ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ...คือเธอเท่านั้น... (นากาโอกะ มิยู x มิยาชิตะ ฮารุกะ)

    ลำดับตอนที่ #6 : พรสวรรค์

    • อัปเดตล่าสุด 30 ม.ค. 57


    ตอนที่6 พรสวรรค์

    หลังจากเลิกซ้อมตอนเย็น มิยูกลับมาที่ห้องพร้อมการตัดสินใจที่จะปิดผนึกความทรงจำร่วมกัน ฮารุกะจำไม่ได้และไม่อยากจดจำเพราะเรื่องราวเลวร้าย เขาก็ไม่อยากให้น้องต้องทรมานด้วยการรื้อฟื้นความทรงจำเช่นกัน ถึงแม้ความทรงจำนั้นจะมีค่ากับเขามากแค่ไหน เขาขอเก็บมันไว้คนเดียวก็พอ  มือแกร่งเริ่มเก็บของทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับความทรงจำวัยเด็กระหว่างเขากับฮารุกะลงกล่อง สมุดบันทึกของฮารุกะ สามเล่มตั้งแต่ตอนที่เจอกันเขาในวัย5 ขวบไปจนถึงวันที่...ลืมเขา...ในอีกสองปีต่อมา

    "ทำอะไรอ่ะมิยู"ยูกิที่ออกมาจากห้องน้ำเอ่ยถามอย่างสงสัย เพราะเห็นเพื่อนกำลังเก็บของบางอย่างลงกล่อง

    "เปล่าหรอกแค่จัดของให้เข้าที่นะ"มิยูตอบแบบขอไปที

    "ไม่เชื่อ!!"ยูกิตอบกลับทันทีเพราะสิ่งที่เธอเห็นคือมิยูกำลังถอดสร้อยที่ใส่ติดตัวตลอดเวลาพร้อมทั้งนกกระเรียนกระดาษลงกล่อง

    "ของที่แกติดตัวตลอดเวลากับของที่ไม่เคยให้ห่างจากสายตา แกจะให้ฉันเชื่อเหรอที่แกเก็บของพวกนี้ลงกล่องเพราะแค่จัดของให้เข้าที่น่ะ"

    "อะไรกันอ่ะ เสียงดังเชียว"ชิสึรุกับตามด้วย นานะ ฮิราอิ ริสะ เดินตามกันเข้ามาภายในห้อง

    "โห้...แล้วนี่มิยูแกจะย้ายบ้านเหรอค้นไรว่ะ รกไปหมด" ริสะถามตาโต

    "...."ไม่มีคำตอบจากมิยูมีเพียงกุกกัก ๆ เพราะมือแกร่งยังลงมือเก็บของอยู่จนมิยูส่งกล่องที่เก็บเสร็จแล้วไปไว้ที่ใต้เตียง และเพื่อน ๆ ก็พร้อมใจกันเงียบเพื่อรอให้มิยูเก็บของให้เสร็จเรียบร้อย

    "ป่ะ" มิยูเอ่ยชวน

    "ไปไหน" ยูกิถามงง ๆ

    "ไปหาน้องไง เด็กดื้อนั่นบอกให้พักผ่อนก็ไม่ยอมดื้อจะไปทำงานตั้งแต่เช้า แล้วดูซิโค้ชก็ให้ซ้อมตั้งแต่เช้ายันเย็นแทบไม่มีเวลาพัก ไม่รู้ป่านนี้เป็นไงบ้าง ปล่อยไว้กับพี่ไอริ ไม่รู้โดนดุอะไรอีกมั๊ย"พูดจบก็เดินนำออกไป ทุกคนได้แต่มองหน้ากันพร้อมสายตาที่สบกันเป็นการตั้งคำถามว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ก็ได้เพียงการส่ายหน้าจากทุก ๆ เป็นคำตอบว่า ก็ไม่รู้เหมือนกัน

     

     

    พรึ่บ!!!

    "อะไรกันค่ะ พี่ไอริ" ฮารุกะทำหน้างง ๆ เมื่อกลับเข้ามาภายในห้องพัก รุ่นพี่ไอริก็หอบเสื้อผ้าของเธอออกมากองไว้ตรงหน้า

    "ฮึ...มาอยู่ที่นี่ไม่เท่าไหร่....มีคนคุ้มกะลาหัวแล้วนิ....ทั้งกัปตัน...ทั้งดาวเด่นของทีม...ทั้งพวกตัวจริงดีกรีทีมชาติทั้งหลาย...ก็ไปอยู่กับพวกนั้นนู่น...จะร้องแรกแหกกระเชอกลางดึกกลางดื่นจะได้ไม่ต้องมากวนฉัน"ไอริท้าวสะเอวแหวออกมา

    "เรื่องนั้นหนูขอโทษนะคะ รุ่นพี่...ตะ...แต่หนูมีเหตุ..."

    "จะมีเหตุอะไรมันก็เรื่องของเธอ...ไม่เกี่ยวกับฉัน"ไอริพูดตัดขึ้นอย่างไม่ฟังเหตุผลของฮารุกะพร้อมทั้งหอบเอาเสื้อผ้าของฮารุกะขึ้นมาไว้มือหนึ่งส่วนอีกมือดึงแขนฮารุกะให้เดินตามออกมาก่อนจะเอาเสื้อผ้าของอารุกะมากองไว้ตรงหน้าห้องพร้อมทั้งเหวี่ยงตัวฮารุกะให้ออกจากห้อง โชคดีที่ร่างบางของฮารุกะถูกมิยูรับไว้ทันก่อนที่จะล้มไปกระแทกกับพื้น

    "นี่มันอะไรกันพี่ไอริ!!!"ชิสึรุถามขึ้น

    "อ๋อ...มาก็ดี ช่วยหาห้องให้น้องเด็กฝึกงานเนี่ยอยู่ใหม่ด้วยนะกัปตัน ตอนกลางค่ำกลางคืนจะได้ไม่ต้องรบกวนคนอื่น"ไอริที่เห็นพวกมิยูมาถึงพอดีก็เปิดฉากใส่ ชิสึรุหันไปมองฮารุกะที่เอาตัวเองออกจากอ้อมแขนของมิยูก่อนจะลงไปนั่งคลุกเข่าเก็บเสื้อผ้าของตัวเองที่อยู่บนพื้นโดยมียูกิและมิยูช่วยอยู่

    "นี่มันเป็นหอพักสโมสร พี่ไม่มีสิทธิ์ทำอะไรตามใจชอบ ไม่มีสิทธิ์ไล่ใครไปอยู่ที่ไหนได้ทั้งนั้น"นานะพูด

    “แต่ฉันจะไม่ทนกับการต้องถูกรบกวนเวลานอนกลางดึก เพราะเสียงร้องกริ๊ด ๆ ของยัยนี่แน่ ๆ”

    “เราก็จะไม่ทนให้พี่ทำอะไรตัวเล็กของเราอีกแน่ ๆ”ยูกิเอ่ยขึ้น

    “เอาเป็นว่าเรื่องนี้ พี่ไปคุยกับโค้ชเอาล่ะกัน  เดี๋ยวฉันจะไปบอกโค้ชให้”ชิสึรุตัดบท แต่ก่อนที่จะได้เดินไปมือเรียวของฮารุกะก็คว้าแขนไว้

    “รุ่นพี่คะ”ชิสึรุหันมามองฮารุกะ

    “หนูไม่อยากให้มันเป็นเรื่องใหญ่...พี่อย่าบอกโค้ชเลยนะคะ...หนูอยู่ห้องอื่นก็ได้”

    “ถึงตัวเล็กจะอยากอยู่ห้องเดิมพี่ก็ไม่ยอมเด็ดขาด”มิยูแทรกขึ้น

    “กับคนแบบนี้ อยู่ไปตัวเล็กอึดอัดแย่ หาห้องอื่นอยู่นะดีแล้ว...ความจริงไปอยู่ห้องพวกพี่ก็ได้นะ”ยูกิสนับสนุน

    “แต่หนูไม่อยากรบกวน....”

    “แค่นี้กวนอะไร...มีแต่คนเต็มใจให้อยู่ล่ะไม่ว่า...จริงมั๊ยมิยู”ยูกิยักคิ้วกวน ๆ ส่งสายตาไปทางมิยูก่อนจะเอ่ยต่อ

    “เอาเป็นว่าอยู่ห้องพี่นี่แหละ ดีกว่าล้านเท่าเชื่อพี่ ๆ ไปกัน ๆ”พูดจบก็ดันหลังฮารุกะเข้าห้องตัวเองที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เมื่อประตูปิดลงมิยูหันมามองไอริที่ยืนกอดอกอยู่ก่อนที่จะเดินเข้าไปกระซิบใกล้ ๆ

    “หวังว่านี้คงจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันเห็นพี่ทำฮารุกะเจ็บ...เพราะถ้ามีครั้งต่อไปฉันคงจะไม่อยู่เฉยๆแน่”

    “ทำไม...เธอจะทำอะไรฉันได้”ไอริท้าทาย

    “อย่างน้อยแค่เสมอตัว...อย่างมาก...ภาวนาว่าอย่าให้พี่ได้รู้เถอะ”มิยูตอบกลับ

    “นี่ขู่ฉันเหรอ!!!”ไอริแหวใส่

    “ขู่...เป็นคำใช้ของพวกที่ดีแต่ปาก ซึ่งนั้นไม่ใช่ฉัน...ขอเตือนพี่นะพี่ไอริ...ถ้าแตะน้องให้เจ็บหรือเพียงแค่รอยขวนอีกครั้ง...ฉันจะไม่ทนอีกต่อไป!!!

    “เอ่อ...คือ...หนูขอโทษแทนพี่สาวหนูด้วยนะคะ รุ่นพี่...พี่ไอริมานี่เลย”เซโกะน้องสาวแท้ ๆ ของไอริที่พ่วงตำแหน่งตัวเซตสำรองทีมสปริงค์เอ่ยขึ้นก่อนที่จะกระซิบเบา ๆ กับพี่สาวในประโยคสุดท้าย

    “ความจริง...พี่ไอริเขาแค่หงุดหงิดเพราะนอนไม่พอหนะค่ะ...คะ...คือความจริงให้น้องฝึกงานคนนั้นกลับมาอยู่ที่ห้องนี้ก็ได้นะคะรุ่นพี่...พี่ไอริเขาก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ...แหะ ๆ อารมณ์แปรปรวนนิดหน่อย...ตะ...แต่รับรองเลยนะคะว่าพี่ไอริไม่ได้คิดอะไรอย่างที่พูดหรอกค่ะ แต่กำลังหงุดหงิดเฉย ๆ...ดะ...เดี๋ยวหนูไปช่วยเก็บของน้องฝึกงานกลับมาห้องเดิมแล้วกันนะคะ”เซโกะพูดก่อนที่จะเดินไปทางห้องของมิยูและยูกิ

    “ไม่ต้องหรอก...เพราะพี่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่พี่สาวเราจะหงุดหงิดขึ้นมาอีก...ฮารุกะไม่ใช่ที่ระบายอารมณ์ของใคร”มิยูพูดจบก็เดินเข้าห้องไป ก่อนที่เซโกะจะหันมาแหวใส่พี่สาว

    “พี่นะพี่...ทำอะไรเนี่ยรู้ตัวหรือเปล่า พี่มิยูยิ่งสนใจยัยเด็กนั่นอยู่ พี่ยังไล่มัน...ให้มันได้มีโอกาสไปอยู่ห้องเดียวกับรุ่นพี่ อยู่ใกล้ ๆ รุ่นพี่ โอ๊ยยยย!!!”เซโกะเอามือยี้หัวตัวเองอย่างระบายอารมณ์

    “นี่!!!ยัยเซโกะ...แกไม่เห็นเหรอ...มันแทบจะกินหัวฉันอยู่แล้ว แกยังไปคลั่งไคล้อะไรมันอยู่ได้...พี่แกยืนหัวโด่อยู่เนี่ยเห็นหัวบ้างมั๊ย”ไอริแหวกลับ

    “ไม่รู้แหละ ฉันไม่ยอมให้มันได้พี่มิยูไปเด็ดขาด...พี่มิยูต้องเป็นของฉัน”เซโกะพูดอย่างมาดมั่น

    “เหอะ ๆ ยัยมิยูต้องเป็นของแก... แกนะ...แค่สนิทกับยัยนั้นจนสามารถเรียกเขาว่ามิยูได้ต่อหน้าก่อนดีมั๊ย แล้วแกค่อยคิดเรื่องอื่น อีกอย่างมัวแต่สนใจเรื่องอื่นเมื่อไหร่ฝีมือแกจะพัฒนาพอที่จะลงตัวจริงแทนยัยกัปตันนั่นห๊ะ!!อยากเป็นตัวสำรองตลอดไปหรือไง”ไอริเดินส่ายหัวเขาห้องไป

    “โถ่เอ๊ย เรื่องนั่นฉันก็พยายามอยู่แหละหน่า คิดว่าการเป็นตัวจริงมันง่ายหรือไง”เซโกะบ่นเบา ๆ ตามหลังพี่สาวไป

     

     

    เฮ้อออ...ฮารุกะนั่งถอดใจยาว ๆ หลังจากที่พวกรุ่นพี่ทะเลาะกับพี่ไอริเช้าวันนี้เธอฝึกงานด้วยความรู้สึกค่อนข้างอึดอัดโชคดีที่อย่างน้อยพี่ไอริก็ยังมืออาชีพพอที่จะไม่เอาเรื่องส่วนตัวมารวมกับเรื่องงาน ถึงแม้การสอนจะที่การกระแทกกระทั้นจากคำพูดบ้างก็เถอะ แต่ถึงยังไงเธอก็ไม่สบายใจอยู่ดี สุดท้ายแล้วก็เป็นเธอเองที่ก่อเรื่องยุ่งจนพี่ ๆต้องทะเลาะกันแบบนี้

    “เป็นอะไรไปฮารุกะจัง”นานะที่เห็นฮารุกะนั่งซึมมาได้สักพักก็เอ่ยถาม

    “อ๋อ...เปล่าหรอกค่ะ แค่...คิดอะไรเรื่อยเปื่อย”

    “หึหึ...ตัวเล็ก..รู้ตัวรึเปล่า...เราน่ะโกหกไม่เก่งเลย”นานะที่พอจะมองออกว่าฮารุกะคงกลุ้มใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานเอ่ยขึ้น

    “อย่าคิดมากเลยค่ะ...นี่ ๆ พวกพี่กำลังแบ่งทีมซ้อมวอลเล่ย์กันเล่น ๆ ฮารุกะลองดูมั๊ย”นานะชวนพร้อมดึงแขนฮารุกะให้ลุกขึ้น ก่อนที่ฮารุกะจะส่ายหัวพร้อมปฏิเสธ

    “หนูเล่นไม่เป็นหรอกค่ะพี่นานะ ไม่เคยเล่นสักที”

    “อะไร...ไม่จริงหรอก...ก็มิยู...”

    “เฮ...คุยไรกันตัวเล็ก นานะ”มิยูเดินเข้ามาพอดี

    “มาพอดี...นี่ ๆ มิยู...เมื่อกี้ฮารุกะบอกว่าเล่นวอลเล่ย์ไม่เป็น ฉันงง...ก็ไหนแกเคยบะ...”

    “กัปตันให้มาตาม จะซ้อมมั๊ยเธอนะ”ก่อนที่นานะจะได้พูดอะไรมิยูก็ขัดขึ้นเสียก่อน แต่เมื่อไปถึงกลางสนามปรากฏว่าคนแบ่งเป็นสองทีมไม่พอเนื่องจากมันไม่ได้เป็นการซ้อมตามตารางพวกเขาแค่อยากเล่นกันเฉย ๆ จึงไม่มีการบังคับใด ๆ เพราะฉะนั้นบางคนที่เหนื่อยจากการฝึกซ้อมจึงขอตัวไปพักผ่อน สถานการณ์ตอนนี้จึงขาดคนอีกหนึ่งคนสำหรับจะแบ่งเป็นสองทีม ทุกคนมองไปที่ฮารุกะที่นั่งอยู่ม้านั่งข้ามสนามเป็นตาเดียวและก่อนที่มิยูจะห้ามได้ทันยูกิก็เดินไปจูงร่างเล็กมาหยุดอยู่กลางสนามแล้ว

    “เสื้อยืด กางเกงวอร์ม รองเท้าผ้าใบ ครบเซ็ต ๆ ฮารุกะเล่นได้”ยูกิบอกทันทีที่จูงน้องมาถึงกลางสนาม

    “เอ่อ...คือ”

    “ดีเลย ๆ พวกพี่ขาดคนอยู่พอดี ฮารุกอยู่กับทีมพวกพี่นี่แหละ เป็นลิบให้พี่หน่อยโอเคนะ”ชิสึรุสรุปเสร็จซับ

    “ตะ..แต่..หนู”

    “ไม่ต้องหรอก...น้องเขาอาจเล่นไม่เป็นก็ได้นะ”เมื่อเห็นท่าทีลำบากใจของฮารุกมิยูจึงเอ่ยขัดขึ้น

    “ไม่เป็น..แต่ก็พอรู้กติกานี่หน่า ไม่ยากหรอกแค่เป็นลิบเอง โอเคเน๊อะ ฮารุกะจัง”ริสะพยักเพยิน

    “ค่ะ”เมื่อหาทางปฏิเสธไม่ได้ฮารุกะจึงตกปากรับคำ พร้อมเสียงถอดหายใจของมิยู เป็นอีกครั้งที่สนใจคนอื่นมากกว่าตัวเองมิยูได้แต่คิดในใจ ก่อนจะดึงมือน้องให้เดินตามออกมาข้างสนามเพื่อเตรียมเริ่มแข่ง มิยูถอดปลอกแขนและสนับเข่าทั้งสองข้างของตัวเองออกก่อนจะใส่ให้ฮารุกะ ทุกคนที่อยู่ที่นั่นได้แต่อ้าปากค้างกับการกระทำของมิยูเพราะไม่ใช่แค่ยื่นให้ใส่แต่ร่างสูงยังลงทุนนั่งคลุกเข่าใส่ที่รัดเข่าให้ฮารุกะด้วยตัวเอง คงมีเพียงกลุ่มมิยูไม่กี่คนที่พอจะเข้าใจสถานการณ์ได้ดี

     

    เกมส์เริ่มขึ้น ทีมของมิยู ประกอบไปด้วย มิยู ชิสึรุ ริสะ นานะ ฮิราอิ และฮารุกะ ในขนาดที่ยูกิอยู่กับอีกทีม

    เกมส์ดำเนินไปเรื่อย ๆ และหลายครั้งที่ฮารุกะรับลูกแรกและอ่านเกมส์ของคู่ต่อสู้ออกทำให้สามารถพุ่งรับลูกตบได้เกือบจะทุกลูก แถมยังมีความไวที่ในบางจังหวะทุกคนได้แต่อ้าปากค้าง และก่อนที่ฝ่ายตรงข้ามจะเสริฟ์ ชิสึรุทำสัญญาณมือว่าให้รุกจากแดนหลังในตำแหน่งที่หนึ่ง แต่มันไม่เป็นไปตามอย่างที่คิดเมื่อลูกที่ฝ่ายตรงข้ามเสริฟ์ดันสะกิดเนตทำให้วิถีของลูกวอลเล่ย์เปลี่ยนทางจากที่ชิสึรุต้องเซ็ตก็กลายเป็นต้องรับบอลแรกไปแถมด้วยการสะกิดเนตของลูกทำให้เสียจังหวะในการรับลูกจึงทำให้ลูกกระเด็นไปที่หัวเสาด้านซ้ายซึ่งเป็นด้านที่ฮารุกะยืนอยู่ ในเสียววินาทีสมองของฮารุกะคิดถึงซิกที่ชิสึรุให้สัญญาณคือเธอต้องเซตลูกกลับหลังไปยังตำแหน่งที่หนึ่งซึ่งอยู่อีกฝากของสนามวินาทีที่ฝ่ามือกระทบลูกฮารุกะดีดตัวไปด้านหลังพร้อมส่งบอลออกจากมือไปยังตำแหน่งที่หนึ่งได้เป๊ะทำให้มิยูที่วิ่งทำทางรออยู่แล้วตบลงไปอย่างสวยงามเนื่องด้วยบล็อกตามมาไม่ทันเพราะไม่สามารถอ่านการเคลื่อนไหวของฮารุกะได้ เมื่อลูกระทบพื้นกรรมการขานคะแนน ทุกคนก็ได้แต่ยืนอึ้ง

    “เย้...พอดีเลยอ่ะ”ฮารุกะกระโดดสุดตัวที่ลูกที่เธอเซตสามารถทำคะแนนให้ฝั่งเธอได้

    “อ้าว...พวกรุ่นพี่เป็นอะไรกันไปคะ”เมื่อสังเกตเห็นว่าพวกรุ่นพี่มองตัวเองแปลก ๆ ใบหน้าที่กำลังแย้มยิ้มก็หุบลง

    “อ๋อ...เปล่า ๆ ฮารุกะเก่งมากเลย เซตได้ยังไงเนี่ย บอกตามตรงนะลูกเซตกลับหลังแถมโยนข้ามฝากทั้ง ๆ ที่เปิดลูกแรกไม่เข้าเนี่ยมันเซตยากมากเลยนะ พี่เองยังทำไม่ค่อยเป๊ะเลย แต่จังหวะเมื่อกี้เป๊ะมาก ฮารุกะยังกับมือเซตอาชีพเลยอ่ะ”ชิสึรุบอกอึ้ง ๆ

    “เอางี้ ๆ ฮารุกะลองเปลี่ยนตำแหน่งดู ต่อไปเล่นเซตเตอร์นะ”

    “เอ๊ะ”ฮารุกะอุทานอย่างตกใจ

    “ลองดู ๆ พี่ว่าเราทำได้แน่”ชิสึรุเอ่ยอย่างมั่นใจ

     

    “โค้ชคุมิค่ะ เรื่องรายชื่อนักกีฬา...”สต๊าฟโค้ชกำลังเดินปรึกษาเรื่องรายชื่อนักกีฬาที่จะส่งเข้าแข่งขันวีลีกในเลคสองที่จะจัดแข่งในอาทิตย์หน้า หลังจากที่เลคแรกทำผลงานได้ไม่ดีนักจบเลคด้วยอับดับกลางตารางทั้ง ๆ ที่ปีที่แล้วเป็นถึงแชมป์ทำให้บรรยายกาศค่อนข้างจะตรึงเครียดในการเลือกนักกีฬาที่จะเข้าแข่งขันในเลคสอง โค้ชคุมิ เฮดโค้ชใหญ่ของสปริงค์ทำสัญญาณมือว่าให้สต๊าฟหยุดพูดก่อนเมื่อเธอเดินมาถึงสนามซ้อมและกำลังดูนักกีฬาในสโมสรซ้อมกันเล่น ๆ หลังจากที่เธอปล่อยให้ไปพักผ่อนแล้ว และได้เห็นลูกที่ฮารุกะแก้สถานการณ์ที่กำลังขับขันด้วยการเล่นจังหวะสองในจังหวะที่บอลกำลังจะล้นออกจากฝั่งเธอ และอีกลูกที่เธอต้องกระโดดเข้าบอลให้เร็วขึ้นเนื่องด้วยวิถีบอลมาค่อนข้างต่ำก่อนที่จะเซตตามน้ำโยนไปข้างหน้าให้ฮิราอิทำแต้มในจังหวะบอลเร็วที่ฝ่ายตรงข้ามไม่มีแม้แต่โอกาสได้ขึ้นบล๊อก

    “ว๊าว  จังหวะเมื่อกี้ เหมือนฉันดูเบอร์13 กับเบอร์ 5 ของไทยเล่นเลยนะคะเนี่ย”ผู้ช่วยโค้ชเอ่ยขึ้นเบา ๆ  โค้ชคุมิยืนดูอยู่สักพักก่อนที่จะหันไปบอกสต๊าฟโค้ชที่ยืนอยู่ข้างกัน

    “รายชื่อนักกีฬาตัวสำรองคนสุดท้าย มิยาชิตะ ฮารุกะ!!!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×