ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Short Fic Yaoi !! {Hey!Say!Jump & etc. }

    ลำดับตอนที่ #1 : Short fic + } HBD Takaki Yuya : ขอบคุณที่มีเธอ( ขอบคุณ...ยังน้อยไป ) part 1

    • อัปเดตล่าสุด 3 เม.ย. 54


    Title:  ขอบคุณที่มีเธอ ( ขอบคุณ...ยังน้อยไป )

    Author: Natsukiii

    Paring: TAKACHII

    Rating: PG-15

    Note: มันคือ ฟิคฉลองวันเกิดยูยังล่ะ แบบว่าพิมพ์ไปพิมพ์มา ออกทะเลอย่างรุนแรง แต่ก็เอากลับเข้าฝั่งได้ล่ะนะ 5555 5
    เห็นว่ามันดูยาวๆ อาจม่ยาวมาก แต่ว่าก็แบ่งเป็น 2 พาร์ทโลดเนอะ ^^
    *หมายเหตุ เหตุการณ์ในเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่เกิดจากจินตนาการของผู้แต่ง ไม่เกี่ยวข้องกับศิลปินใดๆทั้งสิ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ^^ 

    2-04-2011"
    ใส่เพลงนะคะ เพื่ออรรถรส ^^ ( ช้าไปมั้ย?? )



     ------------------------------------------

    วันนี้เป็นวันอะไรกันนะ...

    ใช่ วันนี้วันที่ 26 มีนาคม วันเกิดของผมเอง

    วันนี้เมื่อหนึ่งปีก่อน เป็นวันที่ผมได้พบกับคนคนหนึ่ง

    คนคนนั้น ได้เข้ามาในชีวิตของผม แล้วทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไป...


    .

    .

    .

    .

    .



    จากเมื่อวานที่ไม่มีสักครั้งที่ใคร

    หันมามองที่ฉันก็แค่คนไร้ค่าคนหนึ่ง

     

    “สุข สันต์วันเกิดนะคะ คุณหนูที่รักของพวกเรา  มีความสุขมากๆนะคะ^^” เสียงอวยพรวันเกิดที่ดูมีความสุขถูกกล่าวขึ้นในงานวันเกิดของผม จากปากของเหล่าสาวใช้และแม่บ้านของผมเอง


    “ขอบคุณมากนะครับทุกคน เอ่อ ... แล้วคุณพ่อกับคุณแม่ล่ะครับ คุณทานากะ?” เสียงเศร้าเอ่ยถามคุณทานากะ หรือทานากะ โคคิ พ่อบ้านประจำตระกูลที่เป็นคนสนิทของนายท่านหรือคุณพ่อของเขา


    “ เอ่อ คุณท่านกับคุณผู้หญิงยังอยู่ที่อเมริกาอยู่เลยครับ พอดีมีงานด่วนเข้ามา จึงปลีกตัวออกมาไม่ได้ แต่ท่านได้ฝากกระผมมาอวยพรให้คุณหนูอยู่นะครับว่า ขอให้คุณหนูเจอ...”


    “พอเถอะครับคุณทานากะ ผมเข้าใจแล้ว เดี๋ยวผมขอตัวไปข้างนอกก่อนนะครับ ขอบคุณสำหรับงานเลี้ยงนี้”  ฝืนยิ้มออกไปทั้งอย่างั้นก่อนที่จะเดินออกไปที่โรงจอดรถแล้วขับรถมุ่งหน้า ออกไปที่ไหนสักแห่งที่เขาเองก็ยังไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนเหมือนกัน...

      

         ทาคาคิ ยูยะ หนุ่มนักศึกษาคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยโตเกียวที่มีชื่อเสียง ทายาทผู้บริหารธุรกิจร้อยล้านมีโด่งดังและมีกิจการมากมายทั่วประเทศญี่ปุ่น ถูกวางตัวให้เป้นผู้บริหารคนต่อไปต่อจากคุณพ่อ ตัวเขาเองนั้นไม่ได้ต้องการธุรกิจร้อยล้าน พันล้านนั่นเลยแม้แต่น้อย เขาแค่ต้องการชีวิตที่เป็นของเขาเอง ไม่ต้องมีคนมาบ่งการชีวิตให้ทำนู่นทำนี่ เขาไม่ใช่หุ่นกระบอก ที่ใครจะบังคับให้ทำอะไรก็ต้องทำสักหน่อย แต่ถึงอย่างงั้นเขาก็ขัดอะไรไม่ได้ จึงต้องทำตามคำสั่งของคุณพ่อ

     

    “เฮอะ วันเกิดบ้าอะไร มันก็แค่วันๆหนึ่งเท่านั้นเองนั้นแหละ” ใช่ วันเกิดมันก็แค่วันๆหนึ่งเท่านั้นแหละ

     

    จะสนใจทำไม ในเมื่อมันก็ไม่ได้มีอะไรดีเลยในวันนี้ ...

    เกิดมา 20 ปี เคยมีอะไรดีบ้างในชีวิต?

    ชีวิตของผม ถูกทิ้งให้อยู่อย่างโดดเดี่ยวมาตลอด ซ้ำยังถูกบังคับ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม

    แม้แต่การเรียน ผมก็ยังถูกบังคับเพื่อที่จะสานต่อธุรกิจบ้าๆบอๆของพ่อ

    ผมไม่สนใจหรอกนะว่าจะมีเงินกี่ร้อย กี่พันล้าน

    สิ่งที่ผมต้องการ มันก็แค่ชีวิตที่เป็นของผมเองเท่านั้น

    แค่การที่มีคนที่รักอยู่ข้างๆเวลาที่ต้องการบ้าง แค่นั้นเอง

    ไม่ใช่ชีวิตที่เป็นอยู่อย่างทุกวันนี้ ที่พ่อแม่ต้องปอยู่ในที่แสนไกลคนละซีกโลก

    ทิ้งให้ลูกชายของตัวเองต้องอยู่บ้านตามลำพัง

    วันเกิดอายุครบ 20 ปี ที่ไม่มีใคร ผมไม่ต้องการหรอก...

     

    เขาขับรถสปอร์ตสีแดงคันหรูของตัวเองออกไปยังไนท์คลับแห่งหนึ่งซึ่งเขามักจะไปอยู่ในเวลาที่เครียดๆหรืออารมณ์ไม่ดี

     

    กริ่งๆ !

     

    “สวัสดีครับ อ้าวทาคาคิคุง มาอีกแล้วเรอะ วันนี้มีอะไรล่ะ?” เสียงของผู้จัดการร้านคนสนิทของเขาเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัยเล็กน้อย

     

    “เอ...วันนี้วันที่ 26 นี่นา อ๋อ วันเกิดนายนี้ แล้วทำไมไม่อยู่ฉลองกับที่บ้านล่ะ?”

     

    “บ้าน ... อยู่ไปทำไมน่ะ? บ้านที่ว่างเปล่า ไร้ความรักที่อบอุ่นแบบนั้นน่ะ”

    ใช่ บ้านที่ไร้ความรักน่ะ ผมไม่อยากอยู่หรอกนะ ถึงจะมีพวกแม่บ้านแล้วก็คุณทานากะอยู่ก็ตาม แต่ก็ยังไม่มีคนที่ต้องการอยู่ดี

     

    “เอา น่าๆ พ่อแม่เขาก็คงไม่ต้องการให้เป็นแบบนี้หรอก เชื่อฉันสิ แต่ก็ดีแล้วน้าที่มาน่ะ กำลังหาเพื่อนนั่งพอดี นั่งมองลูกค้าคนเดียวมันเหงาน่ะ ^^” คาซึยะ ผู้จัดการร้านพูดขึ้น ราวกับว่าต้องการจะคลายความเครียดให้นตรงหน้า

     

         แม้ว่าในระหว่างที่อยู่ในไนท์คลับ มีผู้หญิงหลายคนเดินเข้ามาชวนเขาให้ดื่ม ให้ออกไปเต้นด้วยกัน ทำตัวยั่วยวนเขายังไงเขาก็ยังไม่สนใจ ถึงแม้เขาจะไม่ได้เป็นพวกตายด้าน ที่จริงตอนอยู่มหา’ลัย เขาน่ะดังจะตายเรื่องหลีสาว แต่ก็ทำประชดชีวิตนั้นแหละ แล้วก็ในเวลาแบบนี้เขาไม่มีอารมณ์หรอกนะ จะมายั่วเขาเท่าไหร่ก็คงไม่ได้ผลหรอก น่าสงสารพวกผู้หญิงพวกนั้นอยู่เล็กๆที่อุตส่าห์ทำตัวยั่วยวนซะตัวเองหมดราคา แต่เขาก็ไม่สนใจ เอาแต่ดื่มอย่างเดียวล่ะนะ...

     

    เวลาผ่านไปจนตอนนี้ 5 ทุ่มกว่าๆแล้ว คงได้เวลาที่เขาจะกลับ...กลับไปยังบ้านที่มีแต่ ความเหงา

     

    “ไปก่อนนะ คาซึยะคุง ไว้วันหลังเหงาๆจะมาใหม่”


    “จ้า ไปดีมาดีนะ เมื่อกี้ก็ดื่มไปไม่น้อยเหมือนกันหนิ ” กล่าวออกไปด้วยความห่วงใยพร้อมรอยยิ้มที่น่ารัก แหม ผู้จัดการทำไมถึงน่ารักจังนะ ถ้าไม่ติดว่ามีแฟนแล้วอาจจีบก็ได้นะเนี่ย ( ไรเตอร์ – แน่นอนอยู่แล้วพี่สาวหนูเอง ><” )


    “ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมยังไหวหน่า”


    “จ้าาา า^^”

     

     

    ระหว่างทางกลับบ้านนั้น เขาก็ได้เจอเรื่องไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นแถวนี้ได้

    “ ขอร้องล่ะครับ อย่าทำอะไรผมเลย เงินนี่จำเป็นกับผมจริงๆ ขอร้องล่ะครับ” เสียงหวานสั่นๆเอ่ยขึ้นขอร้องเจ้าพวกโจรใจบาปที่จะมาทำลายแล้วเอาเงินของเขา ไป ใบหน้าหวานที่ตอนนี้มีแต่หวาดกลัวช่างดูน่าสงสารและเวทนาเสียจริงๆ


    “เจ้า พวกบ้านี่หนิ” ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษสุดๆ(?) เขาจึงอวดดี(?) ลงจากรถไปช่วย ทั้งที่เหมือนจะลืมไปแล้วว่าตัวเองก็ดื่มหนักเข้าไปเหมือนกัน = =


    “ อย่าเล่นตัวเลยหน่า เอาเงินมาซะดีๆ !!” เสียงใหญ่ๆห้าวๆเถื่อนๆขู่กรรโชกออกมาเสียงดัง ทำเอาคนร่างน้อยยิ่งตัวสั่นไปใหญ่เลย


    “หน้าตาน่ารักแบบนี้ ถ้ายังเล่นตัวอีก เดี๋ยวพ่อจับปล้ำซะนี่ !” หนึ่งในพวกโจรพูดขึ้น ก่อนที่จะทำท่าเดินเข้าไปจับตัวร่างน้อยๆที่สั่นกลัว หลับตาปี๋ก่อนที่จะส่งเสียงขึ้น


    “หยะ อย่านะ !”

     

    พลั่ก !

    เสียง หมัดหนักๆกระแทกเข้าปที่ใบหน้าของโจรคนนั้นดังขึ้น ร่างบางค่อยๆลืมตาขึ้นมาดู ทันใดนั้นเขาก็เห็นคนตัวสูงคนหนึ่งมายืนอยู่ที่ด้านหน้าของเขา

    “พวก แกจะทำอะไรเด็กนี่น่ะ!” เสียงของยูยะพูดขึ้นเสียงดังโดยไม่ได้ดูสภาพตัวเองเลยว่าเป็นยังไง เพราะตอนนี้ดูเหมือนว่าฤทธิ์ของอบายมุขที่ตัวเองได้นำมันเข้าสู่ร่างกายนั้น ได้แพลงออกมาแลวล่ะ!

     

    “อะไร ว่ะไอ้นี่ เกี่ยวอะไรด้วย ถอยไป! คนกำลังยุ่งๆ กำลังเข้าได้เข้าเข็มเลย เฮ้ย! พวก มึง จัดการมันดิ ” หัวหน้าของกลุ่มโจรที่ดูท่าจะไม่พอใจกับการมาแบบไม่ทันตั้งตัวของยูยะ ได้สั่งให้คนของเขาจัดการกับยูยะซะแล้วล่ะ


    “ มาเลย เข้ามาเลยสิพวกมึง มา ... เลย” ดู เหมือนว่าฤทธิ์อบายมุขที่ตอนแรกจะแค่แพลงออกมาเล็กน้อยตอนนี้ ได้ออกมาหมดแล้ว เขาล้มลงไปนอนที่พื้นเรียบร้อยโรงเรียนทาคาคิแล้ว ( ไรเตอร์ – ดีจังคะคุณพี่ ตอนแรกทำเท่ห์ ตอนนี้เป็นง นอนตายเป็นหมาเลยนะ ! ลุกขึ้นมาสู้เซ่ ! // โดนลูกถีบถีบตาย ไม่สิ ตายไม่ได้ ตายแล้วเดี๋ยวเรื่องไม่จบ ^^)


    “เฮ้ย อะไรว่ะ อยู่ๆก็เข้ามาขัดอารมณ์กู แล้วอยู่ๆนึกจะนอนก็นอนเลยรึไงว่ะ ลูกขึ้นมาสิ ไอ้โง่ !” หัวหน้าเดินเข้าไปกระชากคอเสื้อของร่างสูงแล้วเขย่าแรงๆราวกับต้องการให้เขา ลุกขึ้นมาสู้กับตน


    “ พะ พอ พอเถอะครับ อย่าทำอะไรเขาเลย เขาไม่เกี่ยว อย่าเลยครับ” เสียงหวานพูดขึ้นด้วยความสงสารที่คนที่ไม่เกี่ยวข้องกับเขาแต่จะต้องมาซวยไป ด้วยแบบนี้ ( ไรเตอร์ – มันอวดไง = = )


    “ห๊ะ ! ว่าอะไรนะน้องงงงง ง อยากให้พอใช้มั้ยจ๊ะ?? งั้นก็เอาเงินมาแล้วยอมให้พี่ “ปล้ำ” สิจ๊ะน้องงง ง”

    "คะ คุณ เอา เอาเงินผมไปหมดเลยก็ดครับ ตะ แต่ว่า อย่าทำอะไรผม กับเขาเลยนะครับ ผมขอร้อง” ยื่นเงินทั้งหมดที่ตนมีให้กับเจ้าหน้าโหดก่อนจะยกมือขึ้นไหว้ขอร้องว่าอย่า ทำ อะไรเขากับคนร่างสูงที่นอนอยู่นี้เลย


    “ เหอะ เห็นว่าสวยหรอกนะน้อง แต่ว่า ขอสักทีเถอะ” ไม่ว่าเปล่า  จับใบหน้าของร่างบางให้หันมาททางตนก่อนจะประกบปากและมอบจูบที่ร้อนแรงให้กับ ร่างเล็ก ริมฝีปากหนาๆ หยาบๆ พยายามดุนดันลิ้นของตนให้เข้าไปข้างในปากของร่างบาง แต่เมื่อกำลังจะเข้าไปได้...


    “โอ๊ยยย ย! “ เสียงที่บ่งบอกถึงความเจ็บ มีหยดเลือดไหลออกมาจากปากเป็นทาง ด้วยเกิดจากร่างบางที่ใช้โอกาสที่ลิ้นของชายโหดกำลังจะเข้าปากตนเอง ก็ได้กัดเข้าเต็มๆ  ( ไรเตอร์ – สมน้ำหน้ามัน บังอาจทำที่รักฉันเสียเฟิร์สคิส ( ในเรื่อง )  ชิส์ ! )


    “แสบ นักนะ ยัยบ้าหนิ คราวนี้จะปล่อยไปก่อน คราวหลังอย่าให้เจอล่ะ ได้เป็นเมียกูสนใจแน่ ไปพวกเรา” กล่าวอย่างเจ็บใจก่อนเรียกพรรคพวกของตนให้กลับไปพร้อมกัน


    “อะ นี่ คุณ คุณครับ เป็นอะไรมั้ยครับ คุณ “ เขย่าตัวให้คนที่นอนอยู่รุ้สึกตัว แต่ผลที่ได้คือ นิ่ง  =  =


    “นี่ คุณ อะ... หือ กลิ่นเมาหึ่งเลยอ่ะ เดี๋ยวผมพาคุณกลับบ้านผมก่อนแล้วกันนะครับ” พูดไปหยั่งกับว่าคนที่นอนอยู่จะได้ยินแต่ก็ยังอุตส่าห์บอกให้รู้ว่าตนจะพา เจ้าคนที่นอนเมาเละอยู่นี่ไปไหน...



    แอ็ดดด ด!!

    เสียง ประตูดังขึ้นพร้อมกับร่างสองร่างที่ส่วนสูงดูต่างกันเสียเหลือเกินที่กำลัง เดินเข้ามาภายในบ้านหลังเล็กๆหลังหนึ่ง พร้อมกับประตูที่ปิดลง มือเล็กเอื้อมไปเปิดสวิตซ์ไฟที่ผนังห้อง ก่อนจะพาตัวเองและคนร่างสูงตรงไปยังห้องนอนของตนเอง ก่อนจะค่อยๆแบกเจ้าคนตัวใหญ่ที่ไม่รู้หนักอะไร ( ไรเตอร์ – สงสัยหนักพุง อิอิ ) วางลงบนเตียงอย่างเบาที่สุดเท่าที่จะเบาได้ จากนั้นก็ออกไปเอากะละมังและผ้าขนหนูมาเช็ดตัวให้กับเจ้าคนที่นอนเมาเละอยู่ บนเตียง เพื่อให้สร่างเมาได้บ้าง...

    ร่าง เล็กนำผ้าขนหนูที่ชุบน้ำหมาดๆไว้แล้ว ค่อยๆวางลงไปบนหน้าผากของร่างสูงที่นอนอยู่บนเตียงนุ่ม ก่อนจะค่อยไล้เช็ดไปตามใบหน้าเนียนอย่างระวัง และเมื่อย้ายผ้าผืนนั้นไปเช็ดที่ซอกคอ (ไรเตอร์ – ไม่อยากจะพิมพ์ว่าขาวเพราะมันไม่ใช่ กร๊ากกก ก)
    “แม่   พ่อ  อย่าทิ้งผมไป”  เสียงร้องละเมอครางออกมาพร้อมกับมือที่ม่ค่อยเนียน เท่าไหร่นักแต่กลับดูอบอุ่นค่อยยกขึ้นเอือมมาจับมือเนียนนุ่มที่กำลังจะเช็ด ที่คอของตน

    “ อะ คุณครับ เป็นอะไรรึเปล่าครับ คุณ?”

    “แม่ แม่ อย่าพึ่งไป ผมไม่อยากอยู่คนเดียว” ละเมอออกมาอย่างน่าสงสาร ก่อนที่จะนำมือของอีกคนมาซุกไว้ที่แก้มของตนราวกับต้องการความอบอุ่น อีกคนที่เหมือนจะถูกล่วงละเมิดทางร่างกายโดยไม่ได้ตั้งใจก็กลับรู้สึกเขิน ขึ้นมาอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว

    “สงสัย จะละเมอสินะ ... นี่คุณครับ ตื่นเถอะครับ นี่” นำมืออีกข้างของตนที่ไม่ถูกจับไว้ ค่อยเขย่าเบาๆไปที่ตัวของอีกฝ่ายด้วยความระมัดระวัง ก่อนที่ตัวคนถูกเขย่าจะค่อยๆปรือตาขึ้นมาอย่างช้าๆ...

    “ อือ ... ปะ ปวดหัวจัง” ส่งเสียงแหบๆออกมาอันเกิดจากฤทธิ์ของน้ำเมา ก่อนจะเหลือบตามองที่คนหน้าหวานตรงหน้า...

    น่ารักจัง ...
    ตอนนั้นไม่ทันได้ตั้งสติ มองหน้าชัดๆ
    ไม่นึกเลยว่าเธอจะน่ารักขนาดนี้ ...

    “อะ เธอ เป็นอะไรรึเปล่าน่ะ เจ็บตรงไหนมั้ย?”  ถามคนตรงหน้าออกไปด้วยความเป็นห่วงเป็นใย

    “ผะ ผมไม่เป็นไรครับ แล้วคุณละครับเป็นอะไรรึเปล่า?” กล่าวตอบออกไปแล้วถามกลับเป็นเชิงห่วงใยเช่นกัน แต่คำตอบนั้นกลับทำให้ผู้ฟังนึกฉงนในใจ

    ผม?
    แทนตัวเองว่าผมเนี่ยนะ?
    ผู้หญิงไรเนี่ย???

    “ ผมงั้นหรอ? เธอ ไม่ใช่ผู้หญิงหรอกหรอ??”

    “อ่า ผมเป็นผู้ชายครับ แหะๆ แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ เริ่มชินแล้วล่ะ ใครๆก็มักจะทักผมว่าเป็นผู้หญิง^^” แน่ล่ะสิ ก็เล่นหน้าหวานปานน้ำเชื่อมขนาดนี้ จะให้เชื่อได้ไงว่าเป็นผู้ชาย?

    “อะ งั้นหรอ ขอโทษนะ ที่เข้าใจผิด แล้วเธอ เอ้ย! นายชื่ออะไรล่ะ?” หลุดซะแล้วสิ เห็นหน้าแบบนี้จะไม่ให้ใช้เธอได้ไงล่ะเนอะ?

    “ผมชื่อ จิเนน ยูริครับแล้วคุณล่ะครับ?” ถามกลับผู้ที่ตอนนี้ลุกขึ้นมานั่งราวกลับสร่างเมาแล้ว

    “ฉัน ทาคาคิ ยูยะนะ ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณก็ได้ สบายๆเถอะ”

    “ อะ ครับ  คุณ เอ้ย! ทาคาคิซัง ขอบคุณนะครับที่ช่วยผมไว้น่ะ -//////////////- ”  ทำงดีชักจะเขินซะแล้วสิ นี่เราเป็นอะไรของเราเนี่ย >////////<

    “ อืม ไม่เป็นหรอก เพราะจริงๆฉันไม่ได้ช่วยอะไรเลยต่างหากล่ะ แหะๆ” กล่าวออกไปตามความจริงที่จริงเสียยิ่งกว่าจริงอีก เพราะนอกจากจะไม่ได้ช่วยอะไรแล้ว ยังเป็นตัวถ่วงด้วยนะ อ๊ะ ! ช่วยอยู่แฮะ ช่วยให้โจรหมดอารมณ์ เหอะๆ

    “ ว่าแต่ ที่นี่บ้านนายหรอ? แล้วคนอื่นๆล่ะ ไม่อยู่บ้านกันหรอ อย่างพ่อกับแม่น่ะ” ถามออกไป พร้อมกับเดินสำรวจรอบห้องนอน ซึ่งเป็นเพียงห้องเล็กๆขนาดนอนคนเดียวได้ก็แค่นั้น ข้าวของในห้องก็มีแค่ของที่จำเป็น พวกตู้เสื้อผ้า เตียงนอน ชั้นวางอขงเล็กๆน้อยๆเท่านั้นเอง

    “ครับ ที่นี่บ้านผมเอง ส่วนคนอื่นๆที่คุณว่าไม่อยู่แล้วล่ะครับ” ด้วยความซื่อ(บื้อ)ของเจ้าคนที่กำลังเดินรอบห้องเลยไม่เข้าใจความหมายของคำ พูดของคนที่เอ่ยออกมาด้วยเสียงเศร้าสร้อยนั้น


    ไม่อยู่แล้ว??
    เขาไปอยู่ที่อื่นกันงั้นหรอ??
    ไม่กลัวลูกตัวเองโดนฉุดรึไงกันนะ หน้าตายิ่งน่ากิน เอ้ย! น่ารักอยู่


    “หมายความว่ายังไงกันน่ะ ไม่อยู่แล้วที่ว่า?”

    “ คือ พ่อกับแม่ของผมท่านเสียไปด้วยอุบัติเหตุตั้งแต่เมื่อ 10 ปีก่อนแล้วล่ะครับ บ้านนี้เป็นบ้านของคุณยายที่ผมย้ายมาอยู่ด้วย แต่ว่าท่านก็พิ่งเสียไปเมื่อปีที่แล้วล่ะครับ” น้ำเสียงเศร้าสร้อยถูกกล่าวออกมาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างธรรมชาติ ซึ่งดูขัดกันเสียจริง

    ตายแล้วงั้นหรอ??
    นี่เรา ไปถามอะไรบ้าๆแบบนั้นออกไปได้ไงกันนะ ไม่น่าเลย...

    “ นี่นายน่ะ เล่าเรื่องเศร้าๆแบบนั้นออกมาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแบบนั้นได้ยังไงกันนะ ไม่เสียใจบ้างเลยรึไง?” เมื่อถามคำถามออกไป คนฟังก็ยังยิ้มอยู่อย่างงั้น พร้อมกับคำตอบที่น่าทึ่งสำหรับคนถามเสียเหลือเกิน

    “ไม่ หรอกนะครับ เพราะสำหรับผมน่ะ พวกท่านยังไม่ตายจากไปไหนสักหน่อย พวกท่านจะยังคงอยู่ในหัวใจของผม ถึงแม้ว่าร่างกายของพวกท่านจะแหลกสลายไปแล้วก็ตาม แต่จิตใจและดวงวิญญาณของพวกท่านที่ยังคอยเป็นห่วงผมเสมอมา จะยังคงอยู่ในนี้ตลอดไปนะครับ” พูดพร้อมกับนำมือของตัวเองชี้ไปที่หน้าอกข้างซ้าย ซึ่งเป็นที่อยู่ของ หัวใจ

    นี่นาย อายุเท่าไหร่กันเนี่ย?
    ตัวก็เล็กแค่นี้ ทำไมถึงได้คิดอะไรเป็นผู้ใหญ่ได้ขนาดนี้นะ
    มันทำให้ฉันรู้สึกว่า ฉันกลายเป็นเด็กไปเลยล่ะ
    ฉันนับถือนายจริงๆเลยนะ ยูริ

    “ นะ นายเนี่ย น่านับถือจริงๆเลยนะ นายอายุเท่าไหร่กันน่ะ?”

    “ปีนี้ผมอายุ 18 แล้วล่ะครับ^^” เป็นตัวเลขอายุที่น่าทึ่งจริงๆ ตัวแค่เนี้ย!

    “ 18 ! ตัวแค่เนี๊ย 18 แล้วหรอเนี่ย??”

    “แล้วทาคาคิซังล่ะครับ ตัวเท่านี้อายุเท่าไหร่?^^” เมื่อถูกถามาเขาก็ต้องถามกลับเป็นธรรมดาใช่มั้ย? แต่เหมือนจะเป็นเชิงหยอกล้อซะด้วยนะ

    “ ฉันน่ะหรอ? ฉันอายุครบ 21 ก็วันนี้แหล่ะ” รอยยิ้มที่ดูฝืนๆผุดขึ้นบนใบหน้าของเขา  ยิ่งพูดถึงมันก็มีแต่จะยิ่งเศร้า แฮะ ถ้าให้เทียบกัน ชีวิตเรากับยูริ ใครน่าเศร้ากว่ากันนะ

    “อะ วันนี้วันเกิดของคุณหรอครับ ถ้างั้นรอผมแปปนึงนะครับ เดี๋ยวผมมา” พูดจบรีบวิ่งออกไปนอกห้องโดยที่ทิ้งอีกคนที่ยืนเอ๋อ อยู่ให้ยืนอยู่ภายในห้อง คนเดียว


    แอ๊ดดด ด!!


    “ทา คาคิซังครับ หลับตาหน่อยสิครับ” ประตูห้องเปิดออกพร้อมกับใบหน้าหวาน ที่ยื่นหน้าเข้ามาภายในห้องพูดกับร่างสูงด้วยน้ำเสียงราวกับออดอ้อนอย่างน่า รักน่าเอ็นดู

    “ทำไม หรอ อ่า นะ นายอย่าทำหน้าอย่างงั้นสิ ก็ได้ๆ หลับก็หลับ” ถามออกไปด้วยความอยากรู้ แต่เมื่อเจอลูกอ้อนของร่างบางที่ทำหน้าอย่างกับลูกแมวน้อยหลงทาง แบบนี้เขาจะปฏิเสธลงได้ยังไงกันหล่ะ??

    เมื่อเขาหลับลงก็รู้สึกว่าห้องที่ดูสว่างๆบัดนี้ได้มืดลงแล้ว แล้วรู้สึกถึงว่ามีคนได้เข้ามาอยู่ในห้องนี้อีกคนนึงแล้ว แล้วรู้สึกว่ามีแสงสว่างเล็กๆมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา

    “ทาคาคิซัง ลืมตาได้แล้วครับ”

    เมื่อเขาลืมตาขึ้นมา เขาก็พบกับสิ่งที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมาอยู่ในที่นี่ เวลานี้ได้เร็วขนาดนี้

    “ เค้กวันเกิด มีชื่อฉันด้วยหนิ นายให้ฉันหรอ?” ถามออกไปด้วยความงุนงง ใช่ สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ก็คือ เค้กวนิลาก้อนไม่ใหญ่ไม่เล็กนัก ขนาดปานกลาง มีเทียนปักอยู่รอบๆ พร้อมกับครีมที่เขียนเป็นชื่อเขาพร้อมกับคำว่า “ HAPPY  BIRTHDAY”

    “ ครับ สุขสันต์วันเกิดนะครับ^^” กล่าวออกมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่จริงใจ แต่ก็นั่นแหละที่ทำให้เขาสงสัย

    เวลาแค่นั้น ไปเค้กมาจากไหน? ไม่ได้รู้มาก่อนเสียหน่อยว่าวันนี้วันเกิดเค้านะ?

    “ นี่ แล้วเวลาแค่นั้น นายไปเอาเค้กก้อนนี้มาจากไหนน่ะ ? นายไม่ได้รู้ว่าก่อนซะหน่อยว่าวันนี้มันเป็นวันเกิดฉันน่ะ”

    “อ๋อ ... ผมเปิดร้านเค้กน่ะครับ ก็เลยไปเอาเค้กที่มีอยู่มาแต่งอะไรเพิ่มนิดหน่อยแล้วก็เขียนชื่อคุณลงไปน่ะ ^^” คำตอบที่เขาได้ยินทำให้เขาอึ้งไปอีกรอบ


    นี่นาย...
    จะเข้มแข้งอะไรขนาดนี้นะ...
    นายนี่สุดยอดเลยจริงๆนะ  


    “ นายนี่สุดยอดเลยจริงๆนะ ฉันนับถือนายจริงๆ” พูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้มอ่อนๆประดับบนใบหน้าที่หล่อเหลานั้น

    “เอ๋? ทำไมหรอครับ ?” ถามออกไปด้วยความงุนงง เค้าทำอะไรงั้นหรอ?

    “ไม่มีอะไรหรอก”

    “อ่า งั้นหรอครับ งั้นคุณรีบเป่าเทียนเลยสิครับ^^” ใบหน้าหวานยิ้มออกมาราวกับว่านี้เป็นวันเกิดของเขาเอง ช่างไร้เดียงสาจริงๆเลยนะ

    “ก็ได้ๆ จะเป่าล่ะนะ” ลมเบาๆถูกเป่าออกมาใส่เทียนทีปักอยู่บนเค้กก้อนนั้น ก่อนที่แสงเทียนจะดับวูบลง เมื่อเขาเงยหน้าขึ้น เขาก็ได้เห็นใบหน้าหวานที่ตอนนี้กำลังมีรอยยิ้มที่ดูจริงใจเสียเหลือเกิน ประดับอยู่บนใบหน้ากำลังถูกแสงจันทร์จากภายนอกหน้าต่างที่เปิดผ้าม่านอยู่ ต้องเอาพอดิบพอดี ใบหน้านั้นบัดนี้ถูกฉาบไปด้วยแสงจันทร์ทองอร่าม  ดวงตาใสกลมโตช่างดูหวานหยด ย้อยเสียนี่กะไร  ไหนจะแก้มกลมๆที่ดูจะนุ่มนิ่มไปหมดนั้น และยังมีริมฝีปากบางสีแดงที่ดูนุ่มน่าสัมผัสไปหมดนั่นอีก  มันทำให้เขา รู้สึกว่าเขาอาจจะหลงรักคนคนนี้เข้าให้แล้วก็ได้...
    ชั่ววินาทีที่รู้สึกตัวเขาก็พบว่า ตอนนี้หน้าของเขากับร่างเล็กตรงหน้าห่างกันไม่ถึงคืบเดียว ลมหายใจอุ่นๆที่รดต้นคอจากร่างตรงหน้าทำเอาเขาแทบลืมหายใจไปเลยทีเดียว ใบหน้าของเขาค่อยๆเลื่อนเข้าไปใกล้ร่างตรงหน้ามากขึ้นโดยไม่รู้ตัว หวังจะสัมผัสกับริมฝีปากบาง ใกล้อีกนิด ใบหน้าเข้าใกล้อีกนิด และแล้วก็ ...

    “เฮ้ย ! อะ คะ คะ ขอโทษนะ ยูริ ฉันไม่ได้ตั้งใจ” เมื่อรู้สึกว่าตัวเองทำอะไรลงไปนั้น ก็สะดุ้งแล้วรีบออกมาห่างๆจากร่างบางทันทีพร้อมกับกล่าวขอโทษอย่างทุลั่ก ทุเลด้วยใบหน้าขึ้นสีด้วยความเขินอาย ม่ต่างกับอีกคนที่ได้แต่ยืนนิ่งงุนงงกับเหตุการณ์เมื่อกี้ที่เกิดขึ้นกับตัว เอง

    “ มะ ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมรู้อยู่ ว่าคุณไม่ได้ตั้งใจ” ใบหน้าสวยก้มงุดเขินอายพูดขึ้นด้วยเสียงสั่นๆ ...


    นะ นี่เราเป็นอะไรกันเนี่ย??

    แค่ แค่เขาเริ่มเขยิบเข้ามาใกล้เรา หัวใจเราก็เต้นแรงอย่างกับจะหลุดออกมาจากหน้าอกแน่ะ ><”

    ตัวเราก็ขยับไม่ได้  มันเกรงไปหมดเลย  ... >/////<

    หรือว่าเรา จะชอบเขากันนะ....


    “ เอ่อ เดี๋ยวผมไปเปิดไฟให้นะครับ” พูดขึ้นก่อนตัวเองจะเดินไปกดสวิตซ์ไฟที่อยู่ข้างประตูห้อง

    “ ว่าแต่ที่นี่อยู่ห่างจากที่ที่เจอกันมากมั้ยล่ะเนี่ย?? รถฉันจะเป็นยังไงบ้างล่ะ?” ร่างสูงพูดขึ้นไม่รู้ว่าเพราะความเป็นห่วงรถหรืออะไรกันแน่?

    “อ๋อ ไม่เป็นไรหรอก พอดีร้านผมอยู่ห่างจากที่ที่ผมโดนทำร้ายแค่ 2 ล็อคเล็กๆเองครับ ไม่ต้องห่วงนะครับ ^^”

    “อ๋อ งั้นหรอ” พูดจบ อยู่ๆก็เกิดความเงียบขึ้นมาระหว่างตัวเขาและคนร่างเล็ก

    “เอ่อ ยังไงวันนี้ฉันขอนอนที่นี่ได้มั้ย?”

    “เอ๊ะ! ทะ ทำไมหรอครับ??” ถามออกไปด้วยความตกใจ จะนอนกับเขาที่นี่เนี่ยนะ!

    “เอ่อ ... พอดีฉันยังไม่ค่อยอยากกลับบ้านน่ะ อีกอย่างนี้ก็จะเที่ยงคืนแล้วขอนอนนี้ได้มั้ย?” ช่างเป็นข้ออ้างที่ดีเสยจริง ดีเกินไปซะด้วยนะ ยูยะ = =

    “ก็ได้ครับ แต่ว่าคุณยูยะจะนอนที่ไหนล่ะครับ เตียงผมก็เล็กนิดเดียวคนนอนไม่พอหรอกมั่ง?” เอียงคอน้อยๆน่ารักถามขึ้นมา

    “ไม่เป็นไรหรอกนา ฉันนอนได้ก็แล้วกัน” พูดก่อนตัวเองจะถืออวิสาสะเจ้าของบ้านเดินเข้าไปที่เตียงแล้วล้มตัวลงนอน ทันที ก่อนจะทุบเตียงข้างตัวเองเบาๆราวกับเรียกคนที่ยืนเอ๋อมองตัวเองอยู่นั่นให้ มานอนด้วย

    “อะไรหรอครับ?”

    “ เอ้า จะอะไรล่ะ นายก็ลงมานอนสิ” พูดหน้าตาเฉย อย่างกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น

    “ห๋า จะให้ผมนอนตรงนั้นเนี้ยนะครับ ไม่ดีมั่งครับ”

    “เอ้า ทำไมจะไม่ดีล่ะ นายก็นอนๆไปเถอะน่า ผู้ชายด้วยกันจะอะไรมากมายทำไมล่ะ” ไม่อะไรหรอกครับ ถ้าผมไม่เขินคุณขนาดเนี้ย !!

    “กะ ก็ได้ครับ นอนก็นอน” สุดท้ายด็ต้องทรุดตัวลงนอนข้างๆตัวยูยะ ก็ที่ยูยุจะหันมานอนตะแคงข้างหาเจ้าคนตัวเล็กที่นอนอยู่ข้างกาย กลายเป็นว่าตอนนี้ยูริได้นอนซุกอกร่างสูงไปเสียแล้ว ...

    “ นี่ ยูริ”

    “ อะไรหรอครับ?”

    “ขอบคุณสำหรับเค้กวันเกิดนะ ขนาดพ่อแม่ของฉันยังไม่เคยมีเวลามาทำอะไรแบบนี้ให้กับฉันเลยน่ะ”

    “ไม่เป็นไรหรอกครับ แค่เค้กวันเกิดเอง ถ้าผมซื้อบ้านให้คุณก็ว่าไปอย่าง^^” พูดหยอกล้อร่างสูงอย่างสนุกสนาน

    “งั้นหรอ ยังไงก็ขอบใจแล้วกันนะ ทั้งที่เราพึ่งเจอกันแท้ๆ แต่นายกลับทำเหมือนฉันเป็นคนสำคัญของนาย เพราะแม้แต่พ่อแม่ของฉัน ที่ตอนนี้อยู่ส่วนไหนบนโลกฉันก็ยังไม่รู้
    ท่านยังเหมือนกับว่า ฉันมันไร้ค่า ไม่มีค่าพอให้พ่อแม่สนใจ” หึ ยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่าลงไปทุกที เป็นคนที่ไม่มีค่าพอให้ใครสนใจ ด้วยความรักที่แท้จริงจากก้นบึ้งของหัวใจ...

    “อย่าพูดอย่างนั้นสิครับทาคาคิซัง คนทุกคนย่อมมีค่าในตัวเองทั้งนั้นแหละ ไม่ว่าจะผู้หญิง ผู้ชาย เด็ก ผู้ใหญ่ หรือคนแก่ ขึ้นอยู่กับว่าเขาจะทำตัวในมีค่าได้มากแค่ไหน  และสำหรับผม ทาคาคิซังเป็นเหมือนคนสำคัญของผมเลยนะครับ เพราะถ้า ไม่มีทาคาคิซัง ไม่รู้ว่าปานนี้ผมจะถูกไอ้คนพวกนั้นลากไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ทาคาคิซังมีค่า และสำคัญสำหรับผมนะครับ^^” ยิ้มหวานอย่างจริงใจถูกประดับขึ้นบนใบหน้าหวานของร่างเล็กที่นอนอยู่ข้างๆ เขา

    จิเนน ยูริ...
    นายช่างเป็นคนที่อ่อนโยนอะไรอย่างนี้นะ
    ยิ่งนายพูดแบบนี้ ยิ่งทำให้ฉันมั่นใจ

    ว่าฉันน่ะ รักนายเข้าแล้วล่ะ ...

    ถึงจะรู้จักกันแค่แปปเดียว แต่พอได้ยินคำพูดแต่ละคำที่นายพูดมา
    แต่แค่นั้นมันก็ทำให้ฉันมั่นใจได้แล้วล่ะ
    ว่าฉันรักคนไม่ผิดจริงๆ

    ขอบคุณนะ ที่เห็นว่าฉันมีค่า เป็นคนสำคัญสำหรับนาย
    แม้อาจจะคนละความหมายกับที่ฉันคิดก็ตาม...



    แต่มีเธอเท่านั้นที่มาดูแลหัวใจ บอกว่าฉันสำคัญ



    “ขอบคุณนะ ที่เห็นว่าฉันเป็นคนสำคัญน่ะ”

    “ อ่า ไม่เอาแล้วทาคาคิซัง คุณขอบคุณมาหลายรอบแล้วนะครับ ผมไม่อยากได้ยินแล้วล่ะ^^”

    “ ก็ได้ๆ แล้ว ว่าแต่ร้านนี้นายทำเองคนเดียวหรอ?” ถามออกไปด้วยความสงสัย ตัวก็แค่นี้ ถ้าทำเองคนเดียวก็เก่งไปแล้วล่ะ

    “ อ๋อ ครับ ก็ทำต่อจากยายน่ะครับ ที่ผมเล่าให้ฟัง เมื่อก่อนผมเป็นลูกมือยาย แต่ว่าตอนนี้ยายเสียไปผมเลยต้องทำคนเดียว แต่ว่าบางทีก็มีเพื่อนผมมาช่วยอยู่น่ะครับ ^^”

    “เอางี้มั้ย เดี๋ยวฉันจะมาช่วยเป็นลูกมือนายขายเค้กเอง” ยังงมันก็คงเป็นแค่ข้ออ้างมาหาคนตัวเล็กนี่เท่านั้นแหละ

    “เอ่อ จะดีหรอครับ แล้วคุณไม่ต้องไปเรียนหรอครับ?”

    “ไม่เป็นไรหรอกนา ตอนนี้ฉันอยู่ปีสี่แล้วไม่มีอะไรให้ทำมากหรอก นะ?”

    “เอ่อ ถ้างั้นก็แล้วแต่ทาคาคิซังเถอะครับ” ก้มหน้างุดเขินอาย ไม่รู้เพราะทำไม แค่เขาบอกว่าจะมาช่วยเราทำงาน
    แค่นี้ก็เขินจะตายอยู่แล้ว ><”

    “ เอาๆ นอนได้แล้วล่ะ”

    “ อ่า ครับๆ” เงยหน้าขึ้นมายิ้มหวานให้ก่อนที่หัวน้อยๆจะก้มงุดซุกลงที่หน้าอกของอีกคน

    “ ยูยะ”

    “ อะ อะไรหน่ะครับ? ร่างบางถามขึ้นอย่างสงสัย อยู่ดีๆเขาพูดอะไรออกมาน่ะ?

    “เรียกฉันว่า ยูยะ นะ มันน่าจะดูสนิทมากกว่าทาคาคิซังนะ” ยิ้มออกไปอย่างเท่ๆ ราวกับต้องการโปรยเสน่ห์ให้อีกคนที่หลงเขาจนแทบบ้าอยู่แล้ว บ้าเข้าไปอีก

    “ อ๊ะ ! ครับ ยูยะคุง ระ ราตรีสวัสดิ์นะครับ ผมนอนแล้วนะครับ ><”” รีบพูด รีบบอกราตรีสวัสดิ์ รีบซุกหน้าอกอีกคนเพื่อกลบเกลื่อนใบหน้าของตนเองที่ตอนนี้แดงเป็นลูกมะเขือ แล้ว ><”

    “ หึ ราตรีสวัสดิ์ยูริ ลูกแมวน้อยของฉัน” บอกราตรีสวัสดิ์อีกคนก่อนตัวเองจะหลับตาลงพร้อมกับเอื้อมแขนของตัวเองฉวยอกา สดึงอีกคนเข้าสู่อ้อมกอดของตัวเอง แล้วหลับไปโดยมีรอยยิ้มประดับอยู่บนหน้าอย่างมีความสุข...

    TBC

     ---------------------------------------------
    Writer Talk !
    แหม มันดูแปลกๆเนอะ แบบว่า ยาวขนาดนี้ยังไม่จบ = =
    ตอนนี้ใช้ไปทั้งหมด 15 หน้า Word ค่ะ ฟอนต์ 14 p เป็นครั้งแรกที่แต่งได้ยาวขนาดนี้ เหอะๆ
    พอดีเป็นพวกสมาธิสั้น พิมพ์ได้นิดหน่อยก็ไปทำอย่างอื่นแล้ว เลยแต่งช้า อุตส่าห์จะให้รีบๆเสร็จ แต่ก็อดวอกแวกไปทำอย่างอื่นไม่ได้ =  =

    แก้คำผิดแล้วนะคะ ^^
    ผิดอีกก็บอกเอาแล้วกันนะ -*-

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×