คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : นี่ซินะ...เหตุผล!!!
หลังจากที่แน่ใจว่าฮารุกะหลับไปแล้วมิยูจึงกลับมาที่ห้องของตัวเอง และก็ยังเห็นเหล่าเพื่อน ๆ ที่นั่งรออยู่
"ว่าไงมิยู น้องหลับแล้วเหรอ"ฮิราอิทัก
"อืม...ก็ยากอยู่กว่าจะหลับ...ตัวเล็กค่อนข้างขวัญเสียหน่ะ...แล้วนี่ไม่กลับห้องไปพักกันหรือไงมานั่งหน้าสลอนอะไรห้องคนอื่นเนี่ย"
"น้อยหน่อยยะ ยัยมิยู ฉันก็รอเธอนะซิ อยากรู้เรื่องเธอกับน้อง อย่าให้สงสัยงงเป็นไก่ตาแตกเหมือนตอนนี้ได้ม่ะ??"ริสะโวยวายขึ้น
"เรื่องน้อง..."
"อืม ๆ เรื่องน้อง"เมื่อเห็นมิยูตั้งท่าว่าจะเล่าทุกคนก็ล้อมวงกันเข้ามาทำหน้าตาอยากรู้กันสุดฤิทธิ์ ก็อดแกล้งไม่ได้ด้วยการลากเสียงยาวและไม่พูดอะไรต่อ
"โด่ว์ มิยูอย่าแกล้งดิว่ะ บอกมา ๆ อย่ามามีความลับกับเพื่อนกับฝูงนะโว๊ย"ชิสึรุโวยขึ้นมาบ้าง
"เอ่อ ๆ เรื่องฉันกับน้องอะนะ มันเริ่มจาก......."
*****************************************
"เฮ้ออ...กลับดึกจนได้ซิเรา มิยาชิตะซังคงนอนแล้วมั๊งปิดไฟเงียบเลย" ไอริกลับเข้ามาในห้องด้วยความเงียบที่สุดเพราะเมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาก็เห็นเพียงความมืด ทำให้เดาได้ไม่ยากว่าเพื่อนร่วมห้องอย่างฮารุกะคงหลับไปแล้ว ไอริรีบอาบน้ำและเข้านอนเพราะเห็นว่าเป็นเวลาดึกแล้ว แต่ล้มตัวลงนอนได้สักพักกำลังหลับอยู่สบาย ๆ ฮารุกะก็สะดุ้งสุดตัวพร้อมเสียงกรีดร้องอย่างตกใจ
"กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!" ไอริสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเขย่าตัวฮารุกะ
"มิยาชิตะซัง มิยาชิตะซัง นี่มองฉันซิ มองฉัน" เมื่อเห็นว่าเขย่าตัวอย่างไรก็ไม่ได้ผล ฮารุกะยังคงกรีดร้องและสบัดตัวเองออกจากการเกาะกุมเป็นพัลวัน ไอริก็เริ่มหัวเสียจึงตวาดฮารุกะเสียงดัง
" เป็นบ้าอะไร!!!อยู่ดี ๆ ก็กริ๊ดกลางดึกกลางดื่นเกรงใจกันบ้างเซ่!!!"
"ปล่อยนะ!!!...ปล่อยฉัน ช่วยด้วย...ใครก็ได้ช่วยหนูด้วย..."ดูเหมือนเสียงตวาดก็จะไม่ได้ผลเมื่อฮารุกะกลัวเกินที่จะมีสติ
"นี่!!!หยุด!!!บอกให้หยุด!!!"คราวนี้ไอริเปลี่ยนจากการจับข้อมือมาจับเข้าที่ต้นแขนกระชับให้ฮารุกะมองหน้าตัวเองก่อนจะตวาดสุดเสียงอีกครั้ง
"พะ...พี่ไอริ" เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าคือใคร สติของฮารุกะก็ค่อย ๆ กลับมา
"ก็ฉันนะซิ...เป็นบ้าอะไร อยู่ ๆ ก็ลุกขึ้นมาร้องกริ๊ด ๆ กลางดึก"ไอริถามด้วยความไม่พอใจที่ต้องถูกปลุกให้ตื่นกลางดึกเพราะเสียงกรีดร้องของฮารุกะ
"ขอโทษค่ะ...รุ่นพี่...คะ...คือหนู"
******************************************
"โห้....งั้นหมายความว่า แกกับตัวเล็ก รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ เลยนะซิ" ริสะตาโตขึ้นทันทีที่มิยูเล่าเรื่องราวความหลังให้ฟัง
"ไม่น่าเชื่อ...ว่าแกกับน้องจะผูกพันธ์กันขนาดนั่น"ชิสึรุ
"ฉันกำลังฟังนิยายรักโรแมนติกอยู่ใช่มั๊ย นานะตบหน้าฉันที ฉันฝันอยู่ป่ะ" เพลียะ!!!
"โอ๊ย!!เจ็บนะเว๊ยนานะ แกตบแรงไปแล้วนะ"ฮิราอิครางอ่อย
"ก็แกขอให้ฉันตบแกเองนะ แต่ไม่น่าเชื่อเลยเน๊อะ ว่าตัวเล็กจะสำคัญกับมิยูมากมายขนาดนี้ มิน่าล่ะ...ถึงไม่เคยคิดที่จะคบใคร...มีคนอยู่ในใจแล้วตั้งแต่เด็กนี่เอง"นานะทำหน้าตาเคลิ้มฝัน ในขณะที่ยูกิส่ายหัวปลง ๆ
"เกี่ยวอะไรกับคบใครว่ะ" มิยูถามกลับงง ๆ
"เอ๊า!! ไอ้นี่...ก็แกรักน้องมาตั้งแต่แรก แกถึงไม่คิดจะคบใครทั้ง ๆ ที่ก็มีคนเดินเข้ามาหาตลอดไม่ใช่เหรอ" ริสะตอบกลับ
"ช่าย ๆ ถ้าแกไม่รักน้อง....รอที่จะได้เจอกับน้อง...รอที่จะให้่น้องเป็นคนสำคัญในชีวิตแกตลอดไป...แล้วแกเป็นโสดมาจนป่านนี้ทำไม"ยูกิสนับสนุน
"รัก....รักเหรอ"มิยูเอ่ยออกมาตาโต
"เอ๊า...นี่แกอย่าบอกนะว่า...แกไม่รู้ตัวว่ารักน้องนะ"ริสะชี้หน้าถาม และมิยูก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมาอย่างงง ๆ
"ไอ้บ้าเอ๊ย!!! ฉันเห็นแกอยู่กับน้องแค่วันนี้วันเดียว ฉันยังมองออกเลย แต่แกมีน้องอยู่ในใจมาเกือบจะตลอดทั้งชีวิตกลับไม่รู้ว่าตัวเองรักน้องเนี่ยนะ!!! จะบ้าตาย"ฮิราอิกุมขมับตัวเอง
"ฉันแค่ยังไม่คิดถึงความรู้สึกตรงนั้นมากกว่า ฉันรู้ว่าฉันคิดถึงน้องทุกวัน ฉันรู้ว่าน้องมีความสำคัญต่อฉันมากแค่ไหน แต่ฉันแค่ยังไม่เคยเอาความรู้สึกตรงนั้นมานึกคิด ว่ามันคือความรัก" ยูกิตบบ่ามิยูก่อนบอกว่า
"งั้นคิดซะ!! และรู้ซะว่าแกนะ หลงรักเท็นชิจิบิ นางฟ้าตัวน้อยของแกเต็ม ๆ เลยว่ะ"
"อืม ๆ ช่าย ๆ เพราะฉะนั้นแกต้องรีบทำให้น้องจำเรื่องของแกให้ได้ เพราะฉันบอกเลย คู่แข่งแกเพี๊ยบบบ ก็น้องน่ารักซะขนาดนั้น555+++ ฉะนั้นแกได้เปรียบ รีบทำคะแนนซะ ฉันเตือนด้วยความหวังดี"นานะพูดทิ้งท้าย
กริ๊ดดดดดดดด
"เฮ้ย เสียงไรว่ะ"ยูกิพูดพร้อมวิ่งไปที่ประตู พอเปิดประตูออกไปก็เห็นพวกนักกีฬาคนอื่น ๆ กำลังเปิดประตูห้องตัวเองออกมาอย่าง งง ๆ ซักพักก็ได้ยินเสียงลอดออกมาจากห้องของไอริและฮารุกะ
(เป็นบ้าอะไร อยู่ ๆ ลุกขึ้นมาร้องกริ๊ด ๆ กลางดึก!!!)
มิยูได้ยินเสียงไอริตวาดลอดออกมา ขายาวก้าวไปยังประตูห้องตรงข้ามลงมือทุบเสียงดัง
"ฮารุกะ!!! ฮารุกะ!!!" ปัง!!!! ปัง ปัง!!!
"โอ๊ย ๆ ๆ มาแล้ว มาแล้ว นี่ก็อีกคน เป็นบ้าอะไรมาเคาะประตูห้องชาวบ้านเขาดึกดื่นป่านนี้"ไอริเปิดประตูออกมาได้ก็ใส่มิยูเข้าอีกคนด้วยความที่อารมณ์เสียอยู่แล้ว แต่มิยูไม่ได้สนใจจะฟัง ดันร่างไอริให้หลีกจากประตู ก่อนที่ตัวเองจะเดินเข้าไปภายในห้องอย่างรวดเร็ว ร่างเล็กของฮารุกะอยู่บนกลางเตียงสองมือยกขึ้นกอดตัวเองด้วยอาการสั่นเทาเงยหน้ามองคนมาใหม่ด้วยดวงตาแดงช้ำ คนอื่น ๆ มายืนออกันอยู่ที่หน้าประตู มิยูเดินเข้าไปนั่งกลางเตียงข้าง ๆ ฮารุกะเอื้อมมือไปแตะตัวน้องแม้เพียงแผ่วเบาแต่ร่างเล็กก็อดสะดุ้งไม่ได้และมิยูก็รับรู้ว่าน้องไข้ขึ้นเพราะตัวร้อนมากจึงตัดสินใจใช้มือแกร่งสอดเข้าใต้ร่างเล็กก่อนจะออกแรงอุ้มฮารุกะแนบอก ดวงตาเรียวสะบัดมองหน้าไอริอย่างวาวโรจน์
"คราวหลังก็กรุณาดูก่อนเถอะ ว่าน้องเป็นอะไร ไม่ใช่เอาความสบายของตัวเองเป็นใหญ่ แค่ถูกกวนเวลานอนก็ฟาดงวงฟาดงาอย่างกับช้างตกมัน ถ้าไม่เต็มใจที่จะต้องมีใครแชร์ห้องด้วยก็บอกดี ๆ ไม่ต้องมาตวาดน้องแว๊ด ๆ อย่างนี้ ริสะที่ห้องมียาแก้ไข้มั๊ย น้องตัวร้อนจึ้เลย"ประโยคหลังมิยูหันมาหาริสะ
"อ๋อ มี ๆ เดี๋ยวไปเอามาให้นะ"แต่ก่อนที่ริสะจะทันได้หันหลังกลับ
"เอาไปให้ที่ห้องฉันนะ ฉันจะพาน้องไปห้องนู่น ห้องนี้อาการมันไม่ปลอดโปร่ง!!!"มิยูกระแทกคำหลังใส่หน้าไอริ ก่อนที่จะอุ้มฮารุกะเดินออกมาจากห้อง คนที่ยืนออกันอยู่หน้าห้องก็แวกทางเดินให้มิยู ยูกิรีบวิ่งไปเปิดประตูห้องของตัวเองให้ด้วยความที่กลัวว่ามิยูจะทำน้องหลุดมือ
"เฮ้ ๆ หมดเรื่องแล้ว พักผ่อน ๆ พรุ่งนี้ซ้อมแต่เช้านะ"ชิสึรุที่เห็นคนอื่นๆ ยังยืนตาค้างมองการกระทำของมิยูอย่างแปลกใจ เพราะว่านี่มันไม่ใช่ ไม่เคยใช่นิสัยของมิยูที่พวกเขารู้จัก การใส่ใจคนอื่นที่เพิ่งรู้จักถึงขนาดอุ้มไปดูแลที่ห้องทั้ง ๆ ที่ห้องพยาบาลก็มีเป็นเรื่องแปลกสำหรับทุกคน แต่ไม่แปลกสำหรับคนที่รู้เรื่องมาแล้วอย่างพวกชิสึรุจึงเอ่ยปากบอกให้ไปพักผ่อน แต่ในขณะที่ทุกคนหันหลังเข้าห้อง กลับมีดวงตาสองคู่จ้องประตูที่ปิดอยู่ของห้องมิยูอย่างอาฆาต ไอริจ้องประตูอย่างอยากกินเลือดกินเนื้อที่มิยูบังอาจตอกหน้าเธอต่อหน้าคนเยอะแยะทั้ง ๆ ที่เธอเป็นรุ่นพี่ด้วยซ้ำ ในขนาดที่อีกคนหนึ่งกลับคิดอีกแง่
"หน๊อย!!! นังเด็กฝึกงาน ช่างขยันหาเรื่องให้พี่มิยูสนใจจังเลยนะ คอยดูเถอะ ฉันจะเล่นงานแกให้ได้!!!"
"น้องเป็นไงบ้างมิยู" ริสะที่กลับไปเอายาที่ห้องเอ่ยถามเมื่อเห็นมิยูกำลังเช็ดตัวให้น้องและยูกิก็นั่งอยู่ข้าง ๆ
"อืมอาจจะไข้ขึ้นเพราะระบมรอยช้ำที่โดนชกนะ"
"ขอโทษนะคะ หนูทำพวกรุ่นพี่เดือดร้อนอีกแล้ว"ฮารุกะเอ่ยอย่างสำนึกผิด "แถมยังทำให้นากาโอกะซังทะเลาะกับพี่ไอริด้วย"
"เฮ้ออออ...ตัวเล็ก เป็นเราไม่ใช่เหรอที่ต้องโกรธนะ พี่ไอริตวาดเราขนาดนั้นนะ มัวมาขอโทษพี่ทำมั๊ย" มิยูพูดพลางส่ายหน้า
"ก็...หนู...ร้องเสียงดังจริง ๆ นิค่ะ พี่ไอริเธอคงตกใจ แล้วอีกอย่างพี่เขาก็ไม่รู้่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหนู" ฮารุกะพูดเสียงอ่อย
"แต่ตามประสาคนรู้จักต้องเป็นห่วง...ถามว่าตัวเล็กเป็นอะไร...ไม่ใช่เหรอค่ะ...ไม่ใช่ตวาดใส่แบบนี้นะคะ ตัวเล็กน่ะ มองโลกในแง่ดีเกินไปแล้วมั้ง" ยูกิเอ่ยบ้าง
"ง่ะ...ก็"
"เอาน่า...ตัวเล็กก็เป็นแบบนี้แหละ แต่ไหนแต่ไรแล้ว" มิยูมองมาด้วยสายตาเอ็นดู
"เชอะ..นากาโอกะซังนะ...รู้จักหนูแค่ไม่นานเองนะ รู้ได้ไงว่าหนูเป็นแบบนี้มานานแล้วนะ...ฮึ!!"
"เอ๊า...ก็...เอ่อ...เดาไง เดา"มิยูตอบตะกุกตะกัก
"เดาผิดชัวร์"แม้จะไข้ขึ้นจนแก้มแดงจากความอุณภูมิภายในตัวแต่ก็ยังมีแรงพอจะเถียง
"หึหึ...เด็กดื้อเอ๊ย"มิยูขยี้หัวฮารุกะเบา ๆ อย่างหมั่นเขี้ยวกับการเถียงไม่เลิกของเด็กน้อย
"เอาเถอะ ๆ พักผ่อนเยอะ ๆ นะตัวเล็ก พี่กลับห้องล่ะ"ริสะเอ่ยตัดบท
"ขอบคุณมากนะคะ พี่ริสะ โอยาสุมินาไซ"
"โอยาสุมินาไซ จร้า" ริสะรับคำก่อนจะเปิดประตูออกห้องไป
"เอาล่ะ...ทีนี่ เด็กดื้อพักผ่อนนะค่ะ"เมื่อริสะกลับออกไปแล้วมิยูจึงหันมาพูดกับฮารุกะ แต่สายตาของฮารุกะหม่นแสงลงทันที่เมื่อพูดถึงการนอนเพราะเมื่อกี้เธอยังคงฝันถึงเหตุการณ์เมื่อหัวค่ำและตอนนี้มันก็ทำให้เธอหลับไม่ลง ฮารุกะส่ายหัวน้อยเป็นเชิงบอกมิยูว่าไม่นอน
"ทำไมล่ะค่ะ"
"หนูกลัวคะ"
"กลัวอะไรตัวเล็ก"ยูกิที่นั่งอยู่อีกเตียงเอ่ยถาม
"หนูฝันค่ะ หนูไม่กล้าหลับ ถ้าหนูฝันอีก..."
"แต่ตัวเล็กต้องพักผ่อนนะคะ"มิยูเอ่ยขัด
"ฮึ...ก็หนูไม่อยากนอนนี่ค่ะ หนูกลัว"ฮารุกะพูดพลางขยับตัวลุกขึ้นนั่งพิงกับหัวเตียงและดึงหมอนมากอดแถมด้วยหน้ามุ่ย ๆ
"รู้ค่ะว่ากลัว แต่ว่าถ้าตัวเล็กไม่นอน พี่กับยูกิก็ไม่ได้นอนแล้วพรุ่งนี้พวกพี่มีซ้อมแต่เช้า ที่นี่ฮารุกะจะทำยังไงคะ"มิยูรู้ดีว่าจุดอ่อนของฮารุกะอยู่ที่ความเกรงใจคนอื่น ความจริงเขาก็อยากตามใจน้องถ้าน้องไม่นอนเขาเองที่จะนั่งเป็นเพื่อนแต่นี่เป็นเพราะสภาพร่างกายของฮารุกะที่ต้องการพักผ่อนมิยูจึงไม่ยอมตามใจน้อง
"งั้นเอางี้"เมื่อเห็นน้องทำท่าครุ่งคิดอย่างลังเลยูกิจึงหาทางออกให้
"มิยูแกช่วยฉันหน่อย เขยิบเตียงฉันให้ติดกับเตียงแกเลย"
"แกจะทำอะไรว่ะ" มิยูถามงง ๆ
"เอาเถอะน่า เชื่อฉันซิเร็ว ๆ จะได้นอนกันสักที"
เมื่อเขยิบให้เตียงที่เป็นเตียงเดียวสองเตียงมารวมกันก็ทำให้เกิดเตียงที่สามารถนอนได้มากกว่าสอง
"ทีนี่ตัวเล็กนอนตรงกลางนะคะ พี่จะนอนขวามิยูนอนซ้าย ทีนี่ไม่ว่าจะในความฝันหรือความเป็นจริงก็ไม่มีใครทำอะไรฮารุกะได้ทั้งนั้น สบายใจได้"ยูกิพูดพลางยิ้มให้ฮารุกะที่กำลังมองการกระทำของรุ่นพี่ทั้งสองคนอย่างงง ๆ
"เฮ้อออ...แล้วอย่างนี้เด็กดื้อของพี่จะนอนได้รึยังคะ" มิยูระบายลมหายใจพร้อมยิ้มเมื่อรู้ถึงความคิดเพื่อนที่ว่าทำไมถึงเอาเตียงมาต่อกัน แต่ถึงแม้ฮารุกะจะนอนตรงกลางแต่ก็ยังคงกังวลจนนอนไม่หลับอยู่เหมือนเดิม จึงพลิกตัวไปมาจนมิยูลืมตาขึ้นมามอง
"นอนไม่หลับเหรอค่ะ" เมื่อได้ยินเสียงทักท่ามกลางความมือฮารุกะจึงกลับตัวมาข้างที่มิยูนอนอยู่พร้อมส่ายหัวน้อย ๆ
"เฮ้ออออ"มิยูระบายลมหายใจก่อนที่ตัวเองจะลุกขึ้นนั่งเอาหลังพิงหัวเตียงพร้อมทั้งเอื้อมมือลูกหัวฮารุกะเล่นเบา ๆ
"พี่ขอโทษนะคะ"
"ค่ะ???" อยู่ ๆ มิยูก็เอ่ยขอโทษที่ทำให้ฮารุกะงงถึงที่มาที่ไป
"ถ้าพี่ไม่พาเราออกไป เราก็คงไม่เจอเรื่องแบบนี้"มิยูพูดพร้อมสบตากับคนที่นอนอยู่ ฮารุกะส่ายหัวรัว ๆ อย่างไม่เห็นด้วย
"เป็นหนูเองต่างหากที่ดื้อ...ถ้าหนูให้พี่ไปเป็นเพื่อนตอนเข้าห้องน้ำ...หนูก็คงไม่หลงและคงไม่เกิดเรื่องอย่างนี้...หนูต่างหากที่ต้องขอโทษ..."
"ไม่หรอกคะ...ถ้าพี่ไม่พาเราออกไปตั้งแต่แรก...ฮารุกะคงไม่เจ็บตัวแบบนี้...คงไม่ต้องทรมานเพราะฝันร้ายแบบนี้...ป่านนี้ฮารุกะคงหลับสบายไปแล้ว...แล้วดูซิ...ตอนนี้...ฮารุกะเป็นยังไง"มิยูพูดน้ำเสียงเศร้า ๆ
"หนูสบายดี...สบายสุด ๆ ด้วย...ฮ้าววววว...หนูง่วงแล้วนอนดีกว่าเน๊อะ ๆ"พยักเพยินไปทางมิยู
"งั้นนอนซะนะค่ะ โอยาสุมินาไซ"
"โอยาสุมินาไซค่ะ"ฮารุกะพูดพลางหลับตาลงแต่ก็ยังคงได้รับสัมผัสจากมืออุ่นบนกระหม่อมบางเบา สำนึกสุดท้ายก่อนที่จะเข้าสู่ห้วงนินทราเป็นภาพที่มิยูทำหน้าเศร้าอย่างรู้สึกผิดสำหรับเรื่องวันนี้เสียงหวานพึมพำแผ่วเบา
"พี่คะ...อย่างโทษตัวเองนะ"มิยูได้แต่ยิ้มในความมืดเมื่อได้ยินเสียงฮารุกะถึงค่อนข้างจะแผ่วเบาแต่ชัดเจนในความรู้สึกและรับรู้ว่าตัวเล็กตรงหน้าเขาเข้าสู่ห้วงนินทราอีกครั้ง
"อี๊ยุเหม่ะ มิเต่ะเน๊ เท็นชิ" ...ฝันดีนะ นางฟ้า มิยูกดจมูกลงบนหน้าผากเนียนแผ่วเบาก่อนจะล้มตัวลงนอนบ้าง
"แอะแฮม ๆ"
"เป็นไรแก"มิยูถาม
"ก็เปล่า...แค่แสดงให้รู้ว่าฉันยังมีตัวตนนะโว๊ย ทำไรอายเพื่อนอายฝูงบ้างก็ได้นะ"ยูกิแซว
"แล้วแอบดูทำไมล่ะ ไม่หลับไม่นอน"
"อ้าว ๆ อย่าพาลซิพวก"
"เอ่อ ๆ นอนได้แล้วเดี๋ยวนอนตื่น"
"ย๊ะ นอนก็ได้...โอยาสุมินาไซ"
"อืม เช่นกัน"
**********************************************
"มาพอดี นากาโอกะซัง คุณคนนี้เขาขอพบคุณนะ ฉันเลยให้คนไปตามเธอมา ขอตัวนะคะ เชิญคุยตามสบายนะ"ประโยคหลังโค้ชบอกกับผู้มาเยือน หลังจากการซ้อมผ่านไปได้ครึ่งวันในเวลาพักกลางวันมิยูตั้งใจจะไปหาฮารุกะแต่ก็โดนเรียกตัวให้มาที่ห้องโค้ชซะก่อนและโค้ชก็แจ้งว่ามีคนมาหาในขนาดที่มิยูยังยืนงงเพราะดูเหมือนเธอจะไม่เคยรู้จักผู้ชายคนนี้
"ผม มิยาโมโต้ ทาเครุ ยินดีที่ได้พบครับ"
"อ๋อค่ะ เอ่อ...คือเราเคยรู้จักกันเหรอค่ะ???"
"ไม่หรอกครับ แต่ที่ผมมาหาคุณเพราะสิ่งนี้"ผู้มาใหม่ยื่นสมุดให้มิยูมือแกร่งรับมาดูที่หน้าปก ปรากฏว่าเป็นสมุดบันทึกของฮารุกะ เพราะมันเขียนว่า สมุดบันทึก มิยาชิตะ ฮารุกะ อายุ 5 ขวบ ถูกเขียนขึ้นด้วยลายมือโย้ ๆ ของเด็ก ๆ มิยูพลิกดูเล่มที่เหลืออีกสองเล่มก็ปรากฏว่าเป็นของฮารุกะ ในวัย 6 ขวบ และ 7 ขวบ ร่างสูงเงยหน้าขึ้นมาสบตากลับคนตรงหน้าอย่างงง ๆ
"นี่มันอะไรกันเหรอค่ะ"
"ตอนที่ฮารุกะเจอคุณ ตอนนั้นดูเหมือนเธอจะอายุ 5 ขวบจากบันทึก คุณกับเธอเจอกันไม่นานนักแค่ช่วงเวลาที่คุณรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลแต่ดูเหมือนฮารุกะจะไม่เคยลืมคุณเพราะเธอเขียนถึงคุณเสมอ ในทุก ๆ วัน ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจ ความหมายของนกกระเรียนหรือนางฟ้าประคองปีกอะไรนั่นหรอกนะ ดูเหมือนคงมีแต่คุณกับฮารุกะเท่านั้นที่รู้"
"แล้วมันยังไงเหรอค่ะ" มิยูก็ยังงงอยู่ดี
"ลองดูไดอารี่เล่มสุดท้ายหน้าสุดท้ายดูซิครับ"มิยูหยิบไดอารี่เล่มเจ็ดขวบขึ้นมาเปิดแต่ดูเหมือนมันจะเขียนไม่จบปีเพราะมันหยุดที่เดือนมิถุนายนกลางปีเท่านั้น
"นี่...มัน"
"เขียนไม่จบใช่มั๊ยครับ วันที่หยุดแค่ตรงกลางปี"
"ทำไมคะ"
"ฮารุกะกับแม่เขาประสบอุบัติเหตุครับ มันพรากแม่ของฮารุกะจากเธอตลอดกาล"
"หมายความว่า..."
"ฮารุกะนะเห็นแม่สิ้นลมหายใจต่อหน้า เธอช็อกจนหมดสติ และพอตื่นขึ้นมา เธอก็เป็นคนที่ไม่เหลือความทรงจำใด ๆ เลย"
"....."
"เธอจำใครหรืออะไร ก่อนหน้าไม่ได้เลย แม้แต่คุณคนที่เขาเขียนถึงทุกวัน คุณหมอบอกว่าเราไม่ควรรื้อฟื้นหากมันทำให้เธอเจ็บปวดเพราะเธอยังเด็กมาก หมอแนะนำให้ผมใช่วิธีสร้างความทรงจำของเธอต่อและให้ทิ้งสิ่งที่เธอลืมไว้ข้างหลัง ที่มาวันนี้เพราะผมเพิ่งทราบว่าคุณคือคนที่ฮารุกะเขียนไดอารี่ถึงเสมอ ๆ จะว่าผมเห็นแก่ตัวก็ได้ แต่ผมขอร้องอย่าให้ฮารุกะจำคุณได้ อย่ารื้อฟื้นความทรงจำเธอ มันจะทำให้เธอเจ็บปวด ถือซะว่าเป็นคำขอจากพ่อคนนี้"ทาเครุก้มตัวลงตรงหน้า ในขณะที่มิยูแทบไม่เหลือสติที่จะรับรู้สิ่งใด เมื่อรู้เหตุผลว่าทำไม เท็นชิถึงลืมเธอ
ในช่วงเวลาที่เราไม่ได้เจอกัน พี่ไม่นึกว่าจะเกิดเรื่องมากมายขึ้นกับเธอเหมือนกัน เธอคือความทรงจำที่มีค่าของพี่ แต่พี่ไม่มีสิทธิ์ ไม่มีสิทธิ์แล้วที่จะเป็นคนที่เธอจำได้ ช่วงเวลาของเราคงมีแต่พี่เท่านั้นที่ยังจำ แต่พี่จะไม่โทษเราหรอกนะนางฟ้าตัวน้อยของพี่ เธอคงเจ็บปวดกับการสูญเสียมากใช่มั๊ย เธอถึงเลือกที่จะไม่จดจำ ไม่จำอะไรเลย แม้กระทั้งเรื่องของเรา ต่อแต่นี้พี่คงไม่มีสิทธิ์ทวงความสนิทเมื่อครั้งเก่า แต่พี่จะทำให้เราได้ใกล้ชิดและรู้จักกันและกันอีกครั้ง ถึงยังไงเธอก็สำคัญสำหรับพี่เสมอ
นี่ซินะ...เหตุผล เหตุผลที่เธอลืมพี่.....
หลังจากที่ทาเครุ พ่อบุญธรรมที่แต่งงานใหม่กับแม่ของเธอหลังจากช่วงที่มิยูออกจากโรงพยาบาลแล้ว เดินจากไป มิยูก็จมอยู่กับความคิดของตัวเองอยู่พักใหญ่ ถ้าอดีตมันเลวร้ายสำหรับเธอ พี่จะไม่ขอให้เธอจำ แต่พี่จะสร้างความทรงจำของเราขึ้นมาใหม่หลังจากนี้...นางฟ้าตัวน้อยของพี่...
ความคิดเห็น