ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Size of My Love ขนาดรักวัดใจยัยไอเซอร์

    ลำดับตอนที่ #1 : “ Start.” การเริ่มต้น

    • อัปเดตล่าสุด 4 ก.ย. 56


     

    Section 1

     

              ขอโคลา เลมอน อันนึงค่ะ ^_^ ” หลังจากที่ฉันโหยหามานาน ในที่สุดฉันก็พบมันเสียที รถไอศกรีมสีแดง คันที่ฉันชื่นชอบและไอศกรีมแบบที่ฉันรอคอย มันจะต้องอร่อยเหมือนเดิมสิ เหมือนเมื่อสิบปีที่แล้วยังไงล่ะ ในวันที่ฉันกินไอศกรีมแบบนี้เป็นครั้งแรก

              เฮ้ ! ซื้อเผื่อผมอันนึงสิ พี่ไอ -o- ” เสียงแหบห้าวของเด็กหนุ่มข้างในบ้านดังลอดออกมา ไม่ไหวเลยจริงๆ จะไปไหนก็เหมือนมีลูกติด กินโน่นกินนี่เหมือนฉันไม่มีผิดเพี้ยนเลยสินะเจ้านี่ ฉันส่ายหน้าเบาๆก่อนจะซื้อไอศครีมเพิ่มอีกสองอัน อันนึงสำหรับอังกอร์ น้องชายคนรองและอีกอันสำหรับเอสจี้ น้องสาวคนเล็ก ลูกคนสุดท้องที่ดูยังไงก็น่ารักกว่าพี่สาวและพี่ชายเป็นไหนๆ

              พี่ไอ ! ^o^ ” นั่นไง โผล่มาถึงที่เพื่อไอศกรีมจริงๆ เฮ้อ

              เอ้านี่ ! อีกอันของเอส พ่อเสือคงไม่แย่งนะจ้ะ ^+++^ ” ฉันยิ้มยิงฟันให้น้องชาย อังกอร์รับไอศกรีมไป ก่อนจะพยักหน้าน้อยๆ แล้วรีบแกะกินมันอย่างไม่รอช้า อังกอร์เอ๋ย.. จะกลัวไอติมละลายไปถึงไหนกันนะ ฮะๆ แต่ก็ตลกดี ฉันแอบมองน้องชายตัวเองกินจนเพลิน เพราะอะไรถึงทำให้ฉันต้องแอบมองน่ะเหรอ ก็มัน..ตลกนี่นา ท่ากินที่ไม่สนใจใครแบบนั้นมันไม่เข้ากับอายุของเขาในตอนนี้เลยสักนิด

              เอาล่ะเด็กๆ พรุ่งนี้เราจะไปซื้อข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับเปิดเทอมใหม่นี้ และจะไม่มีข้อต่อรองใดๆทั้งนั้น แม้แต่พ่อก็ตามนะ เข้าใจหรือเปล่า ? - - ” แม่พูดเสียงราบเรียบแต่ก็แฝงไปด้วยอำนาจที่มองไม่เห็น ที่แม่ดักคอพ่อไว้น่ะเหรอ ไม่ใช่อะไรหรอก พ่อรักการทำงาน อย่างกับคนเป็นโรค Workaholic ประเภทนั้นล่ะ หลายครั้งแล้วที่พ่อไปซื้อของกับพวกเราไม่ได้ เพราะติดงาน ครั้งนี้แม่เลยต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด

              “ … ” ฉันนั่งลงข้างๆเอสจี้ ซึ่งตอนนี้เธอตั้งใจกินข้าวและเหมือนกับว่าเธอจะนับครั้งในการเคี้ยวข้าวเลยด้วยซ้ำ เคี้ยวช้าๆหลายๆครั้งก่อนที่จะกลืน นั่นเป็นวิถีของเธอเลย ไม่รู้ว่าจะเป็นแบบที่อ่านเจอในหนังสือหรือเปล่าน่ะนะ การเคี้ยวข้าวหลายๆครั้ง ยิ่งมากครั้งเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เรามีสมาธิและมีสมองเฉียบแหลมมากเท่านั้น จะว่าไปมันก็เป็นไปได้มากทีเดียว เพราะเอสจี้เรียนดี ถือได้ว่าเป็นคนเรียนเก่งคนนึงของชั้นเรียนเลยก็ว่าได้ ขนาดฉันที่เป็นพี่สาวยังแพ้เลย เรียนมาตั้งหลายปีแล้ว จนถึงปีนี้เป็นการเรียนในปีสุดท้ายของฉัน ฉันยังไม่เคยสอบได้ที่หนึ่งเลยสักครั้งและไม่เคยถูกเรียกว่าคนเก่งเลยสักหน

              กอกๆ แกกๆ

              แม่บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเคาะจานแบบนั้นไง อังกอร์ - - ^” แม่บ่นเบาๆ แต่ก็ทำให้น้องชายฉันหยุดการกระทำนั้นได้โดยปริยาย เขาได้รับหน้าที่ให้เป็นคนตักข้าวใส่จานให้ทุกคน แต่ตอนนี้เขามาอยู่ตรงที่จานของฉันแล้วเขาเป็นประเภทชอบเคาะ ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกันคงจะติดนิสัยไปซะแล้ว ในขณะเดียวกันแม่ก็เกลียดการเคาะแบบนี้เป็นที่สุด ฉันที่นั่งรอน้องชายตักข้าวให้เลยได้แต่ตบบ่าเบาๆเป็นการให้กำลังใจและส่งยิ้มให้บางๆ

              เอสอิ่มแล้ว เอสขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ ^^ ” เอสจี้ค่อยๆลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินไปที่อ่างล้างจาน เธอจัดการล้างจานทุกใบที่มีคนเอาไปแช่ไว้เพื่อรอล้างตรงนั้น อ๊ะ.. เดี๋ยวก่อนสิ ฉันซื้อไอศกรีมมาฝากน้องสาวนี่นา เธอจะต้องได้กินสิ ฉันจะต้องไม่ลืมบอกน้อง

              โคลา เลมอน ในตู้เย็นช่องฟรีซ ไปเอามากินสิเอส พี่ซื้อมาฝากแน่ะ ^^ ” ฉันพูดขึ้นในขณะที่เห็นน้องสาวล้างจานเสร็จพอดี เธอหันมายิ้มให้ก่อนจะเดินไปที่ตู้เย็น

              แม่ฮะ เข็มขัดผมมันเปื่อยแล้ว ขอซื้อเข็มขัดเส้นใหม่ได้ไหม ? ^-^ ” อังกอร์พูดขึ้นเมื่อกำลังตักแกงเผ็ดราดข้าว ว้าว.. กับข้าววันนี้น่ากินจังเลย มีแต่ของโปรดของฉัน *0*

              ได้สิ เส้นนั้นใช้มานานแล้ว สมควรเปลี่ยนแล้วล่ะแม่กินข้าวไปเรื่อยๆ วันนี้ถือได้ว่าพวกเรากินข้าวกันช้ามาก ปรกติแล้วพ่อกับเอสจี้จะกินข้าวช้าที่สุด แต่วันนี้ทั้งสองคนกลับกินเสร็จก่อน น่าแปลกจริงๆ

              พ่อ เดี๋ยวถ้าอ่านหนังสือพิมพ์เสร็จ ไอขออ่านต่อนะคะฉันเอาหนังสือพิมพ์ที่พ่ออ่านลงแล้วยิ้มตาวาวใส่พ่อ ทำเอาพ่อหัวเราะไปพักนึง

              เข้าใจแล้ว แล้วเรากินข้าวกินปลา อิ่มหรือยังน่ะลูก ไอ พ่อย้อนถามกลับมาพลางยกหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่านต่อ เสียงของพ่อเจือไปด้วยอารมณ์ร่าเริง พ่อของฉันมักจะเป็นแบบนี้ แม้จะทำงานหนักแค่ไหน แต่ก็จะอารมณ์ดีอยู่เสมอ ก็ดีแล้วล่ะ จะได้ไม่เครียด ฉันยิ่งไม่ชอบให้ใครๆเครียดอยู่น่ะ มันดูเหมือนโลกนี้มืดมน

              อิ่มแล้วค่ะ ให้อังกอร์เก็บจานไปล้างอยู่ค่ะฉันทำหน้ายิ้มเจ้าเล่ห์ใส่พ่อ ที่ทำหน้าแบบนี้ใส่ก็ไม่ใช่อะไร เพราะวันนี้เกิดอารมณ์ขี้เกียจล้างจานขึ้นมา ก็เลยใช้แรงงานเด็ก(น้องชาย)ไปก่อน อังกอร์ไม่ว่าอะไรหรอก น้องชายฉัน เรียบร้อยกว่าใครอื่นจริงๆน่ะแหละ ขอบอก

              ใช้แรงงานเด็กอีกแล้วล่ะสิเราพ่อแซวเล่นน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ แหมรู้ใจดีจริงๆ พ่อฉันเนี่ย แต่ฉันก็คงต้องยอมรับ เพราะฉันคิดแบบนั้นจริงๆนี่นา เนาะ.. ถึงมันจะไม่บ่อยก็เถอะนะ

              จุ๊ จุ๊ ไม่ใช่หรอกค่ะ แค่วันนี้หนูไม่ค่อยอยากล้างจานเท่าไหร่น่ะค่ะ ไปอาบน้ำก่อนนะคะฉันตอบพ่อไปแล้วก็รีบเดินขึ้นบันไดมาเพื่อรอใช้ห้องน้ำต่อจากเอสจี้

              “ …. ” ประมาณห้านาทีหลังจากที่ฉันมารอหน้าห้องน้ำ เอสจี้ก็เปิดประตูออกมายิ้มแฉ่งให้ฉันก่อนจะเดินเข้าห้องนอนไป ฉันเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างงงๆ แต่ก็ไม่นึกสงสัยอะไร ก่อนจะลงมืออาบน้ำอาบท่า ฮ้า.. น้ำเย็นดีจังเลย สดชื่นชะมัด

              ไอ้วาโน ฉันบอกแกกี่ครั้งแล้ววะ ว่าอย่าทำแบบนี้ เมื่อไหร่แกจะเชื่อฉันเสียงเอะอะโวยวายเบาๆของอังกอร์ดังลอดผ่านเข้ามา ซึ่งทำให้ฉันที่กำลังอาบน้ำอยู่ได้ยืนเข้าโดยบังเอิญ

              ก็ฉันคิดว่า แข่งคราวนี้ฉันจะชนะ เลยท้าพนันไป แต่ฉันก็แพ้ นี่ฉันผิดเหรอวะเสียงของวาโนเพื่อนสนิทของอังกอร์ดังลอดผ่านออกมาจากโทรศัพท์ เอพวกนี้ไปแข่งอะไรกันนะ ชักอยากรู้แล้วสิ ดูท่าทางอังกอร์จะเป็นเดือดเป็นร้อนไม่เบาเลยนะ

              แกจะไม่ผิดนะ ถ้าไม่ท้าพนันว่าถ้าแกแพ้จะยอมให้พวกมันซ้อมแกน่ะอังกอร์เริ่มมีน้ำเสียงร้อนรน

              ฉันแค่คนเดียว พวกแกไม่ต้องห่วงหรอก ฉันไหวน่า วาโนมีน้ำเสียงร่าเริงและถือดีหน่อยๆ นั่นคงยั่วโมโหอังกอร์มากกว่าที่จะทำให้อังกอร์คลายความเป็นห่วง

              คราวที่แล้ว แกก็บอกว่าไหว เสียรถไปตั้งคันนึงนั่นน่ะนะหา !? เสียรถไปคันนึงเลยเหรอ นี่พนันอะไรกันน่ะ ฉันที่แอบฟังอยู่นานจึงตัดสินใจว่าจะรีบอาบน้ำให้เสร็จแล้วก็ถามน้องชายเกี่ยวกับเรื่องนี้ เผื่อว่าอังกอร์จะมีคำอธิบายดีๆชี้แจงให้ฉันฟัง

              ก็มันตู้ด ตู้ด ตู้ดเสียงสายถูกตัดไป ไหงงั้นล่ะ วาโน เป็นเพื่อนของอังกอร์ เขาสองคนสนิทกัน นั่นฉันรู้ดี และที่สำคัญพวกเราก็ยังเป็นญาติกันอีกต่างหาก เรื่องนี้คงทำให้ฉันเมินเฉยไม่ได้แล้วล่ะ ที่ผ่านมา ฉันก็รู้อยู่บ้างว่าพวกเขาชอบท้าทายคนอื่นและก็พนันอะไรแปลกๆ ยกเว้น อังกอร์ เพราะน้องชายฉันไม่กล้าที่จะเสี่ยงพนันอะไรกับใครและอีกอย่างเขาก็ไม่เก่งที่จะเล่นการพนันอีกด้วย

              แอดด..

              พี่ไออังกอร์ปรับน้ำเสียงราบเรียบตามปรกติ ฉันยิ้มให้น้องชายน้อยๆ ลูบหัวเขาเบาๆ

              พี่ไม่ได้ตั้งใจแอบฟัง แต่เราจะมีหนทางไหนช่วยเหลือวาโนได้บ้างล่ะ ช่วยกันคิดดีไหมฉันพาอังกอร์ไปนั่งโซฟา เขามีสีหน้าท่าทางเป็นปรกติ ไม่มีอะไรที่แปลกใจเลย แม้เมื่อกี้จะร้อนรนนักหนาก็ตาม

              ผมว่างานนี้พวกมันเล่นไม่เลี้ยงแน่ๆ เพราะไอ้โนไปท้าทายพวกมันบ่อยมากอังกอร์ถอนหายใจ สีหน้าเป็นห่วงเป็นใยเพื่อนสนิท ฉันก็เข้าใจอยู่หรอกนะ งานนี้ คนที่จะช่วยวาโนได้ก็คงมีแต่แฟนของวัฟเฟิลซึ่งเป็นพี่สาวแท้ๆของวาโนเท่านั้น

              งั้น.. พี่จะลองโทรหาวัฟเฟิลดูและเผื่อว่าเอ็มเจจะช่วยเหลืออะไรได้บ้างฉันหยิบมือถือขึ้นมาก่อนจะกดโทรออก วัฟเฟิลจะรับสายไหมนะ เฮ้อน้องชายตกอยู่ในอันตรายแท้ๆ

              ( ฮัลโหล ว่าไงไอ ) เสียงร่าเริงของวัฟเฟิลดังมาจากปลายสาย

              วาโนกำลังตกอยู่ในอันตรายนะ วัฟเฟิลฉันพูดเสียงเบาเพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายตกใจ วัฟเฟิลที่เมื่อสักครู่พูดด้วยเสียงร่าเริงตอนนี้กลับมีน้ำเสียงที่เจือไปด้วยความเป็นห่วง

              ( โนเหรอ.. โนทำไม บอกฉันมาไอ )

              “ …. ” ทันใดนั้นมือถือก็ฉันก็ไม่อยู่ในมือของฉันอีกแล้ว เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะว่าอังกอร์แย่งไปไว้ในครอบครองน่ะสิ เขารีบแนบหูแล้วเริ่มกรอกเสียงร้อนรนลงไป

              ไอ้โน มันไปท้ากลุ่มของลูกนายกฯ ว่าถ้าพวกนั้นชนะพนันมันจะให้อัดน่ะสิพี่

              ( แล้ว)

              ก็แล้วที่ผมโทรมา มันไม่ใช่อะไรหรอก ผมได้ยินพี่ไอพูดว่า บางทีพี่เอ็มเจอาจจะช่วยอะไรได้ใช่แล้วเอ็มเจเป็นแฟนหนุ่มของวัฟเฟิล เขาเป็นลูกของนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ มียศชั้นนายพลเลยทีเดียว และอีกอย่าง เขารักวัฟเฟิลและวาโนมาก แถมยังดูแลได้ดีมากจริงๆ ฉันเห็นเขาที่หล่อและเพอร์เฟ็กต์แบบนั้นได้เป็นแฟนกับวัฟเฟิล ก็ทำให้ฉันอิจฉาบ้าง แต่ก็ไม่มากนักหรอกเพราะยังไงวัฟเฟิลก็ญาติของฉันและเราก็เป็นเพื่อนสนิทกัน การคิดไม่ดีต่อกัน มันเป็นเรื่องที่แย่มากน่ะนะในความคิดของฉัน

              เอ็มเจเหรอ อ่า.. เอ็มเจ คุณจะช่วยมาทางนี้ก่อนได้ไหมคะวัฟเฟิลพูดเบาๆ

              ( ว่าไงครับวัฟฟี่ ) เสียงสุภาพของเอ็มเจดังลอดออกมาเบาพอๆกับเสียงวัฟเฟิล

              วาโนมีเรื่องกับลูกนายกค่ะ ทำยังไงดี

              ( ใครบอกคุณ หือม์ ? ) เอ็มเจถามอย่างอยากรู้

              นี่ค่ะ

              ( ฮัลโหล นั่นใครครับ ? ) เอ็มเจกรอกเสียงผ่านโทรศัพท์มาอย่างสุภาพ

              ผมอังกอร์นะครับพี่เอ็มเจ คือวาโนมันไปท้าลูกนายกฯเอาไว้ ตอนนี้พวกนั้นจะซ้อมมัน ผมคิดว่าไม่น่าจะเกินวันนี้อังกอร์ไม่ยืนนิ่ง เขามีท่าทีกระสับกระส่าย ฉันล่ะสงสารเด็กคนนี้จริงๆ ชอบที่จะเป็นห่วงเพื่อน แต่ก็ดูเหมือนในบางครั้งเขาจะไม่เป็นห่วงตัวเองเอาซะเลย

              ( อ่อ อังกอร์.. แล้วนี่นายรู้มั้ยว่าพวกนั้นนัดวาโนไปที่ไหน ? ) เอ็มเจถามกลับมาทำให้อังกอร์รีบตอบ

              ที่.. ที่.. ถ้าผมจำไม่ผิดน่าจะหลังคอนโดมันครับ

              ( อ่า งั้นเหรอ.. ที่รักครับ คอนโดของวาโนอยู่ที่เดิมใช่ไหม ? ) เอ็มเจส่งเสียงถามวัฟเฟิลเบาๆ และมีเสียงเล็กๆตอบกลับมาว่าใช่

              พี่ต้องช่วยมันนะครับ พี่เอ็มเจอังกอร์ยังไม่วายเป็นห่วงเพื่อนรัก

              ( ได้สิ แล้วนาย) เอ็มเจพูดยังไม่ทันจบอังกอร์รีบตอบกลับทันที เหมือนกับจะอ่านความคิดของอีกคนได้ ฉันล่ะเหลือเชื่อกับการคุยโทรศัพท์ของน้องชายจริงๆ

              ผมจะไปด้วยครับเฮ้อการถอนหายใจครั้งที่สิบของวัน น้องชายฉัน เอาอีกแล้วสิน่า รักบทพระเอกขี่ม้าขาวจริงๆเลยเชียว เจ้าอังกอร์

              ( โอเค เจอกันหน้าคอนโดวาโนนะ อีก 15 นาที พี่จะพาเพื่อนไปด้วย แค่นี้นะ ) สายตัดไป อังกอร์มือสั่นเล็กน้อย เขายื่นมือถือส่งคืนมันมาให้ฉัน ก่อนจะเดินกลับเข้าห้องนอน

              พี่ไอ มีเรื่องอะไรเหรอคะเอสจี้ถามเสียงอยากรู้ ฉันยิ้มบางแล้วส่ายหน้า เพื่อไม่ให้น้องสาวต้องสนใจเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้ เดี๋ยวจะพากันเครียดไปอีกคน

              เดี๋ยวพี่จะออกไปข้างนอกกับอังกอร์ เอสอยู่ในบ้านนะ บอกพ่อกับแม่ว่าพี่จะไปหาวัฟเฟิล พอดีมีธุระน่ะจ้ะฉันรีบคิดหาเหตุผลลวกๆ ก่อนจะส่งยิ้มให้น้องสาว พี่คงต้องฝากหน้าที่นี้ไว้กับเอสแล้วล่ะ เพราะอังกอร์ดูไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่ น่าเป็นห่วงชะมัด

              ได้ค่ะ ไปหาพี่วัฟเฟิลนะคะเอสจี้ทวนคำบอกเล่าของฉันก่อนจะยิ้มให้แล้วกลับเข้าห้องนอนไป

              อังกอร์ ไปอาบน้ำสิ เดี๋ยวจะชักช้านะฉันเตือนน้องชายเบาๆ เขาพยักหน้าแล้วเดินถือผ้าเช็ดตัวออกจากห้องนอนมา

              พี่ไอจะไปด้วยเหรอ มันไม่ปลอดภัยนะ อยู่บ้านเถอะอังกอร์อ้อนเบาๆ ฉันยิ้มแล้วหยิกแก้มพลางส่ายหน้าไปมาอย่างไม่ยอมอ่อนข้อให้

              น้องชายพี่จะไปช่วยเพื่อนนะ แถมไปคนเดียวไม่ปลอดภัย พี่เลยจะขอตามไปดูด้วยไง เผื่อช่วยอะไรได้อังกอร์ไม่ว่าอะไรหลังจากที่ฟังฉันพูดจบ เขาพยักหน้าแล้วก็รีบเข้าไปอาบน้ำอย่างรีบเร่งทันที ฉันนั่งรอเขาไม่ถึงสิบนาที เขาก็แต่งตัวเรียบร้อยพร้อมออกเดินทาง แต่นี่ก็ใกล้เวลานัดของเอ็มเจแล้ว เรายังอยู่ที่บ้านเห็นทีจะต้องรีบหน่อยแล้วล่ะนะ

              รีบไปกันเถอะ ป่ะฉันกับอังกอร์รีบเร่งเดินทางในทันทีทันใด โดยที่ไม่รู้ว่า..เอสจี้เปิดประตูออกมาจากห้องนอนแล้วก็ร้องเรียกเอาไว้

              พี่ไอ มีคนอยาก… ”

     

    # คอนโดมิเนียม xxx

              เฮ้ย ! เอาตัวมันมาเสียงแหบห้าวของเด็กหนุ่มอายุใกล้เคียงกับวาโนดังขึ้นที่หน้าคอนโด เด็กหนุ่มคนนั้นอยู่ในมาดนักเลงโต แต่ใบหน้าที่ใสกิ๊กไร้สิว เนียน ขาวผ่องนั่นทำให้เขาดูเหมือนกับดาราเกาหลีมากกว่าเป็นเจ้าพ่ออันธพาล

              ครับ !!! ” ลูกน้องหรือลิ่วล้อของเขาประมาณห้าคน รับคำอย่างเร่งรีบ เด็กหนุ่มพวกนั้นดูจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับตัวของเขาเอง แล้วในเวลาไม่นานนัก.. เขาก็เดินมารอรับงานที่เขาสั่งให้ลูกน้องของเขาทำที่หลังคอนโด

              มาแล้วครับ ลูกพี่เด็กหนุ่มตัวโตคนหนึ่งพูดขึ้นพลางโยนร่างของเด็กหนุ่มอีกคนลงบนพื้นที่ดูจะแข็งกร้าว แค่ดูก็รู้ว่าที่ตัวของเขากระแทกลงไปนั้น เขาจะต้องได้รับบาดเจ็บอย่างแน่นอน ถ้าไม่เช่นนั้นเขาก็คงจะเป็นเทวดาเป็นแน่ หากไม่บาดเจ็บอะไรเลย

              ไง ไอ้โนเด็กหนุ่มคนแรกแสยะยิ้มให้เด็กหนุ่มคนที่เพิ่งมาใหม่ วาโนนั่นเอง เขามองหน้า เชพแล้วยิ้มให้บางๆ

              ก็ไม่ไง ไอ้เชพ จะเริ่มได้รึยังวะวาโนพูดอย่างถือดี ทำให้เชพซึ่งก็คือเด็กหนุ่มอันธพาลคนนั้นยิ้มมุมปากอย่างพอใจ เขาเป็นถึงลูกนายกฯ ใครหน้าไหนก็ปฏิเสธไม่ได้ทั้งนั้น ถ้าเขาจะทำอะไร

              อั้ก ! ” ดอกแรกที่วาโนโดนกระทำคือเตะเข้าที่กลางลำตัว แต่เขาก็ยังยิ้มอยู่ดี เพราะไม่ใช่เพียงแต่เขาเป็นคนอารมณ์ดีและเป็นเพราะเขารู้ว่าเป็นตัวเขาเองที่ท้าทายพวกของเชพ หลังจากนั้นเขาก็พร้อมยอมรับชะตากรรมของตัวเอง นี่ล่ะนะ พระเจ้ามีจริง ใครทำอะไรไว้ก็ได้อย่างนั้น เฮ้อวาโนถอนหายใจเบาๆก่อนจะหลับตารอการกระทำต่อไป ซึ่งเขาคิดเอาไว้แล้วว่าเชพจะต้องกระทำกับเขาอย่างอุกอาจแน่นอน

     

    # อีกด้านนึง

              อยู่ตรงนี้ก่อนดีไหม ?เอ็มเจพูดขึ้นเมื่อเห็นพวกเรามากันครบทุกคนแล้ว

              เชพมันทำไมทำแบบนี้นะ ก็นึกว่าแค่เล่นพนันกันเฉยๆ นี่จะเล่นกันจนเจ็บสาหัสแบบนี้ ฉันไม่ยอมให้มันทำหรอกชายหนุ่มคนข้างตัวของเอ็มเจพูดขึ้น

              แกก็ใจเย็นๆเอาไว้ก่อน นายเชพอาจจะไม่ทำอะไรรุนแรงเกินไปเอ็มเจพูดอย่างใช้เหตุผลตบบ่าชายหนุ่มคนนั้นเบาๆ

              พี่เอ็มเจต้องช่วยไอ้โนนะครับ ผมขอล่ะอังกอร์พูดอย่างร้อนรน ทำให้ฉันต้องส่ายหน้า ลูบหัวน้องชายเบาๆ

              เรื่องแค่นี้เอง เดี๋ยวเอ็มเจก็คงจัดการได้แหละน่า เชื่อพี่นะ อังกอร์ ฉันพูดปลอบใจน้องชาย ยิ้มให้เขาบางๆ ดูเหมือนเขาจะใจชื้นขึ้นมาบ้าง

              แล้วนี่วัฟเฟิลไม่มาด้วยเหรอเอ็มเจ ?ฉันหันไปถามเอ็มเจบ้าง เขายักไหล่น้อยๆ

              วัฟฟี่เป็นคนขี้ตกใจ ช่วยไม่ได้ ก็เลยต้องให้รออยู่ที่บ้านเขาตอบยิ้มๆพลางหันกลับไปดูเหตุการณ์ต่อ และแล้วเมื่อนายเชพอะไรนั่น กำลังชักดาบออกมาจากฝัก ก็ทำให้

              ไอ้เชพ !!!!!!!!!!!!!!!!! ” เสียงของคนที่อยู่ข้างเอ็มเจเมื่อกี้ ตะโกนสุดเสียงจนคนที่ชื่อเชพหันมาทำหน้าเหวอๆ ก่อนจะเก็บดาบเข้าฝักเหมือนเดิม นายคนที่ตะโกนเดินรี่ๆเข้าไปหานายเชพก่อนจะต่อว่า

              แกคิดยังไงทำแบบนี้วะ แกไม่กลัวพ่อไอ้เอ็มเจมันจะจับแกเข้าคุกหรือไงทันทีที่นายนั่นพูดจบประโยค หน้าของนายเชพนั่นก็ซีดเซียวลงทันตาเห็น ฉันแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเองเลย นายคนนี้มีอิทธิพลอะไรกับนายเชพนะ

              เอ็มเจ เพื่อนนายคนนี้นี่ใครหรอ ?ฉันถามเบาๆ แต่เหมือนว่าเอ็มเจจะไม่ได้ยินเพราะเอาแต่ตั้งใจฟังคำพูดที่นายคนนั้นพูดกับนายเชพ

              พี่คนนั้นน่ะหรอ ? อ่า… ” อังกอร์พยายามนึกให้ออก

              อะไรกัน เมื่อกี้เธอถามฉันว่าไงนะ ไอเซอร์เอ็มเจหันมาเพื่อขอให้ฉันทวนคำถามใหม่อีกครั้ง

              เพื่อนนายคนนั้นน่ะ ที่คุยกับนายเชพนั่นใครเหรอ ?ฉันเลิกคิ้วเป็นเชิงถามด้วย คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกซักที นายคนนี้หน้าตาคุ้นๆยังไงชอบกลนะ

              อ๋อ ไอ้หนาดน่ะหรอ ? คนนั้นที่เธอถามอ่ะ คือไอ้หนาด เพื่อนฉันเอง เอ็มเจตอบยิ้มๆก่อนจะเริ่มเดินไปช่วยนายคนที่ชื่อหนาดนั่นเคลียร์กับนายเชพ ดูท่าทีแล้ว นายเชพจะดูหงอยๆไปเลยแฮะ เอ็มเจกับนายหนาดมีอิทธิพลอะไรกับนายเชพนั่นนะ

              พี่ไอ เราไปกันเถอะอังกอร์ลากๆดึงๆฉันไป ฉันเกือบจะสะดุดล้มเพราะน้องชายของฉันตัวสูง ทำให้เขาก้าวเท้ายาวและเดินเร็วกว่าฉันมากเลย ฉันแทบจะวิ่งตาม พอถึงที่นั่น เราสองคนก็เข้าไปช่วยวาโนทันที

              ไอ้โน !!!!! ” อังกอร์ตะโกนใหญ่ก่อนจะปล่อยมือฉันแล้วรีบเข้าไปช่วยพยุงวาโนให้ยืนขึ้น

              อะ ไอ้เสือพูดได้แค่นั้น วาโนก็หมดสติคอพับกับแขนของอังกอร์ไปเลย น่าสงสารจริงๆ ไม่น่าเอาตัวเองมาเสี่ยงกับเรื่องแบบนี้เลยนะ วาโน ฉันได้แต่คิดในใจเท่านั้น เพราะการสนทนาของนายหนาดนั่นกับนายเชพดูท่าทางจะร้อนแรงขึ้นทุกที

              ทำแบบนี้พ่อแม่จะว่ายังไง แม่ไม่ชอบให้แกมาทำแบบนี้นี่ เชพนายหนาดยังคงตะโกนใส่หน้านายเชพอย่างไม่สนใจใยดีว่าใครจะว่าอะไรเขาไหม ฉันพลอยสะดุ้งไปตามเสียงของเขาที่แหบห้าวและแข็งกร้าวทุกครั้งที่พูดออกมา

              ไอ้หนาด แกใจเย็นๆก่อนสิวะเอ็มเจตบบ่าเพื่อนของเขาเพื่อพยายามทำให้นายหนาดนั่นไม่ดราม่าไปมากกว่านี้

              ไม่เย็นแล้ว ฉันเห็นแกทำแบบนี้บ่อยเกินไปแล้วนะเชพ แกไม่เบื่อบ้างเหรอวะนายหนาดจ้องหน้านายเชพเขม็ง ทำให้นายเชพทำได้แค่ก้มมองปลายเท้าตัวเอง เหมือนจะมีอะไรที่น่าสนใจอยู่ตรงนั้น แต่ฉันก็รู้น่ะแหละว่าเขาจะต้องกลัวนายหนาดแน่ๆ

              ผมขอโทษครับผมจะไม่ทำอีกแล้วก็ได้ อย่าบอกแม่นะเอ๊ะ ! ทำไมต้องห้ามนายหนาดนั่นไม่ให้บอกแม่ล่ะ ? ฉันชักจะสงสัยแล้วสิ

              ก็ได้ จำคำของแกไว้นะเชพ นายหนาดชี้หน้านายเชพก่อนจะลากนายเชพหายลับตาไป เอ็มเจยักไหล่น้อยๆทำหน้าประมาณว่า จบซักที ก่อนที่พวกเราทุกคนจะเดินทางกลับบ้านแล้วพาวาโนกลับไปหาวัฟเฟิลที่กำลังนั่งกังวลเป็นห่วงน้องชายตัวเอง
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×