คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : สวรรค์มีตาหรือฟ้าเป็นใจ
ณ คฤหาสน์อภิรักษ์รังสรรค์
“คุณแม่เป็นยังไงบ้างครับ คุณแม่รู้รึเปล่าว่าคุณแม่เป็นลมไปตั้งนาน ผมเป็นห่วงแทบแย่” ชานนท์เอ่ยถามผู้เป็นมารดาด้วยความดีใจ เมื่อเห็นว่ามารดาของตนได้ฟื้นแล้ว หลังจากที่เป็นลมไปนาน ชานนท์เองก็ยังไม่ได้นอนเลยทั้งคืนเพราะรอฟังข่าวของยาหยีจากลูกน้องที่เขาสั่งให้ไปตามหา จริงๆแล้วเขาอยากที่จะออกไปตามหาน้องสาวด้วยตัวเอง แต่ติดที่มารดาเป็นลมไปซะก่อน จึงต้องเฝ้าดูอาการของท่าน
“แม่ไม่เป็นไรจ๊ะ แล้วยาหยีล่ะลูก ยาหยีกลับมาแล้วใช่มั้ย” คุณหญิงพรรณวรสเอ่ยถามอย่างกระตือรือร้น เพราะท่านเป็นห่วงหลานรักเป็นอย่างมาก
“ยังเลยครับคุณแม่ คนของเราก็ตามหากันทั้งคืน แต่ยังไม่พบยาหยีเลย” ชานนท์เอ่ยด้วยน้ำเสียงเศร้า ทำเอาคนฟังหัวใจแทบแตกสลาย
“ฮื่อๆๆๆ ยาหยีหลานป้า หนูไปอยู่ที่ไหน ถ้าหนูเป็นอะไรไปจริงๆป้าจะบอกวัลลภกับกานดายังไง สัญญากับพ่อแม่เขาไว้ว่าจะดูแลลูกสาวเขาอย่างดี แต่ที่ไหนแค่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนเดียวป้ายังดูแลไม่ได้เลย ฮื่อๆๆๆๆ”ชานนท์โผเข้ากอดปลอบมารดาที่ร้องไห้ฟูมฟายด้วยความสงสาร
“คุณแม่อย่าโทษตัวเองเลยนะครับ ยาหยีจะต้องไม่เป็นอะไรครับ ยาหยีต้องกลับมา ผมสัญญา คุณแม่ขึ้นไปอาบน้ำให้สดชื่นก่อนดีมั้ยครับ แล้วจะได้ทานอาหารส่วนผมจะไปแจ้งความที่โรงพักให้ตำรวจเขาช่วยหาอีกแรง ผมคงจะรอให้ถึง 24 ชั่วโมงไมws;แล้ว”ชานนท์เอ่ย
“จ๊ะลูก แต่แม่คงจะทานอะไรไม่ลงหรอก ถ้าแม่ยังไม่เจอยาหยี แม่จะรอกินข้าวพร้อมน้อง” เมื่อได้ฟังมารดาพูดชานนท์ยิ่งรู้สึกสงสารท่านจับใจ ชายหนุ่มก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าน้องสาวของเขาจะได้กลับมาอีกไหม ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆแล้วมารดาของเขาเล่าจะเป็นอย่างไร
“เอ๊ะ ตานนท์ ไปดูสิเสียงรถใครมา ยาหยีรึเปล่า”คุณหญิงพรรณวรสเอ่ยขึ้นอย่างมีความหวัง ว่าเสียงรถที่แล่นเข้ามาภายในรั้วบ้านอาจจะเป็นหลานสาวของเธอก็ได้
“ครับคุณแม่” ชานนท์กล่าวพร้อมกับรีบเดินออกไปดู เขาได้แต่ภาวนาว่าขอให้เป็นน้องสาวของเขาจริงๆ
“ยาหยี!”ชานนท์อุทานเสียงดังจนคนที่รออยู่ในบ้านรีบออกมาดู คุณหญิงพรรณวสปรี่เข้าสวมกอดหลานสาวด้วยความดีใจทั้งสองป้าหลานยืนกอดกันร้องไห้เสียงดังระงม น้ำตาในครั้งนี้แปรเปลี่ยนเป็นน้ำตาแห่งความดีใจ
“หนูเป็นอย่างไรบ้าง เจ็บตรงไหนรึเปล่า หนูรู้มั้ย ป้าเป็นห่วงหนูแทบแย่”
“หยีขอโทษคุณหญิงป้ากับพี่นนท์นะคะที่ทำให้ต้องเป็นห่วง เมื่อคืนหยีก็เกือบแย่เหมือนกันค่ะ ดีนะคะที่คุณฮีโร่เขามาช่วยไว้”ณัฐชณิณพูดตอบพร้อมกับเหลือบมองไปทางคนที่พาเธอมาส่งที่ตอนนี้มีชานนท์ยืนมองอย่างสงสัยว่าทั้งสองคนมาด้วยกันได้อย่างไร
“เราเข้าไปคุยกันในบ้านดีกว่านะ”ประมุขของบ้านเอ่ยตัดบท
“ไอ้ฮีโร่ แกต้องเล่าเรื่องเมื่อคืนให้ฉันกับคุณแม่ฟังอย่างละเอียดเลยนะ ถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากล ฉันเอาแกตาย”ชานนท์กล่าวอย่างคาดโทษ
เมื่อทุกคนมารวมกันอยู่ในห้องนั่งเล่นของบ้านแล้ว ณัฐชณิณกับพชรกรต่างก็พลัดกันเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ทั้งสองคนฟัง เมื่อเล่าจบ ชานนท์ที่ตอนแรกไม่ไว้ใจพชรกรก็ได้ขอโทษขอโพยเพื่อนรักและขอบคุณที่ช่วยน้องสาวเขาไว้ ส่วนคุณหญิงพรรณวรสก็รู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของเขาไม่แพ้กัน จริงอย่างที่หลานสาวเธอบอกไว้ ถ้าไม่ได้เขาหลานสาวของเธอคงจะแย่
“ป้าไม่รู้จะตอบแทนน้ำใจเราในครั้งนี้ยังไง ถ้าไม่ได้ตาฮีโร่ ป้าคงจะรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต”
“คุณหญิงป้าคะมันไม่ใช่ความผิดของคุณป้าเลยนะคะ หยีต่างหากไม่ดีเองหยีไม่เชื่อฟังคุณหญิงป้าไม่ยอมให้ลุงสนขับรถไปให้ หยีคิดแต่ว่าอยากลองช่วยเหลือตนเองไม่ห่วงความปลอดภัยของตัวเองทังๆที่มาอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน จนทำให้คุณหญิงป้ากับพี่นนท์พลอยทุกข์ใจไปด้วย หยีสัญญานะคะว่าหยีจะไม่เอาแต่ใจตัวเองอีกแล้ว”ณัฐชณิณกล่าวอย่างสำนึกผิดพลางกอดซบที่อกอุ่นๆของผู้เป็นป้า พชรกรเหลือบมองหญิงสาวแล้วยิ้มเล็กๆ เธอช่างหน้ารักและขี้อ้อนเหลือเกิน มิน่าล่ะถึงเป็นที่รักของทุกคนในบ้านได้อย่างง่ายดาย หรืออาจจะรวมถึงตัวเขาด้วยเช่นกัน
“ช่างมันเถอะจ๊ะลูก เรื่องมันผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป เรามาเริ่มต้นกันใหม่นะ เอ่อ ตาฮีโร่พรุ่งนี้ตอนเย็นว่างหรือเปล่าลูก ป้าว่าอยากจะเลี้ยงรับขวัญยาหยีสักหน่อย และถือซะว่าเป็นการเลี้ยงขอบคุณเราด้วย”คุณหญิงพรรณวรสเอ่ยเสียงเรียบ
“ว่างครับคุณป้า งั้นพรุ่งนี้ ผมจะมาให้ตรงเวลาเลยครับ” พชรกรตอบด้วยสีหน้ากรุ่มกริ่ม ก็เขาจะพลาดได้ยังไงล่ะในเมื่อสิ่งที่ชายหนุ่มต้องการลอยมาอยู่ตรงหน้าแล้ว ถ้าไม่คว้าไว้ก็โง่เต็มที ‘เราจะต้องได้เจอกันอีกนะสาวน้อย’ พชรกรคิดในใจพร้อมกับมองไปที่ใบหน้าสวยที่เขาเฝ้าคิดถึงเธอเสมอมา
“ ฮีโร่ วันนี้ฉันไม่เข้าบริษัทนะ เพลียมากขอตัวไปนอนล่ะกัน”
“คร้าบ ท่านรองประธาน” พชรกรพูดด้วยน้ำเสียงล้อเลียน “งั้น ผมลานะครับคุณป้า สวัสดีครับ ไปก่อนนะครับยาหยี พรุ่งนี้เจอกันครับ”พชรกรกล่าวลาคนทั้งสองก่อนจะเดิน จากไป
‘ทำไมน้า แค่คำว่า พรุ่งนี้เจอกัน จึงทำให้เรารู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก นี่ใช่มั้ยสิ่งที่เราต้องการมานาน คือการได้พบหน้าเขา ได้ยินเสียงของเขา มันช่างทำให้หัวใจดวงน้อยๆเต้นไม่เป็นจังหวะ พรุ่งนี้เราจะได้พบกันอีกคะพี่ฮีโร่’ ณัฐชณิณได้แต่พร่ำเพ้อในใจโดยที่ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้พูดคำเหล่านี้ออกมาหรือไม่แต่เธอก็ไม่เสียใจขอแค่ได้เจอหน้าเขาอีกตลอดไปแค่นั้นเธอก็พอใจแล้ว
..........................................................
“อ้าวตาฮีโร่มาแล้วเหรอลูกตรงเวลาเป๊ะเลยนะ มาๆกำลังตั้งโต๊ะพอดีเลย”คุณหญิงพรรณวรสเอ่ยทักทายแขกพิเศษของบ้าน ที่วันนี้เขาแต่งตัวด้วยชุดลำลองสบายๆ บ่งบอกให้รู้ถึงความใกล้ชิดและสนิทสนมกับครอบครัวนี้เป็นอย่างดี
“ไม่ได้ครับ คุณป้าชวนทั้งทีถ้ามาสายก็เสียมารยาทแย่เลยครับ” พชรกรตอบอย่างอารมณ์ดี ที่จริงแล้วเขาอยากจะมาก่อนเวลาด้วยซ้ำ แต่กลัวจะผิดสังเกต ยิ่งชานนท์เพื่อนรักยิ่งนกรู้จับผิดเขาได้ตลอดเวลา
“แปลกแฮะ ปกติแม่ฉันชวนไม่ยักเห็นแกมา แต่วันนี้ดูท่าทางแกกระตือรือร้นผิดปกตินะ”ชานนท์พูดอย่างจับผิด
‘ไอ้เพื่อนบ้าเอ้ย จับผิดกันอยู่ได้ ดีนะที่ไม่มาก่อนเวลา ไม่งั้นมันคงแซวไม่เลิก’พชรกรครุ่นคิดในใจอย่างหนัก
“เอาเถอะจ๊ะ เรามาสนใจอาหารตรงหน้ากันดีกว่า เดี๋ยวจะพลอยทำให้ทานไม่อร่อย”คุณหญิงพรรณวรสตัดบท ทุกคนจึงลงมือทานอาหารที่อยู่ตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย
“อืม ยาหยี พี่ได้ยินไอ้นนท์มันบอกว่ายาหยีอยากทำงานเหรอ”พชรกรเปิดประเด็นการสนทนาเมื่อสังเกตว่าทุกคนเริ่มที่จะอิ่มแล้ว ทำเอาคนที่ถูกถามถึงกับแปลกใจ
“ค่ะ คุณฮีโร่ถามทำไมเหรอคะ”ณัฐชณิณตอบเสียงเรียบพร้อมเอ่ยประโยคคำถามที่ทำเอาคนรอฟังคำตอบถึงกับจ๋อย เพราะคำพูดของเธอมันช่างดูห่างเหินเหลือเกิน
“นี่ ยาหยี เรายังไม่เลิกเรียกพี่เขาว่าคุณอีกเหรอ หนูรู้รึเปล่าว่าครอบครัวของเรากับครอบครัวตาฮีโร่เราทั้งสองบ้านเป็นทั้งหุ้นส่วนและเพื่อนสนิทกัน ไม่ใช่ญาติก็เหมือนญาติ และอีกอย่างตาฮีโร่ก็เป็นเพื่อนกับตานนท์ก็เท่ากับเป็นพี่ชายของเราเหมือนกัน ต่อไปให้หนูเรียกตาฮีโร่ว่าพี่นะ เรียกคุณ เนี้ยป้าว่ามันห่างเหินเกินไปนะลูก”คุณหญิงพรรณวรสกล่าว
“ค่ะ คุณป้า ว่าแต่พี่ฮีโร่มีอะไรหรือเปล่าคะ”ณัฐชณิณไม่ได้ขัดข้องอะไรเพราะที่จริงแล้วเธอก็อยากเรียกเขาว่าพี่เหมือนกัน
แค่ยังไม่กล้าพอเท่านั้นเอง
“พอดีเดือนหน้านี้เลขาของพี่เขาจะออกแล้ว พี่เห็นว่ายาหยีอยากทำงานก็เลยอยากให้เราลองไปเรียนรู้งานกับคุณอรอนงค์ดู เผื่อจะชอบน่ะ”
“อ้าว ทำไมหนูอรเขาถึงได้ลาออกล่ะลูก ทั้งสวยทั้งเก่งอย่างนั้นจะออกไปทำอะไรล่ะ” คุณหญิงพรรณวรสเอ่ยถามอย่างสงสัยเพราะท่านคุ้นเคยกับอรอนงค์เป็นอย่างดี แต่ข่าวที่เธอจะลาออกท่านก็พึ่งจะทราบวันนี้นี่เอง
“คือตอนนี้คุณอรเธอกำลังมีน้องครับ ช่วงนี้เธอแพ้ท้องมาก สามีของเธอก็เลยให้เธอลาออกมาเป็นแม่บ้านเลยน่ะครับ”เสียงที่ตอบกลับไม่ใช่เสียงของพชรกร แต่เป็นเสียงของชานนท์ที่กล่าวเสริมทัพ
“แต่พี่เห็นดีด้วยนะ เราทำงานนี้มันจะได้ตรงกับที่เราเรียนมาด้วย”ชานนท์กล่าวต่อ
“คะ..คือ หยีไม่แน่ใจนะค่ะ ว่าจะทำได้รึเปล่า อีกอย่างคนอื่นเขาจะไม่ว่าหยีใช้เส้นใช้สายเหรอคะ”ณัฐชณิณกล่าวอย่างวิตก เพราะเธอรู้ตัวเองดีว่าเธอไม่ใช่คนที่จะสามารถทนกับเสียงรอบข้างได้เท่าไรนัก
“นี่ ยาหยี เกียรตินิยมอันดับ 1 ยังการันตีไม่ได้อีกเหรอลูก อีกอย่างใครจะว่าอย่างไรก็ช่างเขา ขอให้เราตั้งใจทำงาน สักวันพวกเขาจะรู้เองว่าเราใช้ความสามารถในการทำงาน ไม่ใช่มีดีแต่เส้นสายเท่านั้น”คุณหญิงพรรณวรสพูดให้หญิงสาวคิด และอยากให้เธอมั่นใจในตัวเองมากขึ้นกว่านี้
“คะคุณป้า หยีจะทำ หยีสัญญาว่าจะตั้งใจทำงานให้ดีที่สุดค่ะ แล้วพี่ฮีโร่จะให้หยีเริ่มงานได้วันไหนคะ?” ณัฐชณิณได้สติเพราะเธอจะทำตัวอ่อนแอไม่ได้ เธอจะต้องโตเป็นผู้ใหญ่สักที
“งั้นเป็นวันจันทร์หน้าล่ะกัน ยาหยีจะได้มีเวลาเตรียมตัว”คำตอบของหญิงสาวมันช่างทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงอย่างผิดปกติ ต่อไปเขาจะได้เจอเธอทุกวันโดยที่ไม่ต้องกลัวชานนท์จะจ้องจับผิด และแผนการแรกของเขาในวันนี้ประสบความสำเร็จเกินคาด งานเลี้ยงในวันนี้จึงผ่านไปอย่างมีความสุข
ณัฐชณิณเดินมาส่งพชรกรที่หน้าบ้าน หลังจากที่งานเลี้ยงเลิกลาไปแล้ว
“ขอบคุณนะคะ”
“ขอบคุณพี่เรื่องอะไรเหรอ?”พชรกรทำเป็นไม่รู้ เรื่องที่ณัฐชณิณกำลังจะพูด
“ขอบคุณสำหรับเรื่องเมื่อวันก่อน และเรื่องวันนี้ค่ะ ตอนแรกหยีคิดว่าพี่จะไม่ชอบหน้าหยีซะแล้ว”
“ทำไมคิดอย่างนั้นล่ะพี่หน้าดุใส่เราเหรอ อีกอย่างพี่ยังไม่เคยบอกว่าเลยนะว่าพี่ไม่ชอบเรา ”พชรกรแกล้งเน้นเสียงคำว่าชอบ ทำเอาคนที่ยืนฟังถึงกลับหน้าแดง “พี่กลับก่อนนะ ฝันดีครับ”เสียงแผ่วเบากระซิบที่ข้างหู ทำให้ณัฐชณิณที่ตอนนี้กำลังตกอยู่ในภวังค์ถึงกับขนลุกซู่ ภายในใจรู้สึกดีอย่างประหลาด หลังจากรถหรูแล่นออกไปก็เกิดคำถามขึ้นภายในใจมากมาย
‘ ชอบเหรอ คงไม่ใช่มั้ง นี้เราคิดอะไรอยู่นี้ เขาแค่ตอบคำถามเราเฉยๆ ไม่ได้บอกชอบสักหน่อย คิดเองเออเอง ไปนอนดีกว่าเผื่อจะเลิกฟุ้งซ่านสักที’ ณัฐชณิณตบหน้าตัวเองเบาๆเพื่อไล่ความคิดที่แล่นอยู่ภายในไม่ให้คิดเกินเลยไปมากกว่านี้
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสวรรค์มีตาหรือฟ้าเป็นใจกันแน่ ถึงทำให้คนทั้งสองที่เฝ้าคิดถึงกันมานานได้มาพบเจอกันอีกครั้ง ซึ่งทั้งสองคนต่างก็รู้ใจตัวเองเป็นอย่างดี แต่ไม่รู้ว่าวันไหน ความลับภายในใจของแต่ละคนจะถูกเปิดเผยออกมาให้อีกฝ่ายได้รับรู้สักที
ความคิดเห็น