คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1 คำถามที่ต้องตอบ
ผมลืมตาขึ้นมามองไปรอบห้อง มันไม่ใช่ห้องผมนี่หว่า ผมลุกขึ้นมานั่งเพื่อตั้งสติ รู้สึกมึนหัวเล็กน้อยในตอนนี้ ผมมองกวาดไปรอบห้อง ก็ไม่มีใคร แล้วผมมาอยู่ที่นี่ได้ไง แล้วที่นี่มันห้องใครกันแน่ทำไมผมถึงมาอยู่ที่นี่นะ ผมลุกขึ้นจากเตียงเดินไปตรงระเบียงเผื่อจะมีคนอยู่ เปิดประตูออกไปก็ไม่มี เดินมาที่ห้องน้ำก็ไม่มีใครอยู่ ผมจึงเดินมานั่งที่เตียงนอน ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ผมต้องการคำตอบแล้วผมจะไปหาคำตอบจากใคร ผมจะทำยังไงต่อดี ผมคิดได้จึงหยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมา เพื่อที่จะโทรไปหาใครก็ได้สักคนแต่โทรศัพท์ผมดันแบตหมด ผมนั่งเอามือขึ้นมาเกยหน้าผากตัวเองไว้อย่างใจเย็น พยายามนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทันใดนั้น มีคนเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับถือถุงอะไรมาสักอย่าง ผมไม่รู้ว่าในมือเป็นถุงอะไร
“ตื่นแล้วหรอครับ”
ผมมองไปตามเสียงนั้นผมไม่รู้จะตอบดีหรือเปล่า ชายคนที่ผมเห็นนั้นมีรูปร่างดูดีมากหน้าตาดีจมูกโด่งดูไม่มีพิษภัย อะไร ท่าทางรุ่นราวคราวเดียวกับผม แต่ผมก็ยังไม่พูดอะไรออกไปตามที่ชายตรงหน้าผมถาม ผมได้แต่มองดูเขาเดินไปเอาอะไรสักอย่างเทใส่จาน แล้วเดินถือมาทางผม
“ไม่ต้องตกใจหรอกครับ ว่ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง เอาเป็นว่าคุณกินโจ๊กนี่ก่อนละกัน เดียวผมจะเล่าให้ฟัง”
พอสิ้นสุดเสียงของชายคนนั้นผมจึงกินโจ๊กตามที่เขาบอก เพราะตอนนี้ผมก็รู้สึกหิวเหมือนกัน ผมกินไป ก็อดถามเขาไม่ได้ ผมต้องถามให้ได้ว่าผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง
“ขอโทษนะครับ ช่วยเล่าให้ผมฟังหน่อยได้ไหมว่าทำไมผมถึงมาอยู่ที่นี่”
ชายคนนั้นได้ยินที่ผมถามจึงเดินเข้ามาข้างๆ ผม แล้วนั่งลงข้างๆ ผม แล้วเขาก็หันมายิ้มให้ผมก่อนที่เขาจะเล่าอะไรออกมาให้ผมได้ฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับตัวของผม
“อร่อยไหมครับโจ๊กที่ผมซื้อมา ผมว่าคุณคงอร่อยนะ แล้วเจ็บปากอยู่หรือเปล่า”
“ก็เจ็บนะ แล้วรู้ได้ไงละว่าผมรู้สึกเจ็บปาก”
“ก็คือเรื่องมันเป็นอย่างนี้นะครับ” ชายคนนั้นมองผมแล้วลุกขึ้นไปลากเก้าอี้มานั่งตรงหน้าผม แล้วก็เริ่มเล่าให้ผมฟัง
“คือว่า เมื่อวานนี้ตอนผมเดินออกมาจากโรงเรียน ผมเดินไปจะขึ้นรถเมล์ ได้เดินผ่านซอยเล็กๆ ซอยหนึ่ง ผมเห็นเด็กนักเรียนประมาณ 4 5 คน กำลังทำอะไรอยู่ผมก็ไม่รู้นะ ผมมองไปก็เห็นคุณยืนอยู่คนเดียวในมุมด้านใน แล้วนักเรียนอีก 4 5 คน นั้นก็เข้าไปรุมคุณ ผมก็ไม่รู้นะว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับคุณ แล้วคุณพอจะนึกอะไรออกบ้างไหมละ”
ผมฟังจากที่ชายคนนี้เล่าจึงพยายามนึกย้อนถึงเรื่องเมื่อวาน ผมพอจำได้ลางๆ แล้ว แล้วชายคนนี้ก็เล่าให้ผมฟังต่อ
“แล้วหลังจากนั้นที่ผมเห็นคุณโดนซ้อมอยู่ ผมเห็นมันเอาไม้หน้าสามฟาดที่คุณ ถ้าผมปล่อยไว้อย่างนี้คุณได้ตายแน่ๆ ผมจึงคิดหาวิธีว่าจะช่วยคุณยังไงดี ผมจึงหลบไปอยู่ตรงมุมหนึ่งผมคิดว่าตรงนั้นจะเป็นที่หลบที่ดีแน่ๆ ผมจึงตัดสินใจตะโกนออกไป ว่าตำรวจมา ประมาณ สองสามรอบ เพื่อให้พวกมันตกใจแล้วหนีไป แต่สิ่งที่ผมคิดก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ด้วย พวกนั้นมันตกใจกัน โวยวายกันใหญ่ว่าตำรวจมา แล้วพวกมันก็ทิ้งไม้แล้วก็ต่างพากันวิ่งหนี พอหลังจากนั้น ผมก็ต้องดูให้แน่ใจก่อนว่ามันไม่กลับมาแล้วผมก็เลยไปช่วยคุณเนี่ยแหละ”
ผมฟังจากที่ชายคนนี้เล่าได้แต่นั่งคิดตามไป มันก็จริงอย่างที่ชายคนนี้เล่าเท่าที่ผมเริ่มจำได้ แต่ผมก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมพวกมันถึงไม่กลับมาถ้าพวกมันไม่เห็นตำรวจ ผมนั่งทำหน้าครุ่นคิดอยู่
“ผมรู้นะครับว่าคุณสงสัยว่าทำไมนักเรียนพวกนั้นถึงไม่กลับมา แต่เท่าที่ผมดูนะพวกมันคงคิดว่าคุณตายแล้วแน่เลย เพราะเล่นซ้อมคุณจนสลบ ถ้าผมไม่มาเจอเหตุการณ์อย่างนี้ ผมก็คงไม่ได้ช่วยคุณหรอกคุณก็คงนอนไม่รู้เรื่องอยู่ตรงนั้นแน่”
ผมเห็นชายคนนั้นพูดอย่างนี้มันทำให้ผมอดเอ่ยขอบคุณเขาไม่ได้
“ขอบใจนะที่ช่วยเราไว้ แล้วเรื่องมันเป็นยังไงต่อ”
ชายคนตรงหน้าผมก็มองหน้าผมด้วยความจริงใจ พร้อมกับยิ้มออกมาทันทีหลังจากที่ได้คำขอบใจจากผม
“หลังจากที่ผมวิ่งเข้าไปดูคุณอยู่ ผมเห็นคุณสลบ ผมพยายามเรียกคุณให้คุณตื่น แต่ก็ไม่ตื่นผมไม่รู้จะทำไง เนื้อตัวเสื้อผ้าของคุณหลุดลุ่ยไปหมด กระดุมเสื้อขาด ผมเห็นคุณไม่ได้สติเลยพยุงตัวคุณขึ้นมา แล้วค่อยๆ พาออกไปจากตรงจุดนั้น แล้วก็โบกรถแท็กซี่ ผมไม่รู้จริงๆ นะว่าจะพาคุณกับบ้านยังไง ผมเลยพาคุณมานอนพักห้องผมเนี่ยแหละ ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ”
ผมมองหน้าคนตรงหน้าผมที่รู้สึกผิดที่ไม่ได้พาไปส่งที่บ้าน
“ไม่เป็นไหรหรอกครับ แค่คุณช่วยผมไว้ แค่นี้ผมก็เป็นหนี้คุณไม่รู้จะตอบแทนคุณยังไงแล้ว”
ผมยิ้มให้กับคนตรงหน้าพร้อมกับเอามือไปตีที่บ่าของเขาเบาๆ เพื่อที่จะให้เขารู้สึกสบายใจขึ้นมา หลังจากนั้นผมกับเขาก็คุยกับมาได้สักพักแล้วยังไม่รู้จักชื่อเขาเลย
“เออ แล้วนี่คุณชื่ออะไรละ ผมจะได้เรียกชื่อคุณถูก ส่วนผมชื่อเรียวนะ”
“ครับยินดีที่ได้รู้จักครับ ส่วนผมชื่อลีโอครับ เรียกผมสั้นๆ ว่าโอก็ได้ครับ”
ผมพยักหน้ายิ้มรับกับการบอกชื่อของเขา
“ผมถามอีกอย่างซิโอ แล้วคุณพาผมมาถึงห้อง คุณเป็นคนดูแลผมตลอดเลยหรอ”
“ใช่แล้วครับ พอผมพาคุณมาถึงที่คอนโดของผม ผมก็พาคุณขึ้นมาข้างบน ตอนแรกผมก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี ผมจะโทรไปบอกกับทางบ้านคุณผมก็กลัวคนทางบ้านคุณเป็นห่วง แต่ผมควักมือถือคุณมาดูแบตมันก็หมด ผมหาที่ชาดแบตให้คุณไม่ได้ ผมก็เลยเก็บใส่ไปในกระเป๋าที่เดิม หลังจากนั้นผมก็นั่งคิดว่าผมจะทำไงดี ผมจึงตัดสินใจถอดเสื้อคุณออก แล้วก็เอากระมังใส่น้ำอุ่นมาเช็ดตัวคุณ หลังจากผมเช็ดตัวเสร็จ ผมก็เลยเอาเสื้อผมของผมมาเปลี่ยนให้คุณก่อน”
ผมเห็นอย่างนั้นผมจึงรีบสำรวจที่ตัวของผมเองเสื้อผ้าผมถูกเปลี่ยนจริงๆ ด้วย ผมตกใจอย่างมากคิดไปคิดมาไอ้นี่มันทำอะไรผมหรือเปล่าเนี่ย มันคงเห็นของผมหมดแล้วนี่เลย ไม่ใช่ผมเสียความเป็นชายให้มันไปแล้วนะ ผมคิดไปคิดมาปวดหัวขึ้นมาทันที ผมเอามือจับไปที่หัวตัวเอง ทำไมมันปวดหัวจังเลยวะเนี่ย
“เรียวเป็นไรเปล่า นอนพักก่อนไหม คุณตัวร้อนด้วยนะ”
“ไม่เป็นไร โอจะไปทำไรก็ไปทำเถอะ เดียวผมจะกลับบ้าน”
ผมตอบโอไปเพราะเกรงใจไม่อยากรบกวนเขามากไปกว่านี้ ผมจึงตัดสินใจลุกขึ้น แล้ววางถ้วยไว้ข้างเตียง
“อย่าดื้อดิครับ คุณตัวร้อนนะนอนพักก่อนดีกว่า”
คนที่อยู่ตรงหน้าผมสีหน้าของเขาเศร้าลงทันทีที่เห็นผมจะเดินออกไปจากห้อง
“แล้วเสื้อผ้าของผมอยู่ไหน”
“ผมตากอยู่ครับเรียว”
“ใครสั่งให้นายเอาเสื้อผ้าเราไปซัก อะไม่เป็นไรงั้นเราฝากไว้ก่อนเดียวเรายืมเสื้อผ้านายกับก่อนละกัน”
ผมพูดไปอาจจะเพราะโมโหเขาที่เปลี่ยนเสื้อผ้าผมก็ได้ ผมก็พูดไม่ถูกเหมือนกันว่าเป็นอะไร แต่ตอนนี้ผมปวดหัวอย่างมาก ผมส่ายหัวไปมา
“เป็นไงบ้างไหวมั้ยเรียว ถ้าไม่ไหวพักนี่ก่อนดีกว่า”
“ไม่เป็นไรเราไหว”
“อย่าดื้อซิครับเรียว ผมรู้นะว่าคุณไม่ไหวแต่คุณเคืองผมที่ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าคุณ ผมอยากบอกให้คุณรู้นะว่าผมไม่ได้เจตนาที่จะเปลี่ยน ผมแค่อยากให้คุณสบายตัวขึ้นเฉยๆ เพราะผมเห็นว่าเสื้อผ้าคุณมันขาด แล้วก็เลอะมาก และเสื้อผ้าที่ขาดผมก็จัดการเย็บให้ผมแล้ว”
ผมมองหน้าคนที่หวังดีกับผม แต่ผมไม่อยากคิดเลย ผมรู้ว่าเขาต้องคิดอะไรกับผมอยู่เป็นแน่ แต่ถ้าผมขืนอยู่ต่อไป เขาจะทำอะไรผมหรือเปล่าก็ไม่รู้
“เอาเป็นว่าขอบใจละกันงั้นเราไปละ”
ผมพยายามเดินไปเพื่อที่จะเปิดประตู ผมก็รู้สึกหน้ามืดตาผมเริ่มพร่าขึ้นมา แล้วสักพักผมก็ล้มลงไปเลย ผมเห็นลางๆ ว่าชายที่อยู่ตรงหน้าผมเมื่อกี้วิ่งเข้ามาอย่างตกใจ ดูเขาเป็นห่วงผมมากๆ เลย แล้วหลังจากนั้นผมก็หมดสติไปอีกรอบ
ผมตื่นขึ้นมาอีกครั้งนึง ผมรู้สึกว่ารอบนี้ดีขึ้นเยอะ แล้วก็ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่แล้ว ผมมองไปเห็นลีโอกำลังเดินวุ่นทำอะไรอยู่ไม่รู้ เหมือนกับทำกับข้าง เห็นอยู่ในครัว แล้วผมก็ลุกขึ้น มองไปที่ลีโอ สงสัยเขาเห็นผมเลยรีบผละออกจากตรงจุดนั้นแล้วรีบเดินมาที่ผม ตอนนี้ลีโอใส่ผ้าคลุมกันเปื้อน เขายิ้มมาให้ผมเช่นเคยอย่างที่ผมเห็นเมื่อเช้า ทำไมการยิ้มของเขาถึงทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ กับเขา ทั้งที่ผมไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิด แต่ผมคิดว่าผมรู้ว่าเขาเป็นอะไร
“ตื่นแล้วหรอครับ เรียวรู้ไหม ว่าหลับไปนานแค่ไหน”
ผมส่ายหน้าให้กับเขาโดยที่ผมไม่พูดอะไรเลยสักคำ
“เรียวหลับไป เกือบ 10 ชั่วโมงเลยนะ ผมว่านะตอนนี้ตัวเรียวคงค่อยยังชั่วขึ้นเยอะแล้วละ ผมทำข้าวต้มไว้ให้เรียวด้วยนะ มันจะได้ดีขึ้น”
ผมมองหน้าของลีโอแบบตกใจว่าทำไมผมถึงหลับไปนานขนาดนั้นเลยหรอ ตอนนี้ที่บ้านผมคงเป็นห่วงผมกันแย่แล้วแน่เลย ทำยังไงดีผมจะหาที่ชาดแบตยังไงดีเนี่ย
“เรียวโทรศัพท์น่ะ โอหาที่ชาดแบตให้เรียวได้แล้วนะ โอไปยืมคนข้างล่างมาเขาใช่รุ่นเดียวกับเรียวพอดีเลย โอเลยขอยืมมาก่อน แล้วก็โอบอกที่บ้านเรียวแล้วนะว่าเรียวอยู่กับโอ มาทำรายงาน ที่บ้านเรียวจะได้ไม่เป็นห่วงยังไงครับ”
ลีโอพูดพร้อมกับยิ้มให้ผม ผมคิดน้อยใจตัวเองทำไมเขาถึงทำเพื่อผม ช่วยผมหลายครั้งหลายคราวแล้ว แต่ผมนี่สิ ไม่ได้ทำอะไรให้เขาเลย
ความคิดเห็น