ยังโสดๆ อยู่ตรงนี้ยังโสดๆ (yaoi)
yaoi
ผู้เข้าชมรวม
73
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ตอนที่ 1 แรกพบสบตา
นาฬิกาดิจิตอลบนผนังบอกเวลา 16.30 น. คนมองนาฬิกาทำหน้ายิ้มพอใจ ยกกระจกอันเท่าฝาบ้านมาเช็คสภาพหน้า เพราะว่าเย็นนี้ต้นมีนัดสำคัญมากๆ ทำให้ต้นใจสั่นหวิวแทบทนไม่ได้
“มีนัดเหรอ ต้น”
กิ๊ก หญิงสาวนั่งทำงานติดอยู่ใกล้ๆต้น เอ่ยปากทักขึ้นมาเมื่อเห็นหนุ่มต้นบรรจงปาดลิปกลอสพอเรื่อๆที่ริมฝีปากบางๆไม่ให้เห็นชัดจนน่าเกลียด จากนั้นโปะรองพื้นผสมเบสบวกครีมกันแดดโบ๊ะไปที่หนังหน้าของเขา
“ต้น”
“หือ”
“อย่าลืมทาคอด้วยนะ”
“อ่อ จ้ะ ขอบคุณกิ๊กมากนะ”
อันนี้เป็นเรื่องที่ต้องขอบคุณจริงๆ เวลาต้นโปะรองพื้นทีไร มักจะละเลยเรื่องสีคอทุกที
ลงจากออฟฟิศมาจนถึงชั้นล่างสุด เป็นเวลา 16.50 น. ต้นสอดส่ายสายตาหาคนที่นัดไว้
“ไง”
เสียงเรียกดังมาจากคนที่ยืนหน้าห้องน้ำของตัวอาคารชั้นหนึ่ง
“เร็วๆเลยอิฐ”
คนหล่อหน้าเข้ม ไรจอนที่ลากยาวสองข้างตั้งแต่กกหูยาวมาถึงใต้คาง ไรหนวดเขียวครึ้มกับเคราดกหนา บวกกับความเย้ายวนของนัยน์ตาฉ่ำ จมูกที่ได้รูปโดยมิได้ผ่านมีดหมอ รูปร่างล่ำสันจากการเล่นฟิตเนส อกบึ้ก กล้ามแขนกล้ามขาเป็นมัด เอวคอด ก้นแน่น ที่อยู่ภายใต้ชุดทำงานตึงเปรี๊ยะ
ถ้าไม่รู้จักอิฐมาก่อน สาวๆคงหลงเสน่ห์อิฐเป็นแน่แท้ แต่…
“หล่อนนั่นแหละช้า ชั้นเข้าไปขี้ตั้งนาน ทั้งขี้ทั้งเยี่ยวหมดไส้หมดพุง ใครกันแน่ที่ช้าจ๊ะเธอ”
“ก็เราต้องเมคอัพหน้าหน่อยสิ มีนัดสำคัญนี่”
“ชั้นว่าหล่อนน่ะเกิดใหม่ง่ายกว่ามั้ย ถ้าจะเอาหนังหน้าดีๆ”
“อิฐ พอๆ ใกล้ถึงเวลานัดแล้ว”
มองดูเวลาจะทันนัดมั้ยนะ นัดแรกไม่ควรจะเลท นี่ก็ 17.00 น.แล้ว
“นั่งมอไซค์กัน แท็กซี่รถติด”
“ได้ แต่หล่อนเลี้ยงชั้นตลอดทริป เครป่ะ”
เป็นเพื่อนที่งกมาก ต้นคงคิดคบอิฐไปได้ไง
แต่นั่งมอไซค์ผมต้นที่เซ็ตมาจะเสียรูปมั้ย แถมต้องใส่หมวกกันน็อค ผมบี้แน่ๆ
เอาเรื่องที่สำคัญก่อน ต้องไปถึงที่นัดหมายให้ทันเวลา
“หล่อนเอาตังค์ค่ามอไซค์ให้ชั้นมา เดี๋ยวหล่อนเบี้ยว ร้อยนึง ถ้าเหลือชั้นคืน”
“ถ้าไม่คืน คือทิปให้ชั้นละกัน เครป่ะ”
“จ้ะ จ้า”
เพื่อนกินหาง่ายเหลือเกิ๊น
ถึงจุดนัดหมายเป็นโรงแรมระดับสี่ดาวย่านใจกลางเมือง ชั้นอาหารบุฟเฟ่ต์ของโรงแรมอยู่ชั้น 5 และตอนนี้คือเวลา 17. 45 น.
มอไซต์สองคันแฉลบเลี้ยวมาจอดด้านหน้าล็อบบี้ เกย์หนุ่ม(?)สองคนเดินกึ่งวิ่งเข้าไปในตัวโรงแรมพร้อมทั้งดูเวลาที่มือถือ
“อีก 15 นาที”
“เดี๋ยวเราขอเข้าห้องน้ำเช็คหน้า”
“ชั้นก็ต้องเข้า อีห่า นั่งมอไซค์แม่งเสือกปวดขี้ ดีไม่ขี้ราดเบาะ”
“เอาสิ”
ต้นส่งไลน์ไปหาหนุ่มนิรนามที่จะได้เจอหน้าในอีกไม่กี่นาทีนี้ เพื่อบอกว่าตัวเองมาถึงแล้ว
“อิฐ เราตื่นเต้นจัง”
“หล่อนตื่นเต้นไร ทำเป็นไม่เคย”
“ชั้นล่ะเซ็ง ชะนีโรงแรมที่นี่มองดูชั้นกันใหญ่ ดูไม่รู้หรอ ว่าอีนี่ตุ๊ด!!”
“อิฐหล่อไง”
“แต่ชั้นมีแฟนแล้ว จบนะ”
“เข้าไปได้แล้ว หล่อนอย่าลืมนะว่าเลี้ยงชั้นตลอดรายการ”
“โอเค”
เป็นการเสร็จสิ้นกระบวนการเม้าท์มอย
“ดูหนังหน้า ผช ตัวเป็นๆหล่อนซิ หล่อมั้ย เห็นหล่อนปลื้มเหลือเกิน”
ต้นไม่ยอมตอบอะไร แต่บอกได้เลยว่าต้นตอนนี้ ใจเต้นจริงๆ
ในโซนบุฟเฟ่ต์ ผู้คนไม่เยอะมาก แบ่งโซนที่นั่งไปตามพื้นที่ มีล็อคชิดริมหน้าต่างกระจกซึ่งจะเห็นวิวทิวทัศน์ได้ชัดเจนนับเป็นโซนโรแมนติค
และมีโซนที่นั่งชิดผนังตียาวไปตามด้านข้างห้อง ตรงนี้จะให้บรรยากาศสลัวทึมดูเหมือนจะเป็นโซนส่วนตัวเล็กๆ
และอีกโซนจะเป็นที่นั่งคล้ายเป็นตรงกลางลานบุฟเฟ่ต์ ข้อดีโซนนี้คือเดินไปหยิบตักอาหารตามไลน์ได้ง่ายสะดวกกว่าบริเวณอื่นๆ จำนวนที่นั่งต่อโต๊ะบาร์มเมื่จำนวนมากเมื่อนับเทียบกับโซนอื่น ให้ชื่อโซนนี้ว่าเป็นโซนครอบครัว เพราะเหมาะกับการเจี๊ยวจ๊าวของลูกเล็กเด็กแดง
“อยู่ไหน แฟนหล่อน”
“เดี๋ยวสิ ตื่นเต้น”
“มียาดมป่ะ”
ชักจะหมั่นไส้กับท่าที่กระบิดกระบวนของเพื่อนสาวต้น ที่ขามาละรีบเป็นลมกรด พอมาถึงจริงๆล่ะอ้อยสร้อยอ่อนเปลี้ยไม่มีเรี่ยวแรง
ถึงว่ายังไม่มีผัวซะที
เรื่องของเรื่องคือ อิฐขี้มาสองรอบแล้ว ชักจะหิวขึ้นมาทันใด อยากมีอะไรเข้าปาก
“เดี๋ยวเห็นหน้า ผช หล่อนก็ไม่ต้องใช้ยาดมแล้ว”
“ใช้ดุ้น”
“ทะลึ่ง”
“จ้ะ ยัยเรียบร้อย”
“สวัสดีครับ”
เสียงทักจากหนุ่มชุดสูทผูกไทด์สีครีม ใส่แว่นกรอบสีชา รองเท้าหนังสีดำ บุคลิกภายนอกดูสุภาพ ที่อาจขัดสายตาคงเป็นนาฬิกาข้อมือ G Shock สีฟ้า ที่ดูไม่เข้ากับการแต่งกายโดยรวมๆของเขา
จากการใส่ชุดสูทไม่สามารถประเมินได้ชัดนักว่าหนุ่มคนนี้อ้วนผอมอย่างไร รู้แค่ว่าเป็นคนผิวขาวอมเหลือง แต่ดูรวมๆคือเป็นคนสุขภาพดี ไม่ใช่คนหุ่นก๋องแก๋ง
“สวัสดีครับ”
เสียงตอบรับจากต้น เป็นเสียงเบาๆ พร้อมกับจงใจเมินหลบสายตา
“ผมอิฐ มาเป็นเพื่อนต้น”
“สวัสดีครับ ยินดีที่ได้รู้จัก”
“ผมประวิทย์ครับ”
ยิ้มทักทายจากนายประวิทย์ที่ส่งให้อิฐ ทำให้รู้สึกว่าตาคนนี้ก็ดูหล่อเหมือนกัน
“เชิญพวกคุณคุยไป ผมหิว ผมไม่ไหวแระ”
“เพื่อนคุณตลกดีนะ”
และนี่คือประโยคทักทายจากนายประวิทย์ประโยคที่ 1 กับต้น
“ครับ”
“คุณกินอะไรมายัง ผมกินรอคุณมาสิบนาทีแล้ว”
“ยังครับ”
ถ้าจะคิดมาก ก็คงคิดได้ว่านายประวิทย์ค่อนขอดว่าต้นสายไม่ตรงเวลา แต่คิดอีกที ต้นก็มาตรงเวลา แต่นายประวิทย์มาเร็วเกินไป
“หิวก็ไปตักได้เลยครับ”
“ครับ”
“รึจะให้ผมไปตักให้”
นายประวิทย์ยิ้มเล็กๆที่มุมปาก พร้อมกับกดเสียงให้เบาต่ำลงเพื่อให้รู้สึกถึงนัยยะของคำพูด
“ไม่ต้องครับ”
อย่ามาพูดแบบนี้ ใจไม่ดี อาการหวิวๆของต้นเป็นอีกรอบ ทีตอนคุยไลน์ไม่ยักเป็น
“ผมรอตรงนี้ อย่าไปนานนะครับต้น”
“ครับ”
โอ่ย ทำไมนายประวิทย์ต้องทำให้ต้นวูบวาบใจสั่นได้ขนาดหนัก ไม่ไหวๆ
“อิฐ”
ต้นเดินตรงมาหาอิฐที่กำลังซ้วบๆอะไรซักอย่างที่ไลน์อาหาร
มองจากสภาพอิฐโดยทั่วไปคือหล่อเป๊ะถ้าไม่มีจริตเกย์ แต่ถ้าดูในสภาพหิวโซของอิฐตอนนี้ บอกได้คำเดียวว่า ทุเรศ ซกมก
“ทำไมไม่ตักไปกินที่โต๊ะกับเราเล่า ไม่อายคนอื่นหรอ”
เศษอาหาร สลัด เนื้อแฮม ชิ้นผลไม้ เกาะระเกะระกะไปทั่วเคราหนวดจมูกอิฐ แถมยังเปื้อนมายองเนส ที่แขนเสื้อมีคราบกระเด็นของชิ้นซูชิตกมาให้เห็น ในปากก็เคี้ยวกร้วมๆด้วยสรรพอาหาร ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่หยุดเคี้ยว
“อายเค้าอ่ะ พอเถอะ”
พอกลืนเอื๊อกหมดสิ้นที่กำลังเคี้ยว อิฐจึงได้หันมาต่อปากต่อกับต้น
“อายไรหล่อน ลูกค้ามีอยู่จึ๋ง ไม่มีใครเห็นชั้น ชั้นจะกินแบบไหนก็เรื่องของชั้น จบนะ”
“ชั้นอุตส่าห์ปลีกตัวมากินตรงนี้ เพื่อให้หล่อนได้จู๋จี๋กับผัวสองต่อสอง หล่อนยังไม่เห็นประโยชน์ชั้นอีก ชั้นน้อยใจหล่อนมาก”
ฟังเหมือนดูดีแต่อย่าเพิ่งไว้ใจ คารมอิฐช่างร้ายลึก
“ผัวที่ไหน เพิ่งจะได้คุยเอง”
“คุยไปคุยมาเดี๋ยวก็ได้กัน เชื่อชั้น”
“เหรอ”
“แต่เราเรียบร้อย อิฐก็ช่างค่อนแคะ”
สายตาอิฐจิกไปที่ลูกกะตาของต้น บอกเป็นนัยๆว่า อย่า –ตอ-แหล
“แล้วมาหาชั้นทำไมหล่อน คุยกับผัวไปสิ อีกแป๊บชั้นถึงจะเดินเข้าไป”
“มานั่งเป็นเพื่อนเราหน่อยตอนนี้หน่อย เรากลัวใจตัวเองทนไม่ได้”
“ประวิทย์ เขาไม่เหมือนที่คุยในไลน์เลยอ่ะ หน้าตารูปร่างเหมือนกันในรูปก็จริง แต่ในไลน์คุยเป็นคนขรึมติดเงียบซึ่งเราชอบเขาตรงนี้ แต่พอตัวจริงดูก้อร่อก้อติก เจ้าชู้หลบในมากๆ เรารู้สึกหวั่นไหวสิ”
เหรอวะ แล้วตกลงมึงชอบที่มันขรึมติดเงียบ หรือมันก้อร่อก้อติกเจ้าชู้กันแน่ อีต้น อีแรดหลบใน ตอบ!!!
และอิฐก็อยากรู้เหมือนกันว่าไอ้ประวิทย์ไปยั่วไปอ่อยต้นอีท่าไหน คนของเราถึงได้แดดิ้นพล่านรัวๆ
“โอเค ไปๆ”
“ผมรอจนเกือบหลับ นานนะครับ”
คำพูดที่กึ่งแซวกึ่งตำหนิ แต่คนพูดทำสีหน้าอมยิ้มทำให้คลายบรยากาศเก้อๆลงไป
“ผมขอโทษครับ คุณประวิทย์”
ด้วยกลัวว่านายประวิทย์จะไม่พอใจ ต้นจึงขอโทษขอโพยไว้ก่อน
“เรียกผมวิทย์ก็ได้ เหมือนที่ต้นคุยกับผมในไลน์”
“คุณอิฐก็ด้วยนะ เรียกผมวิทย์ก็ได้”
การสร้างบรรยากาศความคุ้นเคย ทำให้ช่วยลดระยะห่างของความแปลกหน้า
“ทำไมคุณวิทย์เลือกนั่งตรงนี้ล่ะ”
อิฐเป็นคนยกประเด็นคุยขึ้นมาเมื่ออีกสองคนไม่มีทีท่าว่าจะคุย ต้นก็กินบุฟเฟ่ต์ตรงหน้าไปเรียบร้อยแต่ไม่พูดอะไร ส่วนนายวิทย์ก็เงียบนั่งเฉยมองดูวิวไปเรื่อย
ด้วยถ้าคิดในใจคงเป็นประโยคประมาณ -อีต้นเรียกกูมาเป็นไม้กันหมาเหรอ ทีอยู่กันสองคน แม่งคุยอี๋อ๋อป้อล้อกันนะพวกมึง-
“เห็นวิวทิวทิศน์ดีครับ พอมืดเห็นไฟระยิบระยับ เหมือนได้พักผ่อนสายตา”
-เรอะ พักลูกกะตาตรงไหนวะ ไฟแยงตาชัดๆ ยิ่งหลายๆดวง ยิ่งแสบตาไปใหญ่-
“แล้วจริงๆ คุณอิฐอยากนั่งตรงไหน”
“ผมตรงไหนก็ได้ ใกล้ๆของกิน”
“แล้วต้นล่ะครับ”
-อีต้นมึงอย่าตอบนะ ที่ไหนก็ได้ที่มีไอ้วิทย์ กูจะอ้วกแตกเพิ่งแดกเสร็จ-
“ผม…”
เมื่อต้นเงยหน้ามาปะทะสายตาของคนตรงหน้าทั้งสองที่ทิ้งช่วงเวลาเนิ่นนาน ยิ่งทำให้อิฐหวั่นใจว่าคำตอบที่ตัวเองคิดจะเป็นจริง
-นี่อีต้น มึงจะใจง่ายกับผู้ชายแปลกหน้าเร็วขนาดนี้เชียวรึ -
-ถามว่าหล่อมั้ย ก็พอดูได้
แต่ถ้าถามว่ากูจะเอามั้ย ต้องถามผัวที่บ้านดูก่อน-
“ตัวจริงกับในรูป ต้นดูดีกว่าในรูปมาก”
“ผมไม่ได้โกหก”
“ครับ”
มันยิ่งทำให้ต้นบิดเขินม้วนอายเข้าไปใหญ่
-อีต้น มึงชวนกูมาทำไมว้า-
“ผมไม่ชอบเที่ยวกลางคืน”
“เหล้า บุหรี่ ผมไม่กินไม่สูบ ผมไม่ชอบ”
“เผื่อคุณอิฐจะไม่รู้”
ผลงานอื่นๆ ของ Natchapon Suramon ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Natchapon Suramon
ความคิดเห็น