ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ...คือเธอเท่านั้น... (นากาโอกะ มิยู x มิยาชิตะ ฮารุกะ)

    ลำดับตอนที่ #3 : Te-n-shi Chibi

    • อัปเดตล่าสุด 12 ม.ค. 57


     

    “มิยู...คือ...”เมื่อออกมาจากห้องพยาบาลยูกิก็กำลังจะเอ่ยถามจากมิยู

    “เท็นชิ”

    “ฮะ...อะไร..??”ยูกิถามกลับงง ๆ เมื่ออยู่ดี ๆ มิยูก็โผล่งออกมา

    “อยากรู้ใช่มั๊ย?? ระหว่างฉันกับฮารุกะนะ”

    “อืม”ยูกิพยักหน้าเบา ๆ

    “ฮารุกะ คือ “เท็นชิจิบิ” ของฉัน” ( Te-n-shi แปลว่านางฟ้า ส่วน Chibi แปลว่า ตัวเล็กหรือตัวจิ๋ว ในที่นี้ไรต์จะแปลว่านางฟ้าตัวน้อย)

    “เฮ้ย!!!....ดะ...ดะ...ได้ไง ตัวเล็กนะเหรอ???”เพราะว่าเป็นเพื่อนสนิทจึงทำให้ยูกิรู้ดีว่าเท็นชิคืออะไรเพียงแต่ก็ยังอดตกใจไม่ได้ด้วยไม่คิดว่าคนในความทรงจำของเพื่อนจะมาปรากฏตัวที่นี้

    “อืม...”

    “แล้ว....”

    “น้องจำฉันไม่ได้”มิยูตอบกลับเพื่อนเสียงเศร้า

    “เฮ!!! ไม่เอาน่า ตอนนั้นน้องยังเด็กมากไม่ใช่เหรอ แกคงไม่หวังว่า เด็กขนาดนั้นจะจำทุกอย่างได้จนถึงวันนี้หรอกนะ”ยูกิตบบ่าเพื่อนอย่างให้กำลังใจแต่ก็ต้องเงียบไปเพราะมิยูหันมาด้วยแววตาที่แสดงถึงความเหนื่อยอ่อน

    “ความจริงคือ...ฉันหวังว่ะ ถึงแม้จะจำเรื่องราวต่าง ๆไม่ได้ แต่จำฉันได้ก็คงดี แต่นี่น้องกลับจำฉันไม่ได้เลย”

    “....”

    “เท็นชินะ เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตฉัน  ในวันที่ฉันสูญเสียความฝัน...เป็นเขาที่ทำให้ฉันมีความหวังอีกครั้ง แต่ดูเหมือนฉันจะเป็นไม่ได้แม้แต่เสี้ยวของความทรงจำ เฮ้อออออ”

    “แล้วแกรู้ได้ยังไงว่าเป็นน้อง??? อ๋อ...ชื่อสินะ”ยูกิถามเรื่องที่สงสัยก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าคงเป็นชื่อที่ทำให้มิยูจำฮารุกะได้

    “ฮึ...เท็นชิ ไม่มีวันหายไปจากความทรงจำของฉัน เพราะฉะนั้นไม่มีทางที่ฉันจะจำเขาไม่ได้”มิยูยิ้มนิด ๆ เมื่อนึกถึงความทรงจำในวัยเยาว์อีกครั้งก่อนที่จะเริ่มเล่าต่อ

    “เท็นชิแทบไม่เปลี่ยนเลย แก้มป่อง ๆ ตากลมโต...แต่น่าแปลกเวลายิ้มกลับตายี้ซะได้...หึหึ...อาจจะมีก็ตรงผมกับหุ่นละมั้งที่เปลี่ยน...เท็นชิตอนเด็ก ๆ อะนะตัวกลม ๆผมยาวสลวยชอบถักเปียเป็นที่สุด...”

     

    ...“พี่มิยู ฮารุกะจะถักเปีย”เด็กน้อยตัวกลมวิ่งเข้ามาภายในห้องพักของมิยู หลังจากที่เมื่อวานมิยูต้องลงทุนเดินไปซื้ออมยิ้มจากร้านสะดวกซื้อข้างล่างของโรงพยาบาลเพื่อมาง้อยัยหนูตากลมนั่งพองลมเข้าแก้มอย่างงอนเขาเต็มที่ เมื่อมาทวงสัญญาว่าเขาควรจะง้อเพราะเธองอน มิยูได้แต่หัวเราะขำ ไม่ใช่เพราะเขาผิดนะแต่เพราะเธองอน เอาเถอะ ๆ ตามใจเขาหน่อยก่อนที่ลมจะพองแก้มยุ้ย ๆ นั่นจนแตก หลังจากได้อมยิ้มสีหวานแก้มยุ้ย ๆ ที่พองลมนั่นก็เปลี่ยนเป็นยิ้มกว้าง ๆ จนตากลมโตนั่นยี้ลง ทำเอามิยูเอ็นดูอยู่ไม่น้อย

    “จะทำไงล่ะค่ะก็พี่แขนเจ็บอยู่นี่หน่า...ถักเปียให้ฮารุกะไม่ได้หรอก”

    “ง่ะ...แต่หนูอยากให้พี่มิยูถักให้นี่หน่า คุณแม่กับพี่ ๆ พยาบาลไม่มีใครว่างถักให้ฮารุกะสักคน ทุกคนทิ้งฮารุกะอยู่คนเดียว”เด็กน้อยพูดหงอย ๆ

    “อืม...งั้นเอางี้ เดี๋ยวพี่จะลองถักดู ฮารุกะจังมานั่งตรงนี้ซิค่ะ”เมื่อเห็นท่าทางหงอย ๆ ที่ไม่ค่อยเข้ากับเจ้าตัวเท่าไหร่ มิยูก็ใช้แขนซ้ายที่ยังใช้การได้ดีตบที่ว่างข้าง ๆตัวเองบนเตียงกว้าง เด็กน้อยฉีกยิ้มอย่างดีใจ พลางวิ่งไปกระโดดขึ้นเตียงพร้อมหันหลังให้มิยูอย่างรู้งาน  โชคดีที่มิยูเข้าเฝือกเฉพาะที่ท่อนแขนทำให้ปลายนิ้วยังทำงานได้ดี แต่มันก็ทุลักทุเลไม่หน่อยที่จะต้องถักเปียให้เด็กน้อยตรงหน้าพร้อมมือที่เข้าเฝือกอยู่แบบนี้เนื่องด้วยเฝือกถูกโยงคล้องไว้กับคอ แต่สักพักดูเหมือนมิยูจะสังเกตเห็นว่าร่างเล็ก ๆ ที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขาเริ่มเอนไปเอียงมาก่อนจะหงายหลังมาพิงกับตัวเขา มิยูปล่อยผมที่กำลังถักอยู่พร้อมชะโงกหน้ามาดู  ปรากฏว่าเด็กน้อยหลับและดูเหมือนจะหลับสนิทด้วย คนโตกว่าได้แต่ส่ายหน้าน้อย ๆ ปนขบขัน ก่อนจะรั้งร่างน้อยด้วยมือข้างเดียวลงนอนบนเตียงของตนเอง น่าขันที่คนป่วยต้องระเห็จตัวเองมานั่งโซฟามองดูเด็กน้อยในชุดฟอร์มของวอลเล่ย์บอลหลับปุ๋ยอยู่บนเตียงเขา...

     

    “ตายจริง!!! ฮารุกะจัง”แม่ของหนูน้อยเข้ามาในห้องเพื่อพามิยูไปทำกายภาพบำบัดทุกวัน แต่วันนี้แตกต่างแทนที่จะเห็น  มิยูนั่งรออยู่บนเตียงกลับเป็นลูกสาวตัวเองที่กำลังนอนหลับอย่างสบายอารมณ์อยู่บนเตียงกว้าง ทันทีที่ได้ยินเสียงเรียกของมารดา เด็กน้อยก็ค่อย ๆ ลุกขึ้นพร้อมขยี้ตาอย่างงัวเงีย

    “แม่ค่ะ เลิกงานแล้วเหรอ จะพาฮารุกะกลับบ้านแล้วใช่มั๊ย” เมื่อได้ฟังคำถาม มิยูกับนักกายภาพประจำตัวก็ได้แต่มองหน้ากันส่ายหัวพร้อมรอยยิ้ม

    “ยังจ๊ะ แต่แม่ต้องพาพี่มิยูไปทำกายภาพ ฮารุกะไปรอแม่ที่ห้องพักก่อนนะ”

    “ง่ะ...แต่แม่ค่ะ...พี่มิยูยังถักเปียให้หนูไม่เสร็จเลย”เด็กน้อยบอกแม่พร้อมจับปอยผมอีกข้างที่ยังไม่ได้ถักขึ้นมาให้แม่ดู

    “ฮารุกะ!!!หนูให้พี่มิยูถักผมให้หนูได้ยังไง!!! พี่มิยูเจ็บแขนอยูเห็นมั๊ย!!!แล้วถ้าแขนพี่มิยูไม่หายหนูจะทำยังไง!!!”เมื่อโดนแม่ดุชุดใหญ่ เด็กน้อยก็ก้มหน้าลงไหล่เล็กๆเริ่มสั่นดวงตากลมคลอไปด้วยน้ำตา

    “เอ่อ...คุณน้าคะ” เมื่อเห็นถ้าว่าตัวเล็กจะโดนดุชุดใหญ่มิยูจึงพยายามที่จะช่วย

    “เฮ้อออ...เอาเถอะ ๆ เอาเป็นว่าเราไปกันดีกว่าจ๊ะ มิยูจัง”

     

     

    “คุณน้าค่ะ...คือว่า”เมื่อเดินออกมาจากห้องมิยูพยายามที่จะอธิบายอีกครั้งด้วยความที่ว่ากลัวคนข้าง ๆจะยังโกรธจนเด็กน้อยถูกดุอีกครั้ง

    “น้าต้องขอโทษด้วยนะจ๊ะ ฮารุกะคงกวนมิยูจังไว้หลายเรื่อง...นี่ถ้าสามีน้ายังอยู่...น้าคงไม่ต้องพาฮารุกะจังมาเลี้ยงที่ทำงานแบบนี้ เฮ้อออออ...อ๋อ..ขอโทษทีนะจ๊ะ...น้าพูดอะไรก็ไม่รู้เน๊อะ..ฮาฮา”

    “หมายความว่าพ่อของฮารุกะจัง เอ่อ...คือ...”

    “จ๊ะ...ไม่อยู่แล้วล่ะ...เด็กคนนั้นน่ะติดพ่อเขามากเชียวล่ะ กว่าจะผ่านช่วงนั้นมาได้น้านี่แทบแย่เลย...ตอนเข้านอนพ่อเขาจะต้องลูบหัวจนกว่าฮารุกะจะหลับ เด็กคนนั้นนะเลยค่อนข้างจะเป็นเด็กติดสัมผัส”รอยยิ้มที่ผุดขึ้นบนใบหน้าขนาดที่เล่าถึงแม้จะเป็นรอยยิ้มเศร้า ๆ แต่แฝงไปด้วยความอบอุ่น

    “อ๊ะ...ถึงแล้วจ๊ะ...จากที่ฟังรายงานผลการรักษาของคุณหมอ วันนี้มิยูลองขยับข้อมือดูนะ ดูซิว่ามีอาการเจ็บแปลบ ๆ หรือเปล่า...เสร็จแล้วต้องทำซีทีสแกนอีกที ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดพรุ่งนี้คงถอดเฝือกได้แล้วล่ะ”

     

     

    “อะไร...เจ็บข้อมือเหรอมิยู” ยูกิที่เห็นเพื่อนกุมข้อมือข้างขวาไว้ก็เอ่ยถาม

    “อ๋อเปล่าหรอก พอดีแค่คิดอะไรเพลิน ๆ นะ”

    “อืม ๆ...แล้วนี่เตรียมตัวหรือยัง”

    “เตรียมตัว?? เรื่องไรว่ะ” มิยูถามยูกิกลับ

    “เอ๊า...ก็ซ้อมเสร็จ ไม่ต้องพาเด็กน้อยไปหาอะไรอร่อย ๆ กินหรือไง ผิดสัญญาโดนงอนขึ้นมาฉันไม่ช่วยนะโว๊ย”

    “ห๊ะ...อะไร ๆ ใครจะไปหาอะไรกินเหรอ”นานะที่ซ้อมเสร็จแล้วเดินเข้ามาทันได้ยินที่ยูกิพูดกับมิยูพอดี

    “อ๋อ...ก็...ว่าจะพาตัวเล็กไปเปิดหูเปิดตาสักหน่อย ไปด้วยกันมั๊ยล่ะ”มิยูเอ่ยปากชวน

    “ไปน่ะไปอยู่หรอก แต่ฉันสงสัยอะไรอย่างแกตอบคำถามฉันก่อนดิ”

    “อะไรล่ะ”

    “แกกับตัวเล็กนะ อะไร ยังไง กันแน่”

    “อะไรคือ อะไรยังไง?? งงนะเนี่ย นานะ”มิยูเอ่ยกลับอย่างงง ๆ

    “ก็หมายความว่า แกกับตัวเล็กน่ะ มีความสัมพันธ์กันยังไงนะซิ”ชิสึรุที่ฟังมาสักพักโพล่งขึ้นมา

    “ใช่ ๆ ฉันก็อยากรู้”ริสะโผล่มาอีกคน

    “ฉันด้วย”ตามด้วยฮิราอิ

    “นี่พวกแก...เฮ้อออ เอาเถอะก็ไม่ได้คิดจะปิดบังอยู่แล้ว แต่เรื่องมันยาวว่ะ เอาไว้กลับมาค่อยเล่าให้ฟังแล้วกัน ตอนนี้ไปอาบน้ำแล้วออกไปหาอะไรกินกันดีกว่า” มิยูพูดก่อนจะเดินออกไปจากสนามซ้อม

    “ดี ๆ อีกครึ่งชั่วโมงเจอกันหน้าหอพักนะ”

     

     

    “ว๊าวววว พี่ ๆ ค่ะ ที่นี้สวยจัง”หลังจากออกมาจากหอพัก นักกีฬาทีมสปริงส์บางส่วนก็ออกมาเดินเล่นตามถนนคนเดินใกล้ ๆ ที่พัก และดูเหมือนเด็กน้อยจะตื่นเต้นในบรรยายกาศที่ไม่เคยเห็น

    “ตัวเล็กระวังอย่าเดินห่างพวกพี่นะเดี๋ยวหลง”เมื่อเห็นฮารุกะที่ดูจะถูกใจไปเสียทุกอย่างกับร้านค้าต่าง ๆ ที่เรียงรายอยู่ทั้งสองข้างทางโดยที่ไม่ค่อยได้มองเพื่อนร่วมคณะเท่าไหร่มิยูก็เอ่ยเตือนขึ้น และเมื่อนั่งทานข้าวกันได้สักพักน้องเล็กสุดจึงขอตัวไปเข้าห้องน้ำ

    “พี่ไปเป็นเพื่อนมั๊ย”

    “ไม่เป็นไรค่ะ นากาโอกะซัง หนูเห็นห้องน้ำอยู่ตรงทางเดินถัดไปไม่กี่ร้านเอง เดี๋ยวหนูมานะคะทุกคน” พูดจบฮารุกะก็หมุนตัววิ่งออกไป

    “ห่วงเกินไปเปล่า แค่เข้าห้องน้ำเอง”ยูกิที่เห็นมิยูได้แต่มองไปที่ประตูแทบจะทุกสิบวินาทีเอ่ยถาม

    “แกไม่รู้อะไร เท็นชินะ ตัวหลงทิศที่เก่งที่สุดเลยล่ะ เป็นห่วงว่ะ ไปนานแล้วด้วย เดี๋ยวมานะ”พูดจบมิยูก็ลุกออกไปอีกคน ท่ามกลางสายตาของคนทั้งโต๊ะ

    “เท็นชิ อะไรอ่ะ??”ริสะถาม

    “เอาน่า เดี๋ยวคืนนี้มิยูมันก็เล่าแล้ว เก็บความสงสัยไว้ถามทีเดียวแล้วกัน”ยูกิตัดบท

    “ทุกคน น้องหายไป ไม่อยู่ในห้องน้ำ ช่วยหาหน่อย” ก่อนที่ใครจะได้พูดอะไรอีกมิยูก็พลักประตูร้านเข้ามาพูดด้วยหน้าตาตื่น ๆ

     

    สองชั่วโมงกว่าแล้วที่ฮารุกะหลงจากพวกรุ่นพี่ สองขาเรียวพยายามที่จะพาตัวเองกลับไปที่ร้านอาหารร้านเดิมแต่ดูเหมือนยิ่งเดินเธอจะยิ่งลง ประกอบกับท้องฟ้าที่มืดลงเรื่อย ๆ ทำให้ฮารุกะเริ่มกลัวเนื่องด้วยไม่คุ้นเคยกับสถานที่แล้วไม่ต้องบอกก็คงรู้ว่าเธอไม่รู้ทางกับหอพักแน่ ๆ  ตากลมโตเริ่มกวาดมองไปรอบ ๆ แล้วก็เห็นรุ่นพี่อยู่อีกฟากหนึ่งของตรอกเล็ก ๆ ระหว่างตึก ขาเรียวจึงวิ่งเข้าไปในตรอกพร้อมตะโกนเรียก

    “รุ่นพี่ค่ะ!!! พี่ยูกิ!!!นากาโอกะซัง!!!พี่ริ...สะ”เสียงเรียกรุ่นพี่แผ่วลงเมื่อขาเรียววิ่งเข้ามาถึงกลางตรอกแล้วมีคนสองคนดักอยู่ด้านหน้า

     

    “เป็นไรอ่ะ มิยูหยุดทำไม”

    “เงียบหน่อย เหมือนฉันจะได้ยินเสียงน้องเรียกนะ”มิยูหันซ้ายหันขวาพยายามฟังเสียงที่น้องเรียก

    “ทางนี้...”พูดเสร็จก็ออกนำเพื่อน ๆ วิ่งกลับไปยังทางเดิมที่วิ่งผ่านมา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×