คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : แรกพบ
เช้าวันสดใส ณ โรงแรมเล็กๆ ย่านสุขุมวิท ซึ่งวุ่นวายไปด้วยรถยนต์และการจราจรที่คับคัง " นัท " หนุ่มใต้ ตัวเล็กและผิวเข้มตามแบบฉบับคนใต้ ดูเป็นคนที่แข็งกระด่างและมีความมั่นใจในตัวเองสูง ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาได้มาจากประสบการณ์ในการเรียนสายช่างกลมาตลอด จึงหล่อหลอมจากการที่ถูกปลูกฝังเขามา เขาเปิดประตูออฟฟิสช่างที่อยู่ในชั้นใต้ดินของตึก ที่ในห้องเต็มไปด้วยอุปกรณ์และอะไหล่ของเครื่องจักรต่างๆ เข้ามาตามเวลามาทำงานปกติ หลังจากลาหยุดงานไปหลายวันเผื่อกลับบ้านที่ใต้ ซึ่งใช้เวลาเดินจากกรุงเทพถึงใต้ก็หนึ่งวันเต็มๆ ด้วยระยะที่ไกล ไปกับรถไฟไทย ที่รู้ๆ กันอยู่ถึงกำหนดเวลาที่เอาแน่เอานอนไม่ได้
" ไงวะ " เสียงที่ดังขึ้นพร้อมๆ กับประตูที่เปิดเข้ามาในห้องช่าง
แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไป เขารู้สึกมีบางอย่างผิดปกติแตกต่างจากที่เคยเป็นมาก่อนหน้านี้ เขามองไปทางด้านขวาของออฟฟิส ซึ่งเป็นมุมเล็กๆ ที่แทรกตัวอยู่ในกองของอุปกรณ์และอะไหล่ เนื่องด้วยพื้นที่ที่จำกัดของโรงแรม โต๊ะที่ทำงานของบริษัททัวร์สำหรับรับส่งลูกค้าให้กับโรงแรมก็เลยต้องมาอยู่รวมกันแบบงง หญิงสาวตัวเล็ก ผิวขาวตามแบบฉบับสาวเหนือ หน้าตาดูสดใส ในปากเธอมีเหล็กดัดฟันอมไว้เต็มปากตามแทรนของวัยรุ่นสมัยใหม่ รูปร่างเปรียวบางร่างเล็กของเธอ ถูกปกคลุมไว้ด้วยชุดยูนิฟอร์ม กางเกงสีดำรับกับสัดส่วน เสื้อเชิตแขนยาวสีขาวที่ถูกสวมทับไว้ด้วยเสื้อสูทสีดำอีกชั้น ซึ่งดูภูมิฐานและไฮโซเมื่อเทียบกับชุดยูนิฟอร์ของชาวง แต่ใบหน้าไม่มีร่องรอยของเครืองสำอางบนใบหน้านอกจากแป้งฝุ่น ริมฟีปากมีสีอ่อนๆของลิฟมัน ซึ่งมันก็ทำให้สะดุดใจเขาไม่ใช่น้อย ก่อนหน้านั้นก็จะมีแต่พนักงานผู้ชายที่เข้าทำงานที่นี้ ก็มักจะสนิทสนมกับช่าง พูดคุยสัพเพเหระตามประสาผู้ชาย เธอหันมาจ้องเขาด้วยสายตาที่ค่อนค้อนบ่งบอกถึงความไม่สบอารมณ์และประหลาดใจ โดยมีโทรศัพท์มือถือที่แนบติดข้างหู แล้วเธอก็หันกลับไปคุยเกี่ยวกับงานของเธอต่อ
ส่วน นัท ก็เดินเข้าห้องผ่านไปแล้วพูดคุยทักทายต่ออย่างไม่เกรงใจ ด้วยความเป็นเจ้าถิ่น
" ใครวะ เด็กใหม่หรอ " นัทถาม ทั้งๆ ที่เธอยังคุยโทรศัพท์อยู่
" เออ เด็กใหม่ เพิ่งมา 2-3 วัน แล้ว " เอส เพื่อนช่างร่วมงาน
" ชื่อไรวะ " นัทถามต่อ โดยไม่สนใจหญิงสาวที่กำลังคุยงานอยู่
" พิม เด็กเพิ่งจบ " เอส ตอบ
" อือ " นัทตอบรับ
แล้วเดินไปเปิดประตูห้อง เผื่อไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เป็นชุดทำงาน โดยไม่สนใจ มีสายตาของหญิงสาว มองตามด้วยความค่อนค้อน ในมารยาของเขาที่กระทำ และมีคำถามในใจเธอว่า ผู้ชายตัวดำคนนี้เป็นใครมาจากไหน.......
" พิม " เธอเป็นสาวเหนือที่เพิ่งจบใหม่ และเพิ่งได้งานทำไม่กี่วัน กับบริษัททัวว์ และยังถูกส่งให้มาทำงานที่นี้ เพราะคนที่เคยทำอยู่ก่อนลาออกไปแบบฉุกเฉิน ซึ่งเธอก็ไม่ค่อยแน่ใจนัก กับการทำงานในที่ใหม่ และแถมยังคาดไม่ถึงว่า โต๊ะทำงานของเธอจะมาอยู่ในห้องช่าง ซึ่งมีแต่ผู้ชายทั้งห้อง แต่เธอก็พยายามทำใจกับสิ่งต้องเจอ.......... แต่ก็ยังดีที่ยังมี " เบล " สาวน้อยรุ่นน้อง ที่อายุอ่อนกว่า 1 ปี ที่ทำงานเป็นเลขาหัวหน้าช่าง ซึ่งเธอเป็นสาวมั่นที่กำราบ เหล่าหนุ่ม ๆ พวกนี้อยู่หมัด ด้วยปากของที่ไม่เคยยอมใครแม้แต่หัวหน้าช่าง เจ้านายของเธอก็ตาม.......
" นัท ไปไหน " " ไม่รู้ เห็นเดินอยู่กี้ " เบล ตอบคำถามเจ้านายเธออย่างทันควัญ
" หามันทีซิ " เจ้านายสั่งเลขาสาว ด้วยความรีบร้อน
ในขณะ ที่ พิม นั่งอ่านหนังสือดูเหมือนไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นรอบข้าง แต่เธอก็ได้ยินทุกอย่างที่ทั้งสองคุยกัน และยังคิดในใจว่า ผู้ชายที่มารยาเสีย และท่าทางขี้เก๊กคนนั้น จะมีอะไรดี หรือจะเก่ง อะไรหนักหนา .............
สักพัก นัท เปิดประตูห้องเข้ามา พร้อมเสียงดัง
" อะไรของแกอีก.....กำลังทำงานอยู่ ...."
พิม ที่นั่งอ่านหนังสือแหะหน้าขึ้นมามองนิดหนึ่งแล้วอ่านหนังสือต่อ " คิดว่ามารยาเสียอย่างเดียว แถมปากเสียอีกด้วย" เธอคิดในใจ
" หัวหน้าเรียก ....... " เบล ตอบแบบไม่ทิ้งช่องว่างให้ขาดหาย ด้วยน้ำเสียง
สั้น ๆ และสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์ ก่อนจะก้มมองหน้าจอคอม ที่เธอเปิดอ่านนิยาย
" ว่าไงครับพี่ " นัท หันไปคุยกับหัวหน้า แล้วเดินไปที่โต๊ะทำงานของหัวหน้า แล้วคุยกันสักพักใหญ่ ด้วยท่าทางเคร่งเคลียด แล้วนัทก็เดินออกมาจากโต๊ะ ของหัวหน้า
" ตามนั้นนะพี่ " นัทบอกกับหัวหน้า
" อ้อ แล้วพรุ่งนี้จัดการให้ด้วย " หัวหน้าตอบและส่งงานต่อให้เขา ด้วยท่าทางที่ผ่อนคลายลง
ในขณะ ที่นัทเดินออกมา ผ่านโต๊ะทำงานของ พิม เขาหันไปยิ้มให้เธอ และเธอยิ้มตอบรับแบบขัดไม่ได้ แต่ไม่มีคำพูดใด ๆ แล้วเขาเดินออกจากห้องไป ทิ้งความงง ๆ ไว้ให้กับพิมเล็กน้อย......
หลายต่อมา ..........
พิม ก็ยังสาระวนวุ่นวายกับโทรศัพท์ของเธอ ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว เหมือนเด็กยุคใหม่ที่ติดโทรศัพท์ เป็นปัจจัยที่ 5 ในชีวิตประจำวัน ดูเธอช่างเหมาะกับงานที่ต้องพูดจาจริง ๆ ในขณะ ที่นัทซึ่งก็นั่งมองทุกอิริยาบทของพิมอยู่ ในใจเขาก็อยากจะคุยกับเธอเช่นกัน และจริงแล้วเขาแอบมอง พิม อยู่เป็นประจำ แต่เขาไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหน เขาอาจจะมีความชำนาญในทางสายอาชีพของเขา แต่ก็ไม่ประสามากนะในเรื่องผู้หญิง จน พิม คุยโทรศัพท์เสร็จ กำลังจะก้มลงอ่านหนังสือนิยาย นัท จึงร่วมรวมความกล้าแล้วถามออกไป
" ชื่อไรงะ เรานะ " ทั้งๆ ที่เขารู้จักชื่อเธอจากเพื่อนมาก่อนหน้านี้จากเพื่อน
ทำเอา พิม สะดุ้งเล็กน้อย ก่อนหันมามอง ไปทาง นัท แล้วตอบได้วยความงง
" พิม ค่ะ "
" บ้านอยู่ไหนละ " นัท ถามต่อ
" เพชรบูลณ์ " พิม ตอบ
ในขณะที่ถามต่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น นัท เดินไปรับโทรศัพท์ ส่วน พิมก็อ่านหนังสือของเธอต่อไป
นัท ถือเครื่องมือแล้วเดินออกไป แต่ในใจก็คิดว่าจะทำอย่างจึงจะได้คุยกับ พิม อีก เขาเดินไปขึ้นลิฟล์ แล้วกดลิฟล์ไปชั้น 5 เผื่อทำงาน ถึงชั้น 5 ประตูลิฟล์เปิดออก เขาก้าวออกมา แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นหนังสือพิมพ์ ที่แม่บ้านที่ทำความสะอาดเก็บมาทิ้งไว้หน้าลิฟล์ เขาเปิดไปที่หน้ากลางของหนังสือพิมพ์ เผื่อหาหน้าที่มีเกมส์สุโนกุ ซึ่งเป็น เกมส์เรียงตัวเลขในตาราง ที่เขาและเพื่อนๆ เอามาเล่นแก้เซ้งเวลาว่าง แล้วความคิดหนึ่งก็วิ่งเข้ามาในสมองของเขา ใช่เกมส์นี้แหละที่จะทำให้เขาได้คุยกับ พิม มากขึ้น เขารีบเดินไปทำงานของจนเสร็จ แล้วเดินกลับมาลงบันใดไปหาหนังสือพิมพ์อีกฉบับหนึ่ง
พอมาถึงห้องช่าง พิม ยังนั่งอ่านหนังสืออยู่ นัทเดินเข้าไปหาแล้วถาม
" เคยเล่นเกมส์นี้เปล่า " พร้อมยื่นแผ่นกระดาษหนังสือพิมพ์ ที่เตรียมมาและพับเป็นแผ่นเล็กๆ ให้เห็นตารางเกมส์
" เกมส์อะไร " พิม ถามพร้อมยื่นมือเล็กๆ ของเธอมารับไป
" เคยเล่นอยู่ " เธอตอบเมื่อเห็นหน้าเกมส์นั้น
" อันนี้มันแบบง่าย " นัท บอกแล้วถามต่อ " แข่งกันมะ พมมีอีกอันหนึ่งเหมือนกัน"
" ได้สิ กำลังเบื่อเหมือนกัน " พิม ตอบรับ
แล้วนัท ก็เดินไปนั่งอีกมุมหนึ่งของห้อง ด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า ด้วยความรู้สึกมีความสุข กว่าจะจบเกมส์ นัท กับ พิม ก็ได้คุยกันไปเรื่อย ๆ และเกมส์ก็จบลง แต่บางสิ่งบางอย่างของ นัท มันเพิ่งจาเริ่มต้นเท่านั้น...
ความคิดเห็น