ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ^///^WonKyu^w^ Fiction

    ลำดับตอนที่ #12 : Tutor freind version ChoiSiwon 1

    • อัปเดตล่าสุด 6 มี.ค. 53


    ลมหายใจอุ่นๆที่รินรดอยู่ตรงช่วงคอผม ทำให้ผมอดหันไปมองคนที่กำลังหลับอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวไม่ได้  ใบหน้าหวานใสยามหลับแลดูไร้เดียงสา ไม่ร้ายเดียงสาเหมือนตอนตื่น เปลืกตาบางที่ปิดตากลมโตคู่สวยนั่นไว้มีขนตายาวเรียงเป็นแพรประดับอยู่  จมูกโด่งรั้นช่างรั้นเหมือนนิสัยเจ้าของเสียจริงกำลังพ่นลมหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ ปากแดงๆสีเชอร์รี่ที่เคยส่งเสียงใสๆ กับรอยยิ้มน่ารักๆนั่น ตอนนี้กลับหุบสนิท  หัวทุยๆที่มีผมนุ่มนิ่มเหมือนเส้นไหม วางอยู่บนไหล่ของผม ผมก็อดใจที่จะไม่ก้มลมไปสูดกลิ่นหอมละมุนจากเส้นไหมสีดำของร่างบางไม่ได้  โอกาสตอนที่ร่างบางหลับนี่แหละเป็นช่วงที่ผมได้จ้องมองเค้าได้นานที่สุด ก็ตอนเจ้าตัวตื่นน่ะมองหน้านิดเดียว ก็โดนหาเรื่องแล้ว รู้หรอกน่าว่าเขินตอนถูกมองน่ะ


    ให้ตายเหอะ



    โจวคยูฮยอน



    "แฟนผม"



    ทำไมยิ่งมองยิ่งน่ารักอย่างนี้น้าาา





    "คุณหนูครับใกล้ถึงบ้านคุณหนูคยูฮยอนแล้วนะครับ" คุณอาคนขับรถมองมายังกระจกหลังและบอกผมที่กำลังนั่งเป็นหมอนส่วนตัวให้คนข้างๆนี่อยู่

    "อ่า ครับๆๆ"

    "คยูฮยอนใกล้ถึงบ้านแล้วนะ ตื่นเถอะ" ผมเอ่ยกับคนที่ยังนอนหลับสบายบนไหล่

    "อ่า อืม อืม ถึงแล้วหรอซีวอน" คนโดนปลุกเงยหัวจากไหล่ผมอย่างงัวเงีย อ้าปากหาวนิดๆ แล้วใช้มือบางขยี้ตาแบบเด็กๆ

    "อืม อีกนิดเดียว"


    "อ่า ถึงแล้ว ซีวอนขอบใจนะที่มาส่ง  ขอบคุณคุณอาด้วยนะครับ" เสียงใสๆเอ่ยขึ้น พร้อมทั้งก้มหัวเชิงขอบคุณให้คุณอาขับรถ  ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถไป  ยังไม่วายยิ้มใสๆ และโบกมือให้ผมผ่านหน้าต่างรถ เรียกรอยยิ้มให้ผมต้องส่งกลับไปได้ไม่ยาก  แฟนผมน่ะ ทำอะไรก็น่ารัก




    ผมนั่งมองทิวทัศน์ข้างทางไปเรื่อยๆระหว่างทางที่รถเมอร์ซีเดสสีดำกำลังแล่นกับบ้านหลังจากที่ไปส่งคนน่ารักของผมมา  ตอนนี้ผมให้คนที่บ้านมารับเหมือนเดิมแล้วล่ะครับ ไม่ใช่รักสบายหรือจะอวดร่ำรวยอะไรหรอกครับ  จริงๆผมว่านั่งรถเมล์ก็ดีนะ ประหยัดน้ำมันมากกว่า ช่วยลดโลกร้อนด้วย  แม้ว่ามันจะอึดอัดไปบ้างก็เถอะ  


    แต่หลังจากวันนั้นวันที่คนตัวเล็กก้าวขึ้นรถเมล์แล้วสะดุดบันไดเพราะรถออกตัวเร็วทำให้ล้มปากแตกน่ะ  ผมก็ไม่กล้าให้คยูฮยอนกับรถเมล์กับผมอีกเลย แม้ร่างบางจะบอกไม่เป็นไร นิดเดียวเองสบายมาก แต่เลือดที่ไหลออกจากปากอิ่มนั่น ทำให้ผมโกรธตัวเองที่ไม่จับมือร่างบางไว้ตอนขึ้น ดีที่คยูฮยอนก้าวขึ้นรถมาเรียบร้อยแล้ว ไม่งั้นนะผมอยากจะคิดถึงสิ่งที่มันจะเกิดขึ้นเลย  



    จากวันนั้นแน่นอนเป็นวันสุดท้ายที่ผมจะให้คยูฮยอนขึ้นรถเมล์  วันต่อมาผมบอกให้คนที่บ้านมารับ และให้ไปส่งร่างบางด้วย  ทีแรกเจ้าตัวก็ไม่ยอมบอกว่าเกรงใจ  แต่เมื่อผมเอาเหตุการณ์แบบเมื่อวานขึ้นมาอ้าง เค้าก็เลยขัดไม่ได้ ต้องนั่งรถไป-กลับ กับผมทุกวัน  แล้วเจ้าตัวก็โกรธผมเมื่อรู้ว่าบ้านผมอยู่ที่ไหนจากคุณอาคนขับ ว่าผมใหญ่เลยว่าทำไมต้องเสียเงิน เสียเวลาไปส่งเขาด้วย  ก็นะมันเป็นแผนของผมนี่นาที่จะหาเรื่องใกล้ชิดกับเขาตั้งแต่วันแรก  พอได้ฟังเหตุผลผมเท่านั้นล่ะ  เจ้าตัวก็หน้าขึ้นสี พูดอะไรไม่ออกเลย เวลาคยูฮยอนเขินน่ารักชะมัด





    นึกถึงวันนั้นวันแรกที่ผมเข้าไปในคลาสเรียนพิเศษ  ผมก็คงเป็นเหมือนเด็กเรียนปกติทั่วไปที่ใช้เวลาว่างช่วงปิดเทอมไปกับการเรียนพิเศษ  จริงๆก็ไม่ได้ขยันอยากเรียนอะไรนักหรอก แต่เพราะผมเป็นลูกคนชายคนเดียวของบ้านที่ฐานะค่อนข้างร่ำรวยพอสมควร และมีหน้ามีตาในสังคมระดับหนึ่ง ก็เลยต้องเรียนให้ดีๆเข้าไว้ คนอื่นเขาจะได้ไม่ว่าเอาได้ว่าเกิดมามีแต่เงิน ไม่มีสมอง  พ่อแม่จะได้ภูมิใจด้วยที่ลูกชายคนเดียวไม่นอกลู่นอกทาง เพราะเหตุอย่างนี้ผมเลยต้องทำตัวเป็นเด็กเรียนเข้าไว้ 

    จริงๆผมคิดว่าผมเป็นแค่ 


    "ชเวซีวอน"
     

    เด็กวัยรุ่นธรรมดาคนนึงเท่านั้น  




    อาจเป็นเพราะนิสัยส่วนตัวของผมที่นิ่งๆเงียบๆไม่ค่อยจะยิ้มกับคนที่ไม่คุ้นเคย ด้วยมั้ง ทำให้ใครๆไม่ค่อยกล้าเข้ามาคุยกับผมเท่าไหร่  ผิดกับอีกคนที่เดินเข้ามาในห้องและระบายยิ้มอ่อนๆบนใบหน้าให้ทุกคนขณะเดินมา รวมทั้งผมด้วยมั้ง ร่างสูงโปร่งคงจะเกือบๆเท่าผม แต่ตัวนี่สิบางได้อีก โครงหน้าเรียวยาว ตากลมโตมีประกาย จมูกโด่งรั้นดูเอาแต่ใจ รับกับปากอิ่มสีชมพูที่เป็นอย่างดี ร่างบางที่ใส่เสื้อยืดธรรมดาสีฟ้า และกางเกงส่วนสีครีม  นั่นกำลังเดินเข้ามาใกล้ยังที่นั่งของผม  และผมก็รู้ว่าเขานั่งที่ติดกับผมนี่เอง  น่าแปลกคนๆนี้มีแรงดึงดูดให้ผมไม่สามารถละสายตาไปจากหน้าหวานๆนี่ได้  ผมแอบมองเค้าอยู่นาน  จนเค้ารู้ตัวและยิ้มให้ผมอย่างน่ารัก  แต่ผมก็นะดันเขิน ทำอะไรไม่ถูกเมื่อเจอยิ้มหวานๆนั่นเข้าไปแบบไม่ทันได้ตั้งตัว จนต้อง หันหน้าหนีไปอีกทาง ในใจก็คิดว่าเค้าคงนึกว่าผมมนุษยสัมพันธ์แย่มากๆ คนยิ้มให้ดันหันหน้าหนี  ไอ้บ้าซีวอนเอ้ยยย    





    ระหว่างการเรียน ร่างบางข้างๆผมก็สนใจเรียนบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะคุยจุกจิกกับเด็กผู้หญิงที่เพิ่งเข้ามาใหม่มากกว่า ปากแดงๆนั่นพูดเก่งใช่ย่อยเลย ผมรู้แล้วว่าเค้าชื่อ โจวคยูฮยอน จากที่ได้ยินสองคนคุยกันนั่นแหละ  และผมก็ต้องหลุดขำออกมา เมื่อเด็กสาวที่เค้าคุยด้วยตั้งนานคิดว่าเค้าเป็นผู้หญิง ร่างบางคงเห็นว่าผมแอบยิ้มอยู่ เลยสะบัดหน้าหนีซะงั้น อย่างกับผู้หญิงงอนเลย  



    เวลาพักกลางวันมาถึงผมที่ไม่ค่อยหิวเท่าไหร่เลยเดินไปหาหนังสืออ่านที่ร้านหนังสือ ผมหยิบหนังสือมายืนอ่านเล่น แต่อ่านเท่าไหร่ก็เห็นแต่หน้าหวานๆของร่างบางที่นั่งข้างๆ  พอลดหนังสือลงจากระดับสายตาก็เห็นบุคคลที่ผมเห็นอยู่ในเล่มแทนตัวหนังสือเดินเข้ามาในร้าน ตาโตกลมนั่นมองมาที่ผมแวบนึงก่อนจะหันไปหาหนังสืออ่านต่อ  เอาเป็นว่าผมไม่มีกะจิตกะใจจะอ่านหนังสือต่อหรอก ตั้งแต่เห็นร่างบางเดินเข้ามา ไม่มีคำพูดใดๆเกิดขึ้นระหว่างเรา  เค้าคงจะกล้าพูดกับผมหรอก ในเมื่อผมทำมารยาทเสียใส่เค้าตั้งแต่เจอกันครั้งแรก  ผมยกข้อมือขึ้นมาดูนาฬิกาเห็นเวลาเหลืออีกประมาณสิบนาทีจะเข้าเรียนช่วงบ่าย ตายล่ะต้องรีบเข้าซะแล้ว  แต่ร่างบางที่ยืนอ่านการ์ตูนอยู่นั่นล่ะ จะให้ผมทิ้งเค้าไว้หรอ และผมก็คิดได้ว่านี่แหละเป็นโอกาสของผมที่จะเริ่มพูดกับคยูฮยอน




    “นี่นายอีกสิบนาทีเข้าเรียนนะ” ผมเดินไปกระซิบเบาๆข้างหูของร่างบาง เจ้าตัวละสมาธิจากการ์ตูนญี่ปุ่นที่อ่านในมือ แล้วหันหน้าหวานๆมาทางผม
     
    “อืมๆๆ ขอบใจ” นี่คือคำพูดแรกที่คยูฮยอนพูดกับผมล่ะ 
     
    ผมกับเค้าเดินกลับไปเรียนด้วยกัน  เราต่างคนต่างไม่พูดอะไร  ผมอยากจะเริ่มพูดนะ  แต่ผมจะพูดอะไรกับเค้าดีล่ะนี่ เราคุยกันครั้งแรกผมควรถามชื่อเค้าก่อนสินะ ถึงผมจะรู้ชื่อเค้าอยู่แล้วก็เถอะ 
     


    “นายชื่ออะไร/นายชื่ออะไร” ไม่น่าเชื่อ คยูฮยอนหันมาถามผมด้วยประโยคเดียวกันเดะ
    “ฉันซีวอน/ฉันคยูฮยอน” อีกครั้งที่เราพูดพร้อมกัน  อย่างนี้มันเรียกว่า บังเอิญ หรือ พรหมลิขิต ล่ะครับ



    นี่แหละครับการคุยกันครั้งแรกของผมกับคุณแฟน  แล้วเค้ากับผมก็เดินกลับมาเรียน คยูฮยอนแนะนำให้ผมรู้จัก ยอนฮี เพื่อนที่นั่งข้างๆเค้า น่ารักดีนะ แต่ยังไงก็สู้คยูฮยอนของผมไม่ได้หรอก  จากนั้นเราก็ดูจะสนิทกันมากขึ้นล่ะมั้ง  เหมือนความห่างระหว่างเราทั้งคู่จะแคบลงมาบ้าง  ผมกล้าที่จะยื่นสมุดจดให้ร่างบางลอกเมื่อมือเรียวๆตามจดที่อาจารย์สอนไม่ทัน ทุกครั้งที่ผมยื่นสมุดไปให้คยูฮยอนก็จะส่งยิ้มแบบเด็กๆมาให้เป็นการขอบคุณ  เจ้าตัวจะรู้บ้างมั้ยรอยยิ้มผมเต้นแปลกๆล่ะ มันน่ารักเกินไปแล้วสำหรับคนนี้









    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


    กะจูน อยากพูด  

    ตอนนี้เป็นตอนวอนเพ้อนะ  หลังจากอ่านความรู้สึกของคยูแล้วมาอ่านความรู้สึกคุณชายกันบ้าง  อย่าเพิ่งเบื่อนะคะ  เนื้อหาไม่เหมือนกันเป๊ะจนจบนะ  มีเซอร์ไพรส์ตอนท้ายๆด้วย

    อาจจะไม่ได้อัพสักพักนะคะ บอกไว้ก่อน ช่วงนี้งานเยอะมาก  ขนาดปิดเทอมยังต้องทั้งเรียน ทั้งทำงาน

    ถึงพี่ viic พี่วิกถูกมั้ย  อะไรจะบังเอิญโลกกลมพรหมลิขิตขนาดนี้  จูนอยู่ 661 ค่ะ   พี่อยู่ห้องไหนค่ะ  หนูคงจะเคยเห็นหน้าพี่แน่ๆ พี่เป็นพี่รหัสใครอ่ะ  ตอนนี้รักพี่ๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ต้องเตรียมงานสาย เตรียมงานรับน้อง  ขอแอบบ่นกับพี่หน่อยว่าสายเราเป็นคอนแวนต์ไปแล้ว มีแต่ผู้หญิงทำงาน ทำบอร์ด  มันยากอย่างนี้นี่เอง


    Radicus  Medicus  Musica

    Wit-Cool 

    ใครจะสอบเตรียมฯอย่าลืมวิทย์คุณภาพชีวิตนะคะ   (ช่วงโปรโมตสาย)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×