คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : EP1 แรงแค้น
หญิงสาวใบหน้าเปื้อนธุลีพลอยหมองคล้ำไปบ้าง แต่ก็ไม่สามารถบดบงผิวผ่องที่หล่อนมีอยู่เป็นทุนเดิมได้ ผมที่แทบไม่เคยได้สรางเพราะต้องก้มหน้าทำงานนำเบี้ยไปรักษาแม่ที่ป่วยกระเสาะกระแสะ มือเรียวงามปาดน้ำตาซ้ายทีขวาที หลังจากหล่อนต้องทำงานหนักอยู่นานโขเพื่อยื้อชีวิตผู้เป็นแม่ให้นานที่สุด แต่อย่างว่า อนิจจังอนิจจาสังขารไม่เที่ยงหนอ มารดาของหล่อนสิ้นลมสุดท้ายอย่างสงบท่ามกลางญาติสนิทเพียงคนสองคนในบ้านหลังเล็กริมคลอง ก่อนท่านจะสิ้นใจ มีเพียงจดหมายใบน้อยยัดใส่มือของหล่อน พร้อมกับคำพูดที่อ่อนแรงเสียเต็มประดา “หลังจากแม่สิ้นบุญ ลูกจงนำจดหมายนี้ไปให้ถึงมือท่านขุนอัครนคร” พอสิ้นเสียงแผ่วเบา ลมหายใจของท่านก็สิ้นสลายไปด้วย เสียงร่ำไห้ปริ่มขาดใจของหล่อนกับญาติดังระคนน่าเวทนายิ่งนัก หลังจัดการพิธีศพของแม่ที่เป็นไปอย่างเรียบง่ายที่สุดด้วยฐานะยากจนเป็นตัวบังคับ หล่อนจึงมุ่นมั่นที่จะทำตามประสงค์ของผู้เป็นแม่ให้สำเร็จ
หญิงสาวเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าซุ้มประตูเรือนไทยหลังใหญ่ที่สุดในเมือง ก่อนตัวสินใจเคาะประตู
ก๊อกๆๆๆ
รอเพียงครู่หญิงชราผิวขาวใบหน้าแจ่มใสห่มสไบสีแดงอ่อนเดินมาเปิดประตูต้อนรับ
“มาพบใครหรือคะ”
“ดีฉันมาพบท่านขุนอัครานคร”
“เชิญด้านในค่ะ”
หล่อนเดินตามหญิงคนดังกล่าวเข้าไป ภายในบ้านมีต้อนไม้น้อยใหญ่ร่มรื่น ถูกจัดให้เข้ากันอย่างสวยงามเย็นตาดีนัก เรือนไทยหลังใหญ่อย่างนี้หล่อนไม่เคยเห็นมาก่อนเป็นบุญตาเสียจริง หล่อนเดินตามขึ้นเรือนหลังใหญ่ ก่อนหญิงชราค่อยๆคลานเข่าเข้าไปหา ชายอายุอานามรุ่นราวคราวเดียวกับแม่ของหล่อนเห็นจะได้ รูปร่างสันทัด น่าเกรงขาม
“ท่านขุนเพค่ะ มีคนต้องการพบ” พูดจบหญิงชราเปือนหน้ามาทางเจ้าหล่อน
“เชิญหล่อนเข้ามาสิ”
หญิงชราพยักหน้าเป็นสัญลักษณ์ให้เข้ามาได้
อนงค์องค์งามจึงค่อยๆบรรจงลงเข่าคลานเข้าไปเฝ้าท่านขุน
“กริยามารยาทของเจ้าช่างงามยิ่งนัก เจ้ามีธุระอะไรกับข้า แล้วเจ้าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร”
“ดีฉันชื่อลัดดาประไพ เป็นลูกสาวของแม่ลดา ก่อนที่คุณแม่จะสิ้นบุญท่านสั่งให้นำจดหมายฉบับนี้มาให้ท่านขุนเพค่ะ”
มือเรียวงามค่อยบรรจงหยิบจดหมายสีน้ำตาลที่ตราด้วยคลั้งมอบให้ชายสูงศักดิ์ตรงหน้า
“แม่ลดางั้นหรอ” ท่านขุนทวนชื่อนี้อีกครั้งด้วยประหลาดใจ ก่อนรีบเปิดผนีกจดหมายดังกล่าวออก หลังจากอ่านข้อความจบสิ้น จดหมายใบน้องร่วงลงสู้พื้น
“ลูกพ่อ ลัดดาประไพลูกพ่อ”
ชายสูงศักดิ์ดึงตัวหญิงชั้นต่ำขึ้นมาสวดกอดอย่างไม่รังเกลียด ถึงแม้ลัดดาประไพจะไม่ค่อยเข้าใจอะไรมากแต่หล่อนก็ไม่โง่พอที่จะไม่รู้เรื่องอะไรเลย หล่อนเข้าใจถูกอย่างนึงคือ ชายตรงหน้าเป็นพ่อที่แท้จริงขอหล่อนแน่นอน ทั้งสองกอดกันแน่น น้ำตาแห่งปีติไหลลงอาบแก้มเป็นทางทั้งสองพ่อลูก
“พ่อพยายามตามหาแม่ลดามานาน แต่หาอย่างไรก็ไม่พบ พ่อดีใจเหลือเกินที่ได้เจ้าคืนมา แต่เศร้าใจเหลือเกินที่แม่ลดาสิ้นบุญไปเสียก่อน พ่อขอโทษที่ไม่ได้ดูแลลูกและแม่ของลูก”
หญิงสาวไม่ตอบอะไร หล่อนได้แค่พยักหน้า หลับหูหลับตาร่ำไห้ สองพ่อลูกกอดกันเนิ่นนาน...
“นี่มันอะไรกันหน่ะ”
เสียงหญิงสาวผิวขาวอายุราวๆ40ปลายๆแผดดังขึ้น หล่อนยกมือทาบอกด้วยความตกใจ
“หล่อนเป็นใคร”
“อุ่นเรือน ใจเย็นๆ นี่ลัดดาประไพ ลูกสาวพี่เอง”
“อะไรกันคะคุณพี่ อีฉันงงไปหมด”
“น้องมานั่งตรงนี้ พี่จะอธิบายให้ฟัง”
...21ปีก่อน พี่รักกับแม่ลดาบ่าวรับใช้ในเรือน เราแอบมีความสัมพันธ์กันจนแม่ลดาตั้งท้องอ่อนๆ เราจึงตกลงกัน ขึ้นมาเรียนเรื่องราวทั้งหมดให้คุณแม่ทราบ เมื่อเรื่องราวทั้งหมดถึงหูคุณแม่ คุณแม่หายินดีกับเราไม่
“บุตรชายเพียงคนเดียวของคุณหญิงปิ่นปักษ์ มีคุณนายเป็นขี้ข้าในเรือนเบี้ยงั้นหรอ แม่ไม่มีทางยอมรับ!!”
หลังจากคุณแม่ยื่นคำขาดในวันนั้น ท่านทำทุกอย่างให้ลดาออกไปจากเรือน จนวันหนึ่งหล่อนหายไปจากชีวิตพี่จริง หล่อนไปพร้อมกับลูกในท้องของหล่อน”
“ทำไมน้องไม่ทราบมาก่อนเลย”
“ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ นอกเสียจากบ่าวรับใช้คนเก่าคนแก่”
“ถ้าเป็นเช่นนั้น คุณพี่แน่ใจได้อย่างไร ว่าแม่นี้เป็นลูกสาวของคุณพี่จริง”
หญิงสูงศักดิ์เพ่งสายตามองลัดดาประไพตั้งแต่ศรีษะจรดปลายเท้า ก็แน่แหละ หล่อนคงไม่ยินดีเป็นแน่ ที่อยู่ๆมีไพร่ชั้นต่ำมาแสดงตัวเป็นทายาทโดยตรง แบ่งสมบัติที่ควรเป็นของหล่อนและลูกไป
“พี่แน่ใจนัก ดูผิวพันธ์ ดูดวงพักตร์ ดูกริยามารยาท พี่แน่แก่ใจนัก”
“ถ้าคุณพี่มั่นใจน้องก็ไม่ขัด”
“พี่มีเรื่องจะขอร้องน้อง นับจากวันนี้ลัดดาประไพจะมาอยู่ในเรือนนี้ในฐานะบุตรสาวของพี่ น้องช่วยอบรมเธอด้วย”
“ดีฉันคงไม่มีสิทธิ์ที่จะขัดคุณพี่ดอกค่ะ เรือนคุณพี่นี่คะ”
“พี่ขอบคุณน้องมาก”
“แม่แจ่ม แม่แจ่มอยู่ไหน แจ่ม!!!”
“มาแล้วค่ะ อยู่นี่เจ้าค่ะ มาแล้วค่ะ มีอะไรให้บ่าวรับใช้เจ้าคะ”
หญิงชราในสไบสีแดงอ่อนคนเดิมรีบวิ่งลนลานเข้ามาหาท่านขุน
“ตามบ่าวไพร่ทุกคนมาพบข้าบนเรือนใหญ่โดยเร็วที่สุด”
.................................................
บ่าวไพร่เรียงรายคลานเข่า คลานเข้าพับเพียบเงียบนั่ง
สงบนิ่งก้มหน้ารอฟัง คำสั่งท่านขุนอัครา
เจ้าเรือนทับนั่งเหนือตั่ง เคียงข้างอุ่นเรือนภริยา
เข้มขรึมสูงศักดิ์ประจักษ์ตา แล้วว่าคำสั่งออกไป(1)
“ลัดดาประไพ บุตรสาวของข้า จากวันนี้เป็นต้นไป เธอจะเข้ามาเป็นคุณหนูเล็กบนเรือนหลังนี้ ขอให้ทุกคนตั้งใจปรนนิบัติรับใช้เปรียบเหมือนรับใช้ข้า เข้าใจหรือไม่”
“เข้าใจขอรับ”
หญิงสาวผิวอ่อนเพียงแค่ยิ้มน้อยๆแล้วก้มหน้าเพื่อเป็นการนอบน้อมแก่บ่าวไพร่ทั้งหลาย ก่อนคลานเข้ามานั่งพับเพียบกราบลงแทบเท้าท่านผู้หญิงอุ่นเรือน
หญิงสูงศักดิ์ที่นั่งบนตั่งชูคอระหงส์เห็นทีท่านั้น หล่อนเบี่ยงเท้าออกเล็กน้อย ก่อนก้มตัวลงกระซิบข้างหูลูกเลี้ยง
“แกไม่มีทางเสวยสุข”
“ก็เอาสิ ฉันกับแกใครจะแน่กว่ากัน”
“ร้ายกว่าที่ฉันคิด”
“มึงร้ายกับกูก่อนนะ อีอุ่นเรือน ชูคอไปเถอะ สักวันกูจะกระชากลงมา”
เท้าที่เจ้าหล่อนกราบอยู่นั้น เริ่มเปลี่ยนท่าทางขึ้นมาอยู่เหนือมือที่หล่อนพนมลงกราบ เท้าของท่านผู้หญิงอุ่นเรือนบดขยี้มือของหล่อนอย่างเอาเป็นเอาตาย แม้ลัดดาประไพจะไม่สามารถแสดงสีหน้าออกมาได้ด้วยความที่กลัวคุณพ่อรู้ความขัดแย้งของหล่อนกับแม่เลี้ยง แต่หล่อนก็ไม่ใช่คนยอมใครง่ายๆ ลัดดาประไพถ่มน้ำลายลงบนเท้าที่ขยี้มือเธออยู่เป็นสัญลักษณ์ว่า “กูไม่ยอมมึงง่ายๆ”
ทั้งสองผละออกจากกัน
“คุยอะไรกันตั้งนานสองนาน”
“สัญญาลูกผู้หญิงคะ คุณพ่อ”
“พ่อเห็นทั้งสองเข้ากันได้ดีพ่อก็อิ่มใจ”
“ค่ะ คุณพี่ลูกคุณพี่ก็เหมือลูกอีฉัน”
พูดจบท่านผู้หญิงก็ลูบไล้มือลงบนผมของลูกเลี้ยง
..................................................................
นาถอนงค์บรรจงร้อยพวงมะลิ สงวนกิริยาอัชฌาสัย
พับเพียบนั่งกรีดนิ้วจรดไป กรองมาลัยถวายพุทธบูชา(2)
หญิงสาวผิวนวลขาวเสียจนมะลิที่อยู่ในมือดูดำไปหมดสิ้น ตัดกับสไบสีแดงเข้ม โจงกระเบนสีน้ำเงิน ผมที่เคยยาวถูกเกล้าอย่างเป็นระเบียบ คอเรียวงามประดับด้วยสร้อยทอง หูทั้งสองข้างแซมตุ้มหูสีทอง ประดับอย่างสมศักดิ์ศรี หล่อนบรรจงกรีดนิ้วร้อยดอกมะลิเป็นมาลัยกลอน เรื่องฝีมืองานเรือนทุกอย่างหล่อนทำได้อย่างไม่มีที่ติ อันที่จริงจัดอยู่ในระดับชาววังเลยก็ว่าได้ แม่ลดาสั่งสอนหล่อนมาอย่างดีทุกอย่าง
.........................................
หนุ่มรูปงามในเสื้อคอตั้งสีขาวกับผ้าหางสีม่วง เพิ่งกลับมาจากราชการที่กระทรวงพระคลังข้างที่ ก้างขึ้นเรือน เป็นอย่างนี้ประจำทุกวัน เมื่อหนุ่มรูปงามขึ้นมาถึงเรือน เจ้าหนุ่มต้องหยุดเพียงครู่พินิจภาพที่เขาเห็นอยู่ตรงหน้า
เอวอนงค์องค์อ่อนอรชรนั่ง ขนงดั่งโก่งอ่อนคันศรสวรรค์
องค์อินทร์ป้ายทองทาที่ผิวพรรณ พิศกัณฑ์ชูตั้งดั่งพญา
ดำปานนิลเกสาขลับดับอุทัย ตัดสไบแดงมณีส่งศรีศิลป์
งามดวงเนตรสดใสไร้มลทิน มฤคินยังอายพ่ายนวลนาง(3)
ชายหนุ่มเพ่งสายตาอยาครู่หนึ่งให้แน่ชัดว่า แม่หญิงคนนี้เป็นใครกันแน่ เธอช่างงดงามอะไรเช่นนี้ ฝ่ายเจ้าหล่อนที่บรรจงกรองมาลัยกรอยู่อย่างประณีต สังเกตเห็นหนุ่มแปลกหน้าขึ้นมาบนเรือน ทำท่าทางพิรุจจ้องเขม่งดวงตาไม่กระพริบมาทางหล่อน หล่อนจึงเอยถามออกไป
“คุณเป็นใครหรือ มาพบใคร”
ชายหนุ่มตั้งสติกลับคืนมา
“ผมต้องถามคุณมากกว่า คุณเป็นใครหรือครับ ขึ้นมาอยู่บนเรือนใหญ่ได้ยังไง”
“คุณคงยังไม่ทราบสินะคะ ดีฉันลัดดาประไพบุตรสาวของท่านขุนอัครนครค่ะ”
“อะไรนะครับ คุณพ่อมีลูกสาว”
“คุณคงจะเป็นบุตรชายของท่านผู้หญิงอุ่นเรือนใช่ไหมคะ ยินดีค่ะ”
เสียงสาวพูดเสียงอ่อนหวาน ก่อนค่อยๆลุกขึ้นยืนและเยื้องกายเดินเข้าไปหาหนุ่มรูปงาม ในระยะประชิด ก่อนเปล่งวาจาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาชวนหลงใหล
“สวัสดีอย่างเป็นทางการนะคะ”
“สะ สวัสดีครับ”
หญิงสาวเห็นท่าทางเขอะเขินของชายหนุ่ม หล่อนกระปุมยิ้มอย่างภูมิใจ หางตาชำเลืองเห็นท่านผู้หญิงอุ่นเรือนเดินเข้ามาพอดี จึงแสร้งทำสำออยคล้ายเป็นลมลงซบอกหนุ่มรูปงาม
“คุณ คุณ”
“นี่มันอะไรกัน คริสทำอะไร”
ท่านหญิงรีบเดินเข้ามาแยกลัดดาประไพออกจากลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของตน
“ขอโทษคะ พี่คริส ลัดดาไม่เป็นอะไรแล้ว”
“จริงหรือครับ”
“ไม่ต้องเป็นกังวลคะ ประเดี๋ยวคุณผู้หญิงจะต่อว่าเอาอีก”
“รู้ตัวก็ดีแล้ว” ท่านผู้หญิงพูดพล่างกำมือแน่น
“ลัดดากราบขอโทษคุณหญิงค่ะ”
“เอาไว้ตรงนั้นเถอะ”
“คุณแม่ขอรับ”
“ไม่ต้องพูดมากคริส ตามแม่เข้ามาในห้อง แม่มีอะไรจะพูดด้วย”
“ขอครับคุณแม่”
ท่านผู้หญิงพูดจบก็เดินนำหน้าลูกชายเข้าไปในห้องใหญ่
ลัดดาประไพที่เห็นแม่เลี้ยงหัวเสียก็สาแก่ใจคณานัก... “หี นี่แค่วันแรกนะ อีแก่!! ฉันจะฉีกอกแก่ให้สาสมกับที่แก่กล้าแย่งทุกอย่างไปจากฉัน!!!”
คำแปลว่ากลอน
บ่าวไพร่เรียงรายคลานเข่า คลานเข้าพับเพียบเงียบนั่ง
สงบนิ่งก้มหน้ารอฟัง คำสั่งท่านขุนอัครา
เจ้าเรือนทับนั่งเหนือตั่ง เคียงข้างอุ่นเรือนภริยา
เข้มขรึมสูงศักดิ์ประจักษ์ตา แล้วว่าคำสั่งออกไป(1)
บ่าวไพร่คลานเข่ากันเข้ามานั่งก้มหน้าพับเพียบอย่างเป็นระเบียบเพื่อรอฟังคำสั่งที่ท่านขุนจะประกาศ โดยมีท่านขุนนั่งอยู่บนตั่งอย่างเข้มขรึม ท่านผู้หญิงอุ่นเรือนนั่งอยู่ข้างๆ
................................................................................................
นาถอนงค์บรรจงร้อยพวงมะลิ สงวนกิริยาอัชฌาสัย
พับเพียบนั่งกรีดนิ้วจรดไป กรองมาลัยถวายพุทธบูชา(2)
ลัดดาประไพบรรจงร้อยพวงมาลัยมะลิอย่างสงบเสงี่ยมเพื่อนำมาลัยไปถวายพระพุทธรูป
....................................................................................................
เอวอนงค์องค์อ่อนอรชรนั่ง ขนงดั่งโก่งอ่อนคันศรสวรรค์
องค์อินทร์ป้ายทองทาที่ผิวพรรณ พิศกัณฑ์ชูตั้งดั่งพญา
ดำปานนิลเกสาขลับดับอุทัย ตัดสไบแดงมณีส่งศรีศิลป์
งามดวงเนตรสดใสไร้มลทิน มฤคินยังอายพ่ายนวลนาง(3)
ลัดดาประไพนั่งพับเพียบอย่างอรชร คิ้วโกงเหมือนคันศร ผิวพรรณผุดผ่องเหมือนพระอินทร์เอาทองมาทาไว้ ลำคอก็ชูตั้งเหมือนพญา ผมสีดำเหมือนนิลดูดำเหมือนพระอาทิตย์ดับไปทั้งโลก ตัดกับสไบสีแดงที่ส่งเสริมกันให้งามขึ้นไปอีก ดวงตาสดใสขนาดตาทรายที่ว่าสวยยังอายลัดดาประไพ
*บทประพันธ์ทั้งหมดผู้แต่งเป็นผู้ประพันธ์ขึ้นเองขอสงนลิขสิทธิ์นะครับ*
จิบน้ำชากับผู้ประพันธ์
สวัสดีครับเจอกันอีกแล้ว คราวนี้ไรท์อยากเปลี่ยนแนวมาเป็นแนวพีเรียดบ้าง ชานยอลอาจดูแจ๋ไปหน่อยนะ หวังว่าทุกคนคงชอบนะครับ อ่านแล้วไปยังไงบ้าง ช่วยคอมเม้นหน่อยนะครับ....จุ๊บๆ....ไม่ใช่ทมยันตี
ความคิดเห็น