ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Panthers ซีรีส์ SURVIVED SERIES: ต้องรอด มหากาพย์แห่งสงครามล้างเผ่าพันธุ์

    ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 2 สาวน้อยครึ่งชาติ ดาโกต้า โอ' ซัลลิเเวน 31 - 60 %

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.11K
      5
      20 พ.ย. 56



    เธอเพิ่งวางมือจากข้าวของที่จัดลงใส่กล่องแรกเสร็จเมื่อร่างสูงระหงของคาเร็นเดินเข้ามาหาในห้องและทรุดตัวลงนั่งกับพื้นข้างๆ ดาโกต้าเหลือบตามองแม่เลี้ยงอย่างอ่อนใจเมื่อเดาได้ว่าอีกฝ่ายเข้ามาหาเธอถึงห้องทำไม

    ฉันไม่ออกไปกับเขาหรอกนะ แล้วคุณก็ไม่ควรพยายามบังคับฉันด้วย

    เธอก็รู้ว่าฉันไม่เคยทำอย่างนั้นคาเร็นมองสมบัติที่สาวน้อยกำลังเก็บไปด้วยและพยายามไม่ทำท่าตกใจมากเมื่อไม่เห็นมีชุดที่เหมาะสมเลยสักชุดนอกจากกางเกงขี่ม้า รองเท้าบูตและเสื้อเชื้ตหลายตัวที่กุลสตรีไม่ควรใส่ สงสัยต้องแอบสั่งนอราให้จัดชุดกระโปรงใส่เพิ่มไปทีหลัง แต่เธอควรจะออกไปพบเขาสักหน่อยนะ ดาโกต้า

    จะเสียเวลาทำแบบนั้นทำไมในเมื่อฉันต้องปฏิเสธเขาอยู่แล้ว มีแต่จะทำให้เรื่องยุ่งยากขึ้นเปล่าๆ

    เธอไม่เคยออกเดตกับผู้ชายคนไหนเลยตั้งแต่ฉันแต่งงานกับพ่อเธอมาสามปี ทั้งที่มีผู้ชายเหมาะสมกับเธอตั้งหลายคนอยากคบหาด้วย

    เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของคุณเลยนะคาเร็น รับรองว่าพ่อไม่โทษคุณเพราะคิดว่าคุณดูแลฉันไม่ดีแน่ๆ

    หญิงสาวเอ่ยเสียงอ่อนและทำให้แม่เลี้ยงวัยห่างกันเพียงหกปีหน้าแดง หลายครั้งที่ลูกติดของสามีทำให้เธอรู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นสาวน้อยขาดความมั่นใจเสียเองเพราะอีกฝ่ายช่างเข้าใจและรู้ทันไปทุกอย่างมากกว่าที่เธอรู้จักตัวเองเสียอีกในบางคราว ฉันรู้ว่าเธอคิดยังไงกับผู้ชายคนก่อนๆ แต่นี่ฌอน วินสตัน-รอสส์เชียวนะ ดาโกต้า

    ฉันคิดว่าคุณสมบัติของเขาแย่ยิ่งกว่าผู้ชายคนอื่นๆ ที่คุณพยายามแนะนำให้ฉันรู้จักซะอีก

    เธอต้องล้อเล่นแน่คาเร็นโอดครวญ ทำหน้าเคลิบเคลิ้มเหมือนโดนวางยาเมื่อเอ่ยถึงหนุ่มเสเพลที่มาชวนเธอออกไปนั่งรถม้าราวกับเป็นฝ่ายถูกเชื้อเชิญเอง ถึงชื่อเสียงของเขาจะไม่ดีเท่าไหร่

    คำว่าเลวร้ายน่าจะถูกต้องกว่าดาโกต้าเอ่ยขัดพลางเบ้ปาก

    เลวร้ายเป็นคำพูดด้วยอคติไปหน่อยแม่เลี้ยงของเธอรีบแก้ตัวแทน เขาอาจจะไม่ใช่สุภาพบุรุษในฝันเพราะเจ้าเสน่ห์มากไป แต่ฉันเชื่อว่าสาวๆ แทบทุกคนในเมืองนี้อยากให้เขาสนใจหรือไม่ก็กระเหี้ยนกระหือรือที่จะจับเขากันทั้งนั้น เท่าที่จำได้เขาไม่เคยเป็นฝ่ายออกไปชวนลูกสาวผู้ดีบ้านไหนเดตด้วยเลยสักที

    เพราะเขามัวแต่ยุ่งกับการมุดกระโปรงของผู้หญิงที่มีสามีแล้วนะสิ อีกอย่างคุณไม่ควรบิดเบือนนิสัยเพลย์บอยไร้ศีลธรรมที่คบชู้ไม่เลือกว่าเจ้าเสน่ห์ไปหน่อยนะ

    คาเร็นอ้าปากค้างกับปากคอเราะรายของลูกเลี้ยง เธอไปเอาเรื่องพวกนั้นมาจากไหน

    ฉันไม่ใช่เด็กแล้วน่าคาเร็น เลิกกางปีกปกป้องอย่างกับฉันอายุแปดขวบซะที

    ถ้าอย่างนั้นก็อย่าทำให้ฉันเป็นห่วงแล้วออกไปเดตกับเขาเสียสิ ฉันรู้นะ ว่าเธอเองก็สนใจเขาดาโกต้า

    ฉันกำลังยุ่ง พรุ่งนี้ต้องออกเดินทางแล้วแต่ยังไม่ได้เตรียมอะไรอีกตั้งหลายอย่าง บางทีอาจจะคราวหน้า... ถ้าเขายังสนใจจะมาหาฉันอีก ตกลงไหมคนฟังแก้ตัวแบบขอเลื่อนเวลาไปทีเพราะคร้านจะเซ้าซี้กับคนช่างตื๊ออย่างคาเร็น

    เธอบอกมาเลยว่าต้องเตรียมตัวอะไร เดี๋ยวฉันกับสาวใช้จะช่วยจัดการให้เอง

    เป็นอย่างนั้นไป! “ฉันไม่อยากไป อย่าบังคับกันเลย

    ถือว่าทำเพื่อฉันสักครั้งไม่ได้หรือไง ฉันไม่เคยขอร้องเธอเลยนะ ดาโกต้า

    โดนไม้นั่นเข้า คนฟังก็ถึงกับชะงักไปชั่วครู่ ทำไมเรื่องนี้ถึงสำคัญกับคุณนัก ในเมื่อคุณก็รู้ว่าเขามีชื่อเสียงแบบไหน คุณไว้ใจเขาหรือไง!” เมื่อปฏิเสธไม่ได้เลยยกเรื่องที่คิดว่าน่ากลัวขึ้นมาขู่ หากแม่เลี้ยงวัยยี่สิบห้าปีกลับหัวเราะคิก หลิ่วตาให้ด้วยท่าทางมีเลศนัย

    ไม่เลย ฉันไว้ใจเธอ รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดขี่ม้าเถอะ ตอนนี้เพิ่งบ่ายอ่อนๆ อากาศที่สนามของสโมสรขี่ม้ากำลังดีเธอชอบที่ได้อยู่กลางแจ้งเสมอไม่ใช่หรือที่รักคาเร็นจับบ่าของสาวน้อยหน้ามุ่ยให้ลุกขึ้นยืนและดันไปยังห้องแต่งตัวด้วยสีหน้ากระเหี้ยนกระหือรือ เธอบอกมาเลยว่าอยากให้ฉันเตรียมอะไรให้บ้างระหว่างที่ฉันแต่งตัวให้

    เธอไม่อยากออกมาเลย แต่ไม่อยากทำให้คาเร็นเสียใจ ดังนั้นข้อแลกเปลี่ยนก็คือหญิงสาวได้แต่งตัวตามที่เธอต้องการด้วยกางเกงขี่ม้าพอดีตัวสีดำ สอดชายเสื้อเชิ้ตผ้าไหมสีขาวไว้ใต้กางเกงและสวมรองเท้าบูตหนัง ผมยาวสลวยถูกรวบสูงไว้กลางกระหม่อมและไม่มีเครื่องประดับอื่นใดตามที่แม่เลี้ยงต้องการเมื่อออกมาพบกับฌอนที่ห้องรับแขก

    ร่างสูงใหญ่ของเขาอยู่ในชุดขี่ม้าเกือบเหมือนกันทุกอย่าง ใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มปรากฏแววชื่นชมเมื่อลุกขึ้นต้อนรับเธอและมองร่างปราดเปรียวตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะส่งรอยยิ้มสะท้านใจให้

    คุณสวยยิ่งกว่าเมื่อคืนเสียอีก ที่รัก

    มือเล็กของเธอถูกยกขึ้นรับการทักทาย และดูเหมือนจะเป็นความผิดมหันต์แท้ๆ เมื่อเขาจูบตั้งแต่หลังมือลงมาหาข้อนิ้ว แตะไล้ปากอุ่นๆ มาหาข้อมือด้านหน้าตรงจุดชีพจรก่อนจะนาบจูบหนักๆ กลางฝ่ามือซึ่งก่อให้เกิดผลอันไม่พึงประสงค์ต่อดาโกต้าทำให้เธอสั่นสะเทือนไปทั่วอวัยวะภายในอย่างน่าตื่นตระหนก ทั้งยังกอบกุมมือเล็กของเธอไม่ปล่อยเมื่อลดสายตาอ้อยอิ่งลงมองเรียวแก้มซ่านสีเลือดอย่างพึงพอใจ

    นี่มันการทักทายชนิดไหนกัน!

    คุณไม่ควรทำผิดมารยาท!”

    ผมหักห้ามใจเต็มที่แล้วน่า ต้องโทษที่คุณสวยจนผมอดใจไม่ไหว

    สาวน้อยหันไปปรายตามองคาเร็นที่รู้แน่ว่าเธอกำลังแอบดูพวกเขาอยู่และถลึงตาใส่เหมือนจะบอกว่า เป็นไงล่ะก่อนจะอุทานเมื่อถูกดึงรั้งให้เดินตามเขาออกจากบ้าน ระวังกิริยาของคุณหน่อย มิสเตอร์วินสตัน-รอสส์ ดิฉันเป็นสาวโสดที่ยังไม่ได้แต่งงานนะคะ

    อาจจะเร็วไปหน่อยที่พูดถึงแต่งงาน แต่รับรองว่าผมจะรักษาเกียรติของคุณเต็มที่นะจ๊ะ

    ถามหน่อยว่าคุณหมายความว่ายังไงที่พูดแบบนั้นน่ะคิ้วของเธอขมวดยุ่งและเกือบผงะถอยไปชนม้าเมื่อเขายกนิ้วโป้งขึ้นไล้เส้นคิ้วโก่งเรียงตัวสวยมือแกร่งรีบรวบเอวเล็กเข้าไปหาเบาๆ พลางยิ้มขันเมื่อเธอสูดหายใจแรง

    ใจเย็นๆ สิที่รัก ผมรู้ว่าคุณกำลังบอกเป็นนัยๆ ว่าไม่อยากมีความสัมพันธ์เลยเถิดก่อนแต่งงาน คาเร็นให้คนเอาเจ้านี่มาให้ คุณมีม้าที่สวยจริงๆเขาเปลี่ยนเรื่องพูดกะทันหันแล้วลูบปลายจมูกของสัตว์หน้าขนอย่างชื่นชม และสิ่งที่ปีศาจขนดำที่เธอถือเป็นเพื่อนคู่หูของตัวเองทำก็คือการถูจมูกเข้ากับมือของคนแปลกหน้าพลางครางเสียงเบาอย่างพึงพอใจ ทั้งที่มันไม่เคยเป็นมิตรกับใครง่ายๆ แม้กระทั่งกับพ่อของเธอเอง คาเร็นบอกผมว่ามันชื่อชาปา

    เป็นภาษาซู ถ้าเป็นภาษาอังกฤษก็คงเป็นเบรฟเวอร์ หัวหน้าเผ่าคนหนึ่งให้ม้าตัวนี้กับฉันมา หญิงสาวบอกอย่างงงๆ กลั้นหายใจโดยไม่ทันตั้งตัวเมื่อเขาจับยกบั้นเอวของเธอขึ้นไปวางบนอานม้าของสัตว์ร่างสูงสง่าเหมือนเธอไร้น้ำหนักและก้มลงช่วยเธอสอดเท้ากับสายโกลนอย่างชำนาญด้วยท่าทางเรียบง่าย

    ไม่เคยมีใครเคยช่วยเธอแบบนี้มาก่อนยกเว้นนักรบร่างสูงกว่าร้อยเก้าสิบเซนติเมตรเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อคนหนึ่งของเผ่าซูสาขาโอกลาลาเมื่อครั้งที่เธอไปเยือนญาติพี่น้องตอนอายุสิบหกปี คุณทำแบบนี้ได้ยังไงน่ะ

    ผมชอบดูแลตัวเอง แล้วคุณก็ตัวเบาเหมือนขนนก เขายักไหล่แล้วเคลื่อนร่างกำยำมากกว่าหกฟุตสองไปยังม้าสีน้ำตาลตัวพ่วงพีของตนเองอย่างชำนาญ ทำให้เธอเห็นซองปืนที่สะโพกของเขาด้วย

    ฉันหมายถึงทำให้ชาปาชอบคุณดาโกต้าบอก มองอาวุธร้ายแรงชนิดนั้นอย่างสนอกสนใจและไม่ชอบใจในเวลาเดียวกัน คาเร็นเรียกชาปาว่าปีศาจ มันอารมณ์ร้ายไม่ชอบให้ใครขี่

    ยกเว้นคนพิเศษอย่างผู้นิมิตที่ชื่อดาโกต้าผมคงต้องยอมรับว่ามันมีรสนิยมที่ยอดเยี่ยมเขาพาม้าเหยาะย่างไปข้างหน้าโดยเลื่อนมือมาลูบแผงคอของชาปาอย่างอ่อนโยนสองสามที แกโชคดีกว่าฉันมากที่เธอยอมขี่

    ปากหยักสีระเรื่อของคนฟังเผยอออกในอาการตกใจเมื่อเขาเอ่ยคำร้ายกาจนั้นออกมา และคนพูดก็รู้ตัวเมื่อยกมือขึ้นตบหน้าผากตัวเอง สาบานว่าผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นเลยนะ ที่รัก

    เรียกดิฉันว่าดาโกต้าดีกว่า

    ถ้าคุณยอมเรียกชื่อผมเหมือนเดิม

    ฌอนเธอตอบรับเสียงเย็นและได้รับรอยยิ้มอบอุ่นที่ทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะกลับมา

    ขอโทษที่ทำให้ตกใจจ้ะ ผมแค่อิจฉาที่ชาปาโชคดี จนคุณยอมเป็นเพื่อนกับมัน

    ไม่เคยมีใครอิจฉามันหรอก เราก็แค่เข้าใจกันดี ชาปาคบคนยาก

    เหมือนกับคุณใช่ไหม”  

    ฉันมีเพื่อนมากมายที่ไม่ใช่คนขาว คุณพกอาวุธออกมาด้วยอย่างนี้เสมอหรือคะ

    ผมออกมาตามลำพังกับสุภาพสตรีที่สวยมาก เลยอยากให้แน่ใจว่าเธอจะปลอดภัยทุกอย่าง

    ปืนรุ่นล่าสุดใช่ไหม ฉันนึกว่าคุณต้องป้องกันตัวเองเวลาที่สามีขี้หึงตามมาเจอตัวเสียอีก

    ฌอนระเบิดเสียงหัวเราะกับน้ำเสียงเยาะหยันของเธอ ระวังตัวหน่อยที่รัก สุภาพสตรีไม่ควรพูดจาประชดใคร ขืนคุณทำแบบนั้นผมจะอดคิดไม่ได้ว่าคุณกำลังหึงผู้หญิงในอดีตของผม ซึ่งไม่ใช่เรื่องจำเป็นเลย นี่เป็นปืนพกลูกโม่รุ่นล่าสุดของโคลท์ปี 1873 ที่นายทหารระดับหัวหน้าเพิ่งเริ่มใช้ ไม่คิดว่าคุณสนใจเรื่องอาวุธด้วย

    อันที่จริงแล้วฉันเกลียดมันเธอไม่ตอบโต้เรื่องการประชดให้เข้าตัวยิ่งกว่าเดิม เลยตัดสินใจคุยเรื่องปืนที่ปลอดภัยกว่าแทน แต่คิดว่าคนเราต้องทำความรู้จักกับสิ่งที่เกลียดพอๆ กับสิ่งที่ชอบ

    เป็นทัศนคติที่แปลกสำหรับผู้หญิง คุณมีบางอย่างคล้ายเจน พี่สะใภ้ของผม

    ฉันเสียใจที่เธอเป็นหม้าย เอ้อ... กับการที่คุณสูญเสียพี่ชายของคุณไป

    ชายหนุ่มพึมพำบางอย่างที่ใกล้เคียงกับคำขอบคุณแล้วเงียบไป ก่อนจะบอกให้เธอเร่งฝีเท้าเมื่อเขานำม้าตะบึงไปสู่สนามของสโมสรเบื้องหน้าไม่ไกลนัก ตอนนั้นเองที่ดาโกต้ารู้ว่าเธอได้สะกิดจุดที่อ่อนไหวของเขาเสียแล้ว

    สองหนุ่มสาวควบม้าผ่านผู้คนและที่พักอาศัยทันสมัยไปยังสนามของสโมสรขี่ม้าที่มีผู้คนบางตา คนอเมริกันโดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างนิวยอร์กไม่ได้หลงใหลและเห็นว่ากีฬาขี่ม้าเป็นกีฬาชั้นสูงเหมือนคนอังกฤษ แต่ที่นี่ยังมีสโมสรดีๆ สำหรับคนที่มีรสนิยมเดียวกันให้ควบม้าลงสนามเพื่อสัมผัสความรู้สึกสดชื่นเบิกบานยามสายลมปะทะร่างเมื่ออาชาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับผู้ควบคุม

    ดาโกต้าปล่อยความคิดรบกวนใจเรื่องชายหนุ่มที่มากับเธอออกไปก่อนเมื่อควบม้าลงสนามซึ่งมีสิ่งกีดขวางสั้นๆ หลายรอบจนหัวใจเต้นแรงจากการออกกำลังกายที่ตนพิสมัย ชาปาเองก็สดชื่นและเต็มไปด้วยพลังเหมือนเธอทำให้ดาโกต้านึกเสียดายที่พามันไปตะวันตกด้วยไม่ได้เพราะเป็นเรื่องยุ่งยากมากเกินไป

    หญิงสาวพาม้าเข้าที่พักให้คนดูแลมารับไปให้น้ำและหญ้าโดยลูบจมูกของมันเบาๆ หลังจากวิ่งไปถึงห้ารอบจนรู้ว่ามันเริ่มเหนื่อย จากนั้นจึงออกมายืนมองชายหนุ่มที่ยังควบม้าพ่วงพีผ่านไปด้วยความเร็วสูงอย่างนึกทึ่งกับความเชี่ยวชาญในการบังคับม้าของเขา นึกฉงนว่าเขาคงใช้มือที่เชี่ยวชาญเดียวกันนี้บังคับสตรีได้ด้วยทักษะที่ไม่ต่างกัน เพราะอย่างนี้พวกหล่อนจึงหลงใหลและอยากขึ้นเตียงกับเขานัก   

    เธอรออยู่อย่างน้อยครึ่งชั่วโมงกว่าชายหนุ่มจะพาม้าหยุดพักไปส่งให้เด็กที่ดูแลสนาม เขาทักทายและให้ความเป็นกันเองกับลูกจ้างของสโมสรไม่ต่างจากเพื่อนผู้ร่ำรวยของเขาจนเธอนึกพิศวงยิ่งขึ้นทุกที

    คุณขี่ม้าเก่งมาก” 

    คุณก็เหมือนกัน สาวน้อยแถมยังเป็นผู้หญิงน้อยคนที่ขี่ม้าด้วยเครื่องแต่งกายเหมือนผู้ชายแบบนี้

    ฉันคงจะบ้าตายถ้าต้องสวมกระโปรงขี่ม้าแบบสาวผู้ดี เผลอๆ คงปลิวหล่นลงมาตอนที่ชาปาวิ่งเร็วๆ

    เจนคงเห็นด้วย คุณสวยเซ็กซี่กว่ามากในชุดแบบนี้ แน่นอนว่าคล่องตัวกว่ามากด้วยนัยน์ตาสีเฮเซลของเขาลดต่ำลงเพื่อลามเลียช่วงขายาวเพรียวภายใต้กางเกงพอดีตัวเกือบรัดรูป คุณขี่ม้าได้น่าดูเป็นบ้า คนสวย

    เธอคงจะเคลิ้มจนลืมควบคุมตัวแบบเดิมเมื่อถูกป้อยอทั้งจากสายตาและคำพูดที่เขามีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ ถ้าเขาไม่เอ่ยชื่อพี่สะใภ้ของตัวเองขึ้นมา เธอชอบสวมกางเกงขี่ม้าด้วยเหรอคะ

    ฌอนพยักหน้ารับอย่างไม่ใส่ใจนัก ใช่ เธอชอบทำงานข้างนอกมากกว่าทำตัวเป็นมาดามวินสตัน-รอสส์ ผมยังแปลกใจที่เธอทำตัวเป็นแม่เต็มตัวที่ดีได้หลายปีกว่าจะขอดันแคนออกไปทำงานที่ฟรอสเตอร์

    ฉันเสียใจที่พูดถึงพี่ชายของคุณ

    ไม่เป็นไรมือใหญ่ลดลงแตะแผ่นหลังของเธอดันเข้าไปด้านในอย่างสุภาพ คุณเป็นคนสังเกตุความรู้สึกได้ไว ผมแค่ยังทำใจไม่ค่อยได้เพราะดันแคนจากพวกเราเร็วเกินไป

    พวกคุณสนิทกันมากใช่ไหมคะ

    เท่าที่พี่น้องคู่หนึ่งจะสนิทกันได้ ผมนึกไม่ออกว่าจะผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากบางครั้งมาได้ยังไงถ้าไม่มีดันแคนคอยช่วยเหลือ ผมช็อกไปวันเต็มๆ ตอนที่รู้ว่าเขาจากไปแล้วทั้งที่ไม่เคยสะเทือนกับอะไรง่ายๆ

    ฉันเสียใจค่ะ หญิงสาวเอ่ยซ้ำ รู้สึกว่าจำเป็นต้องทำอะไรบางอย่างให้เขารู้สึกดีขึ้นเมื่อเข้ามานั่งในที่พักของสโมสรในมุมที่เป็นส่วนตัวและฌอนนิ่งเงียบไปเมื่อมองผ่านระเบียงลงไปยังสนามม้า 

    ดาโกต้าเอื้อมมือไปจับมือของเขาเอาไว้ทำให้ใบหน้าคมเข้มเบือนมามองเธออย่างสงสัย ก่อนที่เขาจะสูดหายใจโดยแรงอย่างแปลกใจเมื่อเธอหงายฝ่ามือของเขาขึ้นและสอดประสานนิ้วเรียวเล็กของตัวเองลงไป มือใหญ่บีบตอบกลับเธอทันทีและนิ่งไปเมื่อเธอเอ่ยอะไรบางอย่างในภาษาที่เขาไม่เข้าใจแต่ฟังดูเพลิดเพลินเสนาะหูด้วยสำเนียงสูงต่ำอยู่ชั่วครู่

    เธอสบประสานนัยน์ตาเรียวรีสีดำสนิทนุ่มละมุนกับเขาพาให้หัวใจที่ว่างโหวงจากความสูญเสียเหมือนถูกเติมเต็มจนล้นปรี่ กลายเป็นความเต็มตื้นอันน่าอัศจรรย์

    ฌอนทำได้แค่มองวงหน้าเรียวน่ารักและริมฝีปากที่ขยับขึ้นลงเหมือนต้องมนตร์สะกด ก่อนจะจบลงด้วยภาษาอังกฤษที่ชายหนุ่มเข้าใจแม้จะไม่แน่ใจว่าเป็นประโยคบอกเล่าหรือคำถาม 

    เขาไม่อยากสนใจว่าเธอพูดอะไรเพราะใจจดจ่ออยู่กับความกระหายหิวอันเข้มแรงที่ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยความกระสันอยากได้แม่สาวน้อยคนนี้จนไม่อยากสนใจว่าทั้งคู่กำลังอยู่ที่ไหน พานนึกสงสัยว่าทำไมเธอถึงน่ารักน่าใคร่จนทำให้กายแกร่งของเขาสั่นสะท้านรวดร้าวโหยหาและรู้ว่าจะทรมานจนจะคลั่งถ้าไม่ได้เธอ

    คุณฝันร้าย

    บางครั้ง ตอบเสียงพร่าเมื่อมองปากนุ่มเย้ายวนเหมือนกลีบกุหลาบที่ขยับยกจนเขาอดใจไม่ไหว สอดมือเข้าใต้ท้ายทอยและก้มลงนาบปากนุ่มที่เผยอค้างจะประท้วงด้วยปากร้อนรุ่มของตน หลอมละลายเธอเข้าสู่อารมณ์ต้องห้ามอันร้อนแรงด้วยสัมผัสเชี่ยวชาญปนเร่งเร้า

    เธอให้รสชาติยอดเยี่ยมยิ่งกว่าที่เขานึกฝัน มีกลิ่นสดชื่นเหมือนดอกไม้ป่าลึกลับที่ปลุกเพลิงพิศวาสให้เติบกล้าจนเขาต้องคลุกเคล้าดูดดื่มความหอมหวานอย่างคลั่งไคล้

    ชายหนุ่มช้อนร่างนุ่มด้วยพละกำลังขึ้นมานั่งบนตัก สอดแขนโอบรัดร่างอ้อนแอ้นและปล้นจูบแรกจากเธออย่างหน่วงหนัก เนิ่นนานอย่างที่อยากทำ

    ฌ... ฌอน”  

    คุณทำอะไรกับผมกันแน่ ดาโกต้า

                เธอก็สงสัยเหมือนกันว่าเขากำลังทำอะไรกับเธอ หญิงสาวพยายามเกาะเกี่ยวท่อนไม้ที่เรียกว่าสติสัมปชัญญะเอาไว้ก่อนที่มันจะหลุดมือและปล่อยให้เธอจมดิ่งลงสู่กระแสน้ำวนอันเชี่ยวกรากของความปรารถนาที่ปลุกเร้าจนลืมกายลืมใจไปหมด แต่การต่อต้านอันพร่ามัวของเธอถูกสกัดเอาไว้อย่างง่ายดายเมื่อเขาล็อกต้นคอเล็กอย่างมั่นคงไม่ให้เธอถอยหนี รวบร่างนุ่มเข้าไปแนบชิดกับร่างแกร่งกระด้างกำยำจนสองร่างแทบจะหลอมละลายเข้าหากัน

    เธอแค่ตั้งใจจะช่วยเขาเท่านั้นแบบที่ผู้นิมิตมักช่วยเหลือผู้คนในเผ่าที่กำลังมีความทุกข์เมื่อรู้ว่าเขากำลังโศกเศร้าจากการสูญเสียพี่ชาย แต่เรื่องกลับตาลปัตรกลายเป็นอีกอย่างที่ห่างไกลจากเจตนาในตอนแรกเริ่มทำให้เธอหลงลืมตนอยู่ในอ้อมกอดของผู้ชายชั่วร้ายคนนี้จนคิดอะไรไม่ออก

    เคราะห์ดีที่หางตาของเธอเหมือนจะเห็นใครสักคนชะงักงันกับภาพของทั้งคู่และรีบถอยห่างออกไป สาวน้อยจึงรีบสะบัดศีรษะหนีและผลักเขาออกห่างเต็มแรงก่อนจะพรวดพราดลุกขึ้นยืนใบหน้าแดงจัด จึงเห็นว่าผู้ที่เข้ามาเป็นพนักงานของสโมสร

                “ดาโกต้า

                “อย่ามาจับตัวฉันอีกนะ!” หญิงสาวสั่งแทบไม่เป็นเสียงเมื่อถอยห่างและทำท่าจะถลันออกไปเมื่อเห็นสายตาอีกอย่างน้อยสามคู่จากสมาชิกของสโมสรกำลังมองมาเหมือนเธอเป็นสัตว์ประหลาด แถมข้อมือยังถูกดึงเอาไว้

    เฮ้! ใจเย็นๆ สิดาโกต้า

    หญิงสาวไม่ตอบเพราะกลัวจะห้ามคำพูดร้ายกาจที่อาจจะพรั่งพรูออกไปไม่ได้ถ้าตอบโต้ในตอนนี้ ตามองสองในสามคนของพยานสำคัญซึ่งเป็นผู้หญิงที่เธอรู้จัก ผู้หญิงช่างนินทาซึ่งจะเล่าเรื่องที่พวกเธอเห็นให้กระจายไปทั่วสังคมนิวยอร์กด้วยความเร็วชนิดที่หนังสือพิมพ์ฟรอสเตอร์จะต้องอาย  

    แปลกใจจังที่เห็นคุณที่นี่มิสโอซัลลิแวน คุณไม่ได้มากับคุณพ่อของคุณเหรอคะ ภรรยาของนายทหารชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลออกไปเอ่ยทัก มองหนุ่มหล่อที่มีชื่อเสียงเลื่องลือซึ่งยังยึดข้อมือเธอไว้แน่นด้วยสายตามีนัยประหลาดอย่างที่ทำให้ดาโกต้าเม้มปากแน่น 

    ก็เห็นกันอยู่ว่าเธอมากับผม มาดามฮอร์ควูดฌอนเอ่ยตอบอเดลภรรยาของพันเอกเดนนิส ฮอว์ควูดนายทหารคนสนิทของรัฐมนตรีกระทรวงการสงครามด้วยนัยน์ตาเข้มจัด

    นั่นสิ ฉันน่าจะรู้ นึกว่าคุณกำลังคบหาดูใจอยู่กับลูกสาวของมิสเตอร์แครวิตซ์ซะอีก แปลกใจจังที่เห็นคุณที่นี่ค่ะฌอนเสียงของมาดามสาวแฝงวี่แววเชือดเฉือน

    ผมน่ะสิต้องแปลกใจที่คุณพูดเรื่องนี้ขึ้นมา ไม่ทราบว่าเอาข่าวมาจากไหนหรือครับ มาดาม

    แหม มีคนเห็นว่าพวกคุณสนิทสนมกันออกนี่คะ แต่เห็นท่าว่าฉันจะเข้าใจผิดไปเองคำตอบนั้นกระฟัดกระเฟียดเมื่อตวัดสายตามองดาโกต้าอย่างไม่ชอบใจ

    คุณเข้าใจผิดไปไกล ผมอยากรู้จริงๆ ว่าใครกล้าปล่อยข่าวสั่วๆ ไม่มีมูลความจริงแบบนี้เพราะผมไม่ได้คบหากับมิสแครวิตซ์ทำนองนั้น ถ้าใครรู้เข้าเธอคงเสียชื่อรวมถึงคนรักของผมจะต้องถูกหมิ่นเกียรติไปด้วย

    คนรักของคุณ อีกฝ่ายตกตะลึงจนลืมความกลัวเพราะถูกข่มขู่ในประโยคก่อนหน้า

    ผมคิดว่าคุณรู้อยู่แล้วซะอีกฌอนสบตากับสาวใหญ่ด้วยนัยน์ตานิ่งสนิทเมื่อรวบมือของสาวน้อยที่เขายึดเอาไว้ให้สอดประสานกับตน ดาโกต้าเพิ่งตกลงรับหมั้นผม มิสโอ'ซัลลิแวนคนนี้แหละยอดดวงใจตัวจริงของผม

    สีหน้าที่แตกตื่นจนซีดเผือดของมิสซิสฮอร์ควูด ยังไม่เท่าความตกใจของดาโกต้าที่อยู่ๆ ก็มีคนรักที่จัดการยัดเยียดตัวเองเลื่อนขั้นขึ้นมาเป็นคู่หมั้นของเธอเสร็จสรรพแบบไม่ทันให้ตั้งตัว

    เธออาจจะโกรธแต่ไม่ได้คาดหวังให้เขาปกป้องด้วยสิ่งที่จะนำหายนะมาสู่ทั้งคู่แบบนี้เลยเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยสายตาขุ่นจัด แต่ผู้ชายน่าโมโหคนนี้มองตอบกลับด้วยแววตาอย่างคนที่กำลังตกหลุมรักสุดๆ จนเธอสั่นสะท้าน   

    เขายังหันไปยิ้มรับคำแสดงความยินดีบทคู่รักใหม่จากคนสองสามคนที่อยู่แถวนั้นและเอ่ยขอตัวกลับโดยอ้างว่าเธอเหนื่อยและกำลังอายมาก คุณพ่อของเธออาจจะท้าดวลปืนกับผมได้ถ้าไปส่งดาโกต้าช้ากว่านี้

    เมื่อไหร่พวกเราจะได้ฟังข่าวดีอย่างเป็นทางการล่ะคะมิสเตอร์วินสตัน-รอสส์หญิงสาวท่าทางกระเหี้ยนกระหือรือคนหนึ่งถามเพราะอยากเป็นคนแรกที่แจ้งข่าวนี้แก่ผู้คนในวงสังคมชั้นสูงโดยเร็ว และได้รับรอยยิ้มมีเสน่ห์อย่างที่ทำให้ผู้หญิงระทดระทวยตอบกลับ ขณะที่มิสซิสฮอร์ควูดนั้นหน้าซีดเผือดพูดไม่ออกไปนานแล้ว

    จะถือว่าผมกำลังแจ้งข่าวอย่างเป็นทางการก็ได้ เพราะพรุ่งนี้ผมกับดาโกต้าต้องเดินทางไปตะวันตกด้วยกัน คงอีกหลายเดือนกว่าเราจะได้กลับมาจัดงานแต่งงาน เพราะอย่างนี้ถึงต้องขอหมั้นกับเธอไว้ก่อน โชคดีที่คุณพ่อของเธอยอมอนุญาตแล้วเขาตีขลุมหน้าตายด้วยสีหน้ารื่นรมย์โดยไม่มีท่าทางรู้สึกผิด   

    กะทันหันมาก ใครบางคนอุทาน

    ผมรู้สึกว่าเจอเธอช้าเกินไปด้วยซ้ำจนเสียเวลาอยู่นาน แต่ตอนนี้ผมพบเธอแล้ว

    ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะฌอนมิสซิสฮอร์ควูดเพิ่งหาเสียงของตัวเองเจอ

    ขอบคุณครับมาดาม พวกเราคงต้องขอตัวก่อนชายหนุ่มเอ่ยลาทุกคนโดยที่ดาโกต้าทำได้แค่ยิ้มอย่างฝืดเฝื่อนและถูกดึงกึ่งลากออกมาข้างนอก

    คุณมันซาตานแท้ๆ ที่กล้ายัดเยียดตัวเองเป็นคู่หมั้นของฉันต่อหน้าคู่ขาเก่า

    ฌอนลดสายตาลงมองคนที่กำลังกล่าวหาเขาด้วยสีหน้าอ่านไม่ออก แต่มีรอยยิ้มประดับอยู่บนริมฝีปากคู่นั้น เคราะห์ร้ายที่เธอจำได้ว่ามันให้รสชาติยังไงจนเกือบเดินสะดุดล้มเพราะใจสั่นไหวไปหมด และอารมณ์นั้นส่งผลให้ผิวกายซ่านซ่าด้วยอิทธิพลที่เขาก่อขึ้น

    ดูคุณจะรู้อะไรต่ออะไรดีไปหมด ไม่เลวจริงๆ ที่รัก

    ต่อให้เป็นเด็กอมมือยังมองออกว่าเธอกำลังหึงหวงขนาดหนัก

    อเดลชอบทำอะไรออกนอกหน้าไปหน่อย โชคดีที่สามีของเธอมีความอดทนพอ

    ผู้ชายน่าสงสารคนนั้นน่าจะท้าดวลกับคุณนะและเธอนี่แหละจะสาปแช่งให้เขาโดนกระสุนเข้าหัวใจไปถึงแม่น้ำสติ๊กซ์จนไม่มีโอกาสผิดลูกเขาเมียใครอีก 

    ถ้าอย่างนั้นเขาคงต้องท้าดวลกับเจ้านายตัวเองแล้วก็เพื่อนนายทหารอีกสองสามคน แต่จอห์นฉลาดพอเขาเลยแก้เผ็ดเธอแบบเดียวกันถึงฮอร์ควูดจะเกลียดเขามากกว่าชู้รักคนอื่นของอเดลก็เถอะ สองคนนี้เลยเป็นเนื้อคู่ชู้ชื่นที่ต่างคนต่างแสวงหาความสุขนอกบ้านแต่ยังรักษาการแต่งงานเอาไว้เพราะพวกเขามีลูกด้วยกันตั้งสองคน

    คุณต้องพูดเล่นแน่คนฟังอ้าปากค้าง การอยู่ใกล้เขาหลังจากเกิดเหตุการณ์หายนะเมื่อครู่ที่ผ่านมาทำให้สมาธิและวิจารณญาณของเธอตายดับจนไม่สังเกตเห็นอะไรเลย เธอคงเป็นผู้นิมิตที่ดีไม่ได้แน่ถ้ามีเขาคอยเป็นตัวป่วนและทำลายการ รู้ของเธอไปเสียหมดแบบนี้

    โชคดีที่พรุ่งนี้เธอต้องเดินทางไปตะวันตก และคราวนี้ตั้งใจจะอยู่ที่นั่นสักหลายๆ เดือนจนข่าวคราวฝั่งนี้เงียบหายไปพอให้พ่อไม่ขายหน้ามาก ถึงตอนนั้นเธอคงกลับมาขณะที่เขาเปลี่ยนคนรักไปแล้วหลายคน... แต่เดี๋ยวนะ!

    ทำไมคุณบอกพวกนั้นว่าพรุ่งนี้เราจะไปตะวันตกด้วยกัน

    ผมเปลี่ยนแผนกะทันหันน่ะที่รัก คุณพ่อของคุณคงไม่สบายใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นถ้าผมไม่ตามลงไปคุ้มครองคุณในฐานะคู่หมั้น

    นี่มันบ้ากันไปหมด!

    ดาโกต้ารับสายบังเหียนจากพนักงานของสโมสรมาถือไว้ในมือและกระโดดขึ้นหลังชาปาเองโดยไม่ยอมให้เขาแตะต้อง จัดการควบม้าทะยานนำออกไปข้างหน้าเพื่อหาวิธีรับมือกับเรื่องบ้าบอทั้งหลายโดยไม่สนใจที่จะรอใคร เธอไม่น่าใจอ่อนกับคาเร็นแล้วยอมออกมากับเขาเลย

    หญิงสาวหูอื้อตาลายไปหมดจนกระทั่งถึงบ้านโยนบังเหียนให้คนดูแลม้าที่รีบเข้ามารับม้าและเอ่ยทักทายเธออย่างสุภาพ แต่ไม่ได้รับปฏิกิริยาตอบสนอง นาทีต่อมาชายหนุ่มที่มารับเธอออกไปก็กระโดดลงจากหลังม้า ยิ้มร่าให้เขาและส่งสายบังเหียนให้

    มิสเตอร์โอ'ซัลลิแวนกลับมาหรือยัง

    เพิ่งมาถึงเมื่อครู่นี้เองครับ มิสเตอร์วินสตัน-รอสส์

    แจ้งบัตเลอร์ของท่านด้วยว่าฉันมีเรื่องสำคัญอยากพูดด้วย

    ผมได้ยินแล้ว มิสเตอร์วินสตัน-รอสส์ร่างสูงของนายธนาคารโอ'ซัลลิแวนเดินออกมาจากบ้าน เขม้นมองหนุ่มหล่อล่ำที่ตามลูกสาวของเขามาอย่างพินิจ  

    โปรดเรียกผมว่าฌอนเถอะครับ ผมจะมาขออนุญาตเรื่องการหมั้นกับดาโกต้า

     

    ไม่มีทาง หนูยังไม่อยากมีคู่หมั้นนะคะพ่อ!” ดาโกต้าเอ่ยเสียงต่ำอย่างเดือดจัดเมื่อรู้ว่าเขากำลังดำเนินการยัดเยียดตัวเองให้เธออย่างสมบูรณ์

    คาเร็นตื่นเต้นดีใจจนออกนอกหน้าแม้จะมีท่าทางตกใจอยู่บ้างเมื่อรู้ข่าว แต่รับรองว่าแม่เลี้ยงของเธอไม่ได้ช่วยทัดทานเลยนอกจากเห็นดีเห็นงามไปด้วย

    แล้วชื่อเสียงที่เสียไปแล้วล่ะลูก มีหลายคนเห็นเขาตามหนูลงไปในสวนเมื่อวานที่งานเลี้ยงของท่านวุฒิสมาชิก วันนี้หนูยังออกไปกับเขาแล้ว...โรเบิร์ตยับยั้งคำพูดนั้นเพราะเห็นแก่หน้าลูกรักที่เกิดจากภรรยาชาวไชย์แอนน์ที่เขารักมาก แต่น่าเสียดายที่ทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกันน้อยเกินไป ถึงอย่างนั้นเธอยังมอบของขวัญให้เขาเป็นลูกสาวแสนสวยผมแดงที่กล้าหาญเฉลียวฉลาดยิ่งกว่าผู้หญิงทุกคนที่เขาเคยพบ

    นายธนาคารโอ'ซัลลิแวนแกล้งลืมเลือนนิสัยแปลกประหลาดไม่เป็นกุลสตรีหลายประการของลูกสาวที่เขารักปานแก้วตาดวงใจไป ถ้าไม่มีใจให้หนูจะออกไปกับเขาทำไม

    ก็...ดาโกต้าเหลือบตามองคาเร็นที่รีบก้มลงสำรวจนิ้วมือของตัวเองเหมือนเป็นสิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่าการสนทนาตึงเครียดของสองพ่อลูก รู้อยู่หรอกว่าแม่เลี้ยงที่แก่กว่าเธอเพียงไม่กี่ปีค่อนข้างกลัวคุณพ่อของเธอเพราะวัยที่ต่างกันมาก แต่มันน่านัก “…หนูแค่อยากออกไปขี่ม้า แต่ไม่นึกว่าจะเกิดเรื่องบ้าๆ ขึ้นนี่คะ หนูไม่ได้เต็มใจสักหน่อย

    แต่ความเสียหายเกิดขึ้นแล้ว

    หนูเบื่อกฎเกณฑ์ของสังคม คุณพ่อก็รู้ว่าหนูไม่เคยนึกอยากแต่งงานกับผู้ชายคนไหนพวกนี้สักคน

    โรเบิร์ตเดินเข้ามาจับบ่าบอบบางที่ยังอยู่ในเสื้อเชิ้ตคู่กับกางเกงขี่ม้าแม้จะผ่านมาแล้วถึงสองชั่วโมงหลังจากที่เขาคุยเป็นการส่วนตัวกับฌอนในห้องทำงาน และคนที่กำลังรอคอยคำตอบยังนั่งรอรับประทานมื้อค่ำกับครอบครัวของเขาอยู่ด้านนอก

    พ่อเคยอยู่กับแม่ของหนูมาหลายปีแล้วก็ไม่ได้รังเกียจวิถีชีวิตของชาวไชย์แอนน์ วัฒนธรรมของคนขาวที่เป็นเชื้อสายของพ่ออาจจะไม่น่าชื่นชมเสมอไป แต่พ่ออยากให้หนูลองดูอีกสักครั้งที่จะมีชีวิตแบบพ่อเพราะในที่สุดหนูก็รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพี่น้องของมอร์นิ่งดิว

    พวกเราต้องถูกบังคับให้ละทิ้งถิ่นฐานแล้วมีชีวิตตามแบบคนขาว หรือไม่ก็ตายเหมือนพี่น้องจำนวนมากของแม่ใช่ไหมคะ

    จำไม่ได้หรือลูกว่ามอร์นิ่งดิวเป็นคนที่อยากให้หนูออกมาใช้ชีวิตกับพ่อ

    แต่แม่ก็ยังอยากเป็นชาวไชย์แอนน์เหมือนเดิมนี่คะ

    เพราะเธอรู้ว่าตนไม่เป็นที่ต้อนรับจากครอบครัวผู้ดีของเขา จึงฝากฝังให้เขาเลี้ยงดูลูกสาวในแบบที่คนขาวจะยอมรับและจากไปตั้งแต่ดาโกต้ายังไม่โตเป็นวัยรุ่น

    ปีแรกๆ ที่ต้องเข้ามาดูแลกิจการธนาคารของครอบครัว ภาระในการดูแลลูกจึงตกอยู่กับพี่สาวผู้เข้มงวดที่ส่งหลานสาวครึ่งชาติไปเรียนหนังสือในคอนแวนต์ แต่เมื่อเด็กหญิงผมแดงสร้างปัญหาให้มากเข้าทางซิสเตอร์จึงขอพบผู้ปกครองในเวลาเพียงสามปีต่อมา

    โรเบิร์ตรับลูกกลับมาอยู่ด้วยและจ้างอาจารย์เข้ามาสอนหนังสือให้ดาโกต้าในแขนงต่างๆ ที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์กับเธอ พ่อลูกจึงได้กลับมาสนิทสนมกันเหมือนเดิมเมื่อเด็กสาวยื่นคำขาดว่าถ้าให้ป้าเป็นผู้ดูแลเธอจะหนีกลับไปอยู่กับพี่น้องชาวไชย์แอนน์ที่บัดนี้อาศัยอยู่แถบแม่น้ำพาวเดอร์และหุบเขาแม่น้ำแพล็ตต์ในไวโอมิง

    คนเป็นพ่อไม่อาจทำใจยอมให้ลูกสาวคนเดียวอยู่ห่างสายตาได้จึงขอร้องแกมบังคับให้เธออยู่กับเขา แลกกับสัญญาที่จะให้ดาโกต้ากลับไปเยี่ยมบ้านฝั่งมารดาได้ปีละหนึ่งหรือสองเดือนเป็นอย่างมาก

    นายธนาคารโอ'ซัลลิแวนเป็นคนอ่อนโยนและมีเมตตา แต่เขาเป็นนักธุรกิจและเข้าใจถึงความกระหายของคนขาวที่อยากครอบครองดินแดนของอินเดียนแดงเป็นอย่างดี การตายของมอร์นิ่งดิวและอนาคตที่พอคาดการณ์ได้ของอินเดียนแดงมีแต่ความมืดมน เขาจึงอยากให้ดาโกต้าสละทิ้งชาติกำเนิดอีกครึ่งหนึ่งของเธอเสีย แต่เธอหัวดื้อยิ่งกว่าใคร  

    การแต่งงานกับฌอนจะทำให้เธอกลายเป็นคนขาวมากขึ้น และถ้ามีลูกเธอก็จะเข้าใจหัวอกของเขาที่อยากคุ้มครองครอบครัวของตนจนอาจตัดใจจากพี่น้องชาวไชย์แอนน์ได้

    นี่เป็นโอกาสที่หนูจะได้ใช้ชีวิตอย่างคนขาว การแต่งงานกับฌอนจะช่วยให้หนูมีผู้คุ้มครองที่ดี

    หนูยังสงสัยว่าเขาคุ้มครองตัวเองได้ดีแค่ไหนหญิงสาวเม้มปาก ทำเป็นจำไม่ได้ว่าร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มที่กำลังขอหมั้นกับเธอแข็งแรงพอๆ กับนักรบอินเดียนแดง

    เขาควบม้ารอบสนามขนาดใหญ่เจ็ดรอบโดยมีเหงื่อซึมแค่นิดเดียว ยกเธอขึ้นหลังม้าพ่วงพีโดยไม่ต้องใช้ความพยายามและโอบรัดเธอเอาไว้ในท่อนแขนแกร่งเหมือนปลอกเหล็กจนความพยายามที่จะขัดขืนเป็นเรื่องน่าขัน แต่เธอโทษว่าเป็นเพราะแรงดึงดูดระหว่างชายหญิงที่ปฏิเสธไม่ได้ต่างหากที่ทำให้เธออ่อนแออย่างน่าสมเพช   

    เขาเป็นคนหนุ่มอนาคตไกลที่ร่ำรวยมากพ่อแน่ใจว่าเขาจะคุ้มครองหนูได้แน่ๆ

    เงินไม่ได้สำคัญกับพวกเรา คุณพ่อเองก็ไม่ได้ยากจนนี่คะ

    มันก็ใช่โรเบิร์ตไม่รู้จะอธิบายอย่างไร แต่คาเร็นที่อยู่ไม่ห่างออกไปและพอได้ยินบทสนทนาเอ่ยขึ้นอย่างเกรงใจเพราะเห็นว่าเป็นโอกาสที่เหมาะสม

    ฉันกำลังตั้งท้องอ่อนๆ น่ะดาโกต้า โรเบิร์ตกลัวว่าเขาจะดูแลเธอไม่ได้เต็มที่ถ้าเรามีลูกเล็กอีกคนหญิงสาวบอกและรีบอธิบายเมื่อเห็นตาดำโตจ้องมาอย่างตกตะลึง ฉันไม่ได้หมายความว่าคุณพ่อของเธอกับฉันจะรักเธอน้อยลงหรอกนะ แค่พูดในฐานะที่ฉันแต่งงานช้าว่าสำหรับผู้หญิงเรา การแต่งงานมีคู่ครองที่ดีเป็นเรื่องสำคัญมากต่อให้เธอเป็นคนเก่งแค่ไหนก็เถอะ แต่ถึงจะเกิดอะไรขึ้นเธอก็จะเป็นครอบครัวของฉันเสมอ พวกเรารักเธอมาก

    แต่พ่อกับคาเร็นคงยุ่งกับชีวิตใหม่ที่จะกำลังจะเกิดขึ้น และคงดีกว่าถ้าลูกติดอย่างเธอแต่งงานกับผู้ชายที่เหมาะสม หรือไม่เธอก็คงหมดโอกาสที่จะหาผู้ชายอื่นที่เทียบเท่ากับเขามาแต่งงานด้วยหลังจากข่าวลือแพร่สะพัดออกไป

    หญิงสาวรับนัยของสารที่คาเร็นต้องการส่งให้อย่างไม่ตกหล่นจนความยินดีที่จะมีน้องเจือจางลงไม่มากก็น้อย  

    เธอไม่โทษคาเร็นที่ต้องการความมั่นคงด้วยการมีลูกกับผู้ชายแก่คราวพ่อที่ตนแต่งงานด้วยแถมยังมีลูกติดซึ่งอายุใกล้เคียงกัน การหาคู่ให้ลูกเลี้ยงยังถือเป็นงานสำคัญที่เธอต้องการทำให้สำเร็จ คาเร็นไม่ใช่คนร้ายกาจอะไรเลยหากหญิงสาวยังอายุน้อยจนอาจจะลืมคิดว่านี่ไม่ใช่โอกาสเหมาะสมนักที่จะแจ้งข่าวดีในเวลาที่เธอต้องการการสนับสนุนจากพ่ออย่างเต็มที่โดยไม่มีสิ่งอื่นมาหันเหความสนใจ  

    หนูดีใจที่พ่อกำลังจะมีลูกกับคาเร็น หญิงสาวเอ่ยเสียงอ่อน โมโหตัวเองที่เกิดความน้อยอกน้อยใจ   

    น้องของหนูด้วยไงล่ะ เราเพิ่งรู้เรื่องที่คาเร็นท้องเมื่อวานนี้เอง พ่อเลยยังไม่มีโอกาสบอกให้ลูกรู้ แต่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่พ่อกำลังอธิบายให้หนูฟังหรอกนะ

    ดีจังที่พ่อพูดแบบนี้หญิงสาวโถมตัวเข้าไปกอดบิดาด้วยความรู้สึกหวาดหวั่น ดีใจที่พ่อกอดเธอตอบอย่างอบอุ่นเช่นเคย แปลว่าพ่อจะอยู่เคียงข้างหนูใช่ไหมคะ

    เสมอไปลูกรัก

    ถ้าอย่างนั้นก็จะไม่มีการหมั้นหรือการแต่งงานเกิดขึ้น พ่อไม่จำเป็นต้องยกอะไรให้หนูถึงหนูจะขึ้นคานไม่ได้แต่งงานกับใคร หนูดูแลตัวเองได้ค่ะ เราค่อยมาแก้ไขเรื่องนี้ตอนที่หนูกลับจากตะวันตกนะคะ

    ทั้งโรเบิร์ตกับคาเร็นหันไปมองหน้ากันอย่างอัดอั้นตันใจ แต่สีหน้าแม่เลี้ยงของเธอเดือดร้อนกว่าซึ่งไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับดาโกต้า แค่พ่อเข้าใจเธอก็พอใจแล้วและเธอคิดว่าเขาจะทำใจได้ในเวลาไม่นานนัก

     

    เขาไม่อยากเชื่อว่าจะโดนผู้หญิงที่ขอแต่งงานเป็นคนแรกปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยหลังจากมั่นใจมาตลอดชีวิตว่าเมื่อไหร่ที่ต้องการลงหลักปักฐาน แค่เอ่ยปากเท่านั้นเขาก็จะมีภรรยาและคงจะมีชีวิตแต่งงานที่น่าเบื่อนิดหน่อยแต่ฌอนคิดว่าเขาคงทนได้เมื่อถึงเวลานั้น

    หากความจริงแตกต่างออกไปมาก เธอไม่ยอมลงมาพบเขาด้วยซ้ำแต่ให้โรเบิร์ตลงมาปฏิเสธแทน   

    ชายหนุ่มมองทิวทัศน์ชนบทของเมืองที่เดินทางผ่านโดยที่ภาพเหล่านั้นไม่ได้ผ่านเข้าไปในกระบวนการทางความคิดของเขาซึ่งผูกติดอยู่กับสาวน้อยที่นั่งอยู่โบกี้ติดกันหลังจากที่เขายอมจ่ายถึงสามเท่าเพื่อแลกตั๋วและวันเดินทางเร็วขึ้นอีกหนึ่งวันจากตู้โดยสารแบบเหมากับผู้โดยสารรายก่อนที่กำลังจะลงไปทำธุรกิจที่นั่นสำหรับตนเองและรอย

    เราเปลี่ยนแผนกะทันหันแบบนี้จะมีผลกับธุรกิจของคุณหรือเปล่าครับหนุ่มครึ่งชาติเอ่ยถาม

    ฉันหวังว่าคงไม่ มาร์ตินทำงานของเขาได้ดี ฉันมอบอำนาจให้เขาจัดการร่วมทุนกับควบรวมกิจการเบื้องต้นไปเกือบทั้งหมดแล้ว ส่วนเรามีหน้าที่ลงไปหาข่าว ถ้ามีเวลาเมื่อไหร่ฉันค่อยเดินทางไปดูสำนักพิมพ์พวกนั้นทีหลัง ชายหนุ่มเอ่ยชื่อทนายความและผู้ดูแลผลประโยชน์ของฟรอสเตอร์ที่ล่วงหน้าลงมาก่อนเป็นเวลาหลายเดือน

    เดินทางเที่ยวนี้ใช้เวลาถึงหกวัน ผมเบื่อการนั่งเจ้าม้าเหล็กนี่จริงๆรอยบ่น มองตึกสูงระฟ้าของเมืองชิคาโกและบ้านเรือนปศุสัตว์มากมายของคนขาวอย่างปลงตกแต่ยังมีความเจ็บแค้นหลงเหลืออยู่   

    นึกว่านายชอบเดินทางซะอีก

    ผมได้เห็นมามากพอแล้วจนรำคาญเสียงหวูดหนวกหูของเจ้านี่เต็มที

    เปิดหูเปิดตาเอาไว้ดีกว่า ข่าวสารมีอยู่ทุกแห่งไม่ใช่แค่สถานที่ที่เราต้องการเดินทางไป

    คุณไม่นึกอยากไปขุดทองที่แบล็กฮิลล์เหมือนคนอื่นๆ หรือครับมิสเตอร์

    ทำไมนายถามแบบนั้น

    พ่อของคุณเคยได้ทองมากมายจากเหมืองที่เดนเวอร์จนร่ำรวยมีเงินตั้งสำนักพิมพ์ฟรอสเตอร์ ผมเลยคิดว่าคุณอาจจะมีความสนใจอย่างเดียวกัน

    ฌอนยิ้มเนือยกับข้อมูลที่หนุ่มครึ่งชาติรู้มาแม้จะไม่ทั้งหมด แต่ก็อดชื่นชมความพยายามของเขาไม่ได้ พ่อลองลงทุนกับเพื่อนที่เป็นนายทหารลงมาทำเหมืองแล้วโชคดีได้เจอต้นสายแร่ทองคำเข้า เราเลยทำเหมืองทองได้จนสุดสาย แต่ฉันชอบทำงานอื่นมากกว่า นี่นายยังคิดว่าฉันมีเจตนาแอบแฝงในการลงไปทำข่าวกับญาติพี่น้องของนายเรอะ

    ผมแค่ถามดูเพราะความสงสัย ผมรู้ว่าเชื่อใจคุณได้เพราะคุณไม่เหมือนคนขาวคนไหนๆ ที่ผมเคยรู้จัก

    คนส่วนใหญ่เดินทางมาพร้อมความหวังที่จะตั้งรกรากเพราะอยากมีชีวิตที่ดีกว่าที่เขาหาไม่ได้ในบ้านเกิดของตัวเองขณะที่ตระกูลวินสตัน-รอสส์สามารถทำให้เงินเพียงเซ็นเดียวงอกเงยขึ้นมานับล้านดอลล่าร์ได้ด้วยความเชี่ยวชาญที่ติดตัวพวกเขามาเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของกรรมพันธุ์ แม้เหมืองทองจะทำให้พวกเขารวยอื้อซ่าขึ้นยิ่งกว่าธนาคารขนาดใหญ่หลายแห่งรวมกัน แต่พวกเขาไม่ได้สนใจมันมากเท่ากับความสนุกในการสร้างบริษัทต่างๆ ขึ้นมาและทำให้พวกมันสร้างผลกำไร

    แม้กระทั่งฟรอสเตอร์เองก็สร้างมาก่อนที่พ่อของเขาจะลงมาลงทุนทำเหมืองและได้รับทองกลับไปมากมายเกินคาดไม่ใช่เปิดขึ้นในภายหลังอย่างที่รอย มิลตันเข้าใจ

    อีกไม่นานคนขาวก็จะยิ่งหลั่งไหลมา ฉันอยากให้นายทำใจไว้ว่าต่อให้เราพยายามช่วยเหลือ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะทำสำเร็จ”  

    พวกนั้นแห่กันมาเหมือนมดขณะที่เราถูกล่าเหมือนควายป่าที่กำลังจะสูญพันธุ์

    ฉันเข้าใจว่านายรู้สึกยังไง”  

    พี่น้องของผมดีใจมากตอนที่ผมส่งข่าวว่าคุณจะลงไปหา แทบไม่มีพวกเราคนไหนเลยที่อ่านออกเขียนได้แล้วมีโอกาสบอกให้โลกรู้ความจริงโดยไม่ถูกบิดเบือนไปจนไม่เหลือเค้าความจริงหางเสียงของเขาขมขื่น   

    ฉันสัญญาไม่ได้หรอกว่าจะช่วยเหลือพวกเขาได้มากอย่างที่นายต้องการ แต่ก็จะพยายาม

    แค่นั้นก็ดีมากพอแล้วครับมิลตันตอบ วันนี้ตอนที่ขึ้นรถไฟมา มิสเตอร์รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า

    เขายังสงสัยว่าเขาจะมีความสามารถในการทุ่มเทสมาธิให้กับสิ่งอื่นหรือไม่ นอกจากสาวน้อยที่นั่งอยู่ในตู้ถัดไป แต่ฌอนสังเกตเห็นอาการระแวดระวังของรอย ไม่นี่ มีอะไรหรือเปล่า

    ผมรู้สึกว่าเรากำลังถูกจับตามอง

    งั้นรึนายคิดว่าคนที่จับตาดูเราอยู่บนรถไฟกับเรา?”

    รอยพยักหน้ารับ คงเป็นไปไม่ได้ที่จะทำอะไรเราในตู้รถไฟอย่างนี้โดยเฉพาะตู้โดยสารนี้มีแค่เรา แต่ผมคิดว่าตอนนอนเราน่าจะจัดเวรนอน เพื่อความไม่ประมาทนะครับถ้ามิสเตอร์ไม่มีอะไรขัดข้อง

    ฉันไม่มีอะไรขัดข้องณอนพยักหน้ารับง่ายๆ ไม่ได้ติดใจสงสัยในสัญชาตญาณของนักแกะรอยที่เป็นนายพรานอย่างรอย  

    หนุ่มครึ่งชาติคนนี้อาจจะเป็นชาวไชย์แอนน์แต่เผ่าของเขายังมีความใกล้ชิดกับเผ่าซู และมีญาติที่เป็นชาวซูสาขาฮังค์ปาปาซึ่งสนิทชิดเชื้อกันเป็นอย่างดี คนพวกนี้เป็นนักแกะรอยชั้นดีทั้งสัตว์สองเท้าอย่างมนุษย์ และสัตว์สี่เท้าอย่างกวางแอนตีโลป หมีและควายป่า มีสัญชาตญาณยอดเยี่ยมพอๆ กับการเป็นนักรบที่กล้าหาญ  

    ชายหนุ่มเคยเห็นความชำนาญด้านนี้ของชาวซูมาแล้วเมื่อเคยมาใช้ชีวิตกับอินเดียนแดงอยู่หลายเดือน เขายังได้เทคนิคดีๆ หลายอย่างจากนักแกะรอยที่เคยรู้จักกันและรู้ว่าทหารจะใช้อินเดียนแดงที่ยอมเป็นพันธมิตรกับตนมาเป็นกองสอดแนมหรือแมวมองเพื่อแกะรอยอินเดียนแดงเผ่าอื่นที่ยังต่อต้านรัฐบาล โดยเฉพาะพวกที่เคยเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันอย่างการที่นายพลคัสเตอร์ผู้มีชื่อเสียงมาจากสงครามกลางเมืองและย้ายมาประจำการในกรมทหารม้าที่ 7 เพื่อจัดการกับอินเดียนแดงเมื่อสงครามสงบ ได้ใช้อินเดียนแดงเผ่าโครว์เป็นแมวมองเพื่อแกะรอยชาวลาโกต้า  

    คัสเตอร์เคยก่อโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ด้วยการสังหารหมู่ชาวไชย์แอนน์ใต้ของแบล็คเค็ตเติลที่แม่น้ำวาชิตาในปี ๑๘๖๘ โดยคำสั่งของนายพลเชอริแดน เขาถูกเรียกว่า ปาฮัสคา หรือ คนผมยาวในภาษาซู เขาเผาทำลายหมู่บ้าน สังหารเด็กและผู้หญิงไปกว่าร้อยคนจนถูกหมายหัวให้เป็นศัตรูตลอดกาลของอินเดียนแดงโดยเฉพาะเครซี่ฮอร์ส หลังจากนั้น

    การเดินทางรอนแรมสี่วันแรกผ่านไปโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนรอยเริ่มคลายใจและลดการระมัดระวังลงในเวลารักษายาม เขายังทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นแม้จะรู้ว่าหนุ่มสังคมชั้นสูงมักหายไปแอบดูสาวน้อยที่แต่งกายเหมือนเด็กผู้ชายด้วยชุดกางเกงผ้าฝ้ายสีดำและเสื้อเชิ้ตสีขาวเหมือนชุดขี่ม้าหลวมๆ แต่คงจะเป็นลูกผู้ดีเพราะเธอมีผู้ติดตามมาด้วยเป็นคนรับใช้สามีภรรยาวัยเกือบสี่สิบปีคู่หนึ่ง  

    ผู้หญิงคอยตามดูแลสาวน้อยในเวลาที่รถไฟหยุดพักระหว่างเมืองต่างๆ ในเวลากลางคืนโดยมีผู้ชายพกปืนสองกระบอกคอยติดตามไปเงียบๆ

    รอยต้องยอมรับว่านายจ้างของเขาไม่ธรรมดาเลยที่ติดตามเธอไปไหนต่อไหนหลายวันโดยที่สาวน้อยและผู้ติดตามของเธอไม่รู้ตัวสักนิด การเดินทางในวันที่ห้าผ่านไปอย่างปกติจนกระทั่งถึงช่วงบ่ายที่ผ่านเขตหุบเขาซึ่งเป็นถิ่นของอินเดียนแดงและรถหยุดลงที่สถานีรถไฟค่อนข้างเปลี่ยวแห่งหนึ่งซึ่งมีโรงแรมที่พักสำหรับนักเดินทาง  

    คืนนี้คุณหนูอย่าออกไปไหนเลยนะคะ นอราพี่เลี้ยงสาวใหญ่บอกอย่างหวั่นๆ เมื่อหิ้วกระเป๋าเดินทางตามติดนายสาวน้อยเข้าไปในโรงแรมที่พักโดยมีดานีโล สามีชาวสเปนของเธอทำหน้าที่อารักขาคุณหนูดาโกต้ารั้งอยู่ท้ายสุดหิ้วกระเป๋าใบใหญ่กว่าตามมา   

    เราไม่ได้มาที่นี่ตั้งปีหนึ่งแล้วนะนอรา ฉันอยากออกไปเดินดูอะไรๆ ข้างนอกบ้างดาโกต้าบอกอย่างร่าเริง เธอรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นหลายเท่าทุกครั้งที่เข้ามาอยู่ในอาณาบริเวณอันร่มรื่นของป่าเขา ได้สูดลมหายใจเอากลิ่นอากาศสดชื่นเข้ามาเต็มปอด สิ่งก่อสร้างทันสมัยและผู้คนมากมายแข่งขันแต่งตัวประกวดประชันกันทำให้เธอเวียนหัว

    โรงแรมที่พักแห่งนี้มีผู้คนบางตาเพราะเป็นหมู่บ้านที่ห่างไกลออกมาจากเมืองใหญ่ พรุ่งนี้เธอจะเดินทางไปถึงไวโอมิงและใช้เวลาอีกอย่างน้อยสามสี่วันบนหลังม้าเดินทางเข้าไปถึงบริเวณที่ญาติฝั่งแม่ปลูกกระโจมรวมกันอยู่ 

    น่ากลัวออกจะตายไปค่ะ เขาบอกว่าอินเดียนแดงแถบนี้โหดเหี้ยมเหลือเกิน พวกนั้นเคยเข้ามาขโมยม้ากับฆ่าเจ้าของไร่ปศุสัตว์เมื่อหลายเดือนก่อนแล้วเจ้าหน้าที่บ้านเมืองยังจับตัวไม่ได้

    คงมีเหตุผลที่พวกเขาทำอย่างนั้น ถ้าพวกเขาเข้ามาอีกฉันก็จะได้ถามให้รู้แน่ปากได้รูปงามสีแดงระเรื่อขยับยก เธอพูดภาษาของชาวไชย์แอนน์ได้คล่องแคล่วพอๆ กับภาษาซูและภาษาสเปน 

    ถ้าพวกมันยอมให้คุณหนูพูดก็ดีนะสิคะนอราบอกพลางทำหน้าพรั่นพรึง

    หล่อนเป็นพี่เลี้ยงให้ลูกสาวคนเดียวของตระกูลโอ'ซัลลิแวนมาตั้งแต่คุณหนูดาโกต้าอายุแค่แปดขวบ แต่ถึงจะดูแลสาวน้อยคนนี้มาแล้วถึงสิบเอ็ดปีและเคยตามมาที่ไวโอมิงหลายครั้งในช่วงนี้ของปีเมื่อโรเบิร์ตอนุญาตให้ลูกสาวกลับมาเยี่ยมบ้าน นอราก็ไม่เคยคุ้นกับถิ่นตะวันตกอันป่าเถื่อนเสียที

    หล่อนพักอยู่ในหมู่บ้านที่บ้านหลังใหญ่ของชาวไร่คนหนึ่งซึ่งเคยเป็นเพื่อนเก่ากับนายจ้างขณะที่ดาโกต้าเดินทางไปพักอยู่ในกระโจมกับอินเดียนแดงโดยมีชาวไชย์แอนน์หลายคนมารับและมีดานีโลเดินทางไปด้วย   

    ดานีโลเป็นนายพรานเก่าชาวสเปนที่มีความคุ้นเคยกับถิ่นตะวันตกเพราะเคยอาศัยและท่องไปทั่วทุ่งราบจนกระทั่งถูกจ้างเป็นการถาวรจากโรเบิร์ต โอซัลลิแวน เขาตามนายจ้างไปจนได้แต่งงานกับนอราที่นิวยอร์ก เขาอายุพอๆ กับนายจ้างของตนและเห็นคุณหนูดาโกต้ามาตั้งแต่ยังเด็ก ดานีโลเป็นคนพูดน้อยแต่มีความเข้าใจกันดีกับดาโกต้าอย่างที่บางครั้งนอราเองก็ไม่มีวันเข้าใจ     

    คุณหนูดาโกต้าเป็นนักกฎหมายที่เชี่ยวชาญซึ่งเข้าใจภาษาชวนเวียนหัวของนักกฎหมายได้ดีกว่าผู้ชายส่วนมากและมีประกาศนียบัตรรับรองจากทางมหาวิทยาลัยเพราะมีอาจารย์สอนมาจากฮาร์วาร์ด แต่สังคมยังไม่เปิดกว้างพอที่จะให้ผู้หญิงเข้าไปทำงานอย่างอิสระเคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้ชายมากพอแม้พวกเธอจะมีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งและเข้าทำงานของภาครัฐมาได้แล้วหลายปี

    โชคดีที่นายธนาคารโอ'ซัลลิแวนเข้าใจลูกสาวดีจึงให้เธอเข้าไปช่วยงานนักกฎหมายของเขาที่ธนาคารและให้เงินเดือนในตำแหน่งนักกฎหมายมาตั้งแต่ปีที่แล้ว

    ในวัยสิบเก้าปีนั้นสถานะของดาโกต้าใกล้จะขึ้นคานเต็มทีสำหรับสาวน้อยลูกผู้ดีวัยเดียวกันกับเธอที่ส่วนใหญ่ออกเรือนไปแล้ว แต่คุณหนูของนอรายังไม่เคยสนใจผู้ชายคนไหนและยังมีความกระตือรือร้นเกินพอดีที่จะเดินทางมาตะวันตกทุกปีจนพี่เลี้ยงอย่างหล่อนกลัวว่า นายธนาคารโอ'ซัลลิแวนอาจจะได้ลูกเขยเป็นคนผิวแดง

    และความคิดเช่นนั้นไม่ใช่สิ่งที่นอรายอมรับได้ง่ายนักแม้จะรักคุณหนูมากเพียงไร  

    ถ้านอราไม่อยากลงมาด้วยก็อยู่เฝ้าห้องเหมือนเดิม ฉันจะออกไปกินอาหารค่ำกับดานีข้างนอก

    คุณหนูเป็นผู้หญิงคนเดียวนอรามองไปรอบๆ เห็นคนเดินทางส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย ถ้าเป็นผู้หญิงก็มีสาวใช้และผู้ติดตามหลายคนแตกต่างจากดาโกต้าโดยสิ้นเชิง ดานีอาจจะดูแลไม่ไหวนะสิคะ

    ถ้าอย่างนั้นปืนโคลท์สี่กระบอกจากเราสองคนน่าจะดูแลไหว

                นี่ก็เป็นอีกอย่างที่แตกต่างจากสาวลูกผู้ดี คุณหนูของนอราแต่งตัวเหมือนผู้ชายเมื่อเดินทางออกต่างเมืองโดยไม่สนใจสายตาของใครและพกปืนทันสมัยรุ่นล่าสุดไว้บนสะโพกทั้งสองข้าง ถึงจะรู้ว่าคุณหนูยิงปืนแม่นเหมือนจับวางและไม่กลัวอะไรง่ายๆ แต่เรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่เหมาะสมกับกุลสตรีในสายตาของพี่เลี้ยง

                การโต้เถียงหยุดลงและนอราก็รู้ดีว่าป่วยการที่จะกล่อมโดยเปล่าประโยชน์จึงยอมอยู่บนห้องคนเดียวและสั่งอาหารของโรงแรมขึ้นมารับประทานเมื่อดาโกต้าเก็บของ ล้างหน้าล้างตาและเก็บผมยาวเอาไว้ใต้หมวกโคบาลอย่างผู้ชายชาวใต้ออกจากห้องไปพร้อมกับดานีโลอย่างสดชื่น

                สลิมเฟซจะมารับคุณหนูเหมือนเดิมนะครับดานีโลบอกเมื่อทั้งคู่สั่งอาหารแบบชาวไร่เป็นสเต็กย่างทาเนยกินกับมันฝรั่งและนั่งลงบนโต๊ะที่ทั้งร้านมีแค่สี่โต๊ะหากมีแขกนั่งอยู่เพียงสองโต๊ะ

                สลิมเฟซเป็นชาวไชย์แอนน์ที่มักทำหน้าที่ผู้นำทางและล่ามให้ชาวเผ่า เขาพอพูดภาษาอังกฤษได้แม้จะเขียนไม่ได้ แต่เป็นแค่คนจำนวนเพียงหยิบมือที่สื่อสารกับคนขาวได้ เลยมีหน้าที่มารับดาโกต้าทุกครั้งที่สถานีรถไฟปลายทางพร้อมอินเดียนแดงบางคนที่สลับหมุนเวียนกันไป

                เขาจะเอาล่อมาขนของด้วยใช่ไหมหญิงสาวนึกถึงของฝากที่จำเป็นกับการดำรงชีวิตและขนมาด้วยเป็นจำนวนมาก นึกถึงสีหน้ายินดีของญาติพี่น้องเมื่อได้เห็นเธอแล้วเปิดรอยยิ้มอย่างรักใคร่

                “ครับ ปีนี้หนาวเร็ว จิมคงไม่ว่าอะไรที่เราจะล่วงหน้าไปก่อนแล้วค่อยมาพักอยู่กับเขาตอนขากลับ ดานีโล เอ่ยถึงเพื่อนเก่าแก่ของบิดาที่เป็นเจ้าของไร่ปศุสัตว์ซึ่งนอราจะไปพักอยู่ด้วย

                “ขอบคุณค่ะ อาดานีหญิงสาวยิ้มให้ผู้ดูแลเธอที่เป็นเพื่อนต่างชนชั้นของพ่อ

    โรเบิร์ตถือว่าดานีโลเป็นเพื่อนคนหนึ่งแม้เขาจะแค่พออ่านออกเขียนได้และไม่มีความรู้อะไรมาก แต่ความรู้ในการเอาชีวิตรอดท่ามกลางทุ่งราบตะวันตกของเขาทำให้คนขาวในเมืองกลายเป็นเด็กเล็กๆ ที่ช่วยตัวเองไม่ได้ไปเลย

                ทั้งคู่เริ่มลงมือรับประทานมื้อเย็นได้ไม่นานก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นสองสามนัด ดาโกต้าสบตากับผู้ดูแลของเธอทันทีและลดมือลงแตะปืนโคลท์ที่ต้นขา เป็นเวลาเดียวกับที่มีเสียงกรีดร้องของผู้หญิงและเสียงตะโกนของผู้ชายดังเอะอะมาจากทางโรงแรมผู้คนซึ่งคุ้นหน้าว่าเป็นนักเดินทางเหมือนกันวิ่งออกมาจากด้านนั้น

    มีโจรปล้นโรงแรม รีบหาที่หลบเร็วเข้าเถอะ ผู้ชายคนหนึ่งตะโกนบอกเมื่อเห็นพวกเธอ ทำให้เจ้าของร้านอาหารที่เป็นผู้หญิงท้องถิ่นยกมือขึ้นลูบอก

                เป็นไปได้ยังไง หรือพวกอินเดียนแดงจะเข้ามาปล้นอีกแล้ว

                “ทำไมอินเดียนแดงจะเข้ามาปล้นล่ะคะ หญิงสาวดึงปืนในมือมาถือไว้และลุกขึ้นยืนเมื่อแขกอีกโต๊ะตกใจจนตัวสั่น และดานีโลลุกไปดึงประตูหน้าร้านปิด  

                “เขาบอกว่าพวกสำนักงานตัวแทนไม่ยอมให้เบิกเสบียง พวกนั้นเลยมาปล้นชาวบ้านแก้แค้นนะสิ

                “คุณแน่ใจเหรอ

                “ครั้งก่อนพวกมันก็มากันนี่คะ ฆ่าคนขาวตายไปคนหนึ่งแล้วขโมยไก่ของเราไป พวกอินเดียนแดงรู้ว่าใครเป็นคนทำ แต่คนร้ายก็หายตัวออกไปจากเขตสงวนแล้ว ทหารเลยลงโทษด้วยการขังตัวคนที่รู้เห็นเอาไว้แล้วลดเสบียงอาหารลงเจ้าของร้านบอกเสียงตื่นๆ หากสีหน้าโกรธแค้น พวกมันโหดเหี้ยมจริงๆ ทหารน่าจะยิงตายเสียให้หมด ไม่รู้จะเลี้ยงเอาไว้ทำไมให้สร้างความเดือดร้อนกับเราไม่ได้หยุด

    คนฟังชะงักกึก โมโหจนนึกอยากเอากระสุนกรอกปากเจ้าของร้านพูดมาก แม้รู้ว่าอคติหลายอย่างของคนขาวต่อคนอินเดียนแดงบางครั้งเกิดขึ้นเพราะความไม่รู้และมีคนจงใจทำให้พวกเขาเข้าใจผิดจนเกลียดชังชาติพันธุ์ของเธอ แต่มันก็ช่วยไม่ได้ทุกครั้งที่จะเจ็บแค้นแทน และดานีโลก็รู้เพราะเรียกชื่อเธอเบาๆ เพื่อเตือนสติ

                “ร้านมีประตูหลังใช่ไหม

                “ใช่ ฉันจะรีบไปปิดประตู พวกคุณอย่าออกไปดีกว่า

                ไปกันเถอะ อาดานีดาโกต้าหยิบเหรียญออกมาวางพอสำหรับค่าอาหารโดยไม่สนใจเสียงทัดทานจากเจ้าของร้านเมื่อเห็นสาวน้อยลูกผู้ดีหน้าตึงเรียกคนของเธอออกไปพอดีกับที่เสียงปืนดังขึ้นอีกหลายนัด  

                อย่าออกไปเลย มันอาจจะฆ่าถลกหนังหัวพวกคุณก็ได้

                “คุณตามมาปิดประตูร้านก็แล้วกันถ้าไม่อยากให้พวกเขาเข้ามาถลกหนังหัวน่ะขู่เสร็จก็ยิ้มหวานจ๋อยให้และเดินนำดานีโลออกไปด้านหลังโดยมีเจ้าของร้านหน้าตาซีดเซียวตามมา คุณทำยังไงนะมิสซิสเวลาที่หิวโหยจนแทบจะกินเนื้อพวกเดียวกันได้น่ะหญิงสาวยังอุตส่าห์หันมาถามก่อนที่ประตูร้านจะปิดลง   

                “ไม่รู้สิ ถามอะไรอย่างนั้นล่ะคะมิส

                “คุณน่าจะถูกขังเอาไว้อย่างสัตว์จนตรอกในเขตสงวนที่แผ่นดินแห้งแล้งไร้ค่าแทบจะปลูกอะไรไม่ขึ้นโดยไม่มีสิทธิ์ออกไปล่าสัตว์ แถมยังไม่มีเสบียงให้เบิกเพราะถูกพวกตัวแทนกับพ่อค้าโกงไปจนหมดหลังจากขับไล่คุณออกจากบ้านของตัวเองดูนะสิ ฉันนึกอยากเห็นเหมือนกันว่าคนขาวมีอารยธรรมอย่างคุณจะทำยังไง ถ้าเป็นฉันอาจจะยอมตายหลังจากถลกหนังหัวของพวกตั้งรกรากจอมละโมบสักคนแทนที่จะขโมยไก่ไปประทังความหิวอย่างเดียวแล้วต้องหนีหัวซุกหัวซุนจากแผ่นดินของตัวเองไปจนกว่าจะตายหรือถูกจับได้”  

                สีหน้าของคนฟังไร้สีเลือดเหมือนไม่อยากเชื่อ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นแดงจัดด้วยความโกรธเมื่อมองสาวผู้ดีสะสวยตรงประตู พอเดาได้จากโครงหน้าแปลกๆ ว่าไม่ใช่รูปแบบอันสมบูรณ์ของคนขาวแต่น่าจะมาจากสายเลือดผสม

    อย่ามาพูดจาร้ายกาจอย่างนั้นกับฉันนะ นังเด็กเลว

    พูดยังไม่ทันขาดคำดีก็ต้องกรีดร้องเมื่อปืนกระบอกโตจากมือของดานีโลดันปลายคางอูมๆ อันสมบูรณ์ขึ้นและสั่งเสียงเย็น ขอโทษคุณหนูซะ

                “ขะ--”

                “ไม่ต้อง!”

    ดาโกต้าเดินเข้ามาใกล้เจ้าของร้านสาวที่แววตาเหลือกถลนเพราะความกลัว ภาวนาให้สามีของตนกลับมาไวๆ ก่อนที่จะถูกฆ่าตายโดยไม่รู้สาเหตุอันแน่ชัด คำขอโทษที่ไม่เกิดจากใจน่ะ ฉันไม่ต้องการฟัง แล้วมิสซิสคนนี้ก็มีสิทธิ์ทุกอย่างที่จะปรักปรำคนอื่นเพราะความเขลาจากความไม่รู้ของเธอ”  

                “ด... ดิฉันไม่ได้ปรักปรำ เราไม่ได้เป็นศัตรูกับอินเดียนแดง

                “อินเดียนแดงก็ไม่ใช่ศัตรูของคุณหรอกมิสซิส หลังจากที่พวกเรายื่นมือแห่งมิตรไมตรีมาจับกับพวกคุณแล้วได้รู้ว่ามิตรภาพไม่ใช่สิ่งที่คนขาวต้องการเพราะมีแต่การโป้ปดหลอกลวงหลังจากนั้นนับครั้งไม่ถ้วน มีการฆ่าฟันสังหารหมู่โดยไม่เลือกว่าจะเป็นเด็ก ผู้หญิงหรือคนแก่เพื่อขโมยดินแดนของเรา ถึงอย่างนั้นเราก็เคยพยายามลืมมันไปแล้วทิ้งอดีตไว้ข้างหลัง เพราะเมื่อไหร่ที่เราลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อปกป้องตัวเองเราก็จะกลายเป็นคนเหี้ยมโหด

    หญิงสาวจ้องเข้าไปในดวงตาเหลือกลานของคนฟังอย่างสมเพชต่อสายเลือดอีกครึ่งที่ไหลวนอยู่ในตัวเธอ   

                “คุณหนูดานีโลเอ่ยเบาๆ เป็นเชิงเตือน ร่างโปร่งเพรียวจึงหันหลังออกจากประตูและหายลับไปในความมืดโดยมีผู้ติดตามร่างใหญ่พร้อมอาวุธในมือตามไปติดๆ ทิ้งร่างที่สั่นเทาทรุดฮวบลงหน้าประตูกุมหัวใจอยู่อีกนาน  

                เหตุการณ์ภายนอกยังไม่สงบเพราะมีเสียงปืนดังขึ้นจากที่ไกลๆ อีกหลายนัด หญิงสาวเอียงหูฟังแล้วรุดหน้ากลับไปยังโรงแรมที่พักซึ่งดูเหมือนจะเป็นจุดเกิดเหตุด้วยความเป็นห่วงนอรา

               

                ฌอนสบถอย่างดุเดือดเมื่อผู้บุกรุกทั้งหมดหายลับออกไปจากประตูหลังจากที่รอยถูกยิงเข้าที่หัวไหล่เพราะกระโดดเข้ามาผลักเขาออกจากวิถีกระสุนเมื่อพวกมันโผล่พรวดพราดเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว จากนั้นก็มีการยิงต่อสู้กันอีกหลายนัดโดยที่เขากับรอยใช้เฟอร์นิเจอร์ในห้องเป็นเกราะกำบังกันกระสุน

    คงเป็นเพราะอาวุธที่มีประสิทธิภาพกว่าของปืนสเปนเซอร์คาร์ไบน์กระบอกนี้นี่เอง สลับกับปืนโคลท์ในมือที่เขากับรอยใช้ทำให้คนร้ายที่ชายหนุ่มนับได้ว่ามีถึงสี่คนจำต้องล่าถอยกลับไป   

    แต่นั่นเกิดขึ้นหลังจากที่มีเสียงร้องเพราะคนร้ายคนหนึ่งถูกชายหนุ่มยิงตกลงไปจากระเบียงห้องพักของโรงแรม พวกมันจึงยอมถอยทัพ โชคดีที่บาดแผลของรอยไม่สาหัสอะไรและเขาเป็นคนแข็งแรงพอดู ฌอนจึงคว้าผ้ามาให้ผู้นำทางของตนกดปิดปากแผล กระโดดตามลงมาจากระเบียงห้องทั้งที่ยังแต่งตัวไม่เรียบร้อยพร้อมอาวุธในมือโดยไม่ฟังเสียงเรียกจากด้านหลัง

    เขาเสียเวลาแค่สองสามวินาทีกดชีพจรที่ต้นคอของคนที่นอนงอก่องอขิงอยู่เบื้องล่างและรู้ว่ามันตายแล้วจึงเผ่นผลุงตามหลังโจรกลุ่มนั้นไป  

    แต่ชายหนุ่มทันได้ยินเสียงกรีดร้องของผู้คนด้านล่างและรู้ว่าน่าจะเกิดสถานการณ์จัดฉากขึ้นเสียแล้วจากคำพูดไม่กี่คำที่ได้ยินเพราะใครต่อใครเข้าใจว่าอินเดียนแดงที่หนีออกมาจากเขตสงวนเข้ามาปล้นนักเดินทางในโรงแรม พวกนั้นสวมชุดเก่าคร่ำแบบชนพื้นเมืองและดูเหมือนจะได้ของมีค่าบางอย่างของนักเดินทางไป  

                โรงแรมอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟที่จอดพัก แต่หมู่บ้านแห่งนี้มีขนาดเล็กและค่อนข้างเปลี่ยว บริเวณโดยรอบจึงกลายเป็นชายป่าหลังจากที่วิ่งออกมาได้ไม่นาน แม้เขาจะไม่ชำนาญในพื้นที่แต่ชายหนุ่มสังเกตเห็นว่าพวกที่หนีมาก็ไม่ต่างกันพวกมันตัดสินใจแยกตัวกันทันทีเพื่อไม่ให้มีใครตามทัน  

                ฌอนเลือกตามคนที่อยู่ใกล้ที่สุดไป ความมืดและราวป่าเป็นอุปสรรคสำคัญกับหนุ่มสังคมอย่างเขาจนเกือบคว่ำหน้าลงไปกับพื้นอย่างน้อยสองสามครั้งเพราะสะดุดและถูกหนามแหลมเกี่ยวจนเลือดซิบไปหลายที่ แต่เขามีสิ่งอื่นที่พอทดแทนกันได้แม้จะไม่ได้ฝึกฝนอยู่เสมอนั่นคือความทรงจำที่แม่นยำเป็นพิเศษขนาดที่ว่า หากได้รู้สิ่งใดแล้วเขาจะไม่มีวันลืมไปอย่างน้อยห้าสิบปีข้างหน้า และหนึ่งในความรู้ที่ว่าก็คือการสะกดรอยอย่างนักรบเผ่าซู

                ผ่านราวป่าเข้าไปเพียงสิบห้านาทีเขาก็อยู่ใกล้กับคนร้ายจนแทบจะหายใจรดต้นคอมันได้โดยที่อีกฝ่ายอาจจะรู้หรือไม่รู้ เพราะมันตั้งหน้าตั้งตาบุกตะลุยไปเบื้องหน้าอย่างไม่สนใจอะไร หนุ่มร่างใหญ่หากฝีเท้าเบาจึงเร่งรุดไปดักรออยู่ข้างหน้าแทนและซ่อนตัวอยู่เงียบเชียบบนกิ่งไม้ใหญ่จนกระทั่งมันผ่านเข้ามา

                เขาทิ้งตัววูบจากเหนือหัวลงไปหาร่างที่กำลังจะปลิวผ่านได้อย่างไม่ผิดพลาดและกระแทกข้อศอกแกร่งทุบลงไปบนท้ายทอยของมันแบบไม่เต็มแรง เพราะไม่อยากให้พยานตายไปเสียก่อน

    โอ๊ย!” มีเสียงร้องปนสบถที่ไม่น่าจะเป็นของอินเดียนแดงแท้รวมถึงกลิ่นตัวซึ่งเป็นกลิ่นวิสกี้ราคาถูกจางๆ ด้วย ชายหนุ่มล็อกเหยื่อเคราะห์ร้ายด้วยสองขาที่อยู่บนบ่าแม้มันจะพาเขาล้มลงไปบนพื้นและเริ่มต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตาย

    คนร้ายเป็นชายร่างกำยำที่เตี้ยกว่าเขาสองสามนิ้วแต่ล่ำกว่า ผมยาวเลยต้นคอลงมาหน่อยพร้อมเรี่ยวแรงที่เข้ากันดีกับร่างบึกบึนหากยังขาดทักษะที่สำคัญมันใช้แรงเข้าทุ่มโถมแทนที่จะใช้สมอง และหลังจากที่โดนอัดอย่างหนักหน่วงด้วยทักษะที่เหนือชั้นกว่าจนเทียบกันไม่ติดจากหมัด ข้อศอก เข่าและกระทืบจนเกือบจมดินจากรองเท้าบูตหนังของเขาจนเกือบคลาน มันเลยแหกปากด่าเขาเป็นภาษาอินเดียนแดงซึ่งน่าจะเป็นเผ่าพอว์นีซึ่งชายหนุ่มรู้ว่าพวกนี้เป็นศัตรูเก่าของเผ่าซู ไชย์แอนน์ และอะราปาโฮ

    ไอ้สารเลวลูกนังโสเภณี ปล่อยข้านะ!”

    แกเป็นใคร

    อินเดียนแดง

    รู้แล้วบอกเสียงหน่ายเมื่อควานมือค้นไฟฉายอันเล็กที่นำติดตัวและยังไม่มีใช้ทั่วไปเปิดให้แสงสว่าง ลดต่ำลงหน่อยเพื่อส่องตาของมันเลยสบถอย่างหัวเสียเมื่อทันเห็นปลายมีดแหลมที่มันตั้งใจจะตัดเส้นเอ็นที่ขาของเขา

    ฌอนตวัดปลายเท้าใส่ข้อมือของคู่ต่อสู้ให้มีดหล่นไปไกลมือ ก้มดึงแขนด้านหนึ่งของมันขึ้นดัดบิดให้ผิดรูปรวดเร็วแล้วพลิกตัวมันคว่ำด้วยเท้าโดยที่แขนข้างเดิมนั้นยังอยู่ในมือมีเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดของมันสลับกับเสียงด่าขรม หุบปากได้แล้วโว้ย!”

    สั่งพร้อมกดส้นรองเท้าบูตลงบนกกหูจนชาวพอว์นีรีบตบมือลงบนพื้นร้องขอชีวิตเสียงหลงเมื่อรู้สึกเหมือนกะโหลกจะแตกออกจากกันเพราะเรี่ยวแรงทรงพลังที่จัดการกับเขา

    ปล่อยข้านะ ข้าจะไม่สู้แล้ว อ... หยะ... อย่า!”

    แกเป็นอินเดียนแดงเผ่าไหนชายหนุ่มลดตัวลงถามใช้เข่าข้างหนึ่งกดลำตัวของมันไว้ มือดันท่อนแขนของคนร้ายสูงในท่าที่พร้อมจะหักลงได้ทุกเมื่อพลางเช็ดมือเลอะเทอะข้างที่เหลือจากการต่อสู้กับเสื้อคลุมของมัน

    ผ... อะราปาโฮข้าหนีมาจากเขตสงวนเพราะกำลังอดอยาก

    อย่ามาตอแหลฝ่ามือหนาหนักตบหัวผลัวะจนอินเดียนแดงมึน

    แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่ชายคนร้ายกลุ่มนี้จะมาจากเขตสงวนด้วยเหตุผลของความอดอยากเพราะเผ่าพอว์นีในแถบนี้คือทหารรับจ้างของรัฐบาลสหรัฐในฐานะแมวมอง พวกนี้สมัครเข้ารบร่วมกับทหารม้าและได้รับเงินเดือนในอัตราปกติของกองทัพเที่ยวออกลาดตระเวนเพื่อค้นหาคู่อาฆาตของพวกตนที่ยังไม่ยอมจำนนและย้ายเข้าเขตสงวนตามคำสั่งของหัวหน้านายทหาร

    ยิ่งมันไม่ยอมบอกว่าตัวเองเป็นชาวพอว์นียิ่งส่อเจตนาว่าต้องการให้เขาเข้าใจผิดเพราะแม้จะพูดภาษาของชนพื้นเมืองไม่ได้ แต่ฌอนพอแยกออกว่าคนพูดมาจากเผ่าไหน  

    ข้าไม่ได้โกหก

    แกพูดภาษาอังกฤษได้ด้วยฌอนเปิดไฟฉายใหม่และแสยะยิ้มเมื่อเห็นหน้าของมันชัด พวกครึ่งชาติล่ะสิ มีเงินดื่มวิสกี้แต่ยังอดอยากรึไง

    ข้าขโมยเขามามันยังปากแข็ง

    ใครเป็นคนสั่งให้แกมาฆ่าฉันฌอนดึงปืนพกลูกโม่ออกจากซองบนสะโพกกดลงบนหน้าผากชื้นเหงื่อที่หันหน้าครึ่งๆ อยู่กับดินโคลนเละๆ อย่ามาตอแหลว่าเป็นเรื่องบังเอิญล่ะ

    ข... ข้าไม่รู้ว่าท่านกำลังพูดเรื่องอะไร

    เปรี้ยง! อ๊ากกกกกกกกกกก! เสียงปืนหนึ่งนัดดังมาพร้อมกับเสียงร้องโหยหวนทำให้มนุษย์อีกสองคนที่อยู่ห่างออกไปได้ยินและรีบรุดตามเสียงนั้นมา

    เลือดไหลซึมอย่างรวดเร็วออกจากเสื้อคลุมชั้นนอกตรงต้นแขนที่พวกมันยิงรอยนัดต่อไปฉันจะยิงที่ขาให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองมาจับแกไปแขวนคอโทษฐานที่มาปล้นคนขาวแบบนั้นแกคงชอบ

    ข้าไม่รู้ว่าใครสั่งมันรีบละล่ำละลักสารภาพ ข้าแค่รับคำสั่งมาอีกทีจากหัวหน้า

    หัวหน้าคนไหนบอกชื่อมา

    ถ้าข้าบอก เขาต้องฆ่าข้าแน่ ได้โปรดเถอะ!”

    ถ้าไม่บอกแกก็ตายอยู่ดี ที่นี่ เดี๋ยวนี้เลยดีไหม ฌอนดึงท่อนแขนในมือบิดไปข้างหลังอีก นึกสภาพออกไหมว่าแกจะเป็นยังไงถ้ามือใช้การไม่ได้ทั้งสองข้าง

    ข้าทำเพราะความจำเป็น ข้าแค่ทำตามคำสั่ง

    ฉันไม่มีเวลามาโอ้เอ้อยู่กับแกทั้งวันหรอกนะ แกชื่ออะไร

    พวกทหารเรียกข้าว่าไวท์บัฟฟาโล

    ชื่อน่ารักดีนี่ แต่ฉันว่าเรดบัฟฟาโลเหมาะกับแกมากกว่าหนุ่มหล่อแนะนำอย่างใจดีก่อนจะจุ๊ปากเมื่อมองผิวของคนถูกยิง แต่อันที่จริงแกก็น่าจะเป็นไวท์บัฟฟาโลเพราะแกมันพวกเลือดผสม แบบว่าอุปมาอุปไมยน่ะ

    ทหารบอกข้าว่าอย่างนั้นแหละ แต่ความจริงข้าชอบเยลโลว์บัฟฟาโลมากกว่าหนุ่มพอว์นีทำหน้ายุ่ง   

    จริงน่ะ! แกไม่อยากเป็นเยลโลว์ฮอร์ค เยลโลว์วูล์ฟ หรือเยลโลว์แบร์บ้างเรอะ

    นี่พวกเขากำลังเถียงเรื่องอะไรกันวะ!   

    คนถูกจับกุมตัวไว้เหลียวซ้ายแลขวาหาทางรอด ก่อนจะรู้ว่าทางรอดเดียวของเขาคงจะเป็นไอ้หนุ่มคนนี้ มันแข็งแรงและมีฝีมืออย่างไม่น่าเชื่อแม้จะไม่ล่ำบึ้กเท่าเขาจนเยลโลว์บัฟฟาโล เอ๊ย! ไวท์บัฟฟาโลนึกอยากเห็นภาพตอนที่ไอ้หนุ่มนี่ปะทะกับนักรบที่เก่งที่สุดในเผ่าพอว์นี ถ้ามันชนะสงสัยพวกนั้นจะตั้งชื่อให้มันว่า พอว์นีคิลเลอร์ เหมือนชื่อหัวหน้านักรบเผ่าซูสาขาโอกลาลา ท่านน่าจะชื่อบิวตี้ฟูลฮอร์ค

    ขอบใจที่ตั้งชื่อให้ฌอนกะพริบตาปริบๆ ส่วนชื่อแก จะไวท์ เรดหรือเยลโลว์บัฟฟาโลก็แล้วแต่แกชอบ แค่บอกมาว่าหัวหน้าทหารที่สั่งแกมาชื่ออะไร

    เขาจะต้องฆ่าข้าแน่ ไวท์บัฟฟาโลยังโอดครวญไม่เลิก

    ฉันจะฆ่าเขาเองก่อนที่เขาจะออกคำสั่งให้ตามล่าถลกหนังหัวแกดีไหม จะได้ไม่มีคนมารู้ความลับของเรา

    จริงน่ะ

    เขาชื่ออะไร เรดบัฟฟาโล

    ข้าชื่อไวท์บัฟฟาโลมันตะคอกใส่เขาอย่างโมโห

    แม่งเอ๊ย! นี่มันจะกวนอวัยวะเบื้องล่างของเขาไปถึงไหนวะ ฌอนบิดแขนด้านที่อยู่ในมือขึ้นไปอีกจนมันร้องครวญครางอย่างเจ็บปวด ฉันจะไม่ถามแกอีกแล้วนะ

    ปล่อยมือของคุณจากเขา!” เสียงใสเสียงหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับเสียงขึ้นนกปืน

    ฌอนหันขวับไปมองผู้มาใหม่อย่างไม่อยากเชื่อพอๆ กับที่เธอเองก็อ้าปากค้างเมื่อเห็นว่าเขาเป็นใคร

    มิสเตอร์วินสตัน-รอสส์ คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง

    ชายหนุ่มไม่ตอบ แต่ก้มลงซักผู้ต้องหาคนสำคัญของเขาต่อ หัวหน้าทหารคนนั้นชื่ออะไร เยลโลว์บัฟฟาโล!”   

    ช่วยข้าด้วยคุณหนู ไอ้นี่มันตามมาจะฆ่าข้า ทหารรับจ้างเผ่าพอว์นีเองก็ไม่โง่ เมื่อเห็นปืนสองกระบอกจากสาวน้อยและผู้ชายอีกคนกำลังส่องมาทางคนที่กำลังคุกคามขู่เข็ญเขา 

    คุณยิงเขาทำไมดาโกต้าถามเมื่อเพ่งสายตามอง จึงเห็นใบหน้าของคนที่อยู่บนพื้นถนัดเลยรู้ว่าเขาเป็นคนเชื้อชาติเดียวกับเธอ และการเห็นเขาต้องอยู่ภายใต้เงื้อมมือของคนขาวในสภาพนั้น ทำให้สัญชาตญาณในการปกป้องของเธอพุ่งสูง เพราะร้อยละเก้าสิบแปดเวลาที่เกิดการต่อสู้ คนอเมริกันจะต้องเป็นคนเริ่มต้นทุกครั้งก่อนจะโยนบาปทั้งหลายแหล่ให้อินเดียนแดงรับกรรมพร้อมใส่ไคล้ต่างๆ นานา

    เอาปืนของคุณลง ดาโกต้า ไอ้หมอนี่กับพวกของมันอีกสามรวมเป็นสี่เข้าไปปล้นผมกับคนของผมที่โรงแรม...ชายหนุ่มสั่งเสียงห้วนทั้งที่ยังสบตากับไวท์บัฟฟาโลแล้วเลื่อนปืนไปที่หน้าผากของมัน เอ่ยเสียงเย็นเหมือนคืนที่หิมะตกหนักที่สุด ฉันจะไม่ถามซ้ำอีกแล้วนะ เลิกทำตัวเป็นบัฟฟาโลได้แล้วพวก   

    เฮอร์เบิร์ต เขาชื่อพันตรีแจ็ค เฮอร์เบิร์ต หนุ่มพอว์นีไม่ถ่วงเวลาอีก เมื่อเดาว่าแม่สาวน้อยที่มาใหม่คงช่วยเขาไม่ได้แน่เพราะท่าทางทั้งคู่จะรู้จักกันดีข้ารู้แค่นั้นจริงๆ ข้าสาบาน

    ถ้าคุณได้สิ่งที่ต้องการแล้วก็ปล่อยเขาไปสิ

    เราต้องส่งเขาให้ตำรวจอินเดียนแดงหรือทหารแถวนี้จัดการฌอนดึงเข็มขัดหนังเส้นยาวของตัวเองออกมา แล้วลากแขนหนุ่มอินเดียนแดงชะตาขาดไปที่ต้นไม้ต้นหนึ่ง จับไวท์บัฟฟาโลนั่งหันหลังให้ต้นไม้ รวบมือทั้งสองอ้อมลำต้นไปด้านหลังก่อนจะจัดการมัดแมวมองเอาไว้อย่างแน่นหนาโดยมีสายตาของดาโกต้าและดานีโลมองอย่างตกใจปนงุนงง

    ถ้าทำแบบนั้นเขาก็ต้องถูกแขวนคอตายสถานเดียวนะคะ” 

    คนของผมยังถูกยิงอยู่ที่โรงแรม คุณคิดว่าเขาสมควรตายหรือเปล่า

    เขาอาจจะไม่ตั้งใจ เจ้าเข้าไปปล้นมิสเตอร์เขาทำไมดาโกต้าเดินไปลดลงนั่งลงบนส้นเท้าชันเข่าข้างหนึ่งขึ้นต่อหน้าไวท์บัฟฟาโล ถ้าเจ้ามีเหตุผลดีๆ บางทีมิสเตอร์อาจจะยอมปล่อยเจ้าไปก็ได้นะ พูดกับข้าสิ

    ภาษาอินเดียนแดงเผ่าไชย์แอนน์ของเธอทำให้ไวท์บัฟฟาโลอ้าปากค้าง ท่านเป็นอินเดียนแดงเหมือนกันรึเขาถามกลับเป็นภาษาซูเพราะไม่เข้าใจสิ่งที่ดาโกต้าพูด คนถามเลยตั้งคำถามใหม่เป็นภาษาซู

    มีคนสั่งพวกข้ามา

    ไม่บอกเธอด้วยล่ะ ว่าแกไม่ใช่ชาวซู แต่เป็นชาวพอว์นีแถมยังเป็นทหารรับจ้างแล้วเรื่องที่แกกับพวกสี่คนขึ้นไปฆ่าฉันที่โรงแรมก็ไม่เกี่ยวกับภารกิจของทหารเลยฌอนเอ่ยแทรกด้วยความหมั่นไส้เป็นภาษาอังกฤษแม้จะไม่เข้าใจสิ่งที่เธอพูดกับไวท์บัฟฟาโลทั้งหมด แต่คำพูดของเขาได้ผลเพราะสาวน้อยชะงักกึก

    ดาโกต้าเอียงคอมองอินเดียนแดงเผ่าที่เป็นศัตรูคู่อาฆาตกับชนเผ่าของเธอ เห็นความกลัวในสายตาของเขาและรู้ทันทีว่าชายหนุ่มไม่ได้โกหกจึงลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าสับสน เธอไม่เข้าใจเลยว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่เข้าใจว่าฌอนมาอยู่ที่นี่กับอินเดียนแดงคนหนึ่งซึ่งต้องการฆ่าเขาทำไม

    เกิดอะไรขึ้นคะ

    ทำไมคุณไม่กลับไปที่โรงแรมแล้วเรียกตำรวจมาล่ะ ผมจะอยู่เฝ้าเขาเอาไว้เอง เพราะเขายังมีเรื่องที่จะต้องซักมันอีกเยอะ 

    ผมจะไปตามตำรวจเองครับ มิสเตอร์วินสตัน-รอสส์ดานีโลเป็นคนอาสาแล้วก้มลงมองนายสาว ให้ผมไปส่งคุณหนูที่โรงแรมก่อนดีกว่า ป่านนี้นอราคงกระวนกระวายจนไม่เป็นอันทำอะไร

    แต่ว่า...ดาโกต้าลดสายตาลงมองหนุ่มชาวพอว์นีสลับกับฌอน อาดานีไปตามตำรวจมาเถอะค่ะ หนูจะรออยู่ที่นี่ คงใช้เวลาไม่มากเท่าไหร่

    ผมไม่เห็นด้วยเลยครับคุณหนู เรากลับกันก่อนดีกว่า แล้วผมจะกลับไปเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังเอง

    อันที่จริงฌอนอยากให้เธออยู่กับเขาที่นี่มากกว่า แต่ดาโกต้ากลับเป็นฝ่ายเปลี่ยนใจเองเมื่อสบตากับเขาและจำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่อยู่ด้วยกันเกิดอะไรขึ้น เลยพยักหน้ากับผู้ดูแลของตน ก็ได้ค่ะ

    เธอหันหลังเดินตามดานีโลกลับไปโดยไม่ยอมให้ตัวเองเหลียวไปมองเขาและเปลี่ยนใจเพราะถูกความอยากรู้อยากเห็นเอาชนะ เธอร้อนรนไปหมดเพราะหาคำตอบในสิ่งที่ตนอยากรู้ไม่ได้  

    ดาโกต้ากลับขึ้นไปหานอราซึ่งรีบถลาเข้ามารับร่างของเธอไปกอดเอาไว้ขณะที่ดานีโลกลับออกไปเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เมื่อเธออาบน้ำเสร็จและรออยู่นานถึงสองชั่วโมงดานีโลก็ยังไม่กลับมา คนคอยและเดินทางจนเหนื่อยจึงหลับไป ตื่นขึ้นมาอีกทีพวกเธอก็ต้องเก็บข้าวของโดยสารรถไฟต่อเป็นวันสุดท้ายเพื่อเข้าสู่รัฐไวโอมิง

                สาวน้อยซักไซ้ดานีโลเป็นการใหญ่ แต่ผู้อารักขาชาวสเปนไม่รู้อะไรมากกว่าที่ฌอนบอกเธอเอาไว้เมื่อคืน ครั้นจะไปตามหาเขาดาโกต้าก็ไม่รู้ว่าชายหนุ่มอยู่ที่ไหน แต่เธอทบทวนถึงข้อเท็จจริงที่ทำให้งันไปเมื่อนึกขึ้นมาได้ว่า

    เขาเป็นนักหนังสือพิมพ์ มีข่าวเมื่อสามเดือนก่อนเรื่องว่าเขาขึ้นมารับตำแหน่งประธานฟรอสเตอร์แทนพี่ชายที่เสียชีวิตไป   

    บางทีเจ้าของสำนักพิมพ์ฟรอสเตอร์อาจจะกำลังเดินทางลงไปทำข่าวที่ตะวันตก





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×