ตอนที่ 53 : บทที่ ๑๐ : เจ้าชายสายเอส (๔)
ตาสบตา...ใกล้จนแทบจะใช้ลมหายใจร่วมกัน
เธอรู้ก่อนหน้านี้แล้วว่า ภีมเป็นคนหล่อเหลามาก แต่เมื่อมองในระยะประชิดเช่นนี้ ใช้คำว่า ‘สมบูรณ์แบบ’ ยังน้อยเกินไปสำหรับเขาด้วยซ้ำ โดยเฉพาะกับดวงตาสีน้ำมันดิบคู่นั้น เป็นดวงตาที่ร้อนระอุทรงพลังมากจนทำให้เธอลืมหายใจไปชั่วขณะ จนกระทั่งเสียงเข้มๆ ของเจ้านายดังแทรกขึ้นนั่นละ เธอจึงสะดุ้งตื่นจากภวังค์
“คุณจะจับเสื้อผมอีกนานไหม”
ตายละหว่า! เธอจะถูกฆ่าตายตรงนี้ไหมเนี่ย!
“ขอโทษค่ะ!” เมื่อตั้งสติได้ก็รีบปล่อยมือจากการขยุ้มเสื้อสูทของเขาทันที แต่แรงขยุ้มเมื่อครู่คงจะแน่นมากไปหน่อยจึงทำให้เกิดรอยยับบนเสื้อของเขาอย่างชัดเจน เห็นอย่างนั้นณดาก็ลืมตัว พยายามเอื้อมมือไปช่วยลูบๆ เกลี่ยๆ ให้รอยยับเหล่านั้นลดลง ต่อเมื่อเห็นสายตาอันตรายของประธานหนุ่มนั่นละ เธอจึงตั้งสติได้ว่าทำเรื่องไม่เหมาะสมอยู่ จึงรีบหดมือกลับอย่างว่องไว ก่อนจะก้มศีรษะขอโทษขอโพยปะหลกๆ ในความไม่ระมัดระวังนี้
“ท่านประธานอย่าถือสาฉันเลยนะคะ เมื่อครู่ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ”
เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายคิดอย่างไรจะถือสาหรือเปล่าก็ไม่ทราบ เพราะหลังจากที่เงียบไปชั่ววินาทีหนึ่ง ชายหนุ่มก็ถามต่อ
“เท้าของคุณ” เขาปรายตามองสภาพเท้าซึ่งยังปรากฏรอยแผลแดงๆ “รู้สึกเจ็บมากแค่ไหน"
“ก็...เจ็บน่ะค่ะ”
“ผมถามว่าเจ็บแค่ไหน” น้ำเสียงเริ่มเข้มขึ้นอีกครั้ง “ประเมินระดับความเจ็บตัวเอง”
ต้องถึงกับประเมินกันแบบจริงจังเลยหรือ จะเป็นเจ้านายหรือจะเป็นคุณหมอกันแน่ ณดาแอบสงสัยในใจ แต่ก็ยอมตอบไปตามความจริง
“ถ้าเต็มสิบ ความเจ็บก็อยู่ที่ประมาณหกมั้งคะ”
“ถ้ายังไม่ถึงสิบ ก็ถือว่ายังเดินไหว” ภีมสรุป ก่อนจะพยักเพยิดให้เธอสวมรองเท้าให้เรียบร้อยแล้วกลับบ้านไป “อีกไกลแค่ไหนกว่าจะถึงหมู่บ้านของคุณ”
“ไม่ไกลเท่าไรค่ะ อยู่ข้างหน้าโน้น” เธอชี้มือไปยังเส้นทางเบื้องหน้าซึ่งเริ่มจะเปลี่ยวเงียบวังเวงตามเวลาที่เคลื่อนคล้อย มีเพียงแสงไฟริมทางซึ่งติดบ้างไม่ติดบ้างให้แสงริบหรี่ตามมีตามเกิด
ก็ไม่รู้ว่าท่านประธานคิดอย่างไร พอเห็นอย่างนั้นแทนที่จะต่างคนต่างแยกย้าย เขากลับสั่งให้เลขานุการขับรถตามเธอไปเรื่อยๆ ราวกับตั้งใจจะจับตาดูเธออยู่ทุกฝีเก้ายังไงยังงั้น ทำให้คนถูกตามรู้สึกแปลกๆ และหวาดระแวง ครั้นพอถามว่าเขาทำอย่างนี้ทำไม ก็ได้รับคำตอบพิลึกพิลั่นกลับมา
“ผมต้องแน่ใจว่าคุณจะสวมรองเท้าคู่ใหม่นี้จนกลับถึงบ้านจริงๆ โดยไม่ถอดออกหรือสลับสับเปลี่ยนอีก”
แม้จะยืนยันไปแล้วว่า เธอจะไม่ถอดหรือเปลี่ยนรองเท้าอีกจนถึงบ้าน แต่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมเชื่อเธอเลย สุดท้ายเธอจึงต้องปล่อยให้เขาทำตามที่ต้องการ แม้ว่าจะเป็นภาพที่แปลกพิกลอย่างไรก็ตามทีเถอะ เพราะในขณะที่เธอเดินบนทางเท้าอันเงียบเชียบเพื่อเดินกลับบ้าน ก็มีรถยนต์คันหรูคอยแล่นช้าๆ ตามประกบสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิดไปด้วย
“กลับมาแล้วหรือหนู วันนี้กลับช้านะ”
ลุงยามที่ป้อมยามหน้าหมู่บ้านชื่อ ‘ลุงจ๊อด’ มักจะทักทายเธอเป็นประจำเสมอ คราวนี้ก็เช่นกันดูผาดๆ นึกว่าหลับคาป้อมพร้อมกับโทรทัศน์ซึ่งฉายละครน้ำเน่าทิ้งไว้ไปแล้ว แต่ก็ผิดถนัด เพราะเมื่อได้ยินคนเดินผ่านมาลุงยามก็ลืมตาโพลง พร้อมปฏิบัติหน้าที่ แบบที่ลุงมักจะมีสโลแกนประจำตัวว่า ‘ไม่ได้หลับ แค่พักสายตาเฉยๆ’
“ค่ะ เกิดแอ็คซิเดนท์นิดหน่อย”
“อ้าวหรือ เป็นอะไรมากไหม”
ณดาส่ายหน้ายิ้มๆ เป็นเชิงว่าเธอไม่เป็นอะไรมาก ก่อนจะลดเสียงลงเพื่อกระซิบกระซาบกับลุงยามที่ป้อม เธอไม่ได้แค้นเคืองซาตานหน้าหยกมากหรอกนะ เพราะเขายอมคืนรองเท้าให้เธอแล้ว แต่เธอก็อดหมั่นไส้ไม่ได้อยู่ดี จนป่านนี้เท้าของเธอยังแสบอยู่เลย จึงอยากจะแก้เผ็ดอะไรคืนไปสักหน่อย
บอสคะ รู้จักณดาน้อยเกินไปแล้วค่ะ!
“ลุงจ๊อดคะ หนูมีเรื่องจะขอร้อง”
“หือ ขอร้องอะไร”
“ลุงเห็นรถยนต์สีดำที่อยู่ทางด้านหลังของหนูตอนนี้ไหมคะ” หญิงสาวบุ้ยใบ้นิดหนึ่งไปยังรถยนต์ของภีมทางด้านหลัง และเมื่อเห็นลุงยามพยักหน้า เธอจึงพูดต่อแสร้งทำสีหน้าหวาดกลัวเสียเต็มประดา “หนูว่ารถคันนี้ดูมีพิรุธน่ะค่ะ เห็นขับตามหนูมาสักพักแล้ว ไม่ใช่รถของคนรู้จักด้วยสิ ลุงอย่าให้รถคันนี้เข้าหมู่บ้านได้นะ หนูกลัว รู้สึกไม่ปลอดภัยยังไงไม่รู้ อาจจะเป็นพวกโจรก็ได้”
พอได้ยินว่า ‘โจร’ ลุงยามก็หูผึ่ง แต่ก็ยังมิวายมีข้อสงสัย
“แต่รถหรูเชียวนะ โจรใช้รถแบบนี้ด้วยหรือ”
“โอ๊ย ลุงคะ อย่าหลงกลลูกไม้ตื้นๆ โจรทำทีใช้รถดีๆ เพื่อตบตาเหยื่อก็มีเยอะแยะไป พวกมิจฉาชีพในคราบผู้ดีมีให้เห็นบนหน้าข่าวแทบทุกวันนั่นละค่ะ ถ้าปล่อยให้เข้ามาได้ ไม่ใช่แค่หนูกับคนในหมู่บ้านนะที่จะเดือดร้อน แต่ลุงก็จะพลอยเดือดร้อนไปด้วย คิดดูสิคะ ถ้าปล่อยให้โจรผ่านเข้ามาได้ ลุงจะไม่โดนไล่ออกหรือคะ”
พอได้ยินว่า ‘ไล่ออก’ ลุงยามก็ตื่นตระหนกเริ่มคล้อยตาม รีบโบกมือหย็อยๆ ไล่ให้เธอรีบเดินกลับบ้านไปทันที
“ถ้าอย่างนั้นรีบกลับบ้านไปเลยหนู ลงกลอนประตูให้ดีด้วย เดี๋ยวทางนี้ลุงจัดการเอง!”
“ขอบคุณค่า ถ้าอย่างนั้นหนูลาละค่ะ ฝากด้วยนะคะ” ณดายกมือไหว้ลุงยามอย่างไม่ถือตัว รีบปรู๊ดปร๊าดกลับบ้านเร็วที่สุดเท่าที่สังขารจะอำนวย ทั้งๆ ที่หัวเราะคิกคักไปตลอดทาง
นวตา
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ทำไมไม่ให้เค้านั่งรถไป ก้อรู้ว่าเค้าเจ็บขา รึว่าอยากอยู่กะเค้านานๆ (สายเอสตัวจริง)
ไม่ไปส่งน้องถึงนอนเลยละคะ บอสสส ถ้าจะตามขนาดนี้ คิคิคิ
มาส่งบอสขาตอนใหม่ จ้องตากันแล้วววเป็นไงต่อไปนะ
เดี๋ยวจะโดนณดาปาระเบิดแบบไม่ทันตั้งตัว เตรียมตัวให้ดีนะคะอิบอสส