คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : วันซวยอะไรของฉันวะเนี๊ย!!!!
วันซวยอารายของฉันวะเนี๊ย!!!!
แสงอรุนสาดส่องลอดทางประตูหน้าต่างเล็กๆ เข้ามา นี่คือสัญลักษณ์แห่งวันใหม่ที่กำลังเริ่มต้นขึ้น เด็กสาววัย 18 กำลังพยายามลุกขึ้นจากเตียงอันแสนนุ่ม แต่แล้วเธอก็ทำสำเร็จ เธอเดินออกมานอกห้อง แล้วตรงดิ่งไปที่โต๊ะอาหาร
“โอ๊ยๆๆๆ ปวดท้องจัง” เด็กสาวพึมพัม เสียงน่ารักของเธอทำให้คุณแม่ที่เตรียมอาหารอยู่อมยิ้ม
“เป็นอะไรอีกหละ อึนยู ประจำเดือนมาหรอลูก”ผู้เป็นแม่ถามลูกด้วยความเป็นห่วง
“ไม่ใช้หรอกคะ ม่ามี๊ พอดีเมื่อวาน กินไอติมเยอะไปหน่อย” อึนยูตอบด้วยน้ำเสียงอุ้ยอ้าย และนั่งลงบนโต๊ะอาหาร
โอ๊ะๆๆ สวัสดีเจ้าคร้าลืมแนะนำตัวไปเลยแนะ!! ฉันชื่อว่า ซอง อึนยู สาวน้อยผุหน้ารัก และเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์อันหน้าหลงใหล (เวอร์เชียว) อึนยู อายุ 18 คะ เป็นลูกสาวคนเดียวในบ้าน คุณพ่อเป็น ทูตอยู่ที่อเมริกา คุณแม่เป็นประธานบริษัทส่งออกเครื่องประดับคะ ฉันก็เลยสบายๆ มีพ่อแม่รวยๆๆ 5555+++ (อ้อ ยังมีอีกข้อนะ แม่นี่หลงตัวเองเอามากๆ แถมงกที่สุด ถึงแม้ว่าเธอจะรวยแค่ใหนก็เหอะ) วันนี้เป็นวันปิดเทอมวันแรกคะ อึนยูก็เลยตื่นสาย(ปกติก็สายอยู่แล้วมิใช่ ฤ) เฮ้อๆ เบื่อจังเพราะพรุ่งนี้ม่ามี๊ก็ต้องเดินทางไปต่างประเทศกับผู้จักการอะไรก็ไม่รุ (พอดีฟังไม่ค่อยถนัด) ตั้ง 2 เดือนแนะ ได้อยู่บ้านคนเดียว อย่างงี้ทุกทีเลย ยังไม่พอนะ คุณม่ามี๊ดันขอให้ฉันไปอยู่เป็นเพื่อน 5 หนุ่มอีก ก็ไม่รุว่าเป็นใครหรอกนะ แต่ม่ามี๊ บอกว่าเค้าเลี้ยงง่าย ฉันทนท่าอ้อนของม่ามี๊ไม่ใหวก็เลยตอบตกลงไป ผุจักการบอกว่า พวกเค้านิสัยดี ให้ฉันไปอยู่เหมือน เป็นผู้จัดการส่วนตัวอะไรนี่แหละ เฮ้อๆๆ คิดหนักวุ้ย!!!!
“แม่ไปแล้วนะจ๊ะอึนยู ดูแลเพื่อนๆให้ดีๆ หละ อะนี่ แผนที่บ้าน หวังว่าลูกจะดูแลพวกเขาดีๆหละ แม่ขออย่างหนึ่งนะอย่าขับรถไปเอง เพราะเป็นห่วง ลูกยังขับรถไม่แข็ง ขึ้นรถไฟไปจะดีกว่านะลูก และถ้าแม่กลับมาแล้ว จะไปรับลูกเองจ๊ะ” ม่ามี๊ สั่งเสียฉันก่อนจะไปขึ้นเครื่อง
“คะแม่” ฉันตอบรับอย่างเซ็งๆ
2 ชั่วโมงต่อมา ฉันกลับไปเตรียมสัมภาระที่บ้านแล้วก็ขึ้นรถไฟใต้ดินมา จนถึงหน้าปากซอยที่ใดที่หนึ่ง และดูเหมือนว่าฉันจะหลงนะ โอ้วๆ ม่ายยยๆๆ ฉันเดินเข้าไปในซอยนั้นดูเหมือนว่าจะมีแต่บ้านผู้ดีทั้งนั้นเลย
ซ่าๆๆ ซ่าๆๆ ซ่าๆๆ
ฝนที่ใหนก็ไม่รู้ร่วมใจกันเท ลงมาอย่างมากมายมหาสาร
“โอ้วๆๆๆๆ พระเจ้า ทำไมซวยขนาดนี้วะเนี๊ย” ฉันรีบวิ่งเข้าไปเพื่อหาบ้านหลังที่ว่า ให้เร็วที่สุด
และในที่สุดฝนก็ ซา ลง แต่ดูเหมือนว่ามันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย ก็กระดาษที่จดไว้ดันเปียกน้ำหมด ไม่เห็นอะไรเลย
ท่ามกลางฝนที่ซาลงแล้ว และแสงแดดที่จ้า ฉันแหงนหน้ามองฟ้าแสงแดดสาดส่องโดนนัยน์ตาของฉัน ทำเอาหน้ามืดตามัว แล้วฉันก็ไม่รู้สึกอะไรอีกเลย..............................................
“นี่ๆๆ พวกเราฝนหยุดตกแล้วหละ แต่ทำไมยัย อึงยง อึนยู นั้นที่ พี่ โซอุน บอกยังไม่มาอีก นายว่ามั้ย ยูชุน” เสียงจุงโซ ถามยูชุนที่นั่งดูทีวีอยู่
“อือ” ยูชุนตอบคำเดียว เพราะตาของเขากำลังจับจ้องอยู่ที่หน้าจอทีวี
“นี่พวกนายไม่สนใจอะไรเลยหรือ?” จุนโซตะโกนถามเพื่อนๆ ที่กำลังต่างคนต่างเล่นและดูทีวีกันอยู่ โดยไม่สนใจคำพูดของเขาเลยแม้แต่นิด
“นายจะตื่นเต้นอะไร กะอีแค่พี่เลี้ยงชั่วคราวระหว่างที่พี่ โซอุน ไปธุระเท่านั้นเอง” ยุนโฮ พูดออกมา ทำให้สายตาทุกคนจับจ้องอยู่ที่ยุนโฮหมด แต่ยุนโฮ ก็ทำหน้าเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“นี่ๆ ฝนหยุดตกแล้ว ฉันขอออกไปสูญอากาศ บริสุทธิ์ข้างนอกก่อนนะ”
ชางมิน พูดพลางเดินออกจากประตูห้องไป
“ทุกคนๆๆ” เสียงชางมินดังออกมาจากสนามหน้าบ้าน ทุกคนตกใจ และ รีบวิ่งไปที่ระเบียงทันที
“นายเป็นอะไรหนะ ชางมิน” แจจุงตะโกนถามชางมินด้วยความตกจัย
“พวกนายลงมาดูอะไรนี่สิ มีอะไรก็ไม่รู้อยู่ที่หน้าบ้านเรา เร็วๆ” ชางมินตะโกนให้ทุกคนลงมาดูสิ่งประหลาดที่ชางมินเห็น
ทุกคนวิ่งตาตื่นลงมาที่สนามหน้าบ้าน
“ใหนๆ อะไรหละ มิน ที่นายบอกอะ” ยูชุนถามชางมิน และทุกคนก็ดูเหมือนจะตกในกันมาก (อย่างกะเห็นมนุษย์ต่างดาวยังงัยยังงั้น)
“นั้นงัย พวกนายลองไปดูสิ” ทุกคนเดินออกไปดูหน้าบ้าน
“โอ้วๆ นั้นผู้หญิงนี่น่า เค้ามาทำอะไรที่หน้าบ้านเรา” ทุกคนพูดออกมาเป็นเสียงเดียวกัน ยุนโฮ เอามือของเขาแตะลงที่หน้าผากของผู้หญิงคนนั้น
“เธอตัวร้อนมากๆเลย เราต้องพาเธอเข้ามาในบ้าน” ยุนโฮ พูดออกมา สมาชิกทุกคนต่างเห็นด้วย(แหมๆ เห็นผู้หญิงน่ารักเป็นไม่ได้เชียวนะ)
ยุนโฮไม่รอช้า รีบช้อนตัวเธอขึ้นมา และรีบพาเข้าไปในบ้านทันที สมาชิกทุกคนในบ้านเตรียมน้ำอุ่น ยา และทุกๆอย่างเพื่อมา ปฐมพยาบาลเธอ
“แล้วคัยจะเช็ดตัวละ” แจจุง เอ่ยปากถามขึ้นมา ทุกคนถึงกับชงัก ก็บ้านหลังนี้ไม่มีผู้หญิงเลย แล้วจะให้ใครกันหละที่จะเช็ดตัวเธอ
“นาย ยุนโฮ นายเป็นผู้ใหญ่สุดเลย เพราะฉะนั้น นายต้องเช็ดตัวเธอ” ยูชุน พูดออกมา ทุกคนพร้อมใจกันพยักหน้า ในที่สุดยุนโฮก็ต้องต้องเช็ดตัว ผู้หญิงคนนั้น อย่างเลี้ยงไม่ได้
3 ชั่วโมงผ่านใป ทุกคนเหนื่อยมาก จึงฟุ๊บตัวนอนลง บริเวณข้างเตียงที่ เธอคนนั้นนอนอยู่
ฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้น บริเวณข้างกายของฉันเต็มไปด้วยอะไรบางอย่างที่ดูอบอุ่น ฉันไม่รู้สึกหนาวตอนที่อยู่ท่ามกลางสายฝนนั้นเลยสักนิด เมื่อรู้สึกตัวเต็มที่ ฉันก็ลุกขึ้นมา แต่ก็รู้สึกปวดหัวเอามากๆ ฉันดูสภาพตัวเอง แต่เอะ นี่มันไม่ใช้ชุดฉันนี้น่า อ่าว..เฮ้ย... แล้วนี้ใครนอนเต็มไปหมดละเนี๊ยๆๆ
“ตายยยยแล้วววววววววว อะไรกันนี่ๆๆๆๆ” ฉันอุทานออกมา เมื่อเห็นรอบข้างของฉันเต็มไปด้วยผู้ชาย นี่มันอะไรกัน ฉันฝันไปหรือปล่าว ฉันว่าพลางตบหน้าตัวเอง
เพี๊ยะๆๆๆ (เสียงตบหน้าของ อึนยู)
4 หนุ่มตื่นขึ้นมาพร้อมกัน พรึบๆๆ (อีกคนอะ มิ๊กกี้ไม่ยอมตื่น)
“จะทำอะไรของเธอ” เสียง ชางมิน ถาม เพราะงง มากๆ เห็นอึนยูเอาแต่ตบหน้าตัวเอง
“เธอไม่ได้ฝันไปหรอกนะ” ยุนโฮ พูดออกมา และเอามือไปจับแขนของอึนยูเอาไว้
“ไม่ใช้หรอก ฉันต้องฝันไปแน่ๆ” อึนยูยังคงคิดว่าตัวเองฝันอยู่
“เธอไม่ได้ฝันไปหรอกนะ อยากพิสูทมั้ยหละ งั้นฉันจะจูบเธอให้ดู” แจจุงพูดออกมา ทำเอาทุกคนตกใจ เพราะทุกคนไม่เคยเห็นว่าแจจุงจะจูบใครก่อนเลย
ฉันตื่นจากความฝันโดยทันใด ฉันรีบเอามือปิดปากทันที ฉันยังไม่อยากเสียจูบแรกไปหรอกนะ แล้วนี่มันอะไรกัน ฉันทำไมต้องมาอยู่ในที่ๆมีผู้ชายมากอย่างนี้ด้วยนะ
“พวกนาย ใครเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ฉัน”
ทุกคนพร้อมจัยกันชี้ไปทาง ยุนโฮ พวกเขาทำท่าตกใจเล็กน้อย เพราะน้ำเสียงของแม่สาวน้อย แข็งกร้าวเหลือเกิน
“นายกล้ามากเลยนะ ตั้งแต่ฉันอายุได้18นี้ ยังไม่มีผู้ชายหน้าใหนกล้าจับแม้แต่ปลายเล็บ แล้วนายถือดียังงัยมาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ฉัน แล้วนายเห็นอะไร หรือปล่าวอะ ให้ตายสิ สิ่งที่ฉันเก็บไว้ให้คนที่ฉันรักมากที่สุด ต้องมาเสื่อมเสีย ก็เพราะนายคนเดียวเลย ฮื้อๆ” ฉันเริ่มมีน้ำตาคลอ ในที่สุดมันก็เอิ่อล้นบ่อน้ำตา และไหลลงมา
“ฉันขอโทดนะ ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ แล้วอีกอย่าง ฉันก็ไม่ได้ดูอะไรของเธอเลยแม้แต่น้อยนิด และ ถ้าพวกเราไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอ ป่านนี้เธอก็คงเป็นปอดบวมตายแล้วหละ” ยุนโฮ พยายามอธิบายเหตุผลให้เข้าใจ แต่ก็ไม่เป็นผล อึนยู ไม่ยอมหยุดร้องให้เลยสักที
“ขอโทดนะ ฉันไม่น่าขี้แยอย่างนี้เลย ขอบใจพวกนายมาก ฮื้อๆๆ ฉันไม่โกรธแล้ว ฮื้อๆและฉันก็ผิดเอง ไม่น่าหลงทางมาเลย” ฉันนี้มันก็แย่เหมือน กันนะถ้าไม่มีพวกเค้าแล้วฉันจะอยู่รอด หรือ
“เธอชื่ออะไร” จุนโซ ถาม
“ฉันนะหรอ ฉันชื่อว่า ซอง อึนยู ทำไมหรอ” คำตอบนี้ทำให้ทุกคนต่างมองมาด้วยสายตาเดียวกัน แล้วพูดพร้อมกันอีกว่า
“ลักกี้.......”
“อะไรหรอพวกนาย น้องฉันมาหลออออ” ยูชุนพูด เขากำลังตื่นขึ้นมา (ลักกี้คือชื่อของน้องชายเขา)
“จะบ้าหรอ ยูชุน นายรู้มั้ยว่าเธอคนนี้เป็นพี้เลี้ยงคนใหม่ของพวกเรางัย”
“อ่าวหรอ ไม่ได้หมายถึง ลั๊กกี้ น้องฉันหรอ”
“อะไรกันคะ พวกคุณช่วยอธิบายเรื่องให้กระจ่างหน่อย” อึนยู เอ่ยถามขึ้นมาเพราะตอนนี้เธองง เอามาก
“ก็เธอไง พี่เลี้ยงคนใหม่ของพวกเรา ที่พี่โซอุนส่งเธอมาช่ายมะ” แจจุงถาม
“นี่พวกนาย 5 คนที่ว่าหรอ” อะไรมานจะดีปานนี้ คิดว่าหลงทางแล้วเชียว เอาวะยังงัยก็ถือว่าโชคดีที่ไม่หลงทางแล้วกัน
“สวัสดีคร๊าฟๆๆ พี่เลี้ยงคนใหม่” ยูชุน วิ่งเข้ามาสวมกอด อึนยู และก็ตามมาด้วย จุนโซ แล้วก็ ชางมิน แล้วก็แจจุง แล้วก็ ยุนโฮ อ๊ากๆๆๆๆๆๆ อยากจะบ้าตาย ตอนนี้ฉันอึดอัดไปหมด ถูกผู้ชายกล้ามโต 5 คนสวมกอดในคราเดียวนี้ อ๊ากๆ หายใจไม่ออกแล้ว
“นี่พวกนาย จะฆ่าฉันหรือยังงัย”ฉันรวมอากาศเฮือกสุดท้าย แล้วระเบิดออกทางปล่องเสียงอย่างเต็มแรง
“โอ๊ยๆๆ เสียงเธอนี่แหลมจิงๆ แก้วหูเกือบแตกแล้วมั้ยละ”
“แล้วมันแตกปะ”
“แตกสิ”
“ถ้าแตกแล้วนายจะได้ยินที่ฉันถามงั้นหรอ อย่าโกหกชะให้ยาก555++” ฉันเป็นคนที่ข้อนข้างหูดี และช่างสังเกต
“แจนายไปทำอาหารเย็นได้แล้ว เดี๋ยวพวกเราจะจัดเตียงให้พี่เลี้ยงคนใหม่ก่อน” ยูโนวสั่ง
“รับคำสั่งคับ ท่าน” แล้วแจก็หายเข้าห้องห้องครัวที่ประจำไปทันที
“แล้วพวกนาย ไปขนเตียงในห้องเก็บของมา” คือคำสั่งของท่านผู้บังคับบันชา ยุนโฮ
“พวกนายพูดถึงเตียง ไม่ได้หมายถึงห้องหรอ”ถ้าคิดไม่ผิด พวกนี้ต้องให้ฉันนอนในห้องนี้อย่างแน่นอน ..ฟันธง
“เตียงมาแล้ว ยุนโฮ นายจะให้วางไว้ใหนหละ”
“วางไว้ตรงระหว่าง ฉัน กับ ชางมิน ก็แล้วกัน” ให้ตายสิ ฉันต้องนอนในห้องที่เต็มไปด้วยผู้ชายเนี๊ยนะ ขอตายชะจะดีกว่า แง้ๆๆๆๆๆๆ แม่จ๋า พ่อจ๋า ช่วย ลูกด้วย
“ยูชุน เราไปดูทีวีดีกว่า” จุงโซ ชักยูชุนออกไปจากห้อง
“ชางมินๆๆๆ นายมากินอาหารของนายได้แล้ว” แล้วชางมินก็วิ่งออกไปเมื่อได้ยินเสียงแจเรียก เพราะนั้นหมายถึงเป็นเสียงสวรรค์
บรรยากาศโดยรอบเสียบสงบในห้องนี้ มีแต่ฉันกับยุนโฮ เขาและฉันต่างก็ไม่พูดอะไรจนกระทั่ง
จ๊อกๆๆ โจ๊กๆๆๆ (อ๊ากๆ ท้องเจ้ากรรมของฉันดันร้องขึ้นมาเสียนี่)
“เอ่อ..... ยุนโฮ เราไปทานอาหารกันดีกว่านะ” ขอบคุณท้องเจ้ากรรมเอ๋ย ที่นายมาขัดขวางความเงียบ
ฉันรีบวิ่งออกมาจากห้อง ด้วยเหตุผล 2 อย่าง ประการที่1 ฉันต้องการหลุดพ้นจากบรรยากาศอันแสนจะเงียบและกดดันในห้องนั้น ประการที่ 2 เอ่อ ฉันไม่อยากจะบอกเลย ว่าหิวสุดๆ
“อ่าว อึนยูมาแล้วหรอ มานทานอาหารดีกว่า วันนี้แจเค้าทำหม้อไฟด้วย หน้ากินใช่มั้ยหละ” ชางมินหันหน้าไปพูดกับอึนยู ก่อนที่จะลงมือฟัดหม้อไฟของเขาต่อ
“จะกินแล้วนะคะ” ฉันเอ่ยปากตามความคุ้นเคย และก็ลงมือฟัดหม้อไฟ ดูเหมือนว่าจะกินไปประมาณ 2 ใน 3 เลยเชียวหละ ตอนนี้ทุกคนต่างก็พากันยอมแพ้กันหมดแล้ว ยังคงเหลือแต่ฉัน กับ ชางมิน เอาแล้วงานนี้ให้ตายกันไปข้างหนึ่งเลย
“อ่าวๆ 2 คนนี้ จะกินไปถึงใหนกันแน่” จุนโซพูดออกมาด้วยความตลึง OoO
“ฉันว่ามื้อนี้ แจต้องใส่น้ำปลาหมดอายุแน่ๆเลย” ยูซุนออกความคิดเห็น
“ใช่” แจ และ ยุนโฮ พูดพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
ฉันและชางมินปะลองฝีมือด้วยการฟัดอาหารมื้อนี้ชะเรียบ ช่างมีความสุขอะไรปานนี้ เวลาที่กินนี่เป็นช่วงเวลาที่ฉันรักเจงๆเรย เอิ๊กๆๆ
“พวกเรา ไปอาบน้ำกันดีกว่า”ยูชุน ชวนเพื่อนๆไปอาบน้ำ หลังจากนั้นพวกเขาก็หายหัวไปกันหมด ทิ้งให้ฉันจัดการขยะบนโต๊ะอยู่คนเดียว
“ให้ตายเหอะ อาไรมันจาเหนื่อยปานนี้ เฮ้อๆ” ในที่สุดฉันก็จัดการกับขยะกองโตบนโต๊ะอาหารซะเกลี้ยง
ฉันเตรียมเสื้อผ้าเพื่อจะไปอาบน้ำต่อ พอออกมาจากห้องอาหาร ก็เห็น ยูชุน นั่งดู การ์ตูนกับจุนโซ ขนาดโตแล้วนะเนี๊ย ยังดูการ์ตูนกันอยู่เลย ส่วนชางมิน เขาก็นั่งอ่านหนังสือ และอีกสองคน ก็นั้งทำอะไรกันก็มิรุ
“สบายจิงๆเลย” !@##%&&*((((%$@#@ หลังจากนั้นก็พูดพร่ำอะไรต่อมิอะไรอยู่คนเดียวในห้องน้ำ
ฉันเดินออกมาจากห้องน้ำ ดูเหมือนพวกเขาก็ยังทำกิจกรรมเดิมกันอยู่ ฉันยื่นคอไปดู นาฬิกา ที่แขวนอยู่ตรงมุมห้อง
“อ๊ากๆ สามทุ่มแล้ว ละครเรื่องโปรดของฉันกำลังจะออกแล้ว” เวลานี้ละครเรื่องโปรดของฉันกำลังจะออกแล้ว เรื่อง To be killed on the spot ฉันมักจะชอบดูทุกครั้งก่อนนอน ไม่ใช่ฉันซาดิดหรอกนะที่ชอบเรื่องผี แต่ว่าถ้าไม่ได้ดูจะนอนไม่หลับอะ
ฉันวิ่งไปนั้นตรงโซฟาที่ยูชุนนั่งอยู่ แล้วก็แย่งรีโมทจากเขา
“นี่เธอ ฉันดูการ์ตูนอยู่นะ”ยูชุนโวยวายใหญ่เลย
“ฉันจะดูเรื่องนี้อะ ไม่งั้นฉันนอนไม่หลับ แล้วใครจะรับผิดชอบละ”ฉันว่าพลางกดรีโมทไปที่เรื่อง To be killed on the spot ทันที
ชายร่างสูงเดินเข้ามาในห้องนอนของสาวน้อย เขาคว้ามีดยาวออกมา ทันใดนั้นคาวเลือดจากมีดก็ฟุ้งกระจายเต็มห้อง เค้ายกปลายมีดขึ้น
“จึกๆๆๆๆๆๆ” เค้ารัวปลายมีดไปที่ท้องของเด็กน้อยผู้หน้าสงสาร ทันใดนั้น
.
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก” ยูชุนตกใจมาก ตอนนี้เค้ากำลังกอด อึนยู
“เฮ้ย อะไรยูชุน แค่นี้เอง ทำเป็นกลัว โหยๆ ปอดแหกจิง” ฉันว่า พลางพยายามแกะมือของเขาออก แต่ก็ไม่สำเร็จ หมอนี่มือแข็งจังแฮะ แกะเท่าไรก็ไม่ยอมออกเสียที
“เธอนี่ไม่รู้หรอ ยูชุนเค้ากลัวเรื่องผีมาก ถึงจะพยายามแกะออกแค่ใหนนะ ก็ไม่ยอมปล่อยหรอก เธอต้องรับผิดชอบนะ” จุนโซ บอกฉัน
“แล้วจะให้ทำไงหละ” ฉันถาม
“เธอต้องพาหมอนั้นไปนอน แล้วกล่อมเขาให้หลับ มิฉะนั้นก็จะแกะไม่ออก”
“เฮ้ย จะบ้าหรอ ให้ฉันกล่อมหมอนี้งั้นหรอ ให้ตายสิตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยกล่อมใครมาก่อนเลย”
“หรืออยากจะให้เขากอดเธออย่างนั้นหละ”
“ก็ได้จ้า” ถึงเจ้า ยูชุน จะหล่อขนาดใหน แต่ฉันก็ไม่อาจกอดกับเขาอยู่อย่างนี้หรอกนะ
ฉันพาหมอนี้ไปนอน แล้วก็กล่อมเขา เฮ้อ อึนยู ทำไมแกต้องทำอะไรอย่างนี้ด้วยวะ ไม่เข้าใจจิงๆเลย
ในที่สุดฉันก็ไม่ได้ดูละครที่ฉันชอบ คืนนี้ต้องนอนไม่หลับแน่เลย พอยูชุนหลับไป ฉันก็เลยขึ้นไปนอนเตียงของตัวเอง ฉันนอนพลิ๊กไปพลิ๊กมา นอนไม่หลับจริงๆด้วย ไม่นานนัก ทุกคนก็เข้าห้องมา เพื่อจะเข้านอน
ฉันแกล้งทำเป็นหลับ (_ _)zzZZ
“อ่าว หลับกันหมดแล้วหรอ วันนี้จะแกล้งใครดี” ยุนโฮ พูดออกมา ประโยคคำพูดของเขา ทำเอาฉันขนลูก ซู่
“ฉันว่า ยัยอึนยูดีกว่า หุหุ” แจจุงพูดออกมา ทำเอาฉันขนลุก ซู่ ยกกำลัง 2
ทันใดนั้น ฉันก็รู้สึก จั๊กจี้ ที่เท้า อารายกันนักวะเนี๊ย!!! ฉันแกล้งทำเป็นละเมอ แล้วถีบเท้าไปเต็มๆ ดูเหมือนว่า จะไม่โดนอะไรเลย แล้วฉันก็รู้สึกเหมือนมีคนมาดึงผมเล่น อารายอีกพวกนี้ ฉันหันหน้าไปอีกข้างหนึ่งทันที แล้วก็ต้องสดุ้ง เมื่อแก้มของฉันไปสดุดกับอะไรบางอย่าง ฉันลืมตาขึ้นมา
โอ้วพระเจ้า ปากของอีตา ยุนโฮ กำลังแนบติกกับแก้มของฉันอยู่ OoO
“พวกนายเล่นอะไรกัน” ฉันโวยวายใหญ่
“แก้มเธอนุ่มจัง” ยุนโฮ ทำหน้าทะเล้น และยักคิ้ว
“นุ้มบ้าบออะไร ไปหลับไปนอนเสียที คนเค้าจะหลับจะนอนก็มาทำอะไร พิเรนๆ อยู่ได้ ไปๆๆๆ” ฉันว่าพลางไล่พวกเขาไปนอนเตียงของตัวเอง เพื่อหลบเลี้ยงไม่ให้พวกนั้นเห็นหน้าของฉัน ตอนที่แดงอย่างกะ กินแครอทเป็นคันรถ
ยุนโฮ หันหน้ามายักคิ้ว ให้ฉัน ก่อนจะหลับตาลง ในห้องเงียบสงัด ยังคงเหลือแต่ฉัน ที่ยังไม่หลับไม่นอน ก็เพราะไม่ได้ดูหนังผีเรื่องนั้นหนะสิ ให้ตายเหอะพรุ่งนี้ตาของฉันจะต้องคล้ำอย่างหมีแพนด้าแน่ๆเลย
ฉันพลิ๊กตัวกลับไปกลับมาหลายครั้ง ในที่สุดก็หันหน้าไปหยุดตรงที่
ชางมิน นอนอยู่ O-O เค้าลืมตาขึ้น ให้ตายสิ อย่างกะผีเลย ตกใจแทบแย่
“เธอนอนไม่หลับหรออึนยู” ชางมิน ถาม
“อือ” ฉันตอบด้วยถ้อยคำสั้นๆ
“ฉันก็เหมือนกัน ก็ไม่เคยมีผู้หญิงมานอนด้วยอย่างนี้ ฉันก็เลยไม่ค่อยชินอะ”
“ไม่ใช่ว่าฉันไม่ชินหรอกนะ ที่ฉันนอนไม่หลับหนะ ก็เพราะไม่ได้ดูหนังผีเรื่องนั้นหนะสิ”
“เธอนี่แปลกคนนะ พวกเราไม่กล้าที่จะกดรีโมทไปที่ช่อง 13 เลยสักคนเพราะมันเป็นเลขไม่ดี อีกอย่าง ยูชุนเค้าก็กลัวมากด้วย”
“อือ วันหลังฉันจะไม่เปิดแล้วหละ”
“ฉันมีอะไรจะให้ดู” ชางมินลุกขึ้นแล้วก็ไปเปิดม้าน
“โห.... สวยจัง”เมื่อม้านนั้นเปิดออก ทำให้เห็นวิวโดยรอบของกรุงโซล(บ้านพวกเขาอยู่จายกลางกรุงโซลอะ และก็สูง)
“ใช่ พวกเรามักจะเปิดม้านนี้ออกและคุยกัน มันจะได้สร้างบรรยากาศไง”
คงไม่ต้องให้สาทะยายหรอกนะ และแล้วอึนยูก็นอนหลับไปพร้อมๆกับ ชางมิน...........................................
ความคิดเห็น