่ก็คงดีกว่านี้ Y-Y

    "จะไปกันได้รึยังอ่ะคะ... "กึมยองรีบท้วงอีกรอบ ป่านนี้พี่ชายฉันรอจนกลายเป็นหินแห่งความเศร้าแล้วมั้งงงงงงง...เฮ้อ YOY

    "จ้าๆ ไปแล้วๆ อย่าทำหน้างออย่างนั้นสิ ไม่น่ารักเลยนะ"นาราแกล้งกระเซ้าเล่น ก่อนที่ทั้งหมดจะเดินออกไปจากร้าน มินฮีไม่ลืมที่จะโค้งศีรษะให้เจ้าของร้านผู้ใจดีพร้อมกับรอยยิ้ม
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×