ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    -360 ° OUR MEMORY: ฉันดีใจที่มีเธอ (YURI)

    ลำดับตอนที่ #3 : :Chapter 2:

    • อัปเดตล่าสุด 9 ก.ย. 52



    พรหมลิขิต กุหลาบแก้ว เข็มทิศ

     

    ออกมาจากห้างนางฟ้า ไอศกรีมก็ไม่ได้กิน (ไอ้เปิ้ลคนเดียว) ตกลงว่า ไปสำรวจที่เรียนในอนาคตของฉัน    เราขับรถหลบหัวปิงปองเข้าทางประตูฝั่งบึงศรี (ฉันยังไม่มีในขับขี่รถยนต์) พอถึงแปลงเกษตรเปิ้ลสะกิดให้ดูผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ผมซอยสั้น ผิวขาว – เหลือง คนหนึ่งที่ ยินข้าง ๆ รถป๊อบสีขาว – ม่วง หน้าตาส่อแววหงุดหงิดเล็กน้อย เหมือนจะมีปัญหา ฉันเลยหยุดรถ

     

                    “รถเป็นอะไรค่ะ ? ” ผู้หญิงคนนั้นทำหน้างง แล้วชี้มือเข้าหาตัวแล้วเองทำหน้าประมาณว่า ถามกูเหรอ  ฉันพยักหน้า

     

                    “ ไม่รู้เป็นอะไรคะ ขับมาดี ๆ เครื่องก็ดับ น้ำมันก็มีนะไม่รู้จะทำยังไงแล้วเนี้ย”  ดูทำหน้าเข้าเหมือนจะร้องให้เลย ฉันเป็นพวกเห็นน้ำตาคนอื่น (โดยเฉพาะคนน่ารัก) ไม่ได้ซะด้วยสิ เลยลงไปดูเครื่องให้ อย่ามาดูถูกนะ เห็นเป็นผู้หญิงฉันก็รู้เรื่องเครื่องยนต์นิดหน่อยหละแต่ปัญหามันอยู่ที่ตอนนี้ฉันไม่มีเครื่องมือนะสิ ลองสตาร์ทแล้ว เสียงแปลก ๆ สงสัยวงจรคงซ็อต

     

                    “เปิ้ล มาช่วยยกรถขึ้นกระบะหน่อยสิ คงต้องส่งร้านแล้วไฟมันลัดวงจร”  อย่าทำหน้าเอื่อมระอาอย่างนั้นสิเพื่อนรัก เป็นเพื่อนหน่าต้องอดทนนะเปิ้ล

     

                    “ไม่ต้องหรอกคะ เดียวเข็นไปก็ได้ ขอบคุณมากคะ” คนตัวเล็กร้อง สีหน้าบอกเกรงใจสุด ๆ

     

                    “ไม่เป็นไรคะ เพราะเราก็เขาไปทำธุระ ใน ม เหมือนกัน ทางผ่าน ๆ” ฉันตอบกลับ แล้วเราทั้ง 3 ช่วยกันยกรถป๊อบขึ้นท้ายกระบะรถฉัน เพราะความสูงของเรา 3 คน ค่อนข้างต่างกันมาก ทำให้ลำบากในการเอาขึ้นเหมือนกัน ใช้เวลานานพอสมควร พอเอาขึ้นได้เสร็จก็ไล่เปิ้ลไปนั่งกระบะจับรถ ส่วนสาวน้อยที่น่ารักให้มานั่งข้างหน้าบอกทางฉัน

     

    พอถึงหน้า ศูนย์ รปภ. (ไม่แน่ใจว่ามันเรียกว่าอะไร) หน้าโรงยีม ของมหาวิทยาลัย พี่ที่ร้านซ่อมช่วยกันเอารถป๊อบลง สาวน้อย (ที่ฉันโมเมเรียกเอง) ก็เดินมาขอบใจเราเป็นการใหญ่ และบอกจะเลี้ยงน้ำ แต่ฉันกับเปิ้ล ปฎิเสธไปเพราะตอนเย็นพ่อเปิ้ลจะจัดงานเลี้ยงให้ฉันกับเปิ้ล เปิ้ลติดโควต้าสารสนเทศ ของมหาวิทยาลัย จังหวัดใกล้ ๆ แล้วนะต้องเก็บกระเพาะไว้กินอาหารพ่อเปิ้ลดีกว่า  คิดถึงอาหารก็หิวขึ้นมาทันที (ได้ข่าวเพิ่งยัดพิชซ่าไป)

     

                    “ขอบคุณทั้ง 2 คนมากคะ”  น่ารักดียิ้มแล้วสดใส คนอะไรวะตัวก็เล็ก ยิ้มก็สวย

     

                    “โอ๊ยย” จำได้ว่ามันคือเสียงตัวเอง แง้ ๆ เปิ้ลมาหยิกฉันทำมายยยยยยยยยย !!!!

     

                    “ฉันเรียกแก ตั้งนานแล้ว ทำเป็นใจลอยนะแก ป๊ะ ไปดูคณะที่แกจะเข้าเรียนได้แล้ว” แหะ ๆ เปิ้ลนะเปิ้ล เจ็บนะ ไปก็ได้วะก่อนจะโดนเปิ้ลหยิกตัวเขียวมากกว่านี้

     

     

    เอ๊ะ ลืมถามชื่อ.......

     


    ******

     

    เสียงเพลงมาร์ชโรงเรียนดังขึ้น พร้อมกับเสียงเพลงมาร์ชชิ่งของวงโยธวาธิตเปรียนเสมือนนาฬิกาที่เตือนให้นักเรียนในโรงเรียนนี้รู้ว่าถึงเวลาเข้าแถวแล้ว แต่วันนี้พิเศษกว่าทุกวันคือเป็นวันปัจฉิมนิเทศ ของนักเรียน ม.6 ทำให้บรรยากาศของโรงเรียน (เนื้อที่เล็ก ๆ) แห่งนี้ดูคึกคักเป็นพิเศษ นักเรียน ม.6 ได้ไปเข้าแถวที่กลางสนาม ท่ามกลางแสนแดดที่อบอุ่น (ถึงร้อนจัด) หลังจากเสร็จพิธีหน้าเสาธง จะเป็นการพูดคุย แลกเปลี่ยนช่อดอกไม้ ของที่ระลึกและถ่ายรูประหว่างเพื่อน รุ่นพี่รุ่นน้อง

     

    ร้อนวะ !! 
                    
                    อากาศเมืองไทยนับวันยิ่งร้อน มือซ้ายหอบตุ๊กตาหมีสีขาว เอามาให้น้องรหัส ส่วนมือขวาถือขวดโหลใส่นกกระดาษ สูงประมาณฟุตครึ่ง อันนี้ให้หลานรหัส ส่วนที่กองอยู่ข้างหน้าคือสารพัดถุงใส่ของที่ระลึกเอามาไว้แลกกับเพื่อน ๆ ทั้งน้องทั้งหลาน เมื่อไหร่พวกมานจะหาพี่มันเจอวะเนี้ย

     

    “หน่า ยินดีด้วยที่จบซะที โรงเรียนจะได้สูงขึ้น” อ้าวไอ้ศิลป์ คำขอแสดงความยินดีของมึงนะนั้น ศิลป์เป็นผู้ชายไม่กี่คนในห้อง โรงเรียนฉันเคยเป็นโรงเรียนสตรีมาก่อนจะเปลี่ยนเป็นโรงเรียนสห ประชากรผู้ชายในห้องเฉลี่ยแล้วประมาณ 10 คน แต่ปีต่อมาก็เพิ่มเป็น 20 + ต่อห้องทำไมไม่เรียนช้ากว่านี้หว่าเรา

     

    “เช่นกันมึง ได้ข่าวมึงจะได้อยู่โรงเรียนต่อนิ”

     

    “งั้นมึงไม่ต้องเอาของที่ระลึก” อ้าว มาว่ากูก่อนน่า ไอ้นี่ เอามาเลยกวักมือเรียกของที่ระลึกมัน เลยได้แคนน้อยมาอัน พร้อมกับข้อความที่ติดมากับแคน ที่ไอ้ศิลป์มันบอกว่าพิเศษเฉพาะบุคคล

     

    ให้หญิงถึกของห้อง

    ศิลป์ 6/9

     

    พูดไปฉันไม่ได้ถึกสักหน่อย ของฉันเหรอ ลงทุนมาก ไปซื้อดอกไม้ประดิษฐ์ดอกเล็ก ๆ แล้วยัดใส่ขวดโหล ใส่เม็ดโพม คอขวดผูกริบบิ้นพอเป็นพิธีแล้วข้างในใส่กระดาษเล็ก ๆว่า 

    แด่

    คุณชายไม้เสียผี ด้วยความห่วงใย

    น้อยหน่า 6/9

     

    (ข้อความนั้นของไอ้ศิลป์คนเดียวนะ)

    ขอบอกน่ารักสุด ๆ ทำเองด้วย กะว่าหมดงานนี้ทำเป็นอาชีพเสริม ทำมาเพื่อนงานนี้เป็นร้อย ๆ อัน แจกไม่เอาก็จับบังคับ ไม่ใช่หรอกฉันรู้จักคนเยอะ จากนั้นก็มีเพื่อน ๆ น้อง ๆ เข้ามาขอถ่ายรูปและแลกเปลี่ยนของที่ระลึกเป็นระยะ ๆ เกือบไม่พอแนะ

     

    “พี่หน่ารอนานไหมค่ะ?  ยินดีด้วยคะพี่”  นั้นน้องดา กับ น้องเอ้ น้องรหัสกับหลานรหัส กว่าจะมา เอาของขวัญไปเลยน้อง ต้องรอให้พี่แกแขนหลุดก่อนหรือไง ปวดแขนอ่ะ

     

    “สำหรับพี่หน่าคะ”  น้องดายื่นมงกุฏดอกไม้กับตระกร้าไม่สิต้องเรียกว่าเข่งกุหลาบขาวมากกว่า ข้างในเข่งยังมีไดอารี่สีฟ้าอยู่ด้วย ถูกใจพี่จริง ๆ น้องเอ้ ขานั้นไม่ค่อยพูดเพราะเป็นผู้ชายด้วยมั้งยื่นกล่องของขวัญมาให้

     

    “เอาไว้ไปเปิดบนหอประชุมก็ได้ครับพี่” เปิดตอนนี้หละ ใจร้อน โอ้วว น้องพี่รักน้องเอ้ กระเป๋าสะพายข้างสีเขียวทหาร (มันเรียกอย่างนี้เปล่าหว่า) ของ Diesel แต่ที่จังหวัดนี้ไม่มี Shop นี่หว่าไปซื้อมาจากไหนวะ มองหน้าน้องเอ้อย่าง งง ๆ

     

    “ผมไปกรุงเทพกับพ่อมาพี่ เห็นมันเหมาะกับพี่ดีเลยซื้อมาให้” ลงทุนมากไปเปล่าวะน้องเอ้ แต่ตอนรับน้อง น้องก็เล่นพี่อ่วมกับรองเท้าเหมือนกันนี่หว่า เจ๊ากัน เอ๊ะอย่าคิดว่าเด็กโรงเรียนนี้เป็นผู้มีอันจะกินนะ โรงเรียนนี้ธรรมดาชาวบ้านที่สุดแล้วในบรรดา 4 จตุรมิตร แต่สายรหัสฉันแต่ละคนดันโอเว่อร์เอง ตอนน้องดาฉันก็ซื้อกระเป๋าสตางค์ให้ หมดไปเยอะเหมือนกัน ไม่ได้ขอเงินพ่อแต่ทำงานพิเศษ (กับแม่) หาเงินเองนะ

     

    “อ้าวเปิ้ล มา ๆ” เพื่อนสนิทฉันพาร่างอันอวบอ้วนของมันมาแล้ว ในมือถือของพะรุงพะรังเหมือนกัน ลืมบอกไปแป้งกับฉันอยู่คนละห้อง แต่อยู่สีเดียวกัน แป้งเรียนสายศิลป์อยู่ห้อง 4 เวลาเรียนก็เรียนคนละอาคาร สายศิลป์เรียนอาคาร 3 สายวิทย์เรียนอาคาร 2 แต่ ม. ต้นเราอยู่ห้องเดียวกัน น้องดาให้มงกุฎดอกไม้เปิ้ลอีกวง ดูมันเห่อมาก หมูสวมมงกุฏดอกไม้จริง ๆ

     

    “น้องเอ้ยังไม่ให้ไรพี่เลย” อ้าวเปิ้ลทีน้องสายรหัสของแกก็ยังไม่ให้ฉันเลย นี่ยังจะมาขูดเลือดกับน้อง ๆ ฉันอีก “งันมาจุ๊บแก้มพี่ซะดี ๆ” มันเอานิ้วชี้ของมันจิ้ม ๆ แก้มด้วย ฮาวะ น้องเอ้มันก็นะ ยุขึ้นจริง ๆ เดินไปห้อมแก้มเปิ้ล ดูเปิ้ลมันทำหน้าตาเข้า ยังกับได้ขึ้นสวรรค์

     

    ไอ้เปิ้ลลลลลลล ฉันรู้น้องฉันหน้าตาดีติดอันดับโรงเรียน ขนาดฉันเป็นป้ารหัสมันฉันยังไม่กล้า แกเป็นครายยยยยยยยยย (เพื่อนแกไง – เปิ้ล)  เตรียมตัวให้ดีเถอะแก โดนแฟนคลับน้องเอ้เล่นงานแน่ ๆ ฉันไม่ช่วยแกนะ

     


    ******

     

                    เสร็จพิธีการหน้าเสาธงแล้ว ฉันกับเปิ้ลก็ตะลอนถ่ายรูปตามซุ้มต่าง ๆ ที่รุ่นน้องจัดไว้ให้ มีน้อง ๆ ขอถ่ายรูปเป็นระยะ ๆ ที่ชอบที่สุดคงเป็นลานน้ำตกข้าง ๆ อาคาร 3 และ หน้าอาคารหนึ่งซึ่งเป็นอาคารไม้หลังเดียวในโรงเรียน อ๋ออีกที่ สระน้ำหลังอาคารกิจกรรม แอบไปซื้อเบเกอรี่ร้อน อบเสร็จใหม่ ๆ ที่อาคารคหกรรมด้วย อร่อยน่า ซื้อเสร็จก็มานั่งกินริมสระน้ำ หิวจัด มัวแต่แลกของที่ระลึกเลยไม่ได้ทานข้าวเช้า

     

     “ณัฐริ ห้อง 6/9 มีญาติฝากของไว้ที่ประชาสัมพันธ์คะ”

     

    เสียงตามสายมาประกาศอะไรตอนนี้ เอ๋ !?  ชื่อฉันนี่หว่า ใครมาฝากอะไรไว้ให้ แม่ก็ไม่น่าใช่ พ่อยิ่งไม่ใช่ใหญ่ น้องสาวก็อยู่อีกโรงเรียนไม่น่าจะออกมาได้ คิด ๆ แล้ว ไม่มีใครเข้าข่าย มองดูนาฬิกา อีก 20 นาทีจะขึ้นห้องประชุม ไปเอามาก่อนก็ได้วะ ลากเปิ้ลไปด้วย

     

    “อาจารย์คะ ณัฐริคะ มาเอาของตามประกาศ” พร้อมยื่นบัตรนักเรียนให้ยืนยันว่านี่หละตัวจริง (?) อาจารย์ยื่นกล่องให้ใบหนึ่ง ข้างในมีช่อกุหลาบที่ทำมาจากแก้วและเข็มทิศอันเล็ก ๆให้

     

    “สวยวะหน่า ฉันอยากด้ายยยยยย ใครเอามาให้วะ” ของกู เฮ้ย ไม่ใช่ ฉันส่ายหน้า บอกให้รู้เป็นนัย ๆ ว่ากูก็ไม่รู้เหมือนกัน มองดูแล้วก็ไม่มีการ์ดหรือทิ้งข้อความอะไรไว้เลยนิน่า

     

    “อาจารย์จำได้ไหมคะว่าใครเอามาให้ ? ”

     

    “เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ดูจากชุดน่าจะเป็นเรียน ที่ MHT นะ” ใครวะ? ไม่มีญาติเรียนที่โรงเรียนสตรี ม.ต้น นั้นนี่หว่า จะเอาคืนก็ไม่ได้ เก็บไว้ก็ไม่รู้ว่าใครให้

     

    “แฟนคลับแกมั้งหน่า เก็บไว้เถอะ เดียวสักวันก็คงรู้หละว่าใครให้” อืมเข้าท่าวะเปิ้ล แต่จะมีวันนั้นหรือเปล่า เก็บไว้ก็ได้..แต่จะเอาไว้ไหนวะกลัวแตกจริง ๆ อ๋อ น้องดาพี่ขอโทษนะ เอาไว้ในเข่งดอกไม้น้องดานี่หละ ปลอดภัยดี

     

                    ฉันกับเปิ้ลไปรวมกลุ่มกับเพื่อนที่ลานต้นมะขามข้าง ๆ โรงอาหารเพื่อเช็คชื่อและเตรียมขึ้นห้องประชุมชั้น 2 ของโรงอาหาร ตามลำดับห้อง คนตัวเล็ก ๆ ได้ขึ้นไปก่อนแน่นอนว่าฉันได้อยู่ท้าย ๆ แถวแน่นอน แต่ไม่ท้ายสุดเพราะยังมีเพื่อนผู้ชายอีก 8 คน (ในห้องมีผู้ชายแค่นั้นหละ) และเพื่อนหญิงอีก 2 คนต่อจากฉัน ไม่ได้สูงที่สุดนิ แต่ภาคเช้าอยู่ท้ายแถวก็ดีแต่ภาคบ่ายขอหน่าอยู่ข้างหน้า

     

                    บนห้องประชุม ทางโรงเรียนได้ทำพิธีบายศรีให้กับนักเรียน เสร็จจากบายศรี เป็นการกล่าวคำอำลาจากตัวแทนของอาจารย์ น้องม.ต้น น้องม.ปลาย และตัวแทนชั้น ม.6  มีรุ่นพี่จากมหาวิทยาลัยใกล้ ๆ มาแนะนำการสอบเข้ามหาวิทยาลัย การสัมภาษณ์

     

                    ภาคบ่ายเริ่มต้นขึ้นด้วยเพลง I will away love you ที่บรรเลงโดยวงโยธวาธิของโรงเรียน ได้ฟังเวอร์ชั่นนี้ก็เพราะดีแหะเพลิน ๆ ดี และเล่นต่อจากนั้นอีก 2-3 เพลงจำทำนองได้แต่จำชื่อไม่ได้ อ๋อ มี Canon เพลงโปรดของฉันด้วย จากนั้นเป็นการแสดงจากห้องต่าง ๆ มีทั้งละครเพลง ตลก เต้น เล่นดนตรี ห้องฉันเล่นละครเจ้าหญิงนิทราเวอร์ชั่นซินเดอเรล่า ฉันเล่นเป็นเจ้าชาย ส่วนไอ้ศิลป์เล่นเป็นเจ้าหญิงเวอร์ชั่นอุบาทว์ ไม่รู้จะสงสาร หรือสมน้ำหน้ามันดี ตอนมันวิ่งหนีเจ้าชาย ดันตกบรรไดเวทีประชุมจริง ๆ โชตดีที่ไม่เป็นอะไรมาก ทำให้การแสดงต่อไปจนจบ

     

                    ถึงช่วงสุดท้าย วงดนตรีของโรงเรียนขึ้นมาเปิดมินิคอนเสิร์ตให้เราได้ออกกำลังกายกัน ตอนนี้หละเริ่มมั่วแล้วไม่รู้ว่าห้องไหนเป็นห้องไหน ฉันยังอยู่ในชุดแสดงเพราะเพื่อนขอร้องไว้อยากถ่ายรูปด้วย เต้นทั้งชุดนี่มันร้อนนะโว้ยเพื่อนเอ๋ย

     

                    ไฟในห้องประชุมดับลง แทนที่ด้วยแสงเทียนที่เริ่มสว่างขึ้นที่ละดวง ๆ เสียงกีตาร์โปร่งและเพลงคำว่าเพื่อน ดังขึ้นบ่งบอกให้เรารู้ว่าเวลาที่พวกเราจะได้อยู่ด้วยกันใกล้จะหมดลงแล้ว

     

    “แม้เราจะต้องจากกัน แต่เราจากกันเพื่อไปพัฒนาศักยภาพของตัวเราเอง พัฒนาชาติ เป็นคนดีของสังคม”

     

     “...........โอ้เพื่อนเอ๋ย เคยร่วมสนุกกันมา  แต่เวลา ต้องพาให้เราจากกัน  ไม่นานหรอกหนา เราคงได้มาพบกัน ไม่มีสิ่งใดขวางกั้น เพราะเรามั่นในสัญญา.........”

     

    เสียงนักร้องของโรงเรียนแว่วเข้ามาให้หูพร้อมกับเพลงคำสัญญา บทเพลง แสงเทียน น้ำตาที่ไม่ได้ไหลมานาน เริ่มคลอ เรื่องราว ๆ ต่าง ๆ ตลอด 6 ปีที่อยู่ในโรงเรียนนี้ย้อนกลับมาในความคิดอีกครั้ง ฉันและเปิ้ลกอดคอกันร้องให้ ฉันจะจบ ม.6 แล้วจริง ๆ หรือเนี้ย เหมือนเพิ่งผ่านมาไม่กี่วันเอง

     

    “แม้เราจะออกจากบ้านนางฟ้าไปแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าความผูกพันธ์ของเราจะลดลง จงจดจำความผูกพันธ์นี้ไว้ จดจำเรื่องราว ๆต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในบ้านหลังนี่ และวันหนึ่งเราจะกลับมาเจอกัน มิตรภาพและความทรงจำจะไม่เคยจางหายไปจากเรา...... ”

     

                    “คุณความดีเป็นเกียรติศรีคู่................................”

     

                    สิ้นเสียงสุดท้ายของเพลงมาร์ชโรงเรียนที่พวกเราร่วมร้องกัน เป็นสัญญาณว่า วันเวลาของเราในบ้านนางฟ้าแห่งนี้ได้หมดลง

     


    *************

     


    แสงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า ทำให้บรรยากาศรอบ ๆ เป็นสีส้ม ฉันนั่งอยู่หน้าอาคาร 2 เพื่อรอพ่อมารับ ข้างหน้ามีกองของที่ระลึกจากเมื่อเช้า กุหลาบแก้วและเข็มทิศยังคงคาใจฉันเหมือนเดิม ในโรงเรียนยังมีเด็กนักเรียนประปลาย น้อง ๆ ผู้ชายกำลังเล่นฟุตบอลที่สนาม มีนักกรีฑาของโรงเรียนซ้อมวิ่งตามถนน หูยังได้ยินเสียงเด็กวงโยซ้อมดนตรี ถึงแม้ว่าจะใกล้สอบแล้วก็ตาม วันนี้คงเป็นวันสุดท้ายที่ฉันจะต้องอยู่ตรงนี้แล้วสินะ ถึงแม้ว่าจะยังเหลือการสอบปลายภาคอีก 1 สัปดาห์ก็ตาม พูดแล้วใจหาย

     

                    ฉันจะเก็บความทรงจำของที่นี้ ไว้ตลอดไป...............

     

                   

                    

     

    TBC…………………….

     

     





     

    PS.



    ชั้น 5 Isetan @ Central World

    “พี่คะเอาชูครีมธรรมดา 1 แล้ว ชูครีมราสเบอรี่ 2 คะ”

    “จะกินหมดเหรอแข หน่าไม่กินราสเบอรรี่นะ”

    “ก็แขสั่งธรรมดาให้หน่าแล้วไง เอาตังค์มาจะไปจ่ายแล้ว”

    เงินหน่า แต่แขดันเอา 2 เอาให้ 200 คงพอมั้ง

    หน่า แย่แล้ววววววววว”

    “...?”

    “ มันสองร้อยกว่าบาทอ่ะ.....แขลืมดูบิล”

    “แล้วได้อะไรมา”

    “ได้ชูครีมธรรมดา 1 แล้วก็สตอบอรี่ชีสเค้ก 1 บลูเบอรรี่ชีสเค้ก 1”

    “แขกินคนเดียวนะหน่าไม่ต้องกิน”

    “.....................”  เงินตรู = =”

     



    Note

     

    ขอบคุณที่คลิกเข้ามาอ่านกันคะ อย่าหวังว่าจะเจอกันง่าย ๆ เนทต่อไม่ติดมาเป็นอาทิตย์แล้วรู้สึกเหมือนตัวเองจะลงแดงตาย ฝนตกทีไรเนทแถวที่พักต่อยากทุกที เขียน ๆ ไปแล้วรู้สึกเหมือนกำลังอ่านไดอารี่ของหน่าเลยแหะ ภาษาอาจจะไม่คงที่นะ เพราะตัวละครมีหลายกลุ่ม เลยใช้สรรพนามกระจาย ๆ ใครที่หลงเขามาทนอ่านกันหน่อยน่า ^ ^ ผิดพลาดประการใดแนะนำด้วยคะ

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×