ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ^///^WonKyu^w^ Fiction

    ลำดับตอนที่ #4 : Tutor friend ครบ 100%

    • อัปเดตล่าสุด 11 ม.ค. 53


     ผมยืนอยู่รอรถเมล์อยู่คนเดียวที่ป้ายท่ามกลางอากาศที่ร้อบอบอ้าว  อย่าสงสัยครับว่าคนที่บอกจะยืนรอเป็นเพื่อนผมไปไหน เจ้าตัวขอไปซื้อน้ำที่ร้านข้างๆ นี่ก็สักพักแล้วเนี่ย ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองต้องแอบดีใจเล็กๆด้วย ทันทีที่คนตัวสูงกว่าผมนิดๆ บอกจะไปส่งผม
    อาจเป็นเพราะมันเป็นสิ่งที่ผมไม่คิดว่าเค้าจะทำให้ผมมั้ง

    "อ่ะ น้ำ" ไอ้หล่อเดินมาพร้อมกับยื่นแก้วที่ข้างในมีของเหลวสีเขียวสดให้ผม หะ เดี๋ยว ยื่นให้ผม

    "-_-" ขออึ้งก่อน

    "รับไปสิ ซื้อมาให้" มือใหญ่ยังคงยื่นแก้วมาที่ผมพร้อมทำสีหน้าแกมบังคับนิดๆให้ผมรับไป อย่าเสียมารยาท

    "ขอบใจนะ เท่าไหร่อ่ะเดี๋ยวฉันจ่ายคืนให้" ผมกล่าวขอบใจ ก่อนจะล้วงกระเป๋าหาเงิน

    "ไม่ต้องหรอก ฉันเลี้ยง" เลี้ยง ผมหูไม่ฝาดใช่ป่ะ  ของฟรีนี่แหละ ชอบ 

    "จริงป่ะเนี่ย  ขอบใจอีกทีนะ มากๆเลย" ผมขอบคุณอีกครั้ง พลางส่งยิ้มให้เป็นค่าน้ำอีกที แล้วก้มลงไปดูดน้ำ

    คนตรงหน้าพอผมยิ้มให้ก็ฉีกริมฝีปากออกมาบ้าง อยากมีรอยยิ้มอย่างซีวอนบ้างจัง เท่ห์ชะมัด 

    จะว่าไปมันเหมือนเวลาผู้ใหญ่ให้ขนมเด็ก แล้วยิ้มตอนเด็กดีใจกับขนมที่ตัวเองให้  เอ่อ คือผมไม่ใช่เด็กที่ดีใจตอนเห็นขนมนะ


    แต่ทำไมพอรู้ว่าได้ของฟรี รู้สึกน้ำแก้วนี้อร่อยขึ้นแหะ  ผมดูดน้ำอีกครั้ง แต่จากหางตาเหมือนมีใครบางคนจ้องผมอยู่ ผมเงยหน้าขึ้นมาดูก็เห็นแต่ไอ้คนข้าง ๆมองดูรถราที่วิ่งบนถนน  ผมคงรู้สึกไปเอง

    "นายขึ้นรถสายอะไร" จู่ๆซีวอนก็ถามผมขึ้น

    "สาย 13 อ่ะ" ถามไปเพื่อ

    "หรอ สายเดียวกับฉันเลย เอ่อ เรากลับด้วยกันนะ"

    "อ้าว ไหนบอกว่ามีรถที่บ้านมารับไง" ผมถามอย่างสงสัย  แต่ก็ดีใจนิดๆล่ะนะ หมายถึงที่จะมีเพื่อนกลับบ้านด้วยอ่ะ

    "คือ คือ พอดี รถ ที่บ้านเสียน่ะ เค้าโทรมาบอกว่ามารับไม่ได้" ร่างสูงอธิบายเหตุผล เพราะรถเสียงั้นหรอ ถ้ารถซ่อมเสร็จเค้าก็ไม่กลับกับผมแล้วใช่ป่ะ แล้วเราจะน้อยใจทำไมว่ะ




    บนรถเมล์


    "นี่ซีวอนนายลงป้ายไหนหรอ" ผมนั่งมองดูวิวข้างทางมาสักพัก  จึงหันมาเอ่ยถามคนร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างๆ 

    "ห๊ะ อะไรนะ" คนตัวสูงสะดุ้งทันทีที่ผมหันมาถามเพราะกำลังเหม่อมองไปที่กระจกข้างผม ที่ผมหันไปมองดูวิวอยู่เมื่อครู่

    "ฉันถามว่านายลงป้ายไหนน่ะ" ผมทวนคำถามอีกครั้ง


    "ป้าย  ป้าย เกือบสุดๆทางนั่นแหละ" ใช้เวลาคิดนิดนึงก่อนจะตอบคำถามออกมาได้  จะกลับบ้านตัวเองแท้ๆนะเนี่ย




    "ฉันลงป้ายหน้านะ" ผมพูดขึ้นอีกครั้งเมื่อรถเมล์แล่นเข้าใกล้ป้ายที่ผมจะลง

    "อืม ๆ" พูดมาสองคำ  ล่ำลาไม่มีเลยนะ

    ผมลุกขึ้นจากเบาะและเดินผ่านซีวอนไป นี่ไม่คิดจะลากันจริงๆใช่มั้ย แต่ผมก็ต้องตกใจเมื่อรู้สึกอบอุ่นวาบที่มือ ทำให้ต้องหันไปพบกับมือใหญ่ของคนไม่คิดเอ่ยลาดึงมือผมเอาไว้ จากที่ร้อนแค่มือ มันเลยลามมาถึงใบหน้าด้วย


    "เดี๋ยวก่อน คยูฮยอน กลับบ้านดีๆนะ  พรุ่งนี้เจอกัน" ประโยคที่รอลุ้น นึกว่าจะไม่บอกซะและ เฮ้อ แต่หน้าผมเนี่ยร้อนไปหมดแล้ว

    "นายก็เหมือนกันนะ  บาย" ผมตอบกลับสั้นๆ ตอบกลับได้แค่นี้จริงๆ แต่ระบายยยิ้มซะปวดแก้ม ไม่รู้ทำไมต้องดีใจขนาดนี้ด้วยนะ โจวคยูฮยอน กับอีกแค่คำบอกลากับรอยยิ้มเท่ห์ๆนั่น  แค่นี้มันก็ทำให้หัวใจผมเต้นเร็วเป็นจังหวะแปลกๆแล้ว


    ผมลงจากรถเมล์และหันไปโบกมือหยอยๆให้คนบนรถ  คนบนรถส่งยิ้มมาอย่างขำๆก่อนจะโบกมือตอบผม  



    วันนี้เป็นวันที่ผมไม่เข้าใจตัวเองอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน  ทั้งๆที่ใจเต้นแรงขนาดนี้  แต่ผมกลับรู้สึกว่าวันนี้ดีจังเลย


    เพราะใครไม่รู้ล่ะ




















    "พี่ครับ ผมจะไปเรียนแล้วนะคร้าบบบ" ผมส่งเสียงบอกชายตัวโตที่ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสืออยู่บนโต๊ะ  ทันทีที่กลืนข้าวคำสุดท้ายเสร็จ

    "อืม ตั้งใจเรียนล่ะ" ร่างหนาเงยหน้าจากหนังสือที่อ่านอยู่มาคุยกับผมนิดนึง  แต่มันไม่ใช่ประโยคที่ผมอยากฟังนี่

    "พี่คังอิน พี่ลืมอะไรไปรึเปล่า" ทวนความจำให้นิดนึง

    "ลืมไรล่ะ  อ๋อ มานี่สิ" นั่นไงจำได้และ ต้องให้เตือนนะเรื่องอย่างนี้  ผมรีบเดินไปหาพี่ชายสุดหล่อทันทีที่เขาจำได้ว่าลืมอะไร

    "ฟอดดดดด"

    "พี่คังอิน" ผมหันไปมองพี่ชายอย่างเคืองๆ  หอมมาได้ฟันยังไม่แปรง ไม่อยากได้หอมเว้ยยย

    "อะไรอีกเล่า" ร่างหนาตรงหน้าทำหน้าสงสัยใส่ผม

    "ผมไม่อยากได้อย่างนี้" เข้าใจความหมายผมหน่อยสิ

    "แล้วนายจะเอาอะไรอีกห๊ะ" ยังจะทำหน้าหมีงงใส่ผมอีก

    "เงินอ่ะพี่ เงิน เงิน เงิน" ผมพูดพร้อมแบมือขอปัจจัยหลักที่สำคัญยิ่งในการดำรงชีวิต

    "เออๆ แปบๆ" พอเข้าใจความหมายก็เปิดกระเป๋าตังค์ ควักแบงค์เตรียมส่งให้ผม


    1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 สงสัยล่ะสิ เลขอะไร ผมกำลังนับกระดาษในมือพี่ชายอยู่


    "อ่ะนี่ของนาย สองหมื่นวอน" ไรว่ะนับเป็นสิบให้มาสอง

    "โหห กับน้องกับนุ่งทำไมงกงี้อ่ะ ขอห้าไม่ได้เหรอ นะๆๆ" ผมส่งเสียงออดอ้อนหมีงกตรงหน้า

    "ไม่ได้" มันขึ้นเสียงดังใส่ผมแหละทุกคนน

    "นะๆๆๆ พี่คังอินสุดหล่อ" เพิ่มทำตาปริบๆให้อีกนิด ยออีกหน่อย

    "ไม่"

    "พี่คังอินหล่อที่สุดในโลกเลย" พยายามต่อไปคยูฮยอน

    "ฉันรู้ตัวไม่ต้องมาชม"

    "พี่คังอินอ่า"

    "ยังไงก็ไม่ให้ไม่ต้องมาอ้อน ฉันรู้ทันมุกนายหมดแล้ว" รู้ทันงั้นหรอ เหลือแผนสุดท้าย

    "ชิ  ไม่เอาแล้วก็ได้" เชิดปากขึ้น สะบัดหน้าหนี ทำท่าเดินออกไปให้เหมือนกำลังงอนมากที่สุด มาไม้นี้ยังไงก็ต้องน่า หุๆ

    "เออๆๆ แค่นี้ก็ต้องงอนด้วย เอาไปเลยๆ" คนงกเมื่อกี้เดินตามมาง้อผม  ไหนว่ารู้ทัน อิๆ

    "ขอบคุณครับพี่ รักพี่จังเลย จุ๊บทีๆ" ผมหันไปรับเงิน และหอมแก้มอูมๆขอบคุณร่างใหญ่ข้างๆ

    "เห้อ  จริงๆเลยไอ้ลูกแมว ไปดีๆ อย่าให้ฉันรู้ว่านายแอบโดดนะ" ยังมิวายตักเตือนผมอีก

    "คร้าบบ ๆ ๆ ไม่ให้รู้หรอก" ผมรับปากก่อนชิ่งหนีออกมาก่อนจะโดนทำร้าย

    "เอ๊ะ ไอ้เด็กนี่นิ" เสียงด่าไล่หลังหลังผมมาติดๆ แต่ขอโทษผมออกจากบ้านมาแล้ว หุๆ




















    ผมกำลังเดินเข้าห้องเรียนตามปกติเหมือนทุกวันที่ผมมาเรียนที่นี่ ผมเรียนที่นี่ได้เกือบอาทิตย์ล่ะ ที่นี่ก็ใช้ได้นะสอนละเอียดดี เข้าใจด้วย พอไม่รู้เรื่องก็มีคนนั่งข้างๆที่รู้ซะละเอียดให้ถาม แถมยังคอยดุไม่ให้แอบคุยกับยัยยอนฮีด้วย แล้วจะใครล่ะถ้าไม่ใช่
    "ชเวซีวอน" ที่กำลังจ้องมายังผมที่เดินไปหาเขา เอ้ยย เดินไปที่นั่งตัวเองนั่นแหละ

    "หวัดดีซีวอน" ทักสักหน่อย เห็นมองตั้งแต่เปิดประตูเข้ามาแล้ว เดี๋ยวเสียมารยาท

    "หวัดดี" ทำตัวร่าเริงกว่านี้ไม่ได้ใช่มั้ย

    "ยอนฮียังไม่มาเหรอ" ผมถามเมื่อเห็นว่าคนข้างๆอีกคนหายไป

    "ถ้ามานายก็เห็นเองแหละ ถามไม่คิด" รู้จักกันไม่นานผมก็ได้รู้นิสัยอีกอย่างของหมอนี่ว่ากวนประสาทสุดๆเลยล่ะ

    "ชิ เออ ฉันผิดเองแหละที่ถามนาย" เพิ่งไถตังต์พี่ได้กำลังอารมณ์ดีขี้เกียจเถียง

    คุณครูเดินเข้าห้องมาแล้ว การเรียนก็เริ่มอีกเช่นเคย  ผมเรียนไปได้สักพักหนังตาก็เริ่มจะปิดลง  จัดที่จัดทางวางแขนได้เรียบร้อยก็เอาหัววาง  ไม่ไหวแล้วขอสักงีบเหอะ เมื่อคืนนอนตีสาม DOTA เพลินไปหน่อย


    zzzzzzzzzzz


    "คยูฮยอน พักเที่ยงแล้ว"

    "ขออีกแปบนะ"

    "คยูฮยอนตื่นได้แล้ว"

    "บอกว่าอีกแปบนึงไง"

    "คยูฮยอนนายจะตื่นมั้ย"

    "ไม่ตื่น!!!"

    "ดี ถ้างั้นต้องเจอนี่"

    "คยูฮยอนนนนนนนนน"

    "ตื่นแล้วเว้ยยย"  ผมสะดุ้งตัวขึ้นมาหลังจากได้ยินเสียงคนตะโกนอัดแก้วหูผม  พอหันไปก็เจอคนกวนเบื้องล่างยืนยิ้มเจ้าเล่ห์ให้อยู่  เมื่อกี้คงจะตะโกนใส่หูผมล่ะสิ

    "โอ้ยยย หูฉันจะแตกมั้ยเนี่ย ตะโกนซะขนาดนี้" ขอบ่นหน่อยเหอะปลุกดีๆไม่ได้ไง

    "ก็นายอยากปลุกยากเองทำไมล่ะ  ฉันปลุกตั้งนานไม่ยอมตื่น" ยังไม่ยอมรับความผิดขอตัวเองอีกคนเรา  เดี๋ยวผมจะทำให้ยอมรับให้ได้เลย

    "แต่ฉันปวดจริงๆนะ ทำไมรู้สึกมันอื้อๆอ่ะ" ผมแกล้งบ่นเจ็บนิดหน่อย พลางเอามือรูปที่หูตัวเอง  เหมือนรู้สึกผิดปกติ

    "นายปวดหูจริงๆหรอ ฉันขอโทษๆ ไม่ได้ตั้งใจนะ"  ไอ้คนที่แกล้งผมทีแรกมันกำลังโดนเอาคืนแหละ  ดูสิสีหน้ารู้สึกผิดมากเลย

    "..." ยังสำออยแกล้งเจ็บต่อไป  ซีวอนจะทำยังไงกับผมต่อนะ

    "นายเจ็บมากมั้ย ไปหาหมอมั้ย" มืออุ่นๆที่แตะมายังใบหูของผมอย่างอ่อนโยน  น้ำเสียงที่ฟังดูวุ่นวายใจ สายตาที่แสดงความสำนึกผิด สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมใจเต้นอีกแล้วนะ  ไม่คิดว่าจะเป็นห่วงผมขนาดนี้

    "ไม่มากหรอก ฮ่าๆๆ" ผมตอบแสร้งหัวเราะใส่คนที่เป็นห่วงผมอยู่ ก่อนจะเขินการกระทำของหมอนี่มากไปกว่านี้

    "นี่นายแกล้งฉันหรอ" พอรู้ตัวว่าผมแกล้งเท่านั่นแหละ เสียงดังใส่ผมทันที

    "นายมาแกล้งฉันก่อนเองนะหุๆ" ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินออกไป  ทิ้งคนที่ดูเหมือนจะงอนไว้  ที่จริงไม่ใช่อะไรหรอกผมไม่อยากอยู่ดูหน้าซีวอนนานๆ เพราะมันทำให้ผมเริ่มรู้สึกอะไรบางอย่างกับตัวเอง  เรื่องเมื่อกี้ตอนที่เขาแสดงความเป็นห่วงเป็นใยผม ทั้งสายตาท่าทางการกระทำทุกอย่างของเขา มันทำให้ผมเขินอย่างบอกไม่ถูกอีกแล้ว  เลยต้องแสร้งทำเป็นหัวเราะ และรีบเดินออกมา ก่อนที่เขาจะจับความรู้สึกของผมได้

    "คยูฮยอนนายรู้มั้ย เมื่อกี้ฉันห่วงนายแทบบ้านะ"  เสียงคำพูดแหว่วๆพัดผ่านหูผมขณะก้าวเท้าเดินออกไป  แต่ผมกับได้ยินมันดังเต็มหัวใจ

    "รู้สิ" ผมเผลอหลุดปากตอบไปอย่างไม่รู้ตัว จะยังไงต่อล่ะงานนี้

    "รู้แล้ว ทีหลังอย่าเล่นแบบนี้อีกนะ" ร่างสูงกล่าวขึ้น ขณะเดินมาหยุดข้างๆผม ยังเอามือมาลูบๆหัวผมเหมือนผมเป็นเด็กอีก แต่ก็แอบรู้สึกดีนะ แค่นิดเดียวล่ะน่า

    "นายก็อย่าแกล้งฉันแบบนั้นอีกเหมือนกัน"

    "อืม ไม่ทำแบบนั้นแล้วครับ"

    "ปะ ไป กินข้าวเถอะ ฉันหิวแล้ว" ผมรีบพูดขึ้นและเดินหนี กลบความเขินของตัวเองก่อนที่มันจะมากกว่านี้ ก็เจ้าตัวเล่นพูดใกล้ๆหูผมนี่

    "เดี๋ยวคยูฮยอนรอด้วยสิ" ซีวอนเดินมาดึงมือผมไว้เป็นเชิงให้รอ แล้วเราก็เดินจับมือไปกินข้าวด้วยกัน 

    เดินไปเกือบจะออกหน้าประตูเขาดันหันมาหาผมพร้อมกับที่ผมหันไปเจอเขาพอดี เราสองคนต่างยิ้มให้กันอย่างไม่รู้จะพูดอะไรออกมาดี  รู้แค่ว่าตอนี้ผมมีความสุขมากที่ได้เห็นหน้าผู้ชายคนนี้ มือของเราจากที่จับกันเฉยตอนนี้กลับเปลี่ยนเป็นกุมมือประสานกันซะงั้น  
    ผมไม่รู้ว่ามันเปลี่ยนไปตอนไหน  แต่ผมก็จะไม่เปลี่ยนให้มันเป็นแบบเดิมหรอกนะ











    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


    เสร็จไปหนึ่งตอน

    ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ทุกคนที่อ่านแม้ไม่เม้นต์ ไม่เป็นไร แค่ชอบก็พอแล้ว

    หวัดดีทุกคน

    หวัดดีค่ะพี่แทน ยินดีที่ได้รู้จักเน้อ

    ตอนนี้อยู่ในช่วงมึนๆ อึนๆ

    ประกาศคะแนนSummative หรือที่โรงเรียนอื่นเรียก มิดเทอม ไม่ตกก็บุญเท่าไหร่แล้วสำหรับกะจูน เหลือเลขยากอีกตัวที่คิดว่าต้องตกแน่ๆ เหอๆ 

    ประกาศคะแนนเสร็จ ที่เรียนพิเศษจีนดันมีสอบอีก ไม่ได้บอกกันล่วงหน้าเลย หนังสือก็ไม่ได้อ่าน ศัพท์ไม่ได้ท่อง เหอๆ ภาษาจีน ยากกว่าเลข  นั่งลอกกับเพื่อนข้างๆช่วยกันทำๆ ฮ่าๆๆ 

    อยากไปหาด๊องก็ไม่ได้ไปหา  จริงๆเลือกไม่ไปเองมากกว่า ไม่ชอบคนเยอะ ไม่อยากตาม แล้วก็กลับมานั่งเสียดายที่บ้าน ทำไมฉันไม่ไปว่ะ


    ไปล่ะ

    เพ้อจบล่ะ บายค่ะทุกคน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×