ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Love again ขออีกครั้ง ได้ไหมว่ะเพื่อน !? (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #2 : 2nd Jumble : What’s this happen its ?!,

    • อัปเดตล่าสุด 9 ต.ค. 54




    2nd JUMBLE : What’s this happen its ?!,

     


                เกิดอะไรขึ้นกับผม ทำไมหัวใจผมเต้นรัวเป็นจังหวะกลองแบบนี้


                                                                                                                แบ่งปัน :’))


                                      ………………… ~ Love again !

     




    ผมนั่งมองร่มสีขาวใสที่กางผึ่งอยู่หน้าห้อง พลางคิดถึงคำพูดของไอ้เกมส์ที่บอกผมเมื่อเช้านี้ มันอะไรกันว่ะเนี่ย ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว ผมทึ้งหัวตัวเองอย่างรำคาญ





    “ ไอ้ปัน มึงเป็นห่าไร ทึ้งหัวเหม่งๆอยู่นั่นแหละ อ.ทิพย์ แกมองมึงแล้วนั่น” ผมมองไปหน้าห้องก็เจ๊อะกับรอยยิ้มพิมพ์ใจที่ชวนหดหู่ใจผมเหลือเกิน อ.ทิพย์ แกยิ้มบางๆให้แต่นัยความหมายมัน มีงานเข้าแล้วกูไอ้เติมที่คุยกับผมเมื่อกี้หันกลับไปนั่งจดตัวอย่างโจทย์คณิตบนกระดานอย่างเขมักเขม่น ขอบอกเลยว่าไอ้เติมมันจริงจังกับการเรียนมากเลยช่วงนี้ มันหวังจะเอาหมอ เอาหมอในที่นี้หมายถึง จะเข้าเรียนคณะหมอ ไม่ใช่เอาหมอมาเป็นเมียมันนะ !! ส่วนผมนะเหรอ ….. ยังคิดไม่ออกเลยว่าอนาคตจะเรียนอะไรดี - -“




    “ เติมๆ มึงจดไปนะ เดี๋ยวกูเอาไปลอก วันนี้กูเบลอๆว่ะ” ผมโน้มตัวไปกระซิบด้านหลังไอ้เติมมัน ก่อนจะฟุบหัวลงนอนบนเก้าอี้เลคเชอร์ที่มีความข้อต่างๆนาๆตั้งแต่ชาติก่อนนู้นแหนะ ลบไม่ออกสักที หลับตาลงทีไร ผมก็ดันไปคิดถึงเรื่องเมื่อเช้าตลอดเลย ไอ้เกมส์มันเป็นเพื่อนผมที่อยู่กันคนละห้อง ผมรู้จักมันเพราะเราทำกิจกรรมการแสดงของโรงเรียนและกิจกรรมอื่นๆ ร่วมกันอยู่บ่อยๆครั้งและมันก็เป็นเพื่อนเก่าของมาร์คเพื่อนกลุ่มเดียวกับผม ไอ้เกมส์มันเป็นสุภาพครับ เทคแคร์คนอื่นดีมากๆ ใจดี ดูอบอุ่น เรียนเก่งด้วย และที่สำคัญมันมีแฟนแล้วครับ แฟนมันก็เป็นเพื่อนผมเช่นกัน ชื่อ ไหม ทั้งคู่ดูรักกันมากเลยล่ะ จนเมื่อเช้านี้ความมั่นใจว่าทั้งคู่รักกันอยู่นั้นจริงหรือเปล่า เพราะคำพูดของไอ้เกมส์คนเดียว ทำให้ผมคิดมากขนาดนี้




    “ นายภควัต แอบหลับในห้องเรียนอีกแล้ว ไปยืนหน้าห้อง !! ” ซวยอีกแล้วกู :’(




     

                                        ………………………. ~ Love again !

     



    พอถึงเวลาพักเที่ยงผมกับไอ้เติมก็เดินลงมากินข้าวระหว่างทางพวกผมก็เจอไอ้ฟงกับไอ้ป้อที่กำลังม้อเด็กน้อยม.ต้นอยู่ ตรงหัวมุมทางเลี้ยงตรงบันได




     

    “ เชี่ยป้อ มึงจะพาไอ้ฟงนอกใจดิวหรือยังไงว่ะ” ไอ้ป้อเลิกคิ้วอย่างกวนตีนให้ไอ้เติมมัน ไอ้ฟงมันก็พอๆกัน เชี่ยนี้แมร่งมีแฟนแล้วยังจะมักมากอีก

     

    “ กูแค่เล่นๆ ไม่จริงใจไร มึงอย่าไปบอกดิวนะ ยิ่งงอนเก่งอยู่” หึหึ เดี๋ยวกูจะอัดคลิปตอนมึงม้อเด็กให้ดิวมันดู

     



    “ พวกมึงกินข้าวกันยัง” เออว่ะ ! ผมลืมไปเลยว่าผมหิวข้าว มัวแต่คิดจะหาทางดัดนิสัยไอ้ฟงมัน ผมกับไอ้เติมส่ายหัวดิ๊กๆ พวกมันยิ้มก่อนจะชวนพวกผมไปกินข้าวด้วยกัน ผมมาโรงอาหารทีไร รู้สึกมีความสุขทุกที เพราะที่โรงอาหารทำให้เราได้เจอใครหลายคน ได้ทักทายกัน พูดคุย ผมว่าช่วงเที่ยงนี้แหละเหมาะสมกับความรู้สึกสุขใจจริง ๆ พวกผมนั่งลงที่โต๊ะประจำแถวริมสุดของโรงอาหารติดขอบเลยล่ะ เนื่องจากโรงเรียนเรามีเนื้อที่เยอะและโรงเรียนต้องการลดภาวะเรือนกระจก จึงทำการปลูกต้นไม้บริเวณที่โล่งหรือที่ที่โรงเรียนยังไม่มีโครงการปลูกสร้าง (ยังไม่ได้สร้างอะไร แต่ความจริงแล้ว มันไม่มีโครงการอะไรอยู่แล้ว งบมันหดไปกับ ผอ.) พวกผมนั่งได้สักพัก เพื่อนของผมที่เหลือก็ตามกันมา คนแรกก็ไอ้มาร์ค ไอ้อู๋ ไอ้คิม ก็ตามๆกันมา พอพากันมาถึงก็ต่างโบกหัวผมคนละที

     



    “ โบกกูไม สัด ? ” กูทำอะไรให้มึงยัง พวกเวนนิ มันพากันขำที่เห็นผมทำหน้าโกรธๆ

     



    “ ก็โทษฐานทีมึงหัวเกรียนคนเดียว จริงมั๊ย ไอ้คิม” ไอ้อู๋เป็นคนเฉลยปริศนาการโบกหัวผม ก่อนจะหาตัวช่วยสนับสนุนมึง แต่ไม่ใช่แค่ไอ้คิมคนเดียวที่สนับสนุนนะครับ พวกเชี่ยที่เหลือก็เห็นด้วยตามๆกัน

     



    “ มันไม่ใช่ความผิดกูเว้ย ผิดที่ อ.กิต นู้ ที่อยู่ๆก็เดินมาแหกกูอยู่ในห้อง ” เมื่อวานผมนั่งเรียนอยู่ในห้องกับไอ้เติมมันดีๆ และอุตส่าห์นั่งตัวลีบๆให้ไอ้เติมบังให้อีก ก็ยังไม่พ้นสายตา อ.กิตแกอีก สงสัยแกกินวีต้าร์บำรุงสายตาทุกวันแน่ ๆ ตายังกะเหยี่ยว

     



      พอเลย หยุดหัวเราะกูได้แหละ ไปๆหาไรกิน แมร่งจะหมดก่อน” ผมตัดบทสนทนา ก่อนมันจะล้อผมมากไปกว่านี้ ถ้ามันยังคุยกันต่อนะ ผมคงเป็นโรคกระเพาะแน่ ๆ ข้าวเที่ยวหมดชัวร์ป๊าบ จะไม่ให้หมดได้ยังไง รุ่นน้องโรงเรียนผม มันปอบลงกัน พากันซื้อข้าว ซื้อขนม ยังกับไม่ได้กินมาเป็นชาติ




     

    “ ฮ่า ๆ ,, เออ ๆ กูจะกินร้านแม่ปุ้ยนะเว้ย กินมา 6 ปีแหละ ไม่เคยเบื่อ J” เออเชิญกินไปคนเดียวแล้วกันเชี่ยเติม

     



    “เติม แมร่งกะจะกินร้านแม่ปุ้ยไปจนจบใช่มั๊ย ร้านเฮียหมู ร้านป้าราตรี ร้านอื่นๆ มึงไม่คิดจะแดก แสสสส” เป็นไอ้ฟงครับที่ว่าไอ้เติมมัน สองคนนี้มันชอบกัดกัน ไม่รู้มันเป็นอะไรกัน ชอบพูดดักคอกันตลอดเลย ขณะที่ผมกำลังลุกจากโต๊ะจะไปซื้อข้าวมากิน ก็โดนไอ้มาร์คดักขึ้นมาก่อน

     



    “ กูว่ามันขาดไปคนหนึ่งนะ เออ ! ไอ้เกมส์ไง มันยังไม่มาเลย คิม มึงบีบีหามันดิ๊ ว่าอยู่ไหน” เออว่ะ ผมลืมมันไปเลยว่ามันเป็นเพื่อนผม เพราะเรื่องเมื่อเช้านั้นแหละที่กวนใจผม ไอ้คิมพยักหน้าแล้วล้วงบีบีขึ้นมากด

     




    “ คาบเมื่อกี้มันว่างนะมึง ไม่ใช่มันแดกแล้วขึ้นไปจองที่นอนรอแล้วเหรอ”ไอ้อู๋มันบ่นขึ้นมา ทำให้มันคนอื่นๆคิดตาม



    คลิก !


    “ มันบอกว่าแดกเลย มันไม่ค่อยหิว”ไอ้คิมมันหันบีบีมาให้พวกผมดูว่าไอ้เกมส์มันบอกอย่างไร มึงพูดพวกกูก็เข้าใจว่าไอ้เกมส์มันไม่หิว แต่มึงไม่ต้องหันบีบีหน้าจอรูปน้องดรีมให้พวกกูดูก็ได้ สัด !! อิจฉามัน

     



    “ เชี่ยคิม มึงเย้ยกูเหรอ เอารูปน้องดรีมให้พวกกูดูอ่ะ”ไอ้อู๋มันว่าพลางดึงบีบีไอ้คิมมาดู ไอ้คิมมันเหวอก่อนจะชิงบีบีกลับมาพร้อมดูหน้าจอบีบีมัน




     

    “ ขอโทษเว้ย ! สงสัยกดออกเมื่อกี้”มันว่าพลางขอโทษ ไอ้มาร์คมันสะกิดผมก่อนจะยื่นบีบีมันมาให้ผมดู ผมเงยหน้ามองมัน ผมก็เชิดหน้าไปที่บีบีมัน ผมจึงสนใจบีบีมันต่อ ก่อนจะตกใจกับข้อความบนบีบีมัน




    ไม่ให้ตกใจได้ยังไงกัน ก็ข้อความนั้นมัน เชี่ยเอ้ย !!!


     

    Master’ games

    กูไม่อยากเจอหน้าไอ้ปันเลยมึง กูไม่ไปแดกข้าวนะ


     

    เชี่ยเกมส์ !! มึงโกรธอะไรกูว่ะ เมื่อเช้ามึงดีกับกูเพื่ออะไรล่ะ ?? ผมปรับอารมณ์ ความรู้สึกไม่ทันเลยครับ พออ่านข้อความมันเสร็จผมแทบขึ้น แต่เมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อเช้าก็สับสน ความคิดตีกันในหัวหมดแล้ว


     

    “ มึงสองคนมีปัญหาไรกันว่ะ บอกกูได้นะ” ขอบใจว่ะมาก แต่กูยังไม่รู้เลยว่าปัญหามันคืออะไร

     




    “ กูก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะมาร์ค ว่าไอ้เกมส์มันเป็นเชี่ยไร แต่ตอนนี้ไปซื้อข้าวเถอะ ไอ้พวกนั้นมันไปกันหมดแล้ว เพื่อนเวนนนนนน” ผมตัดบทดังฉับ แล้วลากไอ้มาร์คไปร้านข้าว




     

    ทำไมแถวมันยาวอย่างนี้ว่ะ !!

     




    “ มาร์คมึงต่อแถวไว้นะ กูจะไปซื้อน้ำก่อน มึงเอาน้ำอะไร ?

     



    “ เอาโคล่าแก้วใหญ่ เดี๋ยวกูเอาตังค์ให้”แค่ 12 บาทให้กูก่อนไม่ได้หรือไงไอ้มาร์ค ช่วงนี้กูยิ่งเงินหดอยู่ ผมเดินไปยังซันดิวที่เปิดขายน้ำตลอดเวลา ตอนนี้มันมีขายพวก กาแฟ โกโก้ด้วยแหละ ไม่ได้ขายแต่พวกน้ำอัดแก๊สแล้ว ดีใจโคตรๆ ทำไมคนเยอะอีกล่ะเนี่ย ตู้ซันดิวมันมีหลายตู้นะ ทำไมต้องมารุมตู้ที่กูจะไปซื้อด้วยเนี่ย

     




    “ ป้าครับ โคล่าแก้วใหญ่ แล้วก็โกโก้ผสมชาเย็นแก้ว 8 ครับ”ผมสั่งแทรกเด็กเลยครับ ยืนมุงอยู่นั้นแหละ สั่งก็ไม่รีบสั่ง พอผมสั่งเสร็จเด็กพวกนั้นก็มามองผมใหญ่ แต่พอเห็นจุดสามจุดสีน้ำเงินที่คอปกผม ก็หันหน้ากลับไปเช่นเดิม

     



    ขอโทษ ที่นี้ใครใหญ่ !!




     

    “ ป้าครับ น้ำเปล่าขวดหนึ่ง” แล้วก็มีเสียงทุ้มๆดังขึ้นมาข้างหลังผม ว่าแต่เสียงมันคุ้นๆนะ ผมหันไปมองว่าใครที่มาสั่งข้ามหัวผม มันต้องสูงชัวร์ คือแบบผมตัวเล็กอ่ะนะ พอหันไปก็เจอหน้านิ่งๆของคนบางคนที่บอกว่าไม่เจอหน้าผม แต่ไหง๋ตอนนี้จ้องหน้าผมไม่วางตา




     

    “ ทำไมไม่ไปกินข้าว” มันยังคงมองหน้าผมอยู่และไม่มีท่าทีจะตอบ ผมจึงเลื่อนหน้าไปใกล้ๆมัน แล้วแกล้งเอียงคอไปมา ผมเห็นมันหลุดยิ้มด้วยแหละ ใจมึงไม่แข็งเลยนะ




     

    ……….” แมร่งยังทำหน้านิ่ง ผมก็ไม่ใช่คนอดทนเท่าไร จึงเลิกสนใจหันไปรอรับน้ำ เด็กพวกนี้มันแซงคิวผมหรือเปล่า ทำไมมันนานอย่างนี้




    พรึบ !




    คนหน้านิ่งที่อยู่ข้างหลังผมเมื่อกี้มันเขยิบมาแนบชิดข้างหลัง ผมตกใจหันไปมองมันแต่ต้องตกใจเข้าไปอีก เพราะมันโน้มหน้าลงมาให้เท่าหน้าของผม ปลายจมูกของมันชนผะแผ่วกับจมูกของผม นัยน์ตาดำขลับนั้นจ้องมองผมไม่วางตา ผมไม่รู้ว่าพวกเราอยู่ในสถานการณ์นี้นานเท่าไร รู้แต่ว่าผมได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นดังมาก




     

    “ โคล่ากับโกโก้ผสมชาเย็นได้แล้วจ๊ะ” เสียงของป้าขายน้ำช่วยดึงผมเข้าสู่โลกความเป็นจริง ผมถอยหลังหันกลับไปรับจ่ายแล้วล้วงเหรียญมาจ่ายแก ไอ้เกมส์มันก็เดินเข้ามาข้างๆผม รับขวดน้ำเปล่าที่มันสั่งเมื่อกี้พร้อมจ่ายเงิน แต่มันก็ยังไม่ไปไหน แล้วมือหนานั้นก็เลื่อนขวดน้ำเปล่ามาให้ผม พร้อมคำพูดที่ชวนให้สับสนในการกระทำของมันอีกแล้ว




     

    “ หัดดูแลตัวเองสะมั้ง ดื่มน้ำเปล่าเยอะ ๆ กูไม่อยากเป็นห่วงมึงบ่อยๆ” พูดจบมันก็เดินไป ทิ้งให้ผมยืนนิ่งครุ่นคิด ไอ้เชี่ยนี้มันมายืนต่อแถวซื้อน้ำตั้งนาน แต่ไม่เอาไป มันเป็นอะไรของผมเนี่ย ผมยืนมองแก้วน้ำสองแก้วกับน้ำหนึ่งขวดอย่างชั่งใจ ก่อนผมจะปวดหัวหนักเข้าไปอีกว่า




     

    กูจะถือน้ำสองแก้วใหญ่กับน้ำขวดหนึ่งไปได้ยังไง !!!


     

    เชี่ยเกมส์ !! มึงกลับมาช่วยกูถือก่อนนนนนนนนนน …..

     

     

     

     

     ..................................................

    Talk กับไรเตอร์แนท :’)

    อ๊ายย่ะ ! จุดพลุดก่อน ปัง ๆ ๆ

    แล้วตอนสองก็ตามมา ทำเอาแนทโล่งไปเปราะหนึ่ง แต่อีกหลายตอนที่ยังไม่ได้เริ่มก็ทำเอาสมองแนทปิ๊ดสูงเกินปรอทเลยล่ะ ฮ่า ๆ แบบตอนนี้ลังเลอยู่ว่าจะเอาใครเป็นพระเอกดี คิก ๆ หมั่นไส้เกมส์มัน (แบบอิมเมจจริงของตัวเกมส์ มันไม่ใช่ลุคแบบนี้ คิก ๆ) ตอนนี้แนทกับผู้ช่วยแนท “ดรีม” กำลังทำแบนเนอร์อยู่ คัดเลือกโมเดลยังกะประกวดคัดหาดาราอย่างนั้นแหละ คิก ๆ คนนี้ผ่าน คนนี้ไม่ผ่าน แก่ไป ไม่เข้ากับคาแรคเตอร์ และบลาๆ หากันสองสามวันยังไม่ได้เลย เฮ้อออ ~ เนื้อเรื่องช่วงนี้อาจไม่สนุกนะ เพราะแนทคิดว่าเรื่องพวกนี้มันเร่งรัดกันไม่ได้ มันต้องค่อยๆเป็นไป ดังชีวิตจริง ,, เหมือนอย่างที่แนทเคยบอก “มันอิงเรื่องจริงบางส่วน” :’)) แนทพล่ามอะไรเยอะแยะเนี่ย ช่วยติดตามต่อไปด้วยนะ แนทอยากได้กำลังใจด้วย ^^’ ตอนสามแนทขอบอกว่า อีกนานกว่าจะมาสู่สายตาทุกคน คิก ๆ และตอนนี้ต้องบอกว่า “สวัสดีจ้า”

     

    Ps.หวังว่า Love again จะทำให้ทุกคนมีความสุขนะครับ :’))

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×