Mirror Prince [YAOI] Rewrite - Mirror Prince [YAOI] Rewrite นิยาย <FIN> Mirror Prince [YAOI] Rewrite : Dek-D.com - Writer

    <FIN> Mirror Prince [YAOI] Rewrite

    ทุกคนย่อมมีแฝด..แฝดที่เป็นเงาสะท้อนตัวคุณในกระจก ดังเช่นตัวข้า..แฝดที่เกิดจากความเหงา ความเหงาที่ออกมาจากกระจก....by:LuLu

    ผู้เข้าชมรวม

    264

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    264

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    1
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  25 เม.ย. 59 / 17:00 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    REWRITE ให้อ่านง่านขึ้นครับผมม By : LuLu
    T H E M E
    ? B L & W H ?
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      MIRROR PRINCE






      แสงแดดส่องผ่านบานหน้าต่างไม้ที่ถูกแกะสลักด้วยลวดลวายงดงามวิจิตร

      ร่างของชายหนุ่มนั่งเหม่อลอยอยู่ริมหน้าต่าง นิ้วเรียวลูบไปตามขอบหน้าต่างนั้น

      "องค์ชายเพคะ!"

      เสียงตะโกนเรียกจากภายนอกประตูไม้สลักบานใหญ่ดังขึ้น

      ชายหนุ่มยันกายลุกขึ้น ความมืดมิดภายในห้องบ่งบอกว่าเป็นเวลาค่ำแล้ว



      แกร๊ก.....



      "องค์ชายไททัน!เป็นอะไรรึเปล่าเพคะ?"



      เสียงเอ่ยถามของหญิงสาวในชุดคนรับใช้เอ่ยถาม




      เมื่อประตูบานใหญ่ถูกเปิดด้วยฝีมือของเจ้าของห้อง





      องค์ชายมองหญิงรับใช้ทั้งหลายด้วยความไม่พอใจ




      "เราไม่ได้เป็นอะไร...ก็แค่อยากอยู่คนเดียว





      เราไม่ได้เรียกพวกเจ้าก็ไม่ต้องเข้ามา"



      น้ำเสียงเรียบเฉย สีหน้าไม่แสดงความรู้สึก

      หากแต่คำพูดก็บอกได้เป็นอย่างดีว่าองค์ชายผู้สูงส่ง กำลังกราดเกรี้ยว...





      หญิงรับใช้ก้มหน้าก้มตาอย่างเกรงกลัว




      "ไปได้แล้ว แล้วอย่ามากวนใจเรา...."



      เปล่งวาจาสั่งเล็กน้อยก่อนจะมือเรียวจะผลักประตูปิดลงอีกครั้ง


      ร่างบางในชุดสีขาวสะอาดพาตัวเองไปนั่งตรงขอบหน้าต่างอีกครั้ง


      ดวงเนตรสีนิลจับจ้องลงไปยังเบื้องล่าง


      แสงไฟจากชุมชนที่ปกครองโดยพระบิดาของเขา.........



      ผ้าม่านสีขาวถูกกระชากปิดด้วยความหงุดหงิดใจ



      ห้องตกอยู่ในความมืดมิดมีเพียงแสงสลัว






      เจ้าชายไททันสาวเท้าไปที่หน้ากระจกเงาบานใหญ่



      ภาพของฝาแฝดที่พบเห็นกันทุกวันส่องสะท้อน






      ชายหนุ่มเพรียบพร้อมไปด้วยหน้าตาและยศถาบรรดาศักดิ์




      หากแต่ในดวงตากลับซ่อนเร้นความรู้สึกที่ไม่อาจปฏิเสธได้












      กระจกไม่เคยโกหก.....








      และที่สิ่งที่สะท้อนออกมาในดวงตาของฝาแฝดในกระจก







      ก็คือ.................














      'ความเหงา'








      ปลายนิ้วไล้ไปบนดวงตาที่สะท้อนในกระจกเงา...





      ฝาแฝดที่เกิดจากความเหงา...





      หากมีใครซักคนเข้าใจว่าเหตุใดเจ้าชายผู้สูงศักดิ์








      ถึงนิสัยเอาแต่ใจ โมโหร้าย ฝาแฝดที่สะท้อนความเป็นจริงคงไม่ดูเศร้าสร้อยถึงเพียงนี้...







      "ทำหน้าเศร้าแบบนี้ไม่เหมาะกับท่านเลยนะองค์ชายไททัน"




      เสียงหนึ่งดังขึ้นปลุกให้เจ้าชายผู้ตกอยู่ในห้วงความคิดสะดุ้งตัว


      ดวงเนตรสีนิลจ้องมองตัวเองในกระจกที่ส่งยิ้มมาให้ด้วยความตกใจ





      ".........."





      "ดูสิ..ท่านทำหน้าตกใจแบบนี้แล้วดูทรงโฉมกว่าตั้งเยอะ"



      ฝาแฝดในกระจกยังคงเอ่ยหยอกล้อราวกับรู้จักสนิทชิดเชื้อกันมานาน


      เจ้าชายไททันผงะถอยห่างจากกระจกเงาบานใหญ่


      เมื่อพบว่าคนในกระจกแม้ว่าจะยังคงเค้าความเป็นเขา





      หากแต่เมื่อดูดีๆ





      แล้วกลับเป็นอีกคนที่คล้ายกัน



      สังเกตรายละเอียดของเงาในกระจก



      ผมที่รวบขึ้นทั้งหมด กับชุดที่สวมใส่เป็นสีดำ




      นั่นไม่ใช่เงาของเขาเป็นแน่ ตรงข้ามกับเขาซึ่งอยู่ในชุดขาวและผมปล่อยสยาย






      "เจ้า!!เจ้าเป็นใคร!!!"



      ร่างบางถอยหลังไปหลายก้าว


      เมื่อคนในกระจกก้าวเท้าออกมายืนตรงหน้าเขา


      อีกฝ่ายส่งยิ้มหวานมาให้เพื่อให้อุ่นใจว่าเขาไม่ใช่ศัตรูที่เข้ามายามวิกาล



      "ข้า?ข้าก็คือท่านไงองค์ชาย

      ท่านก็เห็นแล้วว่าข้าออกมาจากกระจกที่ท่านส่องทุกวัน"




      คนตรงหน้าบอกด้วยรอยยิ้ม ไททันถอยหลังจนนั่งลงไปบนเตียงนุ่ม




      "ไม่ต้องห่วงหรอก ข้าไม่ใช่ผี...

      แล้วก็ไม่ใช่ศัตรูของท่าน ข้าเป็นมิตร...

      มิตรที่จะอยู่กับท่านในยามที่ท่านเหงา"


      ร่างหนาเดินเดินเข้ามาใกล้

      มืออบอุ่นส่งขึ้นด้วยแรงมัดกล้มเนื้อบรรจงลูบเส้นผมนุ่มสลวยอย่างอ่อนโยน

      แม้ดวงหฤทัยจะหวาดกลัวแต่เมื่อสัมผัสถึงความอบอุ่นที่ส่งผ่านมาทางฝ่ามือนุ่มกลับทำให้สงบลงได้อย่างแปลกประหลาด










      อุ่นใจ...เพียงแค่สัมผัสเท่านั้น










      "ข้าชื่อไตตัน....เป็นฝาแฝดของท่านในกระจก

      เห็นท่านเศร้าหมองทุกวันข้าก็เลยออกมา


      ข้าจะอยู่เป็นเพื่อนท่านจนท่านหายเหงาดีมั้ย?"




      คนแปลกหน้าแนะนำตัว....เจ้าชายไททันเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของอีกฝ่าย





      "เพื่อน?"




      เพื่อน.....






      เขาไม่เคยมีเพื่อน.....








      เจ้าชายไม่เคยรู้จักคำนี้






      "ใช่ เพื่อน...ข้าจะเป็นเพื่อนของท่าน....





      เพื่อนขององค์ชายจะไม่ใช่ความเหงาอีกต่อไป"





      'เพื่อนขององค์ชายจะไม่ใช่ความเหงาอีกต่อไป'..........








      จริงรึเปล่า? ข้า...











      เจ้าชายไททันจะมี 'เพื่อน' จริงๆใช่มั้ย?















      ”””””””””””””””

      "ไตตันไม่มีใครเห็นเจ้าเหรอ?"


      เสียงนุ่มของเจ้าชายเอ่ยถามในขณะที่กำลังนั่งพักอยู่ลานประลอง


      ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างกายหันไปหยิบศรแล้วยื่นให้กับเจ้าชาย ส่งยิ้มกว้างให้




      "ไม่ล่ะ มีแค่ท่านที่เห็นข้า"


      ไตตันตอบรับ มองสำรวจใบหน้าหวานของเจ้าชายที่บัดนี้เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม


      ไม่มีความเหงาหลงเหลืออยู่บนใบหน้าอีกต่อไป




      "ทำไมล่ะ?เราอยากให้ทุกคนเห็นเจ้า"


      เจ้าชายไททันบอกเสียงอ่อยนึกอยากอวดเพื่อนของตัวเองให้ใครๆได้รับรู้


      แต่ก็แปลกที่พบว่าไม่มีใครซักคนเห็นไตตัน


      ทุกคนยังปฏิบัติพัดวีองค์ชายเหมือนเดิมราวกับไม่เห็นอีกคนที่อยู่ใกล้ๆ




      "ข้าก็คือท่าน ทุกคนเห็นท่านก็เท่ากับเห็นข้า"



      "เราไม่เข้าใจ"


      เจ้าชายบอกเสียงสงสัยกับคำพูดวกวนของไตตัน




      "ซักวันท่านก็จะเข้าใจมันเองล่ะ องค์ชาย..."



      ดวงตาคมสบตากับดวงตาสวย เหมือนเกิดอะไรขึ้นกับภายใน



      เจ้าชายถึงได้รู้สึกร้อนไปทั่วพระพักตร์



      ดวงหทัยสั่นไหวอีกทั้งยังเต้นเร็ว





      พระโอษฐ์เรียวนั้นเม้มแน่น......










      เกิดอะไรขึ้น......















      เจ้าเป็นเพื่อนของข้า..........
















      แล้วทำไม.........





















      .ข้าถึงรู้สึกแบบนี้ไปได้........






















      อบอุ่น.....




      อบอุ่นไปถึงข้างใน



      อบอุ่นจนไม่รู้จะบรรยายออกมาเป็นประโยคคำพูดเช่นไร






















      ชีวิตที่เกิดมามีคนรับใช้ข้างกายเสมอมา









      ได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างดี



      แต่แม้ทุกอย่างจะดีเลิศและเพรียบพร้อมขนาดไหน




      แต่สิ่งที่ต้องการอย่างแท้จริงก็แค่....









      'ความรัก'







































      ในนิทานเมื่อมีเจ้าชาย ก็ต้องมีเจ้าหญิง


      เจ้าชายทุกคน


      รอคอยวันได้พบเจ้าหญิงที่อยู่ข้างกาย



      ไม่ทำให้ชีวิตเงียบเหงา



      เจ้าชายทุกคนต่างแสวงหาเจ้าหญิงผู้เพรียบพร้อม อ่อนโยน



      หากข้า..เจ้าชายไททันเป็น เจ้าชายในนิทานสักเรื่อง



      สิ่งที่ข้าวอนขอต่อพระผู้เป็นเจ้าหรือนางฟ้านางสวรรค์..






      .คือ...ให้ตัวข้าผู้ออกมาจากกระจกเงา....




      ตัวข้าที่สะท้อนความจริงในดวงตาของข้า




      จงอยู่ข้างกายและจับมือข้าไปอย่างนี้ตลอดกาล.......















      หากแต่นิทานทุกเรื่องย่อมต้องมีเจ้าหญิง เจ้าชายต้องคู่กับเจ้าหญิง

















      "ข้าไม่ไป!! ออกไปให้พ้น!!!"

      เสียงปิดประตูไม้ดังขึ้นลั่นปราสาท ร่างบางเดินมาที่เตียงนุ่มและทิ้งตัวลงนั่ง

      คนอีกคนที่นั่งอยู่ก่อนแล้วหันมาส่งยิ้มให้




      "ทำไมท่านไม่ไปล่ะ?"




      "เราไม่อยากพบเจ้าหญิงพวกนั้น เราไม่อยากแต่งงาน"

      เจ้าชายไททันบอกด้วยสุรเสียงไม่พอพระทัย ไตตันแย้มยิ้มออกมามือเรียวลูบไล้ไปบนเส้นผมนุ่ม




      "ทำไมกันเล่า การแต่งงานมันไม่เลวร้ายถึงขนาดนั้นหรอก

      แล้วท่านก็เป็นเจ้าชายเชื่อได้เลยว่าเจ้าหญิงที่เป็นชายาของท่านต้องเพรียบพร้อมและคู่ควรอย่างแน่"





      "เราไม่ได้ไม่อยากแต่งงานเพราะอยากได้คนที่คู่ควร"



      "แล้วเพราะอะไรกันเล่า?"




      "เพราะ..................."



      เจ้าชายไททันพูดได้แค่นั้นก็ต้องเม้มริมโอษฐ์แน่น




      เพราะเจ้า.......เพราะข้าอยากอยู่กับเจ้า




      ข้าไม่อยากให้บทสรุปของนิทานที่มีข้าเป็นเจ้าชายต้องจบด้วยการอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงมีความสุขในวังหลวง






      "ไปเถอะเจ้าชาย..ข้าสัญญาว่าจะรออยู่ที่นี่"



      ไตตันบอกราวกับอ่านใจของเธอได้ ดวงตาคมนั้นมองสบตาอย่างให้ความมั่นใจ


      สุดท้ายแล้วเจ้าชายก็จำต้องทำตามคำบอกของไตตัน



      ประตูห้องบรรทมถูกเปิดออกพร้อมกับบรรดาสาวใช้ที่กรูกันเข้ามา.....























      “”””””””””””””””””””””””””””””””””””””””










      "พี่ทรงชอบยิงธนูหรือเพคะ"


      เสียงหวานนุ่มเอ่ยถามจากฝั่งตรงข้ามโต๊ะด้วยท่าทางยิ้มแย้ม

      ที่ทำให้คนรอบข้างยิ้มตามได้ไม่ยาก



      "อืม"

      เจ้าชายแค่ตอบรับสั้นๆราวกับไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้พูดอะไรต่อ



      เจ้าหญิงยังยิ้มตอบในแบบเดิม




      "ไม่ต้องห่วงไปหรอก ถ้าพี่ไม่คิดจะแต่งงาน น้องหญิงจะบอกท่านพ่อให้ "



      เจ้าหญิงบอกด้วยน้ำเสียงโอนอ่อน


      พลางเดินมายืนเคียงข้างเจ้าชายไททัน


      กุมพระหัตถ์ทั้งสองข้าง



      พระพักตร์สวยหวานเงยขึ้นสบตากับดวงตาคมของเจ้าชาย




      เชิงให้รู้ว่าเข้าพระทัยอีกฝ่ายดี





      "น้องหญิงออโร..."


      พระหัตถ์ใหญ่กว่าเคลื่อนกุมมือเล็กของเจ้าหญิงไว้


      "หากพี่ไททันไม่พอใจในตัวน้อง น้องก็ไม่รั้นจะอภิเษกกับพระองค์หรอกเพคะ

      น้องเข้าใจว่าเรื่องนี้ต้องใช้เวลา.."



      ทั้งคำพูด สายตา และสัมผัส ในสายตาคนอื่นอาจชวนให้เคลิ้มฝัน



      พระหัตถ์ทั้งสองออกแรงบีบเบาๆอย่างเข้าใจกันดี



      ไม่ต้องพูดสิ่งใดให้มากความ



      ทว่าในพระทับเจ้าชายกลับลิงโลด







      ‘ไม่จำเป็นต้องอภิเษกสินะ’











































      เจ้าชาย........


      มักต้องคู่กับเจ้าหญิงเสมอ.......




      ร่างหนายืนนิ่งอยู่ที่ระเบียงเหม่อมองเจ้าชายและเจ้าหญิงที่ยืนส่งยิ้มให้กัน



      ดูแล้วเหมาะสมราวกับพระเจ้าสร้างทั้งสองมาเพื่อคู่ควรแก่กันและกัน



      ริมฝีปากเรียวแย้มรอยยิ้มอย่างเคย



      หากแต่ครั้งนี้เต็มไปด้วยความโศกเศร้า






      หยดน้ำตารื้นขึ้นมาที่ขอบตาและปล่อยให้มันไหลลงมาโดยไม่คิดจะเช็ด....











      ความเหงา.....



















      สุดท้ายแล้วก็เป็นเพียงความเหงา.....







      "ไตตัน เจ้าหญิงออโรนิสัยดีกว่าที่เราคิดไว้อีก"


      เสียงนุ่มบอกเจื้อยแจ้วร่างหนาในชุดสีดำ มัดผมยาว


      นั่งอยู่หน้ากระจกบานใหญ่


      ดวงเนตรสีนิลที่วันนี้เปล่งประกายมองสะท้อนกระจกไปที่คนที่สางผมให้ตัวเอง


      ไตตันยิ้มตอบมือเรียวหวีลงไปบนเส้นผมนุ่มแผ่วเบาและอ่อนโยน





      "งั้นเหรอ?เห็นมั้ยล่ะว่าท่านต้องชอบ"



      "นั่นสิ ขอบใจนะไตตัน"



      เจ้าชายไททันบอกเสียงสดใสโดยไม่สังเกตรอยยิ้มเศร้าหมองของอีกฝ่าย...


      ห้องบรรทมที่เคยมีองค์ชายผู้เงียบเหงาประทับอยู่




      กลับกลายมีเพียงสหายผู้สะท้อนอยู่ในกระจกยืนนิ่งอยู่ริมระเบียงวันเวลาผ่านไปเช่นเคย




      เจ้าชายผู้ที่เคยเศร้าซึมและจมอยู่กับความเหงาแปรเปลี่ยนไป



      เจ้าชายไททันในเวลานี้มีรอยยิ้ม


      มีเสียงหัวเราะ



      และมีความสุข





      โดยที่ไม่จำเป็นต้องมี...







      'เพื่อน'











      ราวกับกำลังจะถูกลบเลือนไปตามกาลเวลา






      สิ่งที่ฝาแฝดผู้ย่างกรายออกมาจากกระจกทำได้ก็มีเพียงแค่เฝ้ามอง....











      เฝ้ามองเจ้าชายยืนอยู่ข้างกายเจ้าหญิงผู้เพรียบพร้อมอ่อนหวานและมีความรักให้











      สุดท้ายแล้ว...


      นิทานที่มีเจ้าชายก็ต้องจบด้วยการอยู่กับเจ้าหญิง




      หากเช่นนั้นแล้ว.......



      ตัวประกอบที่แค่เพียงสร้างสีสันในนิทานก็จำต้องกลับไปยังที่ๆ มันมา...



































      "ไตตัน....ฉันมาแล้ว"


      ประตูบานใหญ่เปิดออกเช่นเดียวกับทุกวัน

      เจ้าชายผู้มีรอยยิ้มสดใสก้าวเท้าเข้ามาภายในห้องบรรทมด้วยสีหน้ามีความสุขพลาง


      เอ่ยเรียกเพื่อนคนสนิทที่ทุกวันจะพบว่ายืนอยู่ที่ระเบียง

      เมื่อเจ้าชายกลับมา





      เพื่อนคนนั้นก็มักจะส่งรอยยิ้มให้และถามว่า


      'กลับมาแล้วเหรอ?'




      หากแต่วันนี้สิ่งที่พบกลับ

      บเป็นเพียงความว่างเปล่า
      ที่ระเบียงห้องไม่มีร่างหนาของฝาแฝดคนสนิท



      ลมเย็นพัดเข้ามาภายในห้องทำให้รู้สึกหนาวอย่างน่าใจหาย...






      "ไตตัน..ไตตันนายอยู่ไหนน่ะ?"




      เจ้าชายไททันเอ่ยเรียกอีกครั้งพลางมองหา


      ไตตันไม่เคยออกไปนอกห้องนอกจากออกไปกับเขา




      พอเขาได้พบกับเจ้าหญิงออโร

      ไตตันก็ขออยู่ในห้อง


      ไม่อยากไปรบกวนการพบปะกับเจ้าหญิงของเขา





      "ไตตัน...ไตตัน...อย่าแกล้งเรานะ เจ้าอยู่ไหน?"



      ความเงียบที่ตอบรับกลับมาส่งผลให้หัวใจกระตุกวูบ


      เจ้าชายไททันเดินหาจนทั่วห้องแต่ก็ไร้วี่แววของคนที่เรียก




      "เจ้าชายไททัน...ข้าอยู่นี่"


      เสียงเรียกทำให้โล่งใจไป





      แต่เมื่อเจ้าชายหันไปตามเสียงก็พบกับกระจกเงาบานใหญ่ที่พระองค์เคยเฝ้ามองตัวเองทุกวัน



      หากแต่เมื่อได้สัมผัสกับความรู้สึกใหม่





      กระจกเงาก็กลับกลายเป็นเพียงเครื่องประดับในห้อง ..





      ในนั้นปรากฎร่างสูงหนาที่คุ้นเคย ชุดสีดำที่ไม่เคยทำให้ดูเศร้าหมองสักครั้งและรอยยิ้มอ่อนโยน.....






      ไตตัน.......










      ไตตันอยู่ในกระจก.......








      "เจ้าไปทำอะ
      ไรในนั้นน่ะ"


      เจ้าชายไททันเดินไปหาพลางเอ่ยถาม



      ชายหนุ่มในกระจำอยู่ในกระจกส่งยิ้มเศร้ามาให้







      "ข้า...ต้องกลับไปแล้ว"




      "หมายความว่ายังไง?"


      เจ้าชายเอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจ

      ไตตันยังคงยิ้ม


      ปลายนิ้วแตะบนกระจกอีกฝั่งราวกับอยากสัมผัสเจ้าชายไททัน






      "ความจริงแล้ว.....





      ข้าก็เป็นเพียงความเหงาของท่านเท่านั้นองค์ชาย


      ข้าเป็นเพียงความรู้สึกของท่านที่แปรเปลี่ยนมามีตัวตน


      ข้าเฝ้ามองท่านตัดพ้อกับตัวเองในกระจก



      ทุกวัน......




      นานนับวันข้าก็ยิ่งอยากมีตัวตน



      อยากเป็นเพื่อนให้ท่านหายเศร้าโศก



      ข้าได้แต่วอนขอต่อพระเจ้าขอให้ข้ามีตัวตนขึ้นมา



      จะให้ข้าเป็นอะไรก็ได้ขอเพียง ท่านไม่เหงา.......



      แล้ววันนึงข้าก็ได้รับคำตอบรับ ข้ามีตัว

      ตนสามารถสัมผัสท่านได้



      หากแต่ข้อแม้ที่ข้าได้รับคือ.....




      เมื่อใดที่ท่านไม่เหงา





      เมื่อใดที่ท่านมีรอยยิ้มที่ร่าเริง



      เมื่อใดที่ท่าน......





      ไม่ต้องการความเหงาคอยเป็นเพื่อน




      เมื่อนั้นข้าก็ต้องกลับไป......
      "



      ไตตันบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดด้วยรอยยิ้ม...



      รอยยิ้มอ่อนโยนที่ทำให้เจ้าชายหลุดพ้นจากความเงียบเหงา





      "ไตตัน....ไม่นะ...."



      เจ้าชายไททันร้องขอ มือเรียวเอื้อมไปแตะบานกระจกหวังจะจับต้องคนที่อยู่ภายในได้


      หวังว่าจะฉุดรั้งให้ยังอยู่ด้วยกัน......





      หากแต่สิ่งที่สัมผัสได้มีเพียงความเย็นเยียบของกระจก




      "ท่านมีความสุขแล้วเจ้าชาย ท่านมีเจ้าหญิง...


      เจ้าชายต้องอยู่ครองคู่กับเจ้าหญิงเสมอ"




      “ไม่นะ เจ้าจะเป็นความเหงาไปได้อย่างไร ในเมื่อข้าอยู่กับเจ้า ข้าไม่เคยเหงาเลย”


      เจ้าชายร่ำไห้ไร้เสียง น่าสงสารยิ่ง




      สหายจากกระจกเพียงมองด้วยสายตาแสนโศก





      “นั่นเป็นเพราะท่านชินชากับความเหงาต่างหากองค์ชาย

      แต่ไม่ต้องกังวล คนเราไม่อยู่กับความเหงาไปชั่วชีวิตหรอก”


      ไตตันพูดพลางยิ้มบางๆ แววตาเศร้าเสียใจไร้การเสแสร้ง






      "ไตตัน!!...ไตตันอย่าไปนะ!!ฮึก...ไตตัน!!เราสั่งให้เจ้าออกมา!!!ออกมานะ!!"


      เจ้าชายทุบลงไปบนกระจกประท้วงให้อีกฝ่ายกลับออกมา





      คนในกระจกยังคงยิ้มมือวางทาบทับลงบนมือของเจ้าชายที่อยู่อีกฝั่ง



      แม้ไม่อาจสัมผัสถึงไออุ่นได้




      แต่เพียงแค่นั้น.....






      แค่นั้นก็เพียงพอแล้วสำหรับ...




      ความเหงาที่กำลังจะไร้ตัวตน........











      กลายเป็นเพียงภาพสะท้อนในกระจกดังเดิม..







      "ข้าต้องไปแล้ว.....เจ้าชาย......อย่าเหงาอีกนะ......."



      กระจกเงาปริร้าว




      สิ่งสุดท้ายก่อนที่ทุกอย่างจะแตกสลายคือรอยยิ้มอ่อนโยน...







      และคำพูดสุดท้าย......













      "ข้ารักท่าน...เจ้าชายไททัน........."

















      เพล้ง!!!!!!!!!!!!












      "ไตตัน!!!ไตตัน!!!!!!!!!"














































      นี่สินะ...คำตอบของพระผู้เป็นเจ้าที่ตอบรับคำขอของข้า


      คำขอที่ขอให้ไตตันอยู่ข้างกายข้าตลอดไป...


      เพราะข้าคือเจ้าชายผู้โง่เขลา...


      เพราะข้าหลงลืมความเหงาที่เคยอยู่ข้างกาย ข้าถึงต้องเสียไตตันไป......


      กระจกเงาที่สะท้อนภาพของข้า........



      สายเกินไปซะแล้ว.............



      ข้ายังไม่ได้บอกเจ้าใช่มั้ย? ไตตัน...




      ข้ายังไม่ได้บอกเจ้า........



      ข้าเอง.......




      ก็รักเจ้าไม่แพ้กัน.........



      เมื่อคนพบความเหงาและชินชาที่จะอยู่กับมัน



      เมื่อถึงเวลาต้องละจากกัน



      ใจนั้นกลับฝันถึงเพียงเรื่องเดิมๆ





      หากข้าเลือกได้...






      จะขอเป็นคนเขลาที่เลือกจมกับความเหงาชั่วนิจนิรันดร์ ........




      END

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×