ลำดับตอนที่ #43
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #43 : Send: มายาบุรุษ [นิยายชุด กุหลาบเหมวรรธน์] (A)
นักวิจารณ์ A
สวัสดีคุณน้ำค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะที่ไว้วางใจให้เราวิจารณ์งานเขียนของไรท์ จะพยายามวิจารณ์ให้ถึงที่สุดเลยค่ะ นิยายเรื่องจันทราลิขิตกับมายาบุรุษนี่เซทกันชิมิ ที่จริงมีอีกเรื่องชื่อมงกุฎปรารถนา ยังไงก็น่าติดตามหมดทุกเรื่องเลยนะคะ (ไปส่องเรื่องมงกุฎปรารถนามาด้วย อิอิ) หากมีข้อสงสัยหรือข้อท้วงติง สอบถามมาได้เลยนะคะ งั้นเข้าสู่บทวิจารณ์เลยแล้วกันเนอะชื่อเรื่อง (10/10)
‘มายาบุรุษ’ โอ้ว...เราลองอ่านคำโปรยแล้วนะคะ ซึ่งน่าติดตามมากๆและดึงดูดใจ ตามลุ้นว่ามันจะยังไงต่อ ซึ่งสอดคล้องกับชื่อเรื่องของไรท์มากๆค่ะที่สื่อถึงพระเอก(ใช่มั้ย)ต้องใช้เล่ห์กลกับนางเอกเพื่อการครอบครองอย่างที่ไรท์บอก ซึ่งมันสื่อได้ดีมากๆค่ะ ขอชื่นชม
การตกแต่งบทความ (3/5)
อันที่จริงนิยายแนวนี้ไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องของการตกแต่งมากนักเนอะ แต่การตกแต่งบทความช่วยดึงดูดใจผู้อ่าน อยากจะบอกว่าการตกแต่งของไรท์อยู่ในระดับกลาง ไม่โดดเด่นมากนัก จะมีมากเกินไปหน่อยก็ตรงแนะนำชื่อหรือตัวเองซึ่งค่อนข้างยาว ฮ่าๆในส่วนตรงนี้เราขอข้ามไปเนอะ นอกจากนั้น...รูปและตัวหนังสือ เราว่าคงเป็นเพราะไรท์เล่นสีมากและถึงแม้จะอยู่ในโทนเดียวกันแต่มีการเล่นขนาดตัวอักษรมากเกิน มันอาจจะทำให้นักอ่านอ่านข้ามได้นะคะ ไม่มีไรมากเนอะ
บทบรรยาย (18/20)
เราจะวิจารณ์เป็นบทๆโดยภาพรวมเนอะ หากมีข้อผิดพลาดหรือจุดที่ต้องแก้ไขเราจะชี้แจงทันที ตามความเห็นของเรานะคะ
บทนำ
เปิดเรื่องมาโอเคเลยนะคะ ขึ้นด้วยบทนำที่เป็นคำโปรย น่าติดตาม เราขอแนะนำนิดหนึ่งนะคะ เรื่องกันวรรคประโยคนี้
หนึ่งคนใช้ รัก...ให้ได้มา ซึ่งทุกสิ่งที่ 'ต้องการ'
แต่อีกคนกลับใช้ รัก...เพื่อไม่ให้ 'สูญเสีย' ทุกอย่างไป...
ตรงเว้นคำว่าใช้และรักค่ะ เราว่าไรท์ไม่ควรเคาะเว้นคำนะคะ เพราะมันทำให้เราสะดุดไปกะทันหัน ทั้งๆที่รูปประโยคสวยงามและสมบูรณ์แบบ มันลงตัวมากๆค่ะ แค่ไม่อยากให้เว้นช่วงไปเท่านั้นเองเนอะ เพราะมันดูแปลกๆยังไงไม่รู้ อารมณ์หายเลยค่ะ ตรงนี้นิดเดียวเนอะ
อ่านเรื่อยๆลื่นไหลดีนะคะ แต่เราขอติตรงนี้นิดเดียว เป็นปัญหาเล็กๆน้อยๆค่ะ
อารมณ์ที่สื่อออกมาผ่านสีหน้าแววตาในภาพนั้นคล้ายมีชีวิต
เราไม่ได้จะติตรงรูปประโยคนะคะ ไรท์เขียนดีแล้วค่ะ เราขอแนะนำว่าให้ไรท์ใส่คำเชื่อมลงไปเพื่อคั่นความหมายของสีหน้าและแววตาค่ะ คือเชื่อมคำโดยใช้คำว่า และ นั่นแหละค่ะ มันจะดูโอเคกว่า เพราะมันทำให้เรานึกภาพชัดเจนขึ้นว่า เออ...ภาพนี้แสดง ทั้งอารมณ์ของสีหน้าและแววตานะ ถึงมันจะคล้ายกัน แต่คนละแบบค่ะ คนละความหมายด้วยค่ะ เพราะมันสื่อถึงของสองสิ่ง นิดเดียวตรงนี้เนอะ
อ่านมาเรื่อยๆมาพบจุดนี้อีกจุดหนึ่งค่ะ
ใบหน้าหวานหันกลับไปมองตามเสียงขานชื่อเบื้องหลังด้วยสีหน้าเอือมระอา
คือว่า...เราลองอ่านดูแล้วคิดว่าบางคำมันทำให้อารมณ์ขาดหาย ไรท์ใส่คำอธิบายมากเกินตรงที่บอกว่า หันกลับไปมองตามเสียงขานชื่อเบื้องหลัง เราลองอ่านแล้วแบบ...รู้สึกมันยาวมากๆเลยค่ะ ฮ่าๆ แลดูอลังการและเยิ่นเย้อ รวมไปถึงอารมณ์ตรงช่วงที่บอกว่า หันกลับไปมองตามเสียง สี่ห้าคำที่อธิบายในตอนแรกมีความหมายแบบเดียวกันเลยค่ะ...เราขอแนะให้ไรท์ลองย่นคำและปรับเปลี่ยนคำบางคำ ยกตัวอย่างเช่น
ใบหน้าหวานหันไปมองตามเสียงเรียกเบื้องหลังด้วยสีหน้าเอือมระอา
คือถ้าไรท์ลองอ่านทวนดูดีๆจะเห็นภาพนะคะ เราเองก็นึกตัวอย่างออกได้เพียงเท่านี้ รวมทั้งประโยคนี้
เมื่อเธอจำได้อย่างแม่นยำว่าใครเป็นเจ้าของน้ำเสียงนี้
เรารู้สึกขัดๆกับประโยคนี้ในแวบแรกที่ได้อ่าน ไรท์ใช้คำอธิบายเกินไปเล็กน้อยเนอะและคำเชื่อมที่ขึ้นต้นด้วยเมื่อ...เราว่ามันแปลกๆเนอะ คือ ไรท์บอกว่านางเอกหันมาตามเสียงเรียกอย่างเอือมระอา เนอะ เราว่าเปลี่ยนจากคำว่า เมื่อ เป็น เพราะ จะโอเคกว่านะคะ เพราะมันให้น้ำหนักในส่วนของเหตุผลที่นางเอกเอือมระอาด้วย ตอนแรกที่ไรท์ใช้คำว่าเมื่อ มันมองไม่เห็นเหตุและผลที่ควรบรรยายเลยค่ะ เราว่าไรท์ลองเปลี่ยนคำและตัดบางคำออกเนอะ อย่างเช่น
เพราะเธอจำได้อย่างแม่นยำว่าใครเป็นเจ้าของเสียง
พยายามนึกสุดๆแล้วค่ะ ฮ่าๆ แต่ๆได้เท่านี้ อ่านเรื่อยๆลงมายังพบประโยคที่มีปัญหาคล้ายคลึงกันเล็กน้อยนะคะ
เมื่อพบเธอคนที่เขาเฝ้าตามหา
ประโยคนี้ขอแนะนิดหนึ่งว่าให้ตัดคำบางคำออกเนอะ อีกอย่างคือ ไรท์ใส่คำว่า เฝ้าตามหา มันให้อารมณ์เหมือนชายคนนี้กำลังตามหาหญิงคนรักที่พลักพรากมานานหลายปี ประมาณนั้นเลยค่ะ ฮ่าๆ ทั้งๆที่จริงเป็นแค่การหาคนที่หายไปเนอะ ลองเปลี่ยนเป็น
เมื่อพบคนที่เขาตามหา
ก็ตรงนี้นิดเดียวค่ะและเราอ่านลงมามีประโยคที่ไรท์พิมพ์ตกด้วยค่ะ
จากเสียงเรียกหาของใครบาง
คือมันสุดที่ตรงนี้ เราเพิ่มเติมว่าคงเป็นใครบางคนสินะคะ ฮ่าๆ โอเคค่ะ ไม่เป็นไร ข้ามเนอะ แล้วก็อ่านมาเรื่อยๆนั้น เรายังไม่พบอะไรจนถึงประโยคนี้
ธีรนัยเหลือบเห็นใบหน้าสวยที่คลาคล่ำไปด้วยหยดน้ำมองเขาอยู่ไม่ไกล ดวงตาเหม่อลอยราวกับไร้สติ ทำให้เขาต้องรีบเข้าไปพูดเกลี้ยกล่อมให้อารมณ์เย็นลง
ประโยคนี้คือเราสะดุดตรงคำว่าหยดน้ำค่ะ มันทำให้เรานึกภาพฝนมากกว่าน้ำตาคนเรา ปกติถ้าบรรยายน้ำตา เราจะใช้หยาดน้ำตาค่ะ เพราะมันให้อารมณ์เหมือนบางสิ่งค่อยๆเคลื่อนไหวช้าๆ ในขณะที่คำว่า หยดน้ำ ทำให้เรามองเห็นภาพ ฝนเป็นเม็ดๆที่ตกลงมาจากฟ้ามากกว่าเนอะ นอกจากนั้น เราอยากแนะให้ไรท์ลองเพิ่มคำว่า เธอ คั่นตรงที่บอกว่าธีรนัยรีบเข้าไปพูดเกลี้ยกล่อมให้นางเอกที่กำลังร้องไห้ใจเย็นลง แต่ไรท์ลืมใส่หรืออะไรอันนี้ไม่รู้เนอะ แต่อยากเสริมเข้าไปตรงส่วนนี้สักนิดว่ามันทำให้รูปประโยคลื่นขึ้นกว่าเดิมค่ะและเหมือนมันขาดๆหายๆ อารมณ์แบบว่าชายคนนี้ไปพูดเกลี้ยกล่อม อะไร ใคร คือไรท์ไม่ได้คั่น อารมณ์เลยขาด ทั้งๆที่คนอ่านรู้อยู่แล้วค่ะว่าใคร แต่เราอยากให้ลองเสริมดูสักนิด ไปอ่านดูอีกทีหนึ่งเนอะ
อีกส่วนที่เราพบคือคำเกินนะคะ ประโยคนี้
ที่เศร้าจนจับใจ
อยากเสริมว่าให้ตัดคำว่าจนออกค่ะ เพราะถึงไม่มีคำว่าจน เราก็รู้ว่ามันเศร้าจับใจ ปกติไม่เคยพบเห็นการใส่คำว่าจนเลยค่ะ นิดเดียวจริงๆค่ะ
อ่า...ลองอ่านจนจบบทนำแล้ว ภาษาโอเคเลยนะคะ มีบางส่วนที่ขาดๆและเกินๆไปบ้าง แต่เราได้ชี้แนะไปบางจุดแล้วเนอะ เท่าที่เสริมให้ได้ค่ะ ขอบอกว่าภาษาเข้าใจง่ายค่ะและเห็นภาพชัดเจน คำกลอนที่ยกมา เพราะมากๆเลยค่ะ เข้ากับเนื้อเรื่องมาก ไรท์เก่งจัง ชื่นชมเลย
คำผิดที่พบ
เกลี่ยกล่อม – เกลี้ยกล่อม
บทที่ 1
เราอ่านในย่อหน้าแรก พบปัญหาเดียวกับบทที่ 1 นะคะ
หากแต่บ่วงกรรมที่มีต่อกันมานั้นยังคงเป็นปมเชือกเก่าที่รัดแน่นยิ่งกว่าเดิมมนตราของกาลเวลาย้อนฉายภาพอดีตในครั้งเมื่อ 250 กว่าปีก่อน
ไรท์ลืมเคาะเว้นวรรคหรือเปล่าไม่แน่ใจ เพราะว่าการเว้นมันน่าจะคนละส่วนกันตรงคำว่า เดิมกับมนตราเนอะ น่าจะเคาะเว้นหนึ่งทีค่ะ
การบรรยายของไรท์เราว่าโอเคมากเลยค่ะ มองเห็นภาพชัดมากและลื่นไหล เรามาสะดุดตรงนี้นิดเดียวค่ะ
พระวรกายของเจ้าฟ้าหญิงผู้เป็นที่รักของประชาชนหันกลับละออกมาจากเรือนกระจก
เราสะดุดเล็กน้อยตรงคำว่า กลับละ ค่ะ ไรท์พิมพ์ผิดหรือเปล่า หรือว่าพิมพ์ตก ไม่แน่ใจ คือ ถ้าพิมพ์ตก ไรท์อาจจะเขียนว่าหันกลับและออกมาจากเรือนกระจกหรือเปล่าไม่ทราบ อันนี้ไรท์ต้องลองดูอีกทีหนึ่งเนอะ
เราว่าการบรรยายของไรท์ลื่นไหลมากค่ะ ปรับไม่ต้องมากมายนัก แต่เราขอยกตัวอย่างบางประโยคที่กำกวมและอ่านแล้วงงนะคะ
นัยน์ตาคมกริบของว่าที่พระสวามีเผลอไผลทอดพระเนตรตาม พระโอษฐ์รูปกระจับยกยิ้มขึ้นตามอย่างเลี่ยงไม่ได้
ฉากนี้เราอ่านทวนกี่ทีๆก็งง คือ เราตีความได้สองแบบค่ะ แบบแรกคือ พระสวามีเผลอมองปากของนางเอกพลางยกยิ้ม คือแบบแรกเราจะคิดว่าไรท์พิมพ์ตกค่ะ ตกคำว่าพลางไรงี้ เราจะลองยกตัวอย่างการปรับคำ หากเป็นแบบแรกนะคะ
นัยน์ตาคมกริบของว่าที่พระสวามีเผลอไผลทอดพระเนตรตามพระโอษฐ์รูปกระจับของเจ้าฟ้าพลางยกยิ้มขึ้นตามอย่างเลี่ยงไม่ได้
ส่วนแบบที่สองซึ่งเราลองทวนอ่านแล้วที่ตีความได้คือ พระสวามีมองการกระทำนางเอกแล้วอดยิ้มตามไม่ได้คือถ้าเป็นแบบนี้เราอยากให้ไรท์บรรยายเพิ่มค่ะว่ามองตามร่างอรชรหรืออะไรก็ว่าไป เพราะบรรยายไปเท่านี้ เราเข้าใจแบบผิดๆได้เลยนะคะอย่างที่ได้ยกตัวอย่างไปเนอะ เช่น
นัยน์ตาคมกริบของว่าที่พระสวามีเผลอไผลทอดพระเนตรตามร่างอรชร พระโอษฐ์รูปกระจับยกยิ้มขึ้นตามอย่างเลี่ยงไม่ได้
ประมาณนี้เนอะ มีบางประโยคที่ไรท์เขียนกำกวม อ่านทวนแล้วงงอยู่บ้าง แต่ไม่มากค่ะ เราอยากให้ไรท์ลองอ่านทวนๆดูอีกทีหนึ่งเนอะ
เราอ่านเรื่อยลงมาพบคำซ้ำด้วยนะคะ ประโยคใกล้ๆกันนี้เอง แต่เราคิดว่าไรท์น่าจะพิมพ์เกินมาค่ะ
จึงเมินพักตร์หนีเพื่อหลบความยียวนของเจ้าชายผู้เป็นเคยเป็นเพียงพระญาติผู้พี่
ไรท์น่าจะพิมพ์เกินเนอะ ตัดคำว่าเป็นออกก็โอเคแล้วค่ะ นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรค่ะ คือ บทนี้เรายังพบการใช้คำขาดๆทำให้อารมณ์ขาดช่วงไปบ้างค่ะ ขอยกตัวอย่างประโยคนี้นะคะ
คราวนี้ พระเนตรหวานหันกลับมองยังผู้ที่ชะงักงันไปเพียงชั่วครู่
เราว่าไรท์ควรเพิ่มคำว่า หันกลับมาและตัดบางคำเช่นคำว่า ยัง ออกไปน่ะค่ะ ปรับให้รูปประโยคสละสลวยและอ่านลื่นไหลได้อีกเนอะ ตัวอย่างเช่น
คราวนี้ พระเนตรหวานหันกลับมามองผู้ที่ชะงักงันไปชั่วครู่
ประมาณนี้ค่ะ เราว่าประโยคอ่านลื่นขึ้นนะคะและตัดปัญหาคำขาดคำเกินได้บ้างเนอะ เราก็นึกได้เท่านี้ ไรท์ลองไปอ่านทวนดูอีกทีเนอะ
มีบางประโยคที่เราคิดว่าไรท์ควรปรับคำบ้างหรือควรใช้คำอื่นเช่น
บรรยากาศเริ่มไม่สู้ดี...นี่เราถามอะไรผิดไปอย่างนั้นเหรอ?
เราว่าจาก เหรอ เปลี่ยนเป็น หรือ จะดีกว่าค่ะ เพราะว่าเธอเป็นเจ้าฟ้าด้วยและนิยายแนวนี้ควรใช้พวก หรือ ใช่ไหม มากกว่าพวก เหรอ ใช่มั้ย จากที่เห็นทั่วไปตามนิยายรักวัยรุ่น ซึ่งมันคนละแนวกันค่ะ
ต่อมาอ่านเรื่อยๆเพลินดีค่ะ แต่ยังพบปัญหาการเขียนประโยคทำให้งงอยู่บ้าง เช่น
พระชายาที่ตรัสถามเมื่อครู่ รู้สึกได้ถึงประโยคสุภาพที่ไม่ได้สุภาพนี้
งงค่ะ คือไรท์บรรยายดีเรื่อยมาเลยค่ะ อารมณ์จะสะดุดก็ตรงนี้ มีคำตกบ้าง มีพิมพ์เกินบ้าง เรามองออก แต่อันนี้คือ งงจริงๆอะ ฮ่าๆ เราพยายามตีความนะคะ แบบว่า ไรท์อาจหมายถึงนางเอกคิดว่าตัวเองถามออกไปสุภาพแล้วนะ แต่จากท่าทีของเจ้าชายดลภัทรทำให้เเริ่มกลับมาคิดใหม่ว่ามันไม่สุภาพหรือเปล่า เขาถึงมีท่าทีไม่พอใจแบบนี้ ประมาณนี้เปล่า ไม่แน่ใจ ฮ่าๆ แต่เราขอเข้าใจแบบนี้แล้วกันเนอะ ไรท์ลองอ่านทวนดูอีกทีเนอะ ถ้าหากเราเข้าใจผิดไป แต่เราอ่านแล้วได้อย่างนั้นจริงๆค่ะ
คำผิดที่พบ
เฉยชิด – เชยชิด
เราขอสรุปโดยรวมเลยแล้วกันเนอะ คือหลังจากนั้นเราก็อ่านต่อไปเรื่อยๆเลยค่ะ พบปัญหาที่ควรแก้ไขบางจุด การบรรยายของไรท์ลื่นไหล มีบ้างที่ประโยคชวนงงแต่ว่าสามารถปรับได้หากอ่านทวนดูอีกทีหนึ่ง ไรท์ใช้ภาษาได้ดีทีเดียวนะคะ บรรยายภาพชัดเจนมากค่ะ และสนุกด้วย เราว่าไรท์บรรยายดีทีเดียวค่ะ ชอบนะคะ
โครงเรื่อง/ความน่าสนใจ (17/20)
รู้สึกว่ามันน่าติดตามมากๆค่ะ เป็นการต่อกรที่ลงตัวมากและเราชอบตัวละครต่างๆ เรื่องแนวนี้แบบนี้ใช่ว่าจะหาที่ลงตัวได้ง่ายๆนะคะ คือเราชอบมากค่ะ สนุกดี น่าสนใจดี อาจเป็นเพราะความคิดของนางเอกและพระเอกสวนทางกันตลอด เราเลยต้องตามลุ้นว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อไปนะ ฮ่าๆ มันดูมีอะไรน่าตื่นเต้นตลอดค่ะ แถมยังมีปริศนาให้เราคอยตามคิดด้วย น่าติดตามนะคะ
ตัวละคร (17/20)
มีบุคลิกที่ชัดเจนดีค่ะ เราชอบแนวนี้นะคะ ผู้ชายพูดคะขา ฟินดี ฮ่าๆ พระเอกยียวนแต่ก็น่ารัก ร้ายกาจ อ่อนโยน มันครบรสมากค่ะ นางเอกก็ใจแข็งไม่ยอมคน รู้สึกว่าเป็นการประกบมวยถูกคู่มาก ทำให้ลุ้นตามตลอด มีในส่วนของดมิสาที่เรารู้สึกว่าในเรื่องนี้ทำไมดูเป็นคนใจร้อนขนาดนั้น ทั้งๆที่ในเรื่องของเธอ จันทราลิขิต เธอดูเป็นคนใจแข็ง เย็นชาน่ะค่ะ หรือเพราะคนละช่วงเวลากัน อันนี้ก็ไม่ทราบ เพราะในส่วนของเรื่องดมิสาที่เราลองอ่านดู ในอดีตเธอเคยร่าเริงสดใส แต่เปลี่ยนไปเพราะเกิดเหตุการณ์สะเทือนใจ ซึ่งในเรื่องนี้อาจจะอยู่กันคนละช่วงเวลาหรือเปล่าไม่แน่ใจ ฮ่าๆ หรือเราอ่านข้ามหรือเปล่าไม่รู้
การดำเนินเรื่อง (17/20)
มีบางครั้งบางคราวค่ะที่เรารู้สึกว่าไรท์บรรยายขาดมั่ง เกินมั่ง ตามที่ชี้แจงไปในส่วนของการบรรยายเนอะ ทำให้อารมณ์และการดำเนินเรื่องขาดช่วงเล็กน้อย ยกตัวอย่างการบรรยายตอนแรกๆ ตอนที่นางเอกวิ่งหนีนายธีรนัย ซึ่งไรท์บรรยายน้อยไปและบรรยายมาจนถึงตอนที่นางเอกร้องไห้ ที่เราบอกเพิ่มเติมไปครั้งแรกเนอะ และมีเพิ่มเติมบ้างหลังจากนั้น ในเรื่องของการเปลี่ยนฉากแต่ละฉากนั้น แม้จะไม่ได้ฉึบฉับมากไป แต่ให้ความรู้สึกว่ามันเร็วไปบ้าง มีการย่อหน้าและเคาะเว้นบรรทัด อยากแนะว่าควรทำตัวหนาเวลาเปลี่ยนฉาก มีบ้างเราเห็นนะที่ไรท์ทำตัวหนาตอนย่อหน้า แต่ว่าบางครั้งไม่ได้ใช้ ทำให้งงๆว่าไปฉากไหนแล้วนะ นอกจากนั้นไม่มีอะไรแล้วค่ะ ทวนๆอีกทีแล้วกันเนอะ เราข้ามอะไรไปต้องขอโทษด้วยนะคะ
ความประทับใจจากนักวิจารณ์ (3.5/5)
ชื่อ :
ชื่อเรื่องพร้อมลิ้งค์ :
รู้สึกยังไงเมื่อเห็นผลการวิจารณ์ :
ให้เครดิตและกดโหวตให้หน่อยน้า :
มีไรอยากพูดเพิ่มเติมไหมเอ่ย :
อันที่จริงนิยายแนวนี้ไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องของการตกแต่งมากนักเนอะ แต่การตกแต่งบทความช่วยดึงดูดใจผู้อ่าน อยากจะบอกว่าการตกแต่งของไรท์อยู่ในระดับกลาง ไม่โดดเด่นมากนัก จะมีมากเกินไปหน่อยก็ตรงแนะนำชื่อหรือตัวเองซึ่งค่อนข้างยาว ฮ่าๆในส่วนตรงนี้เราขอข้ามไปเนอะ นอกจากนั้น...รูปและตัวหนังสือ เราว่าคงเป็นเพราะไรท์เล่นสีมากและถึงแม้จะอยู่ในโทนเดียวกันแต่มีการเล่นขนาดตัวอักษรมากเกิน มันอาจจะทำให้นักอ่านอ่านข้ามได้นะคะ ไม่มีไรมากเนอะ
บทบรรยาย (18/20)
เราจะวิจารณ์เป็นบทๆโดยภาพรวมเนอะ หากมีข้อผิดพลาดหรือจุดที่ต้องแก้ไขเราจะชี้แจงทันที ตามความเห็นของเรานะคะ
บทนำ
เปิดเรื่องมาโอเคเลยนะคะ ขึ้นด้วยบทนำที่เป็นคำโปรย น่าติดตาม เราขอแนะนำนิดหนึ่งนะคะ เรื่องกันวรรคประโยคนี้
หนึ่งคนใช้ รัก...ให้ได้มา ซึ่งทุกสิ่งที่ 'ต้องการ'
แต่อีกคนกลับใช้ รัก...เพื่อไม่ให้ 'สูญเสีย' ทุกอย่างไป...
ตรงเว้นคำว่าใช้และรักค่ะ เราว่าไรท์ไม่ควรเคาะเว้นคำนะคะ เพราะมันทำให้เราสะดุดไปกะทันหัน ทั้งๆที่รูปประโยคสวยงามและสมบูรณ์แบบ มันลงตัวมากๆค่ะ แค่ไม่อยากให้เว้นช่วงไปเท่านั้นเองเนอะ เพราะมันดูแปลกๆยังไงไม่รู้ อารมณ์หายเลยค่ะ ตรงนี้นิดเดียวเนอะ
อ่านเรื่อยๆลื่นไหลดีนะคะ แต่เราขอติตรงนี้นิดเดียว เป็นปัญหาเล็กๆน้อยๆค่ะ
อารมณ์ที่สื่อออกมาผ่านสีหน้าแววตาในภาพนั้นคล้ายมีชีวิต
เราไม่ได้จะติตรงรูปประโยคนะคะ ไรท์เขียนดีแล้วค่ะ เราขอแนะนำว่าให้ไรท์ใส่คำเชื่อมลงไปเพื่อคั่นความหมายของสีหน้าและแววตาค่ะ คือเชื่อมคำโดยใช้คำว่า และ นั่นแหละค่ะ มันจะดูโอเคกว่า เพราะมันทำให้เรานึกภาพชัดเจนขึ้นว่า เออ...ภาพนี้แสดง ทั้งอารมณ์ของสีหน้าและแววตานะ ถึงมันจะคล้ายกัน แต่คนละแบบค่ะ คนละความหมายด้วยค่ะ เพราะมันสื่อถึงของสองสิ่ง นิดเดียวตรงนี้เนอะ
อ่านมาเรื่อยๆมาพบจุดนี้อีกจุดหนึ่งค่ะ
ใบหน้าหวานหันกลับไปมองตามเสียงขานชื่อเบื้องหลังด้วยสีหน้าเอือมระอา
คือว่า...เราลองอ่านดูแล้วคิดว่าบางคำมันทำให้อารมณ์ขาดหาย ไรท์ใส่คำอธิบายมากเกินตรงที่บอกว่า หันกลับไปมองตามเสียงขานชื่อเบื้องหลัง เราลองอ่านแล้วแบบ...รู้สึกมันยาวมากๆเลยค่ะ ฮ่าๆ แลดูอลังการและเยิ่นเย้อ รวมไปถึงอารมณ์ตรงช่วงที่บอกว่า หันกลับไปมองตามเสียง สี่ห้าคำที่อธิบายในตอนแรกมีความหมายแบบเดียวกันเลยค่ะ...เราขอแนะให้ไรท์ลองย่นคำและปรับเปลี่ยนคำบางคำ ยกตัวอย่างเช่น
ใบหน้าหวานหันไปมองตามเสียงเรียกเบื้องหลังด้วยสีหน้าเอือมระอา
คือถ้าไรท์ลองอ่านทวนดูดีๆจะเห็นภาพนะคะ เราเองก็นึกตัวอย่างออกได้เพียงเท่านี้ รวมทั้งประโยคนี้
เมื่อเธอจำได้อย่างแม่นยำว่าใครเป็นเจ้าของน้ำเสียงนี้
เรารู้สึกขัดๆกับประโยคนี้ในแวบแรกที่ได้อ่าน ไรท์ใช้คำอธิบายเกินไปเล็กน้อยเนอะและคำเชื่อมที่ขึ้นต้นด้วยเมื่อ...เราว่ามันแปลกๆเนอะ คือ ไรท์บอกว่านางเอกหันมาตามเสียงเรียกอย่างเอือมระอา เนอะ เราว่าเปลี่ยนจากคำว่า เมื่อ เป็น เพราะ จะโอเคกว่านะคะ เพราะมันให้น้ำหนักในส่วนของเหตุผลที่นางเอกเอือมระอาด้วย ตอนแรกที่ไรท์ใช้คำว่าเมื่อ มันมองไม่เห็นเหตุและผลที่ควรบรรยายเลยค่ะ เราว่าไรท์ลองเปลี่ยนคำและตัดบางคำออกเนอะ อย่างเช่น
เพราะเธอจำได้อย่างแม่นยำว่าใครเป็นเจ้าของเสียง
พยายามนึกสุดๆแล้วค่ะ ฮ่าๆ แต่ๆได้เท่านี้ อ่านเรื่อยๆลงมายังพบประโยคที่มีปัญหาคล้ายคลึงกันเล็กน้อยนะคะ
เมื่อพบเธอคนที่เขาเฝ้าตามหา
ประโยคนี้ขอแนะนิดหนึ่งว่าให้ตัดคำบางคำออกเนอะ อีกอย่างคือ ไรท์ใส่คำว่า เฝ้าตามหา มันให้อารมณ์เหมือนชายคนนี้กำลังตามหาหญิงคนรักที่พลักพรากมานานหลายปี ประมาณนั้นเลยค่ะ ฮ่าๆ ทั้งๆที่จริงเป็นแค่การหาคนที่หายไปเนอะ ลองเปลี่ยนเป็น
เมื่อพบคนที่เขาตามหา
ก็ตรงนี้นิดเดียวค่ะและเราอ่านลงมามีประโยคที่ไรท์พิมพ์ตกด้วยค่ะ
จากเสียงเรียกหาของใครบาง
คือมันสุดที่ตรงนี้ เราเพิ่มเติมว่าคงเป็นใครบางคนสินะคะ ฮ่าๆ โอเคค่ะ ไม่เป็นไร ข้ามเนอะ แล้วก็อ่านมาเรื่อยๆนั้น เรายังไม่พบอะไรจนถึงประโยคนี้
ธีรนัยเหลือบเห็นใบหน้าสวยที่คลาคล่ำไปด้วยหยดน้ำมองเขาอยู่ไม่ไกล ดวงตาเหม่อลอยราวกับไร้สติ ทำให้เขาต้องรีบเข้าไปพูดเกลี้ยกล่อมให้อารมณ์เย็นลง
ประโยคนี้คือเราสะดุดตรงคำว่าหยดน้ำค่ะ มันทำให้เรานึกภาพฝนมากกว่าน้ำตาคนเรา ปกติถ้าบรรยายน้ำตา เราจะใช้หยาดน้ำตาค่ะ เพราะมันให้อารมณ์เหมือนบางสิ่งค่อยๆเคลื่อนไหวช้าๆ ในขณะที่คำว่า หยดน้ำ ทำให้เรามองเห็นภาพ ฝนเป็นเม็ดๆที่ตกลงมาจากฟ้ามากกว่าเนอะ นอกจากนั้น เราอยากแนะให้ไรท์ลองเพิ่มคำว่า เธอ คั่นตรงที่บอกว่าธีรนัยรีบเข้าไปพูดเกลี้ยกล่อมให้นางเอกที่กำลังร้องไห้ใจเย็นลง แต่ไรท์ลืมใส่หรืออะไรอันนี้ไม่รู้เนอะ แต่อยากเสริมเข้าไปตรงส่วนนี้สักนิดว่ามันทำให้รูปประโยคลื่นขึ้นกว่าเดิมค่ะและเหมือนมันขาดๆหายๆ อารมณ์แบบว่าชายคนนี้ไปพูดเกลี้ยกล่อม อะไร ใคร คือไรท์ไม่ได้คั่น อารมณ์เลยขาด ทั้งๆที่คนอ่านรู้อยู่แล้วค่ะว่าใคร แต่เราอยากให้ลองเสริมดูสักนิด ไปอ่านดูอีกทีหนึ่งเนอะ
อีกส่วนที่เราพบคือคำเกินนะคะ ประโยคนี้
ที่เศร้าจนจับใจ
อยากเสริมว่าให้ตัดคำว่าจนออกค่ะ เพราะถึงไม่มีคำว่าจน เราก็รู้ว่ามันเศร้าจับใจ ปกติไม่เคยพบเห็นการใส่คำว่าจนเลยค่ะ นิดเดียวจริงๆค่ะ
อ่า...ลองอ่านจนจบบทนำแล้ว ภาษาโอเคเลยนะคะ มีบางส่วนที่ขาดๆและเกินๆไปบ้าง แต่เราได้ชี้แนะไปบางจุดแล้วเนอะ เท่าที่เสริมให้ได้ค่ะ ขอบอกว่าภาษาเข้าใจง่ายค่ะและเห็นภาพชัดเจน คำกลอนที่ยกมา เพราะมากๆเลยค่ะ เข้ากับเนื้อเรื่องมาก ไรท์เก่งจัง ชื่นชมเลย
คำผิดที่พบ
เกลี่ยกล่อม – เกลี้ยกล่อม
บทที่ 1
เราอ่านในย่อหน้าแรก พบปัญหาเดียวกับบทที่ 1 นะคะ
หากแต่บ่วงกรรมที่มีต่อกันมานั้นยังคงเป็นปมเชือกเก่าที่รัดแน่นยิ่งกว่าเดิมมนตราของกาลเวลาย้อนฉายภาพอดีตในครั้งเมื่อ 250 กว่าปีก่อน
ไรท์ลืมเคาะเว้นวรรคหรือเปล่าไม่แน่ใจ เพราะว่าการเว้นมันน่าจะคนละส่วนกันตรงคำว่า เดิมกับมนตราเนอะ น่าจะเคาะเว้นหนึ่งทีค่ะ
การบรรยายของไรท์เราว่าโอเคมากเลยค่ะ มองเห็นภาพชัดมากและลื่นไหล เรามาสะดุดตรงนี้นิดเดียวค่ะ
พระวรกายของเจ้าฟ้าหญิงผู้เป็นที่รักของประชาชนหันกลับละออกมาจากเรือนกระจก
เราสะดุดเล็กน้อยตรงคำว่า กลับละ ค่ะ ไรท์พิมพ์ผิดหรือเปล่า หรือว่าพิมพ์ตก ไม่แน่ใจ คือ ถ้าพิมพ์ตก ไรท์อาจจะเขียนว่าหันกลับและออกมาจากเรือนกระจกหรือเปล่าไม่ทราบ อันนี้ไรท์ต้องลองดูอีกทีหนึ่งเนอะ
เราว่าการบรรยายของไรท์ลื่นไหลมากค่ะ ปรับไม่ต้องมากมายนัก แต่เราขอยกตัวอย่างบางประโยคที่กำกวมและอ่านแล้วงงนะคะ
นัยน์ตาคมกริบของว่าที่พระสวามีเผลอไผลทอดพระเนตรตาม พระโอษฐ์รูปกระจับยกยิ้มขึ้นตามอย่างเลี่ยงไม่ได้
ฉากนี้เราอ่านทวนกี่ทีๆก็งง คือ เราตีความได้สองแบบค่ะ แบบแรกคือ พระสวามีเผลอมองปากของนางเอกพลางยกยิ้ม คือแบบแรกเราจะคิดว่าไรท์พิมพ์ตกค่ะ ตกคำว่าพลางไรงี้ เราจะลองยกตัวอย่างการปรับคำ หากเป็นแบบแรกนะคะ
นัยน์ตาคมกริบของว่าที่พระสวามีเผลอไผลทอดพระเนตรตามพระโอษฐ์รูปกระจับของเจ้าฟ้าพลางยกยิ้มขึ้นตามอย่างเลี่ยงไม่ได้
ส่วนแบบที่สองซึ่งเราลองทวนอ่านแล้วที่ตีความได้คือ พระสวามีมองการกระทำนางเอกแล้วอดยิ้มตามไม่ได้คือถ้าเป็นแบบนี้เราอยากให้ไรท์บรรยายเพิ่มค่ะว่ามองตามร่างอรชรหรืออะไรก็ว่าไป เพราะบรรยายไปเท่านี้ เราเข้าใจแบบผิดๆได้เลยนะคะอย่างที่ได้ยกตัวอย่างไปเนอะ เช่น
นัยน์ตาคมกริบของว่าที่พระสวามีเผลอไผลทอดพระเนตรตามร่างอรชร พระโอษฐ์รูปกระจับยกยิ้มขึ้นตามอย่างเลี่ยงไม่ได้
ประมาณนี้เนอะ มีบางประโยคที่ไรท์เขียนกำกวม อ่านทวนแล้วงงอยู่บ้าง แต่ไม่มากค่ะ เราอยากให้ไรท์ลองอ่านทวนๆดูอีกทีหนึ่งเนอะ
เราอ่านเรื่อยลงมาพบคำซ้ำด้วยนะคะ ประโยคใกล้ๆกันนี้เอง แต่เราคิดว่าไรท์น่าจะพิมพ์เกินมาค่ะ
จึงเมินพักตร์หนีเพื่อหลบความยียวนของเจ้าชายผู้เป็นเคยเป็นเพียงพระญาติผู้พี่
ไรท์น่าจะพิมพ์เกินเนอะ ตัดคำว่าเป็นออกก็โอเคแล้วค่ะ นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรค่ะ คือ บทนี้เรายังพบการใช้คำขาดๆทำให้อารมณ์ขาดช่วงไปบ้างค่ะ ขอยกตัวอย่างประโยคนี้นะคะ
คราวนี้ พระเนตรหวานหันกลับมองยังผู้ที่ชะงักงันไปเพียงชั่วครู่
เราว่าไรท์ควรเพิ่มคำว่า หันกลับมาและตัดบางคำเช่นคำว่า ยัง ออกไปน่ะค่ะ ปรับให้รูปประโยคสละสลวยและอ่านลื่นไหลได้อีกเนอะ ตัวอย่างเช่น
คราวนี้ พระเนตรหวานหันกลับมามองผู้ที่ชะงักงันไปชั่วครู่
ประมาณนี้ค่ะ เราว่าประโยคอ่านลื่นขึ้นนะคะและตัดปัญหาคำขาดคำเกินได้บ้างเนอะ เราก็นึกได้เท่านี้ ไรท์ลองไปอ่านทวนดูอีกทีเนอะ
มีบางประโยคที่เราคิดว่าไรท์ควรปรับคำบ้างหรือควรใช้คำอื่นเช่น
บรรยากาศเริ่มไม่สู้ดี...นี่เราถามอะไรผิดไปอย่างนั้นเหรอ?
เราว่าจาก เหรอ เปลี่ยนเป็น หรือ จะดีกว่าค่ะ เพราะว่าเธอเป็นเจ้าฟ้าด้วยและนิยายแนวนี้ควรใช้พวก หรือ ใช่ไหม มากกว่าพวก เหรอ ใช่มั้ย จากที่เห็นทั่วไปตามนิยายรักวัยรุ่น ซึ่งมันคนละแนวกันค่ะ
ต่อมาอ่านเรื่อยๆเพลินดีค่ะ แต่ยังพบปัญหาการเขียนประโยคทำให้งงอยู่บ้าง เช่น
พระชายาที่ตรัสถามเมื่อครู่ รู้สึกได้ถึงประโยคสุภาพที่ไม่ได้สุภาพนี้
งงค่ะ คือไรท์บรรยายดีเรื่อยมาเลยค่ะ อารมณ์จะสะดุดก็ตรงนี้ มีคำตกบ้าง มีพิมพ์เกินบ้าง เรามองออก แต่อันนี้คือ งงจริงๆอะ ฮ่าๆ เราพยายามตีความนะคะ แบบว่า ไรท์อาจหมายถึงนางเอกคิดว่าตัวเองถามออกไปสุภาพแล้วนะ แต่จากท่าทีของเจ้าชายดลภัทรทำให้เเริ่มกลับมาคิดใหม่ว่ามันไม่สุภาพหรือเปล่า เขาถึงมีท่าทีไม่พอใจแบบนี้ ประมาณนี้เปล่า ไม่แน่ใจ ฮ่าๆ แต่เราขอเข้าใจแบบนี้แล้วกันเนอะ ไรท์ลองอ่านทวนดูอีกทีเนอะ ถ้าหากเราเข้าใจผิดไป แต่เราอ่านแล้วได้อย่างนั้นจริงๆค่ะ
คำผิดที่พบ
เฉยชิด – เชยชิด
เราขอสรุปโดยรวมเลยแล้วกันเนอะ คือหลังจากนั้นเราก็อ่านต่อไปเรื่อยๆเลยค่ะ พบปัญหาที่ควรแก้ไขบางจุด การบรรยายของไรท์ลื่นไหล มีบ้างที่ประโยคชวนงงแต่ว่าสามารถปรับได้หากอ่านทวนดูอีกทีหนึ่ง ไรท์ใช้ภาษาได้ดีทีเดียวนะคะ บรรยายภาพชัดเจนมากค่ะ และสนุกด้วย เราว่าไรท์บรรยายดีทีเดียวค่ะ ชอบนะคะ
โครงเรื่อง/ความน่าสนใจ (17/20)
รู้สึกว่ามันน่าติดตามมากๆค่ะ เป็นการต่อกรที่ลงตัวมากและเราชอบตัวละครต่างๆ เรื่องแนวนี้แบบนี้ใช่ว่าจะหาที่ลงตัวได้ง่ายๆนะคะ คือเราชอบมากค่ะ สนุกดี น่าสนใจดี อาจเป็นเพราะความคิดของนางเอกและพระเอกสวนทางกันตลอด เราเลยต้องตามลุ้นว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อไปนะ ฮ่าๆ มันดูมีอะไรน่าตื่นเต้นตลอดค่ะ แถมยังมีปริศนาให้เราคอยตามคิดด้วย น่าติดตามนะคะ
ตัวละคร (17/20)
มีบุคลิกที่ชัดเจนดีค่ะ เราชอบแนวนี้นะคะ ผู้ชายพูดคะขา ฟินดี ฮ่าๆ พระเอกยียวนแต่ก็น่ารัก ร้ายกาจ อ่อนโยน มันครบรสมากค่ะ นางเอกก็ใจแข็งไม่ยอมคน รู้สึกว่าเป็นการประกบมวยถูกคู่มาก ทำให้ลุ้นตามตลอด มีในส่วนของดมิสาที่เรารู้สึกว่าในเรื่องนี้ทำไมดูเป็นคนใจร้อนขนาดนั้น ทั้งๆที่ในเรื่องของเธอ จันทราลิขิต เธอดูเป็นคนใจแข็ง เย็นชาน่ะค่ะ หรือเพราะคนละช่วงเวลากัน อันนี้ก็ไม่ทราบ เพราะในส่วนของเรื่องดมิสาที่เราลองอ่านดู ในอดีตเธอเคยร่าเริงสดใส แต่เปลี่ยนไปเพราะเกิดเหตุการณ์สะเทือนใจ ซึ่งในเรื่องนี้อาจจะอยู่กันคนละช่วงเวลาหรือเปล่าไม่แน่ใจ ฮ่าๆ หรือเราอ่านข้ามหรือเปล่าไม่รู้
การดำเนินเรื่อง (17/20)
มีบางครั้งบางคราวค่ะที่เรารู้สึกว่าไรท์บรรยายขาดมั่ง เกินมั่ง ตามที่ชี้แจงไปในส่วนของการบรรยายเนอะ ทำให้อารมณ์และการดำเนินเรื่องขาดช่วงเล็กน้อย ยกตัวอย่างการบรรยายตอนแรกๆ ตอนที่นางเอกวิ่งหนีนายธีรนัย ซึ่งไรท์บรรยายน้อยไปและบรรยายมาจนถึงตอนที่นางเอกร้องไห้ ที่เราบอกเพิ่มเติมไปครั้งแรกเนอะ และมีเพิ่มเติมบ้างหลังจากนั้น ในเรื่องของการเปลี่ยนฉากแต่ละฉากนั้น แม้จะไม่ได้ฉึบฉับมากไป แต่ให้ความรู้สึกว่ามันเร็วไปบ้าง มีการย่อหน้าและเคาะเว้นบรรทัด อยากแนะว่าควรทำตัวหนาเวลาเปลี่ยนฉาก มีบ้างเราเห็นนะที่ไรท์ทำตัวหนาตอนย่อหน้า แต่ว่าบางครั้งไม่ได้ใช้ ทำให้งงๆว่าไปฉากไหนแล้วนะ นอกจากนั้นไม่มีอะไรแล้วค่ะ ทวนๆอีกทีแล้วกันเนอะ เราข้ามอะไรไปต้องขอโทษด้วยนะคะ
ความประทับใจจากนักวิจารณ์ (3.5/5)
โดยส่วนตัวชอบการปะทะคารมของพระนาง เหตุการณ์ชวนน่าติดตามมากค่ะ คงเพราะความคิดที่ขัดแย้งของทั้งคู่ทำให้เรานึกภาพไม่ออกถึงอนาคตว่าตอนจบ ทั้งคู่จะลงเอยกันอย่างไร
รวมคะแนน (85.5/100) พยายามต่อไปนะคะไรท์ นี่เป็นความเห็นจากผู้วิจารณ์เท่านั้นนะคะ ไม่เคืองกันเนอะ เราเพียงแต่แนะเท่าที่แนะได้ หากมีคำถามหรือข้อท้วงติงสามารถสอบถามได้นะคะ เรายินดีค่ะ สู้ๆค่า
รวมคะแนน (85.5/100) พยายามต่อไปนะคะไรท์ นี่เป็นความเห็นจากผู้วิจารณ์เท่านั้นนะคะ ไม่เคืองกันเนอะ เราเพียงแต่แนะเท่าที่แนะได้ หากมีคำถามหรือข้อท้วงติงสามารถสอบถามได้นะคะ เรายินดีค่ะ สู้ๆค่า
ชื่อ :
ชื่อเรื่องพร้อมลิ้งค์ :
รู้สึกยังไงเมื่อเห็นผลการวิจารณ์ :
ให้เครดิตและกดโหวตให้หน่อยน้า :
มีไรอยากพูดเพิ่มเติมไหมเอ่ย :
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น