ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Angeli เกมพันธะยมทูต

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ : ว่าด้วยปฐมบทAngeli

    • อัปเดตล่าสุด 1 เม.ย. 55


                                    ราชอาณาจักรเบิร์นฟอร์ดอาณาจักรที่ถือได้ว่าแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาราชอาณาจักรที่ถูกปกครองโดยมนุษย์     ความก้าวหน้าทางด้านกฎหมาย การใช้ชีวิต และทคโนโลยีราวกับว่าไร้พรหมแดนขวางกั้น ผู้คนส่วนมากมักจะพอใจกับการใช้ชีวิตที่หรูหรา สุขสบายภายใต้กฎและข้อบังคับอันเข้มงวด

     

     

                    ที่ดินแดนชายฝั่งทางตะวันออกของราชอาณาจักรซึ่งเป็นดินแดนรอยต่อระหว่าง เบิร์นฟอร์ดที่ถูกปกครองโดยมนุษย์และ เฮลทาเรียที่ปกครองโดยอันเดธ (ผู้ไม่ตาย) เผ่าพันธุ์ที่ถือได้ว่าซื่อตรงต่อความคิดของตนมากที่สุดและไม่ขัดความต้องการของตนเอง มนุษย์อย่างเราๆเรียกขานอันเดธว่า ‘Angile’ (ยมทูต) หากแต่เป็นเพียงกาลเวลาที่นานมาแล้วตามการเล่าขานของมนุษย์ว่าเบิร์นฟอร์ดเคยถูกโจมตีโดยเหล่าอันเดธโดยมีผู้นำเป็นบุรุษเจ้าสำอางผู้ห้าวหาญและมีปีกถึง12คู่... นามคือลูซิเฟอร์

     

     

                    ชนวนของการโจมตีจากอันเดธมาจาก “การล่าอาณานิคม” ซึ่งหมายถึงการประกาศศักดาและแย่งชิงทรัพยากรณ์ที่มีอยู่ในบริเวณนั้นๆ  กระทั่งองค์กษัตริย์ลอสซิส  ผู้ครองอาณาจักรลำดับที่12ได้ยอมแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งของน่านน้ำทะเลทางตะวันออกของชายฝั่งของอาณาจักรให้และหักห้ามอันเดธไม่ให้ข้ามแดนมายังเบิร์นฟอร์ดเด็ดขาด

     

     

     

     

                    “ท่านขอมากไปหรือเปล่ากษัตริย์ลอสซิส?”  น้ำเสียงที่ลูซิเฟอร์เอ่ยถามองค์กษัตริย์มนุษย์แฝงไปด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย

                    “ตะวันออกของชายฝั่งของอาณาจักรของข้าเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิต ทั้งพราย ทั้งเงือก อีกทั้งอัญมณีที่สามารถอีกหลากหลายท่านได้ไปจากข้าแทนการแลกเปลี่ยนที่ห้ามไม่ให้อันเดธตนใดข้ามอาณาเขตมาที่เบิร์นฟอร์ด  ข้าขอมากไปหรือ?”

                    “ก็จริงอยู่ว่าสิ่งเหล่านั้นข้าได้ประโยชน์แต่ใช่ว่าอันเดธทุกตนจะทำอาชีพๆเดียว  การค้าขายเชื่อมสัมพันธไมตรีแก่สองอาณาจักรน่าจะเป็นการดีกว่าปิดประเทศ” ลูซิเฟอร์อธิบายด้วยน้ำเสียงราบเรียบอย่างสมเหตุสมผล  นัยน์ตาสีโลหิตชายตามองกษัตริย์มนุษย์อย่างโอหัง  ใบหน้าฉาบไปด้วยรอยยิ้มอ่อนๆที่ยากจะคาดเดาความหมาย  บรรยากาศภายในกระโจมที่ตั้งไม่ไกลจากชายฝั่งซึ่งเป็นข้อถกเถียงเกิดความเงียบสงัด

    “ถ้าเช่นนั้นแล้วพื้นที่แถบนี้ข้าจะไม่ขอรับไว้ก็ได้” สิ้นเสียงราชาอันเดธกษัตริย์ลอสซิสมีสีหน้าผ่อนคลายลงเล็กน้อย  ในแววตาสีฟ้าน้ำทะเลคล้ายกับว่ากำลังเผยยิ้มกว้าง

    “แต่ทว่าข้าเองก็มีข้อแลกเปลี่ยนที่น่าจะสมเหตุสมผลกับการแลกเปลี่ยนชายฝั่งและน่านน้ำ”

    “เชิญท่านว่ามา” บนใบหน้ากษัตริย์ลอสซิสฉายแววตึงเครียดอีกครั้งที่ได้ยินคำจากลูซิเฟอร์  ลางสังหรณ์ที่สั่งสมจากประสบการณ์มาตลอดทั้งชีวิตบ่งบอกว่าคงไม่ใช่ข้อแลกปลี่ยนที่ดีแน่ๆ

    “ข้าจะแลกเปลี่ยนเพียงแค่ไม่รับฝั่งน่านน้ำส่วนเรื่องอื่นข้าไม่รับประกัน...”

    “...”องค์กษัตริย์มนุษย์กลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ

    “ข้าขอแลกเปลี่ยนชายฝั่งทางตะวันออก กับลูกชายคนเล็กของท่าน”

    “คนเล็ก... แซนเวียน่ะรึ?”กษัตริย์ลอสซิสเอ่ยถามน้ำเสียงเริ่มดังขึ้นเล็กน้อย  ราชาอันเดธคลี่รอยยิ้มที่ยากจะคาดเดาความหมายขึ้นอีกคราแล้วเค่นหัวเราะน้อยๆเรียกความงุนงงจากคู่สนทนา

    “ไว้ถึงเมื่อนั้นท่านจะรู้เอง... องค์กษัตริย์ลอสซิส”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    สิ้นสุดการแย่งชิงดินแดน  เหล้าทัพทหารแห่งเบิร์นฟอร์ดแต่ละนายเดินทางกลับไปหาครอบครัวอย่างปลอดภัยและสีหน้าที่แสดงถึงความโล่งอกโลงใจ  เหล่าพสกนิกรออกจากที่พำนักเพื่อต้อนรับการกลับมาของผู้ที่เดินทางไปปกป้องบ้านเมือง  หลายคนมีสีหน้าแช่มชื่นซึ่งหนึ่งในนั้นคือองค์กษัตริย์เช่นเดียวกัน  ที่ทางเข้าพระราชวังเหล่าขุนนาง และบรมวงศานุวงศ์ ทุกพระองค์ต่างก็ออกมาต้อนรับขบวนที่หน้าประตู

    “พระราชาเพคะ” สตรีในชุดสีชมพูลูกไม้ถอนสายบัวให้การเคารพโดยมีบาทบริจาริกาอีกสองคนคอยช่วยประคอง

    “ไม่ต้องมากพิธีนักราชินี ทำตัวตามสบายเถอะ”สุรเสียงซึ่งเต็มไปด้วยอำนาจเอ่ยกล่าวอย่างอ่อนโยน

    “ขอบพระทัยเพคะ”

    “แล้วว่าอย่างไร จะคลอดเมื่อไหร่”

    “คาดว่าคงไม่เกินสามวันเจ็ดวันเพคะ” นางเอ่ยพร้อมกับลูบอ่อนโยนที่มีอีกชีวิตอยู่ 

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    กาลเวลาล่วงเลยผ่ายวันแห่งความสุขขององค์กษัตริย์ล่วงเลยมาเข้าเจ็ดทิวาราตรี  ค่ำคืนไร้ดวงจันทร์และดวงดาวพิรุณสาดกระหน่ำเทลงมาพรั่งพร้อมกับพายุที่โหมกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง  ภายในพระราชวังเกิดความโกลาหลวุ่นวายพร้อมรับการประสูติ  อีกชีวิตที่กำลังจะออกมาดูโลก  อีกชีวิตที่กำลังจะกำเนิดจากครรภ์ผู้เป็นราชินี

    “เอาน้ำร้อนมาอีก” แพทย์หลวงบอกสาวใช้ที่พากันวิ่งไปเอาโน่นเอานี่กันอย่างอุตลุด

    “ทรงออกแรงอีนิดนะพ่ะย่ะค่ะ”

    “อื้อ... อ๊า...”

    เปรี้ยง!!

    “แง้... แง้...”  อัสนีบาตรสู่ผืนแผ่นดินพร้อมๆกับเสียงร้องจ้าของเด็กทารกผู้กำเนิดใหม่แห่งเบิร์นฟอร์ด  ร่างกายเล็กถูกแพทย์นำร่างไปชำระคราบเลือดแล้วห่อผ้า  ร่างทารกกลับสู่อ้อมอกผู้เป็นมารดา

    “ยินดีด้วยพระองค์ได้พระโอรส”

     

     

     

     

     

    ช่วงเวลาวิกฤตผ่านพ้นไป  ราตรีกาลกลับสู่ความเงียบหลังจากพายุผ่านพ้น  ห้องบรรทมราชินีเงียบสงบจะมีก็แต่เสียงครางละเมอของร่างทารกน้อย  พลันช่วงเวลานั้นขนปีกสีดำร่วงหล่นสู่พื้นห้องพร้อมกับปรากฏร่างบุรุษจากระเบียงที่สูงชั้น  เส้นผมสีดำสนิทถูกมัดรวบไว้แต่งกายด้วยชุดหนังสีดำเรียบๆดูภูมิฐาน  ร่างนั้นค่อยๆย่างก้าวเข้าใกล้ร่างทารกน้อยที่บัดนี้ตื่นขึ้นราวกับจะรู้ว่ามีผู้มาเยือน  แม้ว่าดวงตาทั้งสองข้างยังไม่สามารถมองเห็นสิ่งใดได้แต่ผู้มาเยือนก็รู้ทันทีว่าร่างทารกน้อยยังคงตื่นอยู่

    “สายยันต์สวัสดิ์”เสียงเรียบเอ่ยพร้อมกับมองไปที่ร่างทารกที่ส่งเสียงเล็กๆราวกับว่ากำลังตอบรับและทักกลับว่า “สายยันต์สวัสดิ์เช่นกัน”

    “ข้าจะไม่พาเจ้าไปในตอนนี้แต่เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมข้าจะส่งคนมาพาเจ้าไปยังดินแดนอันเดธ”

    ฝ่ามือเลื่อนผ่านร่างทารกที่ยังคงแน่นิ่งในห่อผ้าก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทรากาลไป  ผู้มาเยือนใช้นัยน์ตาสีแดงสดราวกับโลหิดเหลือบมองร่างทารกอีกครั้งก่อนจะหันหลังสู่ระเบียง  ปีก12คู่ปรากฎที่กลางหลังชายผู้นั้นก่อนจะบินหายไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×