ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Rea Ice เจ้าของหัวใจฉันคือเธอ

    ลำดับตอนที่ #4 : การพบกันของสองหัวใจ

    • อัปเดตล่าสุด 7 พ.ย. 59


                    “ไอ้นัตอย่าแม้แต่จะคิดนะโว้ย!!”  พี่เต้ห้ามผมเสียงหลงหลังจากที่พี่เต้เห็นสายตาของผมที่ใช้มองยูมิผมขอเรียกเธอว่ายูมิก็แล้วกันนะครับเพราะเธอเหมือนกับธนูของคิวปิดที่แผงศรรักมาปักที่หน้าอกข้างซ้ายของผมหลังจากที่ผมได้เจอกับเธอในวันนั้น

                    “นุชเค้ามีแฟนแล้ว คบกันมานานแล้วด้วยอีกอย่างแกดีไม่พอสำหรับคนอย่างนุชหรอกวะพี่เต้เตือนผมอย่างนั้นแต่จริงๆแล้วความรู้สึกแรกที่ผมมีต่อยูมิผมรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้น่ารักดี ดูมั่นใจในตัวเองมากแต่ก็ยังไม่มีใจอะไรแค่คิด ว่าน่ารัก อีกอย่างเรื่องระหว่างผมกับเธอคงป็นไปไม่ได้หรอกเพราะผมกับเธออยู่คนละแผนกกันผมอยู่ในส่วนของฟอร์นโรงแรมที่จะเปิดใหม่ส่วนเธออยู่ฝ่ายการตลาดและที่สำคัญเธอมีแฟนอยู่แล้วถึงพี่เต้ไม่บอกผมก็รู้ว่าผมไม่คู่ควรกับคนอย่างเธอหรอกครับ

                    ผมคิดอย่างนั้นจริงๆในตอนแรก  แต่ใครจะรู้อนาคตล่ะครับว่าคนที่ผมคิดว่าผมไม่คู่ควรกับเธอ และเรื่องระหว่างเราคงไม่มีทางเป็นไปได้มันกลับไม่เป็นอย่างนั้นเลย เมื่อยูมิเธอมักจะมาหาพี่เต้ที่แผนกของผมบ่อยๆบางครั้งก็มาชวนไปทานข้าวเช้า  แต่น่าแปลกที่คนที่ไปทานข้าวเช้ากับเธอกลับกลายเป็นผมเอง

                    พี่เต้ไปทานข้าวเช้ากันวันนี้นุชมีร้านอร่อยมาแนะนำด้วยนะ นุชมาชวนพี่เต้ไปทานข้าวเช้าเหมือนเคยโดยมีผมนั่งทำงานอยู่ใกล้ๆกับพี่เต้

                    วันนี้พี่ขอตัววะนุชพอดีงานพี่ยังไม่เสร็จเลย   อีกอย่างพี่เพิ่งจะดื่มกาแฟไปเมื่อกี๊นี้เองนุชไปทานกับไอ้นัตมันก็แล้วกัน พี่เต้บอกกับนุชก่อนจะหันมาบอกกับผมให้ไปทานข้าวเช้ากับเธอ

                    ไอ้นัตไปทานข้าวเป็นเพื่อนนุชมันหน่อยแล้วกัน  แกยังไม่ได้ทานข้าวมาไม่ใช่เหรอ

                    ครับ ผมรับคำของพี่เต้ด้วยใจที่เต้นแรงเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้มีโอกาสใกล้ชิดกับยูมิของผมแบบนี้

                    แล้วผมกับนุชเราก็ไปทานข้าวเช้ากันที่ร้านที่นุชต้องการจะชวนพี่เต้มาทาน ร้านอาหารแห่งนี้เป็นร้านขายข้าวต้มทรงเครื่องที่เพิ่งมาเปิดใหม่ได้ไม่นาน ลักษณะร้านเป็นห้องแถวเล็กๆขนาดสองคูหาติดกัน ภายในตกแต่งร้านด้วยโทนสีฟ้าขาว  โต๊ะกับเก้าอี้เป็นไม้โดยโต๊ะทาด้วยสีฟ้าส่วนเก้าอี้ทาด้วยสีขาว ที่พนังมีโปสเตอร์แนะนำอาหารของร้านเพื่อเป็นตัวอย่างให้ลูกค้าได้เลือกทานติดอยู่ที่ด้านหลัง  ส่วนพนังด้านข้างก็ตกแต่งด้วยรูปอื่นที่ช่วยทำให้ร้านดูน่ารัก และเป็นกันเองมาก

                    ผมกับนุชเราสั่งอาหารที่เป็นเมนูแนะนำของร้านไปคนละชาม  เมื่ออาหารมาเสิร์ฟผมกับนุชก็ทานกันไปเงียบๆเนื่องจากผมไม่รู้จะชวนเธอคุยเรื่องอะไร  แต่กลับเป็นนุชเองที่เป็นคนชวนผมคุย

                    เป็นไงบ้างนัตอร่อยไหม??”นุชถาม ผมทำได้เพียงพยักหน้าเป็นการตอบเธอเท่านั้น

                    พี่ๆที่แผนกนุชเขามาลองทานกันเมื่อวาน   กลับไปเล่าให้นุชฟังจนอยากทานเลยล่ะวันนี้ก็เลยตั้งใจจะชวนพี่เต้มาทานด้วยกันเสียหน่อยดันติดงานเสียนี่ แต่ก็ไม่เป็นไรนัตได้มาทานแทนก็อย่าลืมไปเล่าให้พี่เต้ฟังนะ ให้พี่เขาอิจฉาเราไปเลยที่พลาดของอร่อยในวันนี้

                    ไว้พรุ่งนี้นุชก็ชวนพี่เต้มาทานอีกก็ได้นี่ครับ ผมบอกนุชไปอย่างนั้น

                    ไม่เอาดีกว่าพี่เต้อยากไม่มาทานเองช่วยไม่ได้…”นุชพูดด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริงก่อนจะหันมา

    พูดกับผมต่อว่า นัตมาทำงานที่นี่ก็ดีเหมือนกันนะเวลาพี่เต้ไม่ว่างมาทานกับนุชนัตจะได้มาแทนไง

                    ผมทำได้เพียงอมยิ้มในสีหน้าเท่านั้นแต่เธอก็คะยั้นคะยอให้ผมตอบรับคำชวนของเธอให้ได้ทำให้ผมรู้ว่าเธอก็เป็นคนเอาแต่ใจเหมือนกันนะเนี่ยะ

                    ครับผมมาทานด้วยก็ได้ครับ ผมตอบนุชไปแต่เหมือนเธอจะรู้สึกว่าเอาแต่ใจกับผมซึ่งเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นานจึงบอกกับผมว่า

                    นุชไม่ได้เห็นนัตเป็นตัวแทนของพี่เต้นะถ้าวันไหนนัตไม่ว่างไม่ต้องมาทานเป็นเพื่อนนุชก็ได้นะ นุชพูดด้วยน้ำเสียงลุแก่โทษ

                    ไม่เป็นไรครับไม่ต้องเกรงใจผมหรอก 

                    และนี่คือจุดเริ่มต้นของผมกับเธอในการไปทานอาหารเช้าเป็นเพื่อนเธอ และถึงแม้บางครั้งพี่เต้จะไปด้วย หรือแม้ปกติผมไม่ใช่คนที่ชอบทานข้าวเช้าก็ตามแต่เมื่อใดที่นุชมาชวนผมไปทานข้าวเช้าผมก็มักจะตอบรับคำชวนทุกครั้งไป

     

    ……………………………………………

     

                    ความสัมพันธ์ของผมกับนุชค่อยๆพัฒนาจากคนรู้จัก เพื่อนทานข้าว จนกลายเป็นเพื่อนสนิทกันโดยที่ผมก็รู้ดีว่าเธอมีแฟนอยู่แล้วและไม่ได้ต้องการเป็นมือที่สามระหว่างเธอกับเขาคนนั้นถึงแม้นุชกับแฟนของเธอจะเริ่มห่างกันมาได้ระยะหนึ่งแล้วก็ตาม จนความสัมพันธ์ของนุชกับแฟนมาถึงทางตันโดยที่ผมไม่ใช่ต้นเหตุของปัญหานั้น แต่ผมก็ได้รับรู้ความเสียใจของเธอคอยปลอบใจเธออยู่ข้างๆ

                    แมนทำไมแมนไม่โทษตัวเองบ้างล่ะที่ความสัมพันธ์ของเรามันเป็นแบบนี้ไม่ใช่เพราะนุชคนเดียวนะที่ไม่ดีแต่แมนก็เหมือนกัน นุชพูดโทรศัพท์กับคนชื่อแมนที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นแฟนของนุชในวันหนึ่งตอนที่เธอมาหาพี่เต้ที่แผนกแต่พี่เต้ไม่อยู่นุชเลยมาคุยกับผมแทน ทำให้ผมได้อยู่ในเหตุการณ์ครั้งนั้นด้วย

                    เราห่างกันมาสักพักแล้วนะนุชคิดว่ามันน่าจะมีอะไรดีขึ้นบ้าง แต่ปล่าวเลยความสัมพันธ์ของเรากลับยิ่งแย่ลง แล้วแมนจะให้นุชทำอย่างไร

                    มันเลยจุดนั้นมาแล้วแมน…”

    ผมไม่รู้หรอกว่าปลายสายเขาพูดอะไรกับนุชบ้างแต่จากที่ผมได้ฟังสิ่งที่นุชพูดออกมา ทำให้ผมคิดว่าปัญหาของนุชกับเขาคงใหญ่มาก และถึงแม้นุชจะพูดออกไปเหมือนคนไม่มีเยื่อไยอีกแล้วแต่ผมจับน้ำเสียงของนุชได้ว่าเธอก็เสียใจไม่น้อยเช่นกันที่ความรักของเธอต้องจบลงแบบนี้

                    นุชคุยกับคนชื่อแมนทางโทรศัพท์อีกพักใหญ่โดยเลี่ยงออกมาคุยอีกด้านหนึ่งโดยมีผมมองตามอย่างเป็นห่วงก่อนจะว่างสายไปด้วยน้ำตานองหน้า

                    ผมเดินเข้าไปตบบ่าของนุชเบาๆอย่างให้กำลังใจ  นุชหันมามองผมก่อนจะโผล่เข้ามาร้องไห้ที่อกผมอย่างคนที่ต้องการหาที่พึ่ง ผมทำได้เพียงปล่อยให้นุชร้องไห้ไปเรื่อยๆโดยมีอกของผมเป็นที่ซับน้ำตาโดยที่ผมไม่รู้ว่าจะปลอบเธออย่างไร

                    ความรู้สึกของผมในวันนั้นคือผมจะไม่มีวันทำให้เธอต้องเสียใจแบบนี้เป็นอันขาด แต่ผมก็ทำไม่ได้อย่างที่คิดไว้เพราะถ้าผมทำได้ตอนนี้ผมคงยังมีนุชอยู่เคียงข้างอย่างแน่นอน

                    หลังจากวันนั้นนุชก็ยังคงมาชวนผมไปทานข้าว หรือแวะมาหาผมกับพี่เต้ที่แผนกอยู่เหมือนเดิมแม้ช่วงแรกนุชจะดูซึมและเศร้าไป แต่ผมกับพี่เต้ก็จะคอยปลอบใจและให้กำลังใจอยู่เคียงข้างเธอเสมอจนทุกวันนี้นุชสามารถใช้ชีวิตได้ปกติเหมือนเดิม

     

                    พี่เต้รู้เรื่องที่โรงแรมเราเขาจะจัดกิจกรรมแรลลี่ไหม นุชเข้ามาถามพี่เต้ในวันหนึ่ง

                    เอ่อ!!พี่ได้ยินข่าวอยู่เหมือนกันแต่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไร เห็นเขาว่าว่าจะให้โรงแรมนุชกับโรงแรมพี่จับคู่เล่นเกมส์กันด้วยเพื่อกระชับความสัมพันธ์

                    นุชอยากให้ถึงวันนั้นเร็วๆจัง  เครียดมาทั้งปีแล้วมีกิจกรรมให้ทำจะได้ไม่เบื่อเนอะ

                    จ้าแม่สาวกิจกรรม นักการตลาด พี่เต้พูดพร้อมกับยีหัวนุชไปพร้อมกัน

                    พี่เต้เดี๋ยวผมนุชก็เสียทรงหมดหรอกนุชจับมือพี่เต้ออกก่อนจะพูด

                    อ่าวนัตไปไหนมาเหรอนุชหันมาทักผมหลังจากเห็นผมเดินเข้ามาที่แผนก

                    เจ้านายให้นัตไปเอาหมายกำหนดการณ์กิจกรรมแรลลี่ที่จะมีขึ้นปลายเดือนหน้านะ เพราะงานนี้นอกจากพวกเราแล้วทางโรงแรมได้เชิญแขกประจำ  และคู่ค้าของโรงแรมมาร่วมงานนี้ด้วยนะ ผมตอบนุชไป อ้อ!!ผมลืมบอกไปว่าตอนนี้ความสัมพันธ์ของผมกับนุชพัฒนามากขึ้นจนผมเรียกแทนตัวเองว่านัตแทนคำว่าผมแล้วนะครับแต่ก็ยังไม่พัฒนาไปมากกว่าคำว่าเพื่อนอยู่ดี

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×