คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : เมื่อมีครั้งที่หนึ่ง ย่อมมีครั้งที่สอง
1
เมื่อมีครั้งที่หนึ่ง ย่อมมีครั้งที่สอง
“อ๊ากกกกกก!!!!” เสียงตะโกนลั่นดังจากชายตรงหน้าราวกับเสียงฟ้าผ่าที่ดังสะนั่นไปทั่วห้องจนผมแทบจะกระโดดหนีด้วยความตกใจ
“ทะ ทำไม...ทำไมพ่อถึงมานอนที่ห้องผมล่ะ O_O” ผมโพล่งถามขึ้นเมื่อตั้งสติได้
นะ นี่มันอะไรกันฟร้าาาา <’(=[]=)’>
ชายตรงหน้ายังคงขมวดคิ้วอย่างงุนงง เขาก้มลงเอามือลูบๆ ริมฝีปากที่เริ่มมีเลือดไหลซิบๆ ออกมา...
ละ เลือดงั้นเหรอ -*-
เลือดล่ะเว้ย...
เลือด...
“อ๊ากกกกก!!!! เลือดดดดด!!!!!” ผมเอามือสองข้างจับหน้าตัวเอง บ้าเอ๊ย บ้าที่สุด บ้าไปแล้วววว =[]= ผมกำลังจะบ้าไปแล้ววววว ใครก็ได้ บอกที บอกทีว่านี่มันเกิดอาเพศอะไรขึ้น ทำไมพ่อถึงมานอนห้องผม ทำไมเขาถึงไม่ใส่เสื้อ แล้วทำไม...
“ซี้ดดด เจ็บบบ” เขาครางเบาๆ นั่นทำให้ผมสะดุ้งอีกครั้ง
เอื้อก...-O-
ได้ข่าวว่าเมื่อกี้ผมต่อยพ่อนี่หว่า O_o ตายล่ะ! เขาจะฆ่าผมมั้ยเนี้ย
“พะ พ่อ...” ผมครางเบาๆ
“หือ” เขาหันมามองหน้าผม “มาซาโตะ...??”
เขาเหล่มองตัวเองและมองผมสลับไปมา “ทำไมถึงมานอนที่นี่ล่ะ O_O”
ดูท่าว่าเขาจะเพิ่งรู้สึกตัวนะ -___-;
“ผมต่างหากที่ต้องถาม ทำไมพ่อถึงมานอนที่ห้องผม!” ผมตะโกนแทบจะสุดเสียงเพื่อเข่นคำตอบจากชายตรงหน้า เขาขมวดคิ้วเป็นปมเหมือนกำลังคิดหนัก
“ห้องของมาซาโตะ...จริงด้วยสิ” เขาเริ่มเหล่มองรอบๆ ห้องแล้วจับศรีษะเบาๆ “ปวดหัวชะมัดเลยแฮะ จริงสิ!” เขาต่อยมือเข้ากับฝ่ามือตัวเองเหมือนนึกอะไรออก
“อะ อะไรเหรอครับพ่อ O_O?”
“เมื่อคืนไปงานเลี้ยงรุ่น เผลอดื่มมากไปนิด เลยเดินเข้ามาห้องของมาซาโตะชัวร์!" เขายืนยันด้วยเสียงที่ดังอย่างมั่นใจ
“แต่ว่า...เจ็บชะมัด (‘ ‘)a” เขายังไม่เลิกเอามือลูบมุมปาก
ง่ะ...ผมยิ้มเจื่อนๆ ส่งไปให้ทันที ผมมือหนักขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ?!
“ขะ ขอโทษครับพ่อ แหะๆๆ U_U”
“ว้าวววว เพื่อนรัก! ท่าทางของนายมันไม่สดชื่นสุดๆ เลยนี่หว่า เกิดอะไรขึ้น โจรปล้นบ้าน หรือจู่ๆ มีคนมาบอกว่าพ่อแกเป็นมหาเศษรฐีร้อยพันล้าน O_O??” เสียงของเจ้าบ้าคนหนึ่งดังผึ่งๆ อยู่ข้างๆ หู เหมือนแมลงวันมาบินผ่านไป
“หุบปากไปเลยไอ้ทาคุมิ”
หมอนี่คือทาคิโมโตะ ทาคุมิ เพื่อนสนิทแสนรักของผมที่คบกันมาร่วมจะสามปีตั้งแต่มัธยมต้น หน้าตาเท่ๆ ของเจ้าหมอนี่ทำให้เป็นหนุ่มฮอตของโรงเรียนได้ไม่ยาก ยิ่งซอยผมสั้นๆ เจาะหูไปข้างละสอง สามรูยิ่งดูเท่เข้าไปใหญ่ แล้วยังมีการเพลนไว้อีกว่าจะไปเจาะลิ้น -_-; ผมสีน้ำตาลอ่อนดูเปล่งประกายเสมอเมื่อต้องแสงแดด
ให้ตายเถอะ...ทำไมเพื่อนผมมันเท่แบบนี้วะ -O-
“ต๊าย ไอ้มาซาโตะ อย่าจ้องเหมือนอยากจะงาบกันแบบนี้สิฟะ เขินนะเฟ้ย >_<///” มันเริ่มสะบิดสะบิ้งด้วยท่าทีเขินอาย
“อย่ามาทำกระแดะแบบนั้นนะเว้ยไอ้ทาคุมิ =[]=”
“โหดร้าย T_T แหม จ้องกันแบบนี้เหมือนอยากจะงาบกันอย่างงั้นแหละ อย่าบอกนะว่าจู่ๆ แกก็หลงรักฉัน O_O”
พลั่ก
“อ๊ากกกกก TOT ไอ้มาซาโต๋!!”
โครมมม
เสียงร้องอย่างเจ็บปวดพร้อมกับเสียงเก้าอี้ล้มทำให้เพื่อนทั้งห้องหันมามองเราสองคนที่กำลังตกเป็นเป้าสายตาอย่างเลี่ยงไม่ได้
“ปวดชิบ TOT ไอ้เพื่อนเวร เกลียดเว้ย -3-^” ทาคุมิเบ้ปากอย่างงอนๆ เรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆ ภายในห้องได้ไม่ยาก อะไรทำให้ผมมาเป็นเพื่อนกับมันได้วะเนี้ย
“ถ้าพูดอะไรพิลึกพิลั่น น่าสะอิดสะเอียนแบบนั้นอีกตายคาตีลล์แน่ ไอ้ทาคุมิ =_=” ผมพูดขู่ๆ ไปงั้น แต่ทาคุมิสะดุ้งโหยงแล้วหันมามองที่เท้าผมอย่างตกใจ
“อย่าทำอะไรเค้านะ ระวังผู้หญิงจะอาฆาตนะเออ ~O~ กลับไปนั่งที่ดีกว่า” และแล้วทาคุมิก็รีบวิ่งกลับไปนั่งที่ที่อยู่ห่างจากโต๊ะผมสามแถว ผมอยู่ข้างหน้า ส่วนหมอนั่นอยู่ข้างหลัง ไม่นานนักก็มีอาจารย์เดินเข้ามาพร้อมกับกองหนังสือที่วางบนโต๊ะเสียงดังปึงปัง ห้องก็เริ่มสงบและเข้าสู่บรรยากาศที่แสนน่าเบื่อของการเรียน
ว่าแต่...ไอ้อาจารย์นั่นมันคือใคร?
“สวัสดีนักเรียนทุกคน ผมคือครูสอนศิลปะคนใหม่ที่มาแทนคนเก่าที่ย้ายออกไปแล้ว ผมชื่อซาซากิ คามิยะ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ J” พูดจบเขาก็ยิ้มบางๆ ออกมา
แน่นอนว่าหน้าหล่อๆ อย่างเขา ยืนเฉยๆ ย่อมมีคนมอง และยิ่งยิ้มออกมา นักเรียนหญิงในห้องยิ่งส่งสายตาระห้อยพร้อมส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดกันเป็นแถวอย่างน่าหมั่นไส้ ประหนึ่งว่าหมอนี่คือซูเปอร์สตาร์ประมาณนั้น ผมไม่ได้หมั่นไส้นะ!
“ผมมีเวลาให้ถามยี่สิบนาทีนับจากนี้ เพราะเห็นว่านี่คือชั่วโมงแรกของเรา พวกเราจึงควรจะทำความคุ้นเคยกันไว้ ชั่วโมงต่อมาหวังว่าจะได้เจอกันที่ห้องศิลปะอย่างพร้อมหน้าพร้อมตานะครับ”
น่าแปลก...
ไม่ใช่น่าแปลกเพราะว่าอาจารย์ศิลปะหล่อเลิศ
แต่น่าแปลกจริงๆ ทำไมทาคุมิมันเจอคนที่หล่อกว่า ปกติมันต้องเขม่งไม่ใช่เหรอ แต่พอผมหันไปทางมัน มันกำลังอึ้งและนิ่ง -_-;
“ทะ ทาคุมิ เฮ้ย ไอ้ทาคุมิ” ผมตะโกนเรียกเสียงดัง
ถึงจะดังยังไงก็สู้บรรดานักเรียนหญิงที่เริ่มยิงคำถามเบสิกถามอาจารย์หรอก เช่นมีแฟนหรือยัง สเป็กเป็นยังไง เฮอะ เดาง่ายจะตาย -__- (เพราะยัยพวกนั้นก็เคยถามทาคุมิตอนหมอนั่นย้ายมาใหม่ๆ)
แต่ไอ้ทาคุมิท่าจะอาการหนัก คงอึ้งนิดๆ เพราะหมอนี่มันอยู่ชมรมศิลปะ จู่ๆ ก็เปลี่ยนอาจารย์ผู้สอนคงจะสะเทือนใจไม่น้อย
“อาจารย์คะ >O< อาจารย์ชอบผู้หญิงแบบไหนเหรอคะ” นักเรียนหญิงคนหนึ่งถามขึ้นก่อนจะมีเสียงกรี๊ดตามมา
“อ่า...ต้องดูๆ กันไปก่อน โดยปกติผมชอบที่หน้าตาเป็นหลัก ตามมาด้วยนิสัย ^__^;”
หมายความว่าถ้าไม่สวยมันไม่ขย้ำ...ใช่มั้ยวะ -O-?
“แล้วครอบครัวของอาจารย์ทำธุรกิจอะไรหรือเปล่าคะ ท่าทางของอาจารย์หรูจังเลย +_+” เหมือนนักเรียนหญิงคนนั้นจะสังเกตุทั่วทั้งตัวของอาจารย์คนใหม่
นั่นทำให้ผมมอง โอ้โห นาฬิกาแบรนเนมที่ดูแล้วราคาแพงแหงๆ เผลอๆ ฝังเพชรด้วยใช่หรือเปล่า? แว่นตาอีก เสื้อที่หมอนั่นใส่ รวมๆ แล้วเป็นแสนเยนชัวร์! แบบนี้เขาเรียกว่าอะไรนะ...
“...สิ้นเปลืองว่ะ”
เอ้อ! ใช่ สิ้นเปลือง! ตะ แต่นี่มันไม่ใช่เสียงของผมนะ ผมไม่ใช่ไอ้คนพูดนะ =[]= พอหันไปด้านหลังต้นเสียงนั่นคือ...
ทาคุมินั่นเอง
ท่าทางมันมองแบบเซ็งๆ เบื่อๆ และเริ่มหงุดหงิด แสดงว่ามันคืนร่างกลับมาแล้วเหรอ O_O ทาคุมิเหยียดเสียงแล้วพึมพำบางอย่าง ซึ่งผมคิดว่ามันอาจจะก่นด่าสาปแช่งอาจารย์ซาซากิในใจก็ได้ ใครจะรู้...
“เอ้อ จริงสิมาซาโตะจัง” เสียงนี่มัน...
“ไอ้ทาคุมิ”
มันเปลี่ยนที่นั่งกับคนข้างๆ ผม ผมผงะนิดหน่อย มันจะจองเวรจองกรรมอะไรกับผมนักหนาวะ อยู่โรงเรียนกับมันทีไรรู้สึกเหมือนเป็นแฝดทุกทีเลย -*-
“วันนี้ไปทำงานเป็นเพื่อนหน่อยดิ *O*”
“ทำงาน...ทำงานอะไรวะ” ผมถามกลับ
“โฮสต์คลับ *O*”
“...!!!”
ผมขมวดคิ้วเขม็งมองหน้าทาคุมิที่ยิ้มกว้างอย่างพอใจ โฮสต์คลับ...อายุแค่สิบเจ็ดแต่ดันทำงานโฮสต์คลับเนี้ยนะ!?
“พอดีว่าฉันมีเส้น ไม่ต้องรอบรรลุนิติภาวะหรอกน่า ^O^b”
“งั้นก็ไปทำคนเดียวซะสิ พาเพื่อนไปติดคุกมีที่ไหนวะ” ผมเบือนหน้าหนีไปทางอื่ ทาคุมิสะกิดไหล่แล้วเริ่มซุกไซร้ตรงบ่าเอาหัวมากระแซะๆ จนเริ่มหยะแหยง
“ก็แค่ทำงานหาเงินเท่านั้นเอง” ทาคุมิตอบหน้าตาย
“แต่กฏโรงเรียนเราห้ามทำงานพิเศษ”
“แต่ถ้าไม่ทำ บ้านฉันจะมีกินได้ยังไง ไม่ได้รวยขนาดคาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิดนะเว้ย” ทาคุมิเถียงกลับอย่างไม่ยอมแพ้
“แล้วแกต้องการอะไรวะ”
“ไปทำงานกับฉัน...แค่วันเดียวก็ได้! แค่อยากได้เพื่อนอ่ะ ไม่เคยไปทำที่นั่น ไปคนเดียวแล้วมันโหวงๆ T_T” ทาคุมิทำเสียงเล็ดออดอ้อน ซึ่งแน่นอนว่า...
“วันเดียวนะ”
“อื้อ”
“ก็ได้ -_-“
มันได้ผล โอเค ผมแพ้เสียงออดอ้อนของไอ้เพื่อนบ้าตัวนี้ ให้ตายเถอะ แล้วผมจะกลับบ้านไปบอกพ่อได้ไงวะ??
บ้านตระกูลฟูจิซาวะ
เวลา 4:30 Pm.
“ผมกลับมาแล้วครับ”
ผมเปิดประตูบ้านพร้อมกับกลิ่นหอมๆ ที่ปะทะเข้ามาในจมูก หือ เหมือนว่าวันนี้พ่อจะทำกับข้าวเองนะ
“เข้ามาสิ” ผมสะกิดเรียกทาคุมิ หมอนั่นพยักหน้าแล้วเดินเข้ามาข้างใน
“ขอรบกวนหน่อยนะครับ” ทาคุมิพูดอย่างมีมารยาท แต่ถึงจะพูดยังไงพ่อก็ไม่ได้ยินอยู่ดีไม่ใช่เหรอ เพราะตอนนี้ยังคงอยู่ในครัว
“จะกินเสร็จค่อยออก หรือจะให้ฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน” ผมถามขึ้นและเริ่มถอดถุงเท้าตั้งแต่ก้าวแรกที่เหยียบถึงบ้าน ฮึบๆๆ เสื้อนอกก็ต้องถอดสินะ
“กินก่อนสิ >_< แกก็รู้ที่นั่นมีแต่เหล้า อย่าเผลอกินจนเมาล่ะ” ทาคุมิเตือนด้วยน้ำเสียงลอดไรฟันที่พยายามจะทำให้เบาที่สุด
“รู้แล้วแหละน่า แต่อันดับแรกไปห้องครัวกันก่อน” ผมโยนเสื้อผ้าไปที่ห้องรับแขกแล้วลากทาคุมิตรงไปยังห้องครัว ที่ที่พ่อของผมตอนนี้กำลังสิงสถิตอยู่
“เอ๊ะ มาซาโตะ วันนี้กลับเร็วจัง ข้าวรออีกแป็ปก็เสร็จแล้วแหละ” พ่อพูดขึ้นโดยไม่ทันมามองเพราะมัวแต่มองหม้อตรงหน้าเตาไฟอยู่ ผมพยักหน้าเบาๆ อย่างรับรู้
“พ่อครับ วันนี้ผมไปทำการบ้านที่บ้านของทาคุมินะ ใช่มั้ยทาคุมิ” ผมหันไปหาทาคุมิเพื่อขอเสียงสนับสนุน หมอนั่นสะดุ้งแล้วทำหน้าเหวอ
“อะ เอ่อ ใช่ฮะๆ คือมีรายงานคู่ที่ผมกับมาซาโตะยังไม่ส่งเลยต้องรีบทำให้เสร็จน่ะฮะ ^-^;;” ปาดเหงื่อสักนิดก็ดีนะเพื่อน -_- นายโกหกโคตรแนบเนียนเลยหว่ะ -O-
พ่อหันมามองหน้าผมและมองหน้าทาคุมิอีกที “จริงเหรอทาคุมิคุง?”
“นะ แน่สิฮะ!! ^__^;;”
มองดูก็รู้ รอยยิ้มซีดๆ ของหมอนี่ชัดๆ ทาคุมิสบตากับผมอย่างลำบากใจที่ต้องให้โกหก ทำไมคนที่พาผมไปถึงโกหกได้ไม่แนบเนียนเท่าผมล่ะ =_=;
“แล้วจะกินข้าวก่อนไปหรือเปล่ามาซาโตะ”
“ครับ”
“เอ้อ วันนี้พ่อกลับบ้านดึกหน่อย ลูกจะกลับประมาณกี่ทุ่มเหรอ”
ผมเหล่มองนาฬิกาในห้องครัว ตอนนี้สี่โมงครึ่งแล้ว แล้วไอ้คลับนั่นมันเลิกงานกี่โมงกันล่ะ -_-a “ไม่รู้สิครับ แล้วแต่งานจะเสร็จเมื่อไหร่”
“แต่พ่อจะกลับบ้านประมาณตีสองตีสาม เพราะวันนี้ไปพบรุ่นน้องที่โรงเรียนเก่าน่ะ เลยต้องฉลองกันนิดหน่อย” พ่อยิ้มให้ผมแล้วหันไปสนใจกับหม้อต้มอะไรสักอย่าง ผมลากทาคุมิเข้ามานั่งที่โต๊ะอาหาร
“ให้ตายเถอะ รู้สึกผิดจัง (‘ ‘)”
“งั้นฉันไม่ไปก็ได้นะ” ผมพึมพำ
“มะ ไม่ได้นะเฟ้ย! นายสัญญากับฉันแล้วนะเพื่อนรัก” ทาคุมิครวญคราง
“แล้วจะกลับกี่ทุ่มล่ะ”
“พ่อบ้านบอกว่ากลับตีสองตีสามใช่มะ ร้านเปิดตอนทุ่มนึง เลิกงานก็ตอนตีหนึ่ง งั้นน่าจะทันมั้ง ^^a” ทาคุมิจัดแจงเวลาให้ผมเสร็จสรรพ
ทีงี้ละคล่อง พอเวลาให้โกหกล่ะพิรุธออกเชียวนะเอ็ง
“มาซาโตะ ทาคุมิคุง กินข้าวกันเถอะ” พ่อร้องเรียก ทาคุมิรีบวิ่งไปก่อนผม แต่พอจะถึงห้องครัว หมอนั่นให้ผมเดินนำซะงั้น
“ฉันเป็นเพื่อนนาย เดินเข้าไปก่อนได้ไง น่าเกลียด >_<*”
“อ้อ เหรอ -O-“
แต่ก็แค่วิ่งมาก่อนเท่านั้นเอง ไม่น่าเกลียดเล้ยยยย~
“มีอะไรกินมั่งเหรอครับพ่อ”
โต๊ะของบ้านผมมีเก้าอี้สี่ตัว ผมนั่งฝั่งตรงข้ามกับพ่อและนั่งข้างๆ กับทาคุมิ ทาคุมิร้องว้าวออกมาเมื่อเห็นอาหารที่พ่อทำ
“กะ กุ้งชุบแป้งทอด >O<! อ๊ากกก ซุปสาหร่าย ข้าวหน้าหมูทอด ปลาซาบะราดซอสโชยุ O.,O ฉันมากินข้าวบ้านนายทุกวันได้มั้ยเนี้ย”
“ทานให้อร่อยนะทาคุมิคุง”
“ขะ ขอบคุณครับฟูจิซาวะซัง >_<”
ไม่มีปฏิเสธเลยนะเว้ยไอ้ทาคุมิ...
ผมเริ่มลงมือทานอาหารเย็นของพ่อ พ่อและผมอยู่บ้านกันตามประสาผู้ชายซึ่งไม่มีแม่คอยอยู่ ตอนแรกก็วุ่นๆ ที่ต้องผลัดกันมาทำอาหารเย็น แต่พ่อก็เริ่มเปิดเมนูอาหารและทำมันเรื่อยๆ จนเริ่มคล่อง จึงให้ผมทำอาหารเช้าและพ่อทำอาหารเย็นแทน เพราะพ่อกลับถึงบ้านก่อนผม
กว่าจะกินมื้อเย็นเสร็จก็เกือบจะหกโมง พวกเรารีบวิ่งไปบ้านของทาคุมิก่อนเพื่อเตรียมเสื้อสูทและแปลงโฉมให้ตัวเองดูอายุยี่สิบปีขึ้นไป หลังจากนั้นพวกเราก็ต้องรีบวิ่งไปที่คลับบ้านั่นอีก ดีนะที่มันไม่ไกลจากบ้านของทาคุมิเท่าไหร่ แต่ระหว่างบ้านของผมกับหมอนั่นน่ะมันคนละทางเลยนะเฟ้ย! เหนื่อยชะมัด แฮ่กๆๆ
“หล่อยังวะเพื่อน ^O^” ทาคุมิคลี่ยิ้มแล้วจับเนคไทตัวเองให้ตรง มันสำรวจตัวเองเสร็จสรรพก็หันมามองผม “ฉันว่าเนคไทนายเบี้ยวนิดๆ หว่ะ”
แล้วมันก็ขยับให้ผมเสร็จสรรพ -_-
“แล้วพวกเราจะเข้าไปยังไง”
ทาคุมิเอานิ้วชี้มาแตะที่ปากทำท่าจุ๊ๆ แล้วบอกว่า ‘อย่าห่วง’ ก่อนจะล่วงหยิบอะไรบางอย่างออกมาสองใบนั่นคือบัตรพนักงานประจำคลับนั่นเอง
พวกเราเดินเข้าไปอย่างสบายใจและเข้าไปในห้องพักพนักงาน เหมือนว่าทาคุมิจะเคยมาแล้ว เพราะหมอนี่เดินนำซะคล่องเลย ให้ตายเถอะ -*- ไอ้ตอแหล ไหนบอกมาครั้งแรกไง แถมยังมีการทักคนนู่นคนนั้นประปรายอีก น่าถีบสักโครมเหลือเกิน
“เฮ้ ทาคุมิคุง” เสียงนั้นดังขึ้นทำให้ทาคุมิหันขวับไปมองโต๊ะกลุ่มหนึ่งที่มีชายหญิงรวมๆ กันแล้วห้าคน ผมมองผ่านคร่าวๆ มีผู้หญิงตั้งสามและผู้ชายอีกสอง ผู้ชายสองคนนั้นนั่งหันหลังให้ซะด้วยสิ แต่ทำไมผมคุ้นๆ กับแผ่นหลังของทั้งสองคนจังเลยนะ
“ไปกันเถอะมาซาโตะจัง” หมอนั่นคว้ามาจับมือผม
“เฮ้ย ลวนลามเหรอวะ” ผมยักคิ้วอย่างกวนๆ
แต่ทาคุมิไม่สนใจรีบเดินลิ่วๆ แต่มือยังจับผมอยู่ ฮะ เฮ้ย อะไรของหมอนี่วะเนี้ย
“สวัสดีครับยาเนะซัง และเพื่อนๆ ของยาเนะซัง ^_^ เรียกผมว่าทาคุมิก็แล้วกัน ส่วนนี่ก็มาซาโตะ เพื่อนผมครับ ^^;” ทาคุมิแนะนำเริ่มด้วยรอยยิ้มกว้างที่ดูเป็นมิตรและมีเสนห์มากมายจนเหลือล้นและกระแทกจนผู้หญิงโต๊ะข้างเคียงพากันมองด้วยสายตาหยดย้อย อะไรมันจะปานนั้น =_=;
“สวัสดีทาคุมิคุง แล้วก็มาซาโตะคุงนะจ๊ะ ฉันชื่อยาเนะ” เธอมีผมสั้นสีน้ำตาล แต่งตัวดูเหมือนสาวเปรี้ยว เธอหันไปทางเพื่อนผู้หญิงอีกสองคนและชี้เรียงตัว
“นี่คือคาริน” เธอชี้เพื่อนที่อยู่ใกล้สุด ท่าทางดูเรียบร้อยเหมือนคุณหนูบอบบาง “ส่วนยัยนี่ชื่อสึกิยะ” และคนสุดท้ายคือสาวมั่นที่ดูห้าว
“จริงสิ
” เธอร้องครางแล้วชี้ไปทางผู้ชายอีกสองคน “เพื่อนของฉันอีกสองคนคือ คามิยะคุงกับกับรุ่นพี่ทาคิฟุมิจ้ะ ^^”
เอ๋
คามิยะ คุ้นๆ แฮะ -_-;
แต่ไอ้ทาคิฟุมินี่ยิ่งคุ้นเข้าไปใหญ่
มันคล้ายกับชื่อของ
“มาซาโตะ O_o!” เสียงร้องดังขึ้นทำให้ผมหันไปทางต้นเสียง
เสียงที่แสนคุ้นเคย
ใบหน้าที่แสนจะคุ้นเคย
ทรงผมแบบนี้
และแผ่นหลังอย่างนี้
นะ นี่มัน
OoO
“พ่อ!! อาจารย์ซาซากิ!!”
ผมตกตะลึงไม่แพ้กับทาคุมิที่เพิ่งเหลือบไปเห็นจนผงะแทบจะเซถอยหลังจนล้ม พวกเราทั้งสองเผลอชิดกันอย่างไม่ได้ตั้งใจ นะ นี่มันอะไรกันวะ? พ่อกับอาจารย์ซาซากิรู้จักกันงั้นเหรอ O_O แถมยังมาคลับด้วยกันอีก
“แกคิดเหมือนฉันหรือเปล่าวะบีหนึ่ง
-O-;” ทาคุมิกระซิบ
“เริ่มอยากจะคิดเหมือนแกแล้วหว่ะบีสอง -O-;;” ผมถอนหายใจปลงๆ
“ถึงคราวซวยของพวกเราแล้วแหงๆ U_U” ผมและทาคุมิกระซิบพร้อมกัน
“ฟูจิซาวะ มาซาโตะกับทาคิโมโตะ ทาคุมิงั้นเหรอ
ฉันจำได้ว่าโรงเรียนห้ามให้นักเรียนรับจ้าง ทำงานพิเศษหรือพาร์ทไทม์ไม่ใช่เหรอ
” ครูซาซากิพึมพำและหัวเราะในลำคอ ผมชักหวาดหวั่นกับเสียงหัวเราะนั่นอย่างประหลาด
“เอ๋ พวกเธอรู้จักกันด้วยเหรอ O_O?” ยาเนะซังที่เริ่มงุนงงก็โพล่งขึ้น
“ขอแนะนำอีกทีแล้วกันนะครับ” นั่นคือพ่อของผมเอง “นั่นฟูจิซาวะ มาซาโตะ ลูกของผมเองครับ”
“หา ลูกของรุ่นพี่เหรอคะ O_O;;” เธอตกตะลึง รวมทั้งเพื่อนอีกสองคนก็เช่นกัน
“น่ารักจังเลย >_<” คารินซังแทรกขึ้นแล้วส่งยิ้มให้ผม
“ส่วนอีกคนทาคิโมโตะ ทาคุมิ เป็นลูกศิษย์ในชมรมของผมครับ” อาจารย์ซาซากิพูดจบก็ถอนหายใจแล้วมองหน้าพวกเราสองคนสลับไปมาก่อนจะหันไปทางพ่อเหมือนปรึกษาว่าจะเอายังไงดี
พ่อเองก็ส่ายหน้าน้อยๆ แล้วลุกขึ้น ฮะ เฮ้ย -O-! ลุกไม่พอดันคว้าแขนของผมไปนี่สิ อ๊ากกก พ่อจะจับผมไปฆ่าหรือเปล่าเนี้ย T__T มะ แม่จ๋า ชะ ช่วยลูกด้วยยย
ตึกๆๆๆ
“ช้าๆ หน่อยสิครับพ่อ ขาผมจะพันกันแล้วนะ T_T” ผมร้องและพยายามดึงพ่อเอาไว้ให้ช้าลง จนในที่สุดพ่อก็หยุดอยู่ตรง
หน้าห้องน้ำงั้นเหรอ -*-
“ทำรายงานกับทาคุมิคุงงั้นเหรอ หึ
!”
เอื้อก -O-;;
ทำไมรอยยิ้มพิฆาตของพ่อถึงได้ดู
แม่ที่อยู่บนสวรรค์คร้าบบบ! พ่อจะฆ่าผมม้ายยย T{}T ฮึกๆ ฮือออ~
“เอ่อ -_-;;”
“มาทำรายงานกันถึงที่คลับเลยเหรอ แถมยังอายุไม่ถึงยี่สิบอีกต่างหาก ให้ตายเถอะ นี่ลูกทำอะไรรู้ตัวบ้างมั้ย!!” เขาเริ่มตวาดจนผมสะดุ้งอย่างตกใจ
จะเรียกว่าเป็นครั้งแรกก็ได้ที่เขาตวาดใส่ผมแบบนี้
เขาจ้องหน้าผมอย่างเข่นคำตอบ “ทำไมถึงต้องโกหกพ่อ ทำไมถึงต้องมาทำงาน หรือเงินที่พ่อให้มันไม่พอ?” เขาถอนหายใจแรงๆ นั่นทำให้ผมรู้สึกใจหายเพราะเสียงของเขาเหมือนจะแหบลงเรื่อยๆ จนไม่อยากจะพูดอะไร
พ่อจ้องหน้าผมนิ่ง ผมจ้องพ่อกลับได้เพียงไม่กี่นาทีก็ต้องเบือนหน้าหนีไปทางอื่น
“ผมขอโทษครับ” ผมยอมรับผิด
“ทำไมถึงได้มาที่นี่ บอกพ่อมานะ” เขาขึ้นเสียง หากแต่ไม่ใช่ตวาดเหมือนตอนแรก ผมนิ่งและไม่กล้าเงยหน้ายอมรับผิด
“ผมผิดเอง ไม่เกี่ยวกับทาคุมินะ เขาแค่มาทำงานแล้วผมขอตามมาด้วย” ผมแก้ตัวแทนหมอนั่น ถ้าพ่อรู้ว่าทาคุมิชวน พ่ออาจจะให้ผมเลิกคบกับหมอนั่นก็ได้ ใครจะไปยอมฟะ! คบกันมาเป็นปีแต่เลิกกันเพราะเรื่องแบบนี้
“พ่อจะไม่บอกว่าใครผิด แต่ลูกควรเอาไปวิเคราะห์ต่างหากว่ามันดีหรือเปล่าที่มาที่นี่” พ่อพูดด้วยเสียงที่อ่อนแรงลง
“ผมขอโทษครับ
” เสียงของผมก็อ่อยเช่นกัน ผมแทบจะพูดไม่ออกด้วยซ้ำ
“แล้วจะกลับเมื่อไหร่” พ่อถามขึ้น
“ตอนร้านปิดครับ”
“ทำกี่วัน”
“แค่วันนี้วันเดียวครับ”
“งั้นเหรอ
” เขาพึมพำเบาๆ
“เอ่อ
พ่อครับ”
“หือ?” พ่อเลิกคิ้วและก้มลงมองผม
“พ่อไม่โกรธเหรอ”
เขามองผมด้วยความงุนงง “พ่อจะโกรธลูกทำไม”
“ก็ที่ผมแอบมาทำงาน
”
“ไปบอกขอโทษเจ้าคามิยะดีกว่ามั้ง หมอนั่นมันครูที่โรงเรียนของลูกไม่ใช่เหรอ”
จริงด้วย O_O ตามที่พ่อบอก ตอนนี้เจ้าทาคุมิอยู่กับอาจารย์ซาซากินี่หว่า O_o ซวยแล้วไง สู้ๆ นะว้อย มีชีวิตอยู่ต่อไปให้ได้นะทาคุมิ อย่าเพิ่งยอมแพ้ >_<;;
“พ่อว่าอาจารย์ซาซากิเขาจะบอกโรงเรียนหรือเปล่าครับ” ผมโพล่งถามขึ้นเมื่อเราสองคนกำลังจะเดินกลับโต๊ะ
“ไม่รู้สิ ลองขอดูแล้วกัน เดี๋ยวพ่อจะช่วยอีกแรง” พ่อพูดแล้วกลั้วยิ้มบางๆ แบบที่ชอบทำตลอดเวลา
“พ่อครับ
”
“หือ?”
“ขอบคุณนะครับที่ไม่โกรธ” ผมยิ้มกว้างบอกแล้วเดินเข้าไปเดินใกล้ๆ พ่อ
“แน่นอน! ใครจะโกรธลูกได้ลง” พ่อยีหัวผมแรงๆ จนผมแทบยุ่ง อ๋อย +_+ พ่ออย่าเล่นอย่างงี้สิ ผมก็ต้องจับทรงผมใหม่กันพอดี =[]=!
พอถึงโต๊ะผมก็เห็นทาคุมินั่งข้างในโดยมีครูซาซากินั่งข้างนอก ผมเลยต้องนั่งข้างในใกล้ๆ กับทาคุมิและพ่อนั่งข้างๆ ผม
“มีอะไรกันหรือเปล่าวะ” ทาคุมิหันมากระซิบแล้วขมวดคิ้ว
“เปล่าหรอก ไม่ต้องห่วง พ่อเข้าใจแล้ว” ผมบอก นั่นทำให้ทาคุมิถอนหายใจอย่างโล่งอก
“ขอโทษทีนะเว้ย T_T” ทาคุมิพูดเสียงสลดอย่างเห็นได้ชัด
“แล้วครูซาซากิล่ะ ได้คุยกะเขาเปล่า” ผมเหลือบไปมองครูซาซากิ เหวอ! เขาจ้องเขม็งผมกลับด้วย ผมรีบเบือนหน้าหนีออกไปทันที ฮู่ว์! ตอนนี้ผมกำลังทำผิดนะ ผมไม่กล้าจ้องหน้าอาจารย์ตรงๆ หรอก ถึงจะหล่อเลิศแค่ไหนก็เถอะ!
“ก็นะ คุยกันแล้วเหมือนกันแหละน่า -__- เคลียร์เรียบร้อย =w=” ทาคุมิกระซิบบอก ทำให้ผมโล่งใจไปอีกเปราะ แสดงว่าพ่อกับอาจารย์ก็หมดห่วงแล้วสินะ!
“แล้วพวกเราจะทำยังไงต่อดีวะ” ผมกระซิบถามทาคุมิ
“ไหนๆ ก็ไม่มีเรื่องแล้ว อยู่ต่อสิวะ จะได้ไปเอาเงินกับเจ้าของร้านก่อน >O<” ทาคุมิยิ้มร่าเริง อ้าว ไอ้นี่
ไม่เข็ดอีก -_-^ ขอเตะสักเปรี้ยงได้ป่ะ! เกือบพาผมซวยแล้วไง!
“เอาน่า~ อยู่ต่ออีกสักพักดีกว่านะเพื่อนรัก ใช่มั้ยครับยาเนะซัง ฟูจิซาวะซัง +_+ ให้มาซาโตะอยู่ที่นี่ต่อได้มั้ยครับ??” ทาคุมิหันไปหาพ่อและยาเนะซังด้วยสายตาอ้อนวอนและวิงวอน มีประกายปิ๊งๆ อยู่ในแววตา น่าขนลุกหว่ะ -O-;
“นั่นสิ อยู่ต่อเถอะนะ คนเยอะสนุกดีออก ใช่มั้ยคาริน ซึกิยะ ^^”
“ได้ใช่ไหมคะรุ่นพี่ทาคิฟุมิ คามิยะคุง ^^” คารินซังถามอีกสองคนที่เหลือ
ค้านสิครับ ผมจะได้รีบกลับ!
“ผมยังไงก็ได้ ถามรุ่นพี่ทาคิฟุมิดีกว่า” อาจารย์ซาซากิโบ้ยราวกับไม่ใช่เรื่องของตัวเอง ทั้งๆ ที่ตอนนี้เด็กนักเรียนตัวเองกำลังแหกกฎเนี้ยนะ -__-;
“ถามมาซาโตะดีกว่าว่าอยากอยู่หรือเปล่า” อ้าว เฮ้ย พ่อก็โบ้ยมาทางผมอีกแล้วว่ะ =__= งั้นผมต้องปฏิเสธสินะ!
“ผมว่าผมจะ
”
“อยู่ต่อครับผม ^___^”
เฮ้ยยยย!!? เสียงนี้มัน
“=[]=!!”
ไอ้ทาคุมิ๊!!!!!!!!
“ใช่มั้ยวะเพื่อน ^O^”
ยังจะมาทำยิ้มระรื่น ไอ้บ้าเอ๊ย -__-^
“ครับ ผมอยู่ต่ออีกสักพักค่อยกลับก็ได้ครับ”
“เห็นมั้ยครับ” ทาคุมิระริกระรี้เหลือเกินและเริ่มเหล่ไปทางคารินซัง เอ๊ะ เหมือนว่าคารินซังจะสเป็กของไอ้ทาคุมินี่หว่า คุณหนูบอบบางดูอ่อนต่อโลก อายุมากกว่าและดูน่าถนุถนอม เหอะๆๆ เยี่ยมจริงๆ
“แล้วตกลงว่าฉันก็จ้างโฮสต์คลับมาเก้อน่ะสิ” ยาเนะซังพึมพำอย่างเสียดาย
“เอ๋ ทำไมล่ะ ไม่จ้างผมเหรอ” ทาคุมิกดเสียงให้เล็กลงดูออดอ้อนน่าถีบ
“แต่เธอยังอายุไม่ถึงสิบแปดด้วยซ้ำ” ยาเนะซังอ้างขึ้น
“แต่ผมรับงานมาแล้วนี่นา” ทาคุมิยังคงโน้มน้าวเพื่อหวังจะเอาตังค์ อย่าให้มันหลอกเด็ดขาดนะครับ ยาเนะซัง!
“คารินซังกับซึกิยะซังคงจะจ้างผมนะครับ ไม่งั้นผมก็คงไม่รู้ว่าผมมาทำไม T__T” มันเริ่มเบะปากเหมือนจะร้องไห้ โอ๊ย! ไอ้ตอแหลลล
“นั่นสิเนอะ จ้างเขาเถอะนะ น่าสงสารออกค่ะยาเนะจัง T__T” คาริน
อย่าไปเห็นใจมันสิ!!
“ถ้ายาเนะไม่จ้าง งั้นฉันจ้างเองก็ได้!” เสียงมาดมั่นแบบนี้คงเป็นใครไม่ได้นอกจากซึกิยะซัง เฮ้ย ประทานโทษ ไม่เห็นเหรอว่าตอนนี้มันหันมาทางผมพร้อมรอยยิ้มแห่งชัยชนะ ดูยังไงก็เสแสร้งชัดๆ!
มันเอื้อมมือมาคล้องคอผมแล้วโบกมืออีกข้างเรียกพนักงานเสิร์ฟ “น้องๆ เอาเบียร์มาเพิ่งอีกขวดเลยครับ”
“เฮ้ย เดี๋ยวดิทาคุมิ แล้วใครจ่ายวะ”
“พ่อแกไง ^_^” มันกระซิบข้างหูผมจนรู้สึกเสียววาบๆ
“หา...แกกินแล้วเกี่ยวอะไรกับพ่อฉัน!?”
“แกกับฉันกิน พ่อที่ไหนจะให้ลูกจ่ายวะ แถมฉันเป็นเพื่อนลูกอีก โชคดีชะมัด!” แล้วมันก็รับเบียร์ที่มาเสิร์ฟพร้อมกับรินให้ซึกิยะซังและยาเนะซัง
อะ ไอ้เวรเอ๊ย...ประจบสอพลอ! ตอแหล! ไอ้เจ้าเล่ห์! ทีงี้ละทำได้ แต่แค่ให้โกหกยังเจือกทำสีหน้ามีพิรุธให้เขาจับได้ อยากฆ่าคนว้อยยย
“ผมว่าคารินซังน่าจะดื่มน้ำส้มนะ เดี๋ยวผมสั่งให้เอามั้ยครับ??” ทาคุมิยิ้มให้คารินซัง เจ้าหล่อนก็ยิ่งยิ้มตอบและไม่ได้พูดอะไรหรือปฏิเสธ เฮ้ย หรือว่าหลงเสน่ห์ทาคุมิแล้ววะเนี้ย -*- เทพเกินไปป่ะ! คุยกันยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเลยนะ
“ว้าว ฉันว่าคารินจะต้องหลงชอบทาคุมิแล้วแหงๆ” จู่ๆ ยาเนะซังก็แทรกขึ้น ตามมาด้วยเหล่ไปมองคารินซังทั้งแก๊ง ตอนนี้คารินซังทำหน้าเขินอายซะ...
“เป็นอย่างงั้นจริงก็ดีสิครับ” ทาคุมิก็คลี่ยิ้มเขินนิดๆ
แกตั้งใจหว่านเสน่ห์แล้วจะเขินทำไมวะ
“ใช่มั้ยละ คามิยะคุง” ยาเนะซังและซึกิยะหันไปทางอาจารย์ซาซากิ
“ผมก็ไม่รู้สิครับ J” อาจารย์ซาซากิยิ้มออกมา
ผมกินเบียร์กับทาคุมิ รวมทั้งไวน์ประมานสองขวดที่มันสั่งมาแล้วพอก่อนจะออกพ่อผมก็จ่ายจริงๆ ซะด้วย -__- มันคำนวณเรียบร้อยและทาคุมิก็อาสาไปส่งคารินซัง ซึกิยะซังและยาเนะซังกับกันสองคน ซึ่งอาจารย์ซาซากิกลับคนเดียว ผมเริ่มเมาจนแทบจะยืนไม่ไหวอยู่แล้ว ให้ตายเถอะ เพราะไอ้บ้าทาคุมิแท้ๆ ยัดเหล้าเข้าปากเอาอยู่ได้
“รุ่นพี่ครับ แน่ใจเหรอว่าจะไปส่งกันสองคน แต่ผมว่ารุ่นพี่ก็เมานิดๆ แล้วนะ” เสียงของอาจารย์ซาซากินี่นา เขาคุยกับใคร เอ๊ะ เสียงใกล้ๆ ผมซะด้วย
“อื้อ ก็ฉันเป็นพ่อเขานี่นา ก็ต้องทำหน้าที่ให้สมกับเป็นพ่อ”
“แล้วมิซาโกะซังละครับ?” เขายังคงถามต่อ แต่คำถามนั้นทำให้ผมนิ่ง
ความเงียบรอบๆ ทำให้บรรยากาศเริ่มอึดอัด ผมรู้สึกได้ถึงแรงกดเล็กๆ ที่ข้อแขนที่พ่อผมจับเพื่อพยุงแขนผมให้พาดคอของพ่อ
เขาถามถึงแม่งั้นเหรอ...?
“เธอเสียแล้วแหละครับ...เมื่อห้าปีก่อน” พ่อตอบเสียงเบาหวิวจนผมสังเกตุได้ ผมเบือนหน้าหนีไปทางอื่นเพราะไม่อยากจะสังเกตุทั้งสีหน้าและเสียงของพ่อและอาจารย์ซาซากิ
“งะ งั้นเหรอครับ...” เสียงของเขาดูอึ้งไม่น้อย “งั้นผมกลับบ้านก่อนดีกว่า เดินทางกลับดีๆ นะครับรุ่นพี่”
“อื้อ แล้วเจอกัน” พ่อพูดแล้วเดินไปอีกทางพาผมกลับบ้าน เฮ้ แต่ผมอยากขึ้นแท็กซี่กลับบ้านมากกว่านะ! ทำไมต้องเดินด้วยเล่า
แอ๊ด
ทาคิฟุมิกำลังลากลูกชายต่างสายเลือดขึ้นไปบันได ช่างยากลำบากยิ่งนัก เขาเดินผ่านห้องตัวเองและไปห้องของลูกชายที่อยู่ด้านในสุดก่อนจะพาร่างสูงของลูกชาย (ที่สูงน้อยกว่าเขา) วางทิ้งไว้บนเตียง
เมื่อเช้าเขาก็มา...เขาเหลือบไปมองกรอบรูปที่วางไว้บนโต๊ะเล็กๆ ทางขวามือของเตียง มันคือภาพของมิซาโกะกับมาซาโตะที่กำลังยิ้มอย่างมีความสุข
เขาอดยิ้มไม่ได้เมื่อมองเห็นภาพนี้ สายตาของเขายังคงมองมิซาโกะด้วยรอยยิ้ม รอยยิ้มบางๆ ที่ดูเศร้า
พี่มิซาโกะ...ผมดูแลลูกพี่ดีหรือเปล่า?
พี่ภูมิใจมากแค่ไหนที่ผมดูแลลูกพี่ให้โตแบบนี้
ขอบคุณครับพี่มิซาโกะนะครับ ที่มอบมรดกของพี่ให้ผม
ให้ผมได้สัมผัสถึงคำว่า ‘ครอบครัว’ ...
“อืมมม
” ผมร้องครางเมื่อสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างมาโอบร่างของผม โอ๊ย อึดอัดนิดๆ ว่ะ ผมกระชากผ้าห่มออกแล้วค่อยๆ ขยี้ตา พยายามลืมตาขึ้นเพราะแสงสว่างที่ส่องมาจนผมแทบลืมไม่ขึ้น
ติ๊ดๆๆๆๆๆ
ไอ้นาฬิกาบ้าก็ดังขึ้นทำให้ผมรีบเอื้อมมือไปปิดผม แต่ตอนที่ผมกำลังจะไปปิด...
“โอ๊ย!”
ศอกของผมกระแทกกับอะไรวะ O_O
ปิ๊บ
ผมสะดุ้งจนมือไปกระแทกกับนาฬิกาจนมันตก เฮ้ย...
ตุบ
เวรเอ๊ย อย่าพังจนผมต้องซื้อใหม่นะ T^T
“อืมมม” เสียงครางดังขึ้นทำให้ผมสะดุ้งแรงๆ
แน่สิวะ! ก็มันไม่ใช่เสียงครางของผมนี่!! ผมกระชากผ้าห่มออกเผยให้เห็นใครบางคนที่ผมแสนคุ้น เขากำลังกอดผมและนอนยิ้มเหมือนฝันเรื่องดีๆ เอาไว้ ผมขยี้ตาแรงๆ เพื่อให้ตื่นขึ้น เพราะมันอาจจะเป็นความฝัน ตื่นๆๆ ตื่นสิวะ!
แต่
ใช่ มันคือความจริง!!!
ผู้ชายคนนั้นเริ่มตื่นจากแรงที่ผมสะดุ้ง เขาเงยหน้าขึ้นมองผมก่อนจะยิ้มบางๆ ให้ “อา...อรุณสวัสดิ์มาซาโตะ”
เฮือกกกก...
สะ เสียงทุ้มแบบนี้
สีผมแบบนี้
ดวงตาสีเทาที่มักมองผมแบบนี้
มะ ไม่จริงง่ะ...
“อ๊ากกกกกกกก!!!!!”
นี่มันพ่อผมนี่...!!!
พลั่กกกกก!!!
ทำไมเหมือนเหตุการณ์มันเดจาวู* !!!!!????
*เดจาวู (Deje vu) เกิดเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้น หรือรู้สึกว่าเกิดขึ้นซ้ำ
........................................................
เเฮ่กๆๆ เย้ >_< หมดตอนแรกในที่สุด ว้าววว >_< เจอคำผิดฝากบอกกันมั่งนิดนึง ติ วิจารณ์ได้เต็มที่ค่ะ ^^; อาจจะไม่หนุก พยายามเขียนให้ดราม่าระหว่างพ่อกับลูก ลูกเข้าผับ บาร์ พ่อแม่เสียใจป่าววะ TOT คนเขียนยังไม่รู้เพราะไม่เคยเข้าซะด้วยสิ -_-;
เรื่องราวค่อนข้างซับซ้อนซ่อนเงื่อน (ขนาดนั้นเชียว -_-;) ระหว่างพ่อ (เลี้ยง) กับลูก (เลี้ยง) และจะมีปมซ่อนเงื่อนอีกมากมายที่ค่อยๆ เฉลย >O<
ฝากติดตามต่อด้วยนะค้า *O*
UPDATE 100% :))
ครั้งที่ 1 ; 25 / 10 / 2553 [ยี่สิบสี่นาฬิกา ยี่สิบหกนาที]
ขอบคุณธีมสวยๆ : ))
the smile
ความคิดเห็น