ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    RivailleXEren โจรสลัดกับเจ้าชายเงือก [Attack on titan}

    ลำดับตอนที่ #3 : ดาวดวงที่ 2 ดาวแห่งโชคชะตา

    • อัปเดตล่าสุด 22 ธ.ค. 56


    ดาวดวงที่ 2  ดาวแห่งโชคชะตา

    ท่ามกลางความสงสัย ดวงดาวสีทองบนท้องฟ้าส่องประกายก็ยังตกอย่างไม่หยุดหย่อน ดองตาทั้งสองคู่ประสบกัน

    หนี!!!

    หัวสมองเขาคิดได้เท่านั้น หางปลาสีสวยแกว่งอย่างรวดเร็ว ร่างของนางเงือกหนุ่งพุ่งตัวจมหายไปท่ามกลางทะเลที่ส่องสว่าง โจรสลัดหนุ่งตั้งสติได้ มองไปยังเงือกที่ค่อยๆหายไปยังก้นของทะเล

    “เฮ้ยย!! เหดี๋ยวสิ “ ไม่ทันเสียแล้ว ร่างของเงือกได้หายไปแล้ว

    “...เมื่อกี้มัน? นางเงือก? “ได้เพียงแต่มองลงไปยังผืนน้ำเบื้องร่างเท่านั้น ดวงดาวที่ยังคงสว่างไสวไม่หยุดหย่อนยังคงตกลงมา

    .........................

    “ชิ ... โดนเห็นตัวจนได้ “ การทำให้มนุษย์ได้เห็นรูปร่างของเงือกนั้นมีความผิดร้ายแรงนัก ร่างเล็กว่ายไปหลบยังโขดหินที่ห่างจากเรือโจรสลัดนั่นพอสมควร

    “จะกลับไปยังปราสาทก็ไม่ได้แล้ว..” เขาได้หนีออกมาจากงานฉลองวันเกิดของเขาเรียบร้อยหากว่ากลับไปละก็มีหวังได้นั่งฟังบ่นจนหูชาแน่  มือหนาหยิบดวงตกดวงแรกขึ้นมาในมือความสว่างของมันทำให้รู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก เกร็ดรูปดาวยังคงหล่อนออกมาเลื่อยๆ เวลลานี้ดาวตกค่อยๆบางตามากแล้ว มือหนากระชับดวงดาวในมือไว้

    “ตอนนี้...สิ่งสำคัญของฉันคืออะไรกัน....” รีไวล์เอนตัวพิงกับโขดหิน ความเหนื่อยเริ่มโจมตีเขาให้แล้ว สงสัยว่าวันนี้เขาคงต้องนอนที่นี่แล้ว ดวงตาที่ส่องประกายยามกลางคืนค่อยๆปิดลงช้าๆ

            หวังว่าพรุ่งนี้คงไม่มีอะไรแปลกๆเกิดขึ้น....

    .......................

    เช้านี้เป็นเช้าที่สดใส โจรสลัดหนุ่งรุกขึ้นจากเตียงนอนในห้องส่วนตัวช้าๆ ผมสีน้ำตาลยุ่งไม่เป็นทรง เมื่อคืนเขาคิดแต่เรื่องของนางเงือกตัวนั้นเท่านั้น

      ร่างบางรุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว วันนี้รู้สึกอากาศจะหนาวเป็นพิเศษ ผ้าคลุมสีแดงผืนใหญ่ถูกสวมไว้ หมวกโจรสลัดถูกสวม ร่างบางเปิดประตูออกไปรับอากาศพายนอก รู้สึกว่าลูกเรือของเขาจะตื่นกันหมดแล้ว

    “ว่าไง เอเลน! “เสียงหนึ่งทักขึ้น ร่างของเพื่อนสมัยเด็กผมสีทองวิ่งมาหา

    “อรุณสวัสดิ์ อาร์มิน “ เอเลนยิ้มทักทาย อาร์มิน อัลเลตโต้ เป็นแหล่งข้อมูลของเรือโจรสลัดแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเกาะต่างๆ เรือ หรือแผนที่ แค่เอ่ยออกมา อาร์มินก็ตอบให้ได้

    “ว่าแต่มิคาสะละ? “ ถามหาเพื่อนอีกคนที่รู้สึกว่าปกติจะมาทักทายเขาตลอดเลย

    “ไปซ้องดาบอยู่นะครับ นั้นไง” อาร์มินชี้นิ้วไปทางด้านหน้า

    เค้ง เคร้ง!

    เสียงของดาบเล็กที่กระทบกัน ร่างของชายหนุ่งผมสีดำกำลังต่อสู้กับชายผมทอง

    เคร้ง!!

    แรงต่อสู้ของทั้งสอง ดาบที่กระทบกันกระเด็นออกจากมือ การดวนกันครั้งนี้ถือว่าเสมอ

    “ว่าไง อรุณสวัสดิ์ ฝึกแต่เช้าเลยนะ” เอเลนเดินเข้ามาทักทายทั้งสอง

    ชายหนุ่มผมสีทองดวงตาสีฟ้า ใบหน้าเรียบเฉยเหมือนปกติ ขนาดเขาเป็นกัปตันเจ้าหมอนี่ก็ไม่เคยแม้แต่จะอรุณสวัสดิ์เขาเลย

    “นี่ แอนนี่ ไม่ทักทายเอเลนหน่อยหรอ “อาร์มินยิ้มเจื่อนๆให้ชายหนุ่มตรงหน้า

    “ดี....” พูดสั้นๆเท่านั้นก่อนจะสะบัดตัวเดินไปเก็บดาบเล่มเล็กของตัวเอง

    “ไงเอเลน..” ชายหนุ่มอีกคนทักขึ้น ผ้าผันคอแสนสำคัญถูกหยิบมาสวมไว้แบบตั้งเดิมหลังการต่อสู้

    “ไง มิคาสะ นี่นายไม่ต้องฝึกดาบก็ได้มั้ง เก่งขนาดนี้แล้วไม่ว่าใครก็ชนะไม่ได้หรอก” เอเลนพูดความจริง ตั้งแต่เด็กแล้วที่เพื่อนคนนี้คอยช่วยตัวเองไว้ตลอด การต่อสู้ที่สุดยอดจนหาคนล้มได้ยาก มิคาสะถือว่าเป็นลูกเรือที่เก่งที่สุดเลยก้อว่าได้ ส่วนที่เก่งไม่แพ้กันก็คงเป็น แอนนี่ ที่รู้สึกจะไม่เคยแยแสเขาซักนิสสส

    “ก็ฉัน...อยากปกป้องเอเลน” น้ำเสียงเบาๆพูดขึ้นจากปากชายหนุ่มผมดำ

    “เอ๋?..เมื่อกี้นายพูดว่าอะไรนะ”

    “ไม่มีอะไร “ ตีสีหน้านิ่งตามปกติ

       ขอแค่ได้อยู่กับนาย ได้ปกป้องนาย ฉันต้องแข็งแกร่งมากกว่านี้ให้ได้

    “กัปตันครับ!....” ลูกเรือคนหนึ่งวิ่งมาหาเอเลน

    “มีอะไร? “

    “คือว่า สเบียงเนื้อของเราใกล้จะหมดแล้วครับ” สเบียงที่จะเก็บเอาไว้กินตลอดการเดินทางนี้

    “หา!!!” เขาจำได้ว่าเสบียงเขาขนมามากพอจะกินได้นานอยู่แล้ว แต่น่านไปแค่คืนเดียวเสบียงมันหายไปไหนหมด!!

    “มันหายไปไหนหมดกัน? กว่าจะถึงเกาะที่มีเมืองอยู่ก็ตั้งหลายวันนะ! “เอเลนร้องโวย ใครบังอาจมากินจนหมดกันฟร่ะ

      อ้อ.... 

    หัวสมองเริ่มคิดอะไรได้ก่อนจะหันหลังกลับไปมองลูกเรือคนหนึ่งที่หลบหลังลังไม้ขนาดใหญ่

       ไม่ต้องเดาก็รู้แล้ว ยัยนั้น....

    “ชาซ่า...” พูดเสียงดังๆออกไปร่างที่ซ้อนอยู่ก็สะดุ้งเฮือก แต่ก็ไม่ออกมาซักสี เอเลนหันไปพยักหน้าให้มิคาสะที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ดูถ้าว่าคราวนี้ยัยนั้นได้ตายแน่

    ร่างชายหนุ่มผมสีดำเดินตรงไปยังลังไม้นั้น มือหน้าที่ด้านจากการจับอาวุธคว้าเสื้อสีน้ำตาลของคนนั้นแล้วลากแบบไม่ยัยดีออกมาหน้าเอเลน

    “กรี้ดดด ปล่อยฉันน้า “ร่างนั้นโวยวาย มิคาสะคว้างร่างนั้นลงหน้าเอเลน

    “ยัยชาซ่า! นี่เธอขโมยอาหารพวกเราไปกินหมดเลยใช่ไหม!!!” อย่ามาโหกหนะ ในมือของแกยังถือเนื้อหมูอยู่เลย!

       เด็กสาวผมสีน้ำตาลเงยหน้าขึ้นมาอย่างหวาดๆ มือที่ถือเนื้อหมูเอาไว้ซ่อนไว้ข้างหลัง

    “เค้าขอโทดดดด เอเลนนน ทำไงได้ก็คนมันหิวนี่นา “พูดไปก่อนจะหยิบเนื้อหมูมากินต่อน่าต่อตา

       มันน่าฆ่านัก!!!

    “ยัยนี่.....” คิ้วสีน้ำตาลขมวดเข้าหากัน มันยากที่จะห้ามใจไม่หยิบมีดของมิคสะมาเจาะยัยนี่

    “เห้อ... คงต้องจับปลาแถวนี้เอาแล้ว อีกหลายวันกว่าจะไปเจอเมืองที่อยู่แถวๆนี้” เอเลนส่ายหัวเบาๆ เมื่อพูดออกไปว่าคงต้องกินเนื้อปลาก็รู้สึกว่าลูกเรือเขาจะทำสีหน้าแหยงๆ

     ก็แน่ละ เดินทางคราวก่อนต้องกับปลามากิน แถมปลาครั้งจับปลามีพิษได้นี่ยุ่งเลย แถมต้องกินติดต่อกัน เขาว่าอีกไม่กี่วันเขาคงได้กลายเป็นปลาแน่นอน

    “นี่เอเลน ผมคิดว่าเราควรไปจับปลาแถวๆโขดหินนั้นดูนะครับ” อาร์มินชี้ไปทางโขดหินใหญ่ข้างหน้า พวกเขาคิดว่าปลามันจะชอบมารวมตัวกันตรงโขดหินที่มีพวกอาหารของมันอยู่ และก็จริงอย่างที่ว่า พวกเขาจับแบบนี้ทีไรได้ปลาเยอะทุกที เรือโจรสลัดลำใหญ่ค่อยๆเคลื่อนตัวไปบริเวรณนั้น แล้วก็จริงอย่างที่คิด เมื่อรองก้มดูน้ำทะเลสีใส ก็พบปลาจำนวนมากว่ายแถวๆนั้น ทุกคนต่างพากันหยิบอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแห เบ็ดตกปลา ทุกคนต่างนั่งตามขอบเรือ หาตำแหน่งเจ๋งๆในการตกปลา เอเลนเลือกนั่งบริเวณใกล้ๆโขดหินใหญ่ เอาขนมปังเกาะเบ็ดตกปลาไป คว้างไปแถวๆนั้นหวังให้ปลามันกิน รอไปได้ไม่นานปลาตัวเล็กใหญ่ก็ติดกับ เมื่อได้ปลามาทุกคนก็โยนมันไปใส่ในถังเหล็กที่อยู่ข้างๆ

    “หนาวชะมัดเหะ... หรือว่าใกล้หน้านาวแล้วนะ “เอเลนบ่นเบาๆ ในมือยังของตวัดเบ็ดไปเลื่อยๆ

    กึก!...

    เอ๋?

    เบ็ดในมือเหมือนเกี่ยวอะไรเข้าดึงก็ดึงไม่ออก

    “เฮ้ ออกสิวะ” ดึงแรงขึ้นเลื่อยๆ

    “โถ่เว้ยย!!! “ออกแรงดึงเต็มที่พร้อมเสียงร้อง

    “โอ้ย!!! “ เสียงร้องดังมาจากหลังโขดหิน พร้อมกับร่างหนึ่งโผล่หัวขึ้นมา

    “ใครมาตกปลาแทวนี้วะ!!” รีไวล์ร้องตะโกน เบ็ดเมื่อกี้สงสัยจะไปเกาะเนื้อที่แขนเขา พอเอเลนออกแรงเฃดึงหนังส่วนนั้นเลยติดเบ็ดไปด้วย เลือดสีแดงไหลอาบแขนข้างซ้าย

    “นาย!!...รู้สึกว่าเขาจะลืมตัวไปหน่อยเลยตะโกนออกไปโดยที่ไม่รู้เลยว่านั้นเป็นมนุษย์ที่เจอเมื่อวาน

    “เวรละ” พยายามจะหนีแต่บาดแผลที่แขนทำให้รู้สึกปวดเมื่อขยับ เอเลนที่ได้จังหวะจึงรีบไปหยิบแหของลูกเรือข้างๆมาหว่านเอาไว้ เจ้าชายเงือกจึงถูกจับโดยปริยาย....

    .

    .

    .

    เงือกหนุ่มถูกแบกขึ้นมาบนเรือ ทุกคนต่างพากันมุงเงือกหนุ่ม บ้างก็เอานิ้วๆจิ้มๆ บ้างก็เอาไม้แหย่ เอเลนให้ลูกเรือแบกเงือกหนุ่มให้ไปอยู่ในห้องของตน โรงแก้วสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ถูกเติมน้ำจนเต็มก่อนจะหย่อยร่างของเจ้าชายเงือกลงไป โรงแก้วที่เอาไว้ประดับห้องเอเลนกลายเป็นที่เลี้ยงนางเงือกเสียแล้ว เงือกหนุ่มกุมแขนที่เลือดไหลไม่อยู่ ตู้แก้วขนาดใหญ่กว่ารีไวล์พอสมควร แต่คงว่ายไปไหนไม่ได้ได้แต่นั่งอยู่เฉยๆ เอเลนปิดปรระตูเดินมามองนางเงือกที่จับได้อย่างบังเอิญ

    “นี่...โทดทีนะ” เอเลนยื่นมือไปหวังจะคอดูแผลแต่กลับถูกปัดตัวหางสีฟ้าสวย

    “อย่ามาจับเจ้ามนุษย์..” ภาษามนุษย์ถูกเอ่ยขึ้นจากปากหนาถึงจะพูดอย่างงั้นแต่เลือดนั้นก็ไหลเยอะจนเอเลนอดห่วงไม่ได้ โจรสลัดหนุ่มเดินไปหยิบกล่องพยาบาลที่วางอยู่บนโต๊ะออกมา

    “นี่ ถ้านายไม่ทำแผลมันก็ไม่หยุดไหลซักทีรอกนะเลือดนะ” เอเลนดึงแขนที่มีแผลออกมาอย่างแรง รีไวล์ร้อง โอ้ย ออกมาเบาๆ เอเลนหยิบผ้ามาเช็ดให้แห้งก่อนจะเอาสำลีชุปยาฆ่าเชื้อแล้วทาเบาๆบริเวณปากแผล แผลมีขนาดยาวไม่มาก จากหัวไหลลงมาไม่กี่เซน

    “นายชื่ออะไร?..” เอเลนเอ่ยปากถามขนาดกำลังผันแผลให้ เงือกหนึ่งมองซักผักอย่างชั่งใจก่อนจะเอ่ยออกมาเบาๆ

    “รีไวล์...” เอเลนเบิกตาขึ้นอย่างตกใจ นึกว่าจะไม่คุยด้วยเสียแล้ว

    “รีไวล์? ชื่อเพราะดีนะ ฉันเอเลน ยินดีที่ได้รู้จักรีไวล์” เอเลนยิ้มยื่นมือไปทักทายแต่ก็โดนหางสีสวยนั้นปัดอีกแล้ว

    “แค่ให้ทำแผลให้ก็อย่าได้ใจไปเจ้ามนุษย์ คิดจะมาทำร้ายร่างกายเจ้าชายรึไง” รีไวล์พูดออกไป คำว่าเจ้าชายทำให้เอเลนตกใจอีกครั้ง

    “เจ้าชาย?...อย่าบอกนะว่านายเป็นเจ้าชาย” เอเลนถามออกไป แต่คราวนี้รู้สึกว่ารีไวล์จะไม่ค่อยสบอารมณ์มากกว่าเก่า หางสีฟ้าคราวนี้หันไปปัดหน้าเอเลนแท

    เพี้ยะ!!

    “โอ้ย นี่นายทำอะไรนะ” มือลูบแก้มที่แดงเบาๆ

    “หึ ใช่ฉันเป็นเจ้าชาย แล้วจงรู้ไว้ซะ แกนะอายุห่างจากฉันอย่ามาเรียกแบบนี้อีกเจ้าหนู” รีไวล์เปรยตามอง

    “อ้าว แก่กว่าฉันงั้นหรอ?”

    เพี้ยะ!!

    .

    .

    .

     

    “เอาละเสร็จซักที..”หลังจากผันแผลให้เจ้าชายก็ต้องเปลี่ยนมาทายาที่แก้มตัวเองแทน ดวงตาสีเขียวกวาดตามองเงือกหนุ่มที่นั่งอย่างไม่สบอารมณ์

    “นี่ หายโมโหซักทีสิ รีไวล์..อะ เจ้าชายรีไวล์ “ เอเลนยิ้มไปให้ ก่อนจะยื่นมือมา

    “ฉันจะดูแลนายไปก่อนนะ เจ้าชาย “ รีไวล์มองมือนั่งนิ่งๆ มือหน้าตบฝ่ามือนั้นเบาๆแทนการจับมือ

    “เออ....”

    เอเลนยิ้มนิดๆกับท่าทีอีกคน

      เจ้าชายเงือกงั้นหรอ....

    อ่า..การเดินทางครั้งนี้ไม่น่าเบื่อแล้ว หวังว่าคุณคงเป็นสิ่งสำคัญที่ผมตามหานะ...รีไวล์...

    .

    .

    .

    ..........................

    จบไปแล้วค่ากับตอนที่ 2 ไรเดอร์บอกแล้วว่าดองแน่นอน พอดีว่าช่วงนี้ที่โรงเรียนมีงานเยอะมากกก แทบตาย แต่ก็จะพยายามมาปั่นนะคะ ><

    ติชมได้ตามบายคร่า อิอิ

    ใครอยากคุยหรือสอบทางเกี่ยวกับนิยายก็ไปที่ Face book :: ผู้ชายคนหนึ่ง ในความหวังสีดำ:: ได้เลยนะคะ

    ถ้ามีอะไรอยากสอบถามอะนะ ตอนนี้ก็คงต้องขอบ้ายบายก่อนน้า

      ถ้าคำไหนผิดๆก็พยายามอ่านเอา แอดมินตกภาษาคะ #ผิด

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×