คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : สายใยที่3 ที่ไป
“เฮ้อ ถึงฝรั่งเศษซะที เมื่อยจัง นั่งอยู่เฉยๆบนเรือตั้งหลายวัน”อเลนที่บัดนี้ยังคงสวมวิกผมสีน้ำตาลโกโก้ยาวเลยไหล่ไปนิดอยู่เดินลงบันไดเรือลงมายืดเส้นยืดสาย เขาปัดเส้นผมให้ปรกใบหน้าซีกซ้ายเล็กน้อยเพื่อปกปิดรอยคำสาปที่ปรากฏตั้งแต่สมัยเด็ก
ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกถึงสิ่งที่ดิ้นไปมาเพื่อออกจากเสื้อคลุมที่มันมุดเข้ามาเอง “อดทนหน่อยนะทีม ขืนปล่อยนายออกมาบินเล่นล่ะก็มันคงไม่ดีแน่ๆ”
จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปบริเวณเมืองเพื่อหาอะไรกินก่อนเดินทาง ด้วยบุคลิก รูปร่างและหน้าตา ทำให้คนส่วนใหญ่หันไปมองตลอดทางที่เขาเดินผ่าน แต่เจ้าตัวเขาไม่รู้อะไรด้วยเลย แค่ถึงร้านอาหารก็จัดการซัดซะเรียบ จ่ายตังแล้วเดินออกมา
“จากตรงจุดนี้ ถ้ามุ่งไปทางตะวันออกเฉียงใต้ก็จะถึงอิตาลี่ ซึ่งจากตารางรถไฟที่เอามาด้วยจากท่าเรือนี่ หืม? 10นาที! แย่ละ ถ้าพลาดต้องรออีกรอบตั้งบ่ายวันพรุ่งนี้แน่ะ”
ชายหนุ่มจึงรีบวิ่งอย่างรวดเร็วไปยังสถานีรถไฟทันที
ปัง!
“ซื้อตั๋วครับ!”อเลนซึ่งออกอาการหอบเล็กน้อยฟาดมือที่มีเงินค่าตั๋วลงบนเคาท์เตอร์ขายตั๋วจนคนขายสะดุ้งโหยง
“ปะ..ไปที่ไหนเหรอ พ่อหนุ่ม”อเลนสูดหายใจลึกแล้วยิ้มบางๆ
“ไปอิตาลี่ครับ”
“โอ้ ยังทันๆ เอาไป แล้วนี่ตังทอน”
“ขอบคุณครับ”
ปู๊น!!!
“หวา! ตายล่ะ รอด้วย เดี๋ยวสิ!!!”
อเลนรีบวิ่งอย่างรวดเร็วจนในที่สุดก็สามารถกระโดดขึ้นทางเข้าโบกี้เก็บเสบียงได้อย่างหวุดหวิด
“ซะ..เซฟ...”
ซวยชะมัด!
ทางด้านเอ็ดเวิร์ดที่ตื่นขึ้นมาแล้วก็นั่งนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดก็เกิดอาการหงุดหงิดอย่างที่สุด เพราะทั้งเป็นห่วงน้องและเครียดในความซวยของตัวเอง
ทำไมนะทำไม ฉันก็ตัวสูงขึ้นกว่าแต่ก่อนตั้งเยอะแล้วนี่นา ไหงถูกมองข้ามหัวอยู่เรื่อยเลย
“ย้ากก!! ซวยชะม๊าดด!!! แฮก แฮก...”
ใจเย็นเข้าไว้เอ็ดเวิร์ด เอลริค ก่อนอื่นก็ต้องคิดก่อนว่าจะออกจากที่นี่ยังไง ดูเหมือนว่าจะเป็นตู้ที่เตรียมจะเอาไว้สำหรับขนย้ายสัตว์ล่ะมั้ง
ว่าแต่ไอ้กล่องที่เราเอาหัวไปโขกจนสลบนี่มันกล่องอะไรกัน?
เอ็ดเอื้อมมือจับบนฝากล่องลังไม่ขนาดใหญ่
“ลูกพี่ครับ เมื่อกี้ผมรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงคนดังมาจากข้างใต้นะครับ”
เอ็ดหยุดการกระทำทั้งหมด คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน ใบหูรอรับฟังเสียงสนทนาของบุคคลน่าสงสัยบนหลังคาโบกี้
“มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน ก็ฉันตรวจมาแล้วนี่นาว่าเป็นแค่โบกี้เปล่าธรรมดา ฉันว่าแกกลัวจนหูฝาดไปเองมากกว่า”เสียงทุ้มเข้มของชายที่น่าจะวัยกลางคนแล้วเอ่ยอย่างใจเย็น “เอาล่ะ เริ่มดำเนินตามแผนได้แล้ว”
“ครับ”
พวกมันเป็นใครกัน ทำไมต้องทำอะไรลับๆล่อๆอยู่บนหลังคารถไฟด้วย จากเสียงพวกมันน่าจะมีกันประมาณ10กว่าคน ซึ่งถือว่าค่อนข้างเยอะเลยด้วย แผนของพวกมัน พวกมันต้องการทำอะไรกันแน่? หรือว่า...
ต้องรีบหาทางออกก่อนแล้วสิ ภาวนาขออย่าให้เรื่องมันเป็นแบบที่เราคิดเลย
ตัดมาทางชายหนุ่มต้องสาปที่นั่งอยู่บริเวณโบกี้ท้ายๆ ซึ่งไม่ค่อยจะมีผู้โดยสารเท่าไรนัก เรียกว่าว่างมากเลยก็ได้
แสงอาทิตย์สีส้มที่บ่งบอกถึงเวลาที่ใกล้ยามสนธยาเต็มทีส่องกระทบเปลือกตาที่มีรอยขีดประหลาดด้านซ้าย ยังผลให้ชายหนุ่มตื่นจากภวัง
“ฮ้าว.. กี่โมงแล้วเนี่ย ตั้งแต่ขึ้นรถก็หลับมาตลอด..”อเลนขยี้ตาอย่างงัวเงีย
โกรก....
“ตรงกับใจตัวเองชะมัดเลยท้องเรา”อเลนยิ้มแหยๆ
ว่าแต่ โบกี้ไหนมีห้องอาหารอยู่นะ
“หืม?”ชายหนุ่มตบเสื้อคลุมบริเวณที่เคยพองเพราะมีบางสิ่งมุดหลบอยู่
“ทีมแคมพี?”
ใบหน้าของชายหนุ่มถูกแทนที่ด้วยความตื่นตะหนกระคนอยากร้องไห้
“นายหายไปไหนของนายอีกแล้ว ทีม..”
เจ้าลูกกลมๆสีทองมีปีก ดูเหมือนจะไม่รู้ว่าเพื่อนรัก(?)ของตัวเองตื่นแล้ว ยังคงบินเอ้อละเหยไปเรื่อยๆ ลัดเลาะไปโบกี้โน้นนี้อย่างสบายใจ
แกร๊ง! แกร๊ง! แกร๊ง!
“โถ่ว้อย! ไอ้ประตูตู้รถไฟบ้าอะไรเนี่ย! ทำไมเปิดยากชะมัด”
ทีมแคมพีค่อยๆบินไปหาประตูที่มีเสียงคนดังจากข้างในอย่างสนใจ และค่อยๆใช้หางตัวเองเกี่ยวคันเหล็กที่ใช้ล็อคจากภายนอก แล้วดึงออกอย่างง่ายดาย
“อ่าว? ไหงมันถึงเปิดออกได้เองอย่างงั้นล่ะ”
ใบหน้าใสของชายหนุ่มผมทองค่อยๆโผล่ออกมาจากประตูโบกี้...
ปัง!(เสียงที่ดังภายในใจทีมแคมพี)
สไตรค์!
“เอ๋? นี่มันตัวอะไรกัน? หวา!? จะทำอะไรน่ะ!?”เอ็ดเวิร์ดออกอาการตกใจเล็กน้อย เมื่อเจ้าสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อนจู่ๆก็บินมาเกาะหัวเขาซะงั้น แถมสะบัดเท่าไรก็ไม่ยอมหลุด แต่เมื่อรู้ว่าไม่เป็นอันตรายต่อตัวเองจึงหยุดขับไล่มันไป
“เฮ้อ ว่าแต่ พวกมันไปทางไหนกันหมดแล้วเนี่ย”
ถ้าหากแผนของพวกมันเป็นอย่างที่เราคิด สถานที่ที่พวกมันน่าจะอยู่คงจะเป็นโบกี้ที่มีผู้โดยสารเยอะๆ กับห้องควบคุม และห้องที่ควบคุมการติดต่อสื่อสาร
น่าจะเป็นแถวโบกี้แรกๆ
เมื่อกำหนดจุดหมายเรียบร้อยแล้วเขาจึงมุ่งหน้าไปทันที โดยที่มีเจ้าลูกกลมๆที่ดูเหมือนจะลืมเพื่อนเก่าสนิทแล้วติดสอยห้อยตามไปด้วย
โกรก....
โอย หิวข้าวชะมัด แต่ว่าทีมหายไปไหนก็ไม่รู้
“ซูด.. เฮ้อ~ คิดใจแง่บวกเข้าไว้ บางทีหมอนั่นอาจจะไปบินเล่นโต๋เต๋ที่ไหนก็ได้ หรือไม่บางทีอาจจะหิวแล้วไปอยู่แถวๆโบกี้ที่เป็นห้องอาหาร หรืออาจจะกำลัง..”
โกรก...
ชายหนุ่มคิ้วกระตุก ขึ้น “ทีมก็อยู่กับเราตลอด บางทีอาจจะหิวก็ได้ คงจะอยู่ในโบกี้ห้องอาหารนั่นแหละ”
ดังนั้น ขอไปโบกี้ห้องอาหารก่อนละกันนะทีม
เมื่อหาข้ออ้างแถเพื่อไปยัดประทานไปได้ อเลนจึงมุ่งไปยังโบกี้ห้องอาหารประจำรถไฟ ที่กำลังจะเกิดเรื่องขึ้น...
ความคิดเห็น