ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic DGM + FMA] Link

    ลำดับตอนที่ #1 : สายใยที่1 ออกจากบ้าน

    • อัปเดตล่าสุด 27 ต.ค. 51




             ...ตอนนั้น ผมเคยลืมคิดไปช่วงเวลาหนึ่ง ว่าโลกใบนี้มันประกอบด้วยถนนที่เคว้งคว้างมากมาย
    เพราะถูกจำกัดด้วยสิ่งที่เรียกว่า หน้าที่
    แต่..เมื่อสิ่งนั้นหายไป ตัวผมเพียงลำพังจะยังสามารถเดินหน้าไปท่ามกลางถนนสายนี้ได้อีกรึเปล่า...
     
     
    ณ ศาสนจักรแห่งความมืด

             หลังจากเหล่าเอ็กโซซิสท์สามารถหยุดยั้งความปราถนาของท่านเคาท์พันปี ผู้ต้องการจะทำลายล้างมวลมนุษยชาติได้สำเร็จ รวมถึงทำลายล้าง
    AKUMA และขจัดตัวตนของโนอาที่เชื่อมต่อกับร่างกายของมนุษย์เหล่านั้นหมดสิ้นไป
    งานของศาสนจักรเหมือนจะเบาลงเล็กน้อย ซึ่งเล็กน้อยจริงๆ เพราะจากการต่อสู้นั้น ท่านเคาท์พันปีไม่ได้ถูกสังหารแต่อย่างใด เพียงแต่หายตัวไปอย่างเงียบเชียบจนไม่มีใครรู้สึกถึงการอันตธานครั้งนี้
    งานใหม่ของทางศาสนจักรจึงได้มีอันราดลงมาหลังจากเพิ่งเช็ดถูไปหมาดๆ
    คือการตามหาเบาะแสของ ท่านเคาท์พันปี
    ซึ่งอาศัยเพียงกลุ่มหน่วยค้นหาเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอแล้ว เหล่าเอ็กโซซิสท์ทั้งหลายจึงเป็นอันว่า ว่างงานกันถ้วนหน้า บางคนมอบอินโนเซนส์ของตนให้แก่เฮพลัสก้าและขอกลับไปอยู่กับครอบครัวของตน ส่วนบางคนก็เลือกที่จะเดินไปตามความต้องการของตนเอง...
    และนั่นก็รวมถึง อเลน วอคเกอร์ต้วย
    อเลน นายคิดรึยังว่าจะทำอะไรต่อดี
    เสียงเพื่อนหัวส้มอารมณ์ดีถามขึ้นในโรงอาหารที่ค่อนข้างแน่นขนัดเนื่องจากเรียกช่างมาซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอเพิ่มเติมหลังจากที่โดนถล่มโดยทั้งAKUMAและเอ็กโซซิสท์ที่เล่นจู่โจมกันอย่างไม่บันยะบันยัง ส่งผลให้ขนาดเปลี่ยนศาสนจักรหลังใหม่แล้วก็ยังคงเห็นรอยร้าวเป็นจุดๆเหมือนหลังเดิม
    เด็กหนุ่มผมสีขาวสะอาดที่มีร่างกายสูงใหญ่ขึ้นไปตามวัย เนื่องจากผ่านมา4ปีแล้วหลังจากที่เขาได้เข้ามาทำงานที่ศาสนจักรเงยหน้าจากกองอาหารที่เหลือแต่เศษซากกองพูนเป็นภูเขาจ้องตาเพื่อนที่อายุมากกว่าปริบๆราวกับจะให้ทวนคำถามอีกรอบ
    คืองี้ เอ็กโซซิสท์อย่างพวกเราอีกเดี๋ยวก็จะถูกปลดระวางแล้วอ่านะ ฉันกับปู่ก็กะว่าจะออกเดินทางต่อ ส่วนยูจังก็บอกว่าจะอยู่อีกสักพักแล้วค่อยไปฝึกวิชาหรือบำเพ็ญเพียรอะไรของเขาก็ไม่รู้แถวเทือกเขาแอลป์น่ะ..หืม?จู่ๆคนช่างจ้อก็หยุดกระทันหันเมื่อรู้สึกถึงรังสีทมิฬข้างหลัง
    เมื่อกี้แกว่าใครจะไปบำเพ็ญเพียรนะ ไอ้กระต่ายเน่า?
    ยะ..ยู?
    ชายหนุ่มผมยาวดำขลับที่ย่างเข้าสู่วัยผู้ใหญ่อายุพอๆกับชายผมส้มแอบมายืนค้ำหัวทั้งอยู่ด้านหลังโดยไม่ให้สุ้มให้เสียงออกอาการคิ้วกระตุกพร้อมปล่อยคลื่นสีดำออกมาจนคนนินทาเสียวสันหลังวาบ
    แล้วใครสั่งให้แกเรียกชื่อฉันห้วนๆฮะ! อย่าอยู่เลยแก!!!”คันดะชักมุเก็นดาบเล่มอินโนเซนส์ของคนออกมาไล่ฟันคนชอบตีซี้อย่างเอาเป็นเอาตาย ส่วนอีกฝ่ายก็โกยอย่างไม่คิดชีวิตเช่นกัน
    แย๊ก!!!! อเลน!! ช่วยด้วย!!!~”
    อ้วยอัวเองเออะอับ อาอี้ อ๋มไอ้อากอาย(ช่วยตัวเองเถอะครับ ราวี่ ผมไม่อยากตาย)
    เมื่อโดนปฏิเสธการขอความช่วยเหลืออย่างไม่ใยดีจากคนที่ยังกิน(?)อาหารไม่เสร็จและยังคงกิน(?)ต่อไปเรื่อยๆเจ้าตัวจึงต้องใช้หลักตนเป็นที่พึงแห่งตนโกยออกไปจากโรงอาหารอย่างรวดเร็วโดยมีคู่กรณีวิ่งไล่ล่าไปติดๆ
    จากนี้ไปจะทำอะไรงั้นเหรอ.. เรื่องนั้นเราไม่เคยได้คิดเลย คงจะอยู่ที่นี่อีกสักพักใหญ่ๆเลยล่ะมั้ง
     “อเลนคุงเพื่อนสาวผมดำขลับสะกิดเขาน้อยๆ เขาเงยหน้าจากกองอาหารที่สุมอยู่อีกครั้งแล้วส่งสายตายิงคำถาม
    มีจดหมายส่งมาถึงจ้ะ
    ขอบคุณครับเขากล่าวหลังจากกลืนอาหารคำล่าสุดลงคอแล้วรับมันเปิดออกทันที
    จากเสนาธิการครอสจ้ะ
    เคร้ง!!
    เสียงช้อนที่อยู่ในมือตกกระทบพื้นเรียกความสนใจจากคนรอบข้างโดยพลัน เจ้าตัวเบกตาโพลง มือไม้สั่นระริกมองกระดาษแผ่นนั้นปานมีสิ่งที่ไม่อยากพบเห็นที่สุดในโลกมนุษย์
    รินารี่เห็นท่าทางของอเลนแล้วก็ยิ้มแหยๆเหงื่อแตกเล็กน้อย จู่ๆชายผมขาวก็ลุกพรึบขึ้นเล่นเอาเธอสะดุ้งโหยง
    อเลนคุง…?”
    แปะ
    เขาเอามือตบบ่าเพื่อนผู้นำจดหมายมาให้ด้วยความหวังดีเบาๆแล้วพูดด้วยเสียงสั่นๆเหมือนกับร่างกาย
    บอกอาจารย์ด้วยนะครับว่าผมไม่อยู่แล้ว
    เดี๋ยวก่อน! อเลนคุง! เธอจะไปไหน่ะ!?”
    ผมจะขอออกเดินทางไปก่อนนะครับ อย่าบอกอาจารย์นะครับว่าผมไปหลังจากที่ได้รับจดหมายนั่น แล้วถ้าจะให้ดี ฝากเอามันไปโยนทิ้งทะเลหรือเผาทิ้งก็ได้นะครับ ผมไปก่อนนะครับ
    ดะ..เดี๋ยวก่อนสิ อเลนคุง!”
    ชายหนุ่มผมขาววิ่งกลับห้องเก็บข้าวของๆตนอย่างรวดเร็ว ระหว่างนั้นก็รำพึงถึงข้อความสั้นที่สำหรับเขาแล้วถือเป็นเรื่องอัปมงคลอย่างหาที่สุดไม่ได้

     
    ...ฉันจะไปหาแก…          

                                                                 ครอส   มาเรียน


    ใครจะอยู่ให้โง่กันล่ะครับอาจารย์? ขืนอยู่รอมีหลังถูกใช้เป็นเบ้ตลอดชาติแหง แล้วไอ้บัญชีเงินกู้นั่นอีก.. คิดถึงมันแล้วลมชักจะตีกลับตะหงิดๆ 
    ดังนั้น! ต้องหนีลูกเดียว! เอาให้สุดของจักรวาลไปเลย ชนิดที่ว่าจะไม่ได้ต้องพบเจอกันอีกทั้งชาติยิ่งดี
    คิดเสร็จเจ้าตัวก็ปิดกระเป๋าฉึบ สาวเท้าไปตามทางเดินสู่ประตูหน้าอย่างรวดเร็ว
    แต่สิ่งที่รอเขาอยู่บริเวณทางออกศาสนจักรนั้นกลับทำให้เขาเบิกตาค้าง ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างน้อยๆอย่างตื้นตันใจ
    เหล่าเพื่อนเอ็กโซซิสท์ หน่วยค้นหา และผู้คนแผนกวิทยาศาสตร์มากมายออกมายืนกันหน้าทางออกโดยเว้นที่ว่างสำหรับเขาเดินผ่านเอาไว้ หน้าประตูทางออกมีตัวอักษรวาดบนผ้าเอาไว้ว่า โชคดีนะ
    ขอให้เดินทางโดยสวิสดิภาพนะจ้ะอเลน
    ว่างๆก็แวะมาหาบ้างนะ
    โธ่ นายไปก่อนพวกฉันซะอีกราวี่วางสิ่งหนึ่งบนหัวเขาแล้วจัดแจงสวมให้ ใส่วิกนี่ออกไปข้างนอกนะ จะได้ไม่ถูกคนอื่นเขามองแบบแปลกๆ
    อเลนลูบเส้นผมสีน้ำตาลโกโก้เบาๆแล้วยิ้ม ขอบคุณครับราวี่
    เราขอให้เจ้าโชคดีนะ
    ชิ!”
    อเลนคุงชายหนุ่มร่างสูงที่มีเอกลักษณ์ที่แว่นตากับหมวกศิลปินที่ใส่ประจำยื่นซองสีขาวให้นี่เป็นเงินเล็กๆน้อยๆ อาจจะช่วยในการเดินทางของเธอได้ในระยะแรกๆนะ ถือเป็นค่าเหนื่อยหลังจากที่ต้องทำงานโดยได้ได้ตังสักบาทมานานล่ะกัน
     ขอบคุณครับคุณโคมุอิ
    ผมไปแล้วนะครับ ทุกๆคน
    แต่ก่อนที่เขาจะย่างเท้าออกจากขอบประตูก็มีสิ่งหนึ่งบินมากัดหัวที่ถึงจะมีวิกรองรับไปแล้วชั้นหนึ่งแต่ก็ยังทำให้หัวเป็นรูเลือดกระฉูดออกมาอยู่ดี
    ทีม!? มันเจ็บนะ
    ทีมแคมพี ซึ่งขณะนี้มีขนาดเท่าผลสาลี่สุกพยายามฉุดกระชากลากพี่น้อง(?)ที่รักอย่างสุดชีวิต
    โถ่ ทีม..
    ดูท่าทางทีแคมพีเค้าอยากจะตามเธอไปนะอเลนคุงมิลันด้าหัวเราะเล็กน้อย
    แต่ว่า..ไม่ทันที่อเลนจะได้ปฏิเสธเจ้าลูกกลมๆมีปีกก็มุดเข้าไปใต้เสื้อคลุมเขาซะแล้ว นายเนี่ยนะ ถ้าอาจารย์ตามฉันมาเพื่อจะเอานายคืนขึ้นมา ฉันจะทำไงล่ะเนี่ยเขาเอามือจึ้มเสื้อคลุมส่วนที่นูนออกมาอย่างเห็นได้ชัดเบาๆ
    ไปแล้วนะครับ
    บ้ายบาย อเลน
    โชคดีน้า
    แล้วผมจะกลับมาเยี่ยมหาแน่นอนครับ
    ที่แห่งนี้เหมือนเป็นบ้านอีกหลังของเรา การจากมันไปทำให้รู้สึกโหวงๆใจชอบกลเอามากๆเลย วันนี้จะไปนอนที่ไหนดีนะ
    ยามเด็กหนุ่มเดินออกไปไกลเรื่อยๆ เหล่าผู้คนบริเวณนั้นเริ่มสลายไป โคมุอิเดินตรงไปที่ผนังกำแพงที่มีซอกเล็กๆอยู่ เขาพิงข้างๆผนังนั่นเบาๆแล้วเอ่ยลอยๆ
    ไม่ไปลากเขาไปร่วมเดินทางเป็นค่าเหล้าของท่านหรือไงเสนาธิการครอส
    หึ หมอนั่นเดี๋ยวนี้โตขึ้นมากแถวยังทะเล้นขึ้นเรื่อยๆอีก ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็ว่าไปอย่าง ตอนนี้เอาไปก็เกะกะเปล่าๆ
    ทำเป็นพูดดีไป เห็นเด็กคนนั้นหน้าตาดีกว่าสิไม่ว่า
    จะคิดยังไงก็แล้วแต่ละกัน แต่คราวนี้ฉันขอปล่อยให้ไอ้ลูกศิษโง่นั่นเดินไปตามทางของตัวเองบางละกันเสนาธิการผมแดงพ่นควันออกจากปากแล้วสูดบุหรี่เข้าไปใหม่
    ปล่อยเจ้านั่นไป เพื่อให้ได้ทำตามใจตัวเองซะที หลังจากถูกขีดเส้นทางเดินมานานมากแล้ว ข้าขอให้เจ้าโชคดีละกัน ไอ้ลูกศิษโง่
     
     
    ไปไหนดีนะ? ยังไม่เคยวางแผนมาก่อนมันก็ลำบางอย่างนี้แหละ เฮ้อ ไปไหนดีๆ?



    อเลนยืนลังเลอยู่ที่ขายตั๋วของสถานีรถไปแห่งหนึ่งขณะที่คนต่อแถวเริ่มมากขึ้นและเริ่มมีเอ็นกระตุกบริเวณใบหน้าเรื่อยๆ
    โธ่โว้ย! คิดไม่ออก!
    อเลนตัดสินใจหลับตาจิ้มมั่วๆลงบนแผนที่ที่เจ้าหน้าที่นำมากางให้เป็นพิเศษทันที และปลายทางของที่นั่นก็คือ...
    ...เวนิช อิตาลี...
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×