ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา กล่าวถึงพระราชจริยาวัตรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการบรรยายหัวข้อ “พระผู้ทรงเป็นต้นแบบของความกตัญญู การประหยัด การอดออม มุ่งมั่นใฝ่รู้ในวิทยาการและเทคโนโลยี” ให้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์ คอนแวนต์ วันนี้ (24 พ.ย.) ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงถูกสอนอย่างดีจากสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ทั้งเรื่องความเสียสละ ความดีและประชาธิปไตย ซึ่งสิ่งเหล่านี้เด็กทั่วไป ก็ต้องได้รับการปลูกฝังตั้งแต่เด็ก ดังนั้น พ่อแม่เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการเป็นครูคนแรกของลูก
เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นแบบอย่าง ตลอดการครองสิริราชสมบัติ 60 ปี แต่คนไทยชอบเห็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และชอบฟังเวลาพระองค์รับสั่ง แต่ไม่เคยมอง อยากจะขอร้องให้คนไทยไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่หรือเด็ก เริ่มมองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยการแสวงหาความหมายจากพระราชดำรัส พระบรมราโชวาท ที่พระราชทานมาเป็นแนวปฏิบัติในชีวิต
“เคยรับสั่งว่า เด็กสมัยนี้สบาย เกิดมาก็ขึ้นรถได้ แต่ฉันกว่าจะมีรถขี่แทบแย่ ต้องเก็บหอมรอมริบแล้วซื้อรถจักรยานมาขี่ ดังนั้น ทรงรู้คุณค่าของเงิน สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีไม่พระราชทานอะไรง่าย ๆ ครั้งหนึ่งพระองค์มีพระราชประสงค์ของเล่นชิ้นหนึ่งขณะพระราชดำเนินผ่านร้านค้าแห่งหนึ่ง แต่เงินมีไม่พอก็ยืมเงินมหาดเล็กไปซื้อของเล่น เมื่อกลับถึงที่ประทับ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงเห็นก็ถามจนทราบว่าที่ซื้อได้เพราะยืมเงินมหาดเล็กไปซื้อ จึงบอกให้เอาของเล่นไปคืนที่ร้าน เพราะไม่อยากให้ซื้อของเล่นมาด้วยการเป็นหนี้ ดังนั้น อยากได้อะไรต้องเก็บหอมรอมริบแล้วค่อยไปซื้อ” เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการบรรยายครั้งนี้ มีตอนหนึ่ง ที่ ดร.สุเมธ เล่าให้นักเรียนฟังถึงความประหยัดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยการนำภาพหลอดยาสีฟันที่ใช้หมดแล้วด้วยการรีดจนเกลี้ยงหลอด ภาพฉลองพระบาทที่ทรงใช้และทรงนำไปซ่อมแล้วนำกลับมาใช้อีก และวิทยุสื่อสารที่ทรงใช้จนพัง มาให้นักเรียนได้ดูเป็นตัวอย่างด้วย
ทั้งนี้ ดร.สุเมธ ได้กล่าวถึงสุนัขทรงเลี้ยง พร้อมพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวคู่กับทองแดงและบรรดาลูก ๆ ทองแดงให้นักเรียนได้ดูด้วยว่า ลือกันไปว่าทองแดงตายแล้ว ตั้งแต่ก่อนเสด็จเข้ารับการผ่าตัด ณ โรงพยาบาลศิริราช ทุกวันนี้ไปบรรยายที่ไหนก็มีคนถามตลอดเรื่องทองแดงตายแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตรัสว่ายังอยู่ไม่ตาย มีอยู่วันหนึ่งที่ได้เข้าเฝ้าฯ ถวายงานและเตรียมเก็บข้าวของจะกลับแล้ว พระองค์เสด็จขึ้นข้างบน แต่ทรงเมตตาเสด็จฯ ลงมาข้างล่างนำทองแดงมาให้ดูว่า ทองแดงยังอยู่
ดร.สุเมธ ปิดการบรรยายด้วยการนำพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงงานจนพระเสโทหยดแล้วกล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงแบกภาระของแผ่นดิน ดังนั้น ทุกคนต้องช่วยพระองค์แบ่งเบาภาระและทำประโยชน์ให้แผ่นดิน อย่าแสวงหาแต่ประโยชน์ของแผ่นดิน เพราะสุดท้ายจะไม่มีใครได้อะไรเลย ก่อนจบวันนี้ตนขอมอบของขวัญพระราชทานที่ได้รับจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและขอมอบต่อให้ทุกคน
“วันหนึ่งผมนั่งทุกข์ใจอยู่ เพราะมีงานชิ้นหนึ่งทำยังไม่สำเร็จ ก็หมดกำลังใจที่จะทำให้สำเร็จ หมดหนทาง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นเจ้านายที่ดี ทรงรู้ว่าใครทุกข์ใครสุข และวิธีสอนของพระองค์ไม่ได้สอนตรง ๆ ผมอยากจะให้นำข้อนี้ไปใช้ตลอดชีวิตไม่ว่าจะอาชีพใดสถานการณ์ใดที่เจอวิกฤติ พระองค์รับสั่งถามว่า ช่วยไปหาเหล็กให้ก้อนหนึ่ง เอามาสัก 1-2 กิโลกรัม ผมก็รับสนองมาว่าได้เพราะหาได้ง่าย ๆ แล้วพระองค์รับสั่งถามว่ารู้ไหมเอามาทำอะไร ฉันจะเอามาตีเป็นมีดสัก 1 เล่ม พอได้เหล็กมาก็เอาไปเผาไฟให้แดงโร่และเอามาทุบ แล้วพระองค์รับสั่งถามว่า ถ้าเราถูกทุบบ้างจะเจ็บปวดไหม กว่าจะเป็นมีดเล่มหนึ่งต้องเผาและทุบกี่หนก็คงจะทรมานซ้ำแล้วซ้ำเล่า สุดท้ายก็เป็นมีดที่สวยงามนำไปใช้ประโยชน์ได้ แต่ถ้าใช้ไม่ระวังก็จะบาดมือได้ ยังรับสั่งด้วยว่า มีดถ้าทำด้ามเป็นฝักสวย ๆ ก็มีราคาขึ้น ใครก็ตามในชีวิตถ้าไม่เคยถูกเผา ถูกทุบ จะทำงานใหญ่ให้กับแผ่นดินไม่ได้จำไว้” เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา กล่าว | |
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น