คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ทำไม??...นะ
ห้องอาหารสโมสร....
เสียงพูดคุยจ้อแจ้เงียบลงทันทีที่ยูกิเปิดประตูเข้าไปพร้อมน้องใหม่
“ตัวเล็ก มาแล้วเหรอ เร็ว ๆ มานั่งนี่ ทานข้าวกัน อ๋อ พี่ชื่อ อิวาซากะ นานะ เรียก นานะก็ได้พี่ไม่ถือ”นานะร่ายยาวพร้อมดึงแขนฮารุกะให้เดินตามตัวเอง
หมับ!!!
ยูกิคว้าแขนฮารุกะไว้
“โด่ว์...นานะ เราเป็นคนพาตัวเล็กมานะ ตัวเล็กต้องนั่งกับเราซิ”
“โถ่...ยูกิก็ทำความรู้จักตัวเล็กแล้วนิ...ให้ฉันคุยกับน้องบ้างดิ่” นานะพูดพลางดึงแขนฮารุกะกลับมา
“ทำความรู้จักที่หลังก็ได้ ให้น้องทานข้าวก่อนดิ เนอะตัวเล็กเนอะ” ยูกิดึงแขนน้องกลับพร้อมพยักเพยินให้น้องเห็นด้วย
“เอ่อ....”ฮารุกะที่ไม่รู้จะแก้ปัญหายังไงได้แต่มองยูกิทีนานะที ไม่กล้าแม้แต่จะบอกว่าเจ็บไม่น้อยที่โดนดึงแขนแบบนี้ ก็แหม...พวกพี่เขาเป็นนักตบระดับทีมชาติทั้งนั้นออกแรงธรรมดา ๆ ก็เยอะกว่าคนทั่วไปมากโขอยู่
เพลียะ!!! เพลียะ!!!
“โอ๊ย!!”
“โอ๊ย!! โห้ยยย...มิยูแกตีแขนฉันกับนานะทำไมเนี่ยเจ็บนะ” ยูกิโวยวายใส่เพื่อนสนิทที่อยู่ดี ๆ ก็ลุกขึ้นจากโต๊ะที่ตัวเองทานข้าวอยู่เดินเข้ามาตบที่แขนตัวเองกับนานะคนละทีส่งผลให้ทั้งยูกิและนานะปล่อยมือออกจากแขนฮารุกะทันที มิยูไม่พูดอะไรเพียงแต่ปลายตามองเพื่อนสนิทและหันกลับมามองฮารุกะที่กำลังจ้องเขาตาแป๋ว ก่อนจะเดินเข้าไปหาพร้อมจับแขนน้องทั้งสองข้างพลิกไปพลิกมา
“น้องเจ็บ แกเห็นมั๊ย แขนขึ้นรอยแดงเลย” มิยูตวัดตาเรียวมองยูกิและนานะ ทำเอาทั้งสองคนสะดุ้งกับสายตาพิฆาตจากมิยู
“แหะ ๆ...พี่ขอโทษนะ ตัวเล็กเจ็บมากมั๊ยนั่น” ยูกิเอ่ยถาม
“ไม่เป็นไรค่ะ” ^^ ฮารุกะที่เห็นว่าเรื่องแค่นี้เล็กน้อยมากก็เอ่ยบอกยิ้ม ๆ
“พี่ด้วย ๆ ขอโทษที ป่ะ พี่พาไปหายาทานะ” นานะกำลังจะคว้าแขนน้องอีกครั้งแต่มิยูกลับดึงฮารุกะมาไว้ข้างหลังตัวเอง
“นานะไปทานข้าวเถอะ...”
“อ้าวแล้วจะไปไหนนะ..มิยู๊...” ยูกิที่กำลังงง ๆ กับการแสดงออกของมิยูเอ่ยถามเมื่อเห็นเพื่อนรักจูงมือน้องเดินลิ่ว ๆ ออกจากห้องอาหาร
“พาน้องไปทายา” หันมาพูดแค่นั้นก็ปิดประตูห้องอาหารตามหลังทันที ภายในห้องอาหารที่สมาชิกทุกคนในทีมยังอยู่ครบจึงตกอยู่ในความเงียบจากเหตุการณ์เมื่อสักครู่ ก่อนที่ริสะจะหาลิ้นตัวเองเจอเป็นคนแรก
“เฮ้ย!!! นี่มันปรากฏการณ์อะไรเนี่ย”
“เมื่อกี้...มันมิยูแน่เหรอว่ะ” ชิสึรุบ่นออกมา
“ไม่ใช่อ่ะ เมื่อกี้นี้ไม่ใช่มิยูแน่ ๆ มิยูมันประเภทโลกส่วนตัวสูง ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ถึงภูเขาไฟจะระเบิดตรงหน้ามันก็ยังเฉย” นานะเอ่ยบ้าง
“แต่เมื่อกี้..มัน...” ยูกิหยุดพูดแค่นั้นเมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
“โมชิ...โมชิ”
“ยูกิแกเอาเบอร์เกอร์ปลาบีบมายองเนสใส่เยอะ ๆ น้ำสัม กับโยเกริต์อีกถ้วยมาที่ห้องพยาบาลหน่อย”
“ฮะ...เฮ้ย...เดี๋ยวเด๋ มิยู!!!...มิยู๊!!!อ้าววางไปซะแล้ว”
“ว่าไงอ่ะ ยูกิ” นานะที่อยู่ใกล้เอ่ยถาม
“มิยูมันบอกว่าให้เอาเบอร์เกอร์ปลา น้ำสัม กับโยเกริต์ไปให้ที่ห้องพยาบาลอ่ะ” ยูกิหันมาตอบอย่างงง ๆ
“เบอร์เกอร์ปลา??” นานะ
“น้ำส้ม??” ชิสึรุ
“โยเกริต์???” ริสะ
“ไม่ใช่ของที่มิยูมันเคยทานสักอย่างนี่น่า” ทั้งสี่คนประสานเสียง
“แปลก” ริสะ
“อืม..แปลก” นานะเห็นด้วย
“แปลก..มากกกกกกกกกก” ชิสึรุลากเสียงยาวก่อนจะเอามือขึ้นตบบ่ายูกิ
“เป็นหน้าที่เธอ ยูกิไปสืบมาให้ได้ว่า มิยูกะตัวเล็ก น่ะมันอะไร ยังไง แน่ เข้าใจ๋” ยูกิพยักหน้าเป็นเชิงรับปากหลังจากนั้นทุกคนจึงแยกย้ายกันไปทานข้าวตามปรกติเพราะคิดว่าเดี๋ยวคงได้ความจากยูกิเอง ในมุมหนึ่งของห้องอาหาร มือบางของใครบางคนกำลังกำช้อนในมือแน่นจนมือขาวซีด
“หึ...มาไม่กี่วันก็ทำตัวเด่นให้พี่มิยู สนใจเชียวนะ ยัยเด็กฝึกงาน!!!”
ห้องพยาบาลสโมสร
“พยาบาลไม่อยู่ ตัวเล็กรอนี่นะ พี่ไปดูยาให้ก่อน” เมื่อเข้ามาในห้องและไม่เห็นพยาบาลที่ควรอยู่ประจำเพราะเป็นเวลาเที่ยง มิยูเลยให้ฮารุกะนั่งรอที่เตียงและตัวเองเดินไปแถว ๆ ตู้ยา
“อันที่จริง รอยช้ำแค่นี้เอง ไม่น่าต้องลำบากนากาโอกะซังเลยค่ะ” ฮารุกะที่นั่งรอพร้อมมองมิยูที่กำลังเปิดตู้เพื่อหายาแก้ฟกช้ำให้เธอเอ่ยขึ้น มือเรียวที่กำลังอ่านฉลากยาชะงักไปเล็กน้อยเมื่อสะดุดหูกับคำเรียกที่ไม่คุ้นเคย ...นางฟ้าตัวน้อยไม่เคยเรียกเขาว่านากาโอกะสักครั้ง หรือฮารุกะจะจำเขาไม่ได้จริง ๆ...
“ไม่ลำบากหรอกคะตัวเล็ก ตอนนี้แค่นี้...แต่ผิวฮารุกะนะบางมาก ๆ ถ้าปล่อยไว้อย่างนี้ อีกแป็บเดียวได้เป็นรอยช้ำรอยใหญ่แน่ ๆ”
“นากาโอกะซังรู้ได้ไงค่ะ ว่าผิวหนูบาง” ฮารุกะเอียงคอถามอย่างสงสัยเมื่อมิยูเดินกลับมาพร้อมหลอดยา มิยูสบตาฮารุกะที่ส่งสายตาสงสัยมาเต็มที่ ก่อนจะก้มลงพร้อมถอดหายใจนิด ๆ
“ก็พี่เห็นอยู่นี่ไงค่ะ ฮารุกะนะ ผิวบางจะตาย” มิยูยกแขนให้ฮารุกะมองรอยช้ำที่เกิดขึ้นซึ่งในตอนนี้เริ่มจะขยายวงการช้ำในและทวีความรุนแรงจากแดงเป็นม่วงแล้ว ฮารุกะตาโตมองที่แขนตัวเองอย่างไม่นึกว่าจะช้ำในขนาดนี้
“นิ่ง ๆ นะคะคนดี พี่ทายาให้” เมื่อมิยูบีบยาทาใส่มือค่อย ๆแตะที่แขน ฮารุกะก็สะดุดนิด ๆ พร้อมกับกระตุกแขนหนีเบา ๆ จนมิยูต้องเอ่ยปราม
“เจ็บ” คำเดียวสั้น ๆ และน้ำเสียงสั่น ๆพร้อมน้ำตาคลอๆของฮารุกะเรียกให้มิยูเงยหน้ามาสบตาน้องอีกครั้ง
“พี่สัญญาว่ามันจะไม่เจ็บค่ะ นะคะคนดีอดทนนิดนึง เสร็จแล้วเดี๋ยวพี่พาไปหาอะไรอร่อย ๆ ทาน โอเคมั๊ย??” ตบท้ายด้วยของอร่อย น้องน้อยจึงพยักหน้ารั่ว ๆ แทนคำตอบ มิยูได้แต่ก้มหน้าซ้อนรอยยิ้ม นางฟ้าของเขาไม่เคยเปลี่ยนยังไงๆ ของกินก็สำคัญที่สุด
ก๊อก ๆ
“มิยู ฉันเอาเบอร์เกอร์ น้ำส้ม กับโยเกริต์ มาให้”ยูกิโผล่หน้าเข้ามาพร้อมถาดอาหารในมือ
“อืมขอบใจ”
“ว่าแต่ตัวเล็กเป็นไงมั้ง”ยูกิวางถาดอาหารไว้บนโต๊ะก่อนจะเดินเข้ามาดูฮารุกะใกล้ ๆ
“โฮ้...ช้ำขนาดนี้เลยเหรอ” ยูกิเริ่มหน้าเสียทันทีที่เห็นรอยช้ำรอยใหญ่ที่แขนทั้งสองข้างของฮารุกะ
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พี่ยูกิ หนูนะผิวบางมันก็เลยช้ำง่าย ไม่เจ็บมากหรอกค่ะ” ฮารุกะที่เห็นยูกิเริ่มหน้าเสียก็เอ่ยบอกด้วยรอยยิ้มด้วยไม่อยากให้รุ่นพี่คิดมากถึงตัวเธอจะเจ็บจริงก็เถอะแต่แค่นี้เล็กน้อย มิยูส่ายหน้าน้อย ๆที่ฟังคำตอบจากฮารุกะ นางฟ้าของเขาก็แบบนี้ห่วงคนอื่นก่อนตัวเองเสมอ
“เสร็จแล้วค่ะ ที่นี้...ฮารุกะทานข้าวก่อนนะคะ เที่ยงกว่าแล้วทานผิดเวลาเดี๋ยวเป็นโรคกระเพาะนะ”มิยูยืนถาดข้าวให้ฮารุกะที่กำลังทำหน้ามุ่ย
“ง่ะ...ก็ไหนนากาโอกะซังบอกว่าจะพาไปหาอะไรอร่อย ๆ ทานไงค่ะ”
“ไว้เย็นนี้ซิค่ะ พี่ต้องกลับไปซ้อมนะ เรานะทานข้าวแล้วก็นอนพักซะ เดี๋ยวพี่บอกพี่ไอริให้ว่าเราอยู่ห้องพยาบาล”มิยูพูดพลางลูบผมนิ่มของฮารุกะอย่างเอ็นดูกับอาการงอนเล็ก ๆของฮารุกะ
“ง่ะ...แต่ว่า...”
“เย็นนี้จริง ๆ ค่ะ” เมื่อเห็นท่าทางว่าฮารุกะตั้งท่าจะเถียงมิยูจึงรีบขัดขึ้น
“จริงนะ??”คำพูดเหมือนจะคาดคั้นแต่น้ำเสียงกลับอ้อนนิด ๆ
“สัญญาคะ” คำสัญญาพร้อมรอยยิ้มของมิยูอยู่ในสายตาของยูกิที่เหมือนคนทั้งคู่จะลืมไปว่ามีเธออยู่ในเหตุการณ์นี้ด้วย
“ที่นี้...หลับตาซะคนดี”เมื่อฮารุกะทานอาหารที่ยูกิยกมาให้จนหมดมิยูก็จัดแจงให้น้องล้มตัวนอนก่อนจะห่มผ้าให้ถึงหน้าอกในขณะที่ฮารุกะได้แต่นอนมองมิยูตาแป๋วจนมิยูต้องเอ่ยบอกให้หลับตา ฮารุกะทำตามอย่างว่าง่าย
“นี่มิยู??”ยูกิที่ยืนอยู่ใกล้ๆ เมื่อเห็นว่าฮารุกะหลับไปแล้วจึงเอ่ยเรียกเพื่อนพร้อมเตรียมจะตั้งคำถามที่ตัวเองสงสัย
“ชูว์...จะคุยไปคุยข้างนอก ถ้าน้องนอนไม่พอล่ะก็ ได้งอแงแน่ ๆ” มิยูตอบกลับด้วยเสียงกระซิบเบา ๆ ก่อนที่ยูกิจะพยักหน้ารับรู้แล้วทั้งคู่ก็พากันเดินออกไป
เมื่อเสียงประตูปิดลงคนที่ทุกคนคิดว่าหลับก็ลืมตาขึ้น
...น่าแปลก...ทั้ง ๆ ที่เพิ่งได้เจอเพิ่งได้ทำความรู้จักแต่ทำไมเรากลับรู้สึกเหมือน คุ้นเคย...และทำตัวเป็นตัวของตัวเองได้อย่างน่าประหลาด จริง ๆ แล้วฮารุกะก็ค่อนข้างที่จะรู้ตัวอยู่หรอกว่าตัวเองเป็นประเภท น้องเล็กที่เอาแต่ใจ ขี้งอน ขี้อ้อน และขี้แง ดังนั้นเธอจึงระวังตัวเสมอไม่ให้เผลอแสดงกิริยาเหล่านั้นเพราะรู้ดีว่าที่นี้ไม่ใช่บ้านที่เธอจะเอาแต่ใจหรืออ้อนใครต่อใครได้ตลอดเวลา แต่ก็น่าแปลกที่อยู่กับนากาโอกะซังได้ไม่ถึงชั่วโมง เธอกลับแสดงออกมาครบเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น ขี้แง ขี้งอน หรือ ขี้อ้อน ทำไมกันนะ??...
ความคิดเห็น