คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #24 : Youre my Moon ☽ :: 15 :: Goodbye episode of Let' do it
วันไหนไม่ได้ปากเสียใส่เพื่อนกันนี่
ลู่หานก็ไม่แน่ใจว่ามินซอกมันจะชักตายไปก่อนรึป่าว
เพราะพูดอะไรมา
คนอยากจะตายมันกลายเป็นเขาเสียทุกที!!
“ เป็นแฟนกันแล้วกูเข้าใจนะ แต่มึงอะอยู่ข้างบนหรืออยู่ข้างล่าง” ประโยคนี้เรียกสายตากลมที่ดูจะมึนงงให้ละความสนใจจากหน้าจอไอโฟนมามองตนเอง ลู่หานกำลังงงกับไอ้คำถามข้างบนหรือข้างล่างของมินซอกนี่แหละ เป็นแฟนกันแล้วมันเกี่ยวอะไรกับข้างบนหรือข้างล่าง ไม่ค่อยจะเข้าใจสักเท่าไหร่ และดูเหมือนมินซอกจะเดาออกว่าเพื่อนของตัวเองเกิดอาการของโรคที่เรียกว่าโง่เฉียบพลันขึ้นมาซะอย่างนั้น แหม! ปกตินี่คือหื่นล้ำหน้ากรรมการเป่านกหวีดแทบไม่ทัน ทีอย่างนี้กลับทำมึน
“ อะไรของมึงวะ ข้างบนข้างล่าง”
“ ก็มึงอะอยู่ข้างบนหรืออยู่ข้างล่าง”
“ ตอนนั้นอะนะ”
“ เออ!!”
“ ก็อยู่ข้างๆกัน”
“ เดี๋ยวๆๆ มึงเข้าใจความหมายของกูมั๊ยเนี่ย?”
“ ก็ไม่ค่อยเข้าใจ กูว่ามึงพูดออกมาชัดๆเลยเหอะ รำคาญ!”
“ ตอนเมิงแบบเข้าด้ายเข้าเข็มอะ มึงอะรุกหรือรับ...” แปลกที่ไม่ได้รับคำตอบกลับมาเป็นคำพูดหากแต่มาเป็นเสียงป๊าบดังๆเนื่องจากพ่อแข้งทองแน่งน้อย(??)ของครูจงอินได้สะบัดข้อเท้าและหน้าขาเตะเอาที่สีข้างของคนเป็นเพื่อนรักที่นั่งอยู่ในรัศมีเท้าพอดิบพอดี มินซอกร้องโอดครวญเสียงดังลั่นห้อง เหลือบสายตามองหน้าแดงๆของเพื่อนรักแล้วก็ยิ่งเจ็บ ให้ตายเถอะ!! ถ้ามันจะเขินแล้วรุนแรงงขนาดนี้มินซอกจะไม่แซว ไม่พูดอะไรอีกเลย สาบาน!
“ ไอ้ห่าลู่หาน!!!”
“ ก็มึงอะ! มึงอะ....” คนถูกด่าไม่ได้รู้สึกโกรธ ได้แต่พูดจางุ้งๆงิ้งๆ ที่มินซอกเองก็ได้ยินไม่ชัด เหมือนอยากจะด่าแต่ก็ไม่รู้จะด่าออกมาว่าอะไร แน่ล่ะลู่หานกำลังอาย ก็อยู่ดีๆเจ้าเพื่อนรักหน้ากลมเหมือนซาลาเปามันดันพูดเรื่องติดเรทขึ้นมาให้เขาได้จินตนาการ แถมดูคำถามมันสิ ข้างบนหรือข้างล่าง โอ๊ย!!! กองหน้าเจ้าพ่อทะลวงประตูอย่างเขาล่ะเพลียซะจริง!
“ มึงจะอายอะไรวะ ปกติก็หน้าด้านขนาดนั้น!”
“ ก็มึงทำกูเห็นภาพอะ!”
“ ไอ้ลามก!!”
“ มึงเริ่มก่อนนะ!!!”
“ เอออออ พอๆๆ! ทีนี้ก็ตอบกูมาได้แล้ว ว่าเป็นแฟนกันน่ะ มึงรุกหรือมึงรับ...” ลู่หานเหลือบสายตาไปมองเพื่อนรักที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวเดียวกัน ก่อนจะเสตาลงไปมองโปรแกรมแชทชื่อดังที่เด้งข้อความจากครูสอนเต้นคนพิเศษ จากการคุยกันลู่หานก็ไม่รู้เหมือนกันว่าใครกันแน่ที่จะรุกหรือรับ ทั้งๆที่ในตอนแรกตัวเขาเองโคตรจะมั่นใจว่าตัวเองนั้นจะต้องรุกครูจงอิน เพราะอีกฝ่ายนั้นแสนจะน่ารักและคาริสม่ากระจายทุกครั้งที่พบเจอกัน แต่หลังๆเขาเองก็เริ่มไม่ค่อยแน่ใจตัวเองแล้ว มันแบบว่าบอกไม่ถูกน่ะ
“ ก็....”
“ ก็ ??”
“ ก็...”
“ ลีลามาก เดี๋ยวกูถีบตกโซฟา!”
“ เออ!! ก็ไม่รู้เหมือนกัน!!!”
“ นั่นสิ ครูจงอินอะไรนั่นก็ดูแมนออก มึงเองก็ดูแมน แต่น้อยกว่า...” มินซอกบ่นพึมพำกับตัวเอง จ้องมองใบหน้าของเพื่อนรักที่ตอนนี้นิ่งงันไป ถ้าจะให้พิจารณาแบบไม่เข้าข้างใครเลยแล้วกันนะ ครูจงอินน่ะวินกว่าเห็นๆในเรื่องของรูปร่างหน้าตา ก็ดูสิ... ลู่หานถึงแข้งมันจะหนักเตะทีก็เอวแทบหัก แต่เอวมันก็บางซะขนาดนั้นผิดกับครูจงอินที่ดูจะมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงกว่า ถ้าพูดถึงหน้าตาลู่หานนี่ก็วินเหมือนกัน วินก็ตรงที่หน้ามันหวานแลดูเคะกว่าครูจงอินประมาณล้านเท่า แต่สิ่งเดียวที่ลู่หานวินกว่ามากๆก็คงจะเป็นเรื่องของการเป็นนักฟุตบอลดาวรุ่ง แน่นอนว่ากีฬาผู้ชายวิ่งไล่ลูกบอลก็ทำให้คุณดูแมนขึ้นได้ ส่วนการเป็นนักเต้นนี่ก็ดูจะเสียเปรียบไปเยอะ
“ แต่ครูจงอินบอกว่าตัวเองเมะ”
“ แล้วคือยังไง? มึงจะยอมเคะ??” คนถูกถามไม่ได้ตอบอะไร นั่งนิ่งไป 3 วินาทีจากนั้นก็เริ่มตีอกชกลม กระทืบเท้าลงบนพื้นห้องอย่างหาทางออกไม่ได้ แน่ล่ะ! แมนๆหล่อๆแบบลู่หานจะไปยอมเคะได้ยังไงกันเล่า น่ารักๆแบบครูจงอินสิเคะถึงจะถูก ยิ้มทีก็ทำเอาโลกของลู่หานคนนี้สว่างไสว แล้วไอ้หลังๆนี่มันคืออะไรกับการกระทำที่ทำเหมือนเขากลายเป็นเคะน้อยแบบนั้น มันไม่ใช่ปะวะ!?
แต่คือยังไงอะ...
ก็คนมันรักไปแล้ว
ก็ต้องยอมๆกันไป(?)
“ กูก็ไม่ได้อยาก...”
“ สรุปคือมึงจะยอมเคะ! ลู่หานมึงเสียความเป็นตัวเองไปหมดแล้วหรอวะ!?” เจ้าของใบหน้ากลมโวยวายดังลั่นห้อง เพราะเสียงที่ดังเกินขนาดมือเรียวของคนร่วมห้องจึงต้องเอื้อมไปปิดปากเอาไว้แน่น กลัวเหลือเกินกว่าห้องที่อยู่บริเวณโดยรอบจะได้ยินเสียงเอะอะโวยวายของนักเตะร่วมทีมอย่างเขากับมินซอก ให้ตายเถอะ! แค่ชอบผู้ชายก็แปลกแล้ว แต่นี่ยังจะยอมเป็นฝ่ายเคะอีก เขาเองไม่ได้สนใจหรอกว่าแปลกหรืออะไร เพียงแต่อะไรๆมันก็ยังไม่ชัดเจน(ไอ้เรื่องที่ว่าใครจะรุกใครจะรับ)
“ มึงจะเสียงดังทำไมวะ!!”
“ ก็ดูมึงสิ! นี่มึงใช่พี่ลู่หานโซลเอฟซีจริงๆรึป่าววะเนี่ย มึงเปลี่ยนไปมากนะ...”
“ ก็กูสิวะ...”
“ ...............”
“ ก็กูรักไปแล้วนี่หว่า” มินซอกยกคิ้วหลิ่วตาก่อนจะเบ้ปากใส่ ในใจก็หมันไส้เพื่อนรัก พูดมาได้เต็มปากเต็มคำ ทั้งๆที่ปกติก็ไม่เคยมีคำพูดอารมณ์นี้ออกมาจากปากอีกฝ่ายด้วยซ้ำ ลู่หานไม่ใช่ว่าไม่เคยมีความรู้สึกชอบ รู้สึกพอใจ แต่ไม่เคยมีใครที่รู้สึกจนกว่าที่จะพูดว่ารักออกมาเต็มปากเต็มคำ แถมยังยอมพร้อมใจขนาดนี้ ลู่หานไม่เคยยอมใคร ไม่เคยยอมแพ้ใคร แต่กลับครูจงอินเป็นคนแรก
“ ถึงมึงจะรัก แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่ามึงต้องยอมไปซะทุกเรื่องนะเว้ย”
“ คือเอาตรงๆนะ มึงต้องการจะสื่ออะไรมินซอก?”
“ ที่กูจะบอกคือ มึงไม่ควรยอมเป็นเคะให้ใครง่ายๆนะ ถ้าครูจงอินอะไรของมึงเค้ารักมึงอย่างที่มึงรัก เค้าก็ควรจะเป็นฝ่ายยอมมึงบ้างเหมือนกัน”
“ คือยอมเคะให้กู?”
“ ใครจะไปรู้วะ? มึงก็ลองพยายามไปก่อน หาคำตอบให้แน่ชัดว่าใครกันแน่ที่ต้องรุก แล้วใครกันแน่ที่ต้องเป็นฝ่ายรับ”
“ เออ! กูจะลองดู!”
“ ดีมากๆ สมแล้วที่เป็นเพื่อนรักกู! กูไปก่อนนะ นัดกับยงกุกมันเอาไว้ว่าจะไปปรึกษาเรื่องการเงินกันหน่อย” มินซอกว่าพลางผุดลุกขึ้นจากโซฟา เดินกลับไปคว้าเอากระเป๋าสตางค์แล้วเดินออกจากห้องไป การปรึกษาการเงินในช่วงกลางดึกเช่นนี้มันก็แค่เรียกให้ดูดีไปก็เท่านั้น เป็นที่รู้ๆกันว่าห้องของยงกุกปีกซ้ายของทีมก็ไม่ต่างอะไรกับคาสิโนขนาดย่อม
ลู่หานส่งข้อความโต้ตอบกับใครอีกคนที่เอ่ยถามมาบอกว่าให้รีบเข้านอนได้แล้วเพราะพรุ่งนี้จะต้องออกมาเจอกันแต่เช้า มือเรียวกดพิมพ์คำตอบพร้อมด้วยคำบอกลาและราตรีสวัสดิ์กับอีกคน ก่อนจะผุดลุกพาตัวเองไปทิ้งตัวนอนลงบนเตียงนุ่มชั้นล่างของเตียงสองชั้น นึกถึงบทสนทนาที่เกิดขึ้นเมื่อครู่แล้วก็อดจะอ่อนใจไม่ได้ แน่ล่ะ! เขาไม่ได้คิดว่าตัวเองต้องเป็นเคะ แต่สถานการณ์มันพาไปเองต่างหาก!
บางทีลู่หานอาจจะต้องเรียกร้องหาความถูกต้อง
แล้วคว้าเอาความแมนของตัวเองคืนมา!
.
.
.
.
.
การถ่ายทำนอกสถานที่ครั้งแรกสร้างความตื่นเต้นและตื่นตาตื่นใจให้กับแขกรับเชิญหลักและคุณครูสอนเต้นเป็นอย่างมาก แต่ที่ดูจะมากแบบสุดๆก็คงจะเป็นเด็กฝึกหัดเพื่อนร่วมคลาสเรียนเต้นที่คอยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมานาน 3 เดือนเต็มๆ และดูเหมือนคนที่ร่าเริงที่สุดจะกลับกลายเป็นจื่อเทาผู้เงียบขรึม ซึ่งก็โดนเซฮุนแฉออกมาว่าเพราะอยากไปเที่ยวมากกว่าซ้อมเลยมีความสุขมากขนาดนี้ มวยคู่เล็กจึงได้เกิดขึ้นบนรถในระหว่างทาง
สถานที่ถ่ายทำเป็นไปตามความต้องการของเด็กฝึกหัดทั้ง 4 คนแทนที่จะเป็นลู่หานซึ่งเป็นตัวหลักของรายการ ซึ่งตกลงกันได้ว่าเป็นที่สวนสนุกขนาดใหญ่ของประเทศ ดวงตากลมเหลือบไปมองคนข้างกายแล้วก็อดจะยิ้มออกมาไม่ได้เมื่อเห็นว่าคุณครูสอนเต้นกำลังนั่งหลับคอพับคออ่อนอยู่ข้างๆ รอยยิ้มน้อยๆผุดขึ้นที่เรียวปาก มือบางเอื้อมไปดึงรั้งตัวของจงอินให้เอนมาใกล้ๆแล้วรั้งใบหน้าคมมาซบลงที่ไหล่ของตัวเอง
“ บางทีก็หวานไม่เกรงใจใคร”
“ แล้วไปยุ่งอะไรกับเค้าล่ะ!” เซฮุนตีเข้าที่ไหล่หนาของคนที่นั่งข้างๆ จื่อเทายักไหล่ไม่สนใจก่อนจะเอนตัวซบหน้าของตัวเองลงกับไหล่ลาดของอีกคน คนตัวเล็กกว่าเลยแกล้งยักไหล่ขึ้นๆลงๆ ก่อกวนคนที่กำลังนอนอมยิ้ม แต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้สะทกสะท้านอะไรทั้งนั้น เซฮุนส่งเสียงจิจ๊ะในลำคอหากแต่ก็หวังว่าคนขี้กวนจะมองไม่เห็นรอยยิ้มน้อยๆที่เรียวปากของเขา
ใช้เวลาเพียงไม่นานกับการนั่งรถมาถึง ลู่หานแม้ว่าจะตื่นเต้นไม่เท่าจื่อเทาแต่ก็เรียกได้ว่าไม่อยู่นิ่งเช่นกัน ครูจงอินตื่นก่อนจะถึงได้ประมาณเกือบ 5 นาที อดแปลกใจในรอยยิ้มของคนที่ตนเองใช้แทนหมอนไม่ได้ว่ามันแอบแฝงไปด้วยอะไรบางอย่าง มือบางของคนข้างกายวางแนบแก้มของเขาเอาไว้ นิ้วโป้งลูบไล้ไปมาอย่างอ่อนโยน แล้วรอยยิ้มนั้นก็กระตุกส่งยิ้มที่เจ้าตัวคิดว่าเท่ห์สุดๆ
ความแปลกประหลาดขึ้นต้นเกิดขึ้นกับลู่หานอีกแล้ว
และจงอินก็คิดว่ามันคงจะต้องเกิดขึ้นอีกเรื่อยๆอย่างแน่นอน...
แบบแผนการถ่ายทำวันนี้ไม่มีอะไรมากเลย นอกจากเล่น เล่น เล่น แล้วก็เล่น การถูกลากถูไปไหนมาไหนกับลิงทั้ง 5 ไม่ผิดหรอก 5 จริงๆ ถึงจะอายุมากกว่าใครเพื่อนแต่ลู่หานก็กลับทำตัวลดอายุลงไปได้เท่ากับเจ้าพวกลูกศิษย์ของจงอินได้อย่างไม่น่าเกลียด แถมยังออกจะน่ารักมาเสียจนใครหลายๆคนต่างพากันอมยิ้มกับความน่ารัก รวมถึงร่างสูงที่ตอนนี้ที่กำลังยืนมองทั้ง 5 คนโพสต์ท่าถ่ายรูป
หลังจากเล่นซนกันได้พักใหญ่ก็ถึงเวลาทางอาหารกลางวัน การถ่ายทำถูกพักเอาไว้ชั่วคราว พร้อมกับจัดการให้ทุกคนเดินกลับออกมายังลานว่างด้านนอกสวนสนุกเพื่อเข้าไปรับประทานอาหารตามที่ทางทีมงานได้จัดเตรียมเอาไว้ ผู้ดูแลคนสวยจัดที่ทางให้กับนักฟุตบอลในการดูแลเลยไปถึงครูสอนเต้นและเด็กฝึกหัดทั้ง 4 คน โต๊ะที่อยู่ฝั่งด้านริมสุด ห่างออกไปจากทีมงานมากพอดู
“ เจสไม่กินหรอ ?” ลู่หานเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นว่าเจสสิก้าหันหลังทำท่าจะเดินออกไปจากตรงนี้ เธอส่งยิ้มหวานพลางส่ายหน้าบอกว่าจะกลับมากินหลังจากที่ไปคุยงานกับโปรดิวเซอร์เรื่องตารางเวลาบางอย่างที่ลู่หานก็ยังไม่ได้รู้
“ กินเยอะนะเตี้ย จะได้โตไวๆ” เซฮุนพูดพลางคีบเอาผักสีสวยในจานของตัวเองวางลงบนข้าวของแบคฮยอนที่ตอนนี้หันควับมาส่งสายตาปรามๆ แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลเอาซะเลย เพราะเซฮุนยังคงพยายามคีบผักที่เขาไม่กินไปให้กับแบคฮยอน โดยข้างๆมีจื่อเทาคอยคีบเนื้อหมูชิ้นโตใส่ในจานของคนขี้แกล้ง จงอินอมยิ้มน้อยๆกับภาพที่เห็น เด็กพวกนี้ทำให้เขามีความสุข
“ กินเยอะๆนะ จะได้แข็งแรง” เสียงหวานที่ดังมาจากคนที่นั่งข้างๆทำให้จงอินละสายตาจากลูกศิษย์หันไปมองคนที่กำลังคีบเนื้อมาใส่จานตัวเองอย่างงงๆ รอยยิ้มแบบนั้นอีกแล้ว... เขารู้สึกแปลกๆกับการกระตุกยิ้มของลู่หานยังไงก็ไม่รู้
“ ลู่หานกินเถอะ”
“ จงอินกินมะเขือเทศนะ จะได้ผิวสวยๆเนียนๆมากกว่าเดิม” ไม่พูดป่าว... มือเรียวก็ยกตะเกียบคีบเอามะเขือเทศสีสดตรงหน้าไปใส่จานของจงอิน ยกมือขึ้นบีบแก้มคนผิวเข้มครูสอนเต้นกิตติมศักดิ์ หัวเราะชอบใจเรียกความสนใจแก่คนในโต๊ะได้เป็นอย่างดี
“ ทำไมต้องผิวสวยอะพี่ลู่หาน” แบคฮยอนถามออกมาด้วยความสงสัย ปกติก็ไม่ใช่คนชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านหรอกนะ(หร๊ออออออ??????) แต่บทสนทนาที่เพิ่งได้ยินเมื่อครู่มันดูไม่ปกติ แถมยังฟังแปลกๆยังไงก็ไม่รู้
“ ก็ถ้าครูจงอินผิดสวย...”
“..........................”
“ จะได้น่ารักๆไง...” ดีที่มือหนารั้งเอาตะเกียบในมือเอาไว้ได้ทัน ไม่ปล่อยให้ร่วงหล่นลงไปกระทบกับจานข้าว จงอินเหลือบสายตาไปมองเจ้าของประโยคเมื่อครู่ก็พบกับดวงตาแพรวพราวที่กำลังมีประกายกรุ้มกริ่ม ลางสังหรณ์จงอินกำลังใกล้จะถึงจุดหาคำตอบของตัวเองได้แล้วล่ะ เกือบแล้วจริงๆ
ลู่หานส่งยิ้มที่คิดว่าเท่ห์บาดใจที่สุด เขาเคยส่งยิ้มแบบนี้ให้แฟนคลับตอนทำประตูได้ แล้วผลลัพธ์ที่ได้ก็ดีเกินคาดคือเสียงกรี๊ดดังลั่นไปทั่วสนามฟุตบอล และครั้งนี้ลู่หานก็มั่นใจว่าจะสามารถมัดใจครูจงอินและยอมให้ครูจงอินอยู่ข้างล่าง(??) แบบที่บอกกับมินซอกว่าจะพยายามทำให้ได้อย่างแน่นอน ลู่หานเหลือบมองไปเป็นเซฮุนที่กำลังพยายามแบมือของอะไรสักอย่างจากจื่อเทาที่ตอนนี้ได้แต่ทำหน้าหน่ายๆ ควักเอากระเป๋าสตางค์แบรนด์ดังออกมาควักธนบัตรให้กับเซฮุนที่แบมือรับพร้อมเสียงหัวเราะคิกคัก
การรับประทานอาหารกลางวันสิ้นสุดลงไปได้ด้วยความไม่ค่อยจะดีนัก เพราะลู่หานยังคงพยายามยัดเหยียดผักมาให้จงอินด้วยข้ออ้างเรื่องผิวสวยที่เขาเองก็ชักจะอายๆกับคำพูดแบบนั้นเสียแล้ว อันที่จริงลู่หานเคยเป็นแบบนี้มาก่อนก็ตอนที่เริ่มเจอกันใหม่ๆ ไอ้คำชมว่าน่ารักแบบนี้ก็ไม่ได้ยินมานานแล้ว กลายเป็นเขาเสียเองต่างหากที่ชมร่างบาง แถมยังทั้งเนียนกอด หอม จูบแบบครบเซ็ตชนิดที่ทำให้อายม้วนมาแล้วก็มี แต่นี่อะไร... เหมือนย้อนกลับไปสู่จุดเริ่มต้นอย่างบอกไม่ถูก
“ ไปเล่นกันเถอะ... ครูไม่ไหวแล้ว”
“ แก่แล้วก็งี้แหละเนอะพี่ลู่หาน”
“ ใช่ แบคฮยอน... แก่แบบนี้แล้วก็ควรจะหาคนมาปกป้อง มาดูแลได้แล้ว” คำตอบที่ได้จากลู่หานกลับทำให้แบคฮยอนขมวดคิ้วมุ่น แต่ก็ทำได้เพียงไม่นานเมื่ออีกฝ่ายกดดันให้ตอบรับด้วยรอยยิ้มไร้เดียงสาที่แบคฮยอนเห็นว่าขัดกับสายตาบีบบังคับคู่นั้นแบบสุดขั้ว คนตัวเล็กกว่าเลยได้แต่เอ่ยเออออไปตามภาษา ก่อนจะหัวเราะแหะๆออกมาอย่างไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นัก
“ ไปเล่นด้วยกันนะครูจงอิน”
“ ลู่หานไปเถอะ ผมไม่ค่อยอยากเล่น”
“ ทำไมล่ะ!?”
“ เจ็บขานิดหน่อยน่ะ” จงอินไม่ได้โกหก เขารู้สึกปวดขานิดๆเพราะเมื่อวานตอนที่แสดงโชว์เขาก้าวขาผิดจังหวะไปเล็กน้อย สาเหตุก็เพราะเหลือบสายตาไปมองลู่หานที่เต้นอยู่ข้างๆด้วยกลัวว่าจะตื่นเต้นจนลืมท่าไปเสียหมด แต่ลู่หานก็เก่งและเต้นได้ดีมากจนเขาอดชื่นชมไม่ได้
“ เจ็บขาหรอ เดินไหวไหม ขี่หลังผมเถอะ!” ไม่ได้พูดเปล่า คนตัวเล็กกว่าเดินมาย่อตัวคล้ายจะให้เขาขึ้นไปอยู่บนหลังบางๆนั้น จงอินปฏิเสธออกมาในทันที แต่คนตัวเล็กกว่ากลับไม่ฟังเขาเลยแม้แต่น้อย พยายามจะดันตัวเองเข้ามาใกล้เขาให้ได้มากที่สุด โดยไม่ได้คิดเลยว่าท่าทางแบบนั้นมันออกจะล่อแหลมจนอาจจะต้องเซ็นเซอร์แล้วปรับเรทการออกอากาศของรายการเอาซะใหม่
“ ไม่ๆๆ”
“ ขึ้นมาเถอะครูจงอิน~”
นอกจากจะพยายามทำเสียงอ้อนใส่แล้ว ก็ยังหันไปหาพวกโดยการตะโกนเรียนจื่อเทาและจงแดให้มาช่วยดันครูจงอินขึ้นหลังอีกต่างหาก แต่แทนที่คนถูกเรียกจะรีบวิ่งมาช่วย กลับกลายเป็นแบคฮยอนและเซฮุนที่หัวเราะคิกคักวิ่งร่าเข้ามาดันตัวครูสอนเต้นขึ้นหลังลู่หานเสียงอย่างนั้น แม้จงอินจะพยายามปฏิเสธแค่ไหนแต่มันก็ไม่เป็นผลเลยแม้แต่น้อย ทีมงานที่เฝ้ามองเหตุการณ์ตรงนั้นหลายคนแอบขำกับการแกล้งคุณครูสอนเต้น เจสสิก้ายังคงมองนิ่งก่อนที่จะหันหน้าหนีออกไปอีกฝั่ง
สักวันจะทำใจได้
แต่ยังไม่ใช่ในตอนนี้...
ดวงตาเรียวสวยเสตาออกมาจากภาพตรงหน้าแต่กลับสบเข้ากับดวงตารีเรียวอีกคู่ที่ยืนห่างออกไป ชายหนุ่มร่างสูงส่งยิ้มตาหยีมาให้ พร้อมทั้งยกมือขึ้นโบกไปมาคล้ายเป็นสัญญาณบอกว่าเขากำลังยืนอยู่ตรงนี้ ใบหน้าสวยของผู้ดูแลนักฟุตบอลยังคงนิ่งเรียบ ไม่มีรอยยิ้มใดๆหากแต่ก็ไม่ได้ละสายตาออกไปจากชายคนนั้น ก่อนที่มือเรียวสวยจะยกขึ้นน้อยๆเป็นการบอกว่าเธอเองก็รับรู้การมาและรอยยิ้มที่แสนจริงใจของเขาเช่นกัน
สักวันต้องทำใจได้
และคิดว่าคงอีกไม่นาน...
สุดท้ายแล้วครูจงอินก็ขึ้นมาบนหลังนักฟุตบอลแข้งทองจนได้ แต่เดินไปได้ไม่ถึง 10 ก้าว คนใจแมนที่อาสาจะแบกเขาไปก็ทำท่าจะทรุดลงไปกองอยู่กับพื้น เขาเลยต้องขืนตัวลงมายืนอยู่บนพื้น มองใบหน้าหวานที่ตอนนี้ชื้นไปด้วยเหงื่อ คำตอบที่เขาสงสัยถึงพฤติกรรมแปลกๆของแฟนหมาดๆก็กระจ่างแล้ว ไอ้การที่พยายามมาดึงให้เขาเอาแขนไปคล้องในเวลาที่เดินข้างกัน ทั้งพยายามดูแล แถมยังให้ขี่หลัง ลู่หานกำลังคิดจะกลับมาทำตัวแมนอีกครั้ง ซึ่งเขาไม่รู้ว่าใครเป็นยุ แต่อย่าให้รู้ก็แล้วกัน!
การถ่ายทำของวันนี้สิ้นสุดลงด้วยการบอกลาที่มีแต่รอยยิ้มและอ้อมกอดที่แสนจะอบอุ่น แบค
ฮยอนทำท่าว่าจะน้ำตาซึมแต่พอลู่หานกอดรัดแน่นๆจนหายใจไม่ออก เจ้าตัวก็เลยได้แต่ค้อนกลับอย่างสู้อะไรไม่ได้ ทีมงานเก็บของเตรียมตัวจะกลับแล้วเช่นเดียวกันกับคนอื่นๆ ลู่หานก้าวเท้ายาวๆเข้าไปหาผู้ดูแลส่วนตัวที่ตอนนี้กำลังยืนหน้านิ่งรอเขาอยู่
“ กลับเลยมั๊ย ?”
“ กลับเลยก็ได้ตามใจเจส”
“ ลู่หาน...”
“ ว่าไง ?”
“ คือว่าฉัน... อยากจะขอไปทำธุระที่อื่นก่อน”
“ อ่อ ได้สิ! แล้วไปยังไงกับใครล่ะ”
“ เอ่อ...” ยังไม่ทันได้ตอบคำถาม ร่างสูงของใครอีกคนก็เดินเข้ามาพร้อมทั้งทักทายนักฟุตบอลฟนุ่มร่วมทีม ลู่หานหันมองหน้าคนทั้งสองคนสลับกันไปมา แล้วรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ปรากฏขึ้นที่เรียวปาก พลางส่งสายตาล้อๆไปให้กับเจสสิก้าที่ตอนนี้เสตามองออกไปรอบๆอย่างไม่อยากสบตากับลู่หาน
“ ไปเถอะๆ ไอ้แทคฮยอนดูแลผู้จัดการของกูดีๆนะเว้ย!”
“ เออ กูรู้หรอกหน่า!!”
“ ถ้าทำผู้ดูแลคนสวยกูเสียใจนะ มึงตาย!” ลู่หานยังคงเอ่ยด้วยเสียงเข้มๆ พยายามจะขู่
เพื่อนร่วมทีมร่างยักษ์(เมื่อเทียบกับเขาแล้ว แทคฮยอนมันยักษ์ชัดๆ) หญิงสาวเพียงคนเดียวได้แต่ฝืนยิ้มน้อยๆ อยากเถียงออกไปว่าคนที่ทำให้เธอเสียใจก็คนๆเดียวกับที่พูดเหมือนว่าจะปกป้องเธอนั่นแหละ แต่ถึงอย่างนั้นเจสสิก้าก็รู้ว่ามันไม่ใช่เรื่อง ตอนนี้เธอตัดสินใจไปแล้วว่าจะเป็นแค่เพื่อน เธอก็จะต้องทำให้ได้...
หลังจากบอกลากับเจสสิก้าและเพื่อนร่วมทีมตัวสูงแล้ว ลู่หานก็เดินกลับมาหาจงอินที่ยังคงยืนคอยอยู่นอกรถ ใบหน้าหวานนั้นยกยิ้มที่มุมปากก่อนจะรีบคว้ามือหนาขึ้นมากอบกุมเอาไว้ เอี้ยวตัวไปเปิดประตูรถให้กับจงอินที่ยืนรออยู่ก่อนหน้าแล้ว ใบหน้าหล่อนิ่งเรียบแต่ถึงอย่างนั้นก็ยอมที่จะก้าวขึ้นรถไปก่อนลู่หาน นักฟุตบอลดาวรุ่งยิ้มกริ่ม
ให้ตายเถอะ!
ครูจงอินนี่ว่านอนสอนง่ายจัง!
บรรยากาศภายในรถเงียบสนิทเมื่อเหล่าลูกลิงซึ่งเป็นลูกสมุนของลู่หานหลับสนิทซึ่งก็ไม่ได้ต่างอะไรกับหัวหน้าทีมที่ตอนนี้กำลังนอนหลับฝันหวานโดนซบลงบนไหล่ของครูสอนเต้น มือหนายกขึ้นลูบผมสีน้ำตาลอ่อนนั้นอย่างนุ่มนวล ไม่อยากจะรบกวนคนนอนหลับ เพียงแต่เขาก็อดใจที่จะไม่สัมผัสมันไม่ได้จริงๆ ลู่หานทำให้เขารู้สึกว่าควบคุมตัวเองได้ยากมากเข้าไปทุกที ยิ่งอาการที่พยายามจะเมะเขานั่นก็อีก จงอินกลับมองว่าเป็นการกระทำที่น่ารักอย่างบอกไม่ถูก
“ กลับบ้านดีๆนะทุกคน” เสียงหวานเอ่ยเสียงสดใส เมื่อลูกลิงทั้งหลายฝืนคืนชีพอีกครั้งหลังจากรถจอดสนิทที่หน้าค่ายเพลง ทีมงานที่ตามมาด้วยเอ่ยบอกลาพร้อมกับขับรถออกไป ตอนนี้ก็เหลือเพลงลู่หานกับจงอินเท่านั้นที่ยืนอยู่หน้าบริษัท
“ วันนี้ไม่มีแฟนคลับเลยเนอะ”
“ วันนี้มีคอนเสิร์ตคริสอู๋”
“ อ่อ... แล้วอย่างนี้แบคฮยอนไม่เสียใจหรอที่ไม่ได้ไปดู”
“ คอนเสิร์ตคริสอู๋จะดูเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ที่ได้ไปเที่ยววันนี้มันคุ้มค่ากว่ากันเยอะ” จงอินส่งยิ้มไปให้ลู่หานที่พึงพำตอบรับกลับมาว่าวันนี้เป็นวันที่คุ้มค่ามากอย่างที่เขาบอก
“ อี้ชิงต้องไปดูแน่ๆเลย”
“ หือ? ใครหรอ?”
“ อ่อ... นักโภชนาการที่โซลเอฟซีน่ะ รายนั้นหลงรักคริสอู๋เสียจนหัวปักหัวปำ”
“ ก็คริสอู๋ทั้งหล่อทั้งเก่งขนาดนั้น”
“ ใช่ๆ แต่ช่างเถอะ ตอนนี้มาคุณเรื่องของเราก่อนดีกว่า... ครูจงอินให้ผมไปส่งที่คอนโดนะ?” ลู่หานเอ่ยออกมาเสียงใส พลางคว้าเอามือหนาของคนข้างกายมาคล้องเอาไว้ที่แขนของตัวเอง ตบเบาๆลงบนหลังมือที่ตนเองกุมเอาไว้ก่อนจะออกเดินไปยังรถคันหรูที่วันนี้ขับมาเอง คนถูกลากก็ได้แต่มองอย่างไม่เข้าใจ แต่เพียงไม่นานจงอินก็เริ่มดูออกถึงอาการพยายามจะแมนของลู่หานอีกครั้ง
“ ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวผมไปส่งคุณเอง”
“ ไม่เอา ผมจะไปส่งครูจงอิน”
“ ลู่หาน...”
“ ครูจงอิน...”
“ อย่าดื้อ...”
“ อย่าเมะ...” สิ้นคำพูดจงอินก็ต้องหันไปจองตาคนตัวเล็กกว่าอย่างจริงจัง ลู่หานได้แต่ยกมือขึ้นปิดปากตัวเองก่อนจะหัวเราะแหะๆออกมา อันที่จริงเขาไม่ได้จะพูดออกไปแบบนั้นเลยนะ แต่เพราะกำลังคิดหาทางที่จะพูดกับครูจงอินว่าอย่าเมะเลย มันไม่เหมาะกับคนน่ารักๆแบบครูจงอินหรอก ปากก็ดันพลั้งพลาดหลุดคำพูดแบบนั้นออกไป
“ ที่ทำวันนี้ก็เพราะแบบนี้ใช่มั๊ย ?”
“ หือ ?”
“ ลู่หาน... ผมไม่คิดว่าเรื่องนี้มันจะสำคัญนะ”
“ สำคัญสิครูจงอิน! จะให้ผลัดกันบางวันข้างบน บางวันข้างล่างได้ไง มันไม่ชัดเจน!!”
จงอินอยากจะจูบให้ปากบางๆที่กำลังส่งเสียงตะโกนแข่งกลับคำพูดของเขาให้ช้ำกันไปข้างอย่างที่เคยๆทำเลย ให้ตายเถอะ! ลู่หานคิดได้ยังไงไอ้เรื่องบางวันข้างบน บางวันข้างล่างเนี่ย! จงอินก็เคยได้ยินมาบ้างเหมือนกันนะว่าพวกนักกีฬาน่ะ เอ่อ... หมุกมุ่น? ไม่สิ... คือค่อนข้างจะใส่ใจเรื่องแบบนั้นมากเป็นพิเศษ(แต่ยังไม่มีงานวิจัย เพราะฉะนั้นเขาเลยเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง) แต่ไม่คิดว่าลู่หานคนที่ดูจะใสซื่อและไร้เดียงสาจะใส่ใจเรื่องแบบนั้นด้วย!
“ ลู่หาน...”
“ ครูจงอินมาเคะให้ผมเถอะนะ”
“ ................”
“ นะๆๆๆๆๆ~” ทำเสียงอ้อนๆเหมือนทุกที ก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะใจแข็งแค่ไหนแต่ครูจงอินไม่เคยที่จะขัดใจลู่หานเลย เพราะฉะนั้นตอนนี้สถานการณ์เข้าขั้นวิกฤต การใช้วิธีนี้น่าจะมีความเป็นไปได้สูงที่จะสำเร็จ
“ ของแบบนี้มันต้องพิสูจน์...”
“ ใช่ๆ งั้นพิสูจน์เลย”
“ งั้นไปพิสูจน์กัน...”
“ .............”
“ ที่คอนโดผม...”
“ หือ ?”
“ จะได้รู้กันไปเลยว่าใครจะอยู่ข้างบน...”
“ ...............”
“ แล้วใครจะอยู่ข้างล่าง... ตกลงมั๊ยลู่หาน ?”
จงอินเอ่ยถามด้วยเสียงกระซิบที่ข้างหู ตอนนี้คนถูกถามกลับได้แต่หน้าแดงจนถึงใบหู ตอนแรกที่กำลังเถียงๆกันอยู่ก็ไม่ได้คิดอะไร เขาก็แค่พยายามจะโน้มน้าวให้ครูจงอินลองคิดดูอีกทีว่าอยากเป็นเมะแน่ๆหรอ ในเมื่อเขาเองก็ออกจะมาดแมน(??)ไม่แพ้กันขนาดนี้ แต่ไหงกลายเป็นครูจงอินชวนไปพิสูจน์ที่คอนโด คือลู่หานกำลังงงว่าจะไปพิสูจน์กันท่าไหน ไม่ๆๆ!!! พิสูจน์กันวิธีไหน
“ งั้นไปกัน~!!”
โอ๊ยยยยยยยย
เกลียดนิสัยปากไวกว่าสมองของตัวเองจริงๆเลย
เกลียดจริงๆนะ ลู่หานสาบานได้ ^0^
::~::~::~::~::~::~::~::~::~::~::~::~::~::~::~::~::~::~::~::~::~::~::~::~::~::~::~::~::~::~::
ใครที่คิดว่าครูจงอินใสๆนี่ขอบอกเลยนะคะว่า ไม่!
ถ้าคิดว่ายังใสอยู่ย้อนกลับไปอ่านด้านบนอีกครั้งค่ะ 5555
ตอนนี้แบบว่าตัดละมุนตอนที่แล้วแบบสุดๆ
พี่ลู่นี่คือยุนิดยุหน่อยก็ไปเลยนะ พยายามจะแมนอีกแล้ว 5555 ป่วงน่าดู
ลุ้นๆๆๆๆ ตอนหน้าเค้าจะไปพิสูจน์ข้างบนข้างล่างอะไรกันที่คอนโด อุต๊ะ!!
จะสวัสดี NC ดีมั๊ยน๊ะ หรือว่าจะไม่มีดี 555 รีดเดอร์ว่าไงดี คิคิ
ขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจและอ่านมาจนถึงตรงนี้นะคะ <3
ปล. อาจจะมาต่อช้าเพราะต้องไปเตรียมงานบายเนียร์กับปั่นโปรเจคต่อนะคะ
ความคิดเห็น