คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ความบังเอิญหรือพรหมลิขิต 50%
“เฮ้ย!ไอ้ฮีโร่เป็นไรว่ะเนี้ย ฉันเห็นแก่นั่งยิ้มคนเดียวนานแล้วนะเว้ย” ชานนท์เพื่อนสนิทและเป็นหุ้นส่วนของพชรกรถามขึ้นเมื่อแอบสังเกตว่าเพื่อนรักนั่งยิ้มคนเดียวอยู่นาน
“เปล่า ฉันก็คิดอะไรเรื่อยเปื่อยแหละ”ชายหนุ่มพูดแก่ต่างให้ตัวเองทันที เมื่อรู้ว่าเพื่อนรักแอบจับตาดูเขาอยู่นานแล้ว
“เหรอ ฉันนึกว่าแกกำลังมีความรักสะอีก ”ชานนท์พูดเหมือนรู้ทัน เพราะท่าทางของเพื่อนรักไม่เหมือนกับที่เจ้าตัวพูดสักนิด
“เฮ้ย บ้ารึป่าวแก่ก็รู้ว่าฉันหวงความโสดยิ่งกว่าอะไรสะอีก ไม่มีหรอกเรื่องพวกนี้ไม่เคยอยู่ในหัวสมองฉัน”พชรกรพูดตอบเพื่อนเสียงหนักแน่นแต่กลับแฝงไปด้วยความไม่มั่นใจเท่าไรนัก
“เออ ให้มันแน่นะเว้ยฉันเห็นพูดแบบนี้มาหลายรายแล้ว ไม่ทันข้ามปีก็แต่งงานเป็นเรื่องเป็นราว แถมรักครอบครัวยังกับอะไรดี”ชานนท์พูดแย้งทันที
“ฉันยังไม่อยากมีพันธะน่ะเอาไว้รอแต่งพร้อมแกเลยดีกว่า ”
“ เออ! จำคำแกไว้ให้ดีนะ ถ้าเกิดแกแต่งงานก่อนฉันขึ้นมา ฉันจะล้อแกไปจนลูกแกบวชเลยเลยนะเว้ย”
“เฮ้ย! เลิกพูดเรื่องนี้กันเถอะว่ะ ไปหาอะไรดื่มกันดีกว่าสนุกกว่ากันเยอะ” พชรกรพยายามเปลี่ยนเรื่องคุย เพราะในใจลึกๆแล้วชายหนุ่มก็ไม่ค่อยแน่ใจตัวเองเหมือนกัน
“ก็ดีเหมือนกัน ปะไปกัน ”สองหนุ่มลุกขึ้นแยกย้ายกันไปยังรถของตัวเองแล้วมุ่งไปยังผับประจำเช่นทุกวัน
ไม่นานรถสุดหรูทั้งสองคันก็มาถึง แล้วทั้งสองหนุ่มก็พาเดินเข้าไปในผับพร้อมกันทันที ระหว่างเดินเข้าไปในผับ สาวๆต่างพร้อมใจกันส่งสายตาหยาดเยิ้มมาให้สองหนุ่ม ก็แน่ละสิมีใครบ้างจะไม่รู้จัก คุณพชรกร อัครดำรงเดชลูกชายคนเดียวของคุณวิวัฒน์กับคุณทิพาดา อัครดำรงเดช แถมยังพ่วงตำแหน่งท่านประธานบริษัท H-SEA ผู้ผลิตและส่งออกอาหารทะเลแช่แข็งยักษ์ใหญ่ของประเทศเลยก็ว่าได้แต่นี่ยังไม่รวมบริษัทลูกอีกมากมายทั้งไทยและต่างประเทศ ทั้งหล่อทั้งรวยแถมมีดีกรีป็นหนุ่มนักเรียนนอก และที่สำคัญตอนนี้ชายหนุ่มยังไม่แต่งงานจึงไม่แปลกที่สาวๆมากมายอยากจะแวะเวียนเข้ามาในชีวิตและอยากเป็นคุณนายอัครดำรงเดชกันจนตัวสั่น และอีกคนคือคุณชานนท์ อภิรักษ์รังสรรค์ เพื่อนสนิทที่เป็นถึงรองประธาน ถึงจะหล่อน้อยกว่าแต่ก็มีสาวๆมากมายหลงใหลในรูปร่างน่าตาไม่น้อยกว่ากันเลย
“เอาเหมือนเดิม 2 ที่นะน้อง” พชรกรร้องสั่งพนักงานหลังจากนั่งที่ประจำของตัวเอง แล้วไม่นานวิสกี้ 2แก้วก็วางอยู่ตรงหน้า
“แกเห็นตอนเดินเข้ามารึเปล่าว่ะ ยัยผู้หญิงพวกนั่นจ้องอย่างกับจะกินซะไม่ให้เหลือกระดูกเลยว่ะ เห็นแล้วขนลุก”ชานนท์ทำท่าสยิวจนพชรกรอดที่จะขำไม่ได้
“ก็ช่างเขาสิว่ะ มีผู้หญิงมองก็ดีกว่ามีผู้ชายมองไม่ใช่เหรอ หรือแกคิดที่จะเปลี่ยนรสนิยม?”
“เฮ้ย!จะบ้าเหรอว่ะ เดี๋ยวฟ้าก็ผ่ากันพอดี เปลี่ยนเรื่องๆ”ชานนท์แย้งทันทีเพราะชายหนุ่มหล่ออย่างเขาคงไม่มีทางเปลี่ยนไปชอบชายด้วยกันแน่นอน
“เออ แล้วคุณหญิงแม่แกสบายดีมั้ยว่ะ พักหลังๆนี้ไม่ได้แวะไปเยี่ยมท่านเลย” พชรกรเริ่มเปลี่ยนบทสนทนา
“ก็ดีนะ ยิ่งตอนนี้มีหลานรักมาคอยดูแลยิ่งมีความสุขเข้าไปใหญ่”ชานนท์ตอบ
“หลานรัก! แกหมายถึงใครเหรอ?”
“อ้าว! ฉันยังไม่ได้เล่าให้แกฟังอีกเหรอ ว่ายัยยาหยีลูกของอาฉันเขามาอยู่ด้วย เรียนจบแล้วก็เลยอยากมาทำงาน ฉันก็กำลังหาแผนกที่ว่างในบริษัทเราให้ยาหยีเขาลองทำดูก่อน ตอนนี้โตเป็นสาวแล้วสวยชะมัดเลยล่ะ”
‘ยาหยีเหรอ จริงเหรอเนี่ยเราไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย 15 ปีแล้วนะที่เราไม่ได้เจอกันอีกเลยฉันอยากจะเห็นหน้าเธอจริงๆเลยว่าโตเป็นสาวเต็มตัวแล้วจะสวยสักแค่ไหน’ พชรกรกำลังคิดถึงงยัยเด็กขี้แยของเขา ที่เขาเฝ้าคิดถึงตลอด 15 ปี
“ทำไมเหรอ มีอะไรแกเป็นอะไรหรือเปล่า” ชานนท์ถามเพื่อนรักเพราะสงสัยที่พชรกรเงียบไปตั้งนาน
“เปล่า ไม่มีอะไร เออ ฉันอยากจะเห็นหน้าน้องสาวแกแล้วสิว่ะ ชมไว้ขนาดนี้ถ้าขี้เหร่ฉันเตะแกแน่” พชรกรกล่าวอย่างคาดโทษ
“เออๆ ฉันบอกแกก่อนเลยนะเว้ยว่าห้ามแกจีบน้องฉันเด็ดขาด ถ้าแกยังไม่เลิกเจ้าชู้ แล้วฉันได้ยินข่าวมาว่ายัยแองจี้กับยัยปรายฟ้า อะไรน่ะยังตามตื้อแกไม่เลิกอีกเหรอ สงสัยแกคงรอดยากว่ะเพราะยัยสองตัวนี่มันปลิงตัวแม่เลยนะเว้ย สลัดยาก”
“นี่น้อยๆหน่อยหน้าน้องแก ฉันก็ยังไม่เคยเจอ ฉันอาจจะไม่ชอบก็ได้ แล้วแองจี้กับปรายฟ้าน่ะมันก็เป็นเรื่องธรรมดา ฉันเป็นผู้ชายน่ะเว้ยต้องมีบ้าง ว่าแต่ฉันแกก็เหมือนกันแหละว่ะ เอาตัวเองให้มันรอด”พชรกรแย้งเพื่อนทันที
“ติ้ด..ติ้ด..ติ้ด..”ไม่ทันที่ชานนท์จะพูดอะไรเสียงโทรศัพท์ส่วนตัวของเขาก็ดังขึ้นพอดี เขาจึงปลีกตัวออกมาคุยโทรศัพท์ข้างนอก
“สวัสดีครับแม่ ดึกแล้วทำไมแม่ยังไม่นอนอีกมีอะไรหรือเปล่าครับ”ชานนท์เอ่ยถามผู้ร่วมสนทนาเพราะมารดาไม่เคยโทรหาเขาในยามวิกาลอย่างนี้จึงอดที่จะแปลกใจไม่ได้ เมื่อชานนท์พูดจบปลายสายก็รีบตอบกลับทันที...
“ฮ้า!!!อะไรนะครับแม่ยาหยียังไม่กลับบ้านเลย แถมโทรศัพท์ยังติดต่อไม่ได้ ครับๆยังไงผมจะลองไปตามหาดูแม่ไม่ต้องเป็นห่วง แล้วเขาบอกว่าจะไปไหนครับ......” ชานนท์รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไรนักเพราะน้องสาวของเขาพึ่งจะเข้ามาอย่ในกรุงเทพฯได้ไม่กี่เดือนคงยังไม่ชินอาจจะหลงทางได้ หรืออาจจะเป็นอะไรมากกว่านั้นก็ได้ ชายหนุ่มจึงรีบมาบอกพชรกรให้ทราบเรื่อง
“อะไรนะน้องสาวแกหายตัวไปเหรอ! งั้นเรารีบไปตามหากันเถอะ”ทั้งสองรีบแยกย้ายกันไปตามหาหญิงสาวที่นามว่ายาหยี ตามสถานที่ที่คุณหญิงพรรณวรสได้บอกไว้ ตอนนี้พชรกรรู้สึกใจหายไม่ต่างไปกว่าชานนท์เลย
‘ยาหยี อย่าเป็นอะไรน่ะ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยคุ้มครองเธอด้วย’ พชรกรได้แต่ภาวนาในใจ
ไม่นานรถหรูของพชรกรก็มาถึงยังห้างสรรพสินค้าชื่อดังกลางเมือง ที่ที่หญิงสาวมา แล้วได้หายตัวไป
“บ้าชะมัดเลยว่ะ! รีบจนได้เรื่อง หน้าก็ยังไม่เคยเห็น แล้วจะหาเจอได้ไงเนี่ย”พชรกรสบถเสียงดังเพราะภาพสุดท้ายที่เขาเห็นหญิงสาวก็เมื่อ 15 ปีมาแล้ว มันก็เลือนรางไปตามกาลเวลาแล้ว “ยังไงก็ลองหาก่อนดีกว่า”ทั้งพชรกรและชานนท์ต่างพากันตามหายาหยีอย่างไม่ลดละ ต่างฝ่ายต่างโทรเช็กกันเป็นระยะๆจนในที่สุดก็มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นต่อหน้าของพชรกร
ความคิดเห็น