ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    He the LADY ? [STARRY✩SKY~]

    ลำดับตอนที่ #4 : HTL. ตอนที่ 4 "ความรู้สึก" ( 100%)

    • อัปเดตล่าสุด 18 พ.ย. 55


    ตอนที่ 4 ความรู้สึก

    | Miyaji talk |

     

            วันนี้ก็เป็นวันปกติของผมอีกวันนึง หลังจากเลิกเรียนผมก็รีบตรงเข้าชมรมทันที ถึงช่วงนี้จะยังไม่มีกิจกรรมหรือการแข่งขันใดๆ แต่ผมว่าการฝึกซ้อมทุกๆวันอาจจะทำให้ผมสามารถเก่งขึ้นกว่านี้ได้..

    อย่างน้อยก็มากกว่าเจ้าเด็กอัจฉริยะนั่น..

     

    “สวัสดีครับประธาน” ทันทีที่ผมเปิดประตูห้องชมรมเข้าไป ผมก็พบกับกระธานชมรมตัวสูงร่างผอมบาง นั่นคงเป็นเพราะเขาเป็นโรคเกี่ยวกับกระเพาะอาหารทำให้เขาดูซูบผอมไปอย่างผิดปกติ แต่ถึงอย่างนั้นเค้าก็เป็นประธานชมรมที่ทุกคนนับถือ รวมถึงตัวผมเองด้วย

    “อ้าว.. มิยาจิคุง วันนี้มาเร็วนะ” ประธานหันมายิ้มให้ผมที่กำลังวางกระเป๋าเพื่อที่จะเปลี่ยนชุดเข้าซ้อมเหมือนทุกวันที่เคยทำ

    “ครับ  พอดีคาบสุดท้ายอาจารย์ไม่เข้าสอน”

    “ดีจังเลยนะ..” ผมเหลือบมองประธานที่มีน้ำสียงเศร้าลงเล็กน้อย จนผมต้องเลิกคิ้วมองอย่างสงสัย

    “มีอะไรรึเปล่าครับ?”

    “เปล่าหรอก.. แค่ร็สึกว่า 3 วันมานี่ ชมรมเราดูเงียบเหงาจริงๆ”พูดจบประธานก็หันมายิ้มให้ผมเหมือนเดิม จะว่าไปพักนี้ชมรมเราดูเงียบมาก เพราะเจ้าเพื่อนตัวดีทั้ง 3 คนของผม มันนัดกันโดดเรียนไปเที่ยวที่โอกินาว่า และแน่นอนมันชวนผมไปด้วย แต่ผมไม่ชอบไปสถานที่ที่คนพลุกพล่านเลยปฎิเสธมันไป ส่วนอีกคนที่ทำให้ชมรมวุ่นวาย.. เจ้าคิโนเสะ อาสึสะ กลับหายตัวไปโดยที่ไม่มีใครทราบเหตุผล แต่มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับผมอยู่แล้ว จะให้ไปถามกับพวกเพื่อนของเจ้านั่นก็ใช่เรื่อง ผมคิดเรื่อยเปื่อนถึงเรื่องของเจ้าเด็กอัจฉริยะจอมป่วนคนนี้ ไม่รู้ทำไมถึงหายไปไม่บอกไม่กล่าว ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิดใจ จะว่าไปเจ้านั่นเหมือนจะมีเพื่อนสนิทอยุ่นี่นา เอาน่า.. ถึงยังไงเราก็เป็นรุ่นพี่ที่ชมรม มีสิทธิ์ที่จะรู้เรื่องของสมาชิกอยู่แล้วนี่นา

    “จะไปไหนหรอ?” ประธานเอ่ยถามขึ้นเมื่อผมทำท่าจะเปิดประตูห้องชมรมออก

    “ก็เจ้าคิโนเสะไม่มาชมรม 3 วันแล้ว ผมว่าจะไปถามเพื่อนเจ้าหมอนั่นซักหน่อย

    “เป็นห่วงเค้าเหรอ?”คำถามนี้ทำผมอึ้งไปสักพัก เป็นห่วงหรอ?...ผมไม่ได้เป็นห่วงสักหน่อย ก็แค่เด็กมีปัญหาที่หายตัวไปจากชมรม ดีซะอีกชมรมจะไปเงียบสงบเหมือนเดิมสักที แต่ถึงผมจะคิดแบบนั้นอีกใจนึงกลับปฎิเสธว่าผมไม่ได้คิดแบบนั้นจริงๆ ที่จริงแล้วผมเองก็รู้สึกเหงาขึ้นมานิดหน่อย.. แค่นิดหน่อยเท่านั้น.. ก็ถ้าเจ้ารุ่นน้องคนนี้ไม่อยู่ ผมก็ไม่มีใครให้คอยดุ ให้คอยว่ากล่าวตักเตือนและคอยเถียงผมนี่นา.. มันดูเงียบไปจนผมรู้สึกอึดอัดบอกไม่ถูก..

    ผมยิ้มบางๆกับตัวเองก่อนจะหันไปพูดกับรุ่นพี่ประธานชมรมคนนี้

    “ป่าวเลยครับ ก็แค่ทำตัวไม่เหมาะสมกับชมรม และกับตัวประธานเองด้วย..” และไม่รู้ว่าผมพูดอะไรผิดไปรึเปล่า เพราะประธานกลับยิ้มให้ผมอย่างเอ็นดูพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    “ฮ่ะๆๆ ถ้าเป็นเรื่องคิโนเสะคุงละก็ ผมรู้แล้วล่ะว่าเค้าหายไปไหน?” ผมรีบเงยหน้าขึ้นมองประธานอย่างสงสัยบวกกับความอยากรู้ แต่มันคงจะมากเกินไปจนประธานต้องหลุดหัวเราะออกมากับสีหน้าประหลาดๆของผม จนผมต้องกระแอมออกมาเล็กน้อยแล้วเสหน้ามองทางอื่นแทน

    “ง..งั้นเหรอครับ?”

    “อื้ม  เห็นอาจารย์โคทาโร่บอกว่าเค้าไม่สบายน่ะนะ ผมก็เลยว่าจะพาสมาชิกชมรมไปเยี่ยม แต่อาจารย์บอกห้ามไว้ เพราะอยากให้เค้าพักผ่อนเงียบๆมากกว่า”

    “หืม?.. คนบ้าก็ป่วยเป็นนะครับ?” ผมพูดพลางยิ้มออกมาบางๆ ไม่น่าเชื่อว่าเจ้านั่นจะป่วยเป็นด้วย จะไปเยี่ยมสักหน่อยดีมั๊ยนะ? แต่ถ้าอาจารย์ห้ามไว้ก็อย่าเลยดีกว่า อีกอย่าง ถ้าผมไปเยี่ยมก็แสดงว่าผมเป็นห่วงเจ้าเด็กนั่นจริงๆสิ..

    “อย่าพูดแบบนั้นสิ ฮ่ะๆๆๆ”

    “งั้นเดี๋ยวผมไปมานะครับประธาน” ประธานพยักหน้าแทนคำตอบ ก่อนผมจะเดินออกมาจากห้องชมรมพร้อมกับครุ่นคิดถึงคำพูดของประธาน

    ป่วยงั้นหรอ? ป่วยจริงหรือป่วยการเมืองกันแน่ ถ้านายไม่มาบอกกับชั้นด้วยตัวเอง ชั้นก็จะไปถามเพื่อนสนิทคนเดียวของนายให้ได้ยินกับหูเองเลยละกัน คิโนเสะ อาซึสะ


    | Miyaji talk end |

     

     

    “อาซึส่าาาาา า!!” ทันทีที่สิ้นเสียงใสจากเด็กหนุ่มร่างสูงผมสีม่วงอ่อน ก็ประกฎร่างของเด็กสาวร่างเล็กคนนึงรีบวิ่งเข้าไปล็อคคอร่างสูงลงมาอย่างรีบร้อน ทำเอาเด็กหนุ่มแทบจะล้มทับร่างเด็กสาวกันเลยทีเดียว

    “จะบ้าหรอ!? เดี๋ยวคนอื่นก็รู้กันหมดสิ!”เด็กสาวกระซิบกระซาบกับเด็กหนุ่มที่ดูเหมือนจะเผลอทำเรื่องต้องห้ามสำหรับพวกเค้าทั้ง 2 คนไปซะแล้ว เด็กหนุ่มได้แต่ยิ้มแห้งๆพลางลอบมองหน้าเด็กสาวที่อยู่ในระยะประชิด แล้วอมยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว

    “ขอโทษน้า อาซึนะจังง นุ ฮ่ะฮ่าๆๆ ” สึบาสะพูดล้อเลียนชื่อใหม่ที่ไฉไลกว่าเก่า(?)ของอาซึสะ ทำเอาอาซึสะขมวดคิ้วมองอย่างไม่ค่อยพอใจกับชื่อนี้เท่าไหร่ ก่อนจะปล่อยแขนที่ล็อคคออีกคนออกเมื่อรู้สึกว่าสายตาคนรอบข้างเริ่มมองมาที่พวกเค้ากันเป็นตาเดียว

     

     

    หรือเพราะเค้ารู้สึกหวั่นไหวกับใบหน้าเพื่อนสนิทคนนี้กันแน่นะ?

     

    “ช่างเถอะ.. ว่าแต่นายจะกลับหอเลยรึเปล่า??”

    “ก็อยากกลับนะ แต่ต้องไปห้องสภานักเรียนก่อนน่ะสิ” ร่างสูงยักไหล่

    “งั้นชั้นไปรอที่เดิมนะ”

    “อื้อ.. ระวังตัวนะ อาซึสะ..” ร่างเล็กถึงกับอึกอักเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าอีกคนทำหน้าจริงจังอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน น้ำเสียงและสายตา มันช่างบ่งบอกว่าเค้าเป็นห่วงเพื่อนสนิทคนนี้มากจริงๆ เพราะเค้าทำให้อีกคนต้องเจอกับเรื่องแบบนี้ อาซึสะได้รับการช่วยเหลือจากอาจารย์คนอื่นๆเพราะเค้าเป็นคนเรียนดี และสร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนด้วยความอัจฉริยะของเค้า จึงไม่แปลกใจเลยที่อาจารย์จะช่วยเหลืออย่างเต็มที่เป็นการตอบแทน

    ตอนนี้อาซึสะต้องไปเรียนร่วมกับปี 2 ด้วยเหตุผลที่ว่า ถ้าเรียนห้องเดิมพวกเพื่อนๆในห้องต้องจับพิรุธเค้าได้แน่ๆ แต่ที่ไม่ดีอย่างนึงคือ เค้ากับสึบาสะจะมีเวลาอยู่ด้วยกันน้อยลง มีแค่เวลาพักกับเวลาเลิกเรียนก็เท่านั้น

    “นายก็ขี้กังวลเกินไปแล้ว อีกอย่างชั้นน่ะนะ..”

    “อามาฮะ” ยังไม่ทันที่อาซึสะจะพูดจบ เสียงของคนๆนึงที่ทำให้เค้าต้องรีบหันหลังไปดูก็ดังขึ้น ร่างเล็กสะดุ้งเฮือกก่อนจะวิ่งไปหลบหลังสึบาสะที่มองเจ้าของเสียงอย่างงงๆ โดยที่ไม่ลืมจะยกแขนบังร่างเพื่อนรักไว้เมื่อเห็นชายหนุ่มตรงหน้ามองเด็กสาวอย่างไม่วางตา

    “มีอะไรเหรอรุ่นพี่มิยาจิ???” สึบาสะเอ่ยถาม

    “ชั้นจะมาถามนายว่า คิโนะเสะป่วยเป็นอะไร? ทำไมถึงไม่บอกกล่าวชั้นที่เป็นรุ่นพี่ในชมรมบ้าง จะอวดดีเกินไปแล้ว”

    “แค่รู้ว่าเค้าป่วยก็พอมั้ง? รุ่นพี่ในชมรมไม่ใช่ประธานสักหน่อย ไม่เห็นจำเป็นต้องรู้มากขนาดนั้นเลยนี่นา?” สึบาสะเริ่มขมวดคิ้วไม่พอใจ เช่นเดียวกับหนุ่มรุ่นพี่ที่เริ่มไม่พอใจในคำพูดของรุ่นน้องคนนี้เหมือนกัน อาซึสะได้แต่แอบมองอยู่เงียบๆเมื่อรู้สึกบรรยากาศเริ่มมาคุมากขึ้นทุกทีๆ

    “อย่างน้อยชั้นก็เป็นรุ่นพี่ในชมรมและอนาคตประธานชมรม ทำไมถึงจะไม่มีสิทธ์รู้?”

    “ชอบอาซึสะรึไง?” สึบาสะถามเสียงเรียบ พลางกำมือแน่นเมื่อเห็นใบหน้าของรุ่นพี่คนนี้ขึ้นสีจางๆแล้วยืนเกาท้ายทอย ซึ่งเขาไม่รู้เลยว่าการแสดงออกแบบนี้ทำให้สึบาสะรู้สึกไม่พอใจมากแค่ไหน ส่วนอาซึสะที่เห็นการกระทำนั้น จู่ๆก็หน้าแดงขึ้นมาเพราะไม่คิดว่าสึบาสะจะกล้าถามแบบนี้ และคิดไม่ถึงด้วยว่ารุ่นพี่จอมเข้มงวดคนนั้นจะแสดงอาการแบบนี้ออกมา

    “ก..ก็ป่าวก็แค่..” ยังไม่ทันที่มิยาจิจะพูดจบ เด็กสาวที่หลบหลังอยู่ก็ออกมายืนประจันหน้าพลางเงยหน้ามองด้วยสายตาที่สับสน ก่อนจะโค้งให้กับเขาทันที

    “พอดีพวกเราต้องรีบไปค่ะ ขอโทษนะคะรุ่นพี่” พูดจบเด็กสาวก็รีบจับข้อมือเด็กหนุ่มที่กำลังอารมณ์ไม่ดีเดินออกห่างจากรุ่นพี่คนนั้นทันที แต่ยังเดินไปได้ไม่กี่ก้าว เธอก็ถูกมือหนาจับข้อมือไว้ให้หันกลับไปมอง

    “เธอ.. ชื่ออะไรเหรอ?” มิยาจิถามพลางจับข้อมือเล็กแน่นราวกับว่ากลังร่างเล็กตรงหน้าจะสะบัดมือของเค้าออก เด็กสาวยิ้มบางๆก่อนจะถูกมืออีกข้างของเพื่อนสนิทอย่างสึบาสะปิดปากไว้ทันที สึบาสะเหลือบตามองรุ่นพี่คนนี้ที่ถือวิสาสะจับมือคนสำคัญของเค้าอย่างไม่พอใจ

    “เธอเป็นของผม.. รุ่นพี่ไม่ต้องรู้หรอกว่าเธอชื่ออะไร รู้ไว้อย่างเดียวพอ.. ว่าอย่ามายุ่งกับเธออีก” เค้าเน้นประโยคหลังอย่างหนักแน่นด้วยสีหน้าจริงจังแต่นั่นกลับไม่ทำให้หนุ่มรุ่นพี่หวาดหวั่นแม้แต่น้อย

    “งั้นชั้นจะหาคำตอบเอง ทั้งชื่อของเธอคนนี้ แล้วก็..”

    “....”

    “ความจริงของการหายตัวไป ของคิโนเสะ อาซึสะ”พูดจบมิยาจิก็ค่อยๆปล่อยข้อมือของเด็กสาวออกช้าๆ แล้วเดินจากไป สึบาสะกำมือแน่นอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะเป็นฝ่ายจับข้อมืออาซึสะแล้วรีบเดินออกไปจากที่ตรงนั้นทันที

    “ส..สึบาสะ แล้วสภานักเรียน..”

    “ไม่ไปแล้ว ไม่มีอารมณ์” อาซึสะเหลือบมองโครงหน้าด้านหลังของเพื่อนสนิทอย่างไม่เข้าใจ แต่ที่เค้ารู้แน่ๆคือสึบาสะกำลังโกรธคำพูดของรุ่นพี่คนนั้นมากๆ เพราะแรงมือที่จับข้อมือของเค้าอยู่จนเค้าเริ่มรู้สึกเจ็บขึ้นมา

    “สึบาสะ! ชั้นเจ็บนะ! ปล่อยสิ!!” ร่างสูงยังคงไม่ฟังเสียงของเด็กสาว เค้าจับข้อมือแน่นขึ้นแล้วรีบเดินตรงไปยังหอพักของเค้าอย่างรีบเร่ง เค้ากำลังรู้สึกโกรธ โกรธมาก ที่มีคนมาวุ่นวายกับอาซึสะของเค้า เค้าไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงโกรธขนาดนี้ ไม่เข้าใจอะไรเลย แต่ยังไงที่เค้ารู้ตอนนี้คือ จะไม่ยอมปล่อยให้อาซึสะให้ไปเป็นของใครแน่ๆ

    ร่างสูงพาร่างเล็กขึ้นมาถึงห้องของตนก่อนจะผลักอีกคนเข้าห้องแล้วปิดประตูล็อคทันที อาซึสะที่เริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาได้แต่ก้าวเท้าถอยห่างจากคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนสนิทคนนี้ สึบาสะมีสีหน้าเจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัด เค้ายีผมสีม่วงอ่อนของตัวเองอย่างสับสนจนกิ๊บที่เสยผมด้านหน้าของเค้าหลุดร่วงลงไป เส้นผมด้านหน้าเริ่มหลุดลงมาปิดหน้าของเค้า อาซึสะมองเพื่อนสนิทที่นิ่งเงียบไม่พูดะไร ก่อนจะค่อยๆเดินเข้าไปหา เค้ารู้สึกไม่พอใจตัวเองที่เมื่อกี้รู้สึกกลัวสึบาสะขึ้นมา เพราะต้นเหตุที่ทำให้สึบาสะต้องเป็นแบบนี้ก็คือเค้าเองแท้ๆ

    “สึบาสะ..” เด็กสาวยกมือเกลี่ยผมด้านหน้าที่ปรกหน้าเพื่อนรักออก สีหน้าสับสนกับดวงตาที่สั่นไหวปรากฎขึ้นในสายตาเค้าทันที”

    “....”

    “...อย่าอารมณ์เสียไปเลยนะ รุ่นพี่คนนั้นก็ชอบกวนประสาทแบบนี้แหละ”

    “......”

    “...นะ?”

    ร่างสูงจับมือเล็กขึ้นทาบแก้มตัวเองแล้ววางมือทับที่หลังมือเล็กนั้นอีกที ร่างเล็กหน้าเริ่มขึ้นสีระเรื่อเมื่อสบตากับอีกฝ่ายที่อยู่ระยะระชิด สายตาของร่างสูงที่มองมาที่เค้า ทำเค้าใจเริ่มสั่นจนต้องหันหน้าหนีทันที

    “อาซึสะ.. ชั้นพูดจริงๆนะ...” เสียงนุ่มทุ้มดังขึ้นจนเค้าต้องหันกลับไปมองอีกครั้ง

    “อ.. อะไรหรอ?..”

    “ชั้นไม่ชอบใจเลย.. ไม่อยากให้ใครมายุ่งกับนายเลย.. อาซึสะ” พูดจบสึบาสะก็รั้งร่างอีกคนเข้ามากอดไว้ทันที ร่างเล็กได้แต่เบิกตาอย่างตกใจ หัวใจของเค้ากระตุกเต้นแรงขึ้นจนได้ยินเสียงดังประสานไปกับเสียงหัวใจของอีกคนที่เต้นในจังหวะเดียวกันกับเค้า เด็กสาวค่อยๆยกแขนขึ้นกระชับกอดตอบ ใบหน้าหวานซุกลงซบกับไหล่อุ่น นี่คงเป็นครั้งแรกที่เค้าได้กอดกับสึบาสะแบบนี้ และนี่คงเป็นครั้งแรกที่เค้ารู้สึกมีความสุขมากขนาดนี้..

    สึบาสะลอบยิ้มบางๆก่อนจะคลายกอดออกแล้วเปลี่ยนเป็นประคองโครงหน้าเรียวให้ขึ้นมาสบตากับเค้าแทน

    “ค.. ใครจะกล้ามายุ่งกับชั้นล่ะ ไม่มีหรอกน่า”

    “ถึงมีชั้นก็ไม่ยอม..” สายตาทั้ง 2 ต่างจดจ้องเข้าไปที่นัยน์ตาของอีกฝ่าย เสียงลมหายใจที่เริ่มติดขัดเพราะความตื่นเต้นเช่นเดียวกับแก้มที่ขึ้นสีแดงจัด มือหนาประคองโครงหน้าเรียวไว้ให้มั่นก่อนจะค่อยๆโน้มหน้าลงจนปลายจมูกแตะกัน ร่างเล็กเบิกตามองอย่างตกใจ เค้าอายจนอยากจะผละตัวหนีออกไปแต่กลับทำไม่ได้ เลยได้แต่พยายามผละหน้าออกห่างอย่างประหม่า

    “ส..สึบาสะ....” เสียงหวานร้องเรียกขึ้นมาเมื่อร่างสูงใช้อกแกร่งเบียดจนร่างเล็กชิดผนังห้อง ปลายจมูกโด่งกดลงที่แก้มนุ่มที่ตอนนี้ขึ้นสีแดงก่ำเบาๆอย่างถนุถนอม มือเล็กได้แต่ยกขึ้นยันอกแกร่งที่อยู่ประชิดกับหน้าอกของเค้าจนรู้สึกอึดอัด แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ร่างสูงหยุดการกระทำเลยสักนิด มือหนาข้างนึงลดลงลูบไหล่เล็กเบาๆ พลางเอียงคอเล็กน้อย ร่างบางเห็นดังนั้นเลยรีบหลับตาแน่นเพราะการกระทำของอีกฝ่ายทำเอาเค้าแทบคลั่งปล่อยให้เสียงหัวใจเต้นรัวขึ้นอย่างห้ามไม่ได้ ร่างสูงลอบยิ้มมุมปากออกมาก่อนจะจุ๊บเบาๆที่ปลายจมูกรั้น ทำเอาอาซึสะหน้าเหวอเพราะคิดว่าอีกคนจะจูบเค้าซะอีก

    “นึกว่าชั้นจะจูบเหรอออ ?” สึบาสะทำหน้าทะเล้นทำเอาอาซึสะหน้าแดงก่ำแล้วรีบทุบไหล่อีกคนแก้เขินเมื่อเขารู้ทันความคิดของตัวเอง

    “บ้า!! ชั้นไม่ได้คิดซะหน่อยนะ..”

    “ก็หน้านายกำลังบอกว่าคิดนี่นา นุฮ่ะฮ่ะฮ่า ~” ร่างสูงถือวิสาสะหยิกแก้มอีกคนเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว ทำเองร่างเล็กกว่าช้อนตาขึ้นมองค้อนอย่างเคืองๆพร้อมแก้มที่ขึ้นสีระเรื่ออยู่

    “ม.. ไม่ใช่สักหน่อย!! นายนี่มันแย่จริงๆเลย!!” ร่างเล็กแหวใส่พลางผลักอีกคนให้ออกห่างจากตัว แต่กลับถูกรวบเข้าไปกอดไว้อีกครั้ง

    “เธอนี่น่ารักจริงน้า ~ เอ๊ะ?? ต้องนายสิเนอะ??”

    “หยะ..หยุดพูดไปเลยนะ เจ้าบ้านี่!!” สึบาสะเลิกคิ้วมองอาซึสะที่กำลังจะพยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมแขนของเค้าอยู่แล้วรอยยิ้มก็ปรากฎขึ้นบนหน้าของเค้าอีกครั้งเมื่อนึกอะไรขึ้นได้ โดยที่ร่างเล็กไม่ทันตั้งตัว เค้าก็ก้มลงช้อนตัวบางขึ้นมาแนบอกทันที

    “ปากร้ายจังเลย.. เดี๋ยวจะทำให้ร้องไม่ออกเลยล่ะ..” อาซึสะถึงกับหน้าเหวออีกครั้ง มือเล็กทุบไหล่อีกคนเป็นพัลวันเมื่อได้ยินอีกคนพูดแบบนั้นพร้อมกับพาร่างของเค้าตรงไปที่เตียงนอน สึบาสะวางร่างเด็กสาวลงบนเตียงก่อนจะขึ้นคร่อมไว้ไม่ให้หนี

    “อ.. อย่านะสึบาสะ !!! นายจะทำอะไรน่ะ!! ไม่นะ!!!!!~

     

     

     

     

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ตัดจบ -  -. (โดนตบ)

    มาต่อครบ 100%แล้วนา ฟินคู่นี้อย่างแรงกล้า 55555555555

    อ่ะๆ เดี๋ยวมีมิยาจิกับอาซึสะด้วย เขินรอ -*- (ผิด)

    ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะฮั๊บบ !

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×