นิราศแม่ทา - นิราศแม่ทา นิยาย นิราศแม่ทา : Dek-D.com - Writer

    นิราศแม่ทา

    บทกลอนระลึกการไปสัมผัสชีวิตที่สถาบันพัฒนาเกษตรกรรมแม่ทายั่งยืน กิ่ง อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2551

    ผู้เข้าชมรวม

    265

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    265

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  กลอน
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  23 ก.พ. 51 / 16:20 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      รอริมแนวทางรถไฟใฝ่ฝันหา
      รอเพื่อน ครู พี่น้อง สุขอุรา
      รวมบรรดา คณะครู นักเรียนเรา

      เข้ารถไฟยามเช้าแสนหนาวเหน็บ
      คณะเก็บของเตรียมไว้ในรถเหมา
      หกสิบชีพรีบกันเสียไม่เบา
      ให้รู้เล่านี่คือห้องสองเอง

      คุยกันเล่นกันสนุกสนาน
      ดูเล่นทานอาหารกันไม่โหรงเหรง
      สับไพ่เล่นด้านหลังอย่างครื้นเครง
      เล่นรีบเร่งก่อนโอกาสจะไม่มี

      นี่คือบรรยากาศไม่คลาดสุข
      รถกระตุกเสียกลางทางเล่นไม่หนี
      ไม่กังวลต่องานที่จรลี
      รอคอยคลี่ที่หน้าตักไม่เห็นกัน

      คลาดเวลาสักหน่อยชั่วโมงกว่า
      เร่งไล่ล่าลงจากรถชายตาหัน
      ดูขุนตานอุโมงค์ใหญ่โดยฉับพลัน
      ก่อนร่วมมั่นตั้งจิตภาวนา

      บรรยากาศธรรมชาติเงียบสงบ
      ท่ามกลางอาคารริมหุบผา
      บรรยากาศช่างเหมือนครรไลลา
      เพียงแต่ว่าเป็นฟ้าสถิตดิน

      แล้วขึ้นรถแดงในทันใดนั่น
      ไปสู่คลังวิชาค่ายิ่งสิน
      สหกรณ์แม่ทารอคอยยิน
      เสียงรถดิ้นขลุกขลักกลางหมู่ไพร

      ถึงแม่ทาสหกรณ์อันสวยสด
      แสนงามงดตรึงตราจะหาไหน
      ฟ้าสดแสงตัดกันช่างงามกระไร
      สมคำไซร้ “สุขล้น” คือของจริง

      ฟังคำชี้แจงจากนักปราชญ์
      ที่มีศาสตร์วิชาพาพร้อมวิ่ง
      สู่ความรู้เต็มตักใช้อ้างอิง
      เป็นความรู้สูงยิ่งสถิตมา

      แยกตามฐานแยกไปทั้งห้าส่วน
      หัวเราะร่วนล่ำลาอย่างหรรษา
      พร้อมพบงานภารกิจที่คอยท่า
      ภูมิปัญญาให้เรารออนุรักษ์

      เกษตรกรรมยั่งยืนคือฐานสอง
      ตามครรลองไปบ้านลุงสมศักดิ์
      เด็กต่างพร้อมทำงานด้วยใจภักดิ์
      ใจสมัครรอรับทำจนจุดปลาย

      ปราชญ์ท่านสอนวิถีชนบท
      เด็กตามจด จ่อฟัง ยังไม่สาย
      ให้รู้ “พอ” ใช้ของ “ถิ่น” ไม่ทำลาย
      ของนอกไว้ค่อย “นำเข้า” ถ้าจำเป็น

      หรือประยุกต์ “ของนอก” ถ้ามันดี
      แต่อย่าตีจากถิ่นที่เริ่มเห็น
      รู้จัก “ยั้ง” แล้วจิตจะเริ่มเย็น
      แล้วก่อเป็น “สุข” ในฝันที่เพียงพอ

      เกษตรเราเริ่มที่ “เคมี” ก่อน
      ตามคำร่อนโฆษณาอ้าปากหวอ
      หวังจะได้ความสุขที่ไม่พอ
      จนสุขหนอที่รอหดหายไป

      ทดแทนด้วยหนี้สินกลิ่นของเน่า
      ได้ของเล่าต้องจ่ายเงินจนเริ่มหาย
      จึงเริ่มหาหนทางที่มลาย
      ทุกข์ให้คลายพ้นหนี้ ทุกข์อาจิณ

      และแล้วทางพ่อส่องสว่าง
      เป็นแนวทางที่เราต่างตามถวิล
      “พอเพียง” มาเห็นผลพ้นราคิน
      จึงตัดสิ้นปลูกเคมียกเลิกเลย

      ได้ยินแล้วนึกถึงวิชาเรียน
      ทั้งฟิสิกส์ เคมี ชีวะเอ๋ย
      เอามาเทียบเล่นเล่นพลางเปรียบเปรย
      น่าวางเฉยวิชาพวกนี้จัง

      เอ้ากลับมายังเกษตรยั่งยืนต่อ
      ต่อจากเรื่องจึงวางแผนของฉมัง
      ถ้าไม่นึกกลัวร่างกายจะผุพัง
      ของที่หวังนั่นคือ “อาหาร” กิน

      ให้ผู้ชายไปเตรียมอุปกรณ์
      ของสตรีภูธรเก็บผักสิ้น
      ประกอบอาหารเสร็จแล้วเหมือนโบยบิน
      ต่างรอยินคำให้กินไม่อ่อนเพลีย

      “กอลลัม” ส่องกล้องหาจังหวะเหล่
      “กวาง” “ฟ้า” “เก๋” “พี่เหมี่ยว” “ยุ่ง” “ทราย” “จูเนียร์”
      เตรียมอาหาร ส่วนเตรียมฟืนเหงื่อไหลเลีย
      “ยิม” “บาส” “สุ่ย” ตามเคลียร์ให้หมดพลัน

      บรรยากาศเป็นเช่นนี้จะบอกให้
      ข้าวเหนียวไซร้แข็งหน่อยอย่างสร้างสรรค์
      แกงผัก “ขม” แย่งกันกินพร้อมพร้อมกัน
      ปราชญ์ท่านก็กินข้าวพร้อมเพรียงเรา

      ที่ตะลึงตึงตึงกันโลกแตก
      คือการ “แดก” ของจูเนียร์หัวหน้าเก่า
      จบกินแล้ว “ยายเม็ดข้าว” กันมันเมา
      ผู้หญิงเศร้าล้างจานกันทุกคน

      พอเสร็จหมดก็เดินทางไปยังสวน
      ภารกิจขุดพรวนดินที่น่าสน
      ลอยคอ รอคอยให้เรายล
      พร้อมทำให้เกิดผลกันขึ้นมา

      ปราชญ์ท่านสอนให้พลิกดินขึ้นมาก่อน
      แล้วก็ตอนส่วนหนึ่งพลิกปุ๋ยหนา
      พลิกให้หมดเพื่อเตรียมจะเพาะกล้า
      จากนั้นมาตักปุ๋ยโรยลงแปลง

      ใช้จอบเกลี่ยมือเกลี่ยให้ทั่วก่อน
      แล้วตามตอนให้ราดน้ำคลายดินแข็ง
      จากนั้นนำฟางมาปูกันแสงแรง
      แล้วแสดงการคัดกล้าให้เด็กดู

      ความต่างของกล้ากับวัชพืช
      “ดูที่ใบ แล้วก็รากนะหนูหนู”
      ลุงกล่าวมารับฟังไม่พรั่งพรู
      สังเกตรู้แล้วคัดกันสนั่นเมือง

      ได้กล้ามาวางลงแปลงในที่ปลูก
      เป็นแถวถูกตามแนวฟางวางต่อเนื่อง
      ระยะห่างเว้นกันไม่ต้องเปลือง
      ตลอดเรื่องให้ทำให้ครบแปลง

      เรียนรู้ความยากลำบากของชาวบ้าน
      แลกความสุขเป็นงานที่ยากแข็ง
      ถ้าอดทนพบสุขที่แข็งแรง
      ไม่ใช่สุขผอมแห้งที่เคยชิน

      จากนั้นกลับสหกรณ์สรุปเรื่อง
      ทุกฐานเปรื่องสนุกสนานวาทศิลป์
      สรุปท้ายเป็นความรู้ในแผ่นดิน
      เราทั้งสิ้นล้วนขอบคุณวิทยากร
       
      ต่อจากนั้นซื้อสินค้า ขึ้นรถกลับ
      แสนกระชับทางสวยรวยสุขว่อน
      ถึงโรงเรียนหกโมงเย็นคุ้มค่าจร
      กลับสู่บ้านต่างอ่อนเพลียตามกัน

      สรุปท้ายขอขอบคุณมาสเตอร์บ๊วย
      ที่ให้เรารวยความรู้สุขหรรษา
      ขอขอบคุณมาสเตอร์ฟลุคร่วมทางมา
      และเพื่อนจ๋าขอขอบคุณทุกคนเอย

      เก้าปราชญ์ 15 กุมภาพันธ์ 2551
      (นำลงบันทึกสรุปการสัมผัสชีวิต วิชาเกษตร ม.4 โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย)

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×