ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 2 : เพื่อนรัก
“ลูกพี่ลูกน้องเหรอ ไม่ยักรู้ว่าอาโต้มีลูกพี่ลูกน้องด้วย”
“หน้าอย่างฉัน จะมีลูกพี่ลูกน้องไม่ได้หรือไง แล้วนี่ริต้าจะไปไหนต่อมั้ย” อาโต้ถามริต้าอย่าเอาอกเอาใจ โดยไม่สนใจฉันที่ยืนข้างๆว่ารู้สึกยังไง ไอบ้าเอ้ย
“ริต้าจะไปซื้อเสื้อผ้าด้านนู้นน่ะ”
“งั้นให้ฉันไปเป็นเพื่อนน่ะครับ” แหวะ เสียงหวาน ไม่คิดว่าหน้าเข้มๆอย่างอาโต้ จะพูดหวานๆเป็นกับเขาด้วย
“เอาสิ”
แหวะ หยั่งกับเป็นแฟนกันแนะ พูดจาซะหวานเวอร์ หมั่นไส้ เอ้า ! แล้วฉันจะหมั่นไส้ทำไม แต่ว่า ถ้าเขาทั้ง 2 เป็นแฟนกันล่ะ ถ้าพวกเขาเป็นแฟนกัยฉันก็ไม่ต้องหมั้นน่ะสิ เย้ๆ ฉันจะบอกคุณพ่อว่าอาโต้มีแฟนแล้ว รู้มั้ย ตอนนี้ ฉันกำลังเดินตามหลังของริต้ากับอาโต้อยู่โดยที่อาโต้ไม่สนใจฉันเลยเหมือนกับว่าฉันไม่มีตัวตนยังไงยังงั้น อาโต้กับริต้าเดินจับมือย้ำว่า จับมือ แล้วหัวเราะพูดคุยคิกคักกันใหญ่อย่างสนุกสนาน แล้วฉันล่ะ มีแต่ฉันที่เดินอยู่ข้างหลังห่างๆด้วยใบหน้าที่บึ่งตึง ไม่ตลกด้วยน่ะ เฮ้อ ! ถ้าสถานการณ์มันเป็นแบบนี้ ถ้าอาโต้ทำเหมือนฉันไม่มีตัวตนแบบนี้ ฉันไปดีกว่า ไปนั่งรอที่รถดีกว่า ไม่อยากเป็น ก้างขวางคอ เหอะ ! เสื้อผ้าก็ไม่ได้ซื้อ เดินก็เดินคนเดียว คอยดูน่ะอีตาบ้าอาโต้ทำกับฉันแบบนี้ ฉันจะฟ้องคุณพ่อ ชิ้ ให้กลับบ้านก่อนเถอะ ฉันจะไม่หมั้น ฉันจะโวยวายให้ตายเลยคอยดู
แหวะ หยั่งกับเป็นแฟนกันแนะ พูดจาซะหวานเวอร์ หมั่นไส้ เอ้า ! แล้วฉันจะหมั่นไส้ทำไม แต่ว่า ถ้าเขาทั้ง 2 เป็นแฟนกันล่ะ ถ้าพวกเขาเป็นแฟนกัยฉันก็ไม่ต้องหมั้นน่ะสิ เย้ๆ ฉันจะบอกคุณพ่อว่าอาโต้มีแฟนแล้ว รู้มั้ย ตอนนี้ ฉันกำลังเดินตามหลังของริต้ากับอาโต้อยู่โดยที่อาโต้ไม่สนใจฉันเลยเหมือนกับว่าฉันไม่มีตัวตนยังไงยังงั้น อาโต้กับริต้าเดินจับมือย้ำว่า จับมือ แล้วหัวเราะพูดคุยคิกคักกันใหญ่อย่างสนุกสนาน แล้วฉันล่ะ มีแต่ฉันที่เดินอยู่ข้างหลังห่างๆด้วยใบหน้าที่บึ่งตึง ไม่ตลกด้วยน่ะ เฮ้อ ! ถ้าสถานการณ์มันเป็นแบบนี้ ถ้าอาโต้ทำเหมือนฉันไม่มีตัวตนแบบนี้ ฉันไปดีกว่า ไปนั่งรอที่รถดีกว่า ไม่อยากเป็น ก้างขวางคอ เหอะ ! เสื้อผ้าก็ไม่ได้ซื้อ เดินก็เดินคนเดียว คอยดูน่ะอีตาบ้าอาโต้ทำกับฉันแบบนี้ ฉันจะฟ้องคุณพ่อ ชิ้ ให้กลับบ้านก่อนเถอะ ฉันจะไม่หมั้น ฉันจะโวยวายให้ตายเลยคอยดู
พรึ่บ!
“กรี๊ดด!”
ฉันที่กำลังเดินอยู่ดีๆ ก็เดินสะดุดอะไรสักอย่าง จนเกือบล้มหน้าทิ่มก็มีแขนปริศนาของใครสักคนมาคว้าเอาไว้ แล้วฉันก็มองคนตรงหน้า นะนายอาโต้ บ้าไปแล้ว มาอยู่ตรงนี้ตอนไหนน่ะ
“นะ นายมาอยู่ตรงนี้ได้ไงอะ”
“ฉันก็วิ่งตามหาเธอน่ะสิ ตอนที่กำลังเดินกับริต้าอยู่พอหันมาข้างหลังอีกทีไม่มีเธออยู่แล้ว ก็รีบวิ่งตามหาแทบตาย อย่าทำให้คนอื่นเป็นห่วงน่ะรู้มั้ย ฉันเหนื่อย” อาโต้พูดด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์ การที่มีฉันนี้มันทำให้เขาเหนื่อยงั้นเหรอ เจอกันแค่วันแรกเขาก็รำคานฉันแล้วเหรอ แล้วจู่ๆริต้าก็วิ่งมาทางนี้และหอบแหกๆ พออาโต้เห็นว่าริต้าวิ่งมา เขาก็รีบปล่อยฉัน จนฉันเกือบล้มไปอีกครั้ง ดีที่เขาเอามือมาจับแขนฉันไว้
“อาโต้เนี่ยวิ่งเร็วจังจนริต้าตามไม่ทันเลยน่ะค่ะ” ริต้าพูดพลางเอามือมาคล้องแขนเขาอาโต้อย่างถือวิสาสะ
“ก็ยัยแสบนี่สร้างแต่เรื่องให้ฉันปวดหัวทุกทีเลยจริงๆ” สร้างแต่เรื่องเหรอ พูดออกมาได้น่ะอีตาบ้าอาโต้ ฉันเริ่มเกลียดนายขึ้นเรื่อยๆแล้วน่ะไอบ้า ถึงจะหล่อ ฉันก็ไม่แคร์และไม่เสียดาย
“เออ! ฉันมันสร้างแต่เรื่องให้นายมากใช่มั้ยอาโต้ ฉันมันมีปัญหามากใช่มั้ย งั้นก็เชิญไปสวีตกันให้พอเห่อะ” ฉันพูดจบก็รีบวิ่งออกจากตรงนั่น
ฉันไม่รู้ว่าฉันวิ่งมาไกลถึงไหน ฉันวิ่งตรงไปตลอดทางด้วยความโกรธ โกรธและเกลียดที่สุด แล้ว…
พรึ่บ!
. . . . .
. . . . .
ฉันไม่รู้ว่าฉันวิ่งมาไกลถึงไหน ฉันวิ่งตรงไป ตรงไปตลอดด้วยความโกรธ แล้ว..
พรึ่บ!
พรึ่บ!
“โอ้ะ!”
ฉันร้องออกมา เพราะชนกับใครไม่รู้เข้าอย่างจัง
“อ้าย! ยัยบ้า วิ่งยังไงไม่ดูทางห้ะ!” เสียงผู้หญิงที่ฉันชนร้องกระดี้กระด๊าใหญ่ แล้วฉันก็เงยหน้าจะขอโทษแต่…
“ขะ ขอทะ เฮ้ยยย โบว์ โบว์ใช่มั้ย” ฉันพูดด้วยใบหน้าที่ดีใจสุดๆ ฉันจำได้ยัยหน้าเปรี้ยวๆแบบนี้เพื่อนสนิทฉัน
“ยัยออน นี้แกเหรอ แกมาไทยตอนไหนว่ะ ฉันไม่รู้เลย ทำไมไม่บอกฉันห้ะ” โบว์พูดด้วยใบหน้าที่ดีใจแต่ก็นอยที่ฉันไม่ได้บอกว่าจะกลับมาไทย ก็ยัยโบว์นี่สิ โทรไปก็ไม่ค่อยรับ
“ฉันขอโทษ ก็แกไม่รับโทรศัพท์ฉันนี่นา เอ้อแล้วทำไมหน้าแกดูซีดๆ จังว่ะ” ฉันพูดกับเพื่อนรักที่ไม่ได้เจอกันมาประมาณ 5 ปี เราเป็นเพื่อนรักกัน โบว์เป็นลูกสาวของเพื่อนแม่ฉันเองล่ะ
“เอ่อฉัน…”
“แกมีอะไรบอกฉันได้น่ะโบว์”ฉันพูดด้วยสีหน้าเป็นห่วง
“ไปคุยกันที่บ้านฉันเห่อะ น่ะออน”
“อืม ก็ได้”
30 นาทีผ่านไป
“ห้ะ! อะไรน่ะโบว์ แกท้องเหรอ ฉันไม่ตลกด้วยน่ะ แล้วแกท้องกับใคร”
“ฮือ ออน อย่าเสียงดังสิ ฉันท้องกับไอชั่ว!!!!” โบว์พูดพลางร้องไห้ไปด้วย ตอนนี้ฉันอยู่ในห้องของโบว์ ฉันไม่สนใจอะไรแล้วนอกจากยัยบ้าเพื่อนนี่
“ไอชั่วไหน แกบอกฉันสิโบว์”
“ถึงยังไงแกก็ไม่รู้จักหรอกออน แต่มันชื่อ เตชิต มันเป็นมาเฟีย มันมอมยาฉัน ฉันเกลียดมัน ฉันเกลียดมัน!!!”
“เฮ้ยยยแก ใจเย็นๆก่อนน่ะ แล้วก็ค่อยๆคุยกับพ่อแม่แกน่ะโบว์” ฉันค่อยๆพูดปลอบโบว์ ดีที่ห้องของโบว์เป็นห้องเก็บเสียง ไม่งั้นคงเทือนไปทั้งห้องแน่
“ไม่น่ะออน อย่าบอกพ่อกับแม่น่ะ”
“แล้วแกมีอะไรกับมันตั้งแต่เมื่อไหร่!”
“เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว มันบอกว่าถ้าฉันท้อง ถ้าฉันไปยุ่มย้ามกับมันมันจะฆ่าฉัน ฉันกลัวอ่ะออน แกฉันจะทำยังไงดี ฉันควรเก็บไว้มั้ย ฮึก”
“โบว์แกอย่าทำอะไรบ้าๆน่ะ แกต้องค่อยๆคุยกับพ่อแม่แก แกต้องเก็บไว้น่ะโบว์ ฮึก ฉันจะช่วยแกเอง ฉันจะแก้แค้นผู้ชายคนนั้นให้แกให้ได้น่ะโบว์ ฮึกฮือๆ”
ฉันพูดพลางกอดโบว์แล้วร้องไห้ไปด้วยกัน เพื่อนทุกข์เราทุกข์ด้วย
ฉันอยู่คุยเป็นเพื่อนโบว์เนิ่นนาน จนตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว โบว์เริ่มดีขึ้นมาบ้าง แล้วโบว์ก็มาส่งฉันที่บ้าน
“โบว์ ขอบใจน่ะที่มาส่ง”
“ไม่เป็นไรหรอกเราเป็นเพื่อนกันนี่”
“แกอย่าคิดมากน่ะ” ฉันพูดด้วยความเป็นห่วงแล้วลงจากรถของโบว์
“อืม ขอบใจน่ะ” โบว์เปิดกระจกรถแล้วแล้วพูด ก่อนจะส่งมือบ้ายบ่ายให้ แล้วก็ขับรถไป เฮ้อ ฉันสงสารแกจังว่ะโบว์
ตรงหน้าฉันตอนนี้คือบ้านของฉัน หลังจากไม่ได้มา 5 ปี คิดถึงชะมัดเลย คิดถึงคุณพ่อคุณแม่ที่สู๊ด
ฉันเปิดประตูรั้วเข้าไป ว้าวว รู้สึกดีชะมัดที่ได้กลับบ้าน
“ไปไหนมา”เสียงเข้มของใครสักคนดังขึ้น
“นะนายอาโต้” ฉันอุทานเมื่อหันไปเห็นเขายืนพิงกำแพงรั้วอยู่
“ใช่ ฉันเอง ไปไหนมา ตอบมาสิ” อาโต้ถามฉันย้ำ
“ฉันจะไปไหนมาไหนเกี่ยวอะไรกับนายล่ะ”
“เธอกำลังจะหมั้นกับฉันน่ะ”
“แล้วคิดว่าฉันอยากหมั้นรึไง” ฉันพูดด้วยใบหน้าที่เสียอารมณ์สุดๆ
“ฉันก็ไม่อยากหมั้นเหมือนกันแหล่ะ”
“เออ ก็นายมีแฟนแล้วนิ้”
“ใช่ฉันมีแฟนแล้ว เพราะฉะนั่นฉันจะไม่หมั้นกับเธอแน่”
“ฉันก็เหมือนกัน” ฉันพูดด้วยใบหน้าบึ้งตึงแบบสุดๆ แล้ววิ่งเข้าไปในบ้านหรือคฤหาสน์ ปล่อยให้นายอาโต้ยืนซื่อบื้ออยู่คนเดียว
“ออน ออนไปไหนมาลูก” เสียงของคุณแม่ดังขึ้นเมื่อฉันเดินเข้าไปในบ้าน คุณแม่ที่เดินมาหาฉันโดยมีคุณพ่อเดินมาข้างๆด้วยกัน
“ออนไปบ้านโบว์มาน่ะค่ะ” ฉันพูดแล้วโอบกอดพ่อกับแม่อย่างใคร่รัก
“โถ่ลูก ทำไมไม่บอกอาโต้ล่ะ รู้มั้ยอาโต้เขาเป็นห่วงลูกแทบตายน่ะแล้วลูกได้เจออาโต้แล้วใช่มั้ย” คุณแม่พูดเมื่อผละออกจากอ้อมกอด เป็นห่วเหรอ แหวะอีตาบ้านั่น ไม่ได้เป็นห่วงฉันหรอก ทำเป็นพูดดีแบบนู้นแบบนี้กับคุณพ่อคุณแม่ฉันล่ะสิ
“ค่ะ คุณพ่อค่ะคุณแม่ค่ะ คือออน…” ฉันที่กำลังพูดว่าฉันจะไม่หมั้น แต่คุณแม่ก็พูดแทรกขึ้น
“อืมแม่รู้จ้ะ ลูกคงอยากพักผ่อนสิน่ะ นี่ก็ค่ำแล้วไปอาบน้ำพักผ่อนน่ะลูก”
“คุณแม่อ่ะ” ฉันพูดนอยๆ คุณแม่ไม่ฟังฉันพูดเลย
“อย่าขี้เกียจสิ ไว้พรุ่งนี้เจอกันน่ะลูก อย่านอนดึกล่ะเดียวไม่สวย”
“โถ่ คุณแม่” ฉันที่กำลังจะพูด แต่คุณแม่ก็พูดแทรกทุกทีเลย เหมือนกับว่าคุณแม่รู้ว่าฉันจะพูดอะไร ก็เลยเปลี่ยนเรื่อง ชีวิตฉันชั่งบรรลัยจริงๆว่ามั้ย จะต้องหมั้นกับคนที่ไม่ได้รัก แต่ยังไงฉันก็ไม่หมั้นเด็ดขาด ก็หมอนั่นมีแฟนแล้วนิ้ จริงมั้ย…
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น