คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : What, again! ก๊วนนักเรียนสัตว์!?
"ถ้ายังไม่เลิกทำแบบนี้...พี่รัญชน์จะดุแล้วนะคะ"
https://www.pinterest.com/pin/655344183278686332/
บทบาท : Scissors
ชื่อ-นามสกุล : รัญชน์ พรธนิต (Run Pornthanit)
ความหมายของชื่อ : รัญชน์ = ความยินดี , พรธนิต = สิ่งประเสริฐอันหนักแน่น
ชื่อเล่น/ชื่อที่เรียก : รัน
เพศ : หญิง
สัญชาติ : ไทย
เชื้อชาติ : ไทย
วันเกิด : 13 เมษายน
อายุ : 20 ปี
สายพันธุ์ที่อยู่ในตัว : ม้าน้ำหนามขอ
อาชีพ : นักศึกษาปี 1 คณะพยาบาลศาสตร์ สาขาวิชาการพยาบาลครอบครัวและผดุงครรภ์
ที่อยู่ : บ้านอยู่กรุงเทพ เขตบางขุนเทียน(อาณาเขตที่มีบริเวณติดกับอ่าวไทย
ถิ่นม้าน้ำ) ระหว่างเป็นนักเรียนย้ายมาอยู่หอที่เขตปทุมวัน
ปัจจุบันกลับมาอยู่มหาวิทยาลัยใกล้บ้าน
ส่วนสูง/น้ำหนัก : สูง 160 ซม. น้ำหนัก 55 กก.
รูปร่างลักษณะ : รัญชน์เป็นผู้หญิงผมดำยาว
โครงหน้าเป็นทรงไข่ไก่รับกับดวงตากลมโตและดำสนิทภายใต้แพขนตาบาง
มีริมฝีปากหนาที่ทำให้เธอสนุกที่จะลองลิปสติกสีใหม่ ๆ อยู่เสมอ
ทุกคนหากเคยเห็นเธอในลุคปากแดงบ้าง ปากม่วง ฟ้า เขียว ฯลฯ ไม่เคยซ้ำกัน
ผิวขาวเหลืองที่ออกจะคล้ำแดดจากการทำกิจกรรมกลางแจ้งบ่อย ๆ
รวมถึงยังมีกระบนใบหน้าที่เธอแสนจะภูมิใจอีกด้วย
ทุกตำหนิบนร่างกายเธอล้วนเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจแก่การแสดงออกทั้งหมด
รวมถึงตำหนิขี้แมลงวันบริเวณข้อมือข้างขวาด้านใน รอยแผลจากการขี่มอเตอไซค์บนท่อนขา
หน้าท้องที่มีไขมันนิดหน่อย หรือแม้แต่ปานดำรูปคล้ายดาวบนไหปลาร้า
สไตล์การแต่งตัวของรัญชน์ในแต่ละครั้งมักดูออกในทันที่ว่าเธอกำลังตั้งใจโชว์ส่วนไหนในร่างกายตัวเองอยู่
เช่น เธออาจเลือกใส่เสื้อเอวลอยหากวันไหนอยากโชว์หน้าท้อง
เธออาจเลือกใส่เสื้อปาดไหล่เพื่อโชว์ปานดำที่ไหปลาร้า
หรืออาจใส่กางเกงขาสั้นเปิดเผยให้เห็นรอยแผลที่ขาไปเลย
รัญชน์มักสนุกกับการแต่งตัวเสมอและนั่นทำให้เธอแต่งตัวได้ทุกลุคทุกสไตล์
ไม่ว่าจะเป็นสายหวาน สายโกธิค สายดาร์ค สายมินิมอล เธอก็แต่งได้หมด
แต่เพราะมีบุคลิกการเป็นสาวมั่นนี่แหละที่ทำให้ไม่ว่าจะแต่งตัวสไตล์ไหน
มันก็อัญเชิญฟิลเตอร์ผัดสัวมาบังตาได้ทุกที
ลักษณะนิสัย : รัญชน์เป็นคนมีความมั่นใจและมั่นคงในจุดยืนของตัวเองสูง
ทำให้บางครั้งอาจจะเผลอแสดงอาการ ไม่อิน ต่อบางปัญหาที่คนเข้ามาขอคำปรึกษาได้
แต่เพราะความไม่อินนี่แหละที่ทำให้เธอสามารถให้คำปรึกษาแบบเน้นเหตุและผลมากกว่าใช้อารมณ์ร่วม
ไม่เข้าข้างคนใดคนหนึ่งมากเกินไป แต่ก็มีบางปัญหาที่เธอไม่สามารถตัดสินให้ได้เพราะไม่อินอย่างแรงจนถึงขั้นมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ
ก็จะทำแค่รับฟัง
แต่หากปัญหานั้นมันกวนใจไม่เลิกก็จะใช้ความคิดเจ้าแผนการในตัวหาทางกำจัดมันออกไปให้พ้นหูพ้นตาซะให้จบ
ๆ ทั้งคนรอบข้างและรุ่นน้องที่รักต่างรู้ดีว่าพี่รัญชน์ไม่ใช่คนที่ควรไปหาเรื่องด้วย
แต่หากไม่ได้ทำอะไรผิดก็สบายใจได้
จะเล่นหัวเล่นหางกันแค่ไหนพี่รัญชน์ก็ไม่ได้โกรธสักนิด
ในเรื่องของการแสดงออกทางอารมณ์
รัญชน์อาจถูกจัดได้ว่าเป็นคนที่เก็บอารมณ์เก่งพอสมควร
กล่าวคือหากมีอารมณ์ด้านลบอย่างโมโห เศร้าใจ อับอาย
มักจะไม่ค่อยแสดงออกมาทางสีหน้าต่อหน้าคนอื่น ๆ เท่าไหร่นัก
มักจะเก็บเอาไว้เวลาอยู่คนเดียวค่อยระบายมันออกมา
ส่วนใหญ่มักใช้วิธีอาละวาดด้วยการเอาหางม้าน้ำของตัวเองออกมาทำท่าจระเข้ฟาดหางข้าวของแถวนั้นให้หนำใจสักรอบสองรอบ(ถึงแม้ว่าระบายเสร็จแล้วก็ต้องมานั่งเก็บของให้เข้าที่อีกทีก็เถอะ)
หรือไม่ก็ใช้วิธีการแช่น้ำแล้วร้องเพลงเสียงเพี้ยนระบายอารมณ์
เสร็จแล้วจึงค่อยมานั่งคิดแผนการกำจัดปัญหานั้นให้หมดไป
ซึ่งทั้งหมดนี้มักจะทำเวลาที่อยู่ตัวเดียวเท่านั้น มีแค่คนที่ไว้ใจมาก ๆ
กับครอบครัวที่รู้ ส่วนอารมณ์ด้านบวกอย่างมีความสุข ขบขัน
ให้กำลังใจนั้นอาจพูดได้ว่ามันมีอยู่ในตัวเธออย่างเต็มเปี่ยม
รัญชน์มักแสดงออกอย่างตรงไปตรงมาทันทีเวลาเจออะไรดี ๆ ไม่ว่าจะยิ้ม หัวเราะ โอบกอด
ที่สำคัญคือเธอมักหาข้อดีของคนรอบข้างได้เสมอ และมักจะพูดมันออกมาตรง ๆ
เวลาคนที่มาปรึกษาเริ่มแสดงออกถึงความไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง
ทำให้พวกเขาได้รับกำลังใจ
รัญชน์เป็นคนรักความสะอาดและระเบียบมาก
ข้าวของในห้องพักไม่เคยรก
หรือไม่รกจากการระบายอารมณ์ได้ไม่นานเท่านั้นเธอจะจัดใหม่ให้เป็นระเบียบอยู่ดี
ห้องน้ำก็สะอาดมาก กระเป๋าใส่เครื่องสำอางก็มีการจัดช่องใส่ข้าวของอย่างเป็นระเบียบแม้ด้านในจะบรรจุลิปสติกเป็นสิบสีก็ไม่มีหวั่น
แต่เพราะสาเหตุนี้เองทำให้เธอมักจะเจอเหตุการณ์ให้ต้องเก็บอารมณ์ด้านลบไประบายทีหลังอยู่บ่อย
ๆ เวลาเจอความสกปรกเลอะเทอะนอกบ้าน รัญชน์มักพกอุปกรณ์ที่จำเป็น เช่น กระดาษชำระ
ทิชชูเปียก
หรือแม้แต่ผ้าอนามัยไว้กับตัวเสมอเพื่อความสะอาดและสุขอนามัยที่ดีของตัวเองรวมถึงคนอื่น
ๆ ด้วย
ในด้านความสัมพันธ์ที่มีต่อคนรอบข้าง
เนื่องจากบุคลิกสาวมั่นที่ทำให้รัญชน์เป็นคนมีเสน่ห์ ก็เลยมีคนเข้ามาจีบเยอะพอควร
เธอเองก็ไม่ใช่คนที่ไม่สนใจความรักดังนั้นก็มักเปิดโอกาสให้จีบเสมอ
แต่ถ้าส่อแววจะไปกันไม่รอดเมื่อไหร่ ทีแรกอาจจะลองพูดตรง
ๆ ไปก่อนว่าเริ่มไม่อินในความสัมพันธ์นี้แล้ว แต่ถ้าพูดกันไม่รู้เรื่อง เท่านั้นแหละแผนการสลัดคนทิ้งก็จะเข้ามาอยู่ในหัวเธอทันที
เธอจะลองเริ่มหาจุดอ่อนอีกฝ่ายดูก่อน เช่น
ถ้าเธอบังเอิญสืบเจอว่าผู้ชายช่างตื๊อคนหนึ่งมันกลัวผีมาก
เธอก็จะแสร้งชวนเขามาบ้านที่เต็มไปด้วยผีปลอมมากมายหลอกหลอนเพื่อให้เขาหนีไปเองตามแผน
แต่กับคนที่ชอบจริง ๆ
ไม่รู้ทำไมเธอมักจะเก็บอาการไม่อยู่แล้วแสดงออกด้วยการแกล้งหยอก แกล้งเล่น
เพราะวางแผนเก่งเลยแกล้งเก่งยิ่งกว่ารายการสาระแน(แต่ไม่เคยเกินเลยถึงขั้นให้เจ็บช้ำน้ำใจกันนะ)ให้อีกฝ่ายหลุดมาดทุกที
ใช่แล้วล่ะ สเปคของเธอมักจะเป็นเด็กเรียบร้อยหรือไม่ก็เด็กเนิร์ดมาดเนี้ยบไงล่ะ
เวลาที่ได้แกล้งจนอีกฝ่ายหลุดโวยวายขึ้นมานะ มันน่ารักมากเลยล่ะ
ลักษณะการพูดจา :
คนมาขอคำปรึกษา:
"อ้าวนั่น [1] ไม่ใช่เหรอ? ไปไงมาไงหน้าเครียดมาเชียว
นั่งนี่สิคะ..." รัญชน์รีบตบที่นั่งว่างข้างกายตัวเองเป็นสัญญาณอนุญาตให้ [1]
เข้ามานั่งด้วยทันที "ไหนบอกพี่สิคะ
มีปัญหาอะไรที่ทำให้ประธานนักเรียนอย่าง[1]
ถึงกับทำหน้าเครียดมาหาสมาชิกสภานักเรียนเก่าแบบพี่รัญชน์ได้"
"..."
"เอ๊ะ? ชอบเขา? ค่ะ...แล้วยังไงคะ"
"..."
"อ้าว แล้วทำไมไม่บอกเขาไปล่ะคะ[1]
คนที่ไหนเขาก็ไม่ได้มีพลังอ่านใจรู้ได้หรอกนะว่าเราคิดอะไรอยู่
ถ้าไม่บอกก็ไม่มีใครรู้หรอก"
"..."
"พอ ๆ พอก่อนค่ะ[1]
ยิ่งบอกเหตุผลมาพี่รัญชน์ยิ่งไม่เข้าใจเข้าไปใหญ่ ถ้าเป็นพี่รัญชน์
พี่รัญชน์จะไม่ทำแบบนี้หรอกนะ ไหนมองตาพี่รัญช์ซิ" เธอพูดกับเชยคาให้[1]
หันหน้ามาสบตาตัวเอง
แม้ในใจจะไม่ค่อยอินกับความกลัวอะไรไม่เข้าเรื่องของ[1]ในมุมมองของเธอเท่าไหร่
แต่เรื่องความรู้สึกแบบนี้หาปล่อยให้เป็นปัญหาคาราคาซังคงไม่ดีแน่
"ฟังพี่รัญชน์นะคะ...เท่าที่ฟังมาทั้งหมดนี่
พี่ว่ามันก็เป็นความกลัวของ[1]เองทั้งนั้นเลยนี่
ทั้งที่ความรู้สึกรักหรือชอบใครเนี่ย พี่รัญชน์ว่ามันก็เป็นสิ่งที่ดีนะคะ
ไม่มีใครไม่ดีใจที่ได้รับมันหรอก"
"...."
"อ้อ
ไอ้เรื่องกลัวไปกันไม่รอดน่ะพี่รัญชน์ก็เข้าใจนะคะ แต่นี่เพิ่งจะเริ่มต้นเอง ถ้า[1]ยังไม่กล้าบอกเขาแบบนี้ มันก็ไม่มีทางไปถึงขั้นนั้นด้วยซ้ำค่ะ จำไว้นะ[1]
[1]น่ะเป็นคนที่เพอร์เฟคแล้วก็มีความพยายามมาก ๆ มาตลอดเลย
แถมยังเป็นคนดีจากใจจริงอีกต่างหาก พี่รัญชน์คิดว่า ต่อให้คำตอบไม่ได้เป็นดังหวัง
แต่[1]จะไม่ได้สูญเสียอะไรไปหรอก
จะรู้สึกดีกับการได้ลองมีความรักครั้งนี้ด้วยซ้ำ"
"..."
"ไปบอกเขาเลยนะคะ
เชื่อพี่รัญชน์ ถ้าอกหักเดี๋ยวให้ยืมไหล่ไว้ซบ"
เวลาระบายอารมณ์:
"กรี๊ด!!!"
ผลัวะ! เพล้ง!
เสียงข้าวของภายในห้องนอนแตกกระจายจากแรงฟาดจากหางม้าน้ำของรัญชน์ดังไปทั่วจนคนในครอบครัวที่อยู่ด้านล่างพากันส่ายหน้าพร้อมกับสีหน้าที่เสมือนมีคำว่า
อีกแล้ว แปะอยู่บนหน้าผาก จนกระทั่งเมื่อเสียงกรี๊ดหมดลม รัญชน์ก็หอบหายใจรัว ๆ
"แฮก...แฮก..."
ดวงตากลมโตกวาดมองไปทั่วเพื่อดูความเสียหาย ก่อนจะส่งเสียงคำรามอย่างเสียอารมณ์หนึ่งทีเป็นการปิดท้ายเพื่อเดินตรงไปคว้าผ้าขนหนูแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป
มือคว้าเอาก๊อกได้ก็บิดให้น้ำไหลลงอ่างด้วยแรงสูงสุดหลังจากปิดท่อระบายเรียบร้อย
ใช้เวลาไม่นานก็เปลื้องผ้าออกหมดแล้วทิ้งตัวลงอ่างทันที
"เอ้อ
น้ำอุ่นนี่มันสบายดีจริง ๆ นั่นแหละ"
ริมฝีปากหนาที่ยังไม่ได้ทำแม้แต่การล้างลิปสติกออกบ่นพึมพำ
ทว่าสบายอารมณ์ได้ไม่เท่าไหร่ก็หงุดหงิดเพราะภาพความทรงจำมันแล่นเข้ามาในหัวกะทันหัน
เล่นเอาหางม้าน้ำโผล่จนตีน้ำแตกกระจายไปอีกรอบ
ซ่า!
"อีผู้ชายนั่นมันก็เป็นกระดออะไรก็ไม่รู้
บอกว่าไม่ชอบ ๆ ก็ยังตื้ออยู่ได้! แล้วปากก็พร่ำบอกรัก ๆ อยู่นั่น
ไม่อินเลยสักนิดว้อย คอยดูนะ แม่จะหาทางสลัดมันให้หลุดให้ได้เลยคอยดู๊
เวลาเจอคนที่ชอบ:
"ว้าย ขอโทษ
เผลอชวนคุยเพลินจนรถเมล์ผ่านไปซะแล้วสิ" เธอยกมือสองข้างแบขึ้นพร้อมยิ้มแฮะ ๆ
อย่างสำนึกไม่จริง
เล่นเอาอีกฝ่ายที่แม้จะอายุน้อยกว่าลุกขึ้นมาโวยวายใส่อย่างหลุดมาดเด็กเนิร์ดทันที
"..."
"โอ๊ย ๆ
ขอโทษแล้วไง อย่าดุพี่แบบนั้นสิ ไม่ได้ตั้งใจซะหน่อย พี่รัญชน์ไม่ได้อยากแกล้ง[9]นะคะ"
"...."
"รู้แล้ว
เอางี้ดีกว่า พี่รัญชน์เพิ่งนึกได้ว่าจอดมอเตอไซค์ไว้ใกล้ ๆ นี้"
ว่าแล้วก็ลดมือลงแล้วเอานิ้วจิ้มริมฝีปากสีน้ำเงินด้วยท่าทีครุ่นคิด
"ถ้ายังไง ให้พี่รัญชน์ไปส่งมั้ยล่ะ?"
"..." เมื่อเห็นว่าคงไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว อีกฝ่ายทำได้เพียงตอบตกลง
"โอเคเลยค่ะ"
รัญชน์พูดพร้อมกับหยิบกุญแจรถขึ้นมาแกว่งเล่นโชว์ "จะซ้อนท้ายก็...กอดพี่รัญชน์แน่น ๆ นะคะ จะได้ไม่ตกลงไป"
"..."
"ไม่ได้หมายถึงตกไปบนถนนหรอก"
"..."
"หมายถึงตกหลุมรักพี่รัญชน์เนี่ยแหละ"
คุยกับคนอายุมากกว่า:
"สวัสดีค่ะคุณครู
คิดถึงรัญชน์มั้ยคะ" หญิงสาวพูดพร้อมกับยกมือไหว้
"ตั้งแต่จบไปก็มีเรื่องวุ่น ๆ อยู่บ้างก็เลยเพิ่งมาเอาป่านนี้
ยังจำกันได้ใช่มั้ยคะ แต่หลังจากนี้รัญชน์จะมาหาบ่อย ๆ เลยแหละ"
"..."
"อ๋อ
ก็เพราะว่ามีรุ่นน้องน่ารัก ๆ อยู่โรงเรียนนี้เยอะยังไงล่ะคะ
เห็นแล้วไม่อยากทิ้งไปไหนหรอก"
คุยกับพ่อแม่:
"พ่อ~ รัญชน์บอกแล้วไงอะว่างานซักผ้าเนี่ยรัญชน์จะทำเอง
เกิดลื่นแล้วน้องแท้งไปจะทำยังไงเล่า"
เธอพูดก่อนรีบปราดเข้าไปดึงแขนพ่อที่กำลังตั้งครรภ์น้องคนแรกออกมาจากบริเวณลานซักผ้า
ในใจพลางคิดว่าหากเศรษฐกิจดีขึ้นกว่านี้เมื่อไหร่จะขอให้แม่ซื้อเครื่องซักผ้าดี ๆ
ให้พ่อเสียที จะได้ไม่ต้องมาก้ม ๆ เงยๆ หัวจะทิ่มกะละมังตายมิตายแหล่แบบนี้
"..." ผู้เป็นพ่อเอ่ยปฏิเสธปัดด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มเหมือนยามปกติ
"โห
พูดงี้อีกละ บอกแล้วไงว่าไม่ลำบากเลย ไม่งั้นรัญชน์จะโทรไปฟ้องแม่เลยนะ"
ว่าพลางควักโทรศัพท์มือถืออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วแสร้งตั้งท่าเอามาแนบหูทันที
"ฮัลโหล...แม่~
เนี่ยดูซิสุดที่รักของแม่จะฝืนตัวเองอีกแล้ว สงสัยจะดื้อไม่เลิก
เลิกงานแล้วรีบมาดุเลยนะ"
คุยกับน้อง:
"ฟังพี่รัญชน์ก่อนนะคะ ริน แรม ราม รักษ์"
ยังไม่จบประโยค น้อง ๆ
เจ้าของชื่อที่กำลังเถียงกันเสียงดังอยู่บนโต๊ะอาหารก็หยุดชะงักแล้วสะดุ้งตามกันไปเป็นแถบเมื่อได้ยินเสียงเยือกเย็นจากพี่สาวคนโต
ผู้ซึ่งตอนนี้เริ่มทำการสูดหายใจเข้าลึกเป็นสัญญาณว่าเตรียมตัวจะอบรมเรียบร้อย
"พี่รัญชน์เคยบอกกี่รอบแล้ว
ข้อหนึ่งคือห้ามเสียงดังตอนกินข้าว และสองอย่าทำอาหารหกเลอะเทอะ
มันจะเปื้อมผมพี่รัญชน์ รู้ใช่มั้ยคะว่าพี่รัญชน์เกลียดมาก ดังนั้นช่วยกรุณากินข้าวให้เสร็จก่อนแล้วค่อยทะเลาะกันทีหลัง อ้อไม่สิ แบบนี้ต้องรอจนกว่าจะช่วยกันล้างจานเสร็จก่อนล่ะมั้ง...ทั้งสี่คนเลยค่ะ"
คุยกับเพื่อน:
"[ชื่อเพื่อน]
รัญชน์มีเรื่องจะบอก...คือรัญชน์ชักไม่ชอบอีผู้ชายช่างตื๊อคนนั้นแล้ว
แต่เขาไม่ยอมไป"
เธอรีบพุ่งเข้าไปจับมือเพื่อนสนิทพร้อมกับบอกความต้องการทันที
ขณะที่เพื่อนที่ยังมีหลอดชาไข่มุกอยู่ในปากทำเพียงเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย
แต่เมื่อพูดจบประโยคแล้วก็เข้าใจได้ทันที
"..."
"ใช่แล้ว
[ชื่อเพื่อน]นี่รู้ใจรัญชน์จริง ๆ เลย ถ้ารู้แบบนี้แล้วต้องช่วยรัญชน์ด้วยนะ"
เพราะรู้อยู่แล้วว่าหากมาถึงขั้นตอนคิดแผนเสร็จ
ไม่ว่าจะห้ามปรามอย่างไรคงไม่ได้
เพื่อนเลยพยักหน้าแล้วตอบตกลงพลางถามขั้นตอนเพื่อตรวจสอบเผื่อมันจะรุนแรงไป
"..."
"โอ้ ง่าย ๆ
เลยเรื่องนี้ เมื่อคืนรัญชน์นั่งแช่น้ำคิดมาอย่างดีแล้ว แผนก็คือแบบนี้นะ..."
เวลาเจอคนที่ไม่ชอบ:
"รัญชน์ไม่อยากทำร้ายจิตใจ[ชื่อคน]นะ
สำหรับรัญชน์แล้ว[ชื่อคน]เป็นคนดีมากเลย มีความพยายามแล้วก็รักในการเล่นกีฬาสุด ๆ
มันเป็นสิ่งที่ดีนะ แต่รัญชน์ว่าช่วงนี้เรามีอะไรไม่เข้ากันหลายอย่าง
สำหรับรัญชน์นะ รัญชน์ไม่ชอบที่[ชื่อคน]พูดจาไม่ดีแบบนั้นกับพนักงานเสิร์ฟ คุณป้าแม่บ้าน
คุณลุงพ่อค้าในตลาดแบบนั้นเลย แล้วก็ยังเรื่องความสะอาดอีก
สำหรับ[ชื่อคน]อาจจะรู้สึกว่าไม่เป็นไรนะ แต่สำหรับรัญชน์
รัญชน์ว่าเราอย่าเพิ่งไปไกลกว่านี้ดีกว่า"
ทั้งประโยคนั้นถูกเปล่งออกมาด้วยน้ำเสียงสุภาพและพยายามรักษาน้ำใจสุด
ๆ ทว่าเหมือนจะไม่ได้เข้าถึงจิตใจคนตรงหน้าเลย เพราะจู่ ๆ
ชายหนุ่มก็เลือดขึ้นหน้าราวกับถูกหยามเหยียด
ก่อนจะเริ่มส่งเสียงโวยวายจนคนแถวนั้นหันมามอง
เล่นเอารัญชน์ถึงกับเลิกคิ้วขึ้นสูงแล้วถอนหายใจเงียบ ๆ อย่างเก็บอารมณ์
ส่วนหนึ่งในใจก็รู้สึกดีที่ในที่สุดก็แสดงธาตุแท้ออกมา แต่อีกส่วนหนึ่งกำลังคิดแผนการเอาตัวเองให้รอดออกจากสถานการณ์นี้ไปก่อน
"เอ้า ใจเย็น ๆ
นะ ถ้าโมโหขนาดนี้แล้วเราไปหาที่เงียบ ๆ คุยกันก่อนมั้ย
หรือ[ชื่อคน]อยากอยู่คนเดียวไปก่อน?"
"..."
"ถ้าจะบอกว่ารักรัญชน์ขนาดนั้น
เราค่อยมาคุยกันอีกทีวันพรุ่งนี้มั้ยคะ นัดเจอกันหน้าม. สัญญาจะไม่หนีด้วยเอ้า
เกี่ยวก้อยค่ะ"
เนื่องจากรู้อยู่แล้วว่าคนตรงหน้าเป็นประเภทชอบให้คนมาเอาใจหรือทำตัวน่ารักใส่
รัญชน์เลยตัดสินใจชูนิ้วก้อยขึ้นแล้วทำสีหน้าให้ดูน่ารักสุดฤทธิ์ โชคดีที่ได้ผล
อีกฝ่ายเลยยอมเกี่ยวก้อย ก่อนจะแยกย้ายกันไปในที่สุด
ประวัติ : รัญชน์เกิดมาในครอบครัวที่พ่อแม่เป็นครึ่งม้าน้ำทั้งคู่
ซึ่งตามธรรมชาตินั้นฝ่ายตั้งครรภ์จะเป็นเพศที่มีโครโมโซม XY หรือก็คือพ่อของเธอนั่นเอง
ส่วนแม่นั้นมีหน้าที่คอยดูแลสุขภาพพ่อและหาเงินจากการทำงานนอกบ้าน
โชคไม่ดีนักที่ช่วงเวลาหลังเธอเกิดได้ไม่นานนั้นเศรษฐกิจครอบครัวดันตกต่ำทำให้แม่ต้องวิ่งโร่หางานหนักกว่าเดิม
แล้วยิ่งทั้งพ่อแม่มีปนิธานแรงกล้าอยากให้เธอผู้ซึ่งขณะนั้นยังเรียนชั้นมัธยมต้นได้ต่อมัธยมปลายที่โรงเรียนสัตว์น้อยซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงอีก
โชคร้ายซ้ำสองเมื่อพ่อรู้ตัวว่าดันตั้งครรภ์ที่สองมา รัญชน์เลยต้องรับหน้าที่ดูแลพ่อซึ่งตั้งครรภ์ขณะที่แม่ยิ่งไม่กลับบ้านมากกว่าเดิม
จนกระทั่งเมื่อเธอช่วยพ่อทำคลอดออกมาเป็นน้องสาวแฝดสอง(ริน
แรม)ก็ราวกับนางฟ้าส่งพรมาให้ แม่ได้งานที่มั่นคงในที่สุด
ซึ่งนั่นทำให้มากพอที่จะส่งรัญชน์เรียนโรงเรียนสัตว์น้อยและพร้อมสำหรับการมีลูกรอบต่อไปอีก
คราวนี้รัญชน์ได้รับความไว้วางใจจากพ่อในการดูแลครรภ์และช่วยทำคลอดเองที่บ้านจนได้น้องชายแฝดสองมาอีก(ราม
รักษ์)
ทำให้ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดเธอถึงผูกพันกับการทำคลอดและดูแลเด็กเล็กอันเป็นแรงบันดาลใจให้เข้าเรียนต่อในคณะพยาบาลศาสตร์
สาขาวิชาการพยาบาลครอบครัวและผดุงครรภ์ในที่สุด
สมัยเป็นนักเรียนมัธยมปลายโรงเรียนสัตว์น้อย
รัญชน์เคยเป็นถึงหนึ่งในสมาชิกสภานักเรียนผู้นำร่องเรื่องของนโยบายผ้าอนามัยแจกฟรี
, นโยบายสนับสนุนและให้โอกาสนักเรียนตั้งครรภ์ไม่พร้อมได้ศึกษาต่อ
และรวมถึงคิดโครงการต่าง ๆ สำหรับนักเรียนที่ฐานะทางบ้านมีรายได้น้อยได้มาชิงทุนค่าเทอมกันอีกด้วย
งานอดิเรก : แช่น้ำอุ่น , ร้องคาราโอเกะคนเดียว
ความสามารถพิเศษ : ขี่มอเตอไซค์วิบาก(ขึ้นเขาลงน้ำ บุกป่าฝ่าดง ฯลฯ) , เล่นเปียโน
สิ่งที่ชอบ : มาร์ชเมโล เพราะว่ามันนุ่มนิ่มแถมยังดูบอบบางด้วย :
เวลาเจอมักจะบีบเล่นนานเป็นนาทีกว่าจะเอาเข้าปาก
สิ่งที่ไม่ชอบ : ทุกสิ่งที่มีความเป็นไปได้ว่าจะทำร้ายเส้นผมดำยาวที่เธอทะนุถนอม เช่น
ของที่เหนียวเหนอะหนะ(กาว หมากฝรั่ง) , ฝน , ไดร์เป่าผมที่ร้อนเกินไป
: หากเจอของพวกนี้ในยามปกติล่ะก็ไม่เป็นไร
แต่เมื่อไหร่ที่เส้นผมของเธอเกิดความเสียหายขึ้นมา
นั่นแหละจะเป็นจุดจบของภาพลักษณ์พี่สาวยิ้มเก่งแสนผัดสัวที่สะสมมาทั้งหมด
แรกเริ่มเธอจะมือสั่นราวกับไม่อยากจะเชื่อว่ามันเกิดขึ้นจริง
เธอจะหอบหายใจถี่รัวอย่างสะกดกลั้นอารมณ์ไว้ แล้วไม่ว่า ณ ตอนนั้นจะทำอะไรอยู่
คุยกับครู ก็จะขอตัวกลับบ้านไปจัดการตัวเองทันที โดยเฉพาะหากมีใครมาแตะเส้นผมโดยไม่ได้อนุญาต
เธอจะตวัดมือลง เพี๊ยะ! ทันทีราวกับปฏิกิริยาอัตโนมัติ
สิ่งที่เกลียด : คนช่างตื๊อที่พูดไม่รู้เรื่อง
เพราะว่ามันน่ารำคาญมากที่พล่ามแต่เรื่องที่เธอไม่อินอยู่ได้ :
ทีแรกมักจะปฏิเสธไปตรง ๆ ก่อน
แต่ถ้าพูดไม่รู้เรื่องก็วางแผนเผด็จศึกเลย(ตามตัวอย่าง)
สิ่งที่แพ้ : -
สิ่งที่กลัว : ความจน เพราะว่าเคยอยู่ในสภาพนั้นมาก่อนและไม่อยากกลับไปอีก :
มักจะพะวงกับเลขเงินในบัญชีเงียบ ๆ หากลดน้อยเกินกว่าจะรับได้(ตกไปหนึ่งหน่วย เช่น
หมื่นเหลือพัน แสนเหลือหมื่น) ก็จะเลิกเที่ยวก่อนเงินค่าขนมออกใหม่
ทั้งที่ปกติเที่ยวบ่อย ใช้ชีวิตอิสระมาก
แต่เหตุการณ์นี้มักจะเกิดขึ้นไม่บ่อยนักเรพาะเธอควบคุมการใช้จ่ายดีมาก
สเปคคนที่ชอบ : คนสไตล์น่ารักน่าทะนุถนอม
หรือไม่ก็อาจจะเรียบร้อยถึงขั้นเนี้ยบแบบเด็กเนิร์ดไปเลยก็ได้
แต่ไม่ใช่เชื่อฟังคนอื่นเสียหมด
ต้องมีจุดยืนเป็นของตัวเองและสามารถเป็นผู้นำได้ในบางเรื่องที่ถนัด พูดกันตรง ๆ
ได้ ปรึกษากันได้ + ถ้าทำอาหารได้จะยิ่งบวกคะแนนให้เลยล่ะ
การที่เธออยู่ในครอบครัวที่พ่อเป็นฝ่ายตั้งครรภ์นั้น
ทำให้เธอซึมซับพฤติกรรมการประคบประหงมดูแลฝ่ายที่ตั้งครรภ์มาจากแม่
และนั่นเป็นสาเหตุที่รัญชน์มักมีแรงดึงดูดกับคนรอบข้างทั้งชายหญิงที่มีบุคลิกน่าทะนุถนอมหรือต้องการการปกป้องดูแลเป็นพิเศษ
อ้อ หรือจะเรียกว่าบุคลิกน่าแกล้งน่าบีบก็ว่าได้
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอไม่ต้องการการดูแลหรอกนะ เพราะฝีมือการทำอาหารเธอแย่มาก
เลยใฝ่ฝันว่าถ้ามีคู่ชีวิตเป็นคนที่ช่วยเธอใส่ใจเรื่องอาหารก็คงดีมากเลย
ข้อมูลเพิ่มเติม : -
INTERVIEW
(ถือว่าเป็นบทสัมภาษณ์สมัยพี่รัญชน์เพิ่งเข้าโรงเรียนนะคะ
แฮ่)
ชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลเข้มที่เพิ่งจะเดินเข้ามาในห้องหลังจากปล่อยให้รัญชน์รอมาเกือบครึ่งชั่วโมง
ซึ่งมันก็ออกจะทำให้เธอรู้สึกรำคาญเล็กน้อยกระนั้นชายหนุ่มผู้มาใหม่ก็ยังคงยิ้ม
ขยับตัวให้นั่นในท่าที่สบายที่สุดก่อนจะเอยทักทายขึ้น
“ที่รักครับ ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ นี่ผมมาสายนิดเดียวเองนะเนี่ย” ยิ้มร่าพร้อมกับโบกมือป้อย ๆ อย่างไม่คิดจะสำนึก “พอดีผมสะดุดยอดหญ้าล้มลงไปบาดเจ็บนิดหน่อยน่ะ มาสายเลย
หวังว่าคุณคงจะยกโทษให้ผมนะ” …พูดอยู่ฝ่ายเดียวโดยไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายพูด
ซ้ำยังจะเอ่ยต่ออีก “โอเค เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
ผมชื่อลูซิเฟอร์นะครับ อย่างที่รู้กันว่าผมเป็นผู้อำนวยการของโรงเรียนนี้
ไม่ทราบกว่าคุณชื่ออะไรเหรอครับ?”
"สวัสดีค่ะ"
เธอยกมือไหว้อย่างนอบน้อม ก่อนพูดตามบทที่เตรียมมา "ชื่อนางสาว รัญชน์ พรธนิต
มาจากโรงเรียนมัธยมต้นในเขตบางขุนเทียนค่ะ"
“อา... เป็นชื่อที่เพราะดีนะครับนั่นน่ะ” ลูซิเฟอร์ยิ้ม “ว่าแต่…มันมีความหมายรึเปล่าครับ
ถ้ามี แล้วมันแปลว่าอะไรล่ะนั่นน่ะ?” จากนั้นเขาก็ขยับตัว
โน้มตัวเข้ามาเท้าคางลงกับโต๊ะ ขณะจ้องมองฝ่ายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงหน้า
"ชื่อรัญชน์มีความหมายว่าความยินดีค่ะ
พ่อแม่ตั้งให้เพราะอยากให้รัญชน์รู้ว่าดีใจแค่ไหนที่มีรัญชน์เป็นลูกคนแรก"
“งั้นเหรอครับ… ผมชอบจัง” เขายิ้ม “ชอบคุณด้วย” จากนั้นเขาก็หัวเราะ “โอ๊ะ อันนี้ผมพูดจริงนะ
ผมชอบคุณจริง ๆ เลยล่ะ… อ่า ว่าแต่
คุณเป็นสายพันธุ์อะไรเหรอครับ?”
"ทั้งรัญชน์แล้วก็พ่อแม่เป็นลูกครึ่งม้าหนามหนามขอทั้งหมดเลยค่ะ
ลักษณะของมันดูเผิน ๆ จะเหมือนม้าน้ำทั่วไป แต่จริง ๆ แล้วมีปากที่ยาวกว่าแล้วก็หนามบนแผ่นหลังเราจะแหลมกว่าพันธุ์อื่นด้วยนะคะ...อ๊ะ
พูดแบบนี้ ผอ.จะกลัวรัญชน์มั้ยคะเนี่ย"
เธอพูดก่อนจะหัวเราะแก้เก้อเมื่อรู้ตัวว่าเผลอร่ายยาวถึงคุณสมบัติที่อาจไม่พึงประสงค์เท่าไหร่นัก
“โอ้ งั้นเหรอครับ อันนั้นผมก็ชอบเหมือนกันแฮะ ยอดเยี่ยมไปเลย” เขาพยักหน้า ก่อนจะยืดหลังตรงอีกครั้ง เอ่ยถามต่อทันที “ที่บรรยากาศเป็นยังไง คุณชอบโรงเรียนนี้รึเปล่าครับ?”
"ชอบสิคะ ร่มรื่นดี
แล้วก็มีนักเรียนจากหลายสายพันธุ์ให้รัญชน์ได้เรียนรู้เยอะแยะเลยนะคะ
แถมยังมีคนที่น่ารักน่าทะนุถนอมหลายคนเลยด้วย"
“อ๋า…งั้นเหรอ แล้ว…คุณมีอะไรอยากจะเสนอมั้ยครับ
อย่างให้เพิ่มเติม หรือปรับปรุงอะไรเกี่ยวกับโรงเรียนนี้น่ะ
ผมรับฟังนักเรียนทุกคนเสมอเลยล่ะ” ดวงตาสีน้ำเงินเข้มมองไปยังรัญชน์ก่อนจะเอ่ยช้า ๆ ชัด ๆ “และผมก็จับตามองนักเรียนทุก ๆ คนเสมอเลยด้วย”
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาอีกครั้ง กระนั้นมันก็ค่อนข้างดูประหลาดเหมือนกับผืนน้ำที่สั่นไหวไม่แน่นอนจนมองไม่ออกว่ามีสิ่งใดกันที่อยู่ด้านใน รัญชน์ก็รู้สึกว่าถึงเวลาของเธอแล้ว
เธอกรีดยิ้มมุมปากก่อนจะพูดในสิ่งที่อยู่ในใจมาได้สักพัก
"อย่างแรกก็คงเป็นเรื่องของค่าใช้จ่ายหลังจากเข้ามาเป็นนักเรียนที่นี่น่ะค่ะ
รัญชน์เห็นภาพแม่ต้องกัดฟันวิ่งโร่หาเงินแล้วทำใจให้มองโรงเรียนนี้ในแง่บวกร้อยเปอร์เซ็นไม่ได้หรอกนะคะ
แต่ก็เข้าใจว่าระบบการศึกษาที่นี่ดีจริง ๆ
ดีมากจนคนที่จบไปก็มีโปรไฟล์ดีแถมโด่งดังจนมีข้อมูลบให้รัญชน์ได้ศึกษาแทบทุกคน
ดังนั้นรัญชน์เลยคิดว่า
จะเป็นเรื่องที่ดีมั้ยถ้ารัญชน์อยากช่วยออกความเห็นเกี่ยวกับปัญหาพวกนี้น่ะค่ะ"
“โอเคครับ… เข้าใจล่ะ” เขาผงกหัว “อืม… งั้นคำถามสุดท้ายแล้วนะ
คุณคิดว่าตัวเองเป็นคนแบบไหนเหรอ โอ๊ะ รวมถึงผมด้วยนะ ผมอยากฟังจากปากพวกคุณจัง
ว่าพวกคุณมองว่าผมเป็นคนยังไง”
"โอ้โห
ถ้าเอาจากที่เพื่อนว่ามาคงต้องบอกว่าเป็นตัวเองสุด ๆ เลยมั้งคะ" เธอว่าพลางใช้หลังมือทั้งสองประสานกันแล้วยืดไปด้านหน้าจนสุดแขนอย่างใช้ความคิด
"รัญชน์จะไม่ค่อยอินกับเรื่องบางเรื่องของคนอื่นเขาเท่าไหร่
แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่รับฟังเลยหรอกนะ
ก็อยากช่วยอยู่แล้วแค่บางอย่างมันไม่ค่อยอินก็อาจจะให้คำปรึกษาผิดไปบ้าง อ้อแล้วก็
รัญชน์คิดว่าตัวเองชอบที่จะเป็นฝ่ายดูแลคนอื่นมาก ๆ เลย
เสียดายที่นี่รับแค่มัธยม...ไม่งั้นจะแวะไปดูห้องเรียนเด็กตัวน้อย ๆ
ให้หนำใจเลย"
เธอพูดจนจบแล้วปล่อยให้เกิดช่องว่างเป็นความเงียบ
ก่อนนึกขึ้นได้ว่าเธอยังขาดคำตอบของคำถามอีกข้อไป
"อ้อ ผอ.สินะคะ
ถ้าให้รัญชน์วิเคราะห์แล้วล่ะก็...ถือว่ายังใช้ได้อยู่นะคะที่ยอมรับความผิดตัวเองว่ามาสายเนี่ย
พ่อแม่เคยเล่าให้ฟังว่าระบบการศึกษาก่อนจะพัฒนาเนี่ยย่ำแย่ถึงขั้นพวกผู้ใหญ่ในโรงเรียนยังไม่มีวุฒิภาวะกันเลย
แต่ผอ.เนี่ย...ถึงเหตุผลการมาสายจะฟังไม่ขึ้นไปหน่อย แต่รัญชน์ว่ากล้าขอโทษก็น่านับถือแล้วค่ะ"
“ขอบคุณครับ… เอาล่ะ ทีนี้ก็หมดธุระแล้ว
สามารถกลับบ้านได้เลยนะครับ” ลูซิเฟอร์ฉีกยิ้มอีกรอบ “แล้วก็นะ ถ้าเป็นไปได้ อย่าลืมไปติดตามไอจีของผมด้วยนะ ผมอัพเดททุก ๆ
สองชั่วโมงเลยล่ะ—”
"อ่า เอ้อ น่าสนใจดีค่ะ
ขอบคุณนะคะ"
เธอว่าพลางควักโทรศัพท์มือถือขึ้นมาจากกระเป๋ากระโปรงนักเรียนจากโรงเรียนเก่า
ปากก็พึมพำเบา ๆ
"คงไม่ใช่จะโพสต์แม้กระทั่งเรื่องที่สะดุดยอดหญ้าจนมาสัมภาษณ์นักเรียนสายหรอกนะ...ช่างเถอะ"
เจอคนแปลก ๆ
ที่รับมือไม่ถูกแบบนี้มัน...อ่า...คืนนี้แช่น้ำสักหน่อยดีกว่า
TALK TO JACINDA
สวัสดีคุณผู้ปกครองค่ะ! ทางนี้ชื่อเจนนะคะ ทางนั้นชื่ออะไรเอ่ยย
: ชื่อปิ่นค่า
นึกยังไงถึงมาสมัครเรื่องนี้คะ
: เพิ่งสอบ 9 สามัญเสร็จเลยว่างยาว
ๆ ค่ะแฮ่ อยากทำแบบนี้มานานแล้วแต่ที่ผ่านมาไม่ว่างสักที
พอตอนนี้มาเจอเรื่องนี้เลย ว้าว! ตรงใจเลย
มีเหตุผลอะไรถึงเลือกบทนี้รึเปล่าคะะ
: จริง ๆ
ก็ลังเลอยู่หลายบทเหมือนกันค่ะ
แต่มาลงเอยที่พี่รัญชน์เพราะรู้สึกว่าน่าสนใจเพราะเราอยากทำให้เขามีความผัดสัวโดยไม่จำเป็นต้องแต่งบอยหรือมีบุคลิกคล้ายผู้ชายมากน่ะค่ะ
ว่าง่าย ๆ
คืออยากใช้แนวคิดว่าความเป็นผู้หญิงก็สามารถเป็นที่น่าดึงดูดในแง่ของการทำให้ละลายใจหรือทำให้อีกฝ่ายเขินจนทำตัวไม่ถูกบ้างน่ะค่ะ
เรื่องนี้ไม่ได้ดาร์คอะไรมาก แต่ก็มีดราม่า และพวกปมอะไร ๆ
เข้ามาบ้างนิดหน่อย อาจจะมีการบาดเจ็บบ้างอะไรบ้าง พอจะรับได้ไหมคะ?
: รับได้แน่นอนค่า
เคารพการตัดสินใจของคุณเจนทุกอย่างเลย
เรื่องนี้จะเป็นแนว LGBT+ ซะ 90% เลยนะคะ พอจะรับได้มั้ยเอ่ย
: พี่รัญชน์ผู้มาพร้อมกับครอบครัวที่มีบทบาททางเพศแตกต่างจากหลายครอบครัวในปัจจุบันบอกว่าพร้อมทุกอย่างเลยค่า
ถ้าหากว่าไม่ผ่านบทที่ต้องการ จะรับกลับหรือยัดบทดีคะ
: แฮะ ๆ คาดคะเนจากตัวละครอื่น ๆ
ที่เยอะพอสมควรแล้วเกรงใจคุณเจนจังเลยค่ะ กลัวคุณเจนจะเหนื่อย รับกลับเลยดีกว่าค่า
อยากให้เลือกระหว่าง พระอาทิตย์ กับ พระจันทร์ พร้อมกับเหตุผลเล็ก ๆ
น้อย ๆ มาหน่อยค่ะ เอาให้เข้ากับคาร์ของลูก ๆ เลยก็ได้ค่ะ
เค้าอาจจะมีเซอร์ไพรส์นิด ๆ หน่อย ๆ 555555
: คิดว่าน่าจะเป็นพระอาทิตย์นะคะที่เหมาะกับพี่รัญชน์
ด้วยความมีจุดยืนของตัวเองสูงน่าจะเปรียบได้กับดวงอาทิตย์ที่มีแสงในตัวเองไม่ต้องพึ่งพาใครค่ะ
อยากให้มีอะไรเกิดขึ้นกับตัวละคร หรือเนื้อเรื่องรึเปล่าคะ ลอง ๆ
เสนอมาได้น้า
: ด้วยความที่พี่รัญชน์แพ้เด็กเรียบร้อยเลยครีเอทให้พี่รัญชน์เขาชอบ
[9]
น่ะค่ะ คงอยากให้พี่เขาชอบมาหยอก ๆ น้องไรงี้ เอ๊ะหรือว่าจะเป็นคนอื่นที่มีบุคลิกนุ่มนิ่มน่าทะนุถนอมหรือเรียบร้อยตามสเปคพี่เขาก็ได้นะคะ แต่สุดท้ายจะให้พี่เขาสมหวังหรือไม่ก็ได้นะคะ
คิดว่ายังไงพี่เขาก็เข้าใจและมูฟออนต่อได้ง่ายอยู่แล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ
เราอาจจะอัพช้ามากด้วยความที่เคลียร์งานด้วย
แล้วก็เคลียร์เรื่องหลักในไอดีอื่นด้วย คงไม่ว่ากันนะคะ ;w;
: ไม่ว่าแน่นอนค่ะ
แค่คุณเจนรับพี่รัญชน์ไปพิจารณาคอมเมนต์ก็ดีมากแล้ว
หมดคำถามแล้ว ยังไงก็ขอให้ทุก ๆ คนโชคดีมีชัยค่า /////7/////
ขอบคุณค่ะ เย่~~
ความคิดเห็น