คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : [SP] ค่ำคืนแห่งความทรงจำ
ค่ำคืนแห่งความทรงจำ
เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลและ ได้รับอนุญาตจากเจ้าของเรื่องแล้ว ถ้าบังเอิญชื่อบุคคล และเหตุการณ์ ไปตรงกับประสบการณ์ของท่านใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
…………
……………………….
………………………………………
ในการเรียนของภาควิชาพลศึกษา ปี 1 เทอมปลายนั้นจะมีวิชาที่ว่าด้วย กิจกรรมนันทนาการ หรือเรียกง่าย ๆ ว่า วิชาเกมศึกษานั้นหละ ด่านแรกของการฝึกปฏิบัติ ที่ศูนย์สาธิตการพัฒนาเด็ก คณะพยาบาลศาสตร์ และโรงเรียนอนุบาลสาธิต ของมหาวิทยาลัย พวกเราต้องคิดเกมต่าง ๆ ให้น้อง ๆ เล่น เกมที่คิดนั้นต้องสามารถส่งเสริมพัฒนาการในด้านร่างกายและจิตใจของเล่นด้วย (มันเหมือนง่ายนะ แต่ยากมากกกกกก) และคุณคิดว่าเด็ก ๆ น่ารักใช่ไหม เด็ก ๆ จะว่านอนสอนง่ายใช่ไหม ฝันไปเถอะ คุณจะรู้ซึ้งมาก ถ้าเป็นนักศึกษาภาคพละฯ กับภาคประถม ฯ ที่นี้หละคือแหล่งที่รวบของลิงทะโมนรุ่นเล็กครับ ไม่เชื่อผมเอาไอ้เล็กยืนยันครับเพราะตอนเด็ก ๆมันศิษย์เก่าที่นี้
เอ๊ะ !! ลืมไปว่าต้องแนะนำตัวแล้ว ผม ติ๊กครับ คนหล่อ ๆ ขาว ๆ แต่เป็นคนอีสานแท้นั้นหละ ไม่ได้พูดเล่นนะ ปู่ทวดผมย้ายมาจากประเทศเพื่อนบ้าน มาตั้งรกรากที่จังหวัดนี้หละ แต่ไม่รู้เพราะอะไรรุ่นเหลนหน้าตาออกมาเป็นลูกครึ่งไทย – จีน กันหมด แต่ถามว่าพูดภาษาถิ่นอีสานได้ไหม บอกตรง ๆ เลยว่า
…
…
…
พูด ไม่ได้ ครับ ผมกับเล็ก และไอ้หน่า (เรียกไม่ค่อยจะลำเอียง) เป็นเหมือนกันคือ ฟังรู้เรื่อง แต่พูดไม่ได้ แจงมันเคยบอกว่าพวกผม เป็น...(เซ็นเซอร์)....เสียชาติเกิด
“ไอ้ติ๊กกกกก ระวัง!!!!!!!!!” แย่..................แล้ว ไม้ควงกระบองที่ไอ้หน่า ผู้หญิงคนเดียวในภาควิชาที่กล้าหาญชาญชัยมาควงกระบองไฟและเล่นยิมนาสติกกับพวกผมกำลังลอยละลิ่วทางนี้แล้ว ลืมบอกพรุ่งนี้จะมีการเข้าค่ายของน้องอนุบาลสาธิตครับ (ไฮโซเปล่าหละขนาดเรียนอนุบาลยังมีเข้าค่าย) พวกผมเลยต้องมาเตรียมงานพร้อม ๆ กับเพื่อน ๆ ภาควิชาประถมศึกษา (สาวประถมน่ารัก) ไอ้เตรียมงานไม่เท่าไหร่หรอก ครับ แต่ที่หนักคือ พวกผมต้องยิมนาสติกลอดบ่วงไฟ และควงกระบองไฟ โชว์ (ผู้ปกครอง) น้อง ๆ ในกิจกรรมเล่นรอบกองไฟ
"ว๊ากกกกกกกกกก!!!" เสียงผมแหกปากดังลั่นพร้อมกับคิดว่ากูเจ็บตัวแน่ พ่อแก้ว แม่ แก้วช่วยติ๊กด้วยยยยย แม่คร้าบ พ่อคร้าบบบบ ถ้ารอดกลับไปผมจะเป็นเด็กดี
ตุ๊บ !
แอ๊ก !
กรี๊ด !~
เสียงเกิดขึ้นพร้อมกัน 3 เสียง เลือกเองว่าจะเอาเสียงไหนก่อน เสียงกระบองหวายตกกระทบกับพื้น เสียงตัวผมล้มลงที่พื้น และเสียงร้องของสาว ๆ ประถม ฯ ที่อยู่ในเหตุการณ์
ผัวะ!!
“ไอ้เวง มึงทำไมไม่หลบห่า ยืนบื้ออยู่ ถ้ากูผลักมึงไม่ทันนี้ หัวแตกเลยไหม “ ไอ้เล็กครับ ไม่รู้มันมาจากไหน ผลักผมให้พ้นรัศมีของกระบองหวาย แต่มือมันอ่ะลงที่หัวผมจัง ๆ เน้น ๆ เจ็บอ่า............รุนแรงกับกูจัง กูจะร้องให้เพราะมึงเนี้ยหละ
“ ติ๊ก หน่าขอโทษ ติ๊กไม่เป็นไรนะ ก่อนหน้านั้นน่าควงไม้ไผ่มันหนัก พอเปลี่ยนมาเป็นหวายมันเลยปรับน้ำหนักไม่ได้ หน่าขอโทษ” ไอ้หน่าตัวต้นเหตุ วิ่งมายกมือไหว้ขอโทษ ไอ้เวง ไม่ควงปรับน้ำหนักก่อนวะ เห็นหญิงน่ารัก ๆ หน่อยไม่ได้แมร่งโชว์เพาวว์
“เล็กอย่าไปว่าติ๊กมันเลยน่า หน่าผิดเองงงง “ดีมากกเพื่อนบอกมันด้วย กูเจ็บแขนก็เจ็บนิดเดียวแต่ หัวเจ็บมากกกกกกก
“ ไม่เป็นไร ๆ มันพลาดกันได้หน่า ขอบใจมากเล็ก” ผมบอกหน่าให้สบายใจ ผมเข้าใจเพราะผมเองก็เป็นหนึ่งในนักแสดงมันพลาดกันได้จริง ๆ และไม่ลืมที่จะหันไปขอบใจเล็กที่ยืนทำหน้ายักษ์อยู่ใกล้ ๆ
“เอ่อ ๆ แล้วไป ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ไอ้หน่ามึงอ่ะกะน้ำหนักดี ๆ สิวะ เดียวคนอื่นโดนลูกหลง คิดดูสิถ้ามีไฟอยู่มันไม่หนักกว่านี้เหรอ?” เวงได้ทีทำเอาใหญ่ ไอ้หน่ามันพยักหน้าหงึก ๆ ตามที่ไอ้เล็กสั่งสอน+บน (ยังกับคนแก่) เดินไปหยิบไม้กระบองไปซ้อมฝึกต่อ
“ส่วนมึง ถ้าอยากตายนักเดียวกูฆ่ามึงเอง แรงไอ้หน่าแรงแค่นี้ไม่ตายแค่พิการ กูขี้เกียจไปเยี่ยมมึงหลายรอบ ไปงานศพที่เดียวเลยดีกว่า”
อ้าวว ไอ้เวงเมื่อกี้ได้ยินเห็นด่าไอ้หน่าอยู่แหม็บ ๆ มาตอนนี้จะแช่งกูซะแล้ว
…………
……………………….
………………………………………
เวลาผ่านไปจนถึงตี 2 ตอนนี้พวกผมเตรียมค่ายสำหรับอุปกรณ์ไป 90 % ไม่ไหวแล้วครับเหนื่อยก็เหนื่อย หิวก็หิว ตอนเช้าต้องตื่นมาช่วยคุมเด็ก ๆ เดินทางไกล แต่เช้าอีก หันไปมองผู้ร่วมชะตากรรม ผม เล็ก ออย ต้น และ โอ๊ต ดูหน้าแต่ละคนจะหลับคากองอุปกรณ์แล้ว ส่วนสาว ๆ ประถม และสาว (มีด้วยเหรอะ?) ภาคผม อาจารย์ไล่ไปกลับหอตั้งแต่ 3 ทุ่มแล้วครับ ตอนนี้คงถึงคราวพวกผมไปบ้างหละ ถ้าให้หลับที่นี้คงไม่ไหว
“อาจารย์ครับ พวกผมกลับไปพักผ่อนก่อนนะครับ” ผมพูดเสียงอ่อนเสียงหวานสุด ๆ (เพราะความง่วง) กับอาจารย์ที่เตรียมงานด้วยกัน
“ ได้ ๆ กลับไปด้วยกันเลย สิ ใครจะนอนที่นี้ก็ไปนอนฟูกโน้น ขอบใจทุกคนมาก พรุ่งนี้เจอกัน”
อ้าวบทจะเลิกไงเลิกงานอย่างนี้วะ งง จริง รู้งี้ผมขอตั้งนานแล้วหละ ผม เล็ก ออย และต้น ต้องกลับหอครับ หอเราอยู่หลังมอ ส่วนโอ๊ตนี้มันขับรถกลับบ้านในตัวเมืองครับอยู่คนละที่กับเรา
“ติ๊กมึงปั่นจักรยานมึงไปก่อนดิ เดียวพวกกูขับรถเป็นเพื่อน” เจริญหละไอ้ออยง่วงก็ง่วงจะให้กูปั่นจักรยาน
“กูซ้อนท้ายมอ' ไซด์ มึงไม่ได้เหรอออย” มองหน้ามันทำตาปริบ ๆ
“ท้ายรถกูมีไว้ให้แจงเท่านั้น” โหยยยย ไอ้นี่ อย่าให้กูมีมอ’ไซด์ กับแฟนนะมรึง
ป๊าบ!!
“สัดพูดไม่คิดถึงกูนะมึง” ไอ้ต้น เอาม้วนกระดาษฝาดหัวไอ้ออย สมน้ำหน้ามัน อยากเจ็บตัวก่อนกลับ อ๋อ ผมลืมว่ามีไอ้ต้น ส่วนน้อง(รถ)ป๊อบ ของไอ้เล็ก ผมคงไม่พึ่งมันแล้วกลัวมันงอนใช้ของมันมาก น้ำมันไม่ช่วยเติม
“พวกมึงจะคุยกันนานอีกไหม กูง่วง เดียวกูขับป๊อบแล้วยันจักยานมึงก็ได้ติ๊ก ถ้าขี้เกียจนักอ่ะ” ไอ้เล็กรู้ใจกูอีกนะมึง ใครจะไปขยันปั่นจักรยานตอนนี้หละครับ จากอนุบาลสาธิต ถึงหลังมอ อย่างต่ำก็ 5 กิโลเมตร ไม่ใช่ใกล้ ๆ แถมสภาพภูมิศาสตร์ มหาวิทยาลัยผม มันตั้งอยู่บนภูเขาลูกเล็ก ๆ หลาย ๆ ลูกชัด ๆ ปั้นเองปวดขาตาย (ได้ข่าวปั่นมาเหล่สาวเต้นแอโรบิกทุกวัน)
เมื่อตกลงกันได้แล้วก็เดินแยกย้าย ไปเอาพาหนะคู่ใจกลับหอนอนหละครับ ของผมจักรยานเสือภูเขา หม่อมย่าซื้อให้หลานรัก เนื่องในโอกาสสอบติดมหาวิทยาลัย แต่หม่อมย่าคร้าบบบบบบ ผมอยากได้ ผมบอกอยากได้มอ’ไซด์ ไม่ใช่จักรยาน
ด้านหน้าที่จอดรถ ติดถนนใหญ่ของอนุบาลสาธิต มีต้นไม้ใหญ่ผูกผ้าหลากสีไว้ต้นหนึ่ง ต้นไม้ต้นนี้มีเรื่องเล่า และตำนานอยู่คู่มหาวิทยาลัยผมมาหลายปี ถามว่าอากาศตอนนี้เป็นยังไงผมตอบได้เลยว่า เย็นแบบแปลก ๆ จมูกได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของ ดอกไม้กลางคืน ผมสูดอากาศหายใจเข้าปอดลึก ๆ ครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะเริ่มปั่นจักรยานออกมา รถของออยนำขบวนออกไปก่อน และเล็กขับรถออกมาเป็นคนสุดท้าย เพื่อเข้าสู่ถนนสายหลักเพื่อเข้าไปในมหาวิทยาลัย
“พี่~นักศึกษา~~~~ค่ะ~~~~~~”
แว่วเสียงเย็นที่ลอยมาตามลม ทำให้อดแปลกใจไม่ได้ ตอนนี้ตี 2 จะตี 3 แล้ว จะมีน้อง ๆ ที่ไหนมาเล่นตอนนี้ ครู่นั้นเหมือนมีอะไรวิ่งผ่านหางตาผม ทำให้เหลียวมองไปที่ต้นไม้ต้นนั้น
ผมเจอกับผู้หญิงคนหนึ่ง สูงเพียว ใส่ชุดขาว ใส่ผ้าซิ้น (ผ้าถุง) สีขาว ชุดคล้าย ๆ ชุดที่ย่าของผมใส่ไปถือศลี 8 ที่วัด ผมยาวปล่อยสยายไปตามลม
“ใครมาทำอะไรดึก ๆ ดื่น ๆ แถวนี้” นั้นคือสิ่งที่ผมคิดในใจ เมื่อผมมองไปที่หน้าของเธอ นั้นหละให้ผมขนลุก.............................ก็คือ เธอไม่มี หู ตา จมูก บนหน้าเลยแม้แต่ชิ้นเดียว ผมมองลงไปที่ดูที่ขา คะ ...คะ........คือ ..............ธะ.........ธะ........ เธอไม่มีขาครับ แต่ตอนนี้ขาผมแข็งไปหมดแล้ว จะปั่นจักรยานก็ปั่นไม่ได้ จะสวดมนต์ก็คิดออกแต่คำว่า นะโม นะโม เลยมองไปที่เธอคนนั้นอีกครั้ง
ช๊อก....................... คิดได้แค่นี้หละครับ เมื่อเธอคนนั้นยิ้มให้ผม ยิ้ม............... ใช่ยิ้ม จริง ๆ ทั้ง ๆ ที่บนหน้าเธอไม่มีอวัยวะใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ผมคิดว่าเธอยิ้มให้ผม เป็นคุณ คุณจะยิ้มตอบไหม ? สำหรับผมเหรอะ ................
ชิบหายแล้ว วววววววววววว!
ก่อนที่จะได้คิดนั้น .........เล่นกูแล้ว จากหน้าที่ผมคิดว่ายิ้มให้ผม ตอนนี้...... หน้าของเธอเริ่มหาย ไปทีละเล็ก ทีละน้อย พร้อมกับเสียง “พี่~นักศึกษา~~~~ค่ะ~~~~~~” ลอยมาตามลมนั้นอีก
มองไปข้างหน้า เห็นสีแดงของไฟท้ายไอ้ออยกับไอ้ต้นอยู่ริบ ๆ ไอ้เล็กขับรถมาใกล้ ๆ เรามองตากัน ผมว่า ผมสองคนคงอยู่ด้วยกันขนาดมองตาแล้วรู้ใจ ชั่งใจอยู่สักพัก
“ตะ…ติ…..ติ๊ก มึงเห็นอย่างที่กูเห็นไหม? ” เล็กถามผมด้วยเสียงสั่น ๆ แม้หน้าหล่อ ๆ ของมันจะไม่แสดงออกไรก็ตาม
“ อืม กะ....กะ... กูก็ว่ากูเห็นเหมือนกัน”
อย่างนี้ใครจะไปอยู่หละคร้าบบบบบบบบบ แผ่นดิมึงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
…………
……………………….
………………………………………
ผมไม่แน่ใจว่า ถึง U – Cen ได้อย่างไรแต่จำได้แน่ ๆ ว่าผมปั่นจักรยานแซงรถป๊อบของไอ้เล็กเท่านั้นหละ ตอนนี้ปวดขาโครตตตตตต ไอ้ออยกับไอ้ต้น นั่งโซ้ยต้มเส้นยังกับอดยากมาเป็น 10 ปี
“เอิ้ยอิ๊ก เอี้ยเอ็ก อวกอึงอาอ้า” (เชี้ยติ๊ก เชี้ยเล็กพวกมึงมาช้าวะ- ซับไตเติ้ล) ไอ้ออยพูดทัก ทั้ง ๆ ที่ปากมันยังคาบ (ทีน) ไก่ ขอให้ติดคอนะมรึง ช้าได้ไงวะ นี่จากอนุบาลสาธิต มานี่ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที ความเร็วไม่น้อยกว่า 60 กม. /ชม. นะมรึง
“ออย ตอนพวกมึงขับออกมาเห็นอะไรป่ะ ? ” ก้นยังไม่ทันติดพื้นไอ้เล็กก็ถามขึ้น
“ไม่เห็นมีอะไรนิมึง กูขับรถรอพวกมึงตั้งนานไม่เห็นตามมา เลยมาหาอะไรกินก่อนนี่หละ”
“อืม.............” ผมสบตากับไอ้เล็กอีกรอบ ผมรู้ว่ามันอยากจะพูดอะไร แต่ก่อนอื่น
“เล็กไปนอนกับกูนะ ไอ้บอลมันกลับบ้านกูไม่กล้าอยู่ห้องคนเดียว......”
และแล้ว ...............คืนนั้นผมกับมันทำกิจกรรมร่วมกันจนถึงเช้า................................................
เอ๊ะ ! คิดอะไรอยู่ครับ แค่พวกผมนอนไม่หลับ เล่นเกมกันถึงเช้าเฉย ๆ มันนอนไม่ได้ หลอนจริง ๆ
Note :
ถึงคุณ AnGeL -of- KilLeR นั้นสินะ เอาเป็นว่าสถานที่เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐ ที่มีเนื้อที่ประมาณหกพันไร่ ตั้งอยู่จังหวัดที่ขึ้นชื่อว่าเมืองหลวงของภาคอีสาน ไม่ก็สังเกตจกชื่อสถานที่เอานะ เพื่อความปลอดภัยของเรา (แค่นี้ก็บอกจะหมดเปลือกแล้ว) ^ ^
ความคิดเห็น