ตอนที่ 47 : บทที่ ๙ : ซินเดอเรลล่ากับรองเท้าคัตชู (๕)
หลังจากเสร็จงานช่วงเช้าแล้ว ในช่วงก่อนบ่ายเล็กน้อยภีมก็มาตรวจตราความเรียบร้อยของสถานที่ที่จะใช้เป็นโลเกชั่นถ่ายทำสปอตโฆษณาที่จะมีขึ้นในอีกไม่กี่วันนี้ นอกจากถ่ายทำในห้างแล้ว ยังมีบางส่วนที่ถ่ายทำบริเวณลานน้ำพุหน้าห้างด้วย ซึ่งขณะนี้ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกำลังอธิบายพร้อมพาเดินชมโดยรอบ
“กล้องจะแพนจากส่วนเอาท์ดอร์ตรงนี้ขึ้นไปจนถึงป้ายชื่อของเซีย คิงดอมส์นะคะ จากนั้นจะตัดเข้าไปในส่วนอินดอร์ของห้าง เริ่มจาก...”
ทว่าชายหนุ่มไม่ได้สนใจฟังคำอธิบายใดๆ จากผู้จัดการฝ่ายการตลาดต่อแล้ว เพราะสายตาบังเอิญเหลือบไปเห็น ‘ของ’ บางอย่างไม่ห่างออกไป ใกล้กับลานน้ำพุ รองเท้าคัตชูสีดำข้างหนึ่งนอนแอ้งแม้งอยู่บนพื้น
“รองเท้านั่น...”
เหล่าเจ้าหน้าที่ต่างพากันมองตามนิ้วที่ชี้ไปของประธานหนุ่ม คงจะเกิดความกลัวว่า ภาพที่เห็นจะสร้างความขุ่นเคืองให้กับเจ้านาย จึงรีบแก้ไขกันอย่างเร่งด่วน
“ตายจริง ทำไมถึงมีรองเท้าไปอยู่ตรงนั้นได้ล่ะเนี่ย”
“ของคุณณดาหรือเปล่าคะ เมื่อช่วงพักดิฉันเห็นเธอมาวนเวียนพยายามดึงมันออกแต่ไม่สำเร็จ” ลูกน้องคนหนึ่งในกลุ่มให้ความเห็น
“เอ้อ จะของใครก็ช่างเถอะ รีบไปเอาออกมา” สั่งการพลางหันไปขอโทษขอโพยเจ้านายหนุ่มไปด้วย “ขอประทานโทษนะคะ ท่านประธาน เดี๋ยวดิฉันให้เด็กจัดการให้เดี๋ยวนี้เลยค่ะ!”
แต่ไม่ทันแล้วเพราะภีมก้าวฉับตรงไปยังรองเท้าข้างนั้นทันที พอเข้ามาใกล้จึงเห็นว่า ส้นรองเท้าเข้าไปเกี่ยวในร่องระหว่างฝาท่อระบายน้ำนั่นเอง นี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้เจ้าของรองเท้าจำเป็นต้องทิ้งมันไว้แบบนั้นกระมัง จู่ๆ ภาพของหญิงสาวซึ่งเดินกะโผลกะเผลกเข้ามาทำงานด้วยรองเท้าเพียงข้างเดียวก็ผุดขึ้นมาในความคิดของเขา ตอนนั้นเขาไม่รู้ว่าทำไมเธอจึงมีสภาพเช่นนั้น แต่ตอนนี้ดูเหมือนเขาจะรู้สาเหตุแล้ว
“ดึงรองเท้าขึ้นมา อย่าให้ทัศนียภาพของห้างต้องเสีย”
ทันทีที่ลั่นคำออกไป เหล่าลูกน้องตัวโตก็รีบไปจัดการแก้ไขตามสั่ง เพียงไม่นานรองเท้าก็หลุดออกจากฝาท่อ แต่ด้วยความที่ออกแรงดึงมากเกินไปหรือเปล่าไม่ทราบ จึงไม่ใช่เพียงตัวรองเท้าที่หลุดออกมาแต่ส้นรองเท้าก็ยังหักดังเป๊าะอีกด้วย แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครสนใจ เพราะคิดว่าเจ้าของคงทิ้งรองเท้าไปแล้ว จะมีก็แต่เพียงประธานนี่ละที่พอเห็นลูกน้องทำรองเท้าเสียหาย ก็ตำหนิทันที
“ไม่รู้จักระวัง ถ้ามันเป็นรองเท้าของลูกค้า พวกคุณจะรับผิดชอบยังไง!”
“แต่...แต่มันไม่ใช่รองเท้าของลูกค้าไม่ใช่หรือครับ มันเป็นของคุณณดา”
“ผมถึงบอกไงว่า ‘ถ้า’ ถ้ามันเป็นของลูกค้าขึ้นมาจะทำยังไง ต่อให้คราวนี้ไม่ใช่ของลูกค้าแล้วยังไงล่ะทีนี้ จะบอกว่าคุณณดาไม่ใช่ลูกค้า จะทำยังไงกับข้าวของของเธอก็ได้งั้นหรือ คุณควรจะมีสิ่งที่เรียกว่าจิตสำนึกต่อเพื่อนร่วมงานบ้าง”
คงจะกลัวว่า ลูกน้องจะพากันหัวใจวายเพราะถูกเอ็ดเสียตรงนี้ ผู้จัดการจึงเข้ามารับหน้าด้วยการเปลี่ยนหัวข้อคำถาม
“แล้วจะให้ทำยังไงกับรองเท้าข้างนี้ดีคะ”
“ถ้ามันเป็นของคุณณดา ก็นำไปคืนเธอ”
“เอ๊ะ แต่ส้นรองเท้ามันหักไปแล้ว ของมันพังแล้วนะคะท่าน เธอยังอยากได้คืนหรือคะ”
“นั่นมันไม่ใช่เรื่องที่คุณจะตัดสินใจ ปล่อยให้เจ้าของรองเท้าเขาตัดสินใจเอง บางทีของที่มันพังแล้วก็อาจจะยังมีคุณค่าทางจิตใจกับเจ้าของก็ได้”
เมื่อเป็นอันชัดเจนแล้วสำหรับคำสั่ง เหล่าลูกน้องจึงค้อมศีรษะรับคำ
“ค่ะ ท่านประธาน เดี๋ยวดิฉันให้เด็กนำรองเท้าข้างนี้ไปคืนให้คุณณดาค่ะ”
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ณดาพร้อมด้วยสหายก็พากันรีบรุดไปยังทางเข้าห้าง หมายจะดึงรองเท้าออกจากฝาท่อระบายน้ำให้ได้ แต่เธอกลับไม่พบรองเท้า เรียกได้ว่ามันอันตรธานหายไปอย่างไร้ร่องรอย พยายามถามคนแถวนั้นแล้วแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ จนเธอเริ่มจะเชื่อที่เพื่อนบอกแล้วว่า แม่บ้านคงคิดว่ามันเป็นขยะเลยจัดการเก็บไปทิ้งแล้ว พอตระหนักได้อย่างนั้น เธอก็อดใจหายไม่ได้ แม้มันจะไม่ใช่รองเท้าราคาแพง แต่เธอสวมรองเท้าคู่นี้มานานแล้ว และมันยังเป็นรองเท้าที่พ่อของเธอซื้อให้ในวันเกิดปีหนึ่งอีกด้วย การที่เธอเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ ส่วนคนในครอบครัวคนอื่นอยู่ที่บ้านสวนในอัมพวา ทำให้เหงาอยู่ลึกๆ เหมือนกัน ข้าวของต่างๆ จึงเป็นสิ่งแทนใจแทนความคิดถึงครอบครัว
ทว่านึกเสียดายได้ไม่เท่าไร ในขณะที่ประชาสัมพันธ์สาวกำลังทำงานในช่วงบ่ายนั้นเอง ก็มีพนักงานคนหนึ่งนำรองเท้ามาคืนให้เธอพร้อมคำอธิบาย แม้รองเท้าจะอยู่ในสภาพที่ไม่สมประกอบแล้วเพราะส้นรองเท้าหักไปจนแรงกระชาก แต่เธอก็อดดีใจไม่ได้ เพราะได้รองเท้าอีกข้างของตนคืน
“ขอบคุณนะคะที่เอามาคืนให้ ถึงมันจะพังแล้ว แต่มันเป็นของขวัญจากพ่อ ต่อให้จะซ่อมได้หรือไม่ได้ ยังไงฉันก็ยังอยากเก็บมันไว้อยู่ดีค่ะ”
พอได้ยินณดากล่าวอย่างนั้น พนักงานคนนั้นก็ยิ้ม ก่อนจะเอ่ยเสริม
“เกือบไปแล้วละครับ จริงๆ หัวหน้าผมจะให้โยนรองเท้าข้างนี้ทิ้งอยู่แล้วนะ แต่ท่านประธานขอไว้ก่อน ท่านพูดเหมือนอย่างคุณพูดนี่ละว่ามันอาจจะสำคัญต่อคุณก็ได้”
แม้หญิงสาวจะไม่ได้ตอบอะไรกลับไปให้มากความ แต่เรื่องที่ท่านประธานขอเรื่องรองเท้าเธอไว้อย่างเข้าอกเข้าใจก็วนเวียนในความคิดของเธออยู่จนถึงตอนเย็นอยู่ดี
ใส่ใจคนอื่นเหมือนกันนะนี่ ผู้ชายคนนี้
นวตา
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ดูเห็นอกเห็นใจกันดีนะคะแบบนี้เริ่มมีความรู้สึกพิเศษให้"ณดา"บ้างหรือยังคะ"บอสสสสสสส"
มาส่งตอนใหม่ค่า ณดาเตรียมตัวให้ดี เจ้าชายของเธอมาแล้ววว