คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : :Chapter 1:
เราเจอกันครั้งแรกที่ไหนนะ
“แม่ หน่าผ่านโควต้าแล้วนะแม่ แต่หน่าไม่อยากเรียน หน่ารอเอ็น ฯ ใหญ่ได้ไหมแม่” ฉันบอกกับแม่ให้เย็นวันหนึ่ง หลังจากที่คิดไว้นานแล้ว ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากเรียนหรอกนะ เพราะทีที่ฉันสอบผ่านเป็นมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของภาคอีสาน แต่ฉันอยากไปเรียนที่อื่นมากกว่า
“ อ้าว ไม่เรียนหละ เห็นก่อนสอบบอกอยากเรียน ๆ” แม่ฉันถามกลับด้วยใบหน้าเรียบ ๆ บอกอารมณ์ไม่ได้ว่าอยู่ในอาการใด
“ ก็หน่าอยากเรียนที่อื่น นะแม่”
“ ไปลงทะเบียนไว้ก่อนสิหน่า ถ้าเอ็น ฯ ไม่ติดจะได้รับประกันว่ามีที่เรียนแน่ ๆ แล้วอีกเรื่อง ไปบอกพ่อแกก่อน นะว่าจะเอายังไง แม่แล้วแต่หน่า” เห็นไหมหละ แม่ฉันใจดี และตามใจฉันจะตาย แต่พ่อนี่สิ ฉันซื้อขนมกินได้เลยว่าพ่อไม่ยอมแน่ ๆ เพราะอะไรเหรอ ก็พ่อฉันจบจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้ และท่านก็หวังให้ลูกท่านเข้าเรียนที่นี้ด้วย อ๋อ ฉันเป็นลูกคนโตด้วย แล้วจะทำไงดีเนี้ย
******
อารมณ์เสียโว้ย
.ยยย
..ยยย เห็นไหมหละว่าแล้ว พ่อไม่เห็นด้วย พ่อยืนยันที่จะให้ฉันเข้าเรียนที่นี้ ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม ฉันเถียงพ่อไม่ได้อยู่แล้วก็ฉันยังหาเงินเองไม่ได้นิ ท่านยังเป็นธนาคารสำหรับฉันอยู่นะ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพ่อ หงุดหงิด ๆ
“ หน่า แกขับดี ๆ ดิ อย่าเหม่อ ฉันยังไม่อยากตาย” เสียงของเปิ้ลเพื่อนสนิท ทำให้ฉันหลุดออกจากโลกส่วนตัว มันหงุดหงิดนิ ลืมไปว่าตัวเองกำลังขับรถพาเปิ้ลไปกินพิชซ่า แน่นอนว่าฉันต้องเลี้ยงมันเพราะดันลากมันออกมาจากบ้านตอนวันหยุด เปิ้ลเป็นผู้หญิงอวบ ๆ ถึงขั้นอ้วน ขาว เวลากอดแล้วตัวจะนุ่ม ๆ บอกว่ามันเตี้ยด้วย ก็กลัวโดนสอย
ถึงห้างนางฟ้า ฉันจอดให้เปิ้ลลงไปจองโต๊ะไว้ก่อน วันหยุดคนยังกะปลวก ก็แน่หละ ห้างนี้เป็นแหล่งนัดพบของวัยรุ่นในจังหวัดเลยนะ อยู่ใกล้โรงเรียนใหญ่ประจำจังหวัด 2 แห่ง แถมอยู่กลางเมือง รถสองแถวผ่านหลายสาย หลังจากวนหาที่จอดรถของซะนาน ก็ได้ที่จอดสักที ไม่อยากบอกว่าแอบฉกรถกระบะพ่อมา ไว้ตอนกลับค่อยไปอ้อน (เลวได้อีกฉัน)
“หน่าทางนี้ ๆ ” นั้นเปิ้ลนั่งอ้วนอยู่โต๊ะข้างกระจกหน้าร้าน ทำเลเหมาะแก่การนั่งกินเรื่อย ๆ ไม่ร้อนด้วย
“กินไร ฉันยังไม่สั่งรอเจ้ามือ”
“ซีฟู้ดค็อกเทล ถาดกลาง ไม่เอาขอบ แป๊บซี่รีฟิล นอกนั้นแล้วแต่เปิ้ล” เห็นหน้ามันค้อนใส่ ก็อยากกินแค่นี้นิ ฉันนั่งมองข้างนอกกระจก บรรยากาศช่วงบ่าย ดูวุ่นวาย และอาหารหูอาหารตาเยอะดี หูแว่ว ๆ เปิ้ลสั่งไก่ หอมทอด กับสปาเก็ตตี้อีกจาน 2 คนจะกินหมดเหรอวะ
“หน่า แกกลุ่มนั้นดิ จ้องแกตั้งแต่เดินเข้ามาในร้านแล้วนะ” ฉันเหลือบมองตามหางตาเปิ้ล ไปเล็กน้อย ย่ำเล็กน้อยเท่านั้นเพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกตุ “กลุ่มไหนวะ”
“ มองไปที่ 10 นาฬิกานะ กลุ่มนั้นอ่ะที่อยู่กัน 4 คนนะ” อ๋อ น้องกลุ่มนั้น ดูแล้วคงประมาณ ม.2 ม.3 ได้ สงสัยมาเรียนพิเศษแล้วนัดกันหาอะไรกิน
“ฉันไม่น่ามากับแกเลย ไปไหนมาไหน ทำตัวเด่นตลอด รู้สึกถึงสายตาที่ทิ่มแทง เร้าร้อน และริษยา โอ้ววว แก เป็นคนบาปจริง ๆ” ท่าจะบ้าแล้วเพื่อนฉัน มาโทษฉันชะงั้น เด่นตรงไหนวะ ฉันก็ว่าฉันสูงตามมาตรฐานหญิงไทย 172 เซ็น ฯ เอง (?) แต่งตัวธรรมดาใส่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ เสื้อแขนยาวผูกเอวไว้อีกตัว รองเท้าผ้าใบ ใส่หมวก อ๋อเก็บผมเรียบร้อย ทั้งตัวยี่ห้อBody G หน้าตาก็พอเข้าวัดตอนเย็น ๆ แล้วหมาไม่หอน
ครึ่งชั่วโมงผ่านไปฉันมองซากอารยธรรมที่บนโต๊ะพลางสงสัยว่า เขมือบไปได้ไงวะ 2 คน เวลาเครียด ๆ สิ่งที่ทำให้ฉันอารมณ์ดี คืออาหารนี้หละ ยิ่งของหวานนะ และถ้าได้กินกับคนสนิทเช่นเปิ้ล จะอารมณ์ดีเร็วเป็นพิเศษ ฉันออกกำลังกายประจำ เลยหุ่นตรงข้ามกับเปิ้ล ขานั้นชอบกินแล้วนอนเลยหุ่นอย่างที่เห็น (อย่าไปบอกมันนะ เดียวมันงอน)
“เซเว่นเซ่นต่อไหมเพื่อน” เปิ้ลมองหน้าประมาณว่ามึงยังจะแดกต่อได้อยู่เหรอ แต่ก่อนที่เปิ้ลจะว่าอะไรต่อ
“เอ่อ
..พี่คะ” หืมมม ใครเรียกวะ หันไปมองตามเสียงเห็นน้องหนึ่งในกลุ่มที่เปิ้ลบอกว่าจ้องฉัน น้องคนนี้ มองดูใกล้ ๆ แล้วมีแววสวยแต่เด็กเลยแหะหน้าคม ตาโต ขนตายาว ผิวสีน้ำผึ้งออกไปทางเหลือง (มันสียังไงหว่า) สูงราว ๆ 160 ได้แน่นอนว่าสูงกว่าเปิ้ล ตอนนั่งเหมือนจะตัวเล็ก ๆ
“เอ่อ
..”
“เอ่อ
..” น้องจะเอ่อ อีกนานไหม เริ่มรำคาญ กล้าเดินเข้ามา แต่ไม่กล้าพูดซะงั้น เหลือบไปมองเปิ้ลเห็นมันกลั้นหัวเราะ “แกทำหน้าบูดเป็นตูดลิง ใครจะกล้าคุยด้วยวะ” อ้าวเปิ้ลหน้าฉันก็เป็นแบบนี้อยู่แล้วยังไม่ชินอีกนะแก ยิ้มการค้าให้สักหน่อยก็ได้ ลดอาการประหม่า
“เอ่อ ..... พี่หน่า โรงเรียน K ใช่เปล่าคะ” ในที่สุดน้องก็พูดออกมาเป็นประโยคแล้ว ขอแสดงความยินดีด้วย
“คะ ใช่คะ มีอะไรเหรอค่ะ ?”
“เอ่อ.... หนูชื่อแขคะพี่ อยู่ ม.2 เพื่อนหนูปลื้มพี่มากคะ เลยอยากขอถ่ายรูปพี่ ไม่ทราบพี่สะดวกไหมคะ” ทำไงได้คนมันดัง ไม่ได้โม้นะ เจอประจำ ตั้งแต่ไปแข่งบาสที่โรงเรียน ม ต้น เอกชนหญิงล้วนนั้นมา ก็มีคนมาขอถ่ายรูปเป็นระยะ ๆ ส่วนมากก็เด็กโรงเรียนนั้นหละ ฉันพยักหน้าตกลง น้องแข หันไปกวักมือเรียกเพื่อน ๆ ในกลุ่ม นึกว่ามีแค่กลุ่มน้องเขา 4 คน แต่ไงมีกลุ่มจากโต๊ะข้าง ๆ มาอีกโขยง อั้ม พัชราภามาเอง ถ่ายรูปให้สะใจไปเลยน้อง ไม่ใช่แระ
“พี่หน่ามีแฟนยังคะ”
“พี่หน่าชอบทานอะไรคะ”
“พี่หน้าเดินห้างบ่อยไหมคะ”
“พี่หน่า” ................... ฯลฯ
เอาหละงานนี้ ผึ้งแตกรัง ถามยังกับจะเอาไปทำชีวประวัติ ขายได้นี่แบ่งรายได้มาให้ด้วยนะ
“ขอบคุณคะพี่หน่า” ไม่เป็นไรอย่าเอารูปพี่ไปตัดต่อรูปเซ็กซี่หละกัน ถึงอยากจะทำอย่างนั้นแต่หุ่นมันไม่ให้
“ไม่เป็นไรจ๊ะ อะไรที่พอช่วยได้ ก็บอก” ฉันตอบไปตามมารยาท และรอยยิ้มการค้า ที่เปิ้ลมันเรียก แต่ในใจรำคาญแล้ววะไม่น่าหลวมตัวเลย
“พี่หน่าเท่ห์จัง ไปแข่งโรงเรียนพวกเราอีกเมื่อไหร่ พวกเราจะเชียร์พี่นะคะ” ไม่ต้องชม ๆ เขิล
“อืม” ยิ้มการค้าอีกรอบ เรตติ้งยังดีแหะ ทั้งในและนอกโรงเรียน เรียน (ไม่) ดี กีฬา (ไม่) เด่น (ไม่) เน้นกิจกรรมเ และหน้าตาดี (เหมือนได้ยินเสียงกระถางต้นไม้ใกล้ ๆ) แต่พี่คงไม่ได้ไปแข่งแล้วน้องจบ ม. 6 แล้ว
“เราไปก่อนนะคะ” จ้า บะบาย ๆๆ น่ารักดีแหะ วัยรุ่นนี้ดีจริง ๆ หน้าตาเป็นประกาย ยิ้มแล้วดูสดใส (เมื่อกี้ใครบอกรำคาญวะ)
*****
“หน่า กระเป๋าสีชมพูนั้นของแกเหรอ” กว่าจะหมดช่วงถ่ายรูปกับน้อยหน่า ณัฐริ (อ่านว่า นัด ทะ-ริ ไม่ต้องเติมกา ให้นะจ๊ะ) ก็กินเวลาไปเกือบ 30 นาที พนักงานคงสงสัยอินี่เป็นใครมาจากไหนวะ ทำร้านเขาวุ่นวาย จนได้ถูกเชิญออกจากร้าน เปิ้ลสังเกตเห็นกระเป๋าเป้ข้าง ๆ ตัวฉัน
“ไม่นิ แกก็รู้ฉันไม่นิยมสีชมพู แล้ววันนี้ฉันก็ไม่ได้สะพายเป้มาด้วย” แน่นอนว่าเป้ฉันก็ยี่ห้อ Body G เหมือนเดิม จนแม่บอกหน่าจะบ้ายี่ห้อนี้ไปมากไปเปล่าลูก “สงสัยของน้องกลุ่มเมื่อกี้วะ เอาไปให้ประชาสัมพันธ์ประกาศให้ดีกว่า ไม่รู้ไปไหนกันแล้ว”
เสียมารยาท เปิดดูกระเป๋า เผื่อมีชื่อเจ้าของกระเป๋าจะได้ตามตัวง่าย ๆ ดีหน่อยข้างในเป็นหนังสือเรียนพิเศษ และ อ้าวกระเป๋าเงินก็อยู่ด้วยนิ แย่หละต้องรีบไม่งั้นเดือดร้อนแน่ ๆ ฉันบอกประชาสัมพันธ์ให้ประกาศหาญาติให้หน่อยเพราะหลงกัน อยากให้กับมือ ไม่อยากฝากคนอื่น ไม่ไว้ใจเผื่อมีคนมาสวมรอย ฉันไม่รู้หรอกว่าคนไหน แต่คิดว่าฉันจำหน้าน้อง ๆ กลุ่มนั้นได้หมดทุกคน
ตึ่ง ตึ่ง ตึง (คิดซะว่ามันเป็นเสียงก่อนประชาสัมพันธ์หละกัน)
“ประกาศ เด็กหญิงแขวลัย มาพบญาติที่ประชาสัมพันธ์ด่วนคะ”
ไม่ถึง 20 นาที คลับคล้ายคลับคลาว่าเป็นน้องคนที่เข้าไปขอฉันถ่ายรูปวิ่งหน้าตื่นมาที่ประชาสัมพันธ์ “พี่คะ หนูแขวลัยคะ ไม่ทราบว่าใครประกาศหาหนูคะ” ท่าจะเหนื่อยนะนั้น หอบมาเชียว พนักงานชี้นิ้วมาทางฉัน น้องทำหน้าตกใจเหมือนเห็นผี (?) ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นแปลกใจ เดินมาที่พวกฉันยืนอยู่
“เอ่อ..... คือว่า...” ตอนอยู่กับเพื่อนคุยเป็นต่อยหอย พออยู่ต่อหน้าฉันหละทำเป็นพิกุลจะร่วง ก้มหน้าก้มตา
“นี่กระเป๋าเราใช่หรือเปล่า เราลืมไว้ที่ร้านพิชซ่านะ” ถ้ารอน้องพูดก่อนสงสัยฉันไม่ได้กลับบ้านแน่ ๆ
“เอ่อ.....” อะไรหว่า น้องคนนี้ เห็นหน้าฉันพูดเป็นแต่คำว่า เอ่อ หรือไง วะ เปิ้ลหัวเราะคิก คิก พลางกระซิบบอกว่า “ฉันว่าน้องเขากลัวแกวะ ทำหน้าดี ๆ หน่อย สักพักร้องให้แน่เลยวะ” ฉันไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นสักหน่อย แต่ก็เห็นด้วย งั้นไปดีกว่า ไม่อยากทำให้ใครร้องให้ ฉันเอามือเขย่าหัวน้องเบา ๆ
“ที่หลังระวังด้วยนะ สำรวจตัวเองด้วยจะไปจะมาว่าลืมอะไรหรือเปล่า พี่ไปก่อนนะ” ยิ้มให้น้องเขาทีหนึ่ง ก่อนที่จะเดินไปได้ไม่กี่ก้าว
“พี่หน่า คะ ขอบคุณคะ” ฉันไม่ได้หันกลับไปมองหรอก แค่ยกมือบอกไม่เป็นไร
TBC
.
PS.
กว่าจะจัดการกับสุกี้ สูตรหญิงแขหมด เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน ฉันต้องเอาไปต้มใหม่ ให้ผักและเนื้อสุก เจือจางด้วยเพราะมันเค็มไปสำหรับฉันเท่านั้น(เอง) โดยที่ตัวต้นเหตุทำหน้าสำนึกผิดอยู่ที่โต๊ะอาหาร
เรารู้จักกันตอนครั้งแรกที่ไหนนะ
“คิดไม่ออก มันนานแล้วนิ ร้านพิชซ่า ห้างนางฟ้ามั้ง”
“นั่นมันหน่านิ แขรู้จักหน่า นานกว่านั้น ตอนหน่าไปแข่งบาสที่โรงเรียน ม. ต้น แขไง ตอนนั้นหน่า ป๊อบมากเลยนะ”
“ไม่เห็นรู้เรื่องเลย”
“แก่แล้วก็งี้หละ”
“อ้าว”
Note : ขอบคุณที่คลิกเข้ามาอ่านกันคะ หวังว่าคงไม่งงกันนะ ถ้ามีข้อผิดพลาดตรงไหนแนะนำด้วย จะเป็นพระคุณยิ่ง
ความคิดเห็น