Lore of the Second Age: Space Crime - นิยาย Lore of the Second Age: Space Crime : Dek-D.com - Writer
×

    Lore of the Second Age: Space Crime

    นิยายเรื่องยาวเกี่ยวกับสงครามและการสืบสวนสอบสวนในอนาคตอันไกลโพ้น

    ผู้เข้าชมรวม

    201

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    201

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    1
    หมวด :  สงคราม
    จำนวนตอน :  1 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  21 ก.ย. 60 / 04:09 น.
    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

         นิยายเรื่องนี้จะเล่าเรื่องผ่านตัวละครกลุ่มหนึ่งที่ใช้ชื่อว่าชาโดวคอร์ป (Shadow Corp) เป็นหลัก พวกเขาคือกลุ่มนักรบรับจ้างแห่งศตวรรษที่ 25 ซึ่งในอดีตล้วนแล้วแต่เป็นทหารกันมาก่อน

    ปฐมบท

    ปลายศตวรรษที่ 22 มนุษย์โลกเริ่มมีการสำรวจอวกาศอย่างจริงจังเพื่อค้นหาดินแดนใหม่อันเนื่องมา จากปัญหาประชากรล้นโลก นั่นทำให้พวกเขาได้พบกับดินแดนใหม่บนดาวเคราะห์ดวงใหม่อันไกลโพ้นซึ่งมนุษย์สามารถอยู่อาศัยได้จำนวน 3 ดวง

    ใน ปีค.ศ. 2288 ได้เกิดเหตุการณ์จลาจลขึ้นมากมายเนื่องจากความไม่พอใจของประชาชนที่มีต่อ รัฐบาลโลก ด้วยเหตุนี้ทางรัฐบาลจึงดำเนินการขั้นเด็ดขาดซึ่งก็คือการจับกุมประชาชนทุก คนที่ออกมารวมตัวกันประท้วงในเหตุการณ์ครั้งนี้โดยไม่มีข้อแม้ใด ๆ ทั้งสิ้นและมีคำสั่งเพิ่มเติมมาว่าให้จัดการ “ฆ่า” ทุกคนที่ขัดขืน ซึ่งในที่สุดแล้วนักโทษและเหล่ามนุษย์ที่ไม่พึงประสงค์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้ถูกนำขึ้นยานอวกาศเพื่อเนรเทศออกจากดาวโลกให้ไปอยู่บนดวงดาวที่ไกลโพ้น (ดาวที่เพิ่งค้นพบทั้งสามดวง)

    10 ปีผ่านไปยานทั้งสามลำก็เดินทางถึงเป้าหมายและลงจอดโดยปลอดภัย ซึ่งยานทั้งสามลำนั้นได้ทำการสำรวจ ปรับสภาพ พัฒนา และสร้างอารยธรรมของตนเองขึ้นมา ดวงดาวที่ถือได้ว่าแข็งแกร่งที่สุดจากทั้งสามดวงก็คือดาวอีเธอร์ (Aether) เนื่องจากมีประชากรโดยสารมากที่สุด ดาวอีกสองดวงที่ยานอีกสองลำลงจอดก็คือดาวเฮลิออส (Helios) และ อิซซาน (Issan) ซึ่งต่างก็พัฒนาอารยธรรมของตนเองขึ้นมาเช่นกัน หากแต่ไม่แข็งแกร่งเท่าดาวอีเธอร์เนื่องจากจำนวนประชากรที่มีน้อยกว่า หลังจากนั้นประมาณ 100 ปี (ค.ศ. 2398) ต่างฝ่ายต่างก็ออกค้นหาดวงดาวใหม่ๆเพื่อขยายดินแดนของตน ทางฝ่ายของดาวอีเธอร์ซึ่งมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่สูงกว่าก็ได้ยึดครองดวงดาวที่ไม่มีเจ้าของไว้มากมายและยึดได้มากที่สุด

    วันที่ 28 กรกฎาคม ค.ศ. 2400 ทางรัฐบาลกลางของดาวอีเธอร์ได้มีมติเห็นชอบให้สถาปนาจักรวรรดิขึ้นมาโดยใช้ชื่อว่า “จักรวรรดิอีเธอร์” ตามชื่อดาวของตนเอง ภายใต้การนำของสมเด็จพระจักรพรรดิราฮาเอลที่หนึ่ง (Emperor Raha’el I) เมื่อเรื่องการสถาปนาจักรวรรดิอีเธอร์รู้ไปถึงหูของรัฐบาลของดาวทั้งสองที่เหลือ ด้วยความเกรงกลัวต่ออำนาจแต่ไม่อยากถูกปกครองอยู่ภายใต้กฎหมายของจักรวรรดิ ดวงดาวทั้งสองจึงได้รวมตัวกันเป็นอาณาจักรเดียวกันโดยใช่ชื่อว่าพันธมิตรเฮลิซซาน” (Helissan Alliance) ซึ่งมีรัฐบาลย่อยบริหารสองภาคส่วนก็คือส่วนของเฮลิออสซึ่งนำโดยนายทหารชั้น ผู้ใหญ่ พลเอกโอโตะ ทามูล (General Officer Oto Tamul) และส่วนย่อยของอิซซานซึ่งนำโดยหัวหน้าวุฒิสมาชิกราสนา สิปปะ (Grand Senator Rasna Sippa) และมีรัฐบาลกลางเป็นผู้บริหารงานสูงสุดอีกทีหนึ่งซึ่งบริหารงานโดยจอมพลอันโตนิน ดาคาโว (Marshal Antonin Dacawo)

    การก่อตั้งพันธมิตรนั้นทำให้จักรวรรดิเริ่มเกรงว่าสักวันหนึ่ง อาจเกิดเหตุ ร้ายต่อตนเองได้ พวกเขาจึงชักชวนให้พันธมิตรมารวมเป็นอาณาจักรเดียวกันแต่ไม่สำเร็จ นั่นทำให้จักรวรรดิเริ่มเกรงกลัวขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง

    ด้วยความไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกันนี้พวกเขาจึงส่งสายลับไปมาอยู่เรื่อย ๆ จนเกือบจะเกิดสงครามขึ้นมาแล้วสองครั้ง เหตุการณ์นี้ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายเริ่มเบาบางลง ทางฝั่งจักรวรรดิยกเลิกเส้นทางการค้ามากมายแต่ไม่ใช่ทั้งหมด ฝ่ายพันธมิตรยุติโครงการที่ร่วมมือกับจักรวรรดิเกือบทั้งหมด ผลที่ตามมาก็คือผู้คนมากมายต้องตกงานและเริ่มมีข่าวอาชญากรรมมากขึ้น สุดท้ายแล้วเป็นการเริ่มต้นของยุคสลัดอวกาศและนักรบรับจ้าง

         

            จักรวรรดิอีเธอร์                 พันธมิตรเฮลิซซาน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น