+ + "ทักษิณ"ยอมยกธงขาวต่อสายผบ.ทบ.รับสภาพหมดอำนาจ + +
+ +"ทักษิณ"ยอมยกธงขาว ต่อสายผบ.ทบ.รับสภาพหมดอำนาจ + +
ผู้เข้าชมรวม
531
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 กันยายน ที่กองบัญชาการของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ภายในกองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. ในฐานะ หัวหน้า คปค. พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ ผบ.สส. ในฐานะประธานที่ปรึกษา คปค. พร้อมด้วย พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผบ.ทร. พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร. ในฐานะรองหัวหน้า คปค. และ พล.อ.วินัย ภัททิยะกุล เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะเลขาธิการ คปค. พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ร่วมประชุมหารือเพื่อสรุปและวางแผนการทำงานของ คปค. ภายหลังจากสามารถยึดอำนาจการปกครองจากรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไว้ได้สำเร็จเมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา
"บิ๊กบัง"แจ้งคปค.แม้วศิโรราบ
ทั้งนี้มีรายงานว่า พล.อ.สนธิ ได้แจ้งแก่ที่ประชุม คปค.ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ติดต่อมาจากประเทศอังกฤษ โดยให้การยืนยันว่า พร้อมจะยุติความเคลื่อนไหวทางการเมืองทุกกรณี และได้แจ้งให้อดีตรัฐมนตรีและสมาชิกพรรคไทยรักไทยทุกคนรับทราบ พร้อมทั้งกำชับให้ปฏิบัติตามคำสั่งของ คปค. ทุกประการโดยไม่มีเงื่อนไขแล้ว เนื่องจากเข้าใจถึงเจตนาดีในการยึดอำนาจของ คปค.
ยังไว้เชิงกลับไทยหลังได้รัฐบาลใหม่
อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ระบุว่าจะเดินทางกลับประเทศไทยเมื่อไร โดยบอกเพียงแต่จะขอพักผ่อนกับครอบครัวในต่างประเทศสักระยะหนึ่ง จนกว่าจะมีการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลรักษาการเรียบร้อยแล้ว ถึงจะเดินทางกลับ
เช็คข่าวรอบด้านไร้วี่แววปฏิวัติซ้อน
ส่วนกรณีที่มีกระแสว่า จะมีการทำปฏิวัติซ้อนในช่วงที่ผ่านมานั้น ที่ประชุมต่างเห็นพ้องกันว่า ไม่มีความเป็นไปได้ และเป็นเพียงความเข้าใจผิดของประชาชนที่เห็นการเคลื่อนย้ายกำลังเข้ามาใน กทม. เพื่อสับเปลี่ยนกำลังทหาร อย่างไรก็ตาม ยังมีกลุ่มบุคคลที่พยายามออกมาสร้างความวุ่นวายให้เกิดความเข้าใจผิดอยู่ จึงมอบหมายให้ พล.ท.พลางกูร กล้าหาญ โฆษก คปค. ไปชี้แจงต่อสื่อมวลชน
คาดโทษแก๊งปั่นความแตกแยก
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ที่ประชุมแสดงความเป็นห่วงการชุมนุมของกลุ่มพลังต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มที่ให้การสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ออกมาเคลื่อนไหวในพื้นที่ๆ และพยายามก่อความวุ่นวายในขณะนี้ ดังนั้นจึงอาจมีความจำเป็นต้องพิจารณาบทลงโทษกลุ่มบุคคลที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง เพื่อสร้างความแตกแยกวุ่นวายให้กับบ้านเมือง เพราะถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควรกระทำ
"คณะปฏิรูปฯต้องการให้สังคมเกิดความสมานฉันท์ หากกลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนไหวก็อาจทำให้สังคมเกิดความแตกแยกอีก ซึ่งจะทำให้เกิดผลเสียตามมาอีกมากมาย" แหล่งข่าวกล่าว
เรียกปลัดกระทรวงร่วมทีมบริหาร
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า พล.อ.สนธิ ได้แบ่งการปฏิบัติงานของแต่ละฝ่ายเพิ่มเติม เพื่อให้การบริหารจัดการเกิดความคล่องตัว โดยมีทีมงานด้านบริหารประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ประสานงานจากสำนักงบประมาณ สำนักนายกรัฐมนตรี และจากกระทรวง 20 กระทรวง โดยมีปลัดกระทรวงหรือตัวแทนเข้ามาปฎิบัติงานใน บก.ทบ. พร้อมตรวจสอบข่าวความเคลื่อนไหวต่างๆ และมอบให้ พล.อ.เรืองโรจน์ ดูแลงานจิตวิทยาสังคม เศรษฐกิจ การเมือง วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และการทหาร
จี้บัวแก้วเร่งทำความเข้าใจต่างประเทศ
เย็นวันเดียวกัน พล.ท.พลางกูร กล้าหาญ โฆษก คปค. และ พล.ท.ทวีป เนตรนิยม รองโฆษก คปค. ได้ร่วมกันแถลงผลการประชุมว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้กระทรวงการต่างประเทศทำการประชาสัมพันธ์เชิงรุกในรูปแบบต่างๆ เช่น ส่งข้อมูลผ่านเอกอัครราชทูตและผู้ช่วยทูตทหาร ทำหนังสือบันทึกช่วยจำและจดหมายข่าวสถานการณ์ต่างๆ ถึงสำนักข่าวต่างประเทศ และเร่งตอบโต้หากมีการพาดพิงสถาบันเบื้องสูงอย่างไม่เหมาะสม รวมทั้งอาจเชิญคณะทูตมาชี้แจงทำความเข้าใจอีกครั้ง
ห้ามดักฟังโทรศัพท์สกัดเชื้อชั่วล้วงตับ
พล.ต.ทวีป กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังให้ออกคำสั่งการห้ามดักฟังโทรศัพท์ โดยกำหนดโทษตั้งแต่ผู้ปฏิบัติผู้จ้างวาน ตลอดจนผู้ประกอบการโทรศัพท์ ซึ่งมีโทษทั้งจำทั้งปรับ สำหรับผู้ประกอบการจะได้รับโทษหนักที่สุดถึงขั้นยึดใบอนุญาต
เมื่อถามถึงเหตุผลที่ต้องห้ามดักฟังสัญญาณโทรศัพท์ พล.ท.พลางกูร จึงเป็นผู้ตอบว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีคนดำเนินการดังกล่าว โดยเฉพาะในช่วงอดีตที่ผ่านมา ดังนั้นเพื่อให้ทุกฝ่ายสบายใจและไม่ให้กระทบสิทธิเสรีภาพของประชาชน จึงต้องออกคำสั่งดังกล่าว
ฮึ่มขัดขืนโทษยึดใบอนุญาต
เมื่อถามว่า เป็นการบล็อกไม่ให้เครือข่ายโทรศัพท์มือถือของ พ.ต.ท.ทักษิณ มาดักฟังความเคลื่อนไหวของทหารใช่หรือไม่ พล.ท.พลางกูร ตอบว่า ไม่ได้บล็อกใคร และไม่ขอพาดพิงบุคคลที่สาม ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เลขาธิการ คปค. รวบรวมมานำเสนอในที่ประชุม ผู้สื่อข่าวถามจึงย้ำว่า ในกฎหมายเดิมก็มีบัญญัติห้ามไว้อยู่แล้ว พล.ท.พลางกูร จึงชี้แจงว่า กฎหมายเดิมมีเพียงแค่จำคุกและปรับเท่านั้น แต่คำสั่งนี้มีการเพิ่มโทษถึงขั้นยึดใบอนุญาตผู้ประกอบการด้วย
คลอดงบปี'50อังคารนี้
ส่วนความคืบหน้าเรื่องการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2550 นั้น พล.ท.พลางกูร กล่าวว่า จะมีการหารือกันในวันที่ 25 กันยายนนี้ ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการเสร็จในวันที่ 26 กันยายน โดยน่าจะออกเป็นตัวเลขได้ และทันประกาศให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ตุลาคม
เช่นเดียวกับการร่างรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ซึ่งคณะที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายกำลังดำเนินการอยู่ โดยมีเพียงไม่กี่มาตราเพื่อให้การบริหารบ้านเมืองเรียบร้อย และจะเสร็จภายใน 2 สัปดาห์
ผบ.ทบ.ย้ำจบภารกิจใน2สัปดาห์
ขณะที่ พล.อ.สนธิ ได้ออกมาเปิดเผยว่า ภารกิจของ คปค. จะจบลงภายใน 2 สัปดาห์ตามที่ประกาศไว้อย่างแน่นอน ส่วนกรณีกระแสข่าวการสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายนั้น ถือเป็นเรื่องธรรมดาที่สถานการณ์เช่นนี้จะต้องมีการปล่อยข่าวออกมาเพื่อสร้างความสับสน หวาดระแวง แต่ คปค. ก็มีเจ้าหน้าที่คอยติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ ตลอดเวลา
ด้าน พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผบ.ทร. และ รองหัวหน้า คปค. ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมดำเนินการกับ พ.ต.ท.ทักษิณ หากมีการเดินทางกลับมาประเทศไทย ว่า คปค. ยังไม่ได้คิดเรื่องนี้ เนื่องจากต้องคุยกันเฉพาะเรื่องงานที่อยู่ข้างหน้า ซึ่งล้วนเป็นการแก้ไขปัญหาของประเทศมากกว่า
แม่ทัพ2สั่งสกัดแก๊งก่อกวนทั่วอีสาน
เย็นวันเดียวกัน ที่กองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ 23 จ.ขอนแก่น พล.ท.สุเจตน์ วัฒนสุข แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ทุกจังหวัดของภาคอีสานตั้งด่านซึ่งเป็นกองกำลังผสมระหว่างทหารและตำรวจ เพื่อตรวจสอบความไม่สงบ และกลุ่มมิจฉาชีพอาจจะออกมาก่อเหตุ เพราะช่วงนี้เป็นช่องว่าง เกรงกลุ่มมิจฉาชีพจะออกมา ทั้งกลุ่มยาบ้า แรงงานต่างด้าว กลุ่มก่อกวน และอาชญากรรมอื่นๆ การตั้งด่านเพื่อควบคุมให้พื้นที่สงบเรียบร้อย และไม่เกิดปัญหากับประชาชน และการตั้งด่านอย่างนี้จะมีต่อไป จนกว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่แล้วเสร็จ
คู่แสบอุดร"วิชัย-ธีระชัย"รายงานตัว
ส่วนที่ตึกบัญชาการ มณฑลทหารบก 24 ค่ายประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.วิชัย ชัยจิตวณิชกุล และ นายธีระชัย แสนแก้ว 2 อดีต ส.ส.อุดรธานี ซึ่งเคยปลุกระดมแนวร่วมให้ออกมาต่อต้านพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กระทั่งเกือบจะมีการปะทะกันหลายครั้งในพื้นที่ ได้เดินทางมารายงานตัวต่อ พล.ต.ศักดิ์สิทธิ์ กลั่นเสนาะ ผบ.มณฑลทหารบกที่ 24 แล้ว โดย นายธีระชัย เผยว่า ในระหว่างที่มีการยึดอำนาจ ไม่ได้หลบหนีไปไหนหรือเคลื่อนไหวอะไร ซึ่งเมื่อเห็นว่า เหตุการณ์เริ่มเข้าที่เข้าทาง จึงมากรายงานตัว ซึ่งบรรยากาศก็เป็นไปด้วยดี
แกนนำทรท.แจ้งหมิ่น2เว็บไซด์
บ่ายวันเดียวกัน ที่ สน.ดุสิตธานี นายวีระ มุสิกพงศ์ กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย นายจตุพร พรหมพันธุ์ รองโฆษกพรรคไทยรักไทย พร้อมด้วยแกนนำพรรค เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเวบไซด์ นสพ.ผู้จัดการออนไลน์ ของ นายสนธิ ลิ้มทองกุล และ เว็บไซด์"ไทยอินไซด์เดอร์"ของ นายเอกยุทธ อัญชันบุตร ฐานหมิ่นประมาท โดยใส่ร้ายแกนนำพรรคไทยรักไทยทำใบปลิวต่อต้านการยึดอำนาจครั้งนี้ ซึ่งไม่เป็นความจริงทำให้เกิดความเสียหาย
เชื้อชั่วไม่ยอมตายรอแกนนำปลุกระดม
ส่วนที่ภาคเหนือ มีรายงานว่า ยังคงมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มพลังมวลชนที่ให้การสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างต่อเนื่อง โดยแหล่งข่าวซึ่งเป็นแกนนำของกลุ่มมวลชนดังกล่าว ได้ออกมายอมรับว่า กลุ่มพลังมวลชนยังคงโทรศัพท์และส่งจดหมายประสานไปยังผู้นำชุมชนต่างๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตนบน ซึ่งเป็นที่มั่นสำคัญของพรรคไทยรักไทย โดยการเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดจากกลุ่มต่างๆ ที่ได้รับประโยชน์สมัยรัฐบาลที่ผ่านมา
โดยปฏิกิริยาของหลายกลุ่มยังคงมีความแข็งกร้าว และหากมีแกนนำออกมาจัดการเคลื่อนไหวก็พร้อมที่จะเข้าร่วมทันที่ ซึ่งมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ยังคงสงวนท่าทีเนื่องจากเกรงกลัวกำลังทหารที่ตรึงกำลังอยู่ทั่วประเทศ
หงายไพ่รอจังหวะเคลื่อนไหวใหญ่
ขณะที่แกนนำผู้สนับสนุนพรรคไทยรักไทยคนหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ ระบุว่า ยังไม่มีใครยอมแพ้ เพียงแต่กำลังรอจังหวะที่จะกลับมาสู้อีกครั้ง เนื่องจากยังมีมวลชนจำนวนมากในจังหวัดเชียงใหม่ ให้การสนับสนุนอยู่ ซึ่งที่ไม่เคลื่อนไหวในช่วงนี้ เพราะไม่คุ้มที่จะแหกกฎของทหาร ที่ส่งกำลังมาตรึงอยู่ทั่วจังหวัด ทำให้เสี่ยงต่อการถูกจับกุม
ที่มา - -http://www.naewna.com/news.asp?ID=27480#news
ผลงานอื่นๆ ของ Panziren ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Panziren
ความคิดเห็น