ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SM Sweet Review รับวิจารณ์นิยาย

    ลำดับตอนที่ #54 : Send: Ask.fm affect หลงรักนาย ตัวร้ายขี้อ่อย (S)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 78
      1
      29 มี.ค. 59

    Ask.fm affect หลงรักนาย ตัวร้ายขี้อ่อย

    นักวิจารณ์ S ยอมรับว่างานมาส่งช้ามากกกก กราบขออภัยอย่างใหญ่หลวง ข้าพเจ้าเริ่มมีงานหนักเข้ามาเรื่อยๆ แง่ แต่วันนี้ได้โอกาสดี ค่อยๆ อ่านและรวบรวมมาวิจารณ์แล้วเน่อ ต้องขอชี้แจงก่อนว่าคำวิจารณ์มาจากความคิดเห็นของนักวิจารณ์คนเดียว ฉะนั้นบางเรื่องมันอาจจะมาจากอารมณ์ตอนอ่านของเราด้วย ควรพิจารณาด้วยว่าตรงไหนควรเปลี่ยนจริงหรือตรงไหนอยากจะคงไว้ หากเราเข้าใจผิดหรือทำให้เสียความรู้สึกประการใด ต้องขอโทษด้วยนะคะ


    ชื่อเรื่อง (7/10)  

    บอกเลยว่าชอบชื่อภาษาอังกฤษที่มีชื่อโปรแกรมที่ทำให้ทั้งสองได้คุยกัน แต่ก็แอบงงนิดนึง เพราะแปลเป็นภาษาไทยแล้ว affect แปลว่า มีผลต่อ ซึ่งเป็นคำกริยา มันจะออกมาว่า Ask.fm ทำให้... อะไรสักอย่าง แต่ถ้าอย่างนั้นก็ต้องใส่ s หลังคำว่า affect อยู่ดีตามหลัก เราเลยเข้าใจว่าไรต์อยากบอกว่าเรื่องเนี้ยเป็นผลกระทบมาจาก Ask.fm หรือเปล่า? คิดว่าควรเขียนเป็น Ask.fm’s Effect ที่เป็นคำนามน่าจะเมกเซ็นส์กว่า อันนี้...ไม่มั่นใจว่าเราตีความชื่อเรื่องไรต์ผิดไปไหม ยังไงต้องขอโทษจริงๆ หากเข้าใจผิดค่ะ

    ส่วนชื่อภาษาไทย จะชอบตรงตัวร้ายขี้อ่อย เพราะโบอิ้งขี้อ่อยจริงๆ ฮ่าๆๆ แต่ถ้าถามว่ามันโดดเด่นและบอกถึงเนื้อเรื่องมากไหมก็ไม่ค่อยอ่ะค่ะ พระเอกขี้อ่อยเนี่ยในเด็กดีมีเต็มไปหมดเลย คือไม่ใช่ว่าไม่ดีนะแต่มันไม่ได้เป็นจุดดึงดูดคนให้คลิกเข้ามา ตรง หลงรักนาย เราก็ว่ามันธรรมดาไปหน่อย แต่ในอีกมุม...มันก็บ่งบอกดีว่าเออ เป็นนิยายแนวรักหวานแหววนะ ฉะนั้นสรุปก็คือทำให้น่าดึงดูดได้มากกว่านี้ แต่เท่านี้ก็ดีแล้วค่ะ

     

    การตกแต่งบทความ (4/5)

    การตกแต่งหน้าแรกนับว่าสวยทีเดียว แต่เราคิดว่าคำโปรยใหญ่ได้กว่านี้สักนิดหน่อยเพื่อดึงดูดคนอ่านให้มาอ่านตรงนี้นะๆ แล้วก็ทำสีตัวอักษรต่างกันเพื่อเน้นข้อความสำคัญหน่อยก็ได้ค่ะจะได้ดูน่าอ่าน มีสีสันนิดนึง โปสเตอร์กับคาแร็คเตอร์สวยจ้าบอกเลย เข้ากันมาก แต่คิดว่าสีมันไม่เข้ากับธีมที่ใช้เท่าไหร่ คือโปสเตอร์กับคาแร็คเตอร์มันจะแบบชมพู ม่วงๆ แต่ธีมนี่สีส้มกับน้ำตาลมาเลย พอเราเปิดมามันเลยดูขัดๆ เล็กน้อย ไรต์ลองหาธีมที่สีหวานๆ ออกชมพูหน่อยก็จะดีนะคะ แล้วก็ลงมาเป็นนิยายเรื่องอื่นๆ ของไรต์ เราว่าให้มันอยู่โรว์เดียวกันดีกว่าไหมอ่า แบบ นี่มันแปะรูปเดียวแล้วเคาะลงมา ก็ต้องเลื่อนๆ ลงมา มันแอบกินที่เล็กน้อย ที่เหลือก็ไม่มีอะไรต้องแก้ไขฮะ ตอนย่อยตัวอักษรก็อ่านง่ายดี

                                                                                                              

    บทบรรยาย (16/20)

    โดยรวมนี่อ่านเพลินเชียวค่ะ ไรต์มีภาษาที่เหมาะกับนิยายแนวนี้ ยังไงเราขอเสริมในเรื่องอื่นอีกนิดหน่อยเท่านั้น จะลงรายละเอียดบทแรกๆ ให้ไรต์ลองไปดูเนอะ เพราะบทต่อๆ ไปก็ซ้ำกันแล้วค่า

     

    บทที่หนึ่ง

    เริ่มจากเรื่องเบสิคอย่างเคาะเว้นวรรคหลัง ๆ ละกันเนอะ มันอ่านสบายตากว่าน้า

     

    เราว่าไรต์เขียนเนื้อความที่ซ้ำกันลงไปเยอะพอสมควร อะไรที่แบบได้พูดไปแล้ว แต่ก็พูดอีกในย่อหน้าต่อไปอ่ะค่ะ ซึ่งมันตัดออกได้และอ่านสบายกว่าเยอะ

    อย่างเช่น ถ้าถามว่าที่อ่านๆ นี่เข้าหัวมั้ยงั้นเหรอ? ตอบอย่างมั่นใจเลยว่าไม่ค่ะ! 55555

    ...เมื่อเห็นฉันเก็บหนังสือฟิสิกส์ที่พยายามอ่านแต่ไม่เข้าหัวเลยสักนิดลงกระเป๋า อันนี้จะเห็นได้ว่านางเอกได้บอกคนอ่านไปแล้วว่าไม่เข้าหัว ฉะนั้นไม่มีความจำเป็นจะต้องขยายความใหม่อีกรอบว่าไม่เข้าหัวค่ะ อีกอย่างของประโยคที่ยกตัวอย่างมานั้น เรารู้สึกขัดๆ เมื่ออ่านตรง 555555 คือมันให้เสียงเหมือนกันก็จริงแต่เราว่าไม่ค่อยเหมาะกับใส่ในนิยาย หากเป็นแชทที่ตัวละครพิมพ์งี้อาจจะเมกเซนส์ แต่เพราะเราอ่านมาจากตัวอักษรเรื่อยๆ พอมาเจอเลข...อ่านสะดุดฮะ แนะนำให้ใช้ ฮ่าๆๆ ไปเลยดีกว่า

    พอดีกับที่เขาหันมาสบตาฉันพอดี อันนี้ก็เหมือนกันค่ะ ตัด พอดี ออกไปสักที่นึงเนอะ

    ฉันกับมิ้งพร้อมใจกันทำท่าเหมือนมีอะไรติดคอทันทีเมื่อยัยอันทำหน้าเคลิ้มก่อนจะรีบวิ่งหนีเมื่อมันทำท่าจะถอดรองเท้าปาใส่ เราอ่านแล้วทะแม่งๆ แปลกๆ รู้สึกเหมือนสะดุดกึกเลย อาจเพราะคำซ้ำที่ใช้ และเนื้อความที่ค่อนข้างเยอะในประโยคเดียว คือไรต์ใช้คำทำนองเดียวกันกับสองการกระทำที่เกิดขึ้น แบบ ทำท่าจะ ทำหน้า แล้วก็ เมื่อ... มันให้เลยฟีลที่จำเจในประโยคเดิม อยากให้เรียงประโยคใหม่ คิดว่าจะอ่านได้ลื่นขึ้น เราลองเขียนใหม่ดูเป็น ฉันกับมิ้งพร้อมใจกันไอคอกแคกราวกับมีอะไรติดคอเมื่อเห็นหน้าเคลิ้มๆ ของยัยอัน ก่อนจะรีบวิ่งหนีเมื่อมันทำท่าจะถอดรองเท้าปาใส่ ...อืม....ดีขึ้นหรือเปล่าไม่รู้อ่า TOT ก็พยายามอย่าเรียงประโยคแบบเดียวกันอ่ะเนอะ

    การใช้คำรูปแบบเดียวกันใกล้ๆ กันนี่ไรต์เป็นอยู่หลายจุดทีเดียวเน่อ

    ฉันหัวเราะยัยมิ้งก่อนจะโบกมือลาแล้วรีบเดินออกมาก่อนที่จะโดนมันโบกหัว

    ฉันถอนหายขณะล้มตัวลงนอนบนเตียงขนาดนอนสองคนก่อนจะใช้เท้าเขี่ยถุงเท้าออกทีละข้าง มือก็ถอดเข็มขัดไปด้วยก่อนจะโยนลงตะกร้า...ฉันพลิกตัวนอนคว่ำก่อนจะเอื้อมมือไปดึงหมอน...

    ประโยคแรกนี่คือ ซ้ำกันในประโยคเลยเห็นได้ชัด ส่วนประโยคที่สองก็อยู่ในย่อหน้าเดียวอ่ะค่ะ ยังมีต่อจากนั้นอีกว่า

    ฉันหยิบสมาร์ทโฟนออกมาจากกระเป๋าก่อนจะกดรหัส... อันนี้คิดว่าเป็นปัญหาที่เราพบบ่อยในบทต่อๆ ไปเช่นกัน ไรต์ลองพยายามแก้ดูเน่อ ถ้าเป็นที่เพิ่งยกตัวอย่าง เราแนะนำว่าเปลี่ยนไปใช้ หลังจากนั้น... แล้วก็ หรือไรงี้ปนไปด้วยก็ได้ค่ะ เรียงประโยคให้มันหลากหลายนิดนึง

     

    เหมือนไรต์จะพิมพ์ผิดหรือพิมพ์มาเกิน

    ฉันเบะปากใส่แต่มันมันดันหัวเราะ...

    พวกเขาทีเดินจับมือกัน > ที่

    น๊า > น้า เนอะ เพราะเป็นอักษรต่ำ

    มีความรักมันก็ดื > ดี

    ทรมาณ > ทรมาน

     

    เราสังเกตว่าไรต์จะใช้คำที่เหมือนภาษาแชทเยอะพอสมควร หรือว่ามันเป็นคำอุทานอะไรแบบ แกรรรร๊ อร๊ายยยยย ไรแบบนี้ แบบเติม ร เข้าไป =O= เราก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันโอเคไหมที่จะใส่ในเนื้อหานิยาย มันคงไม่ผิดอะไรหรอกค่ะ แต่ โดยเฉพาะตอนที่เพื่อนนางเอกคุยด้วย เราอ่านแล้วพอมันเยอะๆ ก็เริ่มรำคาญนิดๆ อาจจะลดลงหน่อย หรือว่าไรต์อาจจะตั้งใจทำให้อันอันน่ารำคาญอันนั้นก็อีกเรื่องเนอะ ฮ่าๆๆ

    อีกอย่างที่มันสะดุดตาเราทุกที (ซึ่งเราก็ไม่รู้อีกนั่นแหละว่ามันผิดไหม หรือใส่ได้) คือพวกแฮชแท็คอ่ะค่ะ มันแบบ...โผล่มากลางนิยายให้ความรู้สึกทะแม่งๆ ฮ่าๆๆ อันนี้ไม่แน่ใจเหมือนกัน

     

    “คืองี้” ฉันละมือจากจานอาหารที่ว่างเปล่าไปแล้ว... คือตรงนี้อ่ะ เราอ่านแล้วต้องอ่านซ้ำ เพราะส่วนนี้ไรต์บรรยายขวัญข้าว แต่คนที่พูดน่าจะเป็นอันอัน (ใช่ไหมเอ่ย) ตอนแรกเราเลยนึกว่าข้าวเป็นคนพูด ฉะนั้น เปลี่ยนจากบรรยายขวัญข้าวเป็นอันอัน หรือไม่ก็เว้นบรรทัดลงมาดีกว่านะคะ

     

    บทที่สอง

    ส่วนใหญ่ก็พูดไปแล้วในบทที่หนึ่งอ่า เลยมีเรื่องให้เสริมไม่มากนัก

    ละ ละ แล้ว > ละ...ละ...แล้ว ปกติเวลาติดอ่างในนิยายเขาก็มักจะใส่จุดไข่ปลากันค่ะ

    หลัง ๆ เว้นวรรคนิดนึงเนอะ

     

    พบคำผิดเล็กน้อย

    ผู้ชายกำลังจะเกินมากด > เดิน

    เห้ย > เฮ้ย

    ตื่นเต้ว > ตื่นเต้น

    ข่นพระ > ขุ่น

     

    ทั้งหมดที่ได้พูดไปในบทที่หนึ่งกับสองนั้น ไรต์เป็นค่อนข้างบ่อยในบทต่อๆ ไปด้วย (บทสองเราเลยไม่มีไรพูดเลย ฮ่าๆๆ) ฉะนั้นอยากให้ลองเอาที่แนะนำไปดูกับเหตุการณ์อื่นๆ ในเรื่องด้วยนะค้า แต่ต้องขอชื่นชมว่าภาษาที่ไรต์ใช้นั้นอ่านได้เรื่อยๆ เพลินดีเลยทีเดียว

     

    โครงเรื่อง/ความน่าสนใจ (18/20)

    เฮ้ยยยย คือคะแนนความน่าสนใจเราให้เต็ม ฮ่าๆๆๆ น่าสนใจจริงๆ เรื่องนี้เราว่าตั้งแต่บทสองเป็นต้นไปพีคมากและชวนให้อ่านต่อสุดๆ คือ...ไม่รู้จะติอะไรดีเลยอ่ะ ฮ่าๆ

    อยากจะบอกนิดนึง คือที่ข้าวไม่อยากเปิดเผยตัวตน และพูดถึงการเปลี่ยนชื่อในไลน์เป็นขวัญ แทน ข้าว เราเห็นว่าตั้งแต่บทหนึ่งที่นางเอกยังไม่ได้เริ่มอ่อยโบอิ้ง นางก็ใช้ชื่อขวัญ Kwan.KK อยู่แล้วนะคะ

    อีกอย่างคือการเปลี่ยนรูปโปรไฟล์เนี่ย พอไปดูในหน้าโฮมมันก็ขึ้นใบหน้าจริงๆ อยู่ดีว่าก่อนหน้านี้เคยใช้รูปอะไรไปบ้างอ่ะค่ะ เราเลยว่ามันแปลกที่แบบ โบอิ้งไม่รู้ว่าเนี่ยใคร ทั้งๆ ที่มันเช็คดูได้ง่ายๆ

    อีกอย่าง เราว่าโบอิ้งหลงรักข้าวเร็วไปนิดนึง คือชอบอ่ะโอเคค่ะที่บอกว่าน่ารักดี ดูบ้าๆ ในโรงอาหาร แต่ประโยคสุดท้ายที่บอกว่า คงหลงรักหัวปักหัวปำ เราว่ามันมากไปอ่ะ คำว่า รัก นี่มันยังไม่น่าเหมาะใช้กับสถานการณ์นี้ แบบ ก็คงดีนะ อะไรแบบนี้น่าจะโอเคกว่า แค่นี้เองงง ที่เหลือเราชอบพล็อตเรื่องมาก น่าสนใจค่ะ

     

    ตัวละคร (13/20)

    การตีความตัวละครนั้น เราออกตัวเลยว่าเราอาจจะเข้าใจผิดไปบ้าง แง่ ขอโทษหากเป็นเช่นนั้นนะคะ ชี้แจงได้น้า

    พูดถึงบทแรกสักนิด เราว่ามีบางอย่างขัดแย้งกันเล็กน้อย ฮ่าๆๆ คือตอนเช้าที่ข้าวเห็นโบอิ้งนี่คือแบบ เฮ้ย หล่อลากกก กรี๊ดกร๊าดในใจ แต่พออันอันชี้ที่โรงอาหารแล้วแบบ...อือ หล่อ แล้วไง? ไรงี้ เราก็แบบ...อ้าว? ตกลงข้าวมันอะไร ฮ่าๆๆๆ คือจะชอบหรือจะเฉยๆ? นี่แหละประเด็นที่อยากพูดถึง คือเท่าที่อ่านมาหลายบทอารมณ์กับบุคลิกขวัญข้าวมันขึ้นๆ ลงๆ ยังไงแปลกๆ ตอนแรกเราอ่านนึกว่าเป็นพวกไม่สนใจอะไรเท่าไหร่ ไม่ค่อยนึกถึงผู้ชาย ไม่ค่อยกรี๊ดกร๊าดอะไร อยู่เฉยๆ แถมตัวละครก็บอกเองด้วยว่าเป็นคนกะโหลกกะลาเกินผู้หญิงไรงี้ แต่อ่านๆ ไป...มันก็ผู้ญิ้งผู้หญิงงง ฮ่าๆๆ

    หลักจากนั้นก็แอบบ กรี๊ดๆ โบอิ้งว่าแบบ น่ารักอ่ะ โน่นนี่นั่น เริ่มคุยกับเพื่อนเหมือนว่าผู้ชายคนนี้เฉยๆ มาก ไม่ได้อะไรขนาดนั้น...เราเลยแบบ...สรุปข้าวเอาไง? คือ...เราเข้าใจว่าข้าวอาจจะแบบ กรี๊ดๆ ผู้ชายอยู่บ้างแต่ตอนแรกที่ดูเหมือนไม่ชอบผู้ชายเพราะเพิ่งเลิกกับแฟนหรือเปล่า? อยากให้ทำตรงนี้ให้ชัดเจนกว่านี้นิดนึง หรือไม่อาจจะเป็นคนที่ไม่กล้าแสดงออกมากนักกับเพื่อนไรงี้เปล่า เราแนะนำให้ใส่ในความคิดของตัวละครแบบว่า เออ น่ารักจริงๆ นั่นแหละ แต่ไม่เอาเสียฟอร์มหมดหรืออะไรทำนองนี้ ไม่งั้นมันดูเหมือนคาแร็คเตอร์ไม่ค่อยชัดเจน

    ขอยกตัวอย่างอีกนิด ตอนที่ข้าวขำคลิปที่จี้มากๆ ในโรงอาหารแล้วน้ำพุ่งออกมาจากจมูกจากปากนี่ คือเราดูจากนิสัยตัวละครตอนที่แบบ...ไม่กล้าทักโบอิ้ง หรือเรื่องอื่นๆ แล้วรู้สึกว่านางน่าจะอายแล้วรีบเดินหนีไปอีกทางหรืออะไรทำนองนั้น ปรากฏ แต่มีหรือที่ข้าวคนนี้จะอาย ซะอย่างนั้น ฮ่าๆ เลยรู้สึกเราเดาพฤษติกรรมตัวละครไม่ค่อยออกเท่าไหร่เลย อันนี้เป็นจุดเล็กๆ ที่เราสังเกตนะคะ อย่างให้ไรต์ลองคิดตามเผื่อว่าหลังจากนี้จะสร้างเป็นจุดใหญ่ที่มีผลต่อการตัดสินใจของตัวละคร

    ขอพูดถึงบทสนทนาหน่อยเน่อ ยกตัวอย่างในบทที่สองแล้วกัน ก่อนที่จะทักโบอิ้งไปนั้น ขวัญข้าวพูดกับอันอันว่า “ตลกละ เขาไม่ชอบฉันหรอก” หลังจากนั้นตัวละครก็คิดว่า เออ แต่อ่อยไปก็ไม่เสียหาย แต่ตรงเนี้ยเป็นความคิดในหัวของตัวละครที่คนอื่นไม่รู้ ฉะนั้นเราเลยว่ามันแปลกๆ ที่อันอันจะพูดต่อว่า “งั้นก็ทักเลยดิ” แบบ...ข้าวเพิ่งบอกว่าเขาไม่ชอบเธอหรอก แปลว่าไม่อยากทัก...แต่อันอันบอก งั้นทักเลยดิ คล้ายกับว่าข้าวยอมตกลงแล้ว มันเลยแปลกๆ อ่ะค่ะ อันนี้เป็นหนึ่งตัวอย่าง อยากให้ไรต์ลองดูตอนอ่านทวนเนอะ

    ในเรื่องของตัวละคร เราพูดใต้หัวข้อการดำเนินเรื่องด้วยนะคะเพราะมันเชื่อมกัน



    การดำเนินเรื่อง (14/20)

    มีบางส่วนที่เราคิดว่าไรต์อาจจะไปเร็วไปนิดนึง ตรงนี้เชื่อมโยงกับการบรรยายหน่อยๆ แต่เราขอเอามาใส่ใต้หัวข้อดำเนินเรื่องแล้วกัน เราคิดว่าฉากจำพวกที่ต้องเน้นความรู้สึกตัวละคร เรายังไม่ค่อยอินเท่าไหร่ (อันนี้อาจเป็นที่อารมณ์นักวิจารณ์ในตอนนั้นด้วยนะคะ) อยากให้อธิบายให้มันตราตรึงกว่านี้

    เราขอยกตัวอย่างง่ายๆ เป็นตอนที่นางเอกพร่ำเพ้อคิดถึงแฟนเก่าแล้วกันค่ะ เรารู้สึกเหมือนนางเอกบ่นๆ ว่าแบบ ไม่ควรคิดถึงๆ แต่ทำไงได้มันยังรักอยู่ เป็นการบอกเล่ามากกว่าทำให้คนอ่านรู้สึก ฉะนั้นนอกจากที่จะบอกคนอ่านว่าคิดถึงแล้ว ในกรณีนี้เราแนะนำว่าพวกความคิด อาจจะใส่น้อยหน่อย และบรรยายสิ่งที่เกิดขึ้นกับร่างกาย เช่นรู้สึกหน่วงๆ ที่ใจ ชาขา หรือเวียนหัวเพราะหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะอะไรแบบนี้มันจะช่วยให้อินได้มากพอสมควรค่ะ ไรต์ไม่ได้เขียนบรรยายแย่น้า เราแค่เห็นว่า เออ มันใส่ได้

    อีกวิธีนึงคือการเว้นบรรทัดไปค่ะ ต้องการเน้นข้อความอะไรก็เคาะลงมาเลย อย่างเช่น...

    สรุปเราเคยรักกันไหมวะ...

    เคาะ ให้เป็นประโยคเดียวในบรรทัดนั้นไปเลย แบบนี้มันช่วยเน้นข้อความ และยืดด้วย เพื่อให้คนอ่านมีเวลาซึมซับความรู้สึกได้มากขึ้น ยังไงลองเอาไปปรับใช้ในสถานการณ์อื่นที่เน้นอารมณ์ตัวละครด้วยเนอะ

    นอกจากนั้นความคิดของตัวละครเราก็ว่าไม่ค่อยแน่ค่อยนอนเท่าไหร่ บางทีตัวละครเปลี่ยนใจ...ก็เข้าใจได้นะคะว่าเออ เขาเปลี่ยนใจ แต่เราว่ามันแบบ...เร็วไปนิดนึง เหมือนพูดถึงว่าทำแบบนี้...เฮ้ย แต่เปลี่ยนจะทำแบบนั้นดีกว่าเร็วมากจนงงเล็กๆ อย่างเช่นตอนที่ขวัญข้าวอยู่กับอันอัน กำลังตัดสินใจว่าทักโบอิ้งดีไหม ตอนแรกว่าจะไม่เอาเพราะสูงเกินเอื้อม แล้วอยู่ดีๆ ก็เปลี่ยนใจกะทันหัน ...พวกนั้นสนใจแต่ผู้หญิงสวยๆ รวยๆ เริ่ดๆ เท่านั้นแหละ เอาวะ! อ่อยไปก็ไม่เสียหาย อิอิ ตรงเนี้ยอ่ะค่ะ เราแบบ ฮะ? เฮ้ย เมื่อกี้แกบอกเขาไม่สนใจแกหรอก วินาทีต่อมา เอาวะ อ่อยก็ได้ มึนนิดๆ ฮ่าๆ แนะนำให้ไรต์ใส่ประโยคไปคั่นนิดนึง ให้มันดูมีเหตุมีผลมากขึ้น คือทำให้ตัวละครเปลี่ยนใจเร็วๆ งี้ไม่เสียหายค่ะ แค่ใส่อะไรหน่อยจะดี อย่างเช่น แต่คิดไปคิดมา...ที่ยัยอันอันพูดมันก็ถูกนะ ไรงี้



    ความประทับใจจากนักวิจารณ์ (4/5) อ่านแล้วแบบบบบ เอื้ออออออ โบอิ้งงงงงงงงง!!!!



    รวมคะแนน (76/100)




    ชื่อ :
    ชื่อเรื่องพร้อมลิ้งค์ :
    รู้สึกยังไงเมื่อเห็นผลการวิจารณ์ :
    ให้เครดิตและกดโหวตให้หน่อยน้า :
    มีไรอยากพูดเพิ่มเติมไหมเอ่ย :


     

    @SQWEEZ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×