ตอนที่ 5 : Chapter 3
Chapter 3
แสงแดดที่ลอดผ่านผ้าม่านเข้ามาในห้องทำให้ดวงตาที่ปิดสนิทค่อยๆลืมขึ้นอย่างเหนื่อยล้า ร่างเล็กที่มุดตัวอยู่ในผ้าห่มบิดตัวหันมองนาฬิกาหัวเตียง กันค่อยๆลุกขึ้นด้วยความรู้สึกที่ยังนอนไม่เต็มอิ่ม อาการปวดเมื่อยตามเนื้อตัวและมึนหัวจนรู้สึกอยากจะอาเจียนทำให้เขาต้องล้มตัวลงกับที่นอนอย่างฉับพลัน มือเล็กยกขึ้นแตะที่หน้าผากของตัวเองก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อพบว่ามันร้อนกว่าที่คิด
แม้ว่าอยากจะนอนต่อแต่เข็มบนนาฬิกาที่เกือบจะแตะเที่ยงวันก็ทำให้เขาต้องฝืนตัวลุกขึ้นอีกครั้ง กันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ข้อความที่ส่งเข้ามาเรียกสติจากอาการเพิ่งตื่นของเขาได้มากทีเดียว
กันมองรูปโปรไฟล์ของคนที่ส่งข้อความเข้ามาหาเขาในแอพไลน์อย่างสงสัยก่อนจะนึกในใจ
รูปตัวฮิปโปอะไรเนี่ย....
กันลังเลเล็กน้อยเมื่อมองไปยังรูปตัวการ์ตูนฮิปโปโปเตมัสสีขาวที่เขาไม่รู้จัก และชื่อของเจ้าของโปรโฟล์ก็ยังเป็นชื่อที่เขาไม่คุ้นตาเอาเสียเลย กันกลัวว่าจะเป็นใครบางคนที่เขาไม่อยากคุยด้วย แต่ด้วยความสงสัยที่มีมากกว่าความกังวล ในที่สุดเขาก็เปิดอ่านข้อความนั้น และเมื่อได้รู้ว่าคนที่ส่งเป็นใคร รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาทันที
[ น้องกัน พี่ออฟเองนะ
ขอเบอร์มาจากไอ้เต แล้วไลน์มันขึ้นเลยแอดมา
อย่าเพิ่งบล็อกนะ
เห็นไอ้เตบอกวันนี้จะมาหาพี่เหรอ เย็นๆได้ไหม พี่ว่างช่วงนั้นพอดี
เดี๋ยวพาไปเลี้ยงข้าว ]
“ นึกว่าใคร... ” กันอ่านข้อความแล้วพึมพำกับตัวเองเบาๆ
ร่างเล็กล้มตัวลงนอนบนเตียงแล้วแตะหน้าจอพิมพ์ตอบกลับไป
[ ครับ
ไม่กล้าบล็อกเลย
ดีนะที่ผมเปิดอ่าน 5555
แต่ถ้าพี่ไม่ว่างก็ไม่เป็นไรนะครับ ผมไปวันอื่นก็ได้ ]
กันพิมพ์กลับไปด้วยความไม่อยากรบกวนถึงแม้ในใจจะอยากไปคุยให้รู้เรื่องในวันนี้เลยก็ตาม ที่จริงเขากะจะขอเบอร์จากเตแล้วโทรไปขอนัดออฟเอง นึกไม่ถึงว่าเตจะไปบอกออฟก่อน เห็นเมื่อวานทำทีท่าเหมือนจะคัดค้าน พี่เตนี่ตกลงยังไงกันแน่นะ กันนึกสงสัย
แล้วพี่ออฟเป็นคนขอเบอร์เขาก่อนเหรอ หรือว่าพี่เตให้เอง กันยิ่งสงสัยหนัก
เสียงท้องร้องดังแข่งกับความง่วง เขาลุกขึ้นนั่งพร้อมอาการปวดหัวที่เพิ่มมากขึ้นกว่าตอนเพิ่งตื่น ดูท่าเขาคงจะป่วยเอาซะแล้ว
เสียงข้อความตอบกลับดังขึ้น
กันหยิบขึ้นมาดู พี่ออฟตอบกลับมาไวกว่าที่เขาคิดไว้มาก กันเปิดอ่าน
[ พี่ว่าง มาหาเถอะ
กำลังหาคนไปกินข้าวด้วยอยู่พอดี
พี่เสร็จงานตอนห้าโมง
หรือให้ไปหาไหม อยู่ห้องเตใช่ป่าว ]
กันขมวดคิ้ว
ในใจเริ่มนึกไปถึงสิ่งที่เตกังวล จะมาหาเขาที่ห้องเลยเหรอ ที่จริงแต่ก่อนกันกับออฟก็ไม่ได้ถึงกับสนิทกันมากเท่าไหร่ แค่เคยคุยกันบ้างตามประสาเพื่อนพี่ชาย มีแต่กันมากกว่าที่แอบสนใจออฟอยู่ฝ่ายเดียว แล้วยิ่งไม่ได้เจอกันตั้งหลายปี การตอบกลับข้อความมาแบบนี้เลยทำให้กันอ่านแล้วเริ่มรู้สึกแปลกๆ
ถ้าเป็นแต่ก่อนเขาคงเขินจนตัวบิดไปแล้ว แต่ตอนนี้ความรู้สึกที่เขามีต่อออฟมันเปลี่ยนไป เขายังคงมองออฟด้วยความชื่นชมและสนใจ การได้ทำงานร่วมกันยังคงเป็นสิ่งที่เขาต้องการ แต่ความรู้สึกนอกเหนือจากนั้นมันได้หายไปแล้ว เขาแน่ใจกับตัวเองแล้วว่าตอนนี้เขาไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นกับออฟอย่างที่บอกกับเตไปจริงๆ เวลาผ่านมานานจนความรู้สึกหลายๆอย่างมันจางหายไป
แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเตจะเชื่อเขาหรือเปล่า
กันพิมพ์ข้อความตอบกลับไป
……….……….……….
ออฟวางเชือกผ้าสั้นๆและลูกบอลลงบนโต๊ะ เขาทิ้งตัวลงบนเก้าอี้อย่างเหนื่อยล้า พลางนึกบ่นในใจว่าไม่น่านัดงานช่วงเช้าไว้หลายคิวติดกันขนาดนี้ แต่ก็ทำได้แค่นึกบ่น เพราะนิสัยอย่างเขายังไงก็อดไม่ได้ที่จะจัดคิวงานเอาไว้ช่วงเช้าเยอะๆเพื่อให้ตัวเองไปว่างช่วงเย็นอยู่ดี
เขาเอียงคอหันมองไปที่สุนัขพันธุ์ออสเตรเลียน เชพเพิร์ดสีดำขาวที่นอนหมอบมองเขาอยู่ไม่ไกล ก่อนจะตบที่เข่าของตัวเองเป็นเชิงเรียก
“ ปิ๊ก มานี่ ”
ทันทีที่ออฟเอ่ยเรียก ร่างอวบเจ้าของชื่อก็ลุกวิ่งมาหาเขาด้วยความกระตือรือร้น หางที่เต็มไปด้วยขนฟูฟ่องกระดิกไปมา ดวงตากลมมองมาที่เขาอย่างปรารถนาอะไรบางอย่าง
“ ทำไม จะเรียกเฉยๆบ้างไม่ได้เลยรึไง ”
ออฟเอ่ยถามเพราะรู้ดีว่าสายตาที่มองมาแบบนี้ต้องการอะไร เขาเอื้อมหยิบถุงขนมบิสกิตสำหรับสุนัขที่วางอยู่บนโต๊ะ ยังไม่ทันที่จะได้เปิดถุง ขาหน้าทั้งสองข้างของร่างอวบก็ขึ้นมาตะปบอยู่ที่เข่าของเขาซะแล้ว
“ ไอ้ปิ๊ก กางเกงไหม่ ลงไปเลยๆ ” เขารีบเอ่ยดุ ซึ่งเจ้าปิ๊กก็เชื่อฟังคำสั่งอย่างดีแล้วลงไปนั่งที่พื้นอย่างเรียบร้อยตามเดิม “ ไดเอตได้แล้วนะมึงน่ะ ” ออฟเอ่ยเมื่อมองไปยังร่างตรงหน้าที่เริ่มพุงใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ “ เดี๋ยวจะมีพุงเหมือนกู ”
เหมือนจะเป็นคำเตือนตัวเองมากกว่าเพราะออฟเองก็เริ่มรู้สึกว่าช่วงนี้เขาชักจะปล่อยตัวมากเกินไปแล้ว หน้าท้องที่แต่เดิมก็แทบจะไม่มีกล้ามเนื้อใดๆตอนนี้มันเริ่มมีไขมันเข้ามาเพิ่มจนเขารู้สึกอึดอัด แม้ว่าออฟจะเป็นคนที่ดูแลตัวเองดีทั้งเรื่องผิวพรรณและการแต่งตัว แต่เรื่องออกกำลังกายกลับเป็นเรื่องที่เขาทำไม่สำเร็จสักที ยิ่งเพิ่งผ่านช่วงที่เจอเรื่องให้เสียใจมาไม่นาน เขายิ่งละเลยเรื่องนี้มากเข้าไปอีก
“ พ่อมึงเริ่มจะไม่หล่อแล้วนะ ” ออฟทำสีหน้าปลงตก
เสียงข้อความเข้าจากโทรศัพท์ดังขึ้น ออฟหยิบขึ้นมาเปิดดู
[ ครับ
ไม่กล้าบล็อกเลย
ดีนะที่ผมเปิดอ่าน 5555
แต่ถ้าพี่ไม่ว่างก็ไม่เป็นไรนะครับ ผมไปวันอื่นก็ได้ ]
น้องกัน...
ส่งมาตอนที่เขาเพิ่งได้พักพอดีเลย
ออฟยกขาขึ้นพาดที่พนักวางแขน เขานึกสงสัยว่ากันมีเรื่องอะไรจะคุยกับเขา ตอนที่ถามเตไปเมื่อเช้าคำตอบที่ได้รับกลับมาก็มีแค่ เดี๋ยวมึงก็รู้เอง...
ออฟนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อเช้า ที่เขาขอเบอร์ติดต่อกันจากเต
ทั้งๆที่เจ้าตัวเป็นคนโทรมาขอความช่วยเหลือจากเขา ทั้งๆที่เขาอุจส่าวิ่งวนทั่วห้องเพื่อหาของที่เพื่อนสนิทคนนี้ลืมเอาไว้ กว่าจะเจอก็เสียเวลาไปกว่าครึ่งชั่วโมง แค่เขานึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ขอเบอร์ติดต่อกันเอาไว้ ก็เลยอยากจะขอไว้ตามประสาน้องชายของเพื่อนสนิท กลับโดนยิงคำถามใส่ซะหูชา
ความหวงน้องของมันนี่ได้ลดลงไปตามเวลาบ้างหรือเปล่านะ ออฟนึกแล้วก็อดขำไม่ได้
‘ น้องกูจะไปคุยกับมึงนะวันนี้ ห้ามไปหยอดอะไรมันด้วย กูรู้นะ หน้าต่างมีหูประตูมีช่อง ยามหน้าที่ทำงานมึงก็คนของกู เข้าใจไหมครับ ’
บทสนทนาของเตยังคงติดอยู่ในหัวของเขา ออฟอมยิ้มออกมา
เขาพิมพ์ข้อความส่งกลับไป
[ พี่ว่าง มาหาเถอะ
กำลังหาคนไปกินข้าวด้วยอยู่พอดี
พี่เสร็จงานตอนห้าโมง
หรือให้ไปหาไหม อยู่ห้องเตใช่ป่าว ]
ออฟพิมพ์ไปตามปกติโดยไม่ได้คิดอะไร แต่เมื่อนิ้วแตะโดนปุ่มส่งไปได้ไม่กี่วินาที เขาก็รู้สึกได้ว่าข้อความของตัวเองมันดูจะเข้าใกล้คำว่าหยอดของเตเกินไปหรือเปล่า ออฟก้มลงดูข้อความที่ตัวเองเพิ่งส่งไปอีกครั้ง มันเอากลับคืนมาพิมพ์ใหม่ไม่ได้ซะด้วยสิ
ช่างเถอะ... เขาคงจะคิดมากเกินไป
ออฟวางโทรศัพท์ลงกับโต๊ะแล้วเอนศีรษะพิงพนักเก้าอี้ก่อนจะหลับตาลงอย่างอ่อนเพลีย
……….……….……….
เต ตะวัน หยิบภาพถ่ายจากกล่องสีดำทึบออกมาวางเรียงบนโต๊ะกระจก เขากระจายมันออกอย่างไม่เป็นระเบียบนัก ก่อนจะเอื้อมมือเปิดไฟที่ติดอยู่บนผนังเพื่อให้ส่องลงมาที่โต๊ะพอดี จากห้องที่สว่างอยู่แล้วเลยยิ่งทำให้บริเวณรอบโต๊ะกระจกนี้สว่างเข้าไปอีก
“ นี่ส่องทุกวันกูจะฝ้าขึ้นไหมเนี่ย ”
ภัทรเอ่ยบ่น
“ มันไม่ได้แรงขนาดนั้นไหม ” เตตอบกลับเสียงอ่อน
ภัทรก้มลงมองที่ภาพถ่ายแต่ละใบอย่างพินิจพิเคราะห์ “ มันก็ใช้ได้เกือบหมดเลยว่ะ หรือกูจะยกไปให้เขาเลือกเองหมดเลย ” ภัทรเอ่ยถาม
“มันเยอะมากเลยนะ พี่ก็ลองเลือกคัดอันที่ไม่โอเคออกละกัน เดี๋ยวผมช่วยเลือก เอาออกไปสักครึ่งนึง ”
“ ครึ่งนึงเลยเหรอ ” ภัทรถามแล้วหันมองหน้าเต
“ ครึ่งนึงแหละพี่ เดี๋ยวส่งไปเยอะเกินเขาก็จะบ่นอีก ” เตยังคงยืนยันคำเดิม
ภัทรพยักหน้าแล้วพยายามมองหาภาพที่ดูไม่โอเคที่สุด ก่อนจะเริ่มหยิบใบแรกออก เตเองก็ช่วยหาภาพที่จะคัดออกเหมือนกัน
“ รูปนี้นะ ” เตหยิบขึ้นมาใบหนึ่งแล้วเอ่ยถามภัทร
ภัทรพยักหน้าอีกครั้งก่อนจะเริ่มมองหาใบต่อไป “ แล้วเมื่อวานไปเจอน้องมาเป็นไงมั่ง ” ภัทรเอ่ยถาม
เตยังคงจดจ้องอยู่ที่ภาพถ่ายแต่ละใบ “ ก็โอเค พามันไปกินข้าว เมื่อวานไอ้ออฟก็ไปด้วย ”
“ ไอ้ออฟเหรอ ” ภัทรหยิบออกอีกใบ “ นี่กูไม่ได้เจอมันนานมากแล้วนะเนี่ย เกือบจะจำหน้าไม่ได้แล้ว ถ้ามึงไม่พูดก็คงลืมมันไปละ ”
“ งานมันเยอะ พอมันว่างผมก็ไม่ว่าง พอผมว่างมันก็ไม่ว่างอีก ไม่ค่อยได้ไปสังสรรค์กันเลยเนอะช่วงนี้ ” เตตอบกลับด้วยน้ำเสียงเหนื่อยๆ
“ ก็พักซะบ้างสิ โหมงานหนักติดต่อกันมาหลายเดือนแล้วนะ พักบ้าง พี่พูดจริงๆ นี่ขนาดบอสยังมาคุยกับพี่เลยให้เราน่ะพักซะบ้าง เขาจะให้วันหยุดแกฟรีๆแล้วนะรู้ไหม ” ภัทรพูดน้ำเสียงจริงจัง “ แล้วไอ้เน๋งมันเพิ่งมาเปิดร้านอยู่ใกล้ๆตึกเลยรู้บ้างหรือเปล่าเนี่ย ”
“ รู้ ” เตตอบกลับเสียงนิ่ง
“ ไปหา ไปทักทายมันบ้างนะ เรื่องมันนานซะจนกูจำดีเทลแทบจะไม่ได้อยู่แล้วพวกมึงก็ยังไม่หัดลืมๆไปซะบ้างเนาะ ” ภัทรบ่นเปาะ
“ ผมน่ะไม่อะไรแล้วแหละ แต่มันจะหายโกรธผมรึยังก็ไม่รู้ ” เตพูดเสียงแผ่ว
“ ไอ้เต ” ภัทรหยุดเลือกภาพถ่ายแล้วหันมามองหน้าเต “ กูว่ามึงสองคนแม่งคิดอย่างนี้เหมือนกันทั้งคู่นั่นแหละ นึกว่าอีกคนยังโกรธอยู่ แล้วก็ไม่ยอมคุยกันสักที อยากคุยก็ไปคุย กูรู้มันน่ะหายโกรธมึงไปนานแล้ว ไม่งั้นมันไม่มาเปิดร้านอยู่ใกล้ๆแบบนี้หรอก ”
“ ก็ทำเลมันดีหรือเปล่าพี่ ” เตเถียง
“ มึงนี่ก็นะ ” ภัทรถอนหายใจ “ ตัดสินใจเอาเองก็แล้วกัน ถ้ายังอยากจะคุยกับมันอยู่ ปล่อยไว้นานกว่านี้เดี๋ยวมันจะต่อกันไม่ติดนะเว่ย ”
เตพยักหน้า
“ แล้วก็พักซะบ้าง ป่วยหนักคราวที่แล้วใครเป็นคนดูแล นี่เป็นห่วงนะ ” ภัทรยังคงไม่เลิกบ่น
“ เข้าใจแล้วพี่ภัทร เลิกบ่นได้แล้ว ” เตเอ่ยพลางหัวเราะออกมา “ บอกแต่คนอื่น ตัวเองก็พักซะบ้างเถอะ งานที่นี่ก็จะทำ เดินแบบก็จะเดิน ยังอยากจะทำอะไรอีกไหม อย่าดังมากนะเดี๋ยวผมเข้าไม่ถึง ”
ภัทรได้แต่มองแล้วส่ายหน้าด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะหันไปเลือกภาพต่อ
……….……….……….
กลับมาแล้ว
กลับมาพร้อมกับปิ๊กโรมที่จบไปแล้ว
แต่ถึงปิ๊กโรมจะจบ แต่ออฟกันยังไม่จบนะ
ขอบคุณทุกคนมากๆนะครับที่ติดตาม แล้วก็ขอบคุณคนที่ช่วยแชร์ ช่วยเม้นด้วยนะครับ
มันคือกำลังใจที่ดีมากๆเลย
ช่วงนี้ผมเริ่มจะว่างแล้ว คงมีเวลาแต่งเยอะขึ้น
แต่ก็คงเว้นช่วงแต่งตอนละวันสองวันนะครับ แต่งเร็วกว่านี้ไม่ไหวแล้ว
รักคนอ่านทุกคนเลยนะ :)
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

64 ความคิดเห็น
-
#63 GETLOYGG (จากตอนที่ 5)วันที่ 12 เมษายน 2561 / 11:12ไรท์เป็นผู้ชายใช่มั้ยคะ☺#630
-
#22 EXO-L88 (จากตอนที่ 5)วันที่ 8 พฤษภาคม 2560 / 21:26สนุกค่ะ ชอบภาษา การบรรยายจัง เป็นในแบบที่เราชอบพอดี มาต่อเร็วๆนะคะ^^#220