คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตำนานแม่โจ้...การศึกษาเกษตรก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง
ในปี พ.ศ. 2459 เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี (สนั่น เทพหัสดิน ณ อยุธยา) เข้ารับหน้าที่เสนาบดีกระทรวงธรรมการ ได้เริ่ม โครงการศึกษากสิกรรม ผู้ที่ได้รับบัญชาให้ร่างโครงการเสนอก็คือ พระยาเทพศาสตร์สถิตย์ (โห้ กาฬดิษย์) อาจารย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นนักเรียนทุนรุ่นแรกของกระทรวงธรรมการที่ไปศึกษาต่างประเทศเมื่อปี พ.ศ. 2438 พร้อมกับเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี
พระยาเทพศาสตร์สถิตย์ สำเร็จวิชากสิกรรมจากมหาวิทยาลัยเรดดิ้ง ประเทศอังกฤษ พ.ศ. 2439 (1896) และได้ผ่านการฝึกงานไร่กับครอบครัวกสิกรคหบดีในอังกฤษเป็นเวลานานก่อนกลับประเทศไทย เคยได้ไปช่วยราชการกรมเพาะปลูก กระทรวงเกษตราธิการในปี พ.ศ. 2452 ครั้งหนึ่ง ต่อมาได้กลับไปเป็นอาจารย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยสังกัดกระทรวงธรรมการ ได้เป็นข้าหลวงเกษตรมณฑลภูเก็ต และเลขานุการกรมทดน้ำ นับว่าเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ด้านการเกษตรทั้งนอกและในประเทศเป็นอย่างดี
โครงการศึกษากสิกรรมที่พระยาเทพศาสตร์สถิตร่างขึ้นนี้ เสนอให้จัดการศึกษาเกษตรตามแนวทางของสหรัฐอเมริกาที่จัดทำอยู่ในประเทศฟิลิปปินส์ คือ สอนให้ทำ “ สวนโรงเรียน” เป็นการสาธิตวิชาการเกษตรแผนใหม่ก่อน แล้วจึงขยายให้นักเรียนทำ “ สวนบ้าน” ในภายหลัง เป็นการให้นักเรียนได้ลงมือ ลงทุนทำหารเกษตรตั้งแต่ก่อนการสำเร็จการศึกษา
ในปี พ.ศ. 2460 เจ้าพระยาธรรมศักดิ์ฯ แบ่งเงินจากการศึกษาสามัญส่วนหนึ่งมาให้พระยาเทพศาสตร์ฯตั้งโรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมหอวังขึ้นเป็นแห่งแรกในประเทศไทย ณ บ้านสวนหลวง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบริเวณหอวัง (บริเวณสนามกิฬาแห่งชาติ ด้านสี่แยกเจริญผลในปัจจุบัน) พระยาเทพศาสตร์สถิตย์ เป็นอาจารย์ ใหญ่ มีครูน้อย 2 คน คือ ครูทองดี เรศานนท์ (หลวงสุวรรณวาจกกสิกิจ) และ ครูผล สินธุระเวชญ์ (หลวงผลสัมฤทธิ์กสิกรรม) ทั้งสองคนสำเร็จ ป.ม. จากโรงเรียนข้าราชการพลเรือนฯ
ในปี พ.ศ. 2461 ได้ย้ายโรงเรียนไปตั้งที่ตำบลพระประโทน อำเภอเมือง จังหวัด นครปฐม ที่ตั้งโรงเรียนเป็นป่าไผ่และดงสะแกอยู่ข้างๆวัดพระประโทน
ในปี พ.ศ. 2467 ได้ย้ายโรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมไปตั้งที่ตำบลบางสะพานใหญ่ อำเภอบางสะพานใหญ่ จังหหวัดประจวบคีรีขันธ์
ในปี พ.ศ. 2468 ได้ขยายกิจการตั้งแผนกฝึกหัดครูมูลกสิกรรม และแผนกมัธยมวิสามัญเกษตรกรรม
โรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมยางสะพานใหญ่ เจริญรุ่งเรืองมาก มีอาจารย์สำเร็จวิชาการเกษตรระดับปริญญาตรี และโท จากอเมริกา อังกฤษ และฟิลิปปินส์ ถึง 6 คน
พระยาเทพศาสตร์สถิตย์ (โห้ กาฬดิษย์)
หลวงชุณหกสิการ (ชุ้น อ่องระเบียบ)
หลวงอิงคศรีกสิการ (อินทรีย์ จันทรสถิตย์)
พระช่วงเกษตรศิลปการ (ช่วง โลจายะ)
หลวงสุวรรณวาจกกสิกิจ (ทองดี เรศานนท์)
หลวงผลสัมฤทธิ์กสิกรรม (ผล สินธุระเวชญ์)
นอกจากนี้ยังมีแหล่งวิชาการเกษตรใหญ่ คือ ฟาร์มบางเบิด ของ ม.จ. สิทธิพร กฤดากร พระบิดาของการเกษตรแผนใหม่อยู่ไม่ไกลนัก
ในปี พ.ศ. 2469 ต้องย้ายโรงเรียนเป็นครั้งที่ 3 ไปตั้งที่ตำบลทับกวาง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ส่วนที่บางสะพานใหญ่ต้องปิดตัวลงในปี พ.ศ. 2471
ต่อมานโยบายการศึกษาเกษตรเปลี่ยนแปลงอีก ขาดผู้สนับสนุนระดับเสนาบดี มีการย้ายอาจารย์เข้ากรุงเทพฯ 4 คน พระยาเทพศาสตร์ฯ อาจารย์ใหญ่ ถึงแก่อนิจกรรมในปี พ.ศ. 2472 เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของโครงการศึกษากสิกรรม หลวงสุวรรณวาจกกสิกิจเป็นอาจารย์ใหญ่สืบแทนจนถึงปี พ.ศ. 2474
ในปลายปี พ.ศ. 2474 ม.จ.สิทธิพร กฤดากรได้รับการโปรดเกล้าฯให้เป็นอธิบดีกรมตรวจกสิกรรม เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี ได้กลับมาเป็นเสนาบดีกระทรวงธรรมการอีกครั้งหนึ่ง จึงมีการร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดหลวงสุวรรณวาจกกสิกิจได้รับมอบหมายให้ไปเริ่มงานที่สถานีทดลองกสิกรรมภาคใต้ และโรงเรียนฝึกหัดครูมูลกสิกรรมที่ตำบลควนเนียง จังหวัดสงขลา ส่วนหลวงอิงคศรีกสิการ ทางกระทรวงธรรมการได้ย้ายไปเป็นอาจารย์ใหญ่โรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมที่ย้ายจากทับกวางไปอยู่ที่สถานีทดลองกสิกรรมภาคอิสาน ที่ตำบลโนนสูง อำเภอโนนวัด จังหวัดนคราชสีมา ในต้นปี 2475
การศึกษาเกษตรหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง
ในปี พ.ศ. 2476 การศึกษาเกษตรและการวิจัยยังมีการร่วมมือกันอย่างดีระหว่างกระทรวงธรรมการและกระทรวงเกษตราธิการ มีการจัดตั้งโรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมขึ้นที่ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ให้ย้ายสถานีทดลองกสิกรรมภาคใต้ไปรวมอยู่ที่คอหงส์
กรมตรวจกสิกรรม ได้ขอตัวพระช่วงเกษตรศิลปการ จากกระทรวงกลาโหม ให้ไปบุกเบิกงานสถานีกสิกรรมภาคพายัพที่ตำบลแม่โจ้ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่
ในปี พ.ศ. 2477 กระทรวงธรรมการได้จัดตั้งโรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมแห่งที่สามขึ้นที่แม่โจ้ คู่กับสถานีทดลองกสิกรรม
การบริหารงานของสถานีทดลองกสิกรรมทั้ง 3 ภาค และโรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรม ในระยะนี้ เป็นตัวอย่างอันดีของการร่วมมือระหว่างกระทรวง เพราะหัวหน้าสถานีทดลองและอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนแต่ละแห่งคือคนคนเดียวกัน แต่สามารถบริหารงานข้ามสังกัดได้ และมีการใช้บุคลากรร่วมกัน ผู้บริหารทั้ง 3 ท่าน นี้ ซึ่งต่อมาก็ได้เป็น บุคคลที่มีความสำคัญต่อการเกษตรของประเทศเป็นอย่างมากคือ
หลวงอิงคศรีกสิการ สังกัดกระทรวงธรรมการ เป็นอาจารย์ใหญ่โรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมโนนวัด และ หัวหน้าสถานีทดลองกสิกรรมภาคอิสาน
นอกจากนี้ กรมตรวจกสิกรรมยังมอบหมายให้โรงเรียนประถมวิสามัญกสิกรรม รวม 12 แห่ง เป็น กิ่งสถานีทดลองกสิกรรมของกระทรวงเกษตราธิการด้วย
เป็นที่น่าเสียดายว่า ความร่วมมืออันดีระหว่างกระทรวงธรรมการและกระทรวงเกษตราธิการนี้อยู่คงได้เพียง 3 ปี เท่านั้น เมื่อเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรีพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรี และ ม.จ.สิทธิพร กฤดากร พ้นจากตำแหน่งอธิบดีกรมตรวจกสิกรรม เพราะมรสุมทางการเมืองแล้ว นโยบายการศึกษาเกษตรก็ได้เปลี่ยนแปลงไป.....
*****************
(เรียบเรียงจาก วิวัฒนาการของการศึกษาเกษตรในประเทศไทย กวี จุติกุล คณบดีคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หน้า 43-46 หนังสือ อนุสรณ์แม่โจ้ 50 ปี 2477-2527 ธนิต มะลิสุวรรณ บรรณาธิการ).
เรียบเรียงออกอากาศ รายการแม่โจ้เมื่อวันวาน
สงวน จันทร์ทะเล
ที่ปรึกษาอธิการบดีด้านกิจการศิษย์เก่าสัมพันธ์
24 กรกฎาคม 2549
ปรับปรุงล่าสุด 10 มกราคม 2550
ปรับปรุงครั้งสุดท้าย 26 พฤษภาคม 2551
ความคิดเห็น