ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SM Sweet Review รับวิจารณ์นิยาย

    ลำดับตอนที่ #10 : Send: When I had broken up, I met my soulmate (S)

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.ย. 58


    When I had broken up, I met my soulmate
    นักวิจารณ์
    S

    ขอโทษนะคะที่มาส่งงานช้า แต่คือหาเวลาว่างไม่ค่อยได้จริงๆ ออกตัวก่อนนะคะว่าเราเองก็ไม่ได้เก่งอะไร แล้วก็จะออกความเห็นตามความคิดเห็นของเราล้วนๆ เลยค่ะ ไรต์ลองดูนะคะว่าตรงไหนที่ไรต์คิดว่าเหมาะสมอยู่แล้วไม่ต้องเปลี่ยนหรือตรงไหนที่เราชี้แนะแล้วเห็นด้วย

     

    ชื่อเรื่อง (9/10) รู้สึกชื่อเรื่องบ่งบอกถึงเนื้อหาได้ดีมากๆ เลย แต่เรายังรู้สึกว่าอาจใส่ความน่าสนใจไปได้มากกว่านี้ เช่นการใส่ชื่อไทยลงไปด้วย ทั้งชื่อเรื่องที่บอกว่า When I had Broken up เรารู้สึกว่าหลังจากอ่านเนื้อเรื่องแล้ว การที่พระเอกอกหักไม่ค่อยจะเด่นเท่าไหร่นัก แต่ก็เข้าใจว่ามันมีผลกระทบตามมาคือพระเอกเดินใจลอยเข้าไปในร้านกาแฟอ่ะน้า...

     

    การตกแต่งบทความ (4/5)  ดูเรียบหรูดีเลยค่ะ ตรงหน้าแรกหยิบเอาเหตุการณ์ที่น่าดึงดูดออกมาโชว์เป็น t-ser ได้เหมาะเลย ฮ่าๆ แต่เรารู้สึกว่าธีมนั้นลายมันค่อนข้างลายตาไปหน่อยน่ะค่ะ ตอนอ่านเลยรู้สึกไม่ค่อยสบายตาหน่อยๆ

     

    บทบรรยาย (18/20) ต้องบอกว่าทำได้ดีเลยทีเดียวค่ะ ภาษาแบบนี้อ่านเพลินดีมากเลยจริงๆ คำผิดก็แทบไม่มีเลย เราจะขอชี้แจงตรงจุดที่อ่านแล้วสะดุดไปทีละข้อนะคะ

    ต่างจากผู้คนรอบข้างสิ้นเชิง อันนี้ไม่รู้ว่าถูกไหม แต่เรารู้สึกว่าควรมีคำว่า อย่าง หรือ โดย อยู่ตรงกลางระหว่าง ข้างกับ สิ้น ด้วยอ่ะค่ะ

    หลัง ๆ เคาะหนึ่งครั้งจะทำให้อ่านสบายตาขึ้นนะคะ

    มีคำผิดนิดนึง ยืน > ยื่น

    แปบ > แป๊บ

    คำผิดน้อยมากๆ เลยจ้า น่าชื่นชมๆๆ

    มีบางประโยคหรือย่อหน้าที่เรารู้สึกว่ามีคำซ้ำเยอะเหมือนกันนะคะ อ่านแล้วรู้สึกแปลกๆ เลยล่ะ เช่น ในวินาทีที่ผมจะวางเหรียญไปบนมือเธอ เหมือนมีแรงดึงดูดมหาศาลจากมือเธอทำให้มือของผมแตะกับมือเล็กๆ ของเธออย่างไม่ตั้งใจ...ทันทีที่แตะมือเธอ

    อันนี้สามารถเลี่ยงใช้คำอื่น เช่น มัน หรือจะตัดไปเลยก็ได้ค่ะ

    ตรงนี้อ่านแล้วก็สะดุดเหมือนกันค่ะ ทำให้ผมได้สติ สติสตัง...

    ตอนที่ภาพปัจจุบันหายไปเป็นภาพในอนาคต ตอนที่ไรต์บรรยายฉากนี้ตอนแรก เรารู้สึกงงๆ ค่ะว่า เฮ้ย...คือไรอะไรอ่ะ ไม่เข้าใจ เหมือนมันยังไม่เคลียร์ว่าเนี่ยคือภาพที่พระเอกเห็นในหัว และเห็นอยู่แค่คนเดียว ตอนนี้เรารู้สึกงงและคิดไปว่ามันเกิดขึ้นตรงนั้นจริงๆ ไม่ก็พระเอกโดนวาร์ปไปอีกที อะไรทำนองนั้นได้ รู้สึกแบบไม่ค่อยเคลียร์ว่านี่คือภาพในอนาคต จนพระเอกบอกขึ้นมาเองว่ามันคือภาพในอนาคต แต่ตรงนี้เราก็ติดใจเหมือนว่าทำไมพระเอกถึงพูดเหมือนมั่นใจมากว่า เฮ้ย ไอ้ภาพที่จู่ๆ มันเข้ามาในหัวฉันมันต้องเป็นภาพจากอนาคตแน่เลย ทั้งๆ ที่เจ้าตัวน่าจะงงและมึนไปเลยมากกว่า เราคิดว่าตรงนี้หากปล่อยให้เนื้อเรื่องดำเนินไปจนคนอ่านรู้เองว่า นี่มันคือภาพจากอนาคต มันจะน่าสนใจมากขึ้นด้วยนะคะ

    “คุณคะ มันไม่ครบสามยูโร” ตรงเราสงสัยว่าทำไมนางเอกจึงต้องเป็นกังวลเรื่องเงินไม่ครบด้วย ราวกับว่าพระเอกได้ของไปแล้วและชิ่งหนีไป ทั้งๆ ที่นี่คือพระเอกไม่ได้เอาอะไรติดมือไปเลย แล้วจากที่บรรยาย พอพระเอกปล่อยมือป๊บก็ออกไปเลย ไม่คิดว่านางเอกจะมีเวลานับเงินแล้วตะโกนไล่หลังไปอ่ะค่ะ หรือถ้าตะโกนไปก็คิดว่า ตะโกนว่า อ้าว คุณคะ จะไปไหนหรือ ไม่เอาของเหรอคะอะไรเทือกๆ นั้นจะสมเหตุสมผลขึ้นค่ะ

    พื้นที่ในโซฟา > บน

    วันนี้เรามีแขกรับเชิญที่ไม่ธรรมดาครับท่านผู้ชม...เขาว่ากันว่าเมื่อคนที่เป็นเนื้ออยู่ใกล้กัน... ตรงนี้ประโยคหลัง ไรต์ให้ความหมายราวกับคนธรรมดาทั่วไปทุกคนนั้น จะได้ประสบพบเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ ทั้งที่ในเรื่องเหมือนจะอธิบายว่าคนทั่วไปเขาไม่เจอแบบนี้กันหรอกนะ ทั้งคนที่พบเหตุการณ์นี้ยังเป็น แขกรับเชิญที่ไม่ธรรมดา อีกด้วย เราเลยติดใจนิดนึงเนอะ

    มีเรื่องคำตกเล็กน้อยจ้า

    ผมจะปัญญาจ่าย > ตก มี

    ตอนแรกนั้น ไรต์ทำให้เราเข้าใจเหมือนกับว่าพระเอกอยู่กับน้องสาวแค่สองคนเท่านั้น พอมีแม่โผล่มาด้วยเราเลยงงหน่อยๆ ไรต์อาจจะใส่ข้อมูลนี้หรืออธิบายเกี่ยวกับว่า แม่ไปไหน ทำไมไม่อยู่ตอนที่เขาอยู่กับน้องเข้าไปตอนแรกๆ ด้วยอ่ะค่ะ

    แต่โดยรวม ต้องบอกว่าดีมากจริงๆ นะคะ

    โครงเรื่อง/ความน่าสนใจ (17/20) คือ...มันก็น่าสนใจนะคะ แต่เราก็ไม่ได้รู้สึกว่าแบบ เฮ้ย ต้องอ่านต่อๆๆ ไปเรื่อยๆ จนจบให้ได้ เดาทางเรื่องไม่ถูกเลย สงสัยจังจะจบยังไง อะไรอย่างนั้นอ่ะค่ะ แต่ต้องชมถึงความแปลกใหม่ของเรื่องนี้นะคะ เราค่อนข้างประทับใจเลยล่ะ

     

    ตัวละคร (17/20)

    ยังมีเรื่องที่เราคิดว่าอาจไม่สมเหตุสมผล เช่นตอนที่นางเอกพบพระเอกอีกครั้ง เธอถามเขาและปฏิบัติต่อเขาเหมือนเป็นลูกค้าคนนึงธรรมด้าธรรมดาทั้งๆ ที่ผู้ชายคนนี้เธอเคยเห็นมาแล้วเมื่อวาน แถมยังเป็นคนที่น่าจะจำได้เพราะได้ทำเรื่องแปลกๆ เอาไว้อย่างจ่ายเงินไม่ครบและไม่เอาของ อะไรแบบนั้นด้วย อย่างน้อยก็น่าจะอุทานออกมา หรือถามอะไรหน่อย เช่น อ้าว คุณน่ะเองอะไรทำนองนี้มากกว่าอ่ะค่ะ

     “อ้อ แบบนี้เองนายถึงแปลกๆ” ง่ะ น้องสาวพระเอกไม่ตกใจเลยเหรอ หรือไม่ถามรัวๆ เลยเหรอว่า เฮ้ย เกิดอะไรขึ้น ทั้งๆ ที่ดูเหมือนสองคนนี้สนิทกันนะ

    นอกจากนั้น เรารู้สึกว่าการเขียนเรื่องขึ้นมา ทุกอย่างจะต้องมีความหมาย หรือความสำคัญ ซึ่งเรื่องนี้มีบางจุดที่ทำให้น่าคิดว่า ทำไมไรต์ถึงต้องใส่เข้ามา เช่น ทำไมแฟนเก่าพระเอกต้องชื่อเดียวกับน้องสาว? มันเหมือนว่าควรจะมีความหมายบางอย่าง หรือเนื้อเรื่องที่เล่นกับชื่อตัวละครอ่ะค่ะ

    แล้วก็เรื่องตรงที่คุณแม่ดูไม่ค่อยอยากให้พระเอกเรียน ซึ่งไรต์ชี้แจงว่าเป็นเพราะคณะที่เข้านั้นมันไม่ค่อยจะดีนัก แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นคณะอะไร จึงทำให้เราอยากรู้นิดนึงว่าไอ้แปลกที่ว่านี่คือแปลกยังไง และการบอกคณะของพระเอกก็ดีนะคะ เพราะมันจะทำให้คนอ่านรู้ถึงลักษณนิสัยตัวละครมากขึ้น ประเด็นที่เราอยากบอกว่า เราคิดว่าเรื่องตรงนี้ไม่ต้องใส่มาก็ได้อ่ะค่ะเพราะมันไม่มีผลกระทบอะไรต่อเนื้อเรื่องเลย

    แต่อยากบอกมากว่าชอบพระเอกอ่ะ ฮ่าๆๆ คาแร็คเตอร์ของไรต์ชัดหมดเลยนะคะ บอกจริงๆ ว่าวางบุคลิกหรือแนวคิดอะไรของตัวละครพระเอกนางเอกได้ดี ทำให้คนอ่านเห็นภาพและเข้าใจตัวละครนั้นๆ

    เรื่องนี้เราอาจให้คำแนะนำเรื่องของตัวละครไม่ได้มากว่าไรต์ทำให้นิสัยแต่ละคนแตกต่างกันออกไปมากน้อยแค่ไหน เพราะตัวละครในเรื่องนี้ค่อนข้างน้อย

     

    การดำเนินเรื่อง (20/20) ให้เต็มเลยอ่ะ คือแบบมันอ่านเพลินดีแล้วก็ไม่น่าเบื่อด้วยค่ะ การเลือกใช้คำในการต่อจากเหตุการณ์นึงไปอีกเหตุการณ์นึง ไรต์ทำได้ดีเลยจ้า

     

    ความประทับใจจากนักวิจารณ์ (4/5)

     

    รวมคะแนน (89/100) ดีมากก

     

    ชื่อ :

    ชื่อเรื่อง/ลิ้งค์ :
    รู้สึกยังไงเมื่อเห็นผลการวิจารณ์ :
    ให้เครดิตและกดโหวตให้หน่อยน้า :
    มีไรอยากพูดเพิ่มเติมไหมเอ่ย :
    ©
    t
    h
    e
    m
    y
    b
    u
    t
    t
    e
    r

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×