คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ : ว่าด้วยปฐมบทAngeli
ที่ดินแดนชายฝั่งทางตะวันออกของราชอาณาจักรซึ่งเป็นดินแดนรอยต่อระหว่าง ‘เบิร์นฟอร์ด’ ที่ถูกปกครองโดยมนุษย์และ ‘เฮลทาเรีย’ ที่ปกครองโดยอันเดธ (ผู้ไม่ตาย) เผ่าพันธุ์ที่ถือได้ว่าซื่อตรงต่อความคิดของตนมากที่สุดและไม่ขัดความต้องการของตนเอง มนุษย์อย่างเราๆเรียกขานอันเดธว่า ‘Angile’ (ยมทูต) หากแต่เป็นเพียงกาลเวลาที่นานมาแล้วตามการเล่าขานของมนุษย์ว่าเบิร์นฟอร์ดเคยถูกโจมตีโดยเหล่าอันเดธโดยมีผู้นำเป็นบุรุษเจ้าสำอางผู้ห้าวหาญและมีปีกถึง12คู่... นามคือลูซิเฟอร์
ชนวนของการโจมตีจากอันเดธมาจาก “การล่าอาณานิคม” ซึ่งหมายถึงการประกาศศักดาและแย่งชิงทรัพยากรณ์ที่มีอยู่ในบริเวณนั้นๆ กระทั่งองค์กษัตริย์ลอสซิส ผู้ครองอาณาจักรลำดับที่12ได้ยอมแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งของน่านน้ำทะเลทางตะวันออกของชายฝั่งของอาณาจักรให้และหักห้ามอันเดธไม่ให้ข้ามแดนมายังเบิร์นฟอร์ดเด็ดขาด
“ท่านขอมากไปหรือเปล่ากษัตริย์ลอสซิส?” น้ำเสียงที่ลูซิเฟอร์เอ่ยถามองค์กษัตริย์มนุษย์แฝงไปด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย
“ตะวันออกของชายฝั่งของอาณาจักรของข้าเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิต ทั้งพราย ทั้งเงือก อีกทั้งอัญมณีที่สามารถอีกหลากหลายท่านได้ไปจากข้าแทนการแลกเปลี่ยนที่ห้ามไม่ให้อันเดธตนใดข้ามอาณาเขตมาที่เบิร์นฟอร์ด ข้าขอมากไปหรือ?”
“ก็จริงอยู่ว่าสิ่งเหล่านั้นข้าได้ประโยชน์แต่ใช่ว่าอันเดธทุกตนจะทำอาชีพๆเดียว การค้าขายเชื่อมสัมพันธไมตรีแก่สองอาณาจักรน่าจะเป็นการดีกว่าปิดประเทศ” ลูซิเฟอร์อธิบายด้วยน้ำเสียงราบเรียบอย่างสมเหตุสมผล นัยน์ตาสีโลหิตชายตามองกษัตริย์มนุษย์อย่างโอหัง ใบหน้าฉาบไปด้วยรอยยิ้มอ่อนๆที่ยากจะคาดเดาความหมาย บรรยากาศภายในกระโจมที่ตั้งไม่ไกลจากชายฝั่งซึ่งเป็นข้อถกเถียงเกิดความเงียบสงัด
“ถ้าเช่นนั้นแล้วพื้นที่แถบนี้ข้าจะไม่ขอรับไว้ก็ได้” สิ้นเสียงราชาอันเดธกษัตริย์ลอสซิสมีสีหน้าผ่อนคลายลงเล็กน้อย ในแววตาสีฟ้าน้ำทะเลคล้ายกับว่ากำลังเผยยิ้มกว้าง
“แต่ทว่าข้าเองก็มีข้อแลกเปลี่ยนที่น่าจะสมเหตุสมผลกับการแลกเปลี่ยนชายฝั่งและน่านน้ำ”
“เชิญท่านว่ามา” บนใบหน้ากษัตริย์ลอสซิสฉายแววตึงเครียดอีกครั้งที่ได้ยินคำจากลูซิเฟอร์ ลางสังหรณ์ที่สั่งสมจากประสบการณ์มาตลอดทั้งชีวิตบ่งบอกว่าคงไม่ใช่ข้อแลกปลี่ยนที่ดีแน่ๆ
“ข้าจะแลกเปลี่ยนเพียงแค่ไม่รับฝั่งน่านน้ำส่วนเรื่องอื่นข้าไม่รับประกัน...”
“...”องค์กษัตริย์มนุษย์กลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ
“ข้าขอแลกเปลี่ยนชายฝั่งทางตะวันออก กับลูกชายคนเล็กของท่าน”
“คนเล็ก... แซนเวียน่ะรึ?”กษัตริย์ลอสซิสเอ่ยถามน้ำเสียงเริ่มดังขึ้นเล็กน้อย ราชาอันเดธคลี่รอยยิ้มที่ยากจะคาดเดาความหมายขึ้นอีกคราแล้วเค่นหัวเราะน้อยๆเรียกความงุนงงจากคู่สนทนา
“ไว้ถึงเมื่อนั้นท่านจะรู้เอง... องค์กษัตริย์ลอสซิส”
สิ้นสุดการแย่งชิงดินแดน เหล้าทัพทหารแห่งเบิร์นฟอร์ดแต่ละนายเดินทางกลับไปหาครอบครัวอย่างปลอดภัยและสีหน้าที่แสดงถึงความโล่งอกโลงใจ เหล่าพสกนิกรออกจากที่พำนักเพื่อต้อนรับการกลับมาของผู้ที่เดินทางไปปกป้องบ้านเมือง หลายคนมีสีหน้าแช่มชื่นซึ่งหนึ่งในนั้นคือองค์กษัตริย์เช่นเดียวกัน ที่ทางเข้าพระราชวังเหล่าขุนนาง และบรมวงศานุวงศ์ ทุกพระองค์ต่างก็ออกมาต้อนรับขบวนที่หน้าประตู
“พระราชาเพคะ” สตรีในชุดสีชมพูลูกไม้ถอนสายบัวให้การเคารพโดยมีบาทบริจาริกาอีกสองคนคอยช่วยประคอง
“ไม่ต้องมากพิธีนักราชินี ทำตัวตามสบายเถอะ”สุรเสียงซึ่งเต็มไปด้วยอำนาจเอ่ยกล่าวอย่างอ่อนโยน
“ขอบพระทัยเพคะ”
“แล้วว่าอย่างไร จะคลอดเมื่อไหร่”
“คาดว่าคงไม่เกินสามวันเจ็ดวันเพคะ” นางเอ่ยพร้อมกับลูบอ่อนโยนที่มีอีกชีวิตอยู่
กาลเวลาล่วงเลยผ่ายวันแห่งความสุขขององค์กษัตริย์ล่วงเลยมาเข้าเจ็ดทิวาราตรี ค่ำคืนไร้ดวงจันทร์และดวงดาวพิรุณสาดกระหน่ำเทลงมาพรั่งพร้อมกับพายุที่โหมกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง ภายในพระราชวังเกิดความโกลาหลวุ่นวายพร้อมรับการประสูติ อีกชีวิตที่กำลังจะออกมาดูโลก อีกชีวิตที่กำลังจะกำเนิดจากครรภ์ผู้เป็นราชินี
“เอาน้ำร้อนมาอีก” แพทย์หลวงบอกสาวใช้ที่พากันวิ่งไปเอาโน่นเอานี่กันอย่างอุตลุด
“ทรงออกแรงอีนิดนะพ่ะย่ะค่ะ”
“อื้อ... อ๊า...”
เปรี้ยง!!
“แง้... แง้...” อัสนีบาตรสู่ผืนแผ่นดินพร้อมๆกับเสียงร้องจ้าของเด็กทารกผู้กำเนิดใหม่แห่งเบิร์นฟอร์ด ร่างกายเล็กถูกแพทย์นำร่างไปชำระคราบเลือดแล้วห่อผ้า ร่างทารกกลับสู่อ้อมอกผู้เป็นมารดา
“ยินดีด้วยพระองค์ได้พระโอรส”
ช่วงเวลาวิกฤตผ่านพ้นไป ราตรีกาลกลับสู่ความเงียบหลังจากพายุผ่านพ้น ห้องบรรทมราชินีเงียบสงบจะมีก็แต่เสียงครางละเมอของร่างทารกน้อย พลันช่วงเวลานั้นขนปีกสีดำร่วงหล่นสู่พื้นห้องพร้อมกับปรากฏร่างบุรุษจากระเบียงที่สูงชั้น เส้นผมสีดำสนิทถูกมัดรวบไว้แต่งกายด้วยชุดหนังสีดำเรียบๆดูภูมิฐาน ร่างนั้นค่อยๆย่างก้าวเข้าใกล้ร่างทารกน้อยที่บัดนี้ตื่นขึ้นราวกับจะรู้ว่ามีผู้มาเยือน แม้ว่าดวงตาทั้งสองข้างยังไม่สามารถมองเห็นสิ่งใดได้แต่ผู้มาเยือนก็รู้ทันทีว่าร่างทารกน้อยยังคงตื่นอยู่
“สายยันต์สวัสดิ์”เสียงเรียบเอ่ยพร้อมกับมองไปที่ร่างทารกที่ส่งเสียงเล็กๆราวกับว่ากำลังตอบรับและทักกลับว่า “สายยันต์สวัสดิ์เช่นกัน”
“ข้าจะไม่พาเจ้าไปในตอนนี้แต่เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมข้าจะส่งคนมาพาเจ้าไปยังดินแดนอันเดธ”
ฝ่ามือเลื่อนผ่านร่างทารกที่ยังคงแน่นิ่งในห่อผ้าก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทรากาลไป ผู้มาเยือนใช้นัยน์ตาสีแดงสดราวกับโลหิดเหลือบมองร่างทารกอีกครั้งก่อนจะหันหลังสู่ระเบียง ปีก12คู่ปรากฎที่กลางหลังชายผู้นั้นก่อนจะบินหายไป
ความคิดเห็น