คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่2 คู่ปรับตลอดการ
2
<script src="http://www.geocities.com/sweety21st/sakura.js"></script>
บทที่
คู่ปรับตลอดการ
เฮือก!!!
นัยน์ตาสีมรกตเปิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เม็ดเหงื่อผุดขึ้นเต็มทั่วทั้งใบหน้า ร่างบางขยับขึ้นนั่งบนเตียง พลางยกมือขึ้นปาดเหงื่อบนใบหน้า ม่านสีครามผืนใหญ่โบกสะบัดไปมาราวกับกำลังหยอกล้อกับสายลมภายนอก แสงแดดอ่อนๆยามอรุณส่องเข้ามากระทบกับเรือนผมสีทองยุ่งเหยิงของเด็กชายจนเกิดเป็นประกาย เสียงนกร้องที่คอยปลุกเขาทุกเช้าตั้งแต่เล็กจนโตภายนอก กลิ่นของหมู่มวลพฤกษานานาพรรณ ทุกอย่างอยู่กับเขามาตลอดตั้งแต่เล็กจนโต หากแต่มันกลับไม่รู้สึกคุ้นเคยเท่ากับภาพในความฝันเมื่อสักครู่ ทั้งภาพของปราสาทหลังโอ่อ่า ภาพของพื้นหินเก่าๆขนาดใหญ่ หรือกระทั่งกำแพงที่เต็มไปด้วยป้อมปราการ ทุกอย่างดูคุ้นเคยกับเขาอย่างน่าแปลกใจ
ก๊อก ๆๆๆ
“คุณหนูคะ คุณหนู...”
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ก่อนจะตามมาด้วยเสียงของ‘เมอร์ลิน’ แม่นมที่เขารักเหมือนแม่แท้ๆ
เมื่อไม่มีเสียงตอบรับใดๆตอบกลับมาจากเบื้องหลังบานประตู เมอร์ลินจึงตัดสินใจเปิดประตู หากแต่ภายในนั้นกลับว่างเปล่าไร้ซึ่งวี่แววของเจ้าของห้อง
“คุณหนู...”
ออซโซ เรโฟเซฟ เด็กชายวัยสิบสามปีผู้ที่กำพร้าทั้งพ่อและแม่ เขามาอาศัยอยู่ที่บ้าน ไม่ใช่สิ ต้องเรียกว่า คฤหาสน์ของลุงถึงจะถูก ก็ที่นี่ทั้งกว้างใหญ่และรายล้อมไปด้วยพฤกษานานาพรรณ อีกทั้งยังมีทะเลทราบขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับทะเลอีกด้วย ทำให้คฤหาสน์แห่งนี้ดูเป็นบ้านในฝันของใครหลายๆคน คฤหาสน์แห่งนี้ตั้งอยู่ในป่าติดกับทะเล ไม่ห่างจากเมืองเท่าไหร่นัก เขาไม่ได้เรียนอยู่ในโรงเรียนอย่างเด็กอื่นๆทั่วๆไป แต่มีอาจารย์ระดับหัวกะทิมากหน้าหลายมาผลัดกันสอนเขาถึงในคฤหาสน์แทน แม้ทุกๆอย่างลุงจะเป็นคนจัดการหมดจนดูเหมือนเขาอยู่ใกล้ชิดกับลุง หากแต่แท้จริงแล้วเขากลับไม่เคยเห็นแม้แต่ใบหน้าของลุงกระทั่งรูปถ่าย ไม่เพียงแค่เรื่องนี้เรื่องเดียว ทั้งยังเรื่องพ่อแม่ของเขาอีก ที่ถามใครก็ไม่มีใครรู้นอกจากลุงเพียงคนเดียว
แต่เขาก็ไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้มากนักหรอก ที่เขาสนใจในตอนนี้ก็คือ ทำอย่างไรเขาถึงจะไม่ต้องเข้าไปร่วมในงานวันเกิดบ๊องๆของเขาที่ถูกจัดขึ้นอย่างโอ่อ่าอย่างเช่นทุกๆปี และเบอร์ลินจะต้องจับเขาแต่งตัวใส่สูทผูกไท๊ราวกับเป็นตุ๊กตาเหมือนอย่างเช่นทุกๆปี
สายลมอ่อนๆพัดผ่านผิวน้ำมากระทบยังใบหน้าของเขาจนทำให้เรือนผมสีทองที่ยุ่งอยู่แล้วยิ่งยุ่งเหยิงเข้าไปอีก กลิ่นหญ้าอ่อนๆลอยมาตามกระแสลมเข้ามากระทบกับจมูกของเขา เด็กชายคว้าก้อนหินก้อนเล็กๆข้างๆลำตัวมากำไว้ในมือก่อนที่จะโยนมันออกไป ก้อนหินกระเด้งบนผิวน้ำออกไปไกลเรื่อยๆจนจมหายไปในทะเลทราบ เขาโน้มตัวลงนอนบนพื้นหญ้านุ่มๆก่อนจะค่อยๆปิดเปลือกตาลง กลิ่นหอมๆของส้มของโปรดของเขาลอยเข้ามาเตะจมูกของเขา ก่อนที่น้ำย่อยจะเริ่มออกมาปฏิบัติการกัดกระเพาะน้อยๆของเขาจนเกินเสียงดังโครกคราก
“มานอนอยู่ทำไมตรงนี้อ่ะ แอบหนีเรียนออกมาอีกแล้วน่ะสิ รู้มั๊ยอาจารย์มารอนายนานแล้วนะ” น้ำเสียงคุ้นเคยของไวอาลีน คู่ปรับตลอดการของเขาดังขึ้น ก่อนที่ใบหน้าเนียนจะชะโงกเข้า พร้อมๆกับที่ออซลืมตาขึ้นและลุกขึ้นนั่ง เป็นเหตุให้หัวของเขาชนปั๊กเข้ากับใบหน้าของไวอาลีน
อย่างจัง
“โอ๊ยยย...!!!”
ไม่ทันจะเอ่ยปากขอโทษ ไวอาลีนก็แหกปากร้องออกมาซะลั่น จนเขาต้องยกมือขึ้นปิดปากของเธอเอาไว้ ก่อนจะส่งเสียง ชู่...
“เบาๆหน่อยสิ กลัวคนในบ้านเขาไม่รู้หรอว่าอยู่ตรงนี้น่ะ”
ออซว่าพลางปล่อยมือออก
“นายมาลองโดนเองไหมล่ะ”
ไวอาลีนตะโกนใส่หน้าของออซ จนเขาต้องยกมือขึ้นปิดปากของเธออีกครั้ง หากแต่ครั้งนี้เธอกลับใบหน้าแดงก่ำขึ้นเรื่อยๆ และพยายามจะเกะมือของเขาออก
“แหม ไม่ต้องเขินหรอก ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าเสียงดัง” เด็กสาวส่งเสียงอู๊อี้ในลำคอ ใบหน้าแดงขึ้นเรื่อยๆ
“อ๋อยอ๋ายใอไอ๋ออก”
“อะไรนะ ตะกี้เธอว่าอะไรนะ” ออซว่าพลางยกมือขึ้นป้องหูฟัง
เด็กสาวหยุดโวยวายก่อนจะเอื้อมมือมาบีบจมูกของเขาแทน ออซจึงปล่อยมือออก เด็กสาวหอบแฮกๆ ใบหน้าเริ่มกลับมาเป็นสีอมชมพูระเรื่ยดังเดิม
“นี่นายกะจะฆ่าฉันให้ตายเลยรึไง ถึงได้มาปิดปากปิดจมูกฉันซะแน่นขนาดนี้น่ะ!!!”
ไวอาลีนโวยวายอีกครั้ง ออซทำท่ายกมือขึ้นตบหูข้างขวาเบาๆ
“ฉันว่าฉันคงไม่ต้องแคะขี้หูไปอีกนานเลยล่ะ เธอเล่นตะโกนซะขี้หูของฉันเต้นระบำจนแทบจะกระโดดออกมาเต้นข้างนอกได้อยู่แล้ว”
ออซอดที่จะแซวไม่ได้ ไวอาลีนค้อนวงโตใส่ออซ
“แหม... เธอก็โดดเรียนมาเหมือนกันล่ะสิ แถมยังดูพร้อมกว่าฉันซะอีกนะเนี่ย”
ออซว่าพลางมองไปยังตะกร้าสานใบเล็กในมือของไวอาลีนที่เธอถือซ่อนมันอยู่ด้านหลัง
“จะบ้าหรอ ฉันไม่ได้โดดเรียนซะหน่อย ฉันแค่...ออกมาเดินเล่นข้างนอกเฉยๆ”
ไวอาลีนว่าไปน้ำขุ่นๆ ก่อนจะนั่งลงบนพื้นหญ้าพลางเปิดตะกร้าออก หยิบขนมปังที่ถูกทาแยมส้มจนทั่วทั้งแผ่นออกมาถือไว้ในมือ พลางทำจมูกฟุดฟิด
โครก...คราก...
ไวอาลีนชะเง้อหน้าขึ้นมองเด็กชายก่อนจะล้วงมือเข้าไปในตะกร้า และหยิบเทียนเล่มเล็กออกมาปักไว้บนขนมปัง ก่อนจะยื่นมาให้ออซ เขาเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงสงสัย
“อ่ะ สุขสันต์วันเกิด” ไวอาลีนว่า ในมือยังถือขนมปังอยู่ ใบหน้าร้อนผ่าวและเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ ก็ร้อยวันพันปีเธอจะทำดีกับสักครั้ง “ตกลงนายจะเอาไหม เค้กส้มเนี่ย ของโปรดของนายไม่ใช่หรอ”
“เนี่ยอ่ะนะ เค้กส้มของเธอ ฉันนึกว่าเธอจะเอามาให้ปลากิน” ออซว่าพลางมองไปยังขนมปังแผ่นที่ถูกทาด้วยแยมส้มและมีเทียนเล่มเล็กๆปักเอาไว้ด้านบน
“ดี ถ้านายไม่กินฉันก็จะให้ปลากินแทน” ไวอาลีนว่าพลางทำท่าจะปาขนมปังลงน้ำ
“เดี๋ยวๆ ฉันแค่ล้อเล่นเองน่า แหม คนขี้งงขนาดทะเลยังจืดอย่างเธออุส่าห์ทำขนม...เอ่อ...เค้ก มาให้ฉัน ฉันต้องกินอยู่แล้ว”
ออซกล่าวพลางหยิบขนมปังมาจากไวอาลีนมา ก่อนจะเป่าเทียนที่ปักไว้จนดับ และแบ่งออกเป็นสองส่วน ก่อนจะยื่นให้กับไวอาลีน
“ไม่เป็นไร นายกินไปเถอะ วันนี้มันวันเกิดนายนี่น่า” ไวอาลีนว่าพลางฉีกยิ้มกว้างจนรู้สึกน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก ออซยิ้มแหงๆรับไปก่อนจะค่อยๆกินมันเข้าไปอย่างหวาดระแวง
“กินไปเถอะน่า ไม่มียาพิษหรอก ฉันไม่ใช่แม่มดใจร้าย ฉันเป็นซินเดอเรล่า” ออซทำหน้าผะอืดผะอม พลางยกมือขึ้นปิดปาก ก่อนจะกลืนขนมปังชิ้นสุดท้ายลงคอไป
“อยากจะอวกแต่เสียดาย‘เค้ก’ที่เธออุส่าห์ทำ- -” ออซพูดเน้นเสียง
“คือว่าฉันมีอะไรอยากจะให้นายช่วยหน่อยอ่ะ” ไวอาลีนสวนขึ้นทันทีที่ออซกล่าวจบ
“ไม่”
“งั้นนายก็คืนเค้กฉันมาเลย” ไวอาลีนว่าพลางกระดิกนิ้ว
“งั้นเดี๋ยวฉันจะอ้วกออกมาให้เธอตอนนี้แหละ” ออซพูดพลางทำท่าจะล้วงมือเข้าปาก
“ไม่ต้องๆ พอแล้ว” ไวอาลีนพูดน้ำเสียงอ่อยๆ พลางทำหน้าอ่อยลงถนัดตา “นี่ฉันอุส่าห์อดหลับอดนอนทั้งคืนทำเค้กส้มชิ้นนี้ให้นาย แล้วนายจะทำเพื่อฉันบ้างไม่ได้เลยหรอ”
ไวอาลีนก้มหน้ากล่าวเสียงเศร้าอย่างน่าสงสาร
“อือๆ ก็ได้ อะไรล่ะ”
ออซตอบกลับไปอย่างใจอ่อน ส่วนไวอาลีนนั้นก็ฉีกยิ้มกว้างอารมณ์ดีผิดไปจากเมื่อกี้ลิบลับอย่างกับเป็นคนละคน จนเด็กชายอยากจะย้อนเวลากลับไปตบปากตัวเองซะจริงๆ
นี่แหละนะที่เรียกว่ามารยาผู้หญิง...
ความคิดเห็น