ตอนที่ 40 : บทที่ ๘ : สิทธิ์ฟีเจอริ่ง (๖)
บทที่ ๘ สิทธิ์ฟีเจอริ่ง (๖)
“ถ้าเป็นเรื่องคุณณดา เอ่อ...ผมอธิบายได้นะครับ”
“เงียบ! ผมไม่อยากฟังข้อแก้ตัวของคุณ!” คำตวาดนั้นทำให้คนที่คิดจะโต้แย้งต้องสะดุ้งเฮือก รูดซิปปากเสียสนิท ก้มหน้างุดๆ ด้วยความหวาดกลัว “ผมได้ยินวีรกรรมคุณมาสักพักแล้ว ไม่ใช่แค่กับคุณณดา แต่กับพนักงานหญิงคนอื่นๆ ก็ด้วย ทำรุ่มร่ามไปหมด คิดว่าตัวเองเป็นหลานผู้จัดการฝ่ายการตลาดแล้วจะทำอะไรก็ได้หรือไง ที่มาร่วมแสดงวันนี้ได้ก็ใช้เส้นสายผู้จัดการไม่ใช่หรือ ป้าคุณน่ะทำงานดี ผมเลยพยายามจะมองข้ามเรื่องนี้ไป แต่คุณก็ดันมาทำเสียเรื่อง ถ้าคิดว่ามีแบ็คอัพใหญ่โตแล้วผมจะไม่กล้าเขี่ยคุณทิ้งละก็ ประเมินผมต่ำไปแล้ว ผมจะไม่เลี้ยงพวกใจสกปรก เพราะคนแบบนี้มีแต่จะคอยบั่นทอนองค์กรก็เท่านั้น ขนาดเพื่อนร่วมงานยังไม่ให้เกียรติ แล้วจะไว้ใจได้ยังไงว่าจะไม่ไปทำพฤติกรรมแบบนี้กับลูกค้าด้วย เอาเป็นว่าสัปดาห์หน้าคุณไม่ต้องเสนอหน้ามาทำงานที่นี่อีกแล้ว!”
พอได้ยินอย่างนั้นพนักงานหนุ่มก็หน้าซีดเป็นไก่ต้ม คงไม่คาดคิดว่าพนักงานที่มีแบ็คดีอย่างเขาต้องถูกไล่ออกง่ายๆ
“ท่านประธานจะไล่ผมออกหรือครับ แต่ว่า...ผมไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะ!”
“มาถึงขนาดนี้แล้วยังกล้าบอกว่าตัวเองไม่ผิดอีกหรือ!”
“ผมก็แค่...เอ่อ...ก็ได้ครับ ผมยอมรับว่าตัวเองเผลอไผล โดยเฉพาะเรื่องคุณณดา แต่มันก็ไม่ใช่ความผิดผมสักหน่อย มันเป็นความผิดคุณณดาต่างหาก ในเมื่อเธอเป็นคนยั่วผมเอง จะด้วยความตั้งใจหรือไม่ก็เถอะ แต่ผมก็เป็นผู้ชายคนหนึ่ง สัญชาตญาณมันห้ามกันง่ายๆ เสียเมื่อไรล่ะครับ แตะนิดแตะหน่อยไม่ได้บุบสลายอะไรนี่นา ผมอยากให้ท่านประธานเข้าใจผมบ้าง”
“พูดขึ้นมาก็ดี เพราะผมเริ่มจะเข้าใจคุณแล้ว เข้าใจว่าคนที่โทษทุกอย่างในโลกยกเว้นโทษตัวเองแบบคุณน่ะไม่สมควรปล่อยไว้ในองค์กรถึงสัปดาห์หน้า คุณออกไปจากที่นี่วันนี้ได้เลย ส่วนเรื่องค่าชดเชย ฝ่ายกฎหมายจะติดต่อไป!”
พอสถานการณ์ไม่เป็นไปอย่างที่คาด พนักงานหนุ่มก็เหวอหนักเข้าไปอีก แข้งขาเริ่มอ่อน จำต้องเปลี่ยนมาใช้วิธีการอ้อนวอนแทน
“ผมขอโทษครับ ถ้าท่านประธานไม่พอใจเรื่องคุณณดา ผมพร้อมจะไปขอโทษเธอด้วยตัวเอง หรือจะให้ผมทำอะไรก็ได้ ผมยินดีทำทั้งนั้น แต่อย่าไล่ผมออกเลยนะครับ นี่เป็นงานแรกของผม ผมไม่อยากเสียงานนี้ไป ขอร้องละครับ จะให้ผมกราบก็ยอม” ว่าแล้วก็ตั้งท่าจะลงไปคุกเข่ากราบกรานจริงๆ แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะนอกจากประธานหนุ่มจะไม่ยอมรับแล้ว เขายังสบัดขาอย่างแรง คล้ายทั้งรำคาญและรังเกียจตัวเชื้อโรคที่บังอาจมาเกาะแข้งขาเขา
“ฟังให้ดี ผมมีทางเลือกให้คุณสองแบบ หนึ่งรีบลุกขึ้นแล้วจากไปแบบไม่มีบาดแผล หรือสองทู้ซี้กราบกรานผมแล้วถูกไล่ตะเพิดออกไปโดยที่หน้าเป็นแผลด้วย คุณจะเลือกแบบไหน!”
“เอ๊ะ?! อะ...อะไรนะครับ!”
“ก็อย่างที่บอก ผมจะนับถึงสาม จะออกไปแบบมนุษย์ที่ยังมีศักดิ์ศรีเหลืออยู่บ้าง หรือจะออกไปแบบสุนัขข้างถนนตัวหนึ่ง เลือกเอาเอง!”
พอได้ยินคำประกาศกร้าวเช่นนั้นแล้ว เป็นอันว่าไม่ต้องลำบากนับให้นับถึงสาม พนักงานหนุ่มก็ขนลุกซู่รีบเลือกตัวเลือกแรกขอจากไปแบบคนอย่างไม่ลังเล อย่างไรเสียเขาก็ไม่อยากชะตาขาด ถูกเตะปากแตกเสียตรงนี้
ครั้นพออีกฝ่ายลนลานจากไปแล้ว ผู้บริหารหนุ่มก็กระชับเสื้อสูท ก่อนเดินออกมาจากห้องคัดเลือกเช่นกัน เขาพบกับไพบูลย์ซึ่งยืนรอรับเขาอยู่ที่หน้าลิฟต์ ครั้นพอเห็นเจ้านายเดินมา ฝ่ายนั้นก็กดลิฟต์ให้อย่างพร้อมบริการ ก่อนก้าวตามหลังเจ้านายเข้ามาในลิฟต์ ในระหว่างที่ลิฟต์เลื่อนขึ้นไปชั้นบน เขาก็สอบถามเพื่อทำลายความเงียบ
“งานคัดเลือกเรียบร้อยดีใช่ไหมครับ”
“ดี กำจัดเหลือบไรของห้างไปได้อีกราย”
ไพบูลย์พยักหน้า นี่สินะสาเหตุที่พนักงานคนนั้นวิ่งหน้าตาตื่นผ่านหน้าเขาไปเมื่อครู่ ที่แท้ก็เพราะเจอฤทธิ์เดชของประธานเข้าให้เต็มๆ นั่นเอง แต่ในฐานะเลขานุการเขาก็ตระหนักดีว่าตนไม่มีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ นอกจากรับฟังไปเฉยๆ และเปลี่ยนหัวข้อสนทนาเป็นการรายงานรื่องอื่นแทน
“เมื่อครู่ฝ่ายไอทีโทร.มาหาท่านประธานครับ เขาบอกว่างานที่ท่านมอบหมายให้ทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว”
“อืม เห็นผลงานแล้ว ขอบใจ”
“ช่วงนี้มีโปรเจคอะไรเกี่ยวข้องกับฝ่ายไอทีหรือครับ ผมไม่ทราบมาก่อนเลย”
“มีแค่เรื่องระบบรับสมัครออนไลน์เพื่อคัดเลือกคนร่วมถ่ายโฆษณา ผมวานให้ฝ่ายไอทีช่วยเป็นธุระบางอย่างให้”
“อ้อ” ไพบูลย์เงียบไปอึดใจหนึ่งก่อนจะคลายยิ้มบางๆ เหมือนคนรู้ใจเจ้านายดี “เรื่องคุณณดาน่ะหรือครับ”
นวตา
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

อ่านไปลุ้นไป เลขา จะเป็นใส้ศึกเหรือป่าว. สงสัย ณดา. ใช่คนเดียวกับ เรื่อง คุณพ่อสายลับ อะป่าว.คะ
มาส่งบอสค่าา แอบโหดอะ อิอิ