ก(ร)งนก - ก(ร)งนก นิยาย ก(ร)งนก : Dek-D.com - Writer
NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด

    ก(ร)งนก

    "พระเจ้าให้ชีวิตและเราเป็นคนใช้มัน แต่นกตัวนี้กลับไม่เคยได้เป็นเจ้าของชีวิตมันเลย"

    ผู้เข้าชมรวม

    62

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    62

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  22 ก.ย. 65 / 21:57 น.
    คำเตือนเนื้อหา NC

    มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง



    ข้อมูลเบื้องต้น

    หยาดน้ำฟ้าสีใสตกลงมาไม่ขาดสายตั้งแต่เมื่อคืนวานพร้อมสายลมอ่อนที่พัดพาพวกมันผ่านผ้าม่านสีตุ่นเข้ามาภายในห้อง หน้าต่างไม้สักเปียกโชกไม่ต่างจากผ้าม่านผืนนั้นที่เปียกชุ่มจนหนัก หากแต่ร่างที่กอดเข่าอยู่ข้างเตียงกลับไม่สนใจ เมินเฉยราวศพแม้หยาดน้ำจะไหลรดมาถึงเท้าก็ตามหากไม่มีนัยน์ตาหม่นเสียงสะท้อนเส้นสีเงินที่วาดผ่านผืนฟ้าและร่างหายกระเพื่อมขึ้นลงบ่งบอกว่าร่างนั้นยังคงหายใจอยู่ เสียงฟ้าร้องดังกัมปนาทพร้อมแสงสีเงินพาดผ่านนภาสีหมึก มือที่โอบรอบเข่าคลายออกแล้วกำแน่นจนได้แผล แสบจนเผลอกัดปากให้ได้รสเลือด มือสั่นเทากำคว้าผ้าห่มบนฟูกมาคลุมศีรษะเอาไว้ปิดกั้นตัวเองจากเสียงที่ดังราวเสียงระเบิดเกลียดเหลือเกิน เกลียดเสียงดังพวกนั้นจนอยากให้มันหายไป กระดาษแผ่นเล็กบนผ้านวมผืนหนาปลิวตาแรงกระชากร่อนตกลงบนแอ่งน้ำที่เจิ่งนองบนพื้น ข้อความจากปากกาหมึกซึมราคาแพงลบเลือนเปรอะเปื้อนจนไม่สามารถ อ่านได้ แต่เจ้าของข้อความนั้นยังจำได้ทุกตัวอักษรที่เขียนลงไป กลิ่นคาวเลือดบนผืนผ้าอบอวลจนต้องสลัดออก ผ้าห่มผืนหนาถูกโยนทิ้งลงบนพื้น ใบหน้าซีดเผือดไร้ซึ่งสีเลือดอย่างที่เคยเป็นพร้อมวัตถุสีดำที่เย็นเฉียบราวก้อนน้ำแข็งตกกระทบพื้นเสียงดัง มือขาวซีดอย่างศพหยิบคว้ามันโยนออกไปนอกหน้าต่าง เจ็บจนต้องนิ่วหน้าเมื่อบาดแผลที่พึ่งได้รับปริเปิดอีกครั้ง เลือดสีสดไหลจากข้อต่ออาบย้อมพื้นจนน้ำฝนที่ซัดสาดเข้ามากลายเป็นสีแดงส่งกลิ่นคาวคละคลุ้งผสมไปกับไอดินที่ถูกหอบพัดเข้ามาตามสายลมที่เริ่มพัดโหมอย่างบ้าคลั่งชวนให้รู้สึกคลื่นเหียน ช่วงขาขยับก้าวลุกจากพื้นห้องถลาไปยังห้องน้ำที่เปิดทิ้งเอาไว้ เป้าหมายคือชักโครก โก่งคออาเจียนเอาของเก่าออกมาจนหมด ใช้แรงที่มีเกาะขอบอ่างล้างหน้าพยุงตัวขึ้นเซเล็กน้อยเมื่อยืนได้ ก้าวถอยไปพิงแผ่นหลังกับผนัง เงยหน้าขึ้นมองภาพสะท้อนในกระจกร่องรอยบาดแผลตามตัวปรากฏเด่นชัด ผ้าพันแผลที่พันเอาไว้อย่างลวก ๆ ด้วยความไม่รู้ถูกย้อมไปด้วยสีแดงสด ปลาสเตอร์ยาบางจุดเปลี่ยนสีบางจุดหลุดลอกออกไปเหลือไว้เพียงคราบกาวเพราะเปียกน้ำ ปัดปอยผมที่ปรกหน้าออกเผยให้เห็นดวงตาคู่โศกสีดำสนิทหม่นแสงไร้เงา แววในดวงตาคู่นี้มันหายไปตั้งแต่หนึ่งปีก่อนที่ได้รับรู้ว่าครอบครัวหาใช่พื้นที่ปลอดภัย พ่อแม่ทุกคนไม่ได้เลี้ยงลูกมาด้วยความรักเมื่อมีผลประโยชน์ก็พร้อมจะทอดทิ้งอย่างไร้เยื่อใยมีไว้เพียงเพื่อเกาะกิน ถูกขาย ถูกนำไปใช้หนี้แทนเงินตรา แลกเปลี่ยนราวสิ่งของทั้งที่ก็มีหัวใจและความรู้สึก ริมฝีปากแห้งแตกเหยียดยิ้มให้กับความน่าสมเพชนั่น ยกมือสั่นเทาแตะรอยแดงบนลำคอสะดุ้งเมื่อกดโดนลอยถลอกลากยาว หมดสิ้นแล้วน้ำตาที่มีไว้ไหลนอนร้องไห้มาแล้วหลายเดือน ลากขาที่ไร้เรี่ยวแรงพาตัวเองออกจากห้องน้ำ ฟูกนอนสีขาวอาบย้อมไปด้วยเลือด ร่างไร้ชีวิตนอนสิ้นใจอยู่บนนั้น ชายผู้ไม่เป็นที่รัก ชีวิตอดสูที่ต้องเผชิญมาแรมปีจบลงพร้อมกับชีวิตของมัน สิ่งที่ได้รับมาแต่แรกหาใช่ความรักมีเพียงความใคร่และเสน่หา การสนองตัณหาคือสิ่งที่ต้องกระทำอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันนับจากที่ก้าวเท้าเหยียบบ้านหลังนี้ นกในกรงทองอาจเปรียบเปรยได้กระมัง แต่แล้วใครเล่าอยากจะเป็นนกตัวนั้น เพราะนั่นหมายถึงปีกที่ต้องถูกเด็ดไป ไร้ซึ่งอิสระอย่างที่นกควรจะเป็น พระเจ้าให้ชีวิตและเราเป็นคนใช้มัน แต่นกตัวนี้กลับไม่เคยได้เป็นเจ้าของชีวิตมันเลย ก่อนตายจากกันครั้งสุดท้ายที่ทำทานมันยังเหยียบย่ำกันราวกับสัตว์ เป็นหมูในอวย เป็นหมาที่ไม่ว่าจะโดนทุบตีก็ยังเชื่อฟัง ไม่คิดแว้งกัด บาดแผลมากมายบนตัวที่ต้องคอยปกปิดกลายเป็นแผลฝังลึกที่ไม่มีวันหาย ตราบาปในชีวิตซึ่งครั้งหนึ่งต้องกลายเป็นสิ่งของระบายอารมณ์ ครึ่งชีวิตเสียไปเพราะถูกขายโดยผู้ให้กำเนิด ต่อให้อยากลืมแต่มันกลับจำฝังใจ เกือบตายเพราะปลายกระบอกปืนจ่ออยู่บนศีรษะ หลับตาไปแล้วคาดหวังว่ามันจะไม่ทรมานนักหากแต่พระเจ้าคงอยากเล่นตลกต่ออีกนิด คนที่ตายกลับกลายเป็นมันเสียแทน เสียงลั่นไกพร้อมเลือดสีสดไหลรดลงบนร่าง มันสิ้นใจทันทีหลังจากนั้น หมดสิ้นกันทีกับความทรมานที่ได้รับ ลากเท้าผ่านเตียงนอนกว้างปัดเชือกเส้นโตที่คล้องเป็นบ่วงหวังตายตกจบเรื่องราวให้พ้นทาง เจ็บเหลือเกินที่ต้องทนฝืนเดินไปยังชั้นล่างทุกย่างก้าวราวเหยียบลงบนเศษแก้วมันบาดลึกจนต้องกัดฟันทน รสสนิมเหล็กคละคลุ้งอยู่ในปากจนอยากอาเจียนออกมาอีกรอบแต่ของเก่าที่คายทิ้งไปสร้างแผลไว้ให้แสบลึกในลำคอ ถลาเกาะขอบเคาน์เตอร์ปัดป่ายกวาดเอาเครื่องเรือนบนนั้นหล่นกระจายลงพื้น เครื่องเคลือบบางชิ้นแตก เศษดินเผากระเด็นบาดผิวที่ซีดอยู่แล้วให้ซีดยิ่งขึ้น แขนที่ใช้ค้ำยันส่งเสียงประท้วงเพราะเรี่ยวแรงที่เหลืออยู่น้อยนิด กดจิ้มแป้นตัวเลขบนแท่นวางโทรศัพท์กรอกเสียงแหบแห้งลงไปเมื่อมีสัญญาณก่อนลากตัวเองไปยังประตูบ้านเมื่อปลายสายตอบรับ ใช้แรงที่เหลือเพียงน้อยนิดดันไม้สลักแผ่นใหญ่ให้เปิดออกร่องคมขูดกรีดผิวเนื้อบางให้ได้เลือดซิบ อรุณรุ่งดวงโตกำลังโผล่พ้นขอบฟ้ากว้าง แสงสว่างเพียงนิดลอดผ่านช่องว่างเข้ามากระทบนัยน์ตาคู่โศกหม่นแสงพร้อมเสียงไซเรนดังแว่วมาตามสายลมอ่อนมันพัดพากลิ่นอายที่หลงเหลือของพายุร้ายที่พึ่งผ่านพ้นไปเข้ามาทักทาย เสียงนั้นดังใกล้ขึ้นตามระยะห่างของประตูสองบานที่ค่อย ๆ เปิดกว้างพร้อมสติที่กำลังเลือนหายผิดกลับสุริยันดวงโตที่จรัสแสงจนตาพร่า

    .

    “ขอบคุณนะคะที่มองเห็นพวกแก ถ้าไม่มีคุณเด็ก ๆ พวกนี้ก็คงเร่ร่อนอยู่ที่ไหนสักแห่ง” ทอดสายตามองไปที่สวน รอยยิ้มยินดีประดับบนใบหน้า ไม่ต่างจากเจ้าของเสียงจอแจมากมายในสนาม หลายคนไม่มีที่ไป และหลายชีวิตถูกทอดทิ้งเพราะคำว่าไม่พร้อม บางคนถูกขายเสียด้วยซ้ำ ชีวิตหนึ่งบางครั้งมีค่าเพียงเงินแบงก์เทาใบเดียว ขายกันง่านดายราวสิ่งของ ตลกร้ายที่มันคือเรื่องจริง

    “พอมองพวกแกแล้วก็นึกถึงตัวเองน่ะครับ ไม่อยากให้พวกแกต้องเจออะไรแบบนั้น” ไม่มีซึ่งผู้ที่รัก ไร้ซึ่งที่พักพิง ถูกทอดทิ้งตั้งแต่ยังไม่รู้ความ อย่างน้อยในตอนนี้ก็ขอเป็นสิ่งเหล่านั้นให้เด็กพวกนี้แม้จะเพียงไม่นาน

    “คุณคงเจออะไรแย่ ๆ มาสินะคะ”

    “ครับ แต่ถึงจะพูดแบบนั้นแต่เด็ก ๆ พวกนี้ก็มีชะตาไม่ต่างจากผมเท่าไหร่ เมื่อโตพอพวกแกก็จะรู้ว่าตัวเอง เป็นแค่สิ่งของที่ไม่สำคัญ ไร้ค่า ไร้ราคา หรือมีค่าแค่เงินหนึ่งพัน ถึงตอนนั้นก็อยู่ที่พวกแกแล้วล่ะครับ ว่าจะตีราคาตามคำพูดของคนอื่น ของโลกที่มันโสมม หรือจะประเมินคุณค่าของตนด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้ ให้พวกแกมีความสุขเท่าที่จะมีได้เถอะครับ”

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×