คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ความบังเอิญหรือพรหมลิขิต100%
ความบังเอิญหรือพรหมลิขิต 100%
“ช่วยด้วย ช่วยด้วยค่ะ ใครก็ได้ช่วยด้วย”เสียงร้องขอความช่วยเหลือของผู้หญิงคนหนึ่งที่ตอนนี้กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ดีนัก สีหน้าและแววตาของเธอบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าเธอหวาดกลัวมากขนาดไหน
“หุบปากเดี๋ยวนี้นะ ร้องไปก็ไม่มีใครมาช่วยแกได้หรอก ไอ้กล้าจัดการทำให้มันหุบปากเดี๋ยวนี้”เสียงของคนที่เป็นลูกพี่สั่งไอ้กล้าลูกน้องของมันให้ทำบางอย่างในแบบฉบับที่พวกมันใช้มาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ”ตุ้บ...” กำปั้นใหญ่กระแทกเข้าไปที่หน้าท้องบางอย่างแรงทำให้หญิงสาวเคราะห์ร้ายถึงกลับเงียบไป เหตุการณ์ทั้งหมดพวกมันไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามีคนคนหนึ่งแอบเห็นการกระทำของพวกมันอยู่ตลอดเวลา
“หยุดเดี๋ยวนี้นะเว้ย พวกแกปล่อยผู้หญิงเดี๋ยวนี้นะ” เสียงเข้มของพชรกรร้องสั่งไอ้พวกโจรกระจอกทั้งสองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“แกเป็นใครกล้าดียังไงมายุ่งเรื่องของผัวๆเมียๆเขา รีบไปถ้าแกยังไม่อยากตาย” เสียงของไอ้ลูกพี่พูดพร้อมกับจ่อมีดพกสั้นไปที่หน้าของพชรกร
“แกแน่ใจเหรอว่านี่เมียแก และที่แน่ๆฉันพนันได้เลยว่าแกไม่กล้า”พชรกรพูดตอบพร้อมกับจ่อมัจจุราชสีดำเขมือบไปที่หน้าพวกมันคืนเหมือนกัน
“พี่เบิ้ม เอาไงดีพี่มันมีปืนด้วยฉันยังไม่อยากตายนะ”เสียงของไอ้กล้าผู้เป็นลูกน้องกล่าวด้วยเสียงสั่นเครือเพราะความกลัว
“จะเอาไงล่ะ ก็เผ่นสิ ฝากไว้ก่อนนะมึงอย่าให้กูเจอมึงอีกนะ กูไม่ปล่อยมึงไว้แน่” สิ้นเสียงเท่านั้น ไอ้สองตัวก็รีบเผ่นกันอย่างไม่คิดชีวิต
เมื่อแน่ใจว่าโจรสองตัวไปแล้วพชรกรจึงรีบวิ่งไปช้อนร่างบางของสาวนิรนามที่นอนกุมท้องด้วยเจ็บปวด
“คุณ ๆเป็นอย่างไรบ้าง ปลอดภัยแล้วนะ”พชรกรใช้มือตบไปที่แก้มเนียนอย่างเบามือเพื่อจะทำให้หญิงสาวรู้สึกตัว และถาไถ่ถึงบ้านของอาการของเธอ
“ยะ อย่า อย่าทำฉัน ชะ ชะช่วยด้วย” หญิงสาวครางเสียงดังอย่างอ้อนวอน แล้วเธอก็หมดสติไป พขรกรมองหญิงสาวเคราะห์ร้ายด้วยความสงสารจับใจ
“อ้าว! คุณ คุณเป็นอะไรไปเนี้ย อย่าพึ่งหลับสิ คุณๆ แย่ล่ะยังไม่ได้ทันรู้เรื่องเลย แล้วจะทำไงดีเนี่ย.....”
ร่างบางถูกอุ้มขึ้นรถหรูหลังจากที่พชรกรโทรบอกชานนท์ว่าไม่สามารถช่วยหาน้องสาวของเพื่อนรักได้แล้วเพราะเขามีธุระสำคัญบางอย่าง ถึงเขาจะเป็นห่วงยาหยีของเขา แต่ก็ไม่สามารถทิ้งหญิงสาวเคราะห์ร้ายที่พบโดยบังเอิญได้และเขาก็คิดว่ายาหยียังมีทั้งชานนท์และลูกน้องมากมายที่ตามหา แต่หญิงสาวคนนี้เธอไม่มีใครเลย ชายหนุ่มขับรถมุ่งทะยานไปสู่จุดหมายปลายทางด้วยความรีบร้อน ไม่นานรถหรูก็มาจอดที่คอนโดของเขา เพราะตอนนี้เขาคิดอะไรไม่ทันนอกจากมาที่นี่ที่เดียวเท่านั้น
ร่างบางถูกวางลงบนที่นอนขนาดใหญ่กลางห้อง เขาใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดไปที่ใบหน้าและแขนของหญิงสาวเพื่อให้หญิงสาวสบายตัวขึ้นและจัดแจงห่มผ้าให้ เขาเพ่งสายตามองไปยังหญิงสาวตรงหน้า ใบหน้ารูปไข่ ตาโต ปากบางกระจับได้รูปอมชมพู เธอช่างสวยเหลือเกินในสายตาของเขา พชรกรรู้สึกคุ้นเคยและผูกพันกับหญิงตรงหน้าเหมือนว่าเคยรู้จักกันมานานแสนนาน แต่เขาต้องสลัดความคิดนั้นไป ก่อนที่มันจะทำให้เขาทำร้ายผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าได้
”แกนี่มันหื่นไม่เลือกสถานการณ์จริงๆนะฮีโร่ รีบนอนได้แล้วเหนื่อยมาทั้งวันล่ะ” เขาพูดพึมพัมกับตัวเอง และอดที่จะขำตัวเองไม่ได้ที่คิดอกุศลแม้กระทั่งกับผู้หญิงที่ไม่ได้สติ เขาสอดขาเข้าในผ้าห่มลงนอนข้างๆกับหญิงสาวที่เขาพึ่งเสี่ยงชีวิตช่วยเธอไว้เมื่อสักครู่แล้วหันไปกระซิบที่ข้างหูเธอ “ฉันขอนอนด้วยคนนะ หวังว่าพรุ่งนี้คงจะไม่กรี๊ดลั่นห้อง”
แสงตะวันที่เล็ดลอดเข้ามาทางผ้าม่านที่ถูกเปิดทิ้งไว้ ทำให้รู้ได้ว่าเช้าวันใหม่อันสดใสได้ย่างกรายมาถึงแล้ว ณัฐชณิณกระพริบตาถี่ๆเพื่อปรับแสงที่แยงเข้าตา ตอนนี้หญิงสาวรู้สึกว่าร่างกายของเธอเหมือนมีขอนไม้ขนาดใหญ่ทับอยู่ หญิงสาวจึงลืมตาดูเพื่อความแน่ใจ สิ่งที่หญิงสาวได้เห็นทำให้หล่อนแทบช็อก
“กรี๊ดๆๆๆๆๆนี่ๆ นะ นายเป็นใครเข้ามานอนที่ห้องฉันได้ยังไงไอ้บ้า ไอ้โรคจิต” ณัฐชณิณกรีดร้องลั่นห้องด้วยความตกใจทำเอาเพื่อนร่วมเตียงอย่างพชรกรสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจไม่แพ้กัน
“อะไรนี่คุณตื่นมาก็ร้องลั่นห้องเชียว ดูดีๆสินี่มันห้องผมนะ ไม่ใช่ห้องคุณ” พชรกรร้องขึ้นอย่างหงุดหงิดที่โดนเพื่อนร่วมเตียงทำเสียงดังรบกวนการนอน
“นาย คนบ้า คนลามก นายทำกับฉันอย่างนี่ได้ไง ฮื่อๆๆๆ”ณัฐชณิณร้องไห้เสียงดัง ไม่วายมือเล็กยังระดมทุบไปที่ร่างกายของชายหนุ่มที่เธอคิดว่าเขาได้ทำมิดีมิร้ายเธออย่าแรง
“นี่ๆคุณฟังผมก่อนได้มั้ย แล้วที่คุณพูดเมื่อกี้นี่ผมยังไม่ได้ทำอะไรคุณเลยนะ” พชรกรรวบมือหญิงสาวไว้ที่หน้าอกของเขาจ้องหน้าหญิงสาวที่ตอนนี้เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตา
“คะ..คุณ..พูด..หมาย ..ความ..ว่าไง?”
“ผมก็หมายความอย่างที่พูด แล้วอย่าทำร้ายผมอีกนะไม่งั้นสิ่งที่คุณคิดมันอาจจะเป็นจริงก็ได้” พชรกรส่งสายตายียวนใส่หญิงสาว
“ถ้าคุณหมายความอย่างนั้นแล้วฉันมาอยู่ที่นี้ได้ยังไง แล้วคุณขึ้นมานอนกับฉันได้ยังไง แล้วที่นี่ที่ไหน แล้ว...”
“นี่!ถามยาวขนาดนี้ใครจะไปตอบทัน ใจเย็นๆก่อน ฟังผมพูดก่อนสิ”พชรกรพูดดักคอเมื่อรู้ว่าหญิงสาวคงอยากจะรู้เรื่องเมื่อคืนนี้ใจจะขาด “นี่คุณจำอะไรไม่ได้เลยเหรอ?” หญิงสาวพยายามสงบสติอารมณ์แล้วครุ่นคิดทบทวนกับเหตุการณ์เมื่อคืน “คือ ฉันจำได้ว่ามีใครก็ไม่รู้สองคนมาจับตัวฉันไว้ แล้วพวกมันก็พยายามจะทำมิดีมิร้ายฉัน พอฉันร้องมันก็ทำร้ายฉัน และจากนั้นฉันก็จำไม่ได้เลย”หญิงสาวตอบ ตอนนี้ในหัวสมองของเธอเต็มไปด้วยคำถามต่างๆนาๆ จนสีหน้าของถ้าบ่งบอกอย่างเห็นได้ชัด
“เอาอย่างนี้นะผมรู้ว่าคุณอยากรู้ว่าต่อจากนั้นมันเกิดอะไรขึ้น งั้นคุณรีบไปล้างหน้าล้างตาก่อน ระหว่างทางไปส่งคุณที่บ้านผมจะเล่าให้ละเอียดเลย” “งั้น ก็ได้”หญิงสาวตอบอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก
ระหว่างทางกลับบ้าน....
พชรกรแล่นรถมาตามทางที่หญิงสาวข้างๆได้บอกเขาเป็นระยะๆพร้อมกับเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนให้เธอฟังไปด้วย
“ที่ผมเล่ามันก็มีแค่นี้แหละ จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่คุณล่ะกัน”พชรกรพูดเมื่อเขาเล่าจบ
“ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรเลย ร้อนตัวจัง แต่ยังไงก็ขอบคุณคุณมากนะคะ ที่มาช่วยฉันไว้ ถ้าไม่ได้คุณฉันก็ไม่รู้ว่าฉันจะเป็นยังไง ฉันจะไม่ลืมบุญคุณในครั้งนี้เลยค่ะ”หญิงสาวกล่าวขอบคุณพชรกรด้วยความซาบซึ้งต่อน้ำใจที่เขามีให้เป็นอย่างมาก มันก็จริงถ้าไม่ได้เขามาช่วยเธอไว้ก็ไมรู้ว่าตัวเองจะเป็นหรือตาย
“ไม่เป็นไรหรอกคุณ ผมบังเอิญไปแถวนั้นพอดี เห็นแล้วไม่ช่วยก็ชั่วเกินมนุษย์ล่ะ ว่าแต่ว่าคุณชื่ออะไรเหรอ”พชรกรเอ่ยถาม
“ฉันชื่อณัฐชณิณค่ะ เรียกสั้นๆว่ายาหยีก็ได้”หญิงสาวตรงหน้าตอบ ทำเอาคนที่นั่งข้างๆอึ้งจนพูดไม่ออก
‘อะไรนะ! ผู้หญิงคนนี้คือยาหยีของเรา และเป็นคนเดียวกันกับน้องของไอ้นนท์ที่หายไปเมื่อคืน เราไม่ได้ฝันไปใช่มั้ยเนี้ย’ พชรกร คิดในใจ สีหน้าและแววตาของเขาในเวลานี้มีเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขที่คนที่เขาได้ช่วยชีวิตไว้กลับเป็นคนเดียวกันกับยาหยีของเขานั่นเอง ถ้าเมื่อคืนเขารู้ว่าเธอเป็นคนคนเดียวกัน เขาจะไปปล่อยให้ไอ้สองคนนั้นมีชีวิตรอดกลับไปได้เลย
“คุณคะ คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ อยู่ดีๆทำไมเงียบไป เอ่อ แล้วคุณชื่ออะไรเหรอคะ”
“เปล่าครับ อืม งั้นคุณเรียกผมว่าฮีโร่ล่ะกันนะ”ชายหนุ่มตอบเสียงราบเรียบเขาหวังว่าหญิงสาวคงจะจำเขาได้บ้าง เมื่อเห็นว่าคนข้างๆ เงียบไปพชรกรก็รู้สึกแย่ไปตามกัน ‘ นี่เธอจำเราไม่ได้เลยหรือไงกัน’ พชรกรครุ่นคิดในใจ
‘ อะไรนะ ทะ ทำไมชื่อของเขามันช่างเหมือนกับคนๆนั้นหวังว่าเขาคงจะไม่ใช่คนเดียวกันกับพี่ฮีโร่ของเราหรอกนะ’ หญิงสาวได้แต่ภาวนาในใจ
ขณะนี้ภายในรถเงียบกริบ ทั้งสองคนก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีกเลยต่างคนก็ต่างคิดอะไรภายในใจของตัวเอง
“คุณฮีโร่คะ คุณรู้จักทางกลับบ้านฉันหรือคะ ไม่เห็นคุณถามอะไรฉันเลย”เสียงเล็กเริ่มบทสนทนาเมื่อเห็นว่าพชรกรเงียบไปตั้งนาน แต่หญิงสาวก็ต้องผิดหวัง เพราะไม่มีคำตอบใดเล็ดลอดออกมาจากปากหยักได้รูปของเขาเลย 'คนบ้า ถามก็ไม่ยอมตอบ แล้วเขาจะพาเราไปไหนเนี้ย รึว่า.....’ พชรกรสั่งเกตได้ว่าหญิงสาวที่นั่งข้างๆมีท่าทางแปลกไป ซึ่งเขาก็รู้ดีว่าเธอคงกลัวว่าเขาจะพาเธอไปทำมิดีมิร้าย พชรกรยิ้มเล็กๆพร้อมกับพูดให้เธอรู้สึกสบายใจ “ไม่ต้องกลัวหรอกสาวน้อย ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก และที่ผมไม่ตอบคุณเพราะผมรู้ว่าบ้านของคุณอยู่ที่ไหน และที่สำคัญคุณจะรู้ทุกอย่างหลังจากที่เราถึงบ้านนั้นแล้ว”
‘เขารู้จังบ้านเราได้ไง รึว่า...เขาคือคนเดียวกันกับพี่ฮีโร่ของเราจริงๆ นี่เราไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย’ ใบหน้าแห่งความกลัวบัดนี้ได้แปรเปลี่ยนเป็นใบหน้าแห่งความยินดี ไม่รู้ว่าการพบเจอของคนทั้งสองในครั้งนี้มันเป็นแค่ความบังเอิญหรือเป็นพรหมลิขิตกันแน่ ซึ่งทั้งสองก็หาคำอธิบายไม่ได้เช่นกัน
ความคิดเห็น